ตอนที่ 3 : ผีเสื้อตัวที่ 03
((คำเตือน))
มีการสปอยล์หนักมากๆจากทั้งสองเรื่อง มีคำหยาบคายที่อาจจะหลุดมาจากปากของตัวดำเนินเรื่อง(ชิโนบุ) เช่นไรแล้วก็ขอให้สนุก
*ตอนนี้อาจจะตาลายหน่อยๆ
________________________________
นับตั้งแต่วันที่เธอมาที่โตเกียวสมัยใหม่นี้ ก็นับว่า 3 เดือน ที่เธอต้องนั่งอ่านหนังสืออยู่ในเรือนผีเสื้อ และไหนจะยังหัดใช้'โทรศัพท์' เพราะต้องเอาไว้ติดต่อกับเพื่อนๆในชั้นเรียนและเอาไว้ติดต่อกับเจ้าคนบัดซบด้วย (ตามที่เจ้าของจดหมายบัดซบเขียนไว้)ทำให้เธอลำบากมากไปกว่าเดิม รู้สึกเสียเวลาชีวิตมากจริงๆ
แต่แน่นอน ชิโนบุนั้นไม่ใช่คนที่หัวโบราณและเธอเปิดใจรับในสิ่งใหม่ๆ เช่นนั้น การศึกษาไม่เสียหาย ถึงเธอจะหงุดหงิดเวลาต้องพิมพ์ จนเกือบกำโทรศัพท์แหลกไปหลายรอบก็ตามที ไหนจะเจ้าคนเฮงซวย(เจ้าคนบัดซบ=เจ้าคนเฮงซวย) ที่นอกจากเอาภาระต่างๆนาๆมาสุมไว้ที่หัวเธอแล้ว นับตั้งแต่สามเดือนก่อน ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรเพิ่มเติมมาอีกนอกจากเอาโทรศัพท์เครื่องนี้และหนังสือที่ต้องเรียนในอีกไม่ช้ามาให้เธอ
หงุดหงิดจนอยากต่อยหน้าคน แต่แม้แต่หนังหน้าเธอก็ยังไม่เห็นด้วยซ้ำ...
อย่างไรก็ตาม อย่างที่ว่าไปข้างต้นว่ามันผ่านมาสามเดือน และใช่...เวลาเปิดเทอม มันก็พรุ่งนี้ ได้เวลาต้องไปโรงเรียนแล้ว และที่บัดซบยิ่งกว่า คืออาคารห้อง E ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวะโรงเรียนก็ถูกคัดแยกออกจากตัวอาคารหลักขึ้นไปเรียนบนเขา
จริงๆเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่ต้องขึ้นเขาทุกเช้า งานนักล่าอสูรก็แทบจะอ้อมแดนอาทิตย์อุทัย แต่ที่น่าสงสารคือเด็กน้อยที่อยู่ดีๆโดนเด้งมา เพราะบางสาเหตุอย่างการทำงานพิเศษหรือผลการเรียน ช่างน่าสงสาร
เช่นไรเสีย ใช้ชีวิตแบบนี้เธอไม่มีปัญหานัก โดยเฉพาะสิ่งที่เธอค้นพบว่า เรือนผีเสื้อแห่งนี้ มักจะมีบางสิ่งมาทำความสะอาดและจัดเตรียมอาหารไว้ทุกๆคาบ เธอไม่ได้เห็นกับตา ว่ามีผู้ใดหรือสิ่งใดเข้ามาเป็นแม่บ้าน
หากเป็นแม่บ้านจริงๆ ชิโนบุคงจับสัมผัสบางอย่างได้บ้าง โดยปกติชิโนบุก็ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเสียด้วย แต่นี่กลับสัมผัสสิ่งใดไม่ได้แม้แต่น้อย ตื่นมาทุกเช้าบ้านสะอาดเรียบร้อย แถมมีอาหารร้อนสดใหม่วางอยู่บนโต๊ะ ราวกับเพิ่งทำเสร็จ หรือจะเป็น...วิณญาณกันนะ?
