คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : I 私 Watashi [ 30% ]
"นี่ รู้เรื่องของเกาะ God Eden หรือเปล่า"
"ที่ว่าไม่เคยมีใครไปเเล้วรอดกลับมาเพราะอาถรรพ์น่ะเหรอ น่ากลัว"
"เห็นว่าเคยมีเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจเเต่โดนพายุพัดจนตายยกลำด้วยล่ะ ตอนนี้ยังหาเเม้เเต่ซากเฮลิคอปเตอร์ไม่เจอเลย"
"น่ากลัว?!!"
...
God Eden เกาะปริศนาที่ถูกเล่าต่อๆกันมาว่ามันมีอาถรรพ์ที่ไม่ต้อนรับผู้มาเยือน ผู้คนมักลือกันว่ามันคือคำสาป คำสาปของพระเจ้าที่สาปเกาะนี้ไว้เเต่จริงๆเเล้วไม่มีใครล่วงรู้ความลับบางอย่างของคำสาปนี้เลย
ก็เพราะมันคือความลับ...เลยรู้ตอนนี้ไม่ได้
โกหกน่ะ …
"มนุษย์มักสาปเเช่งกันเอง จนกลายเป็นวัฎจักรของคำสาป"
หิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่โปรยปรายลงมาจากเเผ่นฟ้าสีครามที่อาบไปด้วยเเสงอาทิตย์ สัมผัสหนาวเย็นจนเเสบจมูกกับมือไม้เริ่มชาดิกเเละไอเย็นที่ถูกพ่นออกมาจากปากเพื่อบรรเทาอากาศหนาวเย็น นั่นเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ฤดูหนาวที่เห็นชัดที่สุด
คริสต์มาส
เทศกาลสำหรับต้อนรับปีใหม่พร้อมกับฤดูหนาว ความสุขที่จะได้เลี้ยงฉลองกับครอบครัวตัวเองในช่วงคริสต์มาสนั่งทานช็อกโกเเลตร้อนเเละหม้อไฟ …
เเละคำสาปที่จะถูกอาบไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์...
'ฟิ้ว…'
เสียงสายลมเดือนหนาวที่พัดผ่านไปจนรู้สึกหนาวเย็นจนถึงกระดูกดำ ความรู้สึกที่เเค่กลืนนํ้าลายลงคอยังรู้สึกเเสบไปทั่วลำคอเพราะสภาพอากาศหนาวเย็นจับใจ ริมฝีปากที่เริ่มเเห้งกรังเเละสภาพริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนนไปด้วยโลหิตจากการเเกะริมฝีปากเเห้งๆจากความหนาวเย็นที่ริมฝีปากที่ทำให้รู้สึกขุยๆ การรสชาติโลหิตจางๆที่ริมฝีปาก รสสัมผัสเค็มๆเเละคาวเหมือนกับโลหะ…
"ไม่ควรเเกะเเบบนั้นเลยนะ คุณหนู" เสียงของชายชราดังขึ้นจากบนเรือประมงหาปลาสภาพโทรมๆเเละกลิ่นคาวปลาจากบนเรือประมงเเละกลิ่นเกลือ สายลมที่ปะทะกายเบาๆเเทนที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายเเต่กลับเป็นควาหนาวเย็นจนต้องจามออกมาเพราะความรู้สึกจั๊กจี้ที่จมูกจนขึ้นสีเเดง เสียงของคลื่นทะเลเเละเสียงเรือประมงดังก้องราวกับว่ามันเป็นเสียงของผืนทะเลอยู่เเล้ว
เเละร่างของเด็กสาวที่ยืนรับลมอยู่บนหัวเรือพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ถือลูกฟุตบอลอยู่
"ไม่ควรหรอ...เเต่ว่าเราไม่ชอบมัน มันเเห้ง เราอยากเอามันออกจากปากเรา" เด็กสาวหันมามองชายชราโดยที่ลิ้นของเธอยังเลียริมฝีปากตัวเองที่ซิบเลือดตัวเองอยู่
"เเบบนั้นก็เป็นเเผลน่ะสิ คุณหนูควรมีลิปมันสักเเท่งนะ" ชายชราเอ่ยขึ้นซึ่งนั่นดึงดูดความสนใจของเด็กสาวที่ยืนรับลมอยู่ได้เป็นอย่างดี
"ลิปมัน มันเป็นรูปร่างเเบบไหนหรอ?" เด็กสาวเดินมาหาชายชราที่กำลังบังคับเรือประมงอยู่ด้วยความสงสัยเเต่ใบหน้ายังไม่ปรากฎความสงสัยใคร่รู้ใดๆ ชายชราละมือจากการบังคับเรือประมงก่อนจะหยิิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวหนาเพื่อป้องกันลมหน่วยามล่องทะเล
มันเป็นวัตถุที่มีรูปร่างเป็นเเท่งทรงกระบอกขนาดประมาณนิ้วชี้ได้ เหมือนจะมีวัตถุบางอย่างอยู่ข้างในด้วย
"หมุนมันไปทางซ้ายเเล้วจะมีลิปออกมาช่วยให้ริมฝีปากเกิดความชุ่มชื่นไม่เเห้ง"
"เเบบนี้? เเล้วเอามันไปทาที่ปากหรอ?"
"เเบบนั้นเเหละ"
เด็กสาวหมุนเเท่งลิปสติกให้ชายชราดูก่อนจะนำลิปไปทาที่ริมฝีปากเเห้งๆของตนเองก่อนจะเม้มปากตัวเองเบาๆให้ไม่รู้สึกเหนอะหนะ
"อันนี้ของใครหรอ?"
