คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ::Chapter 1:: ปฐมบท
Chapter 1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...นาน นาน นานแสนนาน นานมาก นาน นานเสียจริง แล้วมันก็จะนานไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ และก็ไปเรื่อยๆ นานเสียกว่า อ.สิด รอเก้าอี้นาย ก เสียอีก (ว่าไปนั่น) นานจนแทบจะลืม ณ ที่นั้นมีอาณาจักรที่เล็กๆ ที่แสนจะเล็ก ในทวีปแวคแฮม (Vacham) ณ ที่เหล่าประชาชีใช้ชีวิตอันสุขสงบภายใต้การปกครองอันแสนร่มเย็นโดยกษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรมดั่งค.ร.มอม (เปรียบเทียบนะ) แม้ภายในจะมีปัญหาเรื่องความแตกต่างระหว่างชนชั้นบ้างเล็กน้อย แต่ความจัดแย้งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความน่าหลงใหลของอาณาจักรแอมวาชที่แสนงดงามนั้นลดน้อยลงไปเลย
“เราขอเรียกร้องให้ลดภาษีลงบ้าง....เราจะไม่มีกินอยู่แล้ว” (/เรื่องของเอ็งสิ)
คิดว่า...คงไม่ทำให้อาณาจักรนี้น่าหลงใหลน้อยลง...มั้งนะ?
สายตาเอื้อมระอาของเจ้าหญิงพระองค์น้อยเหลือบมองลงไปยังพื้นเบื้องล่าง ประชาชนหัวหงอกหัวดำแห่กันมาประชิดกำแพงพระราชวังพร้อมอาวุธครบมือ พวกเขาพยายามเขย่าประตูและโห่ร้องขอความเป็นธรรม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความเห็นใจจากบรรดาขุนนางที่เอาแต่โบกสะบัดพัดไปมาอยู่ในท้องพระโรง...
“ความจริงเราน่าจะเก็บมากขึ้นด้วยซ้ำ ตราบใดที่ยังโดนโซโครอสบีบเข้ามาเรื่อยๆแบบนี้น่ะ” เสียงของบารอนเนสคนหนึ่งว่า
“กำลังทางการทหารเรามีไม่พอรับมือรึไง?!”
“เงินสนับสนุนต่างหากที่เราไม่มี”
“แล้วเงินค่าปรับของอดีตนาย ก 1000ล้านละ”
“โกงกันไปหมดแล้ว” (อืม...ช่างเป็นประเทศที่ “ดี” จริงๆ)
“ชิ สักวันหนึ่งเราคงต้องศิโรราบแก่โซโครอสจริงๆ” ว่าแล้วก็ถอนหายใจ
“แต่เรายังมีไพ่ตายเหลืออยู่”
พระราชินีที่เอาแต่นั่งนิ่งมาตลอดการประชุมเอ่ยขึ้น พระองค์ลุกจากบัลลังก์และเดินออกมาเบื้องหน้าเพื่อความกระจ่างแก่สายตาของทุกๆคน (ใช้ซอฟต์รึไงถึงขาวกระจ่างดั่งของใหม่)
“เรายังมีหวังอยู่ในฐานะประเทศพระญาติ...”
“พระองค์หมายความว่า...องค์หญิง?”
“เรามีลูกหญิงอยู่แค่คนเดียว...จะหมายถึงใครได้อีกล่ะ?” ผู้สูงศักดิ์ขมวดคิ้ว “แต่เรื่องนี้ต้องแล้วแต่พระบัญชาของกษัตริย์เท่านั้น”
ในรัชกาลแห่งกษัตริย์แฮร์เรส มูกโต พระองค์ปกครองประเทศที่หง่อนแง่นจนแทบจะกลืนหายไปจากแผนที่นี้อย่างดีพอที่จะทำให้มันยังคงอยู่รอดต่อไป แต่เนื่องจากไม่ทรงพระปรีชาเรื่องการทหารและความก้าวหน้าเท่าไรนัก จึงทำให้ถูกบีบคั้นโดยง่ายจากประเทศข้างเคียง นั่นคือโซโครอส ประเทศที่ก้าวล้ำทางเทคโนโลยีผิดกับแอมวาชที่ยังคงรูปแบบของยุคโบราณอย่างครบถ้วน หนำซ้ำพระองค์ยังไม่ปรีชาพอจะมีราชบุตรอีกด้วย หากแต่มีองค์หญิงน้อยนามวาเนสซ่าแทน ซึ่งเหมือนเคราะห์ซึ้กรรมซัดประหนึ่งนรกทั้งเป็น เมื่อเจ้าหญิงดูไม่เหมือนพวกหน่อเนื้อกษัตริย์เลย...
