ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Finding love

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ร่วมบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 50


    บทที่ 5 ร่วมบ้าน

                ผ่านมาสี่วันได้แล้ว ที่มิกิมาอยู่ที่บ้านโซราตะ  แม้จะทำให้บ้านที่ดูเก่าแก่หลังนี้ต้องเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก และความวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็เหมือนเป็นการเติมสีสันให้กับบ้านในอีกทาง

    ฉึบ ฉึบ

                เสียงของมีดที่กระทบเขียงเวลาหั่นผักดังเข้ามาในห้องนอนเล่น ไอควันพวยพุ่งจากหม้อต้มน้ำ และเสียงดังฉ่า เมื่ออากาเนะแม่บ้านลูกสามใส่อะไรบางอย่างลงในกระทะ

                ไม่เคยมีครั้งไหนที่เสียงทำกับข้าวของแม่จะทำให้เค้าสงบใจมาก่อน จุนแว่บคิดขึ้นมาในหัวสมองขณะที่กำลังพลิกการ์ตูนต่อสู้สุดมันส์ที่เค้าติดตามอ่านมาตั้งกะม.ต้น ในช่วงสองวันแรกนั้น ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญสำหรับเค้าอยู่ซะหน่อย เพราะนอกจากเวลาที่อาบน้ำ หรือเค้าแว่บหนีออกไปเดินเล่นข้างนอก มิกิก็จะตามติดอยู่ตลอดเวลา

                ทั้งเวลาที่อ่านหนังสือ กินข้าว ดูโทรทัศน์ หรือแค่นอนเล่นเฉย ๆ เจ้าหล่อนก็จะมานั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยอย่างไม่มีเหตุผล แต่คงเพราะว่าการเกาะชิดตัวจุนทำให้เบื่อ หรือไม่ก็จะเป็นการเนรคุณกันเกินไปที่เอาแต่หายใจอยู่เฉย ๆ ดังนั้นในวันที่สาม มิกิจึงเริ่มเดินเข้าครัวเพื่อไปขอช่วยงานบ้าง ไม่ก็พยายามเดินวนเวียนอยู่แถวนั้นเผื่อว่าจะมีงานให้เธอได้ทำ แต่ถ้าไม่ได้งาน เธอก็จะมานั่งกระสับส่ายอยู่ที่ห้องนอนเล่นกับจุน แล้วก็คอยจะชะโงกหน้าออกไปแถบจะตลอดเวลา จนแล้วจนรอด แม่ของจุนก็เลยพยายามเรียกใช้งานมิกิบ้าง เพราะรู้สึกได้ถึงการกระทำของมิกิ

                ตอนแรกก็เริ่มแค่เพียงการให้ช่วยหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็เริ่มเป็นช่วยงานใหญ่ขึ้น เช่น ช่วยเป็นลูกมือทำกับข้าว ช่วยส่งไม้หนีบเวลาตากผ้า จากนั้น ก็ดูเหมือนว่ามิกิจะไม่มาที่ห้องนั่งเล่นเลย จนกระทั่งงานหมดจริง ๆ

                จุนนึกขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้ ไม่งั้นเค้าคงหายใจไม่ออกตายเพราะมีคนจ้องตลอดเวลาแน่นอน(แถมยังพูดมากอีกซะด้วย)

                "จุน มานี่หน่อยสิ"เสียงของยูคิเอะดังมาจากครัว

               

                จุนขมวดคิ้วอย่างเสียอารมณ์เพราะแม่ขัดจังหวะการอ่านการ์ตูน เค้าควานหารีโมททีวี มาคั่นหน้าหนังสือเอาไว้ ก่อนจะลุกเดินไปยังครัว

                ที่หน้าประตู แม่ของเค้ายืนรออยู่แล้ว พร้อมกับมือที่ยื่นมาข้างหน้า

                จุนทำตาปรือแล้วพูดกับแม่

                "เงิน ?"

                "อื้อ ก็เงินน่ะสิ"

                " แล้วไง ?"

           "ออกไปซื้อของให้ที"

                "เห??????"