…
"หยี๊"
"ไม่ใช่ของตาหรอกหน่า ไม่ต้องขยะเเขยงไป" ชายชราเอ่ยออกมาก่อนจะหันไปสนใจกับการบังคับเรือประมงต่อ
"มันเป็นของขวัญวันเกิดให้หลานตาน่ะ กะจะซื้อให้ในวันเกิด สงสัยว่าต้องซื้อเเท่งใหม่ให้หลานตาเเล้วสิ ฮะๆ" ชายชราเอ่ยออกมาอย่างขำขันพลางหัวเราะเบาๆ
"วันเกิด? หมายถึง วันที่พวกเราเกิดมาน่ะหรอ มันจำเป็นต้องมีของขวัญด้วยเหรอ? หรือเพราะจะได้เฉลิมฉลองที่มีบุคลากร Homo Sapiens เพิ่มเพื่อประสมพันธุ์?" เด็กสาวเอ่ยถามออกมาจนทำให้ชายชราเเอบถอดสีหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดประกอบคำถามที่ดูง่ายๆนั่น
"อ่า...มีสิ เป็นการเฉลิมฉลองที่เเสดงความยินดีกับการที่ตัวเองเกิดมาไงล่ะ"
ของขวัญน่ะเเกไม่สมควรมีมันหรอก เลิกเรียกร้องเรื่องไร้สาระสักที เเกไม่ควรเกิดมาด้วยซํ้าไอ้กากเดน
ไม่มีใครดีใจที่เเกเกิดมาหรอก
. . .
"เราอยากมีวันเกิดบ้าง เรามีวันเกิดได้รึป่าว?"
"ได้สิ ทุกคนย่อมมีวันเกิด"
ราชินีจันทร์เพ็ญเเห่งอาเซอุส
กลิ่นอายของเทียนหอนที่ลอยตลบอบอวลไปทั่วห้องโถง เเสงไฟจากเทียนไขนับร้อยในห้องโถงใหญ่ทำให้เกิดเเสงไฟระยิบระยับเเละกลิ่นของเทียนไข โต๊ะตัวยาวที่ถูกปูด้วยผ้าปูสีขาวลูกไม้อย่างดีเเละข้าวปลาอาหารสำหรับการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสเเละเก้าอี้ทุกตัวที่มีผู้คนนั่งอยู่รายล้อมนับสิบคนที่เเต่งกายด้วยเครื่องนุ่งห่มสีขาวสุภาพ
นอกบานกระจกที่มีหิมะสีขาวตกอย่างต่อเนื่องจนกระจกเกิดไอเย็นปกคลุมจากภายนอกเเละไออุ่่นจากเตาผิงข้างในที่ก่อให้เกิดความอบอุ่นภายในห้องโถงนี้
"สรรเสริญเเด่พระผู้เป็นเจ้า…"
เสียงของเด็กสาวผู้ยืนตระหง่านอยู่หัวโต๊ะดังขึ้น นัยน์ตาสีเเดงที่สว่างไสวสู้กับความสว่างของเเสงเทียนไขภายในห้องโถงใหญ่ นัยน์ตานั้นสะท้อนไปด้วยเเสงเทียนที่ระยิบระยับอยู่ในนัยน์ตา ผิวกายที่ขาวเนียนราวกับพระจันทร์สีนวลยามคืนจันทร์เต็มดวง ผมสีนํ้าเงินยาวถึงเอวที่ปลายผมไล่สีเป็นฟ้าอ่อนเส้นผมนั้นดูนุ่มฟูราวกับสายไหมตามงานเทศกาล เเละเครื่องนุ่งหุ่มสีขาวสุภาพที่ประดับด้วยลูกไม้เเละไล่สีฟ้าอ่อนบริเวณเอว
ความงดงามที่ราวกับไม่ใช่ความงามของสามัญชน เเต่มันเป็นความงามของราชินีผู้มาจากดวงจันทร์ต่างหาก…
ทุกคนต่างยกเเล้วไวน์องุ่นบนโต๊ะตัวยาวเเละชูขึ้นเพื่อสรรเสริญก่อนจะดื่มไวน์องุ่นในเเก้วให้หมดในรวดเดียว
"เทพีเเห่งชัยชนะจะโปรยยิ้มให้เราใน 'ฟุตบอลฟรอนเทียร์' เเด่พวกเรา...อาเซอุส"
เด็กสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยราวกับว่ามันถูกจัดทำขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อโปรยชัยให้เเก่นักกีฬาฟุตบอลทุกคนในห้องโถงนี้
"เห๋...ท่านราชินีประสงค์จะชนะถึงเพียงนั้นเลยเหรอครับ? เเต่เราจะชนะได้เหรอครับในเมื่อเรามีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีกน่ะครับ? ท่านเมกามิ?"
เด็กหนุ่มในห้องโถงผู้หนึ่งเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบเชียบภายในห้องโถงใหญ่ นั่นทำให้สายตานับสิบของบรรดานักกีฬาภายในห้องจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มผู้นั้นอย่างไม่วางตา
"เเม้ว่าเราเป็นเพียงสตรีเเต่ดิฉันมั่นใจมากพอที่จะยืนยันว่า เ ร า จ ะ ช น ะ ในฟุตบอลฟรอนเทียร์ปีนี้ค่ะ ผู้ไม่ชนะคือผู้อ่อนเเอ เเละความอ่อนเเอก็คือบาป พระผู้เป็นเจ้าจะต้องผิดหวังเเด่ผู้รับใช้ผู้อ่อนเเอ"
เมกามิ เอ่ยออกมาอย่างเฉยเมยพร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกประดับที่ใบหน้าอย่างพิถีพิถันเช่นเคยมันดูราวกับตุ๊กตากระเบื้องไม่มีผิดเพี้ยน...รอยยิ้มที่ดูไร้ซึ่งตรรกะ
เมกามิ มามิ กัปตันทีมอาเซอุสที่ครอบครองฉายา ราชินีจันทร์เพ็ญเเห่งอาเซอุส ที่ฉายาไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เธอคือกองกลางไดนาโมBox-To-Box Midfielderในตำนานฝีมือดีที่หาใครมาเล่นเเทนเธอไม่ได้อีกเเล้ว เนื่องด้วยSkill play ที่หาจับยากของเธอทำให้เธอกลายเป็นจุดเเข็งของทีมในที่สุด
"ถ้าท่านเมกามิมั่นใจเพียงนั้นข้าก็จะไม่เถียงต่อ"
เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างผิดหวังที่จะกลั่นเเกล้งราชินีผู้สูงส่งของเขาให้หัวเสียเล่นเเต่มันกลับผิดพลาดก่อนจะเริ่มหยิบคัพเค้กบนโต๊ะตัวยาวมาทานก่อนโดยยังถูกสายตาของนักกีฬานับสิบที่ร่วมโต๊ะจับจ้องอยู่ก่อนจะเลิกสนใจเขาเเละหันไปสนใจอาหารตรงหน้าที่ถูกจัดเเจงมาอย่างสวยงามเเละน่ารับประทานเเทน
"เเต่ว่านะคะท่านเมกามิ เราก็ไม่ควรจะไว้วางใจในตอนนี้นะคะ! เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเราจะชนะหรือเปล่าน่ะค่ะ! เราไม่ควรทำตัวสบายใจเเบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ?!!"
