คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ฤดูร้อน
บทที่ 4 ฤดูร้อน
สายลมร้อนพัดผ่านเข้ามาในห้อง เสียงต้นไม้โบกพลิ้วไปตามกระแสลม เสียงของจักจั่นที่ร้องระงมไปทั่วบริเวณ แตงโมผลใหญ่ที่ถูกแบ่งออกให้กลายเป็นชิ้น ๆ และชีวิตของเด็กม.ปลายที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน
จุนนอนเหยียดอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นด้วยสภาพน่าอนาถ เค้าเปิดประตูเลื่อนออกทั้งสองด้านเพื่อรับลม และไล่ความร้อน แต่กระนั้น ความร้อนก็ยังถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน มือข้างหนึ่งของเขาโบกพัดไปมา อีกมือนึงถือแตงโมงับเข้าปาก
“นี่นายเป็นเด็กม.ปลายรึเปล่าเนี่ย??” ยูโกะพี่สาวคนโตพูดพลางทำหน้าเบ้
“ดูท่าทางจะไม่รอดไปถึงคืนนี้แน่ให้เรียกรถพยาบาลให้ไหม?”
“บ้าน่า พี่จะไปไหนก็ไปสิ มายืนบ่นอยู่นี่ เดี๋ยวก็ไม่ทันจนได้” จุนโต้กลับเอื่อย ๆ พลางโบกพัดไล่
“ก็มันน่าอนาถนี่ นี่มันปิดเทอมฤดูร้อนแล้วนะยะ ไม่คิดจะออกไปเที่ยวไหนบ้างรึไง มานอนเป็นผีตายซากอยู่นี่ เห็นแล้วก็ขวางหูขวางตา ถ้าเป็นชั้นสมัยโน้นนะ รู้ไหม ชั้นไปเที่ยวทะเลที่โอกินาว่า อาบแดดจนผิวคล้ำแล้ว แกก็น่าจะออกไปไหนบ้าง”
“หึ ไม่เห็นจำเป็นเลย ผมพอใจแบบนี้ พี่รีบไปเหอะน่า ตื่นสายเลยเวลามา 20 นาทีแล้วนะ” จุนพลิกตัวหันหลังให้แล้วก็งับแตงโมเข้าปากไปอีกคำ ใบหน้ามุ่ยบอกถึงอาการว่ารำคาญเต็มที
‘ชิ ทำมาเป็นพูด เหมือนไม่รู้เลยนะว่าเรามีภาระน่ะ อีกประเดี๋ยวยายเด็กนั่นก็จะมาแล้วด้วย มาทำพูดข่มอยู่ได้’
ตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึง
“พี่ยูโกะ!!! อ๊าดีจังที่ยังไม่ไป กะว่าจะติดรถไปด้วยน่ะ เพื่อน ๆ หนูเค้านัดกันที่คอฟฟี ชอป ตรงหัวมุมตรงโน้นเอง ขอไปด้วยคนนะ ”
เสียงดังตึงตังมาทางโถงบันได ก่อนที่ลูกสาวคนเล็กคนเล็กของบ้านจะโผล่หน้าเข้ามา
‘วันนี้ ยายเอมิริก็ไปหาดที่เมืองข้าง ๆ แถมจะไปค้างสัก 2 วันอีกด้วย ผู้หญิงบ้านนี้อยู่ให้ติดบ้านไม่เป็นรึไงนะ’
“อื้ม เอาสิ เตรียมของพร้อมแล้วรึยังล่ะ”
“ค่าแท้งกิ้วน้าพี่ยูโกะ อ้าว!! จุนจัง ปิดเทอมไม่ไปไหนเลยเหรอ พี่นี่ดูท่าทางน่าสงสารมากเลยนะ”
“ทิ้งนายเบื่อโลกนี่ไว้เถอะ ถึงมีที่ไปก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็นะ...เดี๋ยวนี้เค้าเป็นพี่เลี้ยงเด็กแล้วนี่นะ” ยูโกะพูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ
“อ้อ จริงด้วยแหล่ะเนอะ ขอให้สนุกนะคะ แล้วหนูจะกลับมาช่วยนะ จะมาให้ทันงานเทศกาลแน่ค่ะ อยากชวนมิกิจังไปงานวัดจังเลยย พี่ยูโกะด้วยนะ”
“หึ รีบ ๆ ไปเลย ขอให้เธอตากแดดผิวเกรียมจนกลับมาขาวไม่ได้อีกเลย” จุนโบกมือไล่ ก่อนจะหยิบแตงโมอีกชิ้นขึ้นมา
