ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Finding love

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 แอบชอบ

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 50


    บทที่ 6 แอบชอบ

                "จุนคุง!!!"

                ทาคาอิ นัตสึโกะตะโกนเรียกแล้วหัวเราะเสียงใส เธอหยุดมองรถเล็กน้อย ก่อนจะข้ามถนนมาหา

                จุนทำท่าเลิ่กลั่กเล็กน้อยสายตาฉายแววตื่น ๆ ก่อนจะที่อาการทั้งหมดจะหายไปเมื่อเด็กสาวเดินมาใกล้ มิกิมองการกระทำทั้งหมดของเค้าอยู่ข้าง ๆ

                "หวัดดี นัตสึโกะ" จุนเอ่ยเสียงเรียบ

                "หวัดดีจ้า มาทำอะไรแถวนี้เหรอ" นัตสึโกะทักตอบ

                "ชั้นมาซื้อของน่ะ"

                "อย่างนั้นเหรอ อ่อ กับข้าววันนี้ซินะ แล้วทางนี้คือ..."สายตาของนัตสึโกะมองไปที่ถุงของซูเปอร์ฯแล้วก็พยักเพยิดหน้าแสดงความเข้าใจก่อนที่ตาจะไปสะดุดกับเด็กหญิงตัวเล็กเข้า

                "อ่า...คือ...เอ่ออ ก็ลูกของคนรู้จักกัน มิก..."

                "มิยาฮาระ มิกิค่ะ หนูมาเที่ยวบ้านของจุนช่วงปิดเทอมนี้"มิกิชิงพูดขึ้นก่อน โดยทำเป็นไม่ใส่ใจจุนที่ยืนส่งหน้าบูด ๆ มาให้ นัตสึโกะหัวเราะเล็ก ๆ กับท่าทางของจุน ก่อนจะตอบมิกิ

                "เหรอจ๊ะ เป็นน้องสาวของจุนคุงเหรอเนี่ย มาเที่ยวบ้านสินะ"

                "...เอ่."เมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยปากจะพูดก็ถูกมิกิตัดหน้าอีกครั้ง

           "ไม่ใช่ค่ะ หนูเป็นคู่หมั้น เราสองคนเป็นคู่หมั้น อนาคตหนูจะมาเป็นสะใภ้ของบ้านโซราตะ และที่มาที่บ้านก็เพื่อฝึกการเป็นภรรยาที่ดีต่างหากล่ะคะ" เพียงเท่านี้ จุนก็แทบจะเป็นลมสิ้นสติ พูดอารายยออกปายกันห๊า!!

                คนทั้งสามต่างนิ่งเงียบ และจมลงในความคิดของตน นัตสึโกะนิ่งเงียบ ดวงตาเบิกเล็กน้อยเพราะความตกใจ มิกิเองก็นิ่งเงียบเช่นกัน เธอจ้องตาของนัตสึโกะส่งสายตาแสดงความมุ่งมั่น และท้าทายไปเด็กสาวรุ่นพี่ ส่วนเด็กหนุ่มคนเดียวนั้นก็กำลังอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ทั้งที่ในหัวของเขาแทบจะตะโกนคำพูดมากมายที่คิดเพื่อแก้ตัวจุนได้แต่ยืนนิ่งเหงื่อท่วมตัว

                'ทำไมมันพูดไม่ออกฟระ ไอ้บ้าเอ๊ย'จุนได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ แต่แล้วเสีรงสวรรค์ก็ดังขึ้น

           "ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" นัตสึโกะหัวเราะขึ้นเสียงดัง ทำให้จุนและมิกิถึงกับตกใจ ใบหน้าจุนเหรอหราเพราะอยู่ในอาการตกใจ และงงงวย ส่วนมิกิก็เก็บอาการตกใจ ก่อนที่จะแสดงสีหน้ามุ่งมั่นท้าทายปนสงสัยอย่างปิดไม่มิดไปให้

                "โอ๊ะ ฮะ ๆ ขอโทษทีชั้นหัวเราะมากเกินไปนะเนี่ย ขอโทษนะ แต่ว่าตลกจังเลย ชั้นเป็นพวกรับรู้ช้าน่ะนะ กว่าจะรู้ว่ามุกก็นานหน่อยน่ะ จุนคุงก็น่าจะบอกกันบ้างนะ ดูสิ เงียบกันไปหมดเลย"จุนปาดเหงื่ออย่างโล่งใจ แล้วจึงหันมายิ้มให้กับเด็กสาว