อยู่ดีๆเด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่งก็พูดโผงผางเข้ามากลางวงสนทนาทำให้สายตานับสิบของผู้ร่วมโต๊ะอาหารหันมากลับจ้องมองที่เธอทำให้เด็กสาวเเอบถอดสีหน้าฉับพลันเมื่อเห็นเเววตาของผู้คนที่จับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาที่กดดัน
เธอเป็นเด็กสาวร่างเล็กดูกระทัดรัดที่มีดวงตาสีฟ้าราวกับผืนมหาสมุทรเเละเส้นผมสีดำขลิบยาวถึงช่วงต้นคอของเธอ เธอมีเเววตาที่ดูจริงจังใช้ได้เลยล่ะ….
"อย่ามาขึ้นเสียงกับท่านเมกามินะ!!! นังคนไร้มารยาท!!!"
เด็กสาวผู้ร่วมโต๊ะอีกคนตระหวาดออกมาเสียงดังเพื่อต่อว่าเด็กสาวผมสีดำตรงหน้าเธอด้วยโทสะทั้งปวงจนเเทบจะเห็นไฟลุกไหม้ในเเววตาของเธอ นั่นทำให้เด็กสาวผมสีดำเริ่มสะดุ้งตัวตกใจเมื่อถูกตระหวาดใส่อย่างรุนเเรงจนนัยน์ตาของเธอนั่นสั่นระริกไปด้วยความตกใจเเละกดดัน
"ฉันก็เเค่…"
"พอเถอะค่ะ ยาเอะซัง"
ผู้เป็นราชินีในวงสนทนาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"เเต่ว่า--"
"ดิฉันเชื่อว่าทุกคนเป็นห่วงดิฉัน ขอบคุณยาเอะซังมากค่ะที่ช่วยปกป้องดิฉัน เเต่คุณโคโตโนะคงเเค่กลัวฉันประมาทเเหละค่ะ ใช่ไหมคะคุณโคโตโนะ"
เมกามิเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยพร้อมรอยยิ้มที่ยังเปื้อนประดับอยู่บนใบหน้ากับดวงตาสีชาดหรี่มองไปทางเด็กสาวผมสีดำอย่างช้าๆเเต่มันช่างดูว่างเปล่าเหลือเกินเเม้ว่าเเสงเทียนจะสว่างระยิบระยับเพียงใดเเต่ก็ไม่อาจเคียงกับความว่างเปล่าจากนัยน์ตานั้นได้เลย
"คะ-ค่ะ ฉันเเค่กลัวพวกเราชะล่าใจไปก็เลยใจร้อนจนเเสดงกิริยาก้าวร้าวไปน่ะค่ะ ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะท่านเมกามิ"
โคโตโนะ เอ่ยออกมาด้วยนํ้าเสียงรู้สึกผิดก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อย
โคโตโนะ อายะ เด็กสาวที่เปี่ยมไปด้วยความจริงจังเเละหัวรั้น เธอคือ นักกวีวารีเเห่งอาเซอุส เธอคือตำเเหน่งกองกลางที่เปี่ยมไปด้วยเเนวรับที่ฝ่าไปได้ยากราวกับคลื่นลูกใหญ่ในมหาสมุทร เธอเป็นDefensive Midfielder ที่ทำให้เพื่อนๆภายในทีมเธอได้พักหายใจในตอนที่คับขัน
"เเต่ยังไงฉันก็คิดว่าวันนี้เราควรจะซ้อมฟุตบอลกันนะค---"
"วันนี้วันสำคัญของพระผู้เป็นเจ้าเลยนะคะ ดิฉันว่าเราควรพักเฉลิมฉลองให้ท่านกันนะคะ ว่าไหมคะ? ที่สำคัญตอนนี้หิมะตกหนักมากถ้าเราทำตัวเหยอะเเหยะเป็นลมเป็นเเล้งตอนนี้เพราะผู้เป็นเจ้าจะต้องผิดหวังที่มีข้ารับใช้ผู้อ่อนเเออย่างเรานะคะ ผู้ไม่ชนะคือผู้อ่อนเเอ เเละความอ่อนเเอก็คือบาป พระผู้เป็นเจ้าจะต้องผิดหวังเเด่ผู้รับใช้ผู้อ่อนเเอ"
เมกามิเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเปื้อนๆที่ประดับบนใบหน้าที่ดูคุ้นเคยนั่นทำให้โคโตโนะเถียงต่อไม่ถูกเลยเลือกที่จะล้มเลิกความดื้อรั้นนั้นไปเเละหันไปนั่งทานหม้อไฟที่เดือดปุดๆอยู่ในหม้อไฟ
เเต่ทำไมหม้อไฟหม้อนี้ถึงเล็กจังเลยล่ะ คนมีตั้งสิบกว่าคนเเต่หม้อมีอันเเค่เนี้ย? เอ๊ะ เนื้ออะไรเนี่ย ปลาหรอ?
"มี นิฮงอูนางิ(日本鰻) ด้วยนะคะ คุณโคโตโนะ"
"เอ๊ะ?"
"ห๊ะ?!! อ่อค--!!!"
คนที่กำลังซดนํ้าหม้อไฟอยู่เมื่อกี้ถึงกับออกอาการสำลักนํ้าซุปกันเลยทีเดียวเเละปิดปากตัวเองไม่ให้พ้นนํ้าซุปใส่โต๊ะอาหารจนตาเเดงนํ้าตาเล็ดน่าสงสารเหลือเกินในขณะที่ผู้ร่วมโต๊ะคนอื่นกำลังนั่งกลั้นขำกันไม่ให้เจ้าตัวอายกัน
"ก็ไม่มีคนบอกว่านั่นหม้ออุสึโบะมิโสะ นิครับ ฮือ...ท่านเมกามิใจร้ายก็รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบนิฮงอูนางิ ฮือ"
ก็...คนทานมันกลัวปลาไหล เเต่มันไม่เคยทานปลาไหล
"ก็ไม่เห็นถามนี่คะ เห็นกำลังทานเพลินเลยไม่กล้าขัดน่ะค่ะ...จะบอกเลยว่าหม้อไฟจะเอาหม้อเเยกมาให้น่ะค่ะจะได้ทานกันเยอะๆด้วยค่ะ เนื้อปลาเอาเข้าหม้อไฟเกรงว่ามันจะคาวน่ะค่ะ"
เมกามิเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่ดูปกติเช่นเคยเเต่เพียงเเต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกที่ดูเเตกต่างออกไป
เนื้อนิฮงอูนางิล้นหม้อขนาดนั้นก็ยังไม่เห็นเนอะ
"เเต่ว่าหม้ออุสึโบะมิโสะนี่ ให้ฉันเหรอคะ…?"
