ตอนที่ 6 : ผีเสื้อตัวที่ 06
((คำเตือน))
มีการสปอยล์หนักมากๆจากทั้งสองเรื่อง มีคำหยาบคายที่อาจจะหลุดมาจากปากของตัวดำเนินเรื่อง(ชิโนบุ) เช่นไรแล้วก็ขอให้สนุก
*ตอนนี้อาจจะตาลายหน่อยๆ
________________________________
"แทง!!! วันนี้อาจารย์ต้องตายล่ะวะทุกคน!!!!"
"เนี๊ยะย๊าาาาาาาา!!"
เสียงวุ่นวายนั้น เนื่องด้วยสาเหตุของคุณหัวหน้าห้องอิโซไกยกพวก(?)ไปตีหน้ายิ้ม แสร้งว่าจะไปกินน้ำแข็งไสกับอาจารย์โคโระ อาจารย์ก็ดีใจเกือบตายว่านักเรียนยอมรับ แต่ดันไม่เนียนเพราะเจตนาสังหารมันแรงไปหน่อย อาจารย์เลยไปสลับมีดยางกับดอกทิวลิป ที่พอมารู้ที่หลังว่าเป็นดอกที่ปลูกเอาไว้ตรงอาคาร คุณหัวหน้าห้องหญิงอย่าง คาตาโอกะ เมงุ และเพื่อนสาวที่ชื่นชอบแมลง คุราฮาชิ ฮินาโนะ จึงจัดการไล่ฆ่า(?)อาจารย์ไปปลูกดอกทิวลิปใหม่โดยห้ามใช้ความเร็วมัค
นั่นคือเรื่องทั้งหมด แต่นั่นแหละ อาจารย์โคโระจึงจะยอมถูกมัดและให้นักเรียนรุมแทงเพื่อไถ่โทษ จึงเป็นเสียงวุ่นวายตอนต้น
"โถ่ เสียดายดอกไม้จริงๆนะคะ"ชิโนบุที่เล็งปืนทีเล่นทีจริงอยู่วงนอกเอ่ยขึ้น
อุตส่าห์ตั้งใจปลูกๆแท้ๆ
ชิโนบุถอนหายใจพลางคิดในใจ ส่วนนางิสะที่ยืนข้างๆก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพราะดูเหมือนเด็กสาวตระกูลผีเสื้อจะสนใจผิดประเด็น
"อา...เป็นการลอบสังหารที่แปลกดี"เสียงเข้มของคาราซึมะ เอ่ยมาจากทางด้านหลัง ก่อนคายาโนะจะบอกว่าเขาจะมาเป็นอาจารย์พละของห้อง E อาจารย์คาราซึมะจะกล่าวว่าที่ทำอยู่นี่มันก็ไม่ได้ลอบสังหารแต่อย่างใด
เพราะว่านี่มันจะฆ่ากันตรงๆนี่เนอะ
ชิโนบุยิ้มให้อาจารย์คนใหม่ก่อนจะก้มหัวน้อยๆตามมารยาท ถึงเขาจะดูจริงจังเหมือนเจ้าคนไร้เพื่อน แต่ดูทรงแล้ว เขาคนนี้พูดรู้เรื่องกว่ามาก แต่ยังไงการแหย่คนเล่นก็เป็นงานของชิโนบุ(?) แต่ตอนนี้จะเป็นเด็กดีไปก่อน รอวันที่มีเหตุการณ์ที่ควรแหย่หนักๆ ได้เจอแน่นอน
ก่อนเสียงเอะอะจะเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะอาจารย์โคโระที่เมื่อกี้กำลังอวดความสามารถของตนอยู่ หล่นตุบลงมาจากต้นไม้ ก่อนจะเกิดการชุลมุนอีกรอบ แต่อาจารย์โคโระจะหนีขึ้นหลังคาพร้อมจะเพิ่มการบ้านเป็นสองเท่า
"วะฮ่าๆๆๆๆ!!!! กระจอกครับ----เนี๊ยะย๊าาาาาาาาาาา!!!!"ก่อนอาจารย์จะพูดจบก็มีร่างๆหนึ่งโผล่มาทางด้านหลัง พร้อมหนวดแขนจากทั้งสองข้างจะหายไป
ใช่ บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือ โคโจว ชิโนบุ คนเดิม ที่ยิ้มหวานส่งให้อาจารย์ ทุกคนต่างหันไปมองที่ข้างนางิสะที่ชิโนบุเคยยืน กลับไม่เหลือสิ่งใดอยู่ แถมไปมองที่มีดยางที่ต่อกับไม่ไผ่ที่คายาโนะถือมา มันก็หายไปอยู่ในมือของชิโนบุแทน ที่สำคัญที่ทุกคนตั้งคำถามอย่างพร้อมเพรียง
เจ้าหล่อนไปอยู่บนหลังคาได้ยังไงวะ!!!!!