“อ้ายย พูดงี้ได้ไง คอยดูเลยนะ ว่าจะซื้อของฝากมาให้แท้ ๆ อดไปเลยแล้วกัน แบร่!!” เอมิริแลบลิ้นใส่จุนก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
ฤดูร้อนปีนี้น่าเบื่อมาก ความจริงก็น่าเบื่อทุกปีแหล่ะ นอกจากอากิระแล้ว เค้าแทบจะไม่มีได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ ทำให้เวลาที่เพื่อน ๆ ในชั้นจัดกลุ่มเรียน ทำงานทดลองวิทยาศาสตร์ หรือเวลาไปทัศนศึกษา เค้าแทบจะไม่มีกลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วยเลย ได้แต่เข้าร่วมเฉพาะเวลาคนขาด หรือบางทีก็แยกตัวไปอยู่คนเดียวซึ่งแน่นอนว่าอากิระก็ตามติดเค้าแจเหมือนเดิม
ระหว่างที่เค้านั่งนอนเล่นอยู่บ้าน ทำการบ้านปิดเทอมฤดูร้อน ออกไปตกปลา รึบางทีก็ไปเที่ยวบ้านอากิระนั้น(มันกึ่งบังคับกึ่งชวนนะ) ก็เรียกได้ว่าดีที่สุดแล้ว แต่มันช่างแตกต่างกันพี่-น้องสาวของเค้าเหลือจะประมาณ ทั้งยูโกะ และเอมิริต่างก็เป็นนักเที่ยว และมีเพื่อนมากมาย ทำให้วันหยุดของทั้งคู่แทบไม่เคยว่างเลย
จุนลุกขึ้นมานั่ง ข่มความรู้สึกอิจฉาเล็ก ๆ ของเขาระหว่างที่เสียงรถของยูโกะแล่นออกไป เขาลุกขึ้นหยิบจานจะเดินไปเก็บ ตอนนั้นเองเสียงรถอีกคันก็ดังมาจากหน้าบ้าน
เฮือกกกก!!!
มะ มะมาแล้วว
โธ่!!!! ไม่น้า~~~~~~~
‘ ปิดเทอมธรรมดาก็เซ็งพออยู่แล้ว นี่ยังมีเด็กประสาทกลับมาอยู่ด้วยอีก โธ่ ไม่ไม่ไม่ไม่’
“จุน เสียงรถมาจอดหน้าบ้านแน่ะ ออกไปดูสิไป เผื่อเป็นคุณมิยาฮาระ”แม่ของจุนส่งเสียงเรียก ก่อนจะโผล่เข้ามาในห้อง กลิ่นหอมฉุยของข้าวสวยหุงใหม่ ๆ ลอยมา แม่ของเค้าถอดผ้ากันเปื้อนออกเป็นสัญญาณให้รู้ว่ากับข้าวคงเสร็จเป็นที่เรียบร้อย “เร็วเข้าสิ” หล่อนวางผ้ากันเปื้อนลงบนโต๊ะกลางห้อง แล้วรีบเดินออกไปรับแขก
จุนทำท่าทางอิดออดก่อนจะเดินตามไป
“แม่ ยกเลิกไปไม่ได้เหรอ” จุนคว้ามือแม่ไว้ก่อนที่หล่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู “นะ แม่ออกไปบอกเค้าว่าผมติดธุระ ป่วย ไม่สบาย ออกไปเที่ยว รึหนีออกจากบ้านไปแล้วก็ได้ ขอร้องเหอะ ช่วยยกเลิกทั้งหมดให้ที นะแม่นะ”
“ทำบ้าอะไรอย่างนั้น แกพูดออกไปเองนี่นาว่า ‘ก็ได้ ตกลงครับ’ ชั้นให้แกตัดสินใจเองทุกอย่าง แล้วตอนนี้พออยากเลิก ก็คิดจะเลิกง่าย ๆ อีก ขอโทษทีเถอะนะ คุณผู้ชาย ชั้นจะไม่ทำอะไรให้ทั้งนั้น นอกจากออกไปต้อนรับเค้า แล้วถ้าอยากจะเลิกละก็ เชิญบอกเองตามสบายเถอะ” แม่รัวใส่เค้าเป็นชุด จนพูดไม่ออก
ครืดดดดด
“คุณนายคะ สวัสดีค่ะ ขอโทษที่ให้รอนะคะ” โซราตะ ยูคิเอะน้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อมพร้อมกันกับเวลาที่มิยาฮาระ อากาเนะเงยหน้าขึ้นพอดี หล่อนยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนเอ่ยคำทักทายเช่นเดียวกัน จุนหลบอยู่หลังประตู เค้าชะเง้อออกไป จ้องมองด้านนอกพลางมองหาเด็กผู้หญิงที่ทำให้หน้าร้อนของเค้าไม่เป็นสุข แต่เบื้องหน้ามีเพียงร่างของสองแม่ที่ยืนคุยกันอยู่เท่านั้น
