คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : #5 เธอใส่ชุดนักศึกษา
5
เธอใส่ชุดนักศึกษา
“มิลาน?”
“เป็นไงฉันเนียนไหม?”
“ไม่!”
“ซะงั้น…”
“มาทำอะไรข้างนอก ไม่กลัวแสงแดดเผาตายรึไง?”
“ไม่หรอก ถ้าทาครีมกันแดดมากพอ อีกอย่างตอนนี้แดดเริ่มไม่มีแล้วด้วยเพราะงั้นสบายมาก”
“ไหนบอกว่าถ้าออกจากห้องเธอจะถูกตามล่าไง”
“ไม่ถูกหรอก เพราะฉันมีสิ่งนี้ติดตัวอยู่” มิลานพูดพลางล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาโชว์ นั่นก็คือ กกน. ของเธอที่ผ่านการซักแล้วนั่นเอง “ขอแค่มีกลิ่นของเธออยู่ใกล้ตัว มันก็กลบกลิ่นของฉันได้แล้วล่ะ”
“บ้า! ระ…โรคจิต!” เธอรับไม่ได้กับภาพตรงหน้า ใบหน้าแดงแจ๋เมื่อเห็นชุดชั้นในของตนอยู่ในกำมือซีดของอีกคน “เอาคืนมานะ”
“ไม่ได้นะ นี่มันเครื่องรางของฉัน”
“เครื่องรางบ้าอะไร! อย่างอื่นมีทำไมไม่เอามา ทำไมต้องเป็นไอ้นี่”
“ก็ไอ้นี่มันมีกลิ่นของเธอมากกว่าชิ้นอื่นน่ะสิ”
“อร๊ายยย!!!!” หญิงกรีดร้องอย่างทนไม่ไหว แข่งกับเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมากะทันหันจนตั้งตัวไม่ทัน
ซ่าาาาาาาา!!
ผู้คนในละแวกนั้นต่างพากันวิ่งเข้ามาหลบฝนในป้ายรถเมย์อันเล็ก ที่แม้จะหลบฝนได้ไม่ดี แต่ก็พอแก้ขัดได้
“อ๊ะ!” พรึบ…
ยิ่งมีคนมากขึ้นเท่าไหร่ เราทั้งสองต่างเริ่มเบียดกันมากขึ้นเท่านั้น จนร่างสูงของมิลานต้องเก็บของมีค่าชิ้นนั้นลงกระเป๋าสะพายข้างแล้วเอาแขนโอบไหล่ของเธอเข้าไปแนบชิดกับหล่อนแทน
“ระวังหน่อสิ เดี๋ยวก็ไม่ตกฟุตบาทหรอก” จังหวะที่เธอดิ้นก็มีเสียงกระซิบของหล่อนดังขึ้นข้างหู ชวนให้ดารินทร์รู้สึกสยิวแปลกๆ แต่ก็ปนไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น
มือหนาของมิลานกำชับไหล่ของเธอเอาไว้แน่นไม่สนสายตาว่าจะมีใครมองมา ขอเพียงแค่ทั้งสองได้แนบชิดกันในเวลาที่แสนชุลมุนนี้ก็พอ
“ตัวเธอ…นุ่มดีจังเลยนะ”
“ฉวยโอกาส!”