"แหมๆ มาอยู่บนนี้มันร้อนนะคะ"ชิโนบุก็ยังคือชิโนบุ ท่ามกลางความอึ้ง เธอก็ยังยิ้มและหัวเราะได้ทุกสถานการณ์ พอพูดจบ ชิโนบุจึงกระโดดลงไปบนพื้นพร้อมท่าแลนดิ้งที่งดงาม
"หวา จะถึงเวลาเรียนแล้วนะคะ ไปเรียนกันเถอะค่ะ!"ชิโนบุที่เพิ่งจะกระโดดลงจากหลังคาเมื่อสักครู่เอ่ยทำลายความเงียบ ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าห้องเรียนไป ปล่อยให้ทุกคนนึกผวากับความสามารถของเด็กสาวตระกูลผีเสื้อที่มีมากเกินกว่าคนธรรมดา
วันต่อมา อาจารย์คาราซึมะก็มาเข้าสอนพละ(แต่เป็นพละเพื่อการลอบสังหารล่ะนะ) พร้อมกับสอนการแทง 8 ทิศ น่าสนใจไม่น้อยสำหรับชิโนบุ
"1! 2! 3!....6! 7! 8!"เสียงกึกก้องของนักเรียนห้อง E ดังอยู่ตรงสนาม ประกอบกับเสียงอาจารย์คาราซึมะที่เอ่ยปลุกใจ และอาจารย์โคโระที่ยืนดูอยู่ก็ถูกไล่ไปเล่นกองทราย(?)
อาจารย์โคโระก็กล่าวว่านักเรียนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ชอบการเรียนพละกับเขา แต่ผลตอบรับก็คือ...
"ให้อาจารย์คาราซึมะสอนน่ะดีแล้วล่ะ!"
"ก็น้าาา พวกเรากับอาจารย์โคโระมันต่างกันเกินไปนี่นา"
"เนี๊ยะย๊าาาาาา!!!! ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ!!!!"
"ก็จำตอนนั้นได้เลยแฮะ..."
ตอนนั้นที่ว่าคือตอนที่อาจารย์ให้กระโดดสลับข้าง พร้อมสาธิตให้ดู แน่นอนระดับอาจารย์โคโระ ความเร็วในการโดดนั้นมันมากจนทุกคนแทบจะเห็นอาจารย์โคโระแยกร่างอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่นั้นยังโชว์การเล่นพันด้ายไปในระหว่างกระโดดเสียอีก!!!
ใครมันจะไปทำได้กัน!!!! เอ๊ะ...หรือชิโนบุทำได้กันนะ?
นักเรียนห้อง E คิดอย่างพร้อมเพรียง
"อุหวา~ เหมือนอาจารย์โคโระจะไม่มีใครชอบเรียนพละด้วยนะคะเนี่ย~"จบด้วยชิโนบุคนดีคนเดิม ที่แหย่เล่นตามพิธี(?)
