คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #1 ค้างคาวที่น่าสงสาร
1
ค้างคาวที่น่าสงสาร
“หลังเลิกงานไปดื่มด้วยกันอีกไหมเดียร์?” คิม หนุ่มหน้าตี๋คนสนิทที่บริษัทเอ่ยชวนกับดารินทร์
“ไม่ล่ะ คืนนี้ฉันมีโอที” หญิงสาววัย 28 ปี เอ่ยขึ้นขณะที่สายตากำลังจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
รู้ทันว่าหากไปกับเพื่อนคนนี้อีก มีหวังได้เมาจนหัวราน้ำแน่ๆ จึงตัดสินใจอ้างว่าทำโอทีซะเลย เพราะเธอเองก็เป็นคนปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่งด้วย
“ไม่เป็นไร เอาไว้เงินเดือนออกแล้วกัน”
“ไม่อ่ะ ว่าจะเก็บเงินเอาไว้เที่ยวช่วงสิ้นปีนี้”
“ไปกับใคร?”
“ก็คนเดียวสิ”
“โถ่ นึกว่าจะไปกับแฟนซะอีก”
“ทำงานด้วยกันมา 5 ปีเคยเห็นฉันมีแฟนไหมล่ะ?”
“ใครจะรู้ เธออาจจะหมกเม็ดก็ได้”
“เหมือนนายอ่ะนะ ที่ชอบหมกเม็ด”
“บ้า ฉันรักชีวิตอิสระจะตาย ไม่ยอมเอาชีวิตตัวเองไปไว้ในกำมือใครหรอกโว้ย”
“จ้ะ… ฉันก็รักอิสระ เพราะงั้นเลิกชวนฉันไปนู่นนี่นั่นสักที รำคาญ” ลืมบอกไปที่บอกว่าปฏิเสธคนไม่เก่งเนี่ย ยกเว้นเพื่อนหนุ่มที่ชื่อคิมเพียงคนเดียว
“อย่าไปกวนเดียร์นักเลย ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเดียร์ไม่ใช่สายดื่มเหมือนนาย” และเพื่อนอีกคนที่เธอค่อนข้างเกรงใจสุดๆ นั่นคือเมย์ เพื่อนสาวที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันตั้งแต่ปีหนึ่งจนทำงาน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเพื่อนกันมาจะสิบปีได้แล้ว
เมย์เป็นคนเรียนเก่ง เพื่อนเยอะ ใจดี และดูเหมือนเมย์นี่แหละจะเป็นคนที่เข้าใจเธอมากที่สุด จนดารินทร์เองก็แอบอ่อนไหวอยู่บ่อยครั้งอย่างหาสาเหตุไม่ได้ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองชอบผู้ชายมาตลอด
“โถ่ เมย์ก็เข้าข้างเดียร์ตลอดอ่ะ” คิมขมวดคิ้วทำเป็นหัวเสีย
“ใช่ ฉันเข้าข้างเดียร์ แล้วจะทำไม?”
“ไม่ทำไมหรอกคร้าบบ ยอมแล้วคร้าบ”
“กลับเถอะ ไปก่อนนะเดียร์” เมย์เก็บของพลางส่งยิ้มให้กันก่อนจะเดินออกไป
“เมย์ รอผมด้วย!!” คิมรีบเก็บของแล้วเดินตามเมย์ไปอย่างเร่งรีบ หลังจากที่ทั้งคู่เดินออกไปรอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าของดารินทร์ก็ค่อยๆ จางหายไป
ไม่แปลกหรอก ที่คิมจะเชื่อฟังเมย์ขนาดนั้น เพราะทั้งคู่กำลังคบหากันอยู่ ปีนี้เข้าปีที่สามแล้ว ถึงคิมจะบอกว่ารักอิสระมากแค่ไหนก็ตาม แต่จริงๆ แล้วคิมใช้เวลาตามจีบเมย์อยู่สองปีเต็มๆ จนสุดท้ายอีกคนก็ใจอ่อนยอมคบด้วย
บางทีเธอก็รู้สึกอิจฉานายคิม ที่ได้เป็นแฟนกับเมย์ คนดีๆ อย่างเมย์ แต่พอนึกได้ว่าเพราะตัวเองเอาแต่กลัวจนไม่ยอมสารภาพรักไปสักที จนถูกแย่งไป จึงทำได้แค่อยู่ในที่ของตัวเองเงียบๆ
ขณะกำลังเดินทางกลับที่พัก เธอต้องเดินผ่านซอกตึกแห่งนึงที่เมื่อก่อนนี้มันเคยมีแสงไฟ แต่ปัจจุบันถูกไล่ที่จนเหลือเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่า
สำหรับดารินทร์แล้วมันก็แค่ทางผ่านล่ะนะ แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิม เมื่อตาหวานเหลือบไปเห็นว่ามีร่างคนไร้บ้านคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ จึงเดินเข้าไปหยิบเงินจำนวนหนึ่งให้
“เอาไว้ซื้อข้าวทานนะคะ”
