ตอนที่ 8 : ผีเสื้อตัวที่ 08
มีการสปอยล์หนักมากๆจากทั้งสองเรื่อง มีคำหยาบคายที่อาจจะหลุดมาจากปากของตัวดำเนินเรื่อง(ชิโนบุ) เช่นไรแล้วก็ขอให้สนุก
*ตอนนี้อาจจะตาลายหน่อยๆ
________________________________
คาบวันนี้ก็เป็นเช่นดั่งทุกวันของชิโนบุ คาบวิทยาศาสตร์อาจจะเป็นหนึ่งวิชาที่เธอชอบ เพราะช่วยเรื่องพิษของเธอได้เยอะ สารใหม่ๆน่าสนใจไปเสียหมด ส่วนนึงก็ทดลองสร้างพิษที่เอาไว้แหย่อาจารย์โคโระเล่นๆ(?) อีกส่วนก็เอาไว้สังหารอสูรเยี่ยงทุกๆครั้ง
ตัวชิโนบุเป็นเศษของห้อง คารุมะจึงลากเธอมานั่งกลุ่มด้วย แต่เธอไม่ได้สนอันใดเท่าไหร่นัก เพียงยิ้มเยี่ยงทุกครั้ง สายตาก็กวาดอ่านหนังสือสารพิษต่อร่างกายมนุษย์ แต่กระนั้น ดวงตาสีม่วงว่างเปล่าเหลือบไปเห็นสาวแว่นโอคุดะดูจะกังวลเรื่องอะไรสักอย่างจนชิโนบุอดถามไม่ได้
"อาเร๊ะ? โอคุดะซัง ดูจะกังวลเรื่องอะไรอยู่นะคะ"ชิโนบุกล่าวขึ้นมา พลางจับจ้องโอคุดะด้วยรอยยิ้ม คนโดนทักจึงสะดุ้งโหยงทันที
"ป...เปล่าค่ะ! ฉ...ฉันแค่กังวลกับวิธีลอบสังหารของตัวเองน่ะค่ะ"โอคุดะมือไม้พันกัน ส่ายหน้าจนผมเปียสองข้างส่ายตาม ช่างน่าเอ็นดูราวหนูตัวน้อยที่โดนแมวเย้าแหย่เสียจนชิโนบุหลุดขำมาออกมาเล็กน้อย
"แหมๆ เช่นนั้น อย่ากังวลเลยค่ะ เพียงพยายามเต็มที่อาจารย์โคโระต้องดีใจแน่ค่ะ"ชิโนบุยิ้มตาหยี มือเท้าคางมองอีกฝ่าย ส่วนโอคุดะก็ทำตัวไม่ถูก หน้าขึ้นริ้วแดงจางๆ คารุมะที่มองสองสาวสลับกันไปมา คิ้วขมวดเล็กน้อยราวเด็กน้อยขัดใจอันใดสักอย่าง
ต่อมานั้นอาจารย์โคโระก็เปิดประตูเข้ามา ก็ถูกต้อนรับด้วยมีดยางของ มาเอฮาระ โอคาจิมะและมิมูระ แต่กระนั้นอาจารย์หมึกก็ไม่ได้ทุกข์ร้อน แถมยังแจกอุปกรณ์ทดลองจนครบทุกกลุ่ม ส่วนพวกมาเอฮาระก็เหนื่อยหอบกองกัน
การทดลองวันนี้เป็นการสกัดสีเทียมออกจากขนม ซึ่งพอการทดลองจบ อาจารย์โคโระก็จัดการเก็บขนมที่นักเรียนเอามาเอง ชิโนบุจึงหัวเราะน้อยๆ พลางคิดในใจ