                "ชั้นไม่ได้พูดเล่นนะ!"มิกิโพล่งขึ้นมาอีก ใบหน้าดูเคร่งเครียด และน้ำเสียงก็จริงจังพอกัน

                "จ๊ะ แต่พอแล้วล่ะ ชั้นต้องไปแล้ว อ้อ!ใช่"นัตสึโกะลูบหัวเด็กหญิงเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู ก่อนที่ จะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอหันขวับมาทางจุนทันที

                "งานเทศกาลฤดูร้อนประจำเมืองที่จะจัดเร็ว ๆ นี้ จุนคุงจะไปด้วยกันรึเปล่า?"

                "เทศกาลงั้นเหรอ อ้อ ที่ศาลเจ้าใช่ไหมล่ะ"

                "ใช่แล้วล่ะ จุนคุงก็ไปด้วยกันสิ เพื่อน ๆ ในห้องไปกันเต็มเลยนะ ชั้นกะว่าจะไปชวนเธออยู่ด้วยแหล่ะ แต่เธอไม่ค่อยตอบรับไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ เท่าไร เลยกังวลอยู่เหมือนกันว่าเธอจะยอมไปรึเปล่า"เด็กสาวเงียบลงเหมือนรอคำตอบ

                "ฮ่า ๆ ๆ ก็ ไม่ค่อยสนใจเรื่องเที่ยวน่ะ คือความจริงพี่กับน้องสาวของชั้นก็จะไปกันอยู่แล้วคงไม่พ้นชั้นต้องไปด้วยนั่นแหล่ะ"จุนเอ่ยเสียงอ่อย พลางยกมือขึ้นเกาหัวแกรก ๆ

                "จริงเหรอ!! ดีจังเลย แล้วจะมาด้วยกันรึเปล่าล่ะ อ๊ะ แต่เธอคงจะไปกับครอบครัวสินะ"

                "ก็ไม่หรอก ชั้นก็อาจจะออกทีหลัง เดินเล่นสักพักแล้วก็กลับน่ะ"

                "งั้นเหรอ งั้นไปเจอกันที่งานก็แล้วกันนะ หวังว่าเธอจะไปนะจ้ะ แล้วก็เธอด้วยนะ" นัตสึโกะไม่ลืมที่จะหันมาชวนเด็กหญิง

                "อ้อ ตายจริง ไปก่อนนะจุนคุง ถ้าเธอได้ไปวันแรกเราก็คงได้เจอกันนะ บายจ้า มิกิจังบายจ้า"แล้วเด็กสาวคนสวยก็วิ่งออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว จุนได้แต่โบกมือตามร่างที่วิ่งออกไปนั้น ก่อนจะไม่ลืมหันมาจัดการเด็กหญิงข้างตัว

                "พูดอะไรออกไปน่ะ หา!!  คราวหลังอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะ ขอร้องล่ะ มิกิจัง…"จุนพูดปาว ๆ ๆ ใส่มิกิที่ยังคงยืนนิ่งมองตามร่างของเด็กสาวคนสวยคนนั้นไป จนเมื่อร่างนั้นลับสายตาไป เธอก็ออกเดินทันที

                "ไม่รู้ไม่ชี้"

                "เฮ้ จะไปไหนน่ะ"จุนเหลียวมองเด็กหญิงตัวเล็กที่เดินผ่านเค้าไปแบบเชิด ๆ งอน ๆ

                "นี่ รอก่อน เดี๋ยวก็หลงหรอก"จุนวิ่งตามไปในที่สุด แต่คราวนี้ เด็กหญิงกลับเป็นฝ่ายเดินหนีไปอย่างว่องไว

                'กรรมของเวรจริง ๆ ผู้หญิงแต่ละคนในชีวิตชั้น ทำไมถึงได้ยุ่งยากอย่างงี้ฟระ'

               

