คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 หนึ่งเดือนให้หลัง
Chapter 1
หนึ่งเดือนให้หลัง
ปีพุทธศักราช 2567 หรือคริสต์ศักราช 2024
บาร์ลับแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร
ภายนอกที่มีผู้คนมากมายสัญจรไปมา พร้อมความเงียบสงบในยามค่ำคืนอย่างเช่นทุก ๆ คืน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหลังจากประตูบานเก่า และสนิมขึ้นอยู่ตรงซอยอันคับแคบนี้แท้จริงแล้วมีบาร์หรูแห่งหนึ่งซ่อนอยู่ และสมาชิกของบาร์แห่งนี้ล้วนแต่เป็นหญิงสาววัยทำงานเท่านั้น
ซึ่งบาร์แห่งนี้เป็นบาร์ที่เอาไว้สำหรับผู้หญิง เรียกได้ว่าเป็นเซฟโซนของเหล่าสาว ๆ โดยมีการคุมเข้มจากบอดี้การ์ดสาวร่างแกร่ง
“หลังจากนั้นฉันก็วางเงินเอาไว้ที่ปลายเตียง แล้วก็เดินสวย ๆ ออกจากห้องของยัยนั่นไปเลย”
“คิกคิก แกนี่มันเลิศจริง ๆ ยัยฮันนี่”
“แน่สิ ระดับฮันนี่ซะอย่าง ไม่มีทางโดนทิ้งอยู่แล้ว แกเชื่อมั้ยว่ายัยนั่นอึ้งไปเลยหลังจากที่ถูกฉันทิ้ง”
“คงกะจะฟันแล้วทิ้งเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ แต่ดันโชคร้ายถูกแกฟันแล้วทิ้งก่อน”
“คงตกใจ ที่ไม่เคยถูกผู้หญิงฟันแล้วทิ้งบ้างน่ะ”
“เลิศเลย นี่แหละ ๆ ฮันนี่~~~”
“เนอะ~~~”
“เห้ออ” เสียงถอนหายใจของหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันดังขึ้นทำให้เพื่อนสาวอีกสามคนถึงกลับหันมามองอย่างพร้อมเพียงกัน
“เป็นอะไรไปล่ะคนสวยอันดับหนึ่ง”
ฮันนี่ เพื่อนสาวที่ถูกโหวตให้สวยเป็นอันดับสองถามขึ้น
“ฉันเบื่อที่ต้องมาฟังพวกแกอวดกันไปมาแล้วอ่ะ”
“อะไรกัน ปกติแกเองก็มีเรื่องมาอวดไม่แพ้กันนี่”
ซูมี่ เพื่อนสาวที่ถูกโหวตให้สวยเป็นอันดับที่สามพูดขึ้น
“นั่นสิ วันนี้ไม่สมกับที่เป็นแกเลยนะ” ซาน หญิงสาวที่ไม่ได้มีอันดับคนเดียวในกลุ่ม เพราะมีคู่หมั้นแล้ว และกำลังจะแต่งงานในหนึ่งปีข้างหน้านี้พูดขึ้น
น่าแปลกที่หญิงสาวที่สวยอันดับหนึ่ง สอง และสาม ทั้งสามคนต่างยังโสดสนิท แต่คนที่ไม่มีลำดับอย่างซานดันมีคู่ครองก่อนใครเขา ซึ่งนั่นก็มองว่าน่าอิจฉาสำหรับไลค์
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“เรื่องอะไรกัน มันถึงได้ทำให้อันดับหนึ่งของเรานั่งหงอยแบบนี้”
“ฉันไม่ได้บอกพวกแกสินะว่าตอนนี้พวกพี่น้องของฉันแต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้วน่ะ”
“แล้วไง แกก็ไม่เคยแคร์อยู่แล้วนี่?”
“ตอนแรกก็ไม่แคร์หรอก แต่ตอนนี้ทุกคนในบ้านหันมาเป็นห่วงฉันกันหมด ที่ฉันยังโสดอยู่”
“แกก็ไม่ได้โสดนิ ทั้งน้องดิน พี่ไม้ และพี่พิมพ์เหล่าบรรดากิ๊กน้อยของแกล่ะ หายไปไหนซะละ” ฮันนี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่มีคนพวกนั้นอีกแล้ว”
“อะไรกัน!? เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!?”