                "โชยุ กับซอสเต้าเจี้ยวหมดแล้ว นอกจากนี้แม่ก็ยังอยากได้ไข่ไก่อีกสัก 4 ฟอง"

                "ในตู้เย็นก็ยังมีนิ่ ไข่น่ะ แล้วโชยุกับซอสมีเก็บไว้ในโหลบนตู้ใส่จานอีกไม่ใช่เหรอ"

                "มันก็หมดแล้วทั้งนั้นแหล่ะ ชั้นใช้อยู่ตลอด แกจะมารู้ดีกว่าได้ยังไงเล่า ฮะ แล้วไข่น่ะคงไม่พอหรอก เมื่อเช้ายูโกะโทรมาบอกแล้วว่าจะกลับมาตอนเย็นนี้ น้องแกก็กลับมาพร้อมกันด้วย" ยูคิเอะเท้าสะเอวก่อนจะพูดฉอด ๆ อย่างนึกรำคาญ

           "ฮึ ความสงบเงียบต้องพลันหายไปอีกแล้วสินะ อือ ๆ แล้วมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า"

           "เอานี่ไปด้วย รายการของที่ต้องใส่ในหม้อไฟ ชั้นคำนวณราคาคร่าวๆเอาไว้แล้ว หวังว่าแกคงจะไม่คิดจะฉกเงินทอนนะ"แม่ของจุนยื่นกระดาษสีน้ำตาลขุ่นให้ บนแผ่นกระดาษปรากฏรายการวัตถุดิบเขียนไว้อย่างยืดยาว จุนมองแล้วนึกเหนื่อยใจ แบบนี้คงต้องเดินไปตรงซูเปอร์ใหญ่แล้วมั้งเนี่ย

           "อ้อ" แม่ของจุนพูดขึ้นระหว่างที่เค้ากวาดสายตามองของบนแผ่นกระดาษอยู่ จุนเหลือบตาขึ้นมอง ส่งคำถามประมาณว่า 'อะไร?'

                "พามิกิจังไปด้วยนะ"

           ฮะ?

           อะไรนะ?

                "ช่วงนี้ มิกิจังเค้ากำลังพยายามฝึกงานอยู่ ให้เค้าไปช่วยด้วย ชั้นสอนเด็กคนนี้เรื่องการเลือกวัตถุดิบเอาไว้หมดแล้ว ให้เค้าไปช่วยเลือกด้วย ฟังแม่อยู่รึเปล่า จุน?"

                สติของจุนเลอะเลือนไปชั่วครู่ แต่เมื่อดึงตัวกลับมาจากอวกาศแห่งความงุนงงได้ เค้าก็เริ่มใส่อารมณ์ทันที

                "ทำไมต้องไปด้วยเล่า แค่ซื้อของผมไปได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องให้เด็กเล็ก ๆ มาช่วยเลยนี่"

                "ชั้นก็อธิบายเหตุผลไปแล้วไง หึ ให้เด็กเล็ก ๆ มาช่วยงั้นรึ แกน่ะแค่ขอให้เอาบลอกโคลีมาให้ ยังซื้อดอกกะหล่ำมาเลย แล้วจะให้ไว้ใจแกได้ยังไง"

                จุนอ้าปากจะเถียงแต่ก็ต้องกลืนมันลงไปเพราะเถียงไม่ออก เหตุผลของแม่เหมือนจะกลายเป็นปากกาเมจิกมาเขียนคำว่า 'แกมันโง่ยิ่งกว่าเด็กเล็ก ๆ เสียอีก'บนหน้าเค้ายังไงยังงั้น ยิ่งเมื่อสายตาของจุนไปสบเข้ากับดวงตากลมโตคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะลอยมาจากห้องครัว เค้าก็เกิดความรู้สึกอายปนโมโหขึ้นมาเมื่อพบว่าดวงตาคู่นั้นอยู่บนใบหน้าของมิยาฮาระ มิกิ เด็กเล็ก ๆ ที่จะต้องไปช่วยเค้าซื้อของ

               

                ฮึ้ย ดูถูกกันดีนัก

                "ก็ได้ ไปก็ไปสิ"จุนทำปากเชิด ๆ ก่อนะจะหันมาเรียกมิกิ "จะไปไหมเนี่ย?"