แหมๆ ช่วงกลางเดือนสินะคะ
ทันใดนั้นเอง โอคุดะได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตน ก่อนเดินปรี่ตรงไปหาโต๊ะของอาจารย์ ก่อนจะยื่น ยาพิษ ที่ตัวโอคุดะกล่าวว่าตนทุ่มทั้งตัวเพื่อยาพิษสามขวดนี้ คนทั้งห้องคิด แน่นอนว่าการที่อยู่ๆไปขอให้คนอื่นดื่มยาพิษเช่นนี้ ใครจะไปทำ...อ่า ยกเว้นอาจารย์โคโระแล้วกัน
เพราะพอโอคุดะกล่าวเสร็จ อาจารย์หมึกแสนดี ไม่รอช้ารับยาพิษมากระดกทีละขวด สร้างความตะลึงให้นักเรียนทั้งห้อง โอคุดะก็มองอย่างใจจดใจจ่อกับผลของยาพิษแต่ละขวด ส่วนชิโนบุจะมองเป็นกรณีศึกษาเอาไว้ทำพิษไว้เล่นกับอาจารย์โคโระแล้วกัน
ขวดแรกนั้นคือ โซเดียม ไฮดรอกไซล์ ซึ่งปฏิกริยาที่เกิดขึ้น ทำให้อาจารย์โคโระหน้ากลายเป็นสีฟ้า แถมยังมีเขางอกออกมา และอาจารย์ยังกล่าวว่าสามารถสังหารมนุษย์ได้สบายๆแต่กับอาจารย์นั้น ใช้ไม่ได้ผล
ชิโนบุที่ได้ยินดังนั้น จึงขีดฆ่าโซเดียม ไฮดรอกไซล์จากหนังสือสารพิษของตน และใช้สีแดงเน้นหนักๆว่า สังหารมนุษย์ได้
ขวดถัดมาคือ แทลเลียม อซิเทท ผลคือใบหน้าของอาจารย์โคโระกลายเป็นสีเขียวมินท์ พร้อมกับปีกงอกออกมาจากข้างหัว
ชิโนบุจึงต้องขีดฆ่ามันอีกเช่นเดิม
และขวดสุดท้ายนั้นคือ กรดกัดทอง ซึ่งทำให้หน้าอาจารย์กลายเป็นหน้าจืด พร้อมกับบ่นอะไรสักอย่างเกี่ยวกับอย่าเกลียดการลอบสังหารเลย อะไรทำนองนั้น
ชิโนบุจึงขีดฆ่าอีกเช่นเคย สมองตอนนี้แล่นไปจนถึงพิษของสัตว์ว่ามันจะทำอันตรายอะไรอาจารย์โคโระได้รึเปล่า หรือพิษของดอกไม้เยี่ยงกับที่เธอมักใช้กับอสูรจะได้ผลมั้ย?
ก่อนชิโนบุจะได้ยินอาจารย์โคโระจะสอนเรื่องการปรุงพิษให้กับโอคุดะในเวลาหลังเลิกเรียน เนื่องจากมันอันตรายหากเด็กสาวตัวแค่นี้จะเล่นกับพิษ เอ๊ะ...นี่หากเธอสารภาพกับอาจารย์หมึกไปว่าทั้ง 37 กิโลกรัม มวลร่างกายของเธอเป็นพิษทุกอนูส่วน เธอคงจะยังไม่ถูกจับรีดพิษใช่หรือไม่?