“เห้อ ฉันรู้สึกหมดไฟที่จะสับรางแล้วอ่ะ”
ทุกคนบนโต๊ะต่างเงียบไม่พูดอะไร และที่แปลกก็คือ ฮันนี่ที่ควรจะดีใจที่กำลังจะได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งหลังจากที่ตัวเองอยู่ในอันดับสองมาตลอด แต่ไม่เลย...
อันดับที่เราจัดกันไม่ใช่เพียงแค่ความสวยเท่านั้น แต่รวมไปถึงจำนวนคนคุยด้วย และแน่นอนว่าคนที่สวยและมีคนคุยเยอะสุดเป็นไลค์นั่นเอง ปัจจุบันอาจจะเหลืออยู่แค่สามคน แต่ก่อนหน้านั้นมีเป็นสิบคน
“เห้ยแก~ อย่าเพิ่งเสียใจสิ เดี๋ยวก็หาคนเพิ่มได้”
“ตั้งแต่เลิกคุยกับพี่โซไปคนอื่น ๆ ก็เริ่มหายไปด้วย”
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะทุกคน ไม่ใช่ว่าฉันเสียใจที่หาคนคุยเพิ่มไม่ได้ และก็ไม่ใช่เพราะพี่โซด้วยความจริงแล้ว...” ไลค์เงียบไปสักพักท่ามกลางความลุ้นของเพื่อน ๆ “ฉันแค่อยากจะจริงจังกับใครสักคน-”
“เป็นไปไม่ได้อ่ะ” ทั้งสามคนร่วมใจกันห้ามหญิงสาวผู้หมดไฟเอาไว้อย่างไม่ยอมรับ เมื่อได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากอันดับหนึ่งอย่างไลค์ สาวฮอตในกลุ่มนักธุรกิจสาว
“แกเคยบอกใช่มั้ยว่ายังไงสักวันพวกเราก็ต้องหยุด”
“อาฮะ”
“ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่ฉันต้องหยุดล้วล่ะ”
“หยุดที่ใคร? น้องดินหรือพี่ไม้?”
“ไม่ใช่”
“แล้วใคร?”
“หรือว่าจะเป็นพี่พิมพ์...” ซูมี่เดาอย่างรู้ใจ ทำให้ฮันนี่ถึงกับรีบยกมือขึ้นมากุมริมฝีปาก
“สุดท้ายแกก็ชอบพี่พิมพ์งั้นเหรอ?”
“มันก็เรียกว่าชอบยังไม่ได้หรอก แค่อยู่กับเค้าแล้วฉันรู้สึกโอเคสุดน่ะ”
“โอเคสุด?” ฮันนี่ถามย้ำ
“อืม”
“กับผีน่ะสิ ฉันเห็นแกเลี่ยงจะเจอพี่เขาตลอด”
“แกอาจจะสบายใจกับพี่พิมพ์มากกว่าคนอื่นเพราะพี่เขาเป็นผู้หญิงก็ได้นะ”
“ก็จริงนั่นแหละ”
“แล้วยังไงต่อ แกคิดจะจริงจังกับพี่พิมพ์ใช่มั้ย?”
“เท่าที่ได้ยินมาพี่พิมพ์แกก็ไม่ธรรมดาเลยนะ เห็นว่าหล่อนเป็นเสือผู้หญิงคนนึงเลยอ่ะ แกมั่นใจเหรอ?”
“คิดในแง่ดีพี่เขาอาจจะเลิกเจ้าชู้เพราะยัยไลค์ก็ได้นะ” ซานพูด
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่แน่ใจ” ไลค์มีสีหน้าเคร่งเครียด
“แล้วแกชอบพี่เขาตรงไหน?”
“ก็ชอบที่เป็นผู้หญิง”
“แกเลือกเขาเพราะเป็นผู้หญิงแน่นะ!!?”
“ใช่”
“แล้วเคยทดลองงานรึยัง แซ่บม้ะ?”