                เมื่อกลับมาถึงบ้าน จุนก็พบกับพี่สาวกับน้องสาวตัวแสบที่เค้านึกอยากให้หายตัวไปอีกสักสองเดือนอยู่ที่บ้านเสียแล้ว ยูโกะนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นห้องข้าง ๆ มีเบียร์กระป๋องวางอยู่ 2 กระป๋อง สภาพดูอ่อนล้าเต็มที ส่วนเอมิริก็นั่งดูทีวีรายการวาไรตี้ที่เค้าไม่รู้จัก เหมือนจะมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เพราะยัยน้องสาวตัวแสบกลับมาพร้อมกับผิวสีแทนสวย ที่ดูจะเข้มจัดจนเกินไปหน่อย และแน่นอนเธอกลับมาพร้อมกับของกินของกระจุกกระจิกมากมายที่ซื้อมาฝากครอบครัว แม้จะเคยกล่าวคำอาฆาตอะไรเอาไว้ แต่เด็กสาวก็ยังซื้อของมาฝากพี่ชายอยู่ดี จุนมองปลาหมึกตากแห้งของฝากขายดีประจำท้องถิ่น และกางเกงว่ายน้ำสีแดงแปร๊ดที่น้องซื้อมาให้อย่างใจเย็น นี่มันของที่ควรจะซื้อมาฝากพี่งั้นเรอะ!!

                มิกิที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ก็เดินหนีเข้าครัวไปหาแม่ของจุน เขามองตามไปอย่างโมโห แต่ก็เดินตามเข้าไปเช่นกัน

                "แม่ ของอยู่บนโต๊ะนะ"

                "อื้อ ขอบใจมาก" แต่พอจุนจะเดินออก แม่ของเค้าก็เรียกไว้ จุนหันกลับไปก็พบฝ่ามือของแม่แบอยู่เบื้องหน้า

                "เงินทอน?"

                จุนเหลือบตาขึ้นสูงด้วยความระอา แต่ก็พยายามล้วงหยิบเงินที่กระเป๋ากางเกงส่งให้แม่ แล้วเดินจากมาอย่างรวดเร็ว

                เมื่อจะเลี้ยวขวาเพื่อไปห้องนอนเล่น พ่อของเค้าก็เปิดประตูเข้ามาพอดี พ่อของจุนต้องเข้าไปทำงานในตัวเมืองบางทีก็ค้างในบ้านพักที่บริษัทเพราะทำงานดึก และจะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องเดินทางไปกลับบ้านที่ค่อนข้างไกลจากกันมาก

                โซราตะ คาสึโยชิหัวหน้าครอบครัว พ่อของลูก และสามีของโซราตะ ยูคิเอะ เค้าเป็นชายรูปร่างสูงใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเนื่องจากความแก่ชรายังเหลือเค้าของความเป็นหนุ่มรูปงามแต่ร่างกายกลับดูผอมแห้ง ไร้กำลังวังชา อีกทั้งยังดูเหมือนเป็นคนที่ป่วยอยู่ตลอดเวลา คาสึโยชิทำงานอยู่ในระดับพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ ของบริษัท แม้เงินเดือนจะไม่สูงนัก แต่ก็พอเลี้ยงดูครอบครัวของเค้าได้มาเป็นเวลานาน ยิ่งตอนนี้ยูโกะลูกสาวคนโตทำงานแล้วก็ช่วยลดภาระลงได้เยอะมาก

               

                ตอนนี้ พ่อของจุนเพิ่งจะกลับหลังจากค้างที่ทำงานมา 2 วันแล้ว ครั้งแรกที่เค้ากลับมาก็เจอมิกิทันที ตอนนั้นถึงกับงงกันยกใหญ่ ยังดีที่ว่าพ่อของเค้าออกจะใจดี แม้เด็กหญิงจะพูดอะไรฟังยากไปบ้าง แต่พ่อของเค้าก็รับฟัง และอนุญาตให้อยู่ได้อย่างเอ็นดู

                "อ้าว พ่อฮะ หวัดดี กลับเร็วจังนะครับ" จุนเดินเข้าไปหา แล้วรับกระเป๋าทำงานจากพ่อมาถือไว้