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อาจารย์โคโระที่หงอยอยู่แล้วก็หงอยกว่าเดิม พลางร้องไห้กระซิกกับกองทรายเพื่อนยากของตน
ก่อนอาจารย์คาราซึมะจะเรียก คุณหัวหน้าอิโซไก กับเจ้าคนหน้าม่อมาเอฮาระ ไปเพื่อให้ลองแทงอาจารย์คาราซึมะดู แต่ผลคือแทงไม่โดนสักแผล
ดังนั้น อาจารย์จึงชี้ไปที่อาจารย์โคโระที่ปั้นกองทรายจนกลายเป็นปราสาทโอซาก้า พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าจิบชาอยู่!!!!! ก่อนจะพูดว่าหากยังแทงตัวอาจารย์คาราซึมะไม่โดน โอกาสในการสังหารอาจารย์โคโระคงจะไม่มี
เมื่ออาจารย์กล่าวจบจึงปล่อยเลิกคลาส เพื่อไปเจอนรกที่ชื่อว่า 'การสอบย่อย'
"อ๋าาาาา ให้ตายสิ มีสอบย่อยนี่นา"ซึกิโนะบ่น ในขณะที่กำลังเดินไปเปลี่ยนชุด
"แฮะๆ นั่นสิเนอะ"นางิสะหัวเราะแห้งๆ
"อุหวา~ ดิฉันเกือบลืมแล้วนะคะ"ชิโนบุหัวเราะเบาๆ แต่นักเบสบอลและหนุ่มร่างเล็กก็มองไปที่เด็กสาวตระกูลผีเสื้อ พร้อมคิดในใจว่า
บอกว่าลืม แต่ดันสอบได้คะแนนเต็มทุกครั้งมันหมายความว่ายังไง!!!
ทั้งสามก็เดินคุยมาจนถึงหน้าบันได ก่อนเสียงหนึ่งจะเอ่ยขึ้น อา...ช่างเป็นเสียงที่กวน และทำให้นึกถึงคนบางคนเสียจริงๆ และลางสังหรณ์ของชิโนบุดันแม่นเสียด้วย
"ไง...นางิสะคุง ไม่ได้เจอกันนานเลย"
"คารุมะคุง...กลับมาแล้ว!!!"นางิสะเอ่ยชื่อคนผมแดงพร้อมกล่องนมสตรอเบอร์รี่ในมือ ที่ยืนอยู่บนบันไดนั้น ประจวบเหมาะกับลมที่พัดมา เสริมออร่าไปอีก
"หวา! นั่นคงจะเป็นอาจารย์โคโระสินะเนี่ย"คารุมะหรือแยงกี้คุงทำเพียงยิ้มตอบนางิสะ ก่อนจะเดินฉลุยผ่านพวกชิโนบุไปตรงหน้าอาจารย์โคโระ กระนั้น ชิโนบุก็สังเกตถึงบางสิ่งเขียวๆที่แปะกับมือของคารุมะอยู่
"โอย๊ะ? คงจะเป็นอาคาบาเนะ คารุมะคุงสินะครับ ผมรู้ว่าเพิ่งหมดพักการเรียน แต่มาสายตั้งแต่วันแรกไม่ดีเลยนะครับ!"อาจารย์โคโระทักทายก่อนจะกล่าวตักเตือนตามสไตล์ของตนพร้อมใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นมีกากบาท
"อ่ะฮะๆ ผมแค่ไม่ชินน่ะครับ ยังไงเรียกชื่อต้นก็ได้นะครับอาจารย์"คารุมะหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าของอาจารย์โคโระเพื่อจับมือ
'เอ...ดิฉันคิดไปเองหรือมันดูตอแหลพิกลนะคะ?'ชิโนบุคิดในใจ ก่อนจะดูสถานการณ์ต่อไป
"แน่นอนครับ----"อาจารย์โคโระยื่นหนวดไปจับมือ แต่พอสัมผัสกับมือคนหัวแดง หนวดก็เละออกมาทันที ก่อนคารุมะจะทิ้งกล่องนมที่ตัวเองดื่มเมื่อครู่ และตวัดมีดอย่างชำนาญไล่ต้อนอาจารย์โคโระ อาจารย์โคโระกับข้อเสียเมื่อตกใจจะลนลาน ก็ยิ่งลนลานเข้าไปใหญ่ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ถูกแทงแต่อย่างใด
เมื่อเห็นดังนั้น คารุมะจึงได้โชว์มือของตัวเอง พบว่ามีชิ้นส่วนมีดยางที่แปะอยู่ ก่อนได้กล่าวถากถางอาจารย์อย่างหยาบคาย
''เห็นว่าชื่ออาจารย์โคโระ ที่มาจาก อาจารย์ที่ฆ่าไม่ได้ แต่เห็นทีคงจะไม่จริง...อย่าทำให้ผมหมดสนุกล่ะอาจารย์"คารุมะกล่าวจบก็ได้โชว์ควงมีดเก็บใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินจากไป
"คารุมะเนี่ย...เป็นคนยังไงเหรอนางิสะ?"คายาโนะกล่าวขึ้น
"ก็นะ...ถ้าเป็นห้องเรียนนี้ขอบอกว่าเขาเป็นที่หนึ่งเลยล่ะ ทั้งแผนการ ความเจ้าเล่ห์ มีแต่อะไรที่อำนวยต่อการลอบสังหารเขามีหมดเลย"นางิสะเอ่ยตอบคายาโนะ
"อ้าว? จิบิจังเหรอ? เหห~ ไม่ได้เจอกันตั้งแต่วันนั้นเลยน้า~ ขอโทษที่มองไม่เห็นตอนแรกนะ ก็...ตัวแค่นี้เองนี่เนอะ เตี้ยกว่านางิสะเสียอีกกก"คารุมะที่เดินมาเพิ่งสังเกตเห็นชิโนบุที่ยืนฟังนางิสะ แน่นอนว่าเจอโจทย์เก่าเยี่ยงนี้ มีหรือชิโนบุจะไม่โต้กลับ แต่กระนั้นชายตัวเล็กก็ได้คิดว่าจะโยงเขาเข้าไปเกี่ยวทำไม!!!