ชิโนบุเลิกสนใจไปนานแล้ว เพราะสิ่งนี้ไม่ได้ทำร้ายเธอหรือทำลายข้าวของ จะปล่อยๆไปเสียหน่อยก็คงไม่เสียหาย
ชิโนบุนั่งทานอาหารค่ำของตัวเองอย่างใจเย็นอยู่ที่ห้องครัว อาหารวันนี้คือปลาซาบะย่างเกลือ ซุปเต้าเจี้ยว สลัด และข้าวสวย เป็นมื้อเรียบง่าย สบายสำหรับช่วงค่ำๆ
"ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ"
หลังทานเสร็จเธอคงจะไม่เสียมารยาทขนาดต้องให้แม่บ้าน(?)ล่องหนมาล้างจานชามให้ ชิโนบุจึงยืนล้างจาน ไปจนถึงปิดประตูหน้าต่าง
เธอไม่อยากปล่อยคนไม่รู้จักเข้ามาในบ้านหรอกนะ
หลังเรียบร้อยดีก็ปิดไฟและเดินตรวจรอบบ้านอีกหน่อย ก่อนจะเข้านอน จริงๆจังๆ
ที่ห้องนอนก็เป็นเช่นเดิม เพียงแต่มีกระเป๋าที่เธอจัดเอาไว้ไปเรียน หนังสือหลักๆที่ต้องเอาไปเรียนได้ยินว่าจะถูกแจกให้ในวันเข้าเรียน ส่วนที่ถูกส่งมาเหมือนจะเอาไว้ให้เธออ่านล่วงหน้า....
โอเค ก็รักเธอดี(กัดฟัน)
และแน่นอน ชิโนบุก็อ่านมันจบหมดแล้ว และทำความเข้าใจมันจนเข้าใจและบรรลุจนหมด แต่เธอจะไม่ขอเชื่อใจอะไรในคุนุกิงาโอกะ เพราะมีลางสังหรณ์บอกว่า ต้องมาอาจารย์ที่พยายามจะแกล้งเด็กๆห้อง E โดยสอนอะไรเกินหลักสูตรให้ห้องอื่นๆ และมารู้กันตอนสอบ
ถามว่าทำไมถึงคิดอะไรทำนองนั้นน่ะหรือ?
เป็นเธอ เธอก็เคยจะแกล้งคานาโอะเช่นนั้น
แต่แน่ล่ะ คานาโอะลูกศิษย์ของเธอดันทำได้เสียทุกอย่าง จนเก่งกว่าตัวอาจารย์อย่างเธอไปแล้ว เป็นการสอนที่ได้ผลดีกว่าที่คิดกระมัง
แต่เด็กคนอื่นก็ไม่ใช่คานาโอะ ไม่มีใครทำได้ทุกอย่าง จากที่อ่านมา ท่านผู้อำนวยการอาซาโนะ ก็เป็นคนเก่งจนสร้างโรงเรียนให้มีชื่อเสียงได้ในไม่กี่ปี เป็นคนเก่งจนน่ากลัวเสียจริง หากมีใครไปกระตุกหนวดเสืออย่างฉุดดึงนักเรียนห้อง E มาเป็นอันดับต้นๆคงจะสติแตกหน้าดู น่าสนุกดี
ชิโนบุทิ้งตัวลงนอนบนฟูก และเตรียมตกสู่ห้วงนิทรา ความฝันหรือ? ไม่ฝันเสียดีกว่า
วันต่อมา
เช้าอันสดใสก็มาอีกเช่นเคย ชิโนบุปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างเป็นปกติ และสวมเครื่องแบบโรงเรียนอย่างเรียบร้อย แต่เธอไม่ได้ใส่กิ๊ปผีเสื้อและฮาโอริผีเสื้อไปแน่
เธอทานอาหารและล้างจานเรียบร้อย เธอสะพายกระเป๋าเอาไว้ ก่อนออกจากบ้าน เธอเพิ่งสั่งเกตุว่ามีกุญแจห้อยพวงกุญแจผีเสื้ออยู่ตรงประตูหน้าบ้าน คงต้องล็อคประตูก่อนกระมัง
เธอตรวจตัวเองว่าไม่ได้ลืมอะไรและล็อคประตูบ้าน และออกเดินไปทันที