                "เฮ้อออ ก็รีบกลับมากินข้าวเย็นด้วยกันไง แล้วแม่หนูคนนั้นยังอยู่รึเปล่าล่ะ"คาสึโยชิยกเท้าขึ้นค้อมตัวลงถอดรองเท้าก่อนะจะนำมันไปเก็บในตู้เก็บรองเท้า เค้าหันมาพูดต่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนกับลุงแก่ ๆ ที่ใจดี

                "ท่าทางจะชอบลูกน่าดูนี่ เล่นอะไรกันบ้างล่ะวัน ๆ"คุณพ่อยิ้มถามอย่างอ่อนโยน แต่จุนกับถอนใจเฮือกอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ

                "เล่นเลิ่นอะไรกันล่ะ พ่อคิดว่าผมอายุเท่าไร ยัยเด็กนั่นไปเข้าครัวช่วยแม่ทำงานทุกวันแหล่ะ ผมถึงได้เป็นปกติสุขขึ้นมาหน่อย"

                "สวัสดีค่ะคุณลุง! กลับจากที่ทำงานแล้วเหรอคะ? คงเหนื่อยแย่หนูจะเอาเสื้อสูทไปแขวนเก็บให้ค่ะ" มิกิที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน ก็เดินเข้ามาพร้อมกับแกล้งส่งเสียงทักผู้อาวุโสกว่าด้วยเสียงอันดังก้อง ก่อนจะปรายสายตามาทางจุนน้อย ๆ อย่างโมโห คาดเดาได้ว่าเธอคงได้ยินบางอย่างที่จุนพูดกับพ่อ

                "ขอบใจจ้ะ เด็กดีจังเลยนะมิกิจัง"คาสึโยชิเอามือลูบหัวมิกิเบา ๆ ทำให้เด็กหญิงคลายสีหน้าเครียด ก่อนจะยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี จุนมองภาพนั้นโดยให้ความรู้สึกแปลก ๆ

           'ทำไมชั้นถึงได้รู้สึกเฉย ๆ ได้ขนาดนี้ ทั้งที่ก็คิดรำคาญอยู่บ้าง แต่พอเห็นภาพแบบนี้กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เราพอใจให้เป็นแบบนี้งั้นเหรอ ทำไมเด็กนี่ถึงได้...  ทำไม? เรื่องทั้งหมดนี่ เกิดขึ้นได้ยังไง อะไรทำให้เธอเกิดความทรงจำเช่นนั้นกันนะ'

           การทานอาหารเย็นในคืนนั้นดำเนินไปอย่างเรื่อยเปื่อย แต่ก็สนุกสนานอบอุ่นเหมือนอย่างที่เคยเป็น มิกิที่คอยบริการยกขวดเหล้าเติมให้แก้วของคาสึโยชิที่มักจะว่างเปล่าเสมอเมื่อผ่านไปแค่ 5 นาที ถือเป็นภาระอันใหญ่ยิ่งของเด็กหญิงที่ต้องคอยยกขวดเหล้าใบใหญ่ที่ทั้งหนัก และเทอะทะ แต่เธอก็ทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่ และดูเหมือนจะไม่เบื่อหรือย่อท้อเลย แม่ของจุนเองก็ดื่มด้วยในขณะที่เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่บ้านให้สามีฟัง และกล่าวคำแสดงความห่วงใยเรื่องการทำงานของเขาบ้าง ยูโกะกับเอมิริต่างก็พูดเล่าเรื่องไปเที่ยวของตนอย่างสนุกสนาน ก่อนจะหันมาแขวะจุนที่บ่นว่าหนวกหูอย่างสะใจ เจ้าเด็กหนุ่มที่ดูจะไม่มีพรรคพวกเลยต้องเป็นฝ่ายโดนข่มทำให้หัวหน้าครอบครัวหัวเราะเบา ๆ กับลูกชายคนกลางจอมหงอของเขา ส่วนภรรยาก็ส่ายหน้าทนรับลูกชายที่โดนผู้หญิงข่มไม่ได้แล้วก็หัวเราะขึ้นบ้างเช่นกัน มิกิหันมามองจุนที่โดนล้อเลียนแล้วทำหน้ามุ่ย ก่อนจะรีบเทเหล้าลงในแก้วของคาสึโยชิจนล้น เด็กหญิงรีบวิ่งหาผ้าอย่างลนลาน ทุกคนหัวเราะกับท่าทางของมิกิ ขณะที่พ่อของจุนก็เอามือลูบหัวเด็กหญิงอีกครั้ง กล่าวคำว่าไม่เป็นไรแล้วหัวเราะเบา ๆ