‘อ้าว! มิกิจังไม่มารึไงกัน
. อ้ากกก โธ่เว้ย โซราตะ จุน นายจะคิดมากอะไรกันเล่า ไม่มาสิดีแล้ว ใช่แล้ว ชั้นควรจะได้อยู่บ้านชิวชิว นอนเล่นทั้งวัน มากกว่าการต้องมาดูแลเด็กนะเฟ้ยย ว่าแต่มันก็ไม่ชอบมาพากลอยู่นา.. ชั้นจะโดนหลอกป่าววะเนี่ย’
“จ๊ะเอ๋!!!!!!!!! ฮัตสึฮารุจังงงงงง”
“แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกก”จุนร้องตะโกนสุดเสียง เพราะอยู่ ๆ มิกิก็พุ่งตัวเข้ามากอดเค้าจากด้านไหนสักแห่ง
‘นั่นไง นั่นไง นึกแล้วเชียวววววว’ จุนทรุดตัวลง ก่อนจะหันมามองหน้าเด็กหญิงด้วยอารมณ์ที่สุดจะกล้ำกลืน มิกิส่งเสียงหัวเราะด้วยความดีใจ เสียงดังคิกคักของเด็กหญิงดังไปทั่วบริเวณ คุณแม่ทั้งสองหันมามองทั้งคู่ ยูคิเอะส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ขณะที่อากาเนะยิ้มออกมาเพราะความน่าขันของจุน
จุนก้มศีรษะให้คุณนายมิยาฮาระเล็กน้อยก่อนจะต้องหันกลับมาหามิกิที่เริ่มเข้ากอดรัดเค้าอีกครั้ง
“ขอโทษด้วยนะคะ ดิชั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าควรทำอย่างไรคุณหมอที่โรงพยาบาลไม่ว่ากี่ที่ ๆ ในคืนนั้นที่ชั้นพาลูกไป ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีผลอะไรใดใดที่สมองเลย ไม่มีแม้แต่อาการช็อค หรือความผิดปกติทางจิต เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแกถึงต้องเล่นเป็นคนอื่น แล้วทำให้ลูกชายของคุณต้องลำบากแบบนี้”
มิยาฮาระ อากาเนะมองภาพเบื้องหน้า ลูกสาวเพียงคนเดียวที่มีอาการผิดปกติทางประสาทหล่อนเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยง(อยู่ฝ่ายเดียว)กับจุนเด็กหนุ่มที่เพิ่งพบเมื่อวานเนื่องมาจากอุบัติเหตุ เธอสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยต่ออีกครั้ง
“ชั้นพยายามพูดคุยกับแก แกก็ยังเรียกชั้นว่าแม่ แต่ก็เอาแต่ร้องไห้ร้องหาจุนคุง แกร้องเสียจนชั้นสงสาร ชั้นไม่รู้ค่ะว่าควรทำยังไง รู้แต่เพียงว่า ดิชั้นจำเป็นต้องมารบกวนคุณจริง ๆ” คุณแม่ลูกสามได้แต่พยักหน้าอย่างช้า ๆ รับคำหล่อนเข้าใจดีถึงความรัก และห่วงใยที่แม่มีต่อลูก เธอไม่รู้สึกว่ามันเป็นการรบกวนแต่อย่างใด
“อย่าห่วงเลยค่ะ ชั้นเองก็มีลูกมาตั้ง 3 คนแล้ว ชั้นเข้าใจดีค่ะ มิกิจังอาจจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง แกอาจจะอยากเล่นสนุก ๆ หรืออาจจะแค่เหงาไม่มีเพื่อนก็เป็นได้” หล่อนเอื้อมมือมาจับไหล่ของอากาเนะ “ระหว่างนี้ชั้นจะช่วยดูแลให้เองค่ะ จุนเองก็ว่างทั้งปิดเทอมอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงค่ะ”
อากาเนะคำนับขอบคุณก่อนที่จะเงียบไปโดยไม่พูดอะไร หล่อนทอดสายตาไปเบื้องหน้า พลางภาวนา