ยามเย็นนี้ อากาศค่อนข้างจะอบอ้าว ห้อง E จึงชวนกันมาเล่นแทงบอลอาจารย์โคโระกันข้างนอก ตัวชิโนบุแม้ไม่ได้เล่นด้วย แต่ก็นั่งมองอยู่ตรงบันได
แม้นห้อง E จะขึ้นชื่อว่าเป็นห้องที่ลำบากที่สุดในโรงเรียนคุนุกิงาโอกะ แต่ในยามนี้ ชิโนบุมองว่า เป็นห้องที่ดีกว่าพวกอาคารหลักที่มีดีแต่เห่าและกดคนอื่นเป็นไหนๆ แม้จะอบอ้าวไปสักหน่อย แต่มันก็อบอุ่นและเริ่มปกคลุมไปด้วยจิตสังหารอันอ่อนโยนทีละนิด...ชิโนบุหลงใหลบรรยากาศเช่นนี้มากกว่าสิ่งใด
ในเช้าวันต่อมานี้ โอคุดะมาพร้อมกับขวดยาพิษสดใหม่ ที่ตัวสาวแว่นบอกว่าอาจารย์ให้การบ้านมา เป็นพิษที่สามารถสังหารอาจารย์ได้จริงๆ แถมยังวาดรูปประกอบการเก็บพิษอย่างปลอดภัยเสียด้วย ก่อนโอคุดะจะบอกอีกว่าอาจารย์คงให้กำลังใจตนอยู่ แต่เหตุใด ชิโนบุถึงรู้สึกว่ามันมีบางอย่างแปลกๆเสียอย่างนั้นกันเล่า?
ทันทีที่อาจารย์เดินเข้าห้องมา โอคุดะจึงต้องส่งการบ้านของตัวเอง อาจารย์โคโระจึงกล่าวชมเชยเรื่องความสมบูรณ์แบบของตัวพิษ ก่อนจะกระดกเข้าไป
ไม่นานเกินรอ ร่างของอาจารย์โคโระก็เหลวลงอย่างเห็นได้ชัด แถมยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากๆ จนไม่มีคนยิงได้ อาจารย์โคโระจึงหันไปพูดกับโอคุดะว่า การสื่อสารและภาษานั้นสำคัญต่อการลอบสังหาร แม้นยาพิษจะดีเลิศเพียงใด หากยื่นให้อีกฝ่ายตรงๆคนที่คุมเกมต้องเป็นอีกฝ่าย ก่อนจะหันไปถามนางิสะเรื่องการลอบวางยาพิษ
"แล้วโคโจวซัวล่ะครับ? หากคุณต้องทำยาพิษเพื่อสังหารอาจารย์จะทำยังไง?"อาจารย์โคโระหันไปถามเด็กสาวตระกูลผีเสื้อที่ยืนอยู่ตรงที่นั่งของเธอเอง ชิโนบุเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงคลี่ยิ้มออกมา ก่อนตอบอย่างชัดเจน
"หากดิฉันต้องทำพิษเพื่อสังหารอาจารย์ คงจะใช้ดอกไม้กระมังคะ ทั้งหอมและยั่วยวน แถมยังสามารถลอบวางใส่ในขนมหรือน้ำได้โดยไร้กลิ่นหรืออาจจะช่วยชูรสหอมหวานเสียด้วยซ้ำนะคะ"ชิโนบุตอบอาจารย์โคโระ ก่อนใบหน้าของอาจารย์จะเปลี่ยนเป็นสีส้มและมีวงกลมแสดงว่าถูกต้อง
"นิรุฟุฟุ พิษจากดอกไม้อย่างนั้นเหรอครับ สมเป็นโคโจวซังดีนะครับ ตัวผมจะรอพิษนั้นจากโคโจวซังนะครับ"อาจารย์โคโระยิ้มแฉ่ง ส่วนชิโนบุนั้น
"แหมๆ ตัวฉันเอง ก็จะพัฒนามันจนเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วตรวจสอบไม่ได้เลยล่ะค่ะ~"ชิโนบุยิ้มตาหยี แต่อาจารย์โคโระกลับสะดุ้งเล็กน้อย เพราะชิโนบุใช้คำว่า พัฒนา ไม่ใช่ สร้าง ซึ่งนั่นหมายความว่าเด็กสาวตระกูลผีเสื้อตรงหน้า ได้สร้างมันขึ้นมาแล้ว!!
"นิรุฟุฟุ ดีมากครับโคโจวซัง!"แต่อาจารย์โคโระ เช่นไรก็คืออาจารย์ ดังนั้นเขาจะไม่ขวางทางความสุขของนักเรียนหรอกนะ!