โคโตโนะถามออกมาพลางกระพริบตาปริบๆ ทำให้เมกามิอมยิ้เล็กน้อยก่อนจะกลับมาปั้นรอยยิ้มให้เหมือนทุกๆครั้ง
"คุณโคโตโนะชอบนิฮงอูนางนี่คะ เลยทำเเยกให้น่ะค่ะยังไงอุสึโบะมิโสะกับหม้อไฟความสุขตอนได้ทานของเเต่ละคนมันต่างกันน่ะค่ะ ถ้าวันนี้ทุกคนไม่มีความสุขดิฉันคงทำหน้าที่ของผู้รับใช้พระเจ้าได้ผิดพลาดสุดๆไปเลยล่ะค่ะ เพราะท่านต้องหวังให้วันคริสต์มาสเป็นวันที่ทุกคนต้องมีความสุขค่ะ"
เมกามิเอ่ยออกมาซึ่งเป็นคำพูดที่น่าประทับใจเลยทีเดียว ถ้าไม่ติดว่าทุกอย่างทำก็เพราะพระเจ้าน่ะ ทั้งการพูดจาที่ถูกคัดสรรค์ รอยยิ้มที่พิถีพิถัน การกระทำที่ถูกไตร่ตรองอย่างถีาถ้วน ทั้งหมดก็เพื่อพระผู้เป็นเจ้า...
"คุณโคโตโนะก็คงอยากกลับไปฉลองคริสต์มาสกับคุณพ่อด้วยใช่ไหมล่ะคะ ถ้าวันนี้มีซ้อมฟุตบอลคุณโคโตโนะก็ไม่ได้กลับไปฉลองวันเกิดกับคุณพ่อกันพอดีน่ะสิคะ"
เมกามิเอ่ยออกมาเเม้นํ้าเสียงจะดูเรียบนิ่งดุจผืนจันทราหรือรอยยิ้มที่ยังคงเปื้อนอยู่บนใบหน้าที่ยังฉีกยิ้มเเละคงที่ราวกับตุ๊กตากระเบื้องเเต่มันกลับให้ความรู้สึกเเตกต่างออกไป…
"เเต่ว่าเรื่องคุณพ่อกับเรื่องซ้อมมันไม่เกี่ยวกันนี่คะ ท่านเมกา---"
"ไม่เปิดโอกาสให้เถียงเเล้วค่ะ พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าทำตามที่ดิฉันกล่าวค่ะ"
"เพราะอาเซอุสได้รับพรจากพระเจ้า สนามนั้นศักสิทธิ์เกินกว่าจะให้คนอ่อนเอเหยียบยํ่า"
…
พรนัันคือคำสาป คำสาปที่จะสาปเเช่งพวกเขา...ชั่วนิจนิรันดร์
ลิเบโร่ทุ่งนํ้าเเข็งเเห่งฮาคุเรน
ลำธารเยือกเเข็งเเห่งฮาคุเรน
"เอ๋ ลูกสาวของสปอนเซอร์บริษัทผลิตขนม ชิโระอุซากิฮงโปะ (しろうさぎ本舗) คุณชิราโทยะจะมาเป็นตัวสำรองให้โรงเรียนฮาคุเรนเหรอครับ?"
เสียงของเด็กหนุ่มผู้ริเริ่มบทสนทนาได้เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเเผ่วเบา
ภายในห้องที่มืดสลัวที่มีเพียงเเสงเล็ดลอดจากโทรทัศน์เเละหลอดไฟดวงเล็ก อุณหภูมิจากฮีทเตอร์ที่พุ่งสูงทำให้ไม่ระคายความหนาวเย็นในยามหิมะโปรยปราย ห้องล็อกเกอร์เตรียมตัวสำหรับนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนฮาคุเรนเเห่งนี้ที่เงียบสงบจนรู้สึกถึงเสียงของหิมะยามกระทบกับพื้นผืนสีขาวปุกปุยจากข้างนอกเเละเสียงจากโทรทัศน์ที่ไม่ได้เปิดให้ดังมาก…
[ 'โกลล์! โรงเรียนโอเทย์สึกิโนะมิยะทำประตูได้อีกเเล้วครับ! ตอนนี้ประตูอยู่ที่ 2-0 โรงเรียนฮาคุเรนจะเเก้เกมกันอย่างไรดี!' ]
"ใช่ค่ะ เห็นว่าเป็นเด็กที่น่ารักมากๆด้วยนะคะ ชิโนะคุง ดิฉันอยากจะได้เพื่อนสาวคนใหม่เร็วๆเเล้วล่ะค่ะ หุๆ…"
เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นภายในห้องที่มืดสลัว ดวงตาของเธอนั้นสะท้อนภาพในโทรทัศน์ที่เเจ่มชัดทุกนํ้าเสียงเเละอิริยาบถทุกการเเสดงในโทรทัศน์ วันที่ของเทปที่ถูกตราตรึงไว้ในดวงตาที่นิ่งเฉยของเธอ…
เส้นผมสีดำของเธอที่ปลายผมถูกกลืนไปด้วยสีม่วงเเละกิ๊บผีเสื้อตัวใหญ่ที่ถูกม้วนไว้ข้างหลังของเธอที่ดูเป็นเอกลักษณ์เเละรอยยิ้มเจือๆที่ถูกประดับไว้บนใบหน้าบางๆ พร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ
"นั่นสินะครับ รุ่นพี่ฮาคุโนะ"
เด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกขานนามว่า ชิโนะ เอ่ยออกมาพลางระบายรอยยิ้มเล็กน้อยให้ผู้เป็นรุ่นพี่ของตนเองบางๆ
เด็กหนุ่มเรือนผมสีเงินดูเหมือนกับสีของหิมะที่ถูกมัดเป็นผมทางม้ายาวๆทรงสูงที่ด้านหลังเเละผมข้างหน้าที่ปรกดวงตาอีกข้างหนึ่งจนเห็นเพียงดวงตาสีเเดงฉํ่าที่เล็ดลอดเพียงข้างเดียว เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ดูน่ารักคนหนึ่งเลยล่ะเเต่ว่ายังไงเขาก็เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งล่ะนะ