                "อื้อ ไปสิ ไปก่อนนะคะ คุณป้า แล้วหนูจะรีบกลับ"มิกิตอบกลับด้วยอาการอึ้งเล็ก ๆ แล้วหันมาโค้งให้กับยูคิเอะ ก่อนจะวิ่งออกไป

                แม่บ้านสาวมองตามไปยังเด็กทั้งสอง จุนเดินนำไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ ส่วนมิกิเองก็รีบเดินตามแบบเดิน ๆ วิ่ง ๆ เมื่อใกล้จะถึงตัวจุน เค้าก็กลับเดินแบบก้าวกระโดด แล้วก็เดินแบบเร่ง ๆ จนห่างออกไปอีก สร้างอารมณ์ขันให้กับคนดูเป็นอย่างยิ่ง

                'เจ้าเด็กบ๊องเอ๊ย~~~'

    ณ ซูเปอร์มาเก็ต

                "จุนรอด้วย!" เด็กหญิงวิ่งพลางหอบ ตะโกนเรียกจุนก่อนที่เค้าจะเดินเข้าห้างไป จุนพ่นลมผ่านทางจมูก ทำท่าฮึดฮัด

                "หึ เรียกถูกนี่วันนี้" จุนเดินเอื่อยลงจนมิกิเดินมาอยุ่ด้านข้าง

                "ก็จุนไม่ชอบให้เรียกว่าฮารุนี่"

                "ก็เปล่าหรอก แค่นั่นมันไม่ใช่ชื่อของชั้นก็เท่านั้นแหล่ะ เอาล่ะ รีบซื้อของทีเถอะนะ"

           "อื้อ"มิกิพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย จุนถึงกับเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย แต่ก็ออกเดินต่ออย่างรวดเร็วเช่นเดิม

                และแล้วจุนก็พบว่า ที่แม่พูดนั้นเป็นความจริง แม้เค้าจะเป็นลูกที่แม่ไว้ใจใช้ให้ออกไปซื้อของมากกว่าพี่ และน้องสาวอีกสองคนก็ตาม แต่มิกิกลับทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่าเค้า และวัยของตนมากนัก เธอเลือกกะเกณฑ์ปริมาณ เปรียบเทียบราคา ทั้งยังรู้อีกด้วยว่า ของแบบไหนที่แม่ของเค้าเลือกจะใช้ทั้งที่เจ้าตัวก็เพิ่งได้เข้าไปทำงานในครัวแค่ไม่กี่วัน ทางพวกของสดเอง แม้จะไม่ได้ดีมากนัก และต้องให้จุนคอยช่วยเพราะเคาเตอร์วางของสดจำพวกปลากับเนื้อสูงเกินกว่าจะชะโงกหน้าขึ้นไปดู แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมเกินเด็ก แถมยังฉีกหน้าจุนที่เค้าหยิบปลากะพงขาว มาแทนที่จะเป็นปลาซาบะ

                "นี่ นี่ไงล่ะ ปลาซาบะตัวทางซ้ายนั่นไง"มิกิให้จุนช่วยอุ้มเพื่อที่เธอจะได้เห็นชัด ๆ หลังจากที่มองดูอยู่สักครู่เธอก็เจอปลาซาบะมิกิขยับแขนอย่างลำบากเพื่อที่จะชี้ จุนวางเธอลงแล้วเดินไปหยิบมันมาให้ เค้าจับบริเวณหางทิ้งหัวปลาลงแล้วก็ชูขึ้นให้มิกิดู

                "อื้ม ใช่แล้วล่ะ"

                "งั้นชั้นให้เค้าใส่ถุงให้เลยนะ"

                "ค่ะ รบกวนด้วย"

                ระหว่างทางกลับบ้าน จุนเริ่มรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง เค้าจึงเดินเรื่อยเปื่อย น้ำหนักของถุงใส่ของไม่หนักมากนักแต่ก็ชวนเมื่อยมือ จุนกำมือแน่นขึ้นนิดก่อนผ่อนออกเพื่อให้หายเมื่อย ก่อนกลับจากซูเปอร์ทั้งสองเจอร้านขายไอศกรีมจึงแวะซื้อ จุนเลียไอศกรีมรสชอคโกแลตในมืออีกครั้งเมื่อเห็นว่ามันเริ่มจะละลาย ขณะที่ด้านข้างของเขา มิกิก็กำลังขมวดคิ้วดวงตาหยีเล็กลงเพราะว่าไอศกรีมรสมะนาวที่กินเข้าไปนั้นมันเย็นจี๊ดจนขึ้นสมอง