“ไม่” ไลค์เธอส่ายหน้า “แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้ง่าย”
“แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ?”
“ฉันยังไม่เคยนอนกับใครเลย ฉันสาบานได้”
“ช็อกครั้งที่สามของวัน...” ซานวางแก้วลงบนโต๊ะเมื่อได้รู้ความจริงว่าเพื่อนสาวที่จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งควงชายหญิงไม่ซ้ำหน้าอย่างไลค์ไม่เคยขึ้นเตียงเคียงกายกับใคร
ล้อกันเล่นรึเปล่า…
“นี่ฉันเชื่อแกได้มั้ยเนี่ย?” ซูมี่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“แหย่เข้าไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าซิงหรือไม่ซิง”
“อี๋ยัยบ้า! ถึงแกจะสวยและเซ็กซี่มากก็เถอะ แต่นึกภาพแล้วมันก็สะอิดสะเอียนอ่ะ” ทั้งฮันนี่และซูมี่สาวแซ่บรีบห้ามขึ้น
“หึ”
“จะว่าไปพี่พิมพ์คนแรกเลยมั้ยนะ? ที่แกคิดแบบนี้” ซานที่เป็นคนเรียบร้อยที่สุดถามขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย
“ก็ คงงั้นมั้ง” ทำไมถึงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกกันนะ
“ทำไมมีมั้ง?”
“…”
“ก็ดีแล้วนี่ พี่พิมพ์นี่ก็เก่งนะ ที่ทำคนสวย ๆ แบบแกรู้สึกหวั่นไหวได้อ่ะ”
“หู้ววว เจ้าแม่น้ำแข็งละลายแล้ว~~~”
“แต่จะว่าไปฉันก็ยังแอบเสียดายพี่โซอยู่นะ”
“หนึ่งปีแล้วป้ะ ที่แกทิ้งพี่เขาไปอ่ะ”
“จะพูดชื่อคนคนนั้นอีกทำไม”
“คนที่แกควรจะเริ่มต้นด้วยควรจะเป็นพี่โซมากกว่าพี่พิมพ์นะแต่ก็อย่างว่าแหละมาผิดเวลา”
“จะหยุดพูดได้ยัง” ไลค์ถามเสียงลอดไรฟันอย่างไม่สบอารมณ์
“…”
“แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้มันหันมารักพี่พิมพ์ละ-”
ปังงง~!!!!
“นั่นมันไม่ใช่ความรัก” ไลค์ตะคอกขึ้น พร้อมกับตบโต๊ะเสียงดังอย่างหงุดหงิด ทำเอาคนอารมณ์ดีสุดอย่างฮันนี่ชะงัก
“แกหมายถึงอะไร? นั่นเป็นเรื่องดีนะที่คนใจแข็งอย่างแกเริ่มมีความรักกับเขาสักที รีบ ๆ ไปบอกพี่เขาซะสิ”
“ไปมาแล้ว และนั่นมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าทั้งหมดมันคือความใคร่ ไม่ใช่ความรักที่แท้จริง”
“…” ไลค์นั่งลงอีกครั้ง กอดอกตัวเองแน่น เหลือบไปเห็นแก้วเครื่องดื่มของตัวเองที่มันเหลืออยู่จำนวนมาก จึงหยิบมาดื่มทีเดียวจนหมดแก้ว
“อะไรของแก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย” ฮันนี่กับซูมี่ต่างมองหน้ากันไปมา
“ทำไมพูดแบบนั้น” ซานยื่นมากุมหลังมือเธอเอาไว้ แล้วถามอย่างใจเย็น
“ฟังนะ เมื่อสองวันก่อนฉันไปหาพี่พิมพ์มา”
“...”