ฟูริบูกิ ชิโนะ กองหลังปราการเยือกเเข็งเเห่งฮาคุเรน เขาเป็น Sweeper ปราการด่านสุดท้ายของประตูชัยเขาเป็น Sweeper ที่เปี่ยมไปด้วยความรวดเร็วราวกับสายลม เเม้เขาจะไร้ความมั่นใจในตนเองเเละก็ไม่สามารถประมาทเขาได้เลย
"เเต่เห็นคุณชิราโทยะโม้ให้ฟังบ่อยๆนะคะ ว่าเธอดังมากเลยน่ะค่ะ หุๆ…"
ฮาคุโนะเอ่ยออกมาพลางหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี
ฮาคุโนะ ริน กองหน้าผู้เริงระบำเเห่งฮาคุเรน เธอเป็น Deep-Lying Forward ที่สามารถสนับสนุนทีมได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เเม้ร่างกายของเธออาจจะเเข็งเเรงไม่เท่าบุรุษเพศเเต่เรื่องเบสิคบอลเธอนั้นชำนาญกว่าผู้ใดในฮาคุเรนจึงเป็นอีกคนที่ไม่สามารถวางใจกับความสามารถของเธอได้เลย เเละเธอยังสามารถสนับสนุนกองหน้าอีกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นปี่เป็นขลุ่ยอีกด้วย
"ถ้าดังมากงั้นเราลองมาทายกันไหมว่าเธอคือใคร!"
นํ้าเสียงทะเล้นขี้เล่นของเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งเเวบเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้ฮาคุโนะกับชิโนะเเอบสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง
"นั่นสินะครับ เเล้วพี่เรย์คิดว่าใครกันล่ะ?"
ฟูริบูกิเเฝดคนน้องทำท่าครุ่นคิดก่อนจะหันไปทางฟูริบูกเเฝดคนพี่ผู้เปิดประเด็น
เขามีใบหน้าที่เหมือนกับผู้เป็นเเฝดคนน้องทุกประการราวกับเเกะกันมาเพียงเเต่คนพี่จะดูมีความมั่นใจในตัวเองเเละคึกคะนองกว่าผมก็สั้นกว่าอีกด้วย สิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างคงจะเป็นผมที่ปรกอยู่ข้างหน้าที่บดบังนัยน์ตาอีกข้าง...
ฟูริบูกิ เรย์โตะ กองหน้าผู้ชำนาญศาสตร์เยือกเเข็งเเห่งฮาคุเรน เขาเป็น Complete Forward ที่มีทั้งความเร็ว ความสูง เเละเเรงเตะ เป็นหมากในการสร้าง Tactics ที่ทรงพลังที่สุดในสนามเพราะเขาสามารถทำได้ทุก Tactics เเล้วเเต่เกมนั้นๆ เขาเป็นกองหน้าที่รับมือได้ยากที่สุดในฮาคุเรนเลยล่ะเเละเมื่อเขาได้รับการสนับสนุนจาก Deep-Lying Forward อย่างฮาคุโนะเเล้วเขาจะไร้เทียทานที่สุดในสนาม
"อ่าาา ต้องเป็น! จิสะซังจาก Makarune เเน่เลย!"
"อย่าใช้ความชอบส่วนตัวในการเดาคนสิครับพี่เรย์!"
"ก็เเหม...เเต่จิสะซังน่ารักมากเลยนะ! โดยเฉพาะคอสตูมตอนโซโล่สเตจคอนเสิร์ต Miraclerune น่ะ คอสตูมสีชมพูของจิสะซังใส่เเล้วดูสวยมากๆเลยนะ! เหมือนนางฟ้าสุดๆไปเลย จิสะซั๊งงง!"
เรย์โตะที่กำลังพรรณนาความสวยงามของไอดอลที่ตนเองหวีดอยู่นั้นทำให้เเฝดคนน้องรู้สึกอับอายนิดหน่อยกับกิริยาของพี่ตนเองเเต่ในทางกลับกันฮาคุโนะกลับเริ่มขมวดคิ้วเป็นปม
"โซโล่สเตจคอนเสิร์ตคือวันไหนเหรอคะ เรย์โตะคุง"
ฮาคุโนะรีบเเก้ปมที่คิ้วเเละหันมาส่งยิ้มให้เช่นเคย
"สองสัปดาห์ที่เเล้ว!"
…
"..."
อะเร๊ะ
ซวยเเล้วไง?!!!
"เเหมๆ...ก็ว่าอยู่ว่าทำไมจู่ๆเรย์โตะซังที่หมั่นเพียรซ้อมทั้งวี่ทั้งวันก็ไปเยี่ยมเพื่อนต่างโรงเรียนหาที่บ้านก็ไม่เจอ ถามชิโนะคุงก็ไม่รู้ ที่เเท้ก็ไปโซโล่สเตจคอนเสิร์ตนี่เอง…"
บรรยากาศกดดันถูกเเผ่ซ่านออกมาทั่วห้องทึบเหมือนว่าไฟสลัวๆจะไม่ช่วยให้บรรยากาศนี้เบาลงไปเลย ในขณะที่เรย์โตะปาดเหงื่อที่ไหลพรากเเม้ในห้องนี้จะไม่ร้อนเลยก็ตามที เขาหันไปหาเเฝดคนน้องตัวเองอย่างต้องการความช่วยเหลือเเต่สิ่งที่พบคือเเฝดคนน้องที่โบกไม้โบกมือมาทางเขาพร้อมกับรอยยิ้มเจือๆเชิงว่าสู้ๆนะพี่
กรี๊ด!!!
ตอนนี้รุ่นพี่ฮาคุโนะน่ากลัวอย่างกับผี! เเม้มันจะยิ้มอยู่ก็เถอะเเต่รังสีเเบบนั้นใครๆก็รู้ว่าโกรธ กรี๊ดดด!!! อ๊ากกกกก จะถูกหักคอเเล๊วววว!!!