                แสงอาทิตย์ในยามบ่ายของฤดูร้อนสาดส่องลงมายังคนทั้งคู่ จุนนึกสงสัยว่าถ้าเค้าเดินถือไอศกรีมนี้กลับบ้านโดยที่ไม่ได้กินเลยสักคำ มันก็คงจะละลายลงหมดก่อนถึงบ้านเป็นแน่ 'อะไรมันจะร้อนขนาดนี้นะ' จุนคิดในใจ 'อยากจะแก้ผ้าเดินให้มันรู้แล้วรู้รอด' แต่เค้าก็ไม่มีวันทำแบบนั้น ยิ่งถ้าเป็นตอนนี้ ยิ่งไม่มีวันเด็ดขาด เด็กสาวผมยาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเค้านี่เอง ดูท่าเธอจะมองไม่เห็นเค้า แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็หันมาสบตากับจุนเข้าจนได้ วินาทีนั้นแววตาของหล่อนฉายแววสงสัย แต่ต่อมาก็เป็นประกายด้วยความตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็ก ๆ จุนรู้จักเธอดี ทาคาอิ นัตสึโกะ เพื่อนร่วมชั้น ด้วยใบหน้าที่น่ารัก ไม่แพ้อุปนิสัยใจคอ และผลการเรียนที่ดีเยี่ยมทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และยังเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในชั้น ในตอนแรกจุนไม่นึกสะดุดตาหล่อนนัก เพราะไม่ค่อยสนใจผู้หญิง แต่เค้ากลับได้รู้จักเธอที่ห้องพักครู ทั้งที่สองคนก็อยู่ห้องเดียวกัน

               

                'มาสิ ให้ชั้นช่วยเถอะ... โซราตะคุงสินะ ชีทนี่น่ะถือคนเดียวไม่ไหวหรอก'

                จุนจำใบหน้าน่ารักที่พูดกับเค้าในวันนั้นได้ดี ด้วยเหตุผลที่ใบหน้าของเค้ายียวนกวนประสาท หรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้เค้าสะดุดตานิชิดะ มาซาฮิโตะอาจารย์ประจำชั้นมาตั้งกะวันแรก แล้ววันหนึ่งในตอนเที่ยง นิชิดะก็เรียกเค้าไปที่ห้องเพื่อให้ยกชีทเกี่ยวกับวิชาเรียนคาบต่อไปไปที่ห้อง

               

                "ขออนุญาตครับ"จุนเปิดประตูเลื่อนห้องพักครูออก ก้มหัวลงเล็กน้อย เพื่อแสดงความเคารพที่ดูจะทำไปเพียงเพื่อมารยาท แต่ดูเหมือนจะมีอาจารย์ที่รักมารยาทบางคนบริเวณประตูที่พยักหน้ารับก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตนต่อ ส่วนบางคนที่กำลังยุ่งทั้งการทำเอกสารรวมไปถึงการด่าอย่างไม่ไว้หน้ากับเด็กแสบ ๆ ทั้งหลายที่ก่อเรื่องยุ่งในคาบเรียนเมื่อช่วงเช้า ขณะที่มือก็ร่างจดหมายพบผู้ปกครองไปด้วยอย่างรวดเร็ว จุนมองอย่างทึ่ง ๆ พร้อมคิดในใจ 'โปรจริง ๆ'

                โต๊ะของอาจารย์ประจำชั้นของเค้าอยู่ลึกเข้าไปด้านในแต่ก็ตั้งตรงกับทางเดินไปยังประตูพอดี ประมาณว่าถ้าเปิดประตูแล้วเดินตรงมาเรื่อย ๆ ก็สามารถนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของอาจารย์ได้เลย และตอนนี้ที่โต๊ะนั้น นิชิดะอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดโหดก็นั่งรออยู่แล้ว ชายหนุ่มทำหน้าเบื่อเต็มที สายตาของเค้ามองมายังจุนก่อนจะข้ามไปยังกลุ่มของพวกเด็กซ่าทั้งหลายที่โดนอาจารย์คนนึงดุด่าอยู่ มือกำแน่นเหมือนจะลุกขึ้นไปอัดใครสักคนในกลุ่มนั้นได้ทันทีที่เสร็จธุระที่นัดไว้กับเค้า