“แต่แล้วใบหน้าที่เคยยิ้มให้ฉันทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ดอกไม้ที่เคยซื้อมาให้ทุก ๆ เช้า ไหนจะคำหวาน ๆ ที่เคยพูดกับฉันนั่นอีก มันจะเป็นแค่การแสดงทั้งหมด”
“เล่ามาให้หมด” ซานถามขึ้น
“ก็กำลังจะเล่า แต่ยัยสองตัวนี่ก็มาขัดก่อนไง”
“เล่ามา ไม่ขัดละ” ฮันนี่เปลี่ยนท่าทีจริงจังมากขึ้น
“เป็นตามที่พูดเลย ว่าพี่พิมพ์ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”
“แต่แกก็ไม่ได้มีพี่เขาคนเดียวเหมือนกัน”
“แกฟังนะ ฉันเลิกกับทุกคนแล้วก่อนจะตัดสินใจไปหาพี่เขา”
“แล้วยังไง? สุดท้ายแกก็เคยมีคนอื่นอยู่ดี”
“ถึงจะควงหลายคน แต่ฉันก็ไม่ได้จูบหรือนอนกับใครเลยป้ะ!? แล้วตอนเข้ามาจีบฉันก็เคยบอกใครนะว่าฉันคุยเยอะ ทุกคนก็ยินยอม”
“หาาาา?”
“โคตรเสียความรู้สึกเลยว่ะ ไม่เอาแล้วนะ! ตอนนี้ฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่โซแล้ว!”
“ใจเย็นก่อนแก”
“แกอยากให้ฉันเล่าจริง ๆ เหรอว่าวันนั้นฉันไปเจออะไรมา”
“อืม ฉันว่ากรรมมันกำลังตามสนองฉันละ”
“คิดมากน่า”
เธอใช้เวลาเล่าสิ่งที่พบเจอมาไม่กี่วันก่อนให้เพื่อน ๆ ฟังให้เข้าใจและมีเนื้อหากระชับมากที่สุด สุดท้ายก็จบด้วยการชนแก้วดื่มกันต่อตามปกติ ตามฉบับแก๊งนางฟ้า
1 เดือนต่อมา
“อื้ม ฝีมือพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะเรา”
เสียงเอ่ยชมจากปากของดีไซเนอร์สาวอย่างไลค์ เจ้าแม่แบรนด์เสื้อผ้าหรูที่กำลังเป็นที่นิยมในไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกดังขึ้น เมื่อเห็นเลขาคนสนิทมีฝีมือการออกแบบดีขึ้น
ที่นี่... เราอยู่กันแบบครัวครอบ ที่มีแต่ความเข้าใจกันน่ะ ไม่ใช่ครอบครัวแบบในละครหลังข่าว
เธอเป็นผู้บริหารวัย 32 ปี ที่มีทั้งชื่อเสียง เงินทอง และชาติตระกูลดีจนใคร ๆ ก็บอกว่าน่าอิจฉา แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มสวย ๆ เหล่านั้น กำลังเก็บซ่อนความรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด
ใช่แล้ว... นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วที่เธอไม่เห็นหน้าผู้หญิงที่ชื่อพิมพ์นั่น สงสัยคงจะนอนกกอยู่กับเด็กผู้หญิงเสียงหวานคนนั้นอยู่ล่ะมั้ง
ต้องขอบคุณที่เธอไม่ได้เทใจไปให้อีกคนมากเกินไป
แต่ทักครั้งที่เธอนึกถึงผู้หญิงที่ชื่อพิมพ์ มันก็มักจะมีอีกชื่อหนึ่งฝุดขึ้นมาทับชื่อนั้นเอาไว้
ตั้งแต่ที่บอกว่าจะไม่ควงใครอีก และจะกลับมาตั้งใจทำงานเก็บเงินเอาไว้เลี้ยงตัวเองในตอนแก่เฒ่า
: แก๊งนางฟ้า
ซูมี่ : หายหน้าหายตาไปเลยนะ ยังอยู่ดีใช่ม้ะ?
ฮันนี่ : ดีค๊าาา
ซูมี่ : ไม่ได้หมายถึงมึงค่ะ กูหมายถึงยัยไลค์
ฮันนี่ : ชิ
ไลค์ : ยังอยู่กินแซ่บเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือน้ำหนักขึ้นมาสองกิโล
ซาน : ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย เป็นไงบ้างช่วงนี้ เห็นเงียบไปเลย
ไลค์ : ไว้ว่าง ๆ ค่อยนัด ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อน
ฮันนี่/ซูมี่/ซาน : โอเค
เธอจะไม่คิดจริงจังกับใครอีกแล้ว และวันนี้จะเป็นวันแรกที่เธอจะเข้ายิมเพื่อไปออกกำลังกาย ตามฉบับคนที่หันกลับมารักตัวเอง
“วันนี้คุณไลค์ต้องไปร่วมงานเปิดตัวของบริษัทใหม่คุณไม้นะคะ” พูดยังไม่ทันขาดคำ…
“วันนี้เหรอ?”