เมื่อตอนพัก คุณหัวหน้าอิโซไกก็ได้เตือนเรื่องมีการประชุมที่อาคารหลัก กับเส้นทางลงเขาที่แสนลำบาก ที่นักเรียนห้อง E จะต้องฝ่าฟันไปให้ได้
จะว่าไปชิโนบุก็เพิ่งนึกเรื่องการประชุมเมื่อครั้งก่อนได้ ที่วันนั้นห้อง E ไปสายจนโดนลงโทษให้ไปดูแลสวนดอกไม้ แปลงใหญ่ของอาคารหลัก ตอนนั้นแม้นมันจะไม่ได้เหนื่อยสำหรับชิโนบุแต่ก็สำหรับคนอื่นล่ะนะ
ชิโนบุเตรียมตัวจะลงเขาไปตามเพื่อนๆ แต่เหลือบเห็นคนหัวแดงยังนั่งอยู่จึงอดถามมิได้
"อุ้ย คารุมะคุงไม่ไปเหรอคะ แหม~ โดดแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ~"ชิโนบุก็แหย่คนหัวแดงไปทีนึงตามแบบเจ้าตัว
"ก็น้า~ ฉันไม่ใช่คนชอบไปฟังไอ้พวกปัญญาอ่อนนั่นบ่นบ้าบ่นบออะไรก็ไม่รู้หรอก แค่โทษโดดประชุมมันก็นิดเดียวเอง...ถ้าเทียบกับไอ้การขัดเกลานั่นล่ะนะ"ประโยคหลังคารุมะพึมพำเพื่อไม่ใช้ชิโนบุได้ยิน แต่อย่างไร เด็กสาวตระกูลผีเสื้อก็ได้ยินอยู่ดีนั้นแหละ
"อุหวา~ อย่างนั้นก็ไม่รั้งก็ได้ค่ะ ตัวฉันจะลงไปแล้วนะคะ~"ชิโนบุโบกมือให้คนหัวแดงน้อยๆ
"อื้มๆ ไปดีมาดีล่ะ~ ยังไงก็ซื้อนมสตรอเบอร์รี่มาฝากด้วยล่ะ!"คารุมะโบกมือกลับ ก่อนจะสั่ง(?)ของที่ตนต้องการ
"เอ~ ก็ได้หรอกค่ะ แต่เป็นเบาหวานตายก่อนฉันก็ไม่รู้ด้วยนะคะ"ชิโนบุยิ้มให้คนหัวแดง ก่อนจะออกไปนอกอาคารทันที ไม่รอให้คนหัวแดงเอ่ยโต้
"อ้าว โคโจว คนอื่นๆหายไปไหนหมดล่ะ"อาจารย์อิรีน่าที่เดินมา ถามอย่างสงสัยเพราะตอนนี้ในอาคารเงียบกริบ
"อุ้ย อาจารย์อิรีน่าไม่รู้เหรอคะ วันนี้เขามีประชุมที่อาคารหลักกันนะคะ"ชิโนบุคลายข้อสงสัยของอาจารย์สาวตรงหน้า ก่อนอาจารย์อิรีน่าจะเลือดขึ้นหน้า และวิ่งลงเขาไปทันที แต่ชิโนบุก็ได้ยินอาจารย์สาวตะโกนทำนองว่า 'ไอ้พวกเด็กบ้า ทำไมไม่บอกกันนนนนนน!!!'