"เเล้วรุ่นพี่ฮาคุโนะคิดว่าใครเหรอครับ?"
เสียงสวรรค์ของฟูริบูกิเเฝดคนน้องที่ก่อนหน้านี้ยังทำตัวไม่ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือฟูริบูกิเเฝดคนพี่ดังขึ้นทำให้ฮาคุโนะที่กำลังจะเริ่มกิจกรรมถัดจากนี้ชะงักลงก่อนที่บรรยากาศเเปลกๆหายไปฉับพลันราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
"อืม...ถ้าเป็นลูกสาวก็...คิดถึงคุณมาโอะนะคะ ดิฉันปลื้มเธอมากเลย เเม้จะไม่ได้ติดตามนักร้องเยอะมากเเต่เธอร้องเพลงเพราะมากๆเลยนะคะ"
"ตายไปเเล้วรุ่นพี่…"
"หะ-ห้ะ?"
"เมาไรเนี่ย โดนบูลลี่จนฆ่าตัวตายไปเเล้ว"
"พี่เร๊ย์!"
"ขอโทษนะคะ…"
"ไม่นะครับ! รุ่นพี่ฮาคุโนะไม่ผิดนะครับ!"
"คุยกันเสร็จรึยัง"
นํ้าเสียงเฉยเมยของผู้มาเยือนคนใหม่ดังขึ้นทำให้สายตาของคนที่อยู่ในห้องมาสักพักต้องหันไปตามเสียง ประตูห้องล็อกเกอร์ทึบที่ไม่รู้ว่าถูกเปิดไว้ตอนไหนได้มีเเสงสว่างจ้าจากด้านนอกสาดเข้ามาข้างในห้องทึบจนห้องที่เคยมืดทึบนั้นสว่างขึ้นมาราวกับว่ามันไม่เคยมืดทึบมาก่อน...
ร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มผู้มาเยือนที่บานประตูห้องล็อกเกอร์ที่เเง้มออกกว้าง เขามีเรือนผมสีเทาที่ดูเซอๆเล็กน้อย นัยน์ตาสีไพลินที่ดูเฉยชาราวกับธารนํ้าเเข็งที่สงบนิ่งที่ถูกตรึงเวลาเอาไว้ ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มหรือสีหน้าใดๆบนใบหน้ามีเพียงนัยน์ตาที่สงบนิ่งที่จ้องมองมาในห้อง…เขาไม่ได้จ้องมองสิ่งมีชีวิตภายในห้อง เขาสนใจเพียงเทคโนโลยีตรงหน้า...
[ 'จบเกม! โรงเรียนโอเทย์สึกิโนะมิยะเป็นฝ่ายชนะเเบบขาดรอยครับ!' ]
"คะ-คือผมไม่มีอะไรจะเเก้ตัวครับ กัปตัน...ผะ-ผมขอให้รุ่นพี่ฮาคุโนะเปิดเทปนี้ให้ดูเองครับ ทั้งที่รู้ว่าคุณไม่ชอบ…"
ชิโนะกระวนกระวายขึ้นทันทีพร้อมกับนํ้าเสียงเก้ๆกังๆเกิดขึ้นฉับพลันเมื่อเขาพบว่านัยน์ตาสีไพลินคู่นั้นกำลังจ้องมองไปทางโทรทัศน์อยู่…
"อย่าโกรธชิโนะคุงเลยนะคะอิโรฮะคุง ถ้าดิฉันไม่เปิดเขาคงไม่กล้าเปิดดูเองหรอกค่ะ…"
ฮาคุโนะเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ายิ้มๆกับรอยยิ้มเจือๆบนใบหน้าเชิงว่าช่วยอนุโลมให้รุ่นน้องหน่อยเถอะนะ...
"ถ้ากัปตันจะโกรธก็โกรธผมเเทนก็ได้ ถ้าผมห้ามน้องสักนิดเขาก็คงไม่ให้รุ่นพี่ฮาคุโนะเปิดให้ดู--"
"หุบปาก"
เรย์โตะรีบกลืนคำพูดทั้งหมดทั้งมวลของตนเองลงคอไปทันทีเมื่อถูกวาจาเยือกเเข็งที่ชวนให้รู้สึกเย็นวาบราวกับหนามเหมันต์จรดลงลำคอจนรู้สึกหายใจไม่ออก นัยน์ตาสีไพลินนั้นหรี่มองไปทางโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพชัยชนะของโรงเรียนโอเทย์สึกิโนะมิยะ…เสียงร้องยินดีเเด่ชัยที่ไม่ได้มีให้ฮาคุเรน...เเต่มีให้โอเทย์สึกิโนะมิยะ
"ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร…"
อิโรฮะ เอ่ยออกมาเสียงเรียบทำให้ทุกคนภายในห้องล็อกเกอร์เเอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกโล่งใจกันเป็นเเถบ
เอียร์ อิโรฮะ ลำธารเยือกเเข็งเเห่งฮาคุเรน ตัวตนของเขาที่ถูกเรียกขานในฐานะกัปตันฮาคุเรน เขาคือกองกลางAdvanced Playmaker ที่ว่ามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างไร้ขอบเขตเเละวิสัยทัศน์กว้างไกลที่ราวกับว่าสามารถควบคุมสนามได้ดั่งใจนึกเเละมองเห็นทุกมุมของสนาม เขาคือผู้สร้างลำธารเยือกเเข็งบนสนามที่ไม่มีใครรอดพ้นสายตาของเขาไปได้
"มีคนให้มาตามเฉยๆ"
"หือ?"
"ขอโทษด้วยนะคะที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของทุกคนในวันคริสต์มาสน่ะค่ะ…"
นํ้าเสียงที่เบาหวิวราวกับขนนกเอ่ยออกมาก่อนจะปรากฎตัวที่บานประตู
เด็กสาวเรือนผมสีเทาที่ดูฟูฟ่องราวกับขนสัตว์ยาวๆที่ถูกประคบประหงมมาอย่างดี นัยน์ตาสีอความารีนซีดๆที่ดูราวกับท้องฟ้าสีครึ้ม ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูกับร่างกายเล็กกระทัดรัดที่พวกผู้ใหญ่มักชอบเอ็นดู…
"พอดีว่าคุณเเม่ให้เชิญทุกคนมาทานเจงกิสข่านที่บ้านน่ะค่ะเพื่อฉลองวันคริสต์มาส...เเต่ถ้าทุกคนไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ"
เด็กสาวเอ่ยออกมาพลางผสานมือไว้บริเวณหน้าอกเพราะไม่รู้จะเอาไม้เอามือไว้ไหน
"ไอมิยะซังชวนทั้งที ทำไมดิฉันถึงจะไม่ไปกันล่ะคะจริงมั้ย?"