                ทุกคนต่างมีส่วนร่วมด้วยกันบนโต๊ะอาหารจุนเริ่มรู้สึกว่ามิกิ และครอบครัวของเค้าเข้ากันได้ดี จนดูเหมือนเธอเป็นน้องสาวของเค้าอีกคน ภาพตรงหน้าที่เค้าเหมือนจะเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้งแต่บรรยากาศมันแตกต่างกัน จุนยังคงแก้ปมปริศนาที่อยู่ภายในใจไม่ได้จึงได้แต่เงียบลงแล้วกินต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะสนุกสนานของครอบครัว

                ในที่สุด เมื่อเสร็จสิ้นการเก็บล้างทำความสะอาดแล้ว จุนก็ไปอาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับชุดเสื้อยืดกางเกงวอม และผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับเช็ดหัวที่เปียกปอน จุนก้มหน้าใช้ผ้าเช็ดหัวจนน้ำกระเด็นไปทั่ว แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาใสแจ๋วของเด็กหญิงตัวเล็กที่สร้างความหงุดหงิดให้เค้ามาตลอด มิกิอยู่ในชุดนอนปาจามาลายการ์ตูนน่ารัก กลิ่นของสบู่หอมที่กระจายไปทั่ว มันอาจจะมาทั้งจากเค้า หรือเธอก็เป็นได้

                "มีอะไรอีกล่ะ ดึกแล้วน่าจะไปนอนนี่ เอมิริใช้ให้มาเอาของเรอะไง?"

           "เปล่าค่ะ หนูมาหาจุน"มิกิเอ่ยเสียงเรียบ นัยน์ตาจ้องมองมายังเค้าอย่างไม่สะทกสะท้าน

                "หือ? เรื่องอะไรอีกล่ะ ชั้นไม่ชงนมให้ดื่มหรอกนะ"จุนเอ่ยทีเล่นทีจริง พลางใช้มือเช็ดหัวไปด้วยเหมือนไม่ใส่ใจ

                "หนูไม่เด็กขนาดนั้นหรอกค่ะ..."เด็กหญิงพูดเสียงอ่อย จนแทบจะไม่ได้ยิน จุนเห็นว่าเงียบไปจึงนั่งลงหันหลังพิงผนัง แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ

                "เอ้า ๆ มีอะไรก็ว่ามา"

                "จุน.. ฮารุคงไม่เชื่อเรื่องที่ชั้นเคยพูดเลยสินะ" จุนชักสีหน้าเพราะเด็กหญิงเรียกเค้าว่า ฮารุ อีกครั้ง แล้วจึงปรับอารมณ์

                "เรื่องที่บอกว่า ชั้นจำเธอไม่ได้น่ะเหรอ"

                "...." มิกิไม่ตอบ แต่พยักหน้าให้น้อย ๆ

                "ก็... มันเชื่อลำบากนี่ นี่มันศตวรรษที่เท่าไรแล้ว ชั้นคงทำใจเชื่อไม่ได้หรอกน่า"เมื่อได้รับคำตอบ จุนก็แทบอยากจะเดินหนีไปไกล ๆ ตื้อไม่เลิกจริง ๆ ของแบบนี้จะเชื่อได้ยังไง แต่พอเห็นเด็กหญิงเงียบไปเค้าก็ต้องอธิบายความคิดของตนให้อย่างลำบาก

                "แต่ถ้าจริงล่ะ จุนเองก็คงไม่คิดว่าเด็กอย่างชั้นจะร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเพราะคนไม่รู้จักนี่นา"

                "ก็คงงั้น..."

               

                บุคคลทั้งคู่เงียบไปอีกนาน จุนรู้สึกเหนื่อยกับการที่ต้องอธิบายอะไร ๆ ให้เด็กคนนี้ฟังว่า เธออาจจะเป็นบ้า ส่วนมิกิก็กำลังคิดถึงอีกอย่างที่รบกวนจิตใจของเธออย่างมาก

                "เอ่อ..."

                "คือ..."

           ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ตั้งใจ จุนพยักเพยิดหน้าให้กับมิกิที่มองมาทางเค้า มิกิหลบสายตาไปก่อนจะเอ่ยคำถามที่จุนแทบไม่ได้นึกถึง

                "เธอคนนั้นเป็นใครเหรอ?"

           "เอ๊ะ!?"

                "เด็กผู้หญิงที่เจอกันวันนี้ เธอเป็นเพื่อนของจุนงั้นเหรอ"มิกิขยายความ สายตาจับจ้องไปที่ผนังฝั่งตรงข้ามไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดใด

                "ก็ประมาณนั้น เพื่อนร่วมห้อง"

                "ทำไมถึงได้สนิทกันนักล่ะ"

                "ก็...ชั้นคุยกับเธอมากที่สุดในชั้น หมายถึงผู้หญิงน่ะนะ แล้วก็เป็นคณะบริหารจัดการห้องเหมือนกันน่ะ อยู่ฝ่ายเอกสาร"

                "งั้นหรอกเหรอ เธอเป็นคนน่ารักนะ"

                "อื้อ ก็ใช่... ทาคาอิน่ะนิสัยดี แล้วก็เป็นTop 5 ของโรงเรียนซะด้วย"

                "ทอป ไฟว์ อะไรงั้นเหรอ"

                "ก็อันดับผู้หญิงที่ผู้ชายหมายตามากที่สุดในโรงเรียนไง ยัยนั่นเค้าได้ที่ 2"เด็กหนุ่มนึกภาพของเด็กสาวอย่างเลื่อนลอย เค้าไม่ได้สังเกตซึ่งสายตาของเด็กหญิงคนข้าง ๆ ที่มองมายังเค้า

                "ฮารุชอบหล่อนงั้นเหรอ?"

                ทั่วบริเวณนั้นเงียบไปเสียสนิท จุนหันหน้ามาทางเด็กหญิงทันที ปากเค้าอ้าขึ้นจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก็หุบลงพร้อมกับกลืนคำ ๆ นั้นลงคอไปอย่างยากเย็น

                "ทำไมถามอย่างนั้น?"น้ำเสียงของจุนตกใจมากกว่าที่ตัวเค้าเองคิด ช่างเป็นคนที่เก็บอารมณ์ความรู้สึกไม่เก่งเลยจริง ๆ

                "จริง ๆ ด้วย" จุนชอบเธอ มิกิต่อคำพูดของเธอในใจ ความรู้สึกเจ็บปวดแทรกซึมเข้ามาถึงกลางใจ

                "จริง ๆ ด้วยอะไรกัน อย่ามาพูดอะไรบ้า ๆ"จุนแกล้งทำเป็นเฉไฉ แต่แท้จริงเค้ากำลังรู้สึกเขินอาย และกระวนกระวายอย่างหนักเพราะตลอดมาเค้าพยายามคิดมาตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น

                แต่มันก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยันค่ำ เด็กหนุ่มคิดกับตัวเองลำพัง

                'มิกิพูดถูก ชั้นแอบชอบยัยนั่น'

               

                มิกิมองดูจุนที่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยสายตาที่เจ็บปวดเหลือประมาณ เธอสูดลมหายใจลึกเพื่อนกลั้นสะอื้น ดวงตาก็ร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาที่ข่มไว้จะไหลออกมาตลอดเวลา ยังดีที่แสงสลัวของโคมไฟไม่อาจส่องสว่างมายังเด็กหญิงมากนัก ใบหน้าของเธอจึงตกอยู่ในเงามืด

           "แล้วมิกิ... เธอรู้ได้ยังไง"หลังจากที่เงียบไปนาน จุนก็เปิดปาก

                "การแสดงออกของจุนน่ะ มองง่ายมาก ไม่มีใครที่เห็นแล้วจะไม่รู้หรอก ผู้หญิงคนนั้นต้องโง่มากแน่ ๆ ที่ไม่รู้ว่าจุนคิดยังไง"

                "เธอยังไม่รู้งั้นเหรอ??!!"จุนนึกไปไกลถึงขั้นว่า แม้แต่นัตสึโกะก็รู้ว่าเค้าแอบชอบเธอ

                "แน่สิ เธอปฏิบัติต่อจุนแบบธรรมดาโดยไม่ได้ระมัดระวังตัวนิ่"

                "งั้นเหรอ.."

