คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : #7 ยัยหมาจอมตะกละ
7
ยัยหมาจอมตะกละ
วันนี้ดารินทร์ต้องลาหยุดกะทันหันเพราะตื่นสาย กว่าจะตื่นก็กินเวลาไปเกือบครึ่งวันแล้ว จึงได้ใช้โควตาวันหยุดไป และยังเหลืออยู่อีกสองโควตา
แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ทำงานที่นี่มาห้าปี ไม่เคยได้ใช้โควตาวันหยุดเลยสักครั้ง และก็บังเอิญหยุดวันศุกร์ด้วย นั่นก็แปลว่าเธอจะได้หยุดติดกันสามวัน
“ยังเจ็บอยู่ไหม?” คนที่นอนเปลือยอยู่ข้างๆ ถามขึ้น
“ยังจะกล้าถามอีกเนอะ!” หญิงสาวกัดฟันพูดอย่างเหลืออด
“ให้ข้าช่วยรักษาไหม” มิลานพูดพลางยื่นมือให้
“ถ้าจะให้ดื่มเลือดของเธอก็อย่าเลย ไม่อยากคลั่งเหมือนเมื่อคืนนี้อีก ฉันรับสภาพตัวเองไม่ได้”
“เจ็บตรงไหนล่ะ ให้ข้าเลียให้ไหม?”
“จะบ้ารึไง!!!” ใครจะบ้าให้เลียตรงนั้นได้กันล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าส่วนที่เธอเจ็บมันคือตรงไหนถ้าไม่ใช่ส่วนที่มันถูกล่วงเกินจากเมื่อคืนนี้
อีกทั้งหล่อนยังรู้จักใช้เครื่องป้องกันอีก
“เธอไปเอาของพวกนั้นมาจากไหน?” ถุงยางน่ะ…
“จะมีอะไรกันก็ต้องสวมสิ เพราะสำหรับมนุษย์นั้นถือว่าการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญใช่ไหม? ถึงแม้ข้าจะมั่นใจว่าข้านั้นบริสุทธิ์มากแค่ไหนก็ตาม”
“อืม”
“แต่ถึงไม่ใส่เจ้าก็ไม่ท้องหรอกนะ เพราะยิ่งต่างสายพันธุ์กันยิ่งเป็นไปได้ยากที่เจ้าจะท้อง”
“จะทำอะไรน่ะ!?” มองอีกคนที่เข้ามากอดเธอเอาไว้ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แม้จะแอบหวั่นไหวอยู่บ้างก็ตาม
นอนแก้ผ้าอยู่บนเตียงกันแบบนี้ แถมเมื่อคืนนี้ยังได้ลึกซึ้งกันไปแล้ว… ไม่แปลกที่จะรู้สึกแบบนั้น
“ปล่อย!”
“อย่าดิ้นสิ ข้าแค่จะกอดเจ้า”
“////” พูดบ้าอะไรของหล่อนน่ะ แม้จะไม่ชอบแต่ก็เขินพอตัว จนตอนนี้เริ่มสับสนไปหมดแล้ว แม้เมื่อคืนนี้จะดูเหมือนขาดสติไปบ้าง แต่เธอก็จำได้ลางๆ
“ดารินทร์”
“มะ…มีอะไร?” เธอเอ่ยถามเมื่อมิลานกำลังพรมจูบไปมาที่ซอกคอของตน
“ข้าขอกัดเจ้า…” มิลานกระซิบข้างหูเสียงแหบพร่าเหมือนยังค้างคาจากเมื่อคืนนี้อยู่มาก “ได้ไหม?”
“…”
“นะคะดารินทร์”
“อะ…อืม” อะไรก็ได้ขอแค่ไม่ต้องทำเรื่องอย่างว่าแบบเมื่อคืนนี้ ว่าแต่เธอจะเขินกับคำพูดของหล่อนทำไมกันนะ ไอ้คำว่า ‘นะคะ’ มันก็เป็นคำขอปกติไม่ใช่รึไง
หล่อนค่อยๆ พยุงศีรษะของเธอให้เอียงข้างก่อนที่เขาจะขยับเข้าไปซุกที่ซอกคอ ฝังเขี้ยวแหลมคมเข้ามาในลำคอพร้อมกับดูดกินของเหลวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนถอนใบหน้าออกมาจากลำคอและเลียสมานบาดแผลให้เธอ
“อ๊ะ!” ไม่รู้ว่าอีกคนดื่มมันไปมากแค่ไหน รู้ตัวอีกทีเธอก็รู้สึกหน้ามืดไปหมด
โชคดีที่เขาคว้าร่างของเธอเอาไว้ทัน แล้วอุ้มร่างของเธอให้กลับไปนอนที่เตียง
“นี่ฉันเป็นอะไรไป”
“เธอคงเหนื่อยจากเมื่อคืนและก็เสียเลือดจากเมื่อกี้ ไม่เป็นไรนะนอนพักนิดหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”
นี่เธอเสียเลือดเยอะจนหน้ามืดเลยเหรอ?