ฮาคุโนะเอ่ยออกมาพร้อมมองไปทางฝาเเฝดฟูริบูกิคนพี่เเละคนน้องก่อนที่ทั้งสองคนจะพยักหน้าตามๆกันไป
"ขอบคุณมากเลยนะคะ!"
ไอมิยะเอ่ยออกมาด้วยนํ้าเสียงที่เปี่ยไปด้วยความดีใจพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
ไอมิยะ ฮิโระ กองกลางจิ้งจอกลมเหนือเเห่งฮาคุเรน เธอคือ Central Midfielder ที่สามารถเติมได้ทั้งเกมรุกเเละเกมรับได้อย่างสมบูรณ์เเบบเเละความยืดหยุ่นรอบด้านของเธอที่ทำให้เธอปรับตัวในการเล่นได้อย่างฉับพลันราวกับสายลมที่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างไม่ลังเล
"ปิดโทรทัศน์ ออกจากห้อง ล็อกห้อง เพราะเราจะไปบ้านไอมิยะกัน"
อิโรฮะออกคำสั่งเสียงเรียบ
"เเต่ว่ากัปตันไม่…"
"ฟุตบอลฟรอนเทียร์เราจะชนะ...บดขยี้โอเทย์สึกิโนะมิยะให้เหลือเพียงเเค่ขี้เถ้าของมัน…"
อิโรฮะพูดเเทรกชิโนะด้วยความไม่ทุกข์ร้อนอะไรก่อนจะเดินออกไปจากห้องล็อกเกอร์พร้อมกับไอมิยะที่เดินตามหลังเต๊าะเเต๊ะอย่างไม่พูดไม่จาอะไร
ไว้เจอกัน...โอเทย์สึกิโนะมิยะในฟุตบอลฟรอนเทียร์…
ที่พวกมันจะตราตรึงพวกเเกอย่างไม่มีวันลืม...ตลอดกาล
…
"อยากเจอไวๆจังเลยค่ะ...ฮะๆ ทุกคนต้องเล่นด้วยเเล้วสนุกมากเเน่ๆเลย"
ไฮเดรนเยียเเห่งโอเทย์สึกิโนะมิยะ
งานเลี้ยงเเสนเรียบง่าย ริบบิ้นสีสันสดใสมากมายที่ถูกประดับภายในงาน นํ้าหวานสีฉูดฉาด ขนมหวานสีสันน่ารักๆน่าทาน เเละผู้คนมากหน้าหลายตาที่พูดคุยกันอย่างสนุกปาก…
ณ งานเลี้ยงวันคริสต์มาสโรงเรียนโอเทย์สึกิโนะมิยะเเสนรื่นเริงที่ถูกจัดขึ้นภายในอาคารอเนกประสงค์…
ความรื่นเริงที่พบเจอยามเเวบเเรกที่เฝ้ามองก่อนที่จะได้กลิ่นประหลาดๆภายในงานเลี้ยงที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานนี้…
กลิ่นที่เหมือนกับกลิ่นของยาล้างเเผล…
ความกังวล
"กัปตันย้ายโรงเรียนเนี่ย ไม่ใช่เเค่ข่าวลือสินะคะ…"
นํ้าเสียงกังวลใจของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างเเผ่วเบา มือทั้งสองข้างของเธอที่ถือเเก้วนํ้าหวานสีฟ้าไว้เเอบสั่นเล็กน้อยตามเเรงความกังวล…
"คิดว่าจะถ้าไม่บอกรุ่นพี่ซาซาระไว้ล่วงหน้ากลัวว่าจะปรับตัวไม่ทันน่ะครับ"
เด็กหนุ่มเรือนผมสีนํ้าตาลทรายเเดงที่มีร่างกายสูงโปร่งเอ่ยออกมาด้วยนํ้าเสียงเป็นห่วง
"ยังไงก็ขอบคุณที่ยังบอกกันล่วงหน้านะคะ…"
ซาซาระเอ่ยออกมาพลางระบายรอยยิ้มบางๆ
เด็กสาวเรือนผมสีนํ้าตาลที่ถูกย้อมด้วยสีเหลืองอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีเหลืองบุษราคัมมักฉายเเววความกังวลเป็นครั้งคราว
ซาซาระ อิจิกะ สมุดบันทึกเเห่งโอเทย์สึกิโนะมิยะ เธอคือเมเนเจอร์คนสำคัญของทีมนี้ เธอนั้นเป็นราวกับกระดาษรายงานที่มีบันทึกข้อมูลผู้เล่นมากมายไม่ว่าจะหน้าเก่าหน้าใหม่ขนาดไหนก็ตาม เธอคือกุญเเจดอกสำคัญของโรงเรียนโอเทย์สึกิโนะมิยะเลยก็ว่าได้
"เเต่ฉันว่าคนที่น่าจะกังวลมากกว่าฉันน่าจะเป็นพวกอาคาโนะคุงนะคะนั่น…"
ซาซาระเอ่ยออกมาพร้อมมองรุ่นน้องตัวโตของตนเองที่ยืนหัวเราะค้างอย่างเก้อๆอยู่
"ฮะๆ พอดีลืมคิดไปเลยว่าทางพวกผมน่าจะกังวลกว่าน่ะครับ"
อาคาโนะเอ่ยออกมาพลางหัวเราะเเก้เก้อไปพลางๆ พร้อมกับนัยน์ตาสีเขียวที่เลื่อนหาขนมบนโต๊ะทานไปพลางๆ
อาคาโนะ ไคริ ราชสีห์เเห่งโอเทย์สึกิโนะมิยะ เขาคือผู้รักษาประตูที่สมาชิกทุกคนในทีมยอมรับเเละเชื่อมือ เขานั้นเปรียบเสมือนราชสีห์ที่จะไม่มีวันปล่อยให้เหยื่อของเขาหลุดรอดเงื้อมือของเขาไปได้เด็ดขาด…
"ช่วยคิดถึงตัวเองให้มากกว่านี้อีกหน่อยจะขอบคุณมากค่ะ...นี่ถาดคุกกี้กับนมค่ะ"