“…” หล่อนเงียบ
“แบบนี้คือไม่ปฏิเสธสินะ”
“ทำไมต้องปฏิเสธ ก็ในเมื่อมันคือเรื่องจริง”
“ยัยนี่…”
“ดูเธอในตอนนี้สิ สวยอย่าบอกใครเลย”
จะว่าไปแล้วพออยู่ข้างนอกอีกคนก็ใช้อีกสรรพนามหนึ่ง เสมือนกับว่าเป็นมนุษย์จริงๆ เรื่องความกลมกลืนต้องยอมรับจริงๆ ว่าหล่อนทำได้เนียน เหมือนเป็นเพียงแค่นักศึกษาคนหนึ่ง
“ชักจะไม่รู้แล้วว่านั่นพูดจริงหรือแค่หยอกเล่น”
“ฉันเหมือนคนชอบเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็เธอมันชอบพูดไปเรื่อย ใครจะยอมเชื่อ”
“รถเมย์มาแล้ว” หล่อนรู้แม้กระทั่งรถเมย์สายไหนที่เธอจะใช้นั่งกลับที่พักเป็นประจำทุกวัน
เพราะความใกล้ชิด และทำดีจนรู้สึกไว้ใจ ทันทีที่นั่งลงร่างเล็กเผลอเอียงตัวลงซบไหล่ของอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยท่าทีเหนื่อยล้า แล้วไหนจะฝนที่ตกชวนให้หลับใหล
“โทษที…โอ๊ย!” ร่างของดารินทร์ดีดตัวออกห่างจากไหล่อีกคนจนศีรษะชนเข้ากับกระจกเต็มแรง ทำให้มิลานต้องรีบฉุดร่างนั้นเข้ามาหาตัว
“เดียร์ เธอเป็นไรไหม?”
“เจ็บ…”
“คงจะอยากนอนสินะ พิงไหล่ของฉันสิ” มิลานเอามือดันศีรษะของอีกคนที่มีท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ให้เอนเข้ามาพิงอย่างช้าๆ “แล้วก็หลับซะนะ ถึงป้ายที่ต้องลงแล้วเดี๋ยวฉันปลุกอีกที”
“จะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่เลยป้าย”
“เธอไว้ใจฉันได้… ดารินทร์”
“อืม ขอบใจ”
สิ้นเสียงตอบกลับอีกคนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่ใช้มือเย็นๆ พยุงศีรษะของเธอให้อยู่บนไหล่ตลอดทาง
“เมื่อคืนนี้ ฉันฝันเห็นงูด้วยล่ะ” ขณะที่สมองมันกำลังผ่อนคลาย เธอจึงนึกถึงเรื่องความฝันเมื่อคืนนี้ได้จึงอยากจะแบ่งปันให้เจ้าของไหล่ให้ได้รับฟัง
“งั้นเหรอ?…” มิลานถามเสียงอ่อน “แล้วงูตัวนั้นเป็นยังไง? มันไล่ฉกเธอไหม?”
“ไม่…ไม่ได้ฉก แต่งูตัวนั้นมัน…” ดารินทร์เว้นช่วง ลังเลว่าจะพูดออกไปดีไหม เพราะเป็นเรื่องที่น่าอายสุดๆ
“มันอะไรงั้นเหรอ?”
“มันขึ้นมาเลื้อยบนตัวฉัน…แล้วก็ ช่างเถอะ”
“…”
“ยังไงมันก็แค่ความฝันน่ะ คิดเสียว่าเป็นฝันดีแล้วกัน ฝันเห็นงูแสดงว่าเราจะเจอเนื้อคู่ แล้วยิ่งงูตัวนั้นใหญ่มากเท่าไหร่ยิ่งเนื้อคู๊เนื้อคู่” ดารินทร์พูดพร้อมทิ้งน้ำหนักของศีรษะลงมาพิงมิลานมากขึ้น
“อาจจะจริงของเธอ” มิลานหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มออกมาอย่างชอบใจที่ได้ยินแบบนั้น
‘ฉันจะทำให้มันเป็นจริงเอง ดารินทร์ เนื้อคู่ที่เธอพูดถึงก็คือฉันคนนี้เอง’
“หาววว…งีบแป๊บนะ”
“ตามสบาย”
…
หญิงสาวลืมตาขึ้นอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ส่วนอีกคนนั้นหายไปเสียแล้ว เธอจึงลุกขึ้นแล้วเดินตามหาอีกคนไปทั่วห้องพักและโซนต่างๆ
นี่อย่าบอกนะว่าหล่อนอุ้มเธอลงมาจากรถประจำทางน่ะ… ถ้าหากทำแบบนั้นจริงๆ หล่อนคงบ้าไปแล้วแน่ๆ