ชิโนบุยืนมองอาจารย์สาววิ่งไปจนลับตา พลางหัวเราะขบขัน ก่อนตัวเธอจะเริ่มวิ่งไปตามไปอย่างรวดเร็วไม่ให้เสียชื่อเสาหลักที่เร็วที่สุดในหน่วยนักล่าอสูร จนถึงอาคารหลัก แต่ไม่เห็นพวกเพื่อนๆ เธอจึงเดินไปซื้อน้ำให้ทุกคน
"หวา~ มาถึงแล้วเหรอคะ ช้าจังนะคะเนี่ย"เมื่อชิโนบุเดินกลับมาพร้อมน้ำ 26 ขวดถ้วน พบกับเพื่อนๆห้อง E ที่นอนหอบอยู่ โดยเฉพาะพ่อคนหื่นโอคาจิมะ ที่ดูเหนื่อยและโทรมกว่าเพื่อน ก่อนชิโนบุจะแจกน้ำให้ทุกคน
"ฮื้อออออออออ ชิโนะจังเหมือนนางฟ้าเลยอ๊าาาาาาา!"คายาโนะกระโดดกอดชิโนบุอย่างซาบซึ้ง แหงล่ะ มีนางฟ้าประทานน้ำให้ดื่มดับกระหาย กับการเดินทางปานชมพูทวีป(?) ชิโนบุก็ไม่ได้ผลักออกแต่อย่างใด กอดตอบก่อนลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆอย่างช่วยไม่ได้
ไม่นานหลังจากทุกคนดื่มน้ำและพักหายใจสักพัก อาจารย์คาราซึมะก็มาถึง ก่อนอาจารย์อิรีน่าจะวิ่งตามมาติดๆ ก่อนทรุดลงคล้ายจะเป็นลม ชิโนบุจึงยื่นน้ำให้ก่อนนั่งพัดให้อาจารย์สาว
อิโซไกที่เห็นว่าเพื่อนหายเริ่มเหนื่อยแล้ว จึงบอกให้ทุกคนไปตั้งแถวในหอประชุม ก่อนชิโนบุจะขออยู่พัดให้อาจารย์อิรีน่าสักพัก กลัวอาจารย์สาวเป็นลมมาจะแย่เอา อิโซไกพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะพาเพื่อนเขาหอประชุมไป
"โคโจว~ เธอมันนางฟ้า~ My angel~ Why are you adorable like this!!!"อาจารย์อิรีน่าที่ตอนนี้เหนื่อย ทั้งยังพูดญี่ปุ่นผสมอังกฤษ แถมยังกอดเธอแถมซุกหน้าใส่หน้าอกของชิโนบุ ก่อนอาจารย์อิรีน่าจะถูกอาจารย์คาราซึมะดึงคอเสื้อ
"อืม เดี๋ยวก็หายเหนื่อยเองนั่นแหละ เธอก็ไปเข้าแถวเถอะโคโจว มีวิธีจะเข้าไปใช่มั้ย"ชิโนบุยิ้มบางก่อนพยักหน้าเป็นคำตอบ อาจารย์คาราซึมะจึงเข้าใจ ก่อนปล่อยชิโนบุไปเข้าแถว
ชิโนบุนั้นเนียนเข้ามาต่อคนสุดท้ายแถวผู้หญิง ตอนที่ให้สภานักเรียนกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูมีสาระใดๆเลย เหมือนที่พ่อหัวแดงพูดก่อนที่เธอจะมาเป๊ะๆ แล้วอาจารย์คาราซึมะก็เข้ามา ตามด้วยอาจารย์อิรีน่าที่ตอนนี้ดูหายเหนื่อยและนิ่งเสียจนคนก่อนหน้านี้ไม่ใช่คนเดียวกัน สร้างความฮือฮาให้คนทั้งหอประชุม เนื่องด้วยหน้าตาของทั้งสองด้วยกระมัง ก่อนเธอจะได้ยินเสียงอาจารย์อิรีน่ากับนางิสะแว่วๆว่าหายใจไม่ออกอะไรสักอย่าง ซึ่งชิโนบุก็พอเดาได้อยู่นั่นแหละว่าทำอะไรกัน
หลังจากที่ชิโนบุตั้งใจฟังสภานักเรียนสักพัก ก็เหมือนมีการแจกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแผนงานโรงเรียน แต่ห้อง E กลับไม่ได้รับ แน่นอนอยู่แล้วว่าสภานักเรียนกำลังแกล้งห้อง E อยู่ แต่ก็มีระรอกลมพัดผ่านมา พร้อมเอกสารที่ร่วงมาในมือ ก่อนชิโนบุจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของอาจารย์ประจำชั้นของเธอ ก่อนอาจารย์อิรีน่าจะพยายามแทงอาจารย์โคโระ แต่ถูกล็อคคอออกมาเสียก่อน สร้างเสียงหัวเราะให้ห้อง E