“ค่ะ”
“จำไม่เห็นได้” ลืมไปได้ยังไงว่าวันนี้เป็นวันเปิดตัวบริษัทใหม่ของพี่ไม้ รุ่นพี่คนสนิทของตัวเอง...งานสำคัญแบบนี้ถ้าหากไม่ไปมันก็จะดูไม่ดีสักเท่าไหร่ด้วยสิ
“ตายแล้ว แล้วฉันจะเตรียมชุดทันมั้ยเนี่ย”
“คุณไลค์ลืมไปรึเปล่าคะว่าคุณไลค์เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ?”
“เอ่อ... นั่นสินะ”
“เลือกสักชุดสิคะ มีแต่สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ผู้หญิงสวย ๆ อย่างคุณไลค์สวมอะไรก็ดูดีไปหมดเลยค่ะ” เลขาสาวคนช่างพูดพร้อมกับดึงเสาเสื้อผ้าออกมาพร้อมกับชี้แนะให้เจ้านายเลือกได้ตามความต้องการ
“แหมจิ๊บ ถึงเราจะชมพี่ว่าสวยสักกี่ครั้งก็อย่าหวังว่าพี่จะใจอ่อนยอมขึ้นเงินเดือนให้นะจ้ะ”
“โถ่คุณไลค์คะ จิ๊บไม่ได้ชมคุณไลค์เพื่อหวังผลอะไรแบบนั้นหรอกนะคะ จิ๊บพูดจริง ๆ ค่ะ”
เธอยิ้มแล้วเดินเข้าไปเลือกชุดสำหรับการใส่ไปออกงานในคืนนี้ โดยมีการลองดูทุกแบบทุกสไตล์แล้ว บางชุดมันก็เรียบร้อยเกินไปจนบดบังออร่าความเซ็กซี่จนหมด บางชุดก็โป๊ไปจนดูไม่สุภาพ
ไม่มีอะไรพอดีเลยสักชุด นี่แหละปัญหาของของแต่งตัว...
“ไม่มีชุดไหนเหมาะกับฉันเลย”
“คุณไลค์คะ ลองชุดนี้ดูมั้ยคะ?” เธอมองไปที่ชุดที่เลขาถืออยู่ ก่อนจะรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ใจของเธอมันกำลังตะโกนออกมาว่า ‘นี่แหละ! ชุดที่ฉันคู่ควร’
ชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม ที่ถูกตกแต่งมีด้วยลายลูกไม้กำลังพอดี ไม่โป๊เกินไปและไม่มิดชิดเกินไป ถึงแม้จะเป็นแขนยาว แต่กระโปรงมีการฉีกแหวกสูงขึ้นมาถึงขาอ่อนเล็กน้อย เมื่อมันมาอยู่บนร่างกายเจ้าแม่แฟชั่นอย่งเธอแล้วทำให้มีออร่าขึ้นไม่เบา
“ฉันชอบชุดนี้”
“งามมากเลยค่ะคุณไลค์”
“จิ๊บเองก็ตาถึงดีนะเนี่ย”
“ขอบคุณค่ะ”
หวังว่างานในคืนนี้จะไม่เด่นจนเกินไปนะ...
เธอสำรวจมองตัวเองในกระจกอย่างชอบใจกับชุด พร้อมกับยิ้มร้าย ๆ ออกมาอย่างลืมตัว
รอก่อนเถอะ เชอรีนที่เคยเป็นอันดับหนึ่งคนนี้จะกลับไปคัมแบคอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขอทวงแค่ความสวยคืน คนคุยขอพักเอาไว้ก่อน…
ความคิดเห็น