ตอนอายุได้ไม่ถึง 3 ปี เอ่ย "เxย" ...เป็นคำแรก ในชีวิต
ตอนพระชันษาได้ 6 ปี ทรงได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในการหาผู้มีความสามารถทางดนตรีประจำปีของโรงเรียน พระองค์ทรงได้ตำแหน่ง บ๊วย ...ทั้งๆที่มีคู่แข่ง...แค่คนเดียว
ขณะที่พระองค์กำลังเจริญวัยด้วยอายุ 6 ชันษา ทางโรงเรียนได้ส่งสาสน์ขอพระบรมราชานุญาติไล่พระองค์ออก เนื่องด้วยโรงเรียนเดิมไม่สามารถสอนให้เข้าถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์
ปัจจุบันดำรงพระชันษา14 มีการเชิญพระอาจารย์แวะเวียนมาสอนที่ปราสาทไม่ซ้ำหน้า ซึ่งก็ไม่มีใครทนสอนได้ซักคน แถมยังมีการเปลี่ยนนางสนองพระโอษฐ์ทุกๆสามวัน ด้วยเหตุผลไม่สามารถทำให้พระองค์งดงามได้
สมกับเป็นเจ้าหญิง”ผู้ปรีชา” แห่งอาณาจักรแอมวาชที่งดงามเสียจริง...
เจ้าหญิงวาเนสซ่าทรงมีพระสิริโฉมงดงามและมีความเป็นกุลสตรี (ยิ่งกว่านางร้ายละครไทยเสียอีก) ทรงเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์แฮร์เรส มูกโตยิ่ง (มั้ง) พระองค์มีเรือนผมสีน้ำตาลเป็นลอนคลื่นและดวงตาสีน้ำตาลแก่น่าเอ็นดู อีกทั้งกิริยาวาจาอันงดงาม...
“คัตจี้!!!!!!!!!!!”
พระสุรเสียงดังก้องกังวานห้องหอคอยที่ไร้ผู้คนสัญจรผ่าน เจ้าหญิงน้อยประทับด้วยทีท่าผ่อนคลายบนเก้าอี้ยาว ในมือถือน่องไก่ย่างรสดี ตรงหน้าคือเศษซากของอาหารอีสานจากดินแดนหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมหาศาล...
เคเชอร์ เดอ นัวน์ ฟรังค์ ครัช...หรือที่องค์หญิงประทานชื่อว่า “คัตจี้” นั่นเป็นผู้ดำรงตำแหน่งอัศวินในเขตเมืองหลวง แถมยังเป็นองครักษ์คู่ใจคนโปรดของเจ้าหญิง ทำไมน่ะรึ? เพราะไม่มีอะไรเกินอำนาจครัชจะหามาได้
ไม่นานชายหนุ่มร่างโปร่งนัยน์ตาสีเขียวก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าพระพักตร์ เจ้าหญิงน้อยมุ่นคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“ช้าจัง...เค้าอยากกินไก่อีกง่ะ” เจ้าหญิงส่งเสียงอ้อน
“ทรงเสวยมากเกินควรแล้วนะขอรับ”
“เด็กวัยกำลังกินนี่นา...”
“แต่ทรงเสวย “มาก” เกินไปแล้วจะ “อ้วน” นะขอรับ” คราวนี้ครัชเน้นเสียงบางคำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ข้าไม่อ้วนหรอก อย่าห่วงเลย”
“กระหม่อมห่วงแต่เงินในท้องพระคลังที่มันยิ่งไม่ค่อยมีจะอยู่แล้วลดฮวบไปมากกว่านี้และจะส่งผลกระทบถึงรายได้ของเกล้ากระหม่อม”
“ใช่ซี่~ ข้ามันพวกเลี้ยงพยาธิ บั่นทอนกำลังทรัพย์ของพระบิดา” เจ้าหญิงตัดพ้อ
“ตระหนักถึงองค์ได้ดีนี่ขอรับ ข้าขอเรียกนางกำนัลมาเก็บทำความสะอาดนะขอรับ”
“ให้เจ้าเก็บน่ะแหละ ไหนๆข้าก็เสียเงินไม่น้อยจ้างเจ้ามาแระ ทำงานให้คุ้มเม็ดเงินหน่อยจิ” ว่าแล้วองค์หญิงน้อยก็เหวี่ยงน่องไก่ที่เหลือเพียงกระดูกลงไปกองกับเศษอาหารอื่นๆ
“ถ้าข้าคิดจะหาเงินกำไรดีกว่านี้คงต้องไปหาที่โซโครอสซะล่ะมั้ง...” ครัชพึมพำ องค์หญิงวาเนสซ่าเงยหน้ามองออกไปทางหน้าต่างแสนไกล
“ข้าว่าเรื่องที่แอมวาชจะพ่ายแพ้การกดขี่ของโซโครอสท่าจะเป็นจริงในเร็วๆนี้แน่...”