ซาซาระที่กำลังก้มงุนไปกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยของหวานมากมายเพื่อจัดสรรสิ่งที่อาคาโนะชอบทานมานำใส่ถาดทานเฉพาะให้เจ้าตัวก่อนจะดันถาดคุกกี้กับนมไปให้เบาๆ เมื่ออาคาโนะเห็นเเบบนั้นก็จ้องถาดคุกกี้พร้อมกระพริบตาปริบๆเล็กน้อย
"รู้ใจกันจริงครับ"
อาคาโนะเอ่ยออกมาพร้อมกับหยิบคุกกี้จากถาดมาทานก่อนจะก้มหัวเล็กน้อยเชิงว่า 'ไม่เกรงใจนะครับ'
ซาซาระคลี่รอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบเเก้วนํ้าหวานมาดื่มบ้าง
เพราะซาซาระเป็นเมเนเจอร์ เธอถึงสามารถรู้ได้ว่าสมาชิกภายในทีมเธอชอบทานอะไรเป็นพิเศษ พวกเราเรียกสิ่งนั้นว่าความใส่ใจ
"เเต่ว่านะ...คาริกะซังเลิกอยู่ในมุมมืดๆเเล้วเข้างานมาเถอะนะคะ เดี๋ยวหาช็อกโกเเลตให้ทานนะคะ"
ซาซาระเอ่ยออกมาก่อนที่เด็กสาวคนหนึ่งจะยอมเดินออกมาจากบริเวณประตูอาคารอเนกประสงค์เเละเดินมาหาเธออย่างว่านอนสอนง่าย
เด็กสาวนัยน์ตาสีเเดงฉํ่าวาวราวกับโลหิตของมนุษย์ เส้นผมสีทมิฬดำขลับที่ปล่อยปะละเลยจนเส้นผมพันกัน โครงของใบหน้าที่ออกไปทางพวกนอร์ดิกเล็กน้อย
"ฟุ่มเฟือยเงินโดยใช่เหตุ...เงินก็เป็นเงินห้องเเท้ๆ เอาไปซื้ออย่างอื่นที่น่าจะมีประโยชน์ต่อโรงเรียนก็ดีกว่าเเท้ๆ"
คาริกะเอ่ยออกมาอย่างฉุนเฉียว
คาริกะ โอชิรุ ราชินีสีโลหิตเเห่งโอเทย์สึกิคิโนะมิยะ เธอคือ Complete Forward ผู้มากความสามารถ เเม้เธอจะไม่ได้มีเเรงเทียบเท่าบุรุษเพศเเต่เธอกลับยืดหยุ่นในทุกสถานการณ์เเละประยุกต์การเล่นได้อย่างรอบคอบจนหน้าเหลือเชื่อ ทุกครั้งที่เธอโลดเเล่นไปยังสนามมันคือจิตวิญญาณที่ถูกกลั่นกรองราวกับเลือดกับเนื้อ
"ไม่เห็นต้องทำตัวขี้งกเลยนี่คะ เพลาๆลงบ้างชีวิตจะได้มีเเต่ความสุขค่ะ"
"ขี้เหนียวด้วยครับ"
"สามัคคีกันจังเลยนะ"
คาริกะเอ่ยออกมาอย่างปลงๆเมื่อเห็นทั้งสองคนพยายามเเซะเธอที่เธอประหยัดเงินจนเเทบจะกลายเป็นกระปุกออมสินอยู่เเล้ว
"เเล้วคาริกะซังคิดว่ากัปตันใหม่จะเป็นคนเเบบไหนเหรอคะ เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ"
ซาซาระเอ่ยออกมาพร้อมหยิบช็อกโกเเลตบาร์จากถาดมาใส่ในจานเเยกเเละยื่นให้คาริกะ เเต่เจ้าตัวกลับเอาไปเเต่ช็อกโกเเลตเเต่ไม่เอาจานไปด้วยก่อนจะทานหน้าตาเฉย ซาซาระเมื่อเห็นดังนั้นจึงยิ้มเเบบปลงๆก่อนจะนำจานเเยกไปวาง
"จะไปรู้ได้ยังไงไม่เคยเจอเลย…"
คาริกะเอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจเเละตั้งหน้าตั้งตาทานช็อกโกแลตบาร์
"ขอความคิดเห็นหน่อยจะปลื้มมากเลยครับ"
อาคาโนะเอ่ยออกมาพลางยิ้มเเห้งๆ
"อะไรก็ได้เเค่ไม่ทำตัวมั่วซั่วก็พอ"
คาริกะเอ่ยอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่พร้อมกับเลียนิ้วของตัวเองที่เปื้อนคราบช็อกโกเเลต
"เเต่เหมือนทางฮาคุเรนก็จะมีกัปตันใหม่นะครับ...รุ่นพี่ซาซาระพอจะมีข้อมูลบ้างหรือป่าวครับ?"
อาคาโนะเอ่ยถามออกมาเเต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อรุ่นพี่ของตนส่ายศรีษะเบาๆพลางหลับตาลงราวกับกำลังค้นหาข้อมูลบางอย่างอยู่
"เห็นว่าเป็นผู้เล่นใหม่น่ะค่ะ...เลยยังไม่มีขอมูลเพิ่มเติมเลย ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ"
"หวา เเบบนี้กัปตันใหม่เราจะสู้ชนะเขามั้ยครับเนี่ย"
อาคาโนะเอ่ยออกมาอย่างกังวล
"บางทีการปรากฏตัวของเขา...อาจจะเปลี่ยนเเปลงพวกเราไปตลอดกาลก็ได้นะคะ ไม่สิ มันต้องดีมากเเน่ๆเลยล่ะค่ะ"
ซาซาระเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้า
"ไร้สาระ"
คาริกะพูดอย่างไม่เเยเเสอะไรก่อนที่จะเริ่มปลีกตัวหนีจากงานเลี้ยงเเสนรื่นเริง...
"2 ชั่วโมง 45 นาที 2700 วินาที มีตั้งเตาย่างเนื้อนะคะ คิดดีเเล้วจริงๆเหรอคะ?"
= [ 30% ] =
ความคิดเห็น