"อุ้ยแหม~ แยงกี้คุงเองเหรอคะ~ ดิฉันนึกว่าเป็นเบาหวานตายเพราะนมสตรอเบอร์รี่เสียอีกค่ะ อย่าลืมไปตรวจบ้างนะคะ และกล่องนมตรงนั้นน่ะ ช่วยเอาไปทิ้งเองได้มั้ยคะ~ อย่าทำตัวเป็นภาระสังคมมากสิคะ~"ชิโนบุที่ตอบโต้กลับพร้อมรอยยิ้มของเจ้าตัว พลางชี้ไปที่กล่องนมที่คนหัวแดงโยนทิ้งไว้ตอนจะแทงอาจารย์โคโระ ทำเอาคนทั้งห้อง E เหวอไปทันที เพราะชิโนบุไม่เคยหยาบคายกับพวกเขา ยกเว้นเสียแต่ก๊วนของเทราซากะที่ได้แต่ภาวนาให้อยู่ดีๆไม่ทำให้เด็กสาวตระกูลผีเสื้อหันมาด่าพวกตนเป็นพอ
"เนี๊ยะย๊าาาาาาาา!!!! โคโจวซ๊างงง!!!!! อย่าหยาบคายกับเพื่อนสิครับ!!!"ก่อนคารุมะจะอ้าปากโต้กลับ อาจารย์โคโระที่แทบจะกรีดร้อง เพราะโคโจว ชิโนบุ นักเรียนและนักฆ่าดีเด่นของห้องที่ไม่เคยหยาบคาย กลับพูดหยาบคายพร้อมรอยยิ้ม อาจารย์รับไม่ได้!!!
"แหม~ อาจารย์คะ ฝ่ายนั้นเขามาว่าดิฉันก่อนนะคะ ดิฉันแค่ป้องกันตัวเองค่ะ"ชิโนบุหันไปตอบอาจารย์โคโระพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม
"ก็จริงครับ...เนี๊ยะย๊า!!! แต่ว่าห้ามไปว่าเพื่อนแบบนั้นนะครับ! ทั้งคู่เลย!"อาจารย์โคโระหันไปพึมพัมกับตัวเอง ก่อนจะหันมากล่าวตักเตือนชิโนบุกับคารุมะ
"รับทราบค่าาา~/คร้าบบบบบบบบบ"ทั้งสองตอบรับไป แต่ดูยังไงมันก็เป็นแค่การตอบปัดๆเพียงตัดรำคาญ ก่อนอาจารย์โคโระจะคร่ำครวญขึ้นอีกรอบอย่างโหยหวน(?)