หลังจากจบการประชุม ชิโนบุจึงต้องเดินไปกดนมสตรอเบอร์รี่ให้คารุมะอย่างช่วยไม่ได้
"ไม่นึกว่าเธอจะอยู่ห้อง E "เสียงคุ้นหูดังอยู่ตรงข้างๆ ใช่...อาซาโนะ กาคุชู เขายืนกอดอกพิงตู้กดน้ำข้างๆ อยู่ ชิโนบุเมื่อหยิบกล่องนมสตรอเบอร์รี่เสร็จ จึงหันมามองเขาด้วยรอยยิ้มเยี่ยงทุกครั้ง
"แหม ไม่นึกจะได้พบกันเร็วขนาดนี้นะคะ ใช่ค่ะ ตัวฉันน่ะอยู่ห้อง E ค่ะ"ชิโนบุตอบด้วยเสียงใจเย็น
"เพราะงานที่เธอทำสินะ ถ้าห้อง E ต่อให้จะไม่ไปเลย ก็ไม่ยักกะต้องห่วง"กาคุชูเอ่ยเสียงดูแคลนเล็กน้อย แต่ชิโนบุกลับคิดในใจ หากปีอื่นเธอไม่รู้หรอก แต่ปีอาจารย์ยูคิมูระกับอาจารย์โคโระน่ะไม่แน่ๆ อย่างน้อยก็เธอกระมัง
"อ้าวๆ ก็สงสัยอยู่หายไปน๊านนาน ที่แท้คุยกับคุณประธานเองเหรอ เห~~ ไปรู้จักกันตอนไหนล่ะเนี่ย หื้ม? ชิโนบุจัง"ในขณะที่ชิโนบุกำลังจะอ้าปากตอบ เสียงยียวนเอ่ยมาจากทางด้านหลัง ใช่แล้ว คือคารุมะคนเดิม คารุมะเดินมาจับไหล่ชิโนบุเบาๆ ก่อนเอื้อมมือหยิบนมสตรอเบอร์รี่มาดื่ม
"นี่ๆ คุณประธานน่ะไม่ควรมาคุยกับห้อง E นะรู้มั้ยเนี่ย กฎพ่อตัวเองแท้ๆ "คารุมะยักคิ้วกวนคนผมสีสตรอเบอร์รี่บลอนด์ตรงหน้า ก่อนโอบไหล่ชิโนบุหันหลังให้อีกฝ่าย เตรียมจะเดินไป
"เดี๋ยว ผมยังคุยกับโคโจวไม่เสร็จ"กาคุชูเอ่ยเสียงขรึม
"อ้อเหรอๆ งั้นเอาไว้เก็บไปคุยกันในฝันดีกว่า เป็นจริงง่ายกว่าเยอะ ไปกันเถอะ~ชิโนบุจัง~ อาจารย์น่ะเป็นห่วงมากกกกกกก เลยนะ"คารุมะจงใจลากเสียง ก่อนจะเดินตรงขึ้นอาคารบนเขาพร้อมชิโนบุอย่างรวดเร็ว ทิ้งกาคุชูกำหมัดอยู่เช่นนั้น
"โอ๊ยๆๆๆ ชิโนบุจังงงงงงง เจ็บๆๆ"เสียงคารุมะโอดครวญอย่างเจ็บปวด สีหน้ายู่ยี่แถมน้ำตาเล็ด
"อุ้ยตาย~ เจ็บเหรอคะ~ ดีจังเลยน้า~ ใครกันเอ่ยสังสอนให้โอบไหล่ดิฉันโดยที่ดิฉันไม่อนุญาตกันล่ะคะ~"ชิโนบุออกแรงบิดเอวอีกฝ่ายแรงขึ้น จนคารุมะจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
"ก็แค่ช่วยจากประธานขี้ตื้อเองงงงง โอ๊ยๆๆๆ"คารุมะจะเอ่ยแก้ตัว แต่แรงของชิโนบุก็ยังไม่ลด
"เห~~ นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะจับตัวผู้หญิงโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตนะคะ~"แรงบิดของชิโนบุ ทำเอาคารุมะที่ต่อยนักเลงมานักต่อนักกรีดร้องเสียงหลง ช่างเป็นภาพน่าอายเสียยิ่งกว่าอะไร แถมคนหัวแดงยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อบ้านใจกล้ายังไงก็ไม่รู้!!!?