                "มาซะทีนะ รอเดี๋ยวละกัน ชั้นจะเดินไปเอาเอกสารมาให้"ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลุกออกจากโต๊ะ แล้วเดินไปที่ลอกเกอร์หลังห้อง ทำท่าควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า แล้วจุนก็ละสายตาจากมาการนั่งอยู่คนเดียวที่ห้องพักครูทำให้เค้าอึดอัด ประการที่หนึ่ง การที่ได้เข้าใกล้อาจารย์ยิ่งเป็นสิบ ๆ คนก็คงไม่มีเด็กคนนั้นสบายใจ ประการที่สอง ไม่รู้จะมองไปทางไหนตรงหน้าก็เต็มไปด้วยกองหนังสือรก ๆ ของครูนิชิดะ ด้านขวาก็เป็นโต๊ะของอาจารย์สาวอีกคนที่บนโต๊ะก็มีของมากมายไม่แพ้กัน แม้เจ้าของโต๊ะจะส่งยิ้มใจดีมาให้ แต่เค้าก็ไม่รู้สึกคลายอึดอัด จุนเหลือบสายตาไปทางซ้าย แล้วเค้าก็ได้สังเกตเห็น...

                เด็กสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่ความทรงจำบอกได้ว่าเธอดูคุ้น ๆ จุนหยีตามองแต่ก็ไม่ช่วยให้เกิดอะไร ตอนนี้เด็กสาวคนนี้กำลังคุยอย่างออกรสกับอาจารย์ที่นั้งอยู่ด้านหน้าเธอ ดูต่างจากพวกแก๊งเด็กซ่านั้นมากนัก คงไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีหรอกมั้ง เค้าเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

                "คุณทาคาอิ ผลการเรียนจากโรงเรียนเก่าดีมาก ครูดีใจจริง ๆ ที่เธอมาที่นี่ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของโรงรียนเลยทีเดียว"อาจารย์สาวใกล้เลขสามคนนี้ก็เป็นที่ล้อเลียนของเด็ก ๆ ไม่น้อย เธอเป็นสาวขึ้นคานของแท้ดั้งเดิม ทรงผมที่รวบเป็นมวยด้านหลัง สวมแว่นตาอันโตบดบังใบหน้า ขาดการเมกอัพ และปรุงเสริมเติมแต่งใด ๆ การแต่งตัวที่ย้อนสมัยไปหลายสิบปี จุนไม่คิดว่าจะมีคนที่เชยขนาดนี้อยู่บนโลก แต่เค้าก็คิดว่าถ้าหล่อนรู้จักการแต่งตัวมากกว่านี้อาจจะดีกว่าก็เป็นได้

               

                "ไม่หรอกค่ะ ยังมีคนเก่งอีกตั้งเยอะ ความจริงแล้ว การแข่งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นหนูก็ได้ค่ะ น่าจะมีคนอื่นบ้างที่เค้าควรจะได้รับโอกาสนี้"เด็กสาวชื่อทาคาอิตอบอย่างฉะฉาน เธอดูเป็นคนเรียบร้อย ฉลาดอย่างที่อาจารย์คนนี้ว่าจริง ๆ แถมยังสง่าอีกต่างหาก

                "นั่นสินะ แต่ถ้ายังไงครูก็จะเรียกมาดูกันทุกคนละกัน เธอเองก็ใช่ว่าจะรอดล่ะ ครูไม่อยากให้คนเก่ง ๆ อย่างเธอต้องพลาดรางวัลดี ๆ หรือทุนดัง ๆ ไปนะ"

                "ค่ะ หนูต้องเข้าร่วมแน่นอนค่ะ"

                ปึ้ง!!

          

                อยู่ ๆ โต๊ะก็ส่งเสียงดังสนั่นจนเค้าตกใจ แต่เมื่อมองดูรอบข้างพบว่าไม่มีใครใคร่สนใจนัก แม้แต่เด็กสาวด้านข้างกับอาจารย์ก็ยังคุยหัวเราะกันอยู่ เค้าจึงรู้ว่าตัวเองเหม่อลอยไป ตอนนี้ด้านหน้าของเค้าคือชีทกองมหึมา เข้าใจล่ะ นี่คือต้นเหตุสินะ

                "อา...ไอ้ชีทนี่หนักเป็นบ้า"ปากพูดแบบนี้ แต่หน้าทำอีกอย่าง สีหน้าของเค้าไม่แสดงถึงความปวดเมื่อยใดใด แต่กลับเรียบเฉยจนคนดูถึงกับหนาว "ช่วยเอาไปที่ห้องให้ที ชั้นจะไปช้าสักสิบนาที บอกหัวหน้าด้วยว่าคุมอย่าให้เสียงดังกันมากนัก"

                จุนไม่ทันสังเกตว่าเด็กสาวด้านข้างกับอาจารย์เงียบไปเมื่อไหร่ เค้าพยักหน้ารับอย่างจำใจ

               

                "ครับ.."