และตามที่บอกไปว่ามีการสอบย่อย นั่นไม่ใช่ปัญหามากนักสำหรับชิโนบุ แต่ที่มีปัญหาก็คือที่นั่ง ที่ตัวชิโนบุนั่งข้างหลัง โอคุดะ มานามิ เพื่อนสาวที่เป็นสาวแว่นและเก่งวิทยาศาสตร์มากๆ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงสำหรับเด็กสาวตระกูลผีเสื้อ ปัญหาใหญ่หลวงคือคารุมะที่เพิ่งกลับมาเรียนนั่งอยู่ตรงข้างขวาของเธอ
นั่นยังไม่จบ คนหัวแดงที่ทำเสร็จก็นั่งๆนอนๆ อยู่ดีๆฟุบโต๊ะ อยู่ดีๆหันมาคุยกับตัวเธอ จนปากกาในมือชิโนบุนั้นหักไปสองด้าม จึงต้องขอยืมโอคุดะที่นั่งด้านหน้า
"นี่ๆ จิบิจังๆ ให้บอกคำตอบรึเปล่า"คารุมะจิ้มแขนชิโนบุจึกๆด้วยปากกาเพื่อเรียกร้องความสนใจ ก่อนจะกระซิบกระซาบชวนเธอทุจริตข้อสอบ(?)
"เพื่อนไม่คบเหรอคะ ดิฉันว่าแสดงออกชัดเจนนะคะว่าไม่อยากคุย ก็ยังหน้าด้านคุยด้วยนะคะ เจ้าคนไม่รู้จักความ"ชิโนบุกระซิบตอบไป มือก็เขียนคำตอบยิกๆ
"เหๆ ไม่กวนก็ได้ อุตส่าห์จะบอกบุญแท้ๆ"คารุมะยกมือยอมแพ้ ก่อนจะไปนั่งปกติที่คนสามัญในห้องสอบนั่งกัน
แต่นั่งได้ไม่นาน เทราซากะ จอมห้าวของห้องก็ชวนคุย แถมไม่ได้กระซิบ แต่คุยด้วยเสียงปกติพร้อมเตือนคารุมะด้วยความหวังดี(?) ว่าเดี๋ยวไปหยามอาจารย์ขนาดนั้น เดี๋ยวจะโดนโกรธ แต่คารุมะก็หาสนใจไม่ ตอกหน้าเทราซากะกลับไป ทำให้เทราซากะของขึ้น พร้อมไฟท์เต็มที่ แต่ดันเหลือบไปเห็นใบหน้าของเด็กสาวตระกูลผีเสื้อ ที่ยิ้มหวานปานยาพิษ(?)ให้ เทราซากะจึงเก็บหมัด รูดซิบปาก นั่งลงอย่างเรียบร้อยทันที ที่ถ้าเรียบร้อยอีกนิดก็จะนั่งพับเพียบอยู่แล้ว ทำเอาคารุมะงงเลยทีเดียว
ประจวบเหมาะกับอาจารย์โคโระที่เอ่ยเตือนว่าอยู่ในห้องสอบ อย่าคุยกัน
"อา ขอโทษครับๆ ผมทำข้อสอบเสร็จแล้ว จะนั่งกินเจลลาโต้เงียบๆแล้วกันนะ"คารุมะที่พูดจบ ก็หยิบโคนไอศกรีมเจลลาโต้สีชมพูมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
"ห้ามกินของในห้องนะครั---- น นั่นมันเจลลาโต้ของอาจารย์นี่ครับ!!!!!"อาจารย์โคโระกรีดร้อง ก่อนจะสาธยายว่าตนต้องบินระดับนอกเหนือชั้นบรรยากาศเพื่อเก็บความเย็น ผิดกับคารุมะที่ก็บอกว่าไปเจอมาในตู้เย็นเลยหยิบมา ส่วนนักเรียนคนอื่นๆได้แต่กุมหัว รู้สึกอยากกินยาพาราเสียตอนนี้กับการเถียงแสนไร้สาระ ชิโนบุก็พยายามกลั้นความโกรธของตนไว้ ก่อนที่จะหักปากกาที่ยืมมาไปอีกด้าม ถึงแม้จะกลั้นจนเส้นเลือดปูดโปนก็ตาม(?)
ก่อนคารุมะจะยอมแพ้ดื้อๆ พร้อมบอกอาจารย์โคโระว่า อยากได้คืนก็เดินมาเอา อาจารย์โคโระที่โกรธเล็กน้อยก็เดินไปหาทันที
เมื่อใกล้ถึงคนหัวแดง ก็ได้ยินเสียง แผล๊ะ! เพราะที่พื้นตรงที่อาจาร์โคโระยืนอยู่นั้น มีกระสุนสังหารอาจารย์เกลื่อนอยู่เต็มพื้น!!!!!!