ผ่านไป10 นาที
คุณนายมิยาฮาระกลับไปแล้ว แม่ของจุนกำลังส่งเธออยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนจุนนั้นก็ติดแหงกอยู่มิกิตลอดเวลาอย่างที่คิดไว้ เด็กคนนี้ไม่ยอมห่างจากเค้าแม้เพียง
“มีอะไรเหรอ”จุนอดไม่ไหวเลยถามเสียงดัง”เธอนั่งมองหน้าตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
“เปล่าหรอก ชั้นอยากดูใบหน้าใหม่ของฮารุก็เท่านั้น”มิกิยิ้มแล้วพูดด้วยเสียงร่าเริง “หล่อขึ้นเยอะเลยนะ”
จุนขมวดคิ้ว ทำหน้าแหย อะไรของเค้าวะเนี่ย แต่แล้วเค้าก็เลิกใส่ใจ แล้วหันไปหยิบการ์ตูนที่กองอยู่ใต้โต๊ะมาอ่านเล่น
เงียบไปสักพัก
“นี่”
“นี่”
“นี่ ฮารุ”
จุนปิดหนังสือก่อนหันมาตอบ “ชั้นชื่อจุนไม่ใช่ฮารุ ถ้าจะเรียกก็เรียกให้ถูกด้วย”
“แล้วมีอะไร”
“อื้ม ก็คือ..ไม่มีอะไรจะคุยกับชั้นเลยเหรอ”
“ไม่มี”
“เหรอ”
“อืม”
“ทำไมล่ะ”
“ทำไมอะไร”
“ก็ทำไมไม่คุย”
เฮ้ออออ เสียงร้องในใจจุนดังขึ้น เค้าไม่คิดว่าการเจอกันในวันนั้นจะทำให้ชีวิตเค้าต้องมาเจออะไรอย่างนี้ รู้งี้ไม่รับดีกว่า
“ก็คือว่า ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แล้วก็ไม่รู้ว่ามิกิจังอยากได้อะไรด้วย ชั้นไม่มีเวลาเล่นด้วยหรอกนะ รู้ไหมว่าปิดเทอมหน้าร้อนของเด็กม.ปลายน่ะมีอะไรให้ทำตั้งมากมาย” จุนพูดถึงท่อนนี้ ก็แทบจะสะอึก เพราะเค้าเพิ่งจะโกหกคำโตออกไปเลยทีเดียว “เพราะแบบนี้ ชั้นจึงกว่ามิกิจังควรกลับไปดีกว่า”
มิกิไม่พูดอะไรต่อหล่อนนั่งนิ่งมองหน้าเค้า ฮ่าๆ เถียงไม่ได้ล่ะสิ ก็เราเล่นพูดออกมาซะขนาดนี้ แต่แล้วใบหน้าของเด็กหญิงก็หมองลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาที่เคยสะท้อนความสดใสก็ฉายแววเศร้าสลด จุนรู้สึกอึ้งกับใบหน้าเช่นนั้นจึงเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน
“เข้าใจชั้นไหมเนี่ย”
ยังไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากอีกฝ่ายทำให้บรรยากาศยิ่งหมองมัว ยิ่งเงียบนานจุนยิ่งรู้สึกผิดเค้าจึงคิดจะกล่าวอะไรสักอย่าง จุนเงยหน้าขึ้นจะกล่าว แต่..
“อื้มมม หล่อจริง ๆ น่ะแหล่ะ ชั้นชอบใบหน้านี้มากกว่าครั้ง ๆ ก่อนอีกนะ แต่ตอนแรกสุดที่เราเจอกันน่ะดีสุด ๆเลย”มิกิเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ ๆ ท่าทางก็ดูเป็นผู้ใหญ่ผิดวัย “ชั้นไปหาคุณป้านะ”ยิ้มที่เด็กหญิงผลิแย้มช่างปราศจากซึ่งความรู้สึกยินดีหรือมีความสุข เป็นยิ้มเศร้า ๆ จุนอึ้งไปในทันใด ทำมากเกินไปเหรอเนี่ย ไม่สักหน่อย ไม่สักหน่อย ชั้นแค่บอกว่า กลับไปเถอะ แค่นี้เอง ทำไมต้องเศร้าขนาดนั้นด้วย
จุนนอนลง หลับตาใช้ความคิด มันคืออะไรกันนะความรู้สึกที่ผิดแปลกออกไป เด็กคนนี้มีอะไรให้เราต้องห่วงหนักหนา ความรู้สึกคุ้นเคยยิ่งกว่าครอบครัว จำเป็นต้องหาคำตอบด้วยงั้นรึ...??
ความคิดเห็น