ติ้ง!
'อสุราตนใดที่กัดกินเจ้า เข้าสู่ห้วงนิทรานิรันดร์ มันผู้นั้นจักย้อนมา ทวงเจ้าอันเป็นผีเสื้อของมันคืน มันรอเจ้าอยู่ โคโจว ชิโนบุ
จาก
ผู้เขียนจดหมาย'
ข้อความที่ชิโนบุยังไม่ได้อ่านนี้....จะกลายเป็นจุดปลุกความแค้นของผีเสื้อที่หลับใหลไปแล้ว กลับคืน....
※คารุมะกับความเป็นพ่อบ้านใจกล้าของเขา5555555 กาคุชูคือต่อยได้ต่อยแล้ว รักษามาดเฉยๆ5555 วันนี้ตอนมันอาจสั้นๆแถมอาจจะเมาๆนะคะ เพราะไรท์ปวดหัวค่ะ5555 ไม่ได้เขียนตอนตุนไว้เลย ยังไงก็หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
และถ้าใครที่ไม่เก็ทตรงที่อาจารย์โคโระบอกพิษดอกไม้เข้ากับชิโนบุนะคะ เพราะว่าโคโจวคือผีเสื้อเลยต้องใช้พิษที่เป็นดอกไม้ค่ะ55555 ผีเสื้อกับดอกไม้มันก็ของคู่กันอยู่นาาาาาา
『เกล็ดเล็กๆของคุณชิโนบุ!』
งานอดิเรกของคุณชิโนบุคือการเล่าเรื่องผีค่ะ5555555 ดังนั้น เรื่องสร้างบรรยากาศชิโนบุทำได้ดีเลยค่ะ แงงงงง สั้นสุดอะไรสุดมากกกกกกกก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#นั่งโซฟาพร้อมไขว้ขานั่งกินไอติมดูฉากแย่งผีเสื้อ5555
นางฟ้าชิโนบุประจำห้อง E แถมได้ฉากศึกชิงนางระหว่างคารุมะกับอาซาโนะแล้วเว้ย!!!
อร้ายยยยดีงามมากมายยยยย ตอนแรกที่เข้ามาอ่านเพราะว่าสนใจว่าไรท์จะบรรยายให้ตัวละครมันเข้ากับสถานการณ์ในเรื่องรร.ลอบสังหาร ไปๆมาๆดันชอบเรือข้ามฝั่งซะงั้น(ก็คือจิ้นข้ามเรื่องนั่นแหละ) คือมันดีไปหมดเลยค่ะชอบมากๆเลยนะคะเป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ//จากใจคนแอบซุ่มอ่านที่อัดอั้นมานาน
ฉันชอบตอนที่ชิโนบุซังยิ้มมากค่ะ
คารุมะก็ดีนะ
เอ๊ะ กาคุชูก็ดี
หรือ โดมะ(?)ดี