ชิโนบุที่ไม่ได้อยากจะสนใจ หันไปมองนิดๆ เห็นคารุมะนั้นเอาโอศกรีมโปะไปที่เสื้อครุยของอาจารย์โคโระ แถมยังขยี้ซ้ำเป็นการหยามด้วย! ส่วนอาจารย์โคโระก็ดูสลดลงเล็กน้อย
"เห...แยงกี้คุงเนี่ย มารยาททรามกว่าที่คิดอีกนะคะ?"ชิโนบุเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ส่วนคารุมะก็หันมายิ้มให้ชิโนบุ
"ก็น้า~ หาคนมาสอนมารยาทให้อยู่~น่ะ! จิบิจังสนรึเปล่าล่ะ? ขอสอนแบบตัวต่อตัวแล้วกัน งั้นกลับล่ะนะจิบิจัง ว่างๆกินนมบ้างนะ~"คารุมะส่งข้อสอบให้อาจารย์เสร็จก็โบกมือให้เธอ ก่อนเดินออกไปจากห้องทันที
"เอ...ขอบคุณสำหรับความหวังดีที่ดิฉันไม่ต้องการแล้วกันค่ะ"ชิโนบุเอ่ยไปด้วยรอยยิ้ม ในหัวนึกภาพตัวเองยืนบีบคอคนหัวแดงอย่างเหลืออด
เมื่อหมดคาบเรียนแล้วนั้น ตัวเธอกลับพร้อมนางิสะ จริงๆแล้ว ชิโนบุมาส่งอีกฝ่ายที่สถานี เพราะกลัวเพื่อนชายหัวฟ้าโดนฉุดนี่แหละ ไม่มีอะไรนอกจากนั้น ก่อนเธอจะโบกมือลาอีกฝ่ายและกลับบ้านที่อยู่ห่างจากที่สถานีลิบลับ แถมก่อนไป เธอว่าเธอเห็นหัวแดงๆที่คุ้นเคยเสียด้วย
วันต่อมา ชิโนบุมาเรียนปกติ และแวะไปซื้อขนมมาฝากอาจารย์ของตนทั้งสอง แต่ส่วนมากอาจารย์โคโระกินนั่นแหละ ใครก็รู้อาจารย์เขาไม่มีเงินแล้ว เพราะช่วงกลางเดือน
แต่ระหว่างเดิน ดันได้กลิ่นเหม็นคาวจากในห้องเรียน ทำเอาชิโนบุอดสงสัยไม่ได้ พร้อมอาจารย์โคโระที่เดินมาข้างหลัง จึงได้แต่เดินตามกันไปห้องเรียน แต่ที่ปรากฏอยู่ก็คือคนทั้งห้องสีหน้าหม่นเล็กน้อย พร้อมปลาหมึกตัวยักษ์ที่ถูกที่เจาะน้ำแข็งปักอยู่
"อ้าววว ขอโทษนะครับ~ เผลอนึกว่าเป็นอาจารย์โคโระเลยฆ่าไปน่ะ~ เอามาสิครับ เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งเอง"คารุมะที่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าระรื่น
"ครับ...เข้าใจแล้ว โคโจวซังไปนั่งที่เถอะครับ"อาจารย์โคโระตอบรับคารุมะก่อนหันมาพูดกับชิโนบุ ชิโนบุจึงยิ้มตอบ ก่อนเดินไปนั่งที่ตัวเอง
ต่อจากนั้นอาจารย์โคโระจึงได้นำปลาหมึกนั่นมาทำทาโกยากิด้วยมิสไซล์ที่มาจากน่านน้ำญี่ปุ่น ก่อนเอายัดใส่ปากคนหัวแดง พร้อมเหตุผลว่าที่ว่าคารุมะคงยังไม่ได้กินข้าวเช้ามา จนทั้งวันนั้น คนโดนขัดเกลาอย่าง อาคาบาเนะ คารุมะ จะโดนขัดจนเงาวับ
ในคาบคณิตเอย ที่คนหัวแดงจะเอาปืนยิงอาจารย์ ก็ช้าเกินไปจนอาจารย์โคโระมีเวลาทำเล็บสวยๆลายทาโกยากิให้