ชิโนบุเดินไปอย่างไม่รีบร้อน ถึงเธอจะแอบนึกเสียดายที่ไม่ได้วิ่งอยู่บนต้นไม้หรือหลังคาเยี่ยงแต่ก่อน เธอถนัดกว่าตั้งเยอะ แต่อย่างนั้น การเดินมันช่วยให้เธอปลอดภัยในเขตชุมชน แถมเรือนผีเสื้อของเธอนั้น ก็ค่อนข้างจะไกลอยู่พอสมควรจากชุมชน และถือโอกาสเดินสำรวจด้วย เพราะตอนขามา เธอมาด้วยการวาร์ป ไม่ใช่เดิน หลงได้ง่าย
ชิโนบุกดโทรศัพท์เปิดแผนที่ออกมาดูทาง พลางเดินไปด้วย แลดูประมาทชอบกล แต่แน่นอนว่าระวังตัวทุกฝีก้าว(เด็กๆอย่าทำตามนะ)
เธอเดินมาหยุดตรงสี่แยกที่มีแผนที่ย่านแปะอยู่ สะดวกดีที่เธอไม่ต้องก้มตลอด เดินไปจ้องจอไป ปวดตาเหลือเกิน
"เอ....ตัวฉันคงอยู่ตรงจุดนี้สินะคะ...ต้องเดินไป..."ชิโนบุไล่นิ้วไปกับแผนที่อย่างสบายๆ สมัยนี้ดีจริงๆที่เธอไม่ต้องไปนั่งถามทางชาวบ้าน
"เห~~ เด็กหลงทางเหรอ?"เสียงยียวนกวนบาทาดังมาจากใกล้ๆ ชิโนบุอดคิ้วกระตุกไม่ได้ แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก็หันไปทางต้นทางอย่างใจเย็น
"แหมๆ ดิฉันไม่ได้หลงทางหรอกนะคะ~ อีกอย่างดิฉันอายุ 15 แล้วนะคะ"ชิโนบุตอบกลับไปอย่างใจเย็น
เด็กหนุ่มผมสีแดงกับนัยน์ตาสีอำพันหัวเราะระรื่น พลางดื่มนมสตรอเบอร์รี่ที่ดูมุ้งมิ้งไม่เข้าหน้าเสียอย่างนั้น
"อ้าวๆ ขอโทษทีละกันน้าา เห็นมองแผนที่ก็นึกว่าหลงทางซะอีก5555 ตัวก็แค่นี้นึกว่าเป็นเด็กซะอีก ว่าจะเป็นพี่ชายใจดีมาบอกทางให้น่ะ~"เสียงยียวนเอ่ยออกมาเช่นเดิม ท่าทางล้วงกระเป๋าเชิดๆนั้น เธออยากจะกุมขมับ ดูออกหรอกว่าเป็นเด็กที่ต่อสู้ได้พอควร แต่ท่าทางแบบนี้ไม่ไหวและไม่อยากจะยุ่งด้วยจริงๆ
"อุ๊ยตาย ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ วิจารณ์รูปร่างคนอื่นแบบนี้คงมีเรื่องตีกับคนอื่นไปทั่วรึเปล่าคะเนี่ย?"ชิโนบุอดแขวะกับท่าทางและคำพูดคำจาของเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้
โทมิโอกะซัง...ดิฉันว่าฉันเจอคนไม่มีเพื่อนคบไปเป็นเพื่อนคุณแล้วล่ะค่ะ
"แหม~ ขอบคุณน้าาา รู้ได้ยังไงล่ะเนี่ย~ กลับบ้านไปกินนมเยอะๆล่ะ จะได้โต~ เอ...ชุดคุนุกิงาโอกะสินะ~ ฉันไปส่งละกัน~"พูดจบเด็กหนุ่มหัวแดงก็ก้าวฉับๆนำหน้าไป
ชิโนบุมองตามแผ่นหลังนั่น เขาคงจงใจจะเมินการแซะของเธอกระมัง ชิโนบุจะยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเดินตามไป
"เอ๋ๆ เดินตามไม่ทันเหรอ? ให้อุ้มไปรึเปล่าเอ่ย~"
"แหมๆ เร็วกว่านั้นไปตัดขาทิ้งดีกว่านะคะ"
"เหๆ ใจร้ายจังน้าาา ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะเนี่ย ขอเดาหน่อยนะ อืม...จิบิ! จิบิจังสินะ!"
"ขอบคุณสำหรับชื่อใหม่นะคะ แต่คนที่ถามชื่อคนอื่นแล้วไม่บอกชื่อตัวเองไม่เสียมารยาทกว่าเหรอคะ? แยงกี้คุง?"