น่องไก่ในมือของครัชหล่นตุ้บลงกับพื้น แม้ว่าจะไม่ได้แสดงอาการออกมาทางสีหน้า แต่เขาเองก็ประหลาดใจไม่น้อยที่เจ้าหญิงวาเนสซ่าที่วันๆเอาแต่ผลาญทรัพย์สินประเทศชาติกลับพูดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวออกมา
“เจ้าหญิง...!” ครัชพูดเสียงดังจนผู้เป็นนายสะดุ้งเฮือก “ไม่น่าเชื่อว่าพระองค์จะมีความสนใจในการเมือง พวกท่านอาจารย์คงดีใจกันจนน้ำตาร่วงเป็นแถบๆแล้วล่ะขอรับ” อัศวินหนุ่มว่าพลางน้ำตาไหลพรากพราก
“เจ้าเลิกพูดอะไรน้ำเน่าได้แล้ว! ยังไงซะ ข้ามีแผนการอะไรดีแล้วล่ะ”
“ถ้าเป็นแผนการขององค์หญิงกระหม่อมขอตัดคำว่า “ดีๆ” ออกขอรับ” ครัชว่าพลางยัดเศษขยะที่เหลือทั้งหมดลงถุง
“เจ้าหาเรื่องหัวขาดรึไง! หรืออยากโดนลดเงินเดือน!”
“ยอมรับว่าข้ากลัวข้อหลังมากกว่า แหะๆ”
“เมื่อข้าเห็นเหล่าประชาราษฏร์กำลังเดือดร้อนแบบนี้...เจ้าหญิงแสนงามอย่างข้าก็ชักจะทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้”
“สงสัยเพราะที่ตำหนักมีคนอยู่น้อยหรือเพราะไม่เคยมีใครชมโฉมพระองค์ก็มิทราบ พระองค์ถึงต้องพรรณนาความงามของตนเองออกมาแบบนี้”
“ครัช!!” เจ้าหญิงร้องปราม
“ขอประทานอภัยขอรับ” อัศวินถอนใจ
“ข้าชักอยากเล่นเป็นฮีโร่ของประชาชนซะแล้วสิ”
“ระวังจะโดนหมั้นไส้จนอยู่ในประเทศบ้านเกิดตัวเองไม่ได้นะขอรับ”
“ข้าว่าข้าตัดลิ้นเจ้าทิ้งดีไหม?”
“ถ้าให้ค่าทำขวัญสิบเท่าก็น่าลุ้นขอรับ ข้าทำประกันวงเงินสูงไว้เสียด้วย”
“โอ้ย! ข้าอยากบ้า!”
“ปัจจุบันนี่คือสติดีรึขอรับ?”
“พอ! เจ้าจงไปเตรียมเชือกยาวๆให้ข้า คืนนี้เราจะปีนกำแพงออกไปนอกวังกัน” องค์หญิงเอ่ยแล้วเดินไปดูลาดเลาที่หน้าต่าง “สงสัยข้าต้องไปจิ๊กกุญแจท้องพระคลังจากท่านพ่อมาเสียก่อน”
พอพูดจบ อัศวินครัช (จอมงก) ถึงกับทำตาวาว
“เยี่ยมมากขอรับ! เป็นการวางแผนที่เฉียบขาดจริงๆ!”
“นี่เจ้ายังไม่ทันรู้ว่าข้าจะทำอะไรเลยนะ...”
“แต่ข้าว่าเรื่องใดมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องย่อมเป็นเรื่องน่ายินดีเสมอ” ครัชทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อนึกถึงทองคำและเงินทองในห้องท้องพระคลัง (ถ้ามันยังมีเหลือให้นึกถึงนะ) “ว่าแต่องค์หญิงวาเนสซ่าของข้าคิดจะทำการใดรึ?”
เจ้าหญิงน้อยยิ้มอย่างมีเลศนัย ครัชทำรอยยิ้มนี่ได้ดี เพราะเขาจะเห็นมันทุกครั้งเมื่อ...
...เมื่อเจ้าหญิงหนีเรียน
...เจ้าหญิงแอบจิ๊กภัตตาหารสำหรับอาคันตุกะต่างเมืองในห้องครัว
...เจ้าหญิงทรงแอบนำตำแยใส่ในวิกผมของสมุหกลาโหม
...-ฯลฯ
“ข้าจะเดินทางไปพักผ่อนสักระยะ บางทีโซโครอสคงจะอากาศดีพอให้ข้าได้ผ่อนคลาย และข้าคิดว่าถ้าเอายาถ่ายไปในแก้วไวน์ของกษัตริย์ไฮเบอร์เนทได้คงจะดีไม่ใช่น้อย”
ว่าแล้วเชียวสิน่า....
ความคิดเห็น