                "...จุนชอบหล่อนมานานแล้วเหรอ"

                "คงงั้นมั้ง ชั้นก็ไม่ค่อยรู้ตัว อาจจะเป็นหลัง ๆ จากที่เราได้พบกัน"

                "ทำไมถึงไปชอบเด็กคนนั้นล่ะ อ๊ะ ชั้นก็ถามโง่ ๆ เธอน่ารักนิสัยดีขนาดนั้น"

                "ก็ไม่ทั้งหมดหรอก แต่ชั้นก็คงสนใจเค้าจากจุดนั้น.."

                "แล้วถ้าเกิด..."เด็กหญิงเอ่ยออกมาได้แค่ครึ่งประโยคก็หยุด จุนหันมามองเพื่อให้พูดต่อ เด็กหญิงจึงพูดต่อ

                "แล้วพรุ่งนี้ จุนจะไปงานกับเธองั้นเหรอ?"

                "อาจจะ แต่ชั้นไม่มีความกล้าขนาดนั้นหรอก ก็แค่เด็กผู้ชายธรรมดา เพื่อนร่วมห้อง แล้วก็ไอ้ซุ่มซ่ามปัญญาอ่อน ชั้นไม่อยู่ในฐานะผู้ชายที่เธอจะมองเด็ดขาด"จุนเลื่อนตัวลงต่ำกุมมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เปลือกตาปิดสนิท เดฦกหนุ่มกำลังคิดไปไกลถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ผ่านมา จุนแทบไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะยอมรับว่าชอบทาคาอิ นัตสึโกะ

                ภาพของเด็กสาวในชุดมัธยมปลายคนนั้นผุดขึ้นมาในหัว จุนนั่งนึกถึงเธอไปเรื่อย ๆ ขณะที่มิกิเองก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงคิดของตนเช่นกัน

                "หนูจะไปนอนแล้ว! ขอตัวก่อนนะคะ"อยู่ ๆ มิกิก็ลุกพรึ่บ ก่อนจะเดินหนีไป มีเพียงเสียงที่แว่วมาบอกว่าราตรีสวัสดิ์ จุนมองตามร่างเล็ก ๆ ไป ก่อนจะลุกขึ้นบ้าง เค้าเดินไปตามทาง ผ่านห้องนั่งเล่นที่พ่อ และแม่ของเค้านั่งดูละครรอบดึกกันอยู่ เด็กหนุมย่างเท้าขึ้นชั้นสองอย่างช่า ๆ  ทุก ๆ ขั้น ทุก ๆก้าว เค้าคิดถึงเรื่องนัตสึโกะมากขึ้นเรื่อย ๆ แค่คำถามเดียวของมิกิทำให้เด็กหนุ่มเป็นเอามาก เค้าเริ่มคิดว่า หล่อนจะรู้เรื่องนี้ไหม จะเกลียดไหม จะยอมรับเค้าไหม เค้าคิดมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

                จุเดินไปตามทางที่มืดสนิท แล้วเปิดประตูเข้าห้องของตนอย่างคุ้นเคย เสียงกรนเบา ๆ ดังมาจากห้องข้าง ๆ ยูโกะคงหลับเป็นตายไปถึงเที่ยงแน่ ๆ ส่วนห้องของเอมิริก็ปิดไฟสนิทเช่นกัน เด็กหนุ่มล้มตัวลงนอนบนฟูกที่ปูไว้แต่ไม่เคยเก็บ หน้าต่างที่ไม่ได้ปิดม่านมีแสงจันทร์ลอดเข้ามาเล็กน้อย พอให้มองเห็นอะไร ๆ ในห้องได้บ้าง จุนไม่ได้หลับตา แต่จิตใจของเค้ากลับลอยไปไกล ไกลจนถึงวันมะรืนที่จะถึง วันที่งานเทศกาลจะจัดงานเปิดอย่างยิ่งใหญ่เป็นวันแรก  วันที่เค้าจะได้ไปพบกับเด็กสาวที่ตนเพิ่งแน่ใจว่าชอบ

                จุนแทบจะรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว เด็กหนุ่มนอนคิดไปมา และหลับไปในที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×