"อุหวาาา โหดร้าย! ชื่อของฉันชื่ออาคาบาเนะ คารุมะไม่ใช่แยงกี้ซะหน่อย"
"ชื่อของฉันก็คือโคโจว ชิโนบุ ไม่ใช่จิบิหรอกนะคะ~ แยง-กี้-คุง"
"อ๊ะ! ถึงแล้วเหรอเนี่ย เฮ้อ~~ เชิญไปเลยนะจิบิจัง เด็กห้อง A อย่างเธอก็ตั้งใจเรียนซะนะ~"คารุมะผายมือไปยังประตูโรงเรียน และเอ่ยกวนๆเธอ
"อุ้ย เป็นคนที่มารยาททรา---ดี จังเลยนะคะ ดิฉันเป็นเด็กห้อง E ต่างหากล่ะค่ะ อย่าเข้าใจผิดเชียว แยงกี้คุงก็ดูจะเป็นเด็กโรงเรียนนี้นะคะ โดดเรียนงั้นเหรอ~~ เหๆ~"ชิโนบุจิ้มแขนคนข้างๆอย่างเย้าแหย่
"เปล่าสักหน่อย~ ฉันโดนพักการเรียนต่างหาก~ ยืนคุยกับฉันอยู่อย่างนี้คงชาติหน้ากว่าจะถึงอาคารบนเขานะ~ ขายิ่งสั้นๆอยู่ด้วย"คารุมะปัดมือของชิโนบุออก ก่อนจะหันหลังเตรียมกลับบ้านของตัวเอง
"หรือว่า...ไม่อยากแยกกับฉันเหรอ~ แหมๆ ฉันรู้น่าว่าตัวเองสมบูรณ์แบบขนาดไหน แต่จิบิจังยังไม่ใช่สเปคนี่สิ~ ยังไงก็เอาไว้เจอกันนะจิบิจัง~"คารุมะว่ากวนๆอีกฝ่ายอย่างทีเล่นทีจริง
ชิโนบุอยากวิ่งขึ้นเขาตั้งแต่คนผมแดงบอกว่าตนสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เธอยังยืนอยู่เพราะเธอทำ ตาม-มา-ร-ยาท
"อุ้ยแหม~ งั้นชาตินี้อย่าได้พบพานกันเลยจะดีกว่านะคะ~ ลาก่อนค่ะ~~"ชิโนบุยิ้มให้คารุมะก่อนจะโบกมือเบาๆ ให้อีกฝ่ายตามมารยาท ก่อนจะใช้ทักษะนักล่าอสูรที่ติดตัวมา หายพรึ่บ! วิ่งขึ้นเขาไปทันที
"เอ๋ๆๆๆ ใจร้า--- อ..อ้าว หายไปไหนแล้วล่ะเนี่ย?"คารุมะหันมาจะโวยวาย แต่เด็กสาวตระกูลผีเสื้อที่ยืนคุยๆกันอยู่เมื่อครู่กลับหายไปอย่างรวดเร็วเสียนี่
เอาจริงๆก็จะว่าสนใจอยู่หน่อยๆก็ได้ เพราะไม่ค่อยมีใครที่จะมาปะทะฝีปากกับเขาได้นานขนาดนี้ แถมออร่าที่แผ่ออกมา...ก็น่าสนใจมากด้วย
"คิก...เอาไว้หมดพักการเรียนแล้วเจอกันนะ จิบิจัง~~"คารุมะยิ้ม ก่อนจะเดินหลับบ้านตัวเอง ไม่วายแวะไปที่ตรอกร้านสะดวกซื้อเพื่อหาอันธพาลมาต่อยเล่น(?)
※หลายคนเรียกร้องให้เขาเจอกัน เจอกันแล้วนะคะ555555 แถมแซะกันไปแซะกันมาด้วย ชิโนบุไม่เตะก้านคอก็ดีเท่าไหร่แล้ว555 มาอัพเป็นกำลังใจพี่ๆน้องๆก่อนเปิดเทอม เพราะโรงเรียนไรท์แยก ม.ต้น ม.ปลาย พรุ่งนี้เลยไม่ได้ไปล่ะค่ะ555555 ตอนนี้เป็นช่วงบ่นไปมากับชิโนบุ ว่าด้วยเรื่องความบัดซบของนังเจ้าของจดหมายล่ะค่ะ5555 หวังว่าจะชอบนะคะ เลิฟๆ
『เกล็ดเล็กๆของคารุมะ』
คารุมะ นังตัวละครที่เด่นกว่านางิสะที่เป็นพระเอก(หรือนางเอกกันนะ555)บางคนอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเขามากค่ะ เรามาเพื่อเผยแพร่5555
คารุมะเป็นคนที่มีความสามารถในการพูดภาษาต่างประเทศมากค่ะ เขาพูดได้ 5 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี โปรตุเกส และฝรั่งเศส
และข้อนึงคือ...คารุมะพูดภาษาอังกฤษดีกว่าภาษาญี่ปุ่นอีกค่ะ5555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าชิโนบุมาอยู่ประเทศไทยบอกคำเดียวเลยว่า...
ชิโนบุ:จิบิพ่อง
#อยากอ่านอีกอ่าา!
เป็นพวกเพื่อนไม่คบสินะคะ?? ^_^
คารุมะคนเพื่อนไม่คบสิน่ะ ชิโนบุได้กล่าวไว้
น้องชิโนบุเจอกับคารุมะซะด้วย แหม คราวหน้าเจอกันคงกัดกันหน้าดูนะ
((ตัวเองอ่านเร็วมากหรือเค้าเขียนสั้นกันเนี่ย555))