“มะ…มิลาน” เมื่อไม่พบร่างของอีกคนดารินทร์ก็เริ่มกระวนกระวาย ร้อนใจรู้สึกเป็นห่วงอีกคนขึ้นมา กลัวว่าจะออกไปไหนแล้วถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ถึงแม้หล่อนจะบอกว่ามีเครื่องรางติดตัวอยู่แล้วก็ตาม
และแม้ว่าเธอจะรู้สึกรำคาญหล่อนมากก็ตาม…
ร่างบางหยุดเดินแล้วคุกเข่าลงมาที่กรงเหล็กขนาดเล็ก พบกับเจ้ากระต่ายตัวน้อยขนสีดำล้วนกำลังนอนขดตัวอยู่ด้านใน มันตัวสั่นเล็กน้อยอาจเพราะมันกำลังหนาว เธอจึงอุ้มมันออกมาจากกรงแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง
ดารินทร์เธอวางเจ้ากระต่ายตัวเล็กลงบนเตียง แล้วค่อยๆ เอนตัวลงไปนอนข้างมัน กอดมันเอาไว้พอหลวมๆ แล้วห่มผ้าเพื่อให้ความอบอุ่น
“บางครั้งเธอเองก็น่าเอ็นดูนะมิลาน”
…
เพราะรู้สึกอึดอัดมากกว่าปกติเธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาไม่พบเจ้ากระต่ายตัวน้อย ตอนนี้ได้กลายเป็นแวมไพร์สาวใบหน้าขาวซีดกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ กันแทน
ดารินทร์เธอเกือบจะหลุดปากต่อว่าอีกคนแล้ว แต่เมื่อนึกถึงความดีของอีกคนจึงห้ามตัวเองไว้ทัน มองแขนเรียวของเขาที่กำลังกอดก่ายอยู่ที่เอวของเธอแน่น นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้รู้สึกอึดอัด
ไม่เป็นไร ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลยก็แค่กอดเอง ถือซะว่าตอบแทนที่อีกคนให้เธอซบ
เมื่อนึกได้แบบนั้นจู่ๆ แขนของคนที่นอนหลับอยู่ก็รัดแน่นมากขึ้น พร้อมกับดวงตาที่ค่อยๆ ลืมขึ้นมาจ้องกัน
ทั้งสองนอนจ้องตากันนานนับนาที โดยไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาเพื่อเรียกสติ จนกระทั่งใบหน้าขาวซีดนั้นค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น จนจมูกของเราชนกัน
ในจังหวะที่ใบหน้าขาวซีดนั้นกำลังเอียงองศาเข้ามาหวังจูบ ดารินทร์เธอเบือนใบหน้าหลบด้วยการพลิกตะแคงหันหลังให้อีกคนทันที
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้”
“…”
แม้จะไร้เสียงพูด แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าอีกคนคงจะรู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เธอทำแบบนี้ แต่นั่นก็ดีแล้ว เพราะเธอไม่อยากให้เราสองคนเกินเลยไปมากกว่านี้
หมับ! มือหนาคว้าสะโพกดารินทร์แล้วดึงมันให้ขยับเข้าไปสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมบางอย่างที่อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางลำตัวของคนด้านหลัง
นั่นอะไร!? ดารินทร์ถามกับตัวเองในใจ
“มะ…มิลาน ปล่อย!”
“จะไปไหน? ฝนยังตกอยู่เลยนะดารินทร์…นอนต่ออีกนิดเถอะนะ”
ใช่…สำหรับมนุษย์หลายคนแล้ว การได้นอนหมกอยู่ในผ้าห่ม เปิดแอร์เย็นๆ ในวันที่ฝนตกแบบนี้ มีสิ่งเดียวที่น่าทำที่สุดก็คือการนอนนี่แหละนะ
แต่ที่น่าแปลกก็คือ มันกลับไม่ใช่สำหรับอีกคน ที่กำลังนอนกอดเธออยู่ด้านหลังแน่ๆ
“ถ้าอยากให้นอนต่อเธอก็อยู่เฉยๆ สิ จะดิ้นทำไม?”
“ขะ…ข้า-”
“ถ้ายังไม่หยุดคุมคามฉันล่ะก็ ออกไปเลยนะ”
“ไม่นะ! ข้า ข้าปรารถนาเจ้าเหลือเกินดารินทร์”
“////”
“ได้โปรด…อึก”
ความคิดเห็น