คาบคหกรรม คารุมะยังไม่ล้มเลิก ในขณะที่อาจารย์โคโระคุยเรื่องรสซุปของ โอคาโนะ ฮินาตะ สาวเจ้าอดีตสมาชิกชมรมยิมนาสติกคารุมะก็เดินเข้ามาแทรกกลางวง ก่อนจะคว่ำซุปทั้งหม้อและยิงอาจารย์โคโระ แต่กระนั้น อาจารย์โคโระก็ได้สวมผ้ากันเปื้อนฟรุ้งฟริ้งสีชมพูจ๋าให้คารุมะ ก่อนจะจัดการดูดซุปที่ลอยกลางอากาศด้วยหลอดหยด พร้อมปรับรสซุปให้จนกลมกล่อม
คาบวรรณกรรม คารุมะยังพยายามต่อไป โดยจะลอบยิงอาจารย์โคโระในขณะที่อาจารย์โคโระกำลังเดินไปเดินมา อ่านบทกลอนอยู่ แต่ไม่ทันได้ชักปืนก็ถูกหยุดด้วยนิ้วนุ่มๆของอาจารย์ และได้รับฉายา 'กบแดง' พร้อมการบำรุงเส้นผม(?)
ด้วยประการนี้ ในห้อง E จึงได้ยินเสียงกลั้นขำ หรือบางทีก็มีหลุดมาเป็นพักๆของชิโนบุ...
พอเรียนจบ คารุมะก็หายไป นางิสะอดเป็นห่วงไม่ได้จึงชวนชิโนบุไปที่หน้าผาเป็นเพื่อน ชิโนบุรับคำอย่างว่าง่าย ถึงจะสงสัยว่าทำไมต้องหน้าผา
ผลปรากฎคือ คารุมะนั้นก็อยู่ที่หน้าผาจริงๆ พร้อมนั่งกัดเล็บอย่างหวาดเสียวตรงไม้ที่ยืดออกมาจากตัวหน้าผา และนางิสะก็เข้าไปพูดคุยด้วย เผื่อคนผมแดงจะคิดสั้นโดดลงไปเพราะฆ่าอาจารย์ไม่ได้
ก่อนอาจารย์โคโระจะปรากฎตัวออกมา คารุมะก็ได้เล่าว่า ที่ตัวเองมาอยู่ห้อง E เพราะไปช่วยรุ่นพี่ห้อง E ที่โดนทำร้ายโดยการซัดหน้านักเรียนห้อง A ไป เพราะยังไงก็ควรช่วย แต่อาจารย์ประจำชั้นกลับมองว่ามันผิด และที่เมินการวิวาทของคารุมะเพียงเพราะผลการเรียนดี คารุมะจึงได้อาละวาดใส่ห้องพักครู ก่อนจะจงเกลียดจงชังครูทุกคนเป็นต้นมา
"นี่...อาจารย์โคโระเนี่ย เป็นอาจารย์สินะครับ..."คารุมะเอ่ยถามออกมา
และแน่นอนอาจารย์โคโระนั้นก็ต้องตอบว่าแน่นอน ถ้าตายเพื่อนักเรียนได้จะทำ
เมื่อได้คำตอบที่พอใจ คารุมะจึงเล็งปืนมาทางอาจารย์ ก่อนจะโดดลงหน้าผาทันที ปล่อยให้คนที่ยืนอยู่ด้วยกันเมื่อครู่ตกใจกันยกใหญ่ อาจารย์โคโระที่ตั้งสติได้เร็ว จึงโดดลงไปช่วยทันที
ชิโนบุทำอะไรได้เล่า ก็ได้แต่ยืนให้กำลังใจอาจารย์โคโระอยู่ตรงริมหน้าผากับนางิสะ เพราะยังไงเสีย อาจารย์โคโระ ก็คือ อาจารย์โคโระ เขาต้องไปปล่อยลูกศิษย์ตนเป็นอันตรายแน่นอน ชิโนบุเชื่อมั่นเช่นนั้น
เวลาผ่านไปสักพัก อาจารย์โคโระที่กลับมาพร้อมกับคารุมะ ก่อนคนหัวแดงที่ดูจะอารมณ์ดีขึ้น ก็มาชวนพวกเธอไปกินขนมด้วยกัน นางิสะกับชิโนบุก็ไม่ได้ปฏิเสธ จริงๆเรียกปฏิเสธไม่ได้มากกว่าแหละนะ ก็คนหัวแดงเล่นล็อกคออีกสองคนที่เตี้ยกว่าเอาไว้ ก่อนอาจารย์โคโระจะทักท้วงว่ากระเป๋าเงินในมือคารุมะนั้นเป็นของตน!