“ยะ…ยัยหมาจอมตะกละเอ๊ย…”
“หึหึ” สิ้นเสียงหัวเราะของมิลาน ดารินทร์ก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า มีเพียงแค่มิลานเท่านั้นที่กำลังนั่งมองใบหน้าสวยของอีกคนอยู่
แท้จริงแล้วมิลานนั้นเป็นแวมไพร์ที่รวยมหาศาลโดยไม่ต้องพึ่งคนในตระกูลเสียด้วยซ้ำ เรื่องหนีออกจากบ้านน่ะเป็นเรื่องจริง เรื่องที่มีคู่หมั้นเองก็เป็นเรื่องจริง เรื่องที่ถูกตามล่าก็ด้วย ทุกเรื่องที่เธอเคยบอกอีกคนไปมันคือเรื่องจริงทั้งหมด
เธอแค่ต้องการมีชีวิตที่อิสระกับคนรักที่เธอเป็นคนเลือกเองก็เท่านั้น และตอนนี้เธอก็เลือกแล้ว ว่าจะสร้างชีวิตใหม่กับมนุษย์คนนี้ แม้ทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนามก็ตามหรือแม้จะต้องตาย…
“ข้ารักเจ้า…”
“…”
…
ดารินทร์เธอตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าก็เกือบมืด รู้สึกเสียดายที่วันหยุดกำลังจะหมดไปจึงทำหน้ามุ่ยแล้วกอดหมอนข้างไม่ยอมลุกไปไหน
แต่พอนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงคนเดียวจึงพยายามมองหาร่างของอีกคนแต่กลับไม่พบ จึงเดินออกไปตามหาด้านนอก ก็พบกับมิลานกำลังนั่งหลังตรงดูทีวีอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“มิลาน”
“ตื่นแล้วรึ?” มิลานหันมายิ้มให้กัน
“มานั่งทำอะไรตรงนี้?”
“เจ้าบอกว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาตห้ามข้าเข้าไปในห้อง จำไม่ได้รึ?”
เธอลืมเรื่องนั้นไปเลย ที่ว่าห้องนอนของเธอคือเขตหวงห้ามสำหรับอีกคน
“ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเธอก็นอนค้างไปแล้วอ่ะนะ?”
“หือ?” มิลานที่ดูสงบเสงี่ยมมากกว่าที่ผ่านมาหันมาเลิ่กคิ้วให้กัน ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับรายการวาไรตี้มากกว่าสนใจเธอ
ดารินทร์เธอรู้สึกไม่พอใจที่อีกคนเมินเธอ ทั้งๆ ที่หากเป็นเมื่อไม่นานมานี้เธอจะขอบคุณมากๆ แต่ตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไป
ร่างบางเดินไปหยิบรีโมททีวีแล้วกดปิดทันที ทำให้มิลานที่กำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นหันมาสนใจเธออีกครั้ง โดยที่เขาไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจอะไรกลับกันหล่อนกำลังยิ้มให้
“มีอะไรรึ?”
“หัดสนใจอย่างอื่นมากกว่าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ในระหว่างที่รอเธอตื่นฉันก็แค่หาอะไรทำฆ่าเวลาก็เท่านั้น” มิลานเปลี่ยนมาใช้คำสรรพนามในยุคปัจจุบันแทน นั่นก็ทำให้ดารินทร์รู้สึกคล่องหูมากขึ้น “พอดูแล้วก็เพลิน ขอโทษนะ”
เธอมองมิลานหัวเราะแก้เขิน ซึ่งเป็นท่าทางที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน คิดว่าอีกคนน่าจะลอกเลียนแบบมาจากทีวีหรือไม่ก็เป็นตัวของหล่อนเองตั้งแต่แรก
“หะ…หิวไหม?”