                       ก้าวย่างแต่ละก้าวของเค้ามันหนักอึ้ง 'ไอ้...บ้าเอ๊ย หนัก...ชิบ' จุนก้าวช้า ๆ แล้วก็หยุดเพื่อประคองไม่ให้เอียงก่อนจะเดินต่อ แม้แต่ทางเดินยาวตรงธรรมดา ก็ทำให้รู้สึกว่าไกลเหลือเกิน ประตูทางออกเหมือนจะใกล้แค่เอื้อมในที่สุดเมื่อเค้าไปถึงประตู จุนก็มีปัญหาใหม่

                'ปะ ปะ เปิดประตูไม่ได้' ประตูเป็นแบบเลื่อนที่บริเวณที่เปิดเป็นแบบลึกลงไปเป็นหลุมสี่เหลี่ยม ที่ต้องเอามือสอดเข้าไปเพื่อเลื่อนออก จะให้ดันตัวออกก็ไม่ได้อีกเพราะไม่ใช่แบบผลัก

                จุนยืนนิ่งกว่าสองนาที ทำท่าเลิ่กลั่กตามประสาคนที่ไม่รู้จะทำยังไง แล้วสวรรค์ก็เมตตามีเด็กนักเรียนรุ่นพี่คนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา พอเห็นจุนเข้าเค้าก็รีบหลีกทางให้ จุนก็เลยพ้นปัญหามาได้ เด็กหนุ่มโค้งศีรษะให้รุ่นพี่แสดงความขอบใจ รุ่นพี่ก็พยักหน้าตอบเค้าบอกว่าไม่เป็นไรด้วยเช่นกัน

                เมื่อออกจากห้องได้ จุนก็ได้พบเรื่องแปลกใหม่อีกเรื่อง แต่มันไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว เด็กสาวที่ชื่อว่าทาคาอิยืนอยู่ตรงหน้าเค้า เธอส่งยิ้มสดใสมาให้ ท่าทางเป็นมิตร

                แน่นอนว่าจุนคงไม่ยิ้มตอบ เค้าส่งสายตาสงสัยตอบกลับไป เด็กสาวหัวเราะก่อนจะเอ่ยวาจา

                "นั่นมันหนักนะ ให้ชั้นช่วยเถอะ"

                "แต่ เธอเป็นใคร?"

                ฮะฮะฮะ เด็กสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

                "ว่าแล้วเชียว เธอไม่รู้จักชั้นจริง ๆ ด้วย สังเกตมาตั้งแต่ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้องพักครูแล้ว ชั้นก็นึกสงสัยว่าทำไมถึงไม่ทักกันเลย ทั้งที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันแท้ ๆ"

                "อะไรกันเล่า??"เด็กหนุ่มเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ ความหนักทำให้เค้าถึงกับแขนสั่น

                "อื้อ"เด็กสาวเปลี่ยนทีท่า เธอยิ้มอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง "ชั้นอยู่ห้องเดียวกับเธอ ชื่อ ทาคาอิ  นัตสึโกะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"ทาคาอิ นัตสึโกะโค้งตัวลง

    ก่อนจะเงยขึ้นมายิ้มให้กับเค้าอีก 'เธอโฆษณาร้านขายยิ้มรึยังไง ขยันยิ้มจริง'

    จุนพยักหน้ารับบ้างด้วยสีหน้าที่ยังไม่คลายความสงสัย

           "อื้อ ยินดีที่ได้รู้จัก"

           "งั้นก็แบ่งชีทมาเถอะ"

           จุนยังทำท่า เอ่อ ๆ อ่า ๆ

                "ฮะๆๆ ไม่เป็นไรหรอก มาสิ ให้ชั้นช่วยเถอะ... โซราตะคุงสินะ ชีทนี่น่ะถือคนเดียวไม่ไหวหรอก"

               

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×