คารุมะจึงโยนกระเป๋าตังค์ให้อาจารย์แต่ดันไม่มีสักแดงในนั้น คารุมะจึงยักไหล่ พร้อมคำพูด
"ในกระเป๋าก็ไม่มีเงินเท่าไหร่ ถือว่าทำบุญแล้วกัน~"
ก่อนจะจับมือชิโนบุและนางิสะวิ่งทันที ไม่ถามสุขภาพคนโดนลากทั้งสอง ที่ได้แต่วิ่งตาม ส่วนอาจารย์โคโระก็ไม่ได้ตามแต่อย่างใด ตะโกนว่าจะเอาเครื่องประทินโฉมที่ลงทุนซื้อมาเพื่อคารุมะไปทำอะไรต่อดี เมื่อได้ยินแบบนั้น สิ่งที่ผุดมาในใจของนักเรียนทั้งสามคือ
เจอสาเหตุที่ไม่มีเงินแล้ว...
※ อห.ปวดหัวสุดอะไรสุดกับตอนนี้มากค่ะ ชิโนบุเจอโจทย์เก่า ฟาดไม่ยั้งเลย55555 มาอัพให้ก่อนจะไปอ่านนิยายค่ะ เกือบเล่นเกมเพลินเลย555 เอาล่ะค่ะ เราจะอธิบายว่า ชิโนบุทำไมถึงไม่ย้ายไปที่ข้างๆที่ว่างแทน
เราแปะภาพเพื่อความเข้าใจง่ายค่ะ ตรงที่มีสีม่วง(ข้างซ้ายของคารุมะ)นั้น มันจะเป็นที่ว่างหรือที่นั่งของชิโนบุ และเหมือนเป็นรูปแบบห้องเรียนที่จะสลับชายหญิงในแนวตั้ง ชิโนบุจึงไม่สามารถย้ายที่ได้ค่ะ แต่หากจะถามถึงตอนที่อิโตนะย้ายเข้ามาทำไมนั่งตรงข้างซ้ายเทราซากะที่เป็นแถวหญิง จะขอบอกว่าเพราะมีคุณริทสึอยู่ค่ะตรงขอบตามภาพค่ะ ถ้านั่งตรงนั้นเวลาคุณริทสึเปิดปืนออกมา ได้โบกหัวกันพอดี555 และถ้าสมมุติว่าชิโนบุนั่งตรงที่คุณริทสึแต่แรก มันจะต้องเอียงคอเพื่อมองกระดานค่ะ ไม่งั้นปวดคอตายเลย
และสาเหตุที่ชิโนบุต้องนั่งหลังนั้น เพราะจองที่ไม่ทันแหละ555
『เกล็ดเล็กของคารุมะคุง!』
ว่าด้วยเรื่องมั่นหน้า คนๆนี้คงจะที่หนึ่งกันเลยในสายตาใครหลายคน
แต่กระนั้นเรื่องอาหารที่ชอบ ทุกคนจะรู้ว่าคารุมะมักดื่มนมสตรอเบอร์รี่อยู่ประจำเลยทำให้สูงเป็นอันดับต้นๆของห้อง แต่มาด้วยเรื่องอาหารโปรด อาหารโปรดของคารุมะคือทุกอย่างที่ทำกินด้วยตัวเองค่ะ ว่าง่ายๆคือมั่นหน้ามั่นโหนกมาก55555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์คะ---เราขอรูปที่นั่งหน่อยได้รึเปล่าคะ---
ดื่มนมสตรอว์เบอร์รี่เป็นประจำแบบนี้เหมือนตัวเอกกินทามะเลย
ตื่นเต้นๆ รอลุ้นแล้วค่ะ อาจารย์บิทช์ปะทะกับชิโนบุ