“หือ?” มิลานมีสีหน้าแปลกใจที่จู่ๆ ก็ได้ยินคำถามนี้จากปากของเธอ “ฉันไม่ใช่แวมไพร์ที่กินจุกจิก”
“อย่างงั้นเหรอ…” หญิงสาวเดินมานั่งที่โซฟาข้างมิลาน ก่อนจะกดเปิดทีวีอีกครั้งเพื่อให้อีกคนได้ดูมันต่อจนจบ จะได้ไม่รู้สึกค้างคาอะไร “งั้นก็ดูต่อเถอะ”
“ตอนนี้เธออยู่ข้างฉัน คงไม่จำเป็นต้องดูแล้วล่ะ” มิลานหันมายิ้มให้กันอีกครั้ง
“เธอ…ชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ มิลาน?”
“ใช่”
“ทำไม?”
“ไม่รู้สิว่าทำไม รู้แค่ว่าอยากอยู่ใกล้อยากดูแล เธอเองก็เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ทำให้ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น”
“ต่อให้จะชอบแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ควรเอากางเกงในฉันไปดมนะยัยบ้า!”
“โทษที วันหลังจะระวัง”
“เธอต้องบอกว่าวันหลังจะไม่ทำอีกต่างหากล่ะ!”
“อื้อออๆ”
“จะว่าไปเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า?”
“เคยสิ”
“งั้นเหรอ” ว่ากันว่าหากคนสองคนได้ลึกซึ้งกันแล้วมันจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนไป นั่นก็คงจะเป็นความรู้สึกบางอย่างของดารินทร์ที่กำลังมีให้มิลานในตอนนี้
ไม่รู้เหมือนกัน… รู้แค่ว่าเธอเองก็อยากอยู่ใกล้หล่อน เริ่มอยากรู้จักหล่อนมากขึ้น
‘นี่เธอกำลังชอบคนโรคจิตแบบนี้จริงๆ เหรอ?’
“มันอาจจะเร็วเกินไปจนดูน่าเกลียด แต่ดูเหมือนว่าฉันเองก็ชอบเธอนะ”
“จริงเหรอ?”
“อืม เธอเองก็เป็นแวมไพร์ที่ดี เชื่อฟัง นั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเริ่มชอบเธอก็ได้”
“แค่นั้นก็มากพอแล้ว”
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าฉันรู้สึกดีมาก แม้จะมีความกลัวและความรู้สึกผิดอยู่บ้าง”
“เธอรู้สึกผิดอะไร?”
“ก็ทุกอย่างที่มันกำลังจะเกิดขึ้น แค่รู้สึกผิดที่ตัวเองเพิ่งจะเสียตัวไป…”
“แล้วตอนนี้ล่ะเป็นไงบ้าง”
“เซ็กซ์มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากมันถูกที่และถูกเวลา แต่ที่น่ากลัวน่ะคือฉันกำลังมีเซ็กซ์กับตัวอะไรไม่รู้”
“ก็มีเซ็กซ์ฉันไง”
“ตัวเธอมันเย็นเฉียบ ทำฉันกลัวรู้สึกแปลกๆ”
มิลานดึงร่างของดารินทร์เข้าไปกอดอย่างถือวิสาสะก่อนจะเริ่มมีอาการหายใจหอบและร้อนรุ่มขึ้นมาดื้อๆ ราวกับว่ายังคงมีอารมณ์ค้างจากเมื่อคืน
เธอไม่รอช้าผลักร่างของหญิงสาวลงบนโซฟา กดข้อมือทั้งสองเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน
“งั้นลองมีเซ็กซ์กับฉันในร่างอย่างอื่นดูไหม?”
“ยะ…ยังไงน่ะ”
“ไม่รู้เหรอ ว่าฉันสามารถแปลงกายเป็นสัตว์ได้ทุกชนิดน่ะ หากเธออยากสัมผัสผิวอุ่นๆ ฉันสามารถเป็น-”
“นี่เธอจะให้ฉันมีเซ็กซ์กับสัตว์เหรอ!?!”
“ยังไงสัตว์ตัวนั้นก็คือฉันนี่นา”
“แต่ยังไงสัตว์มันก็คือสัตว์!!” น่าละอาย…
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นเรื่องที่น่าละอาย แต่ทำไมเธอถึงเขินจนทำตัวไม่ถูกกันด้วยนะ…
“ไม่มีทาง…”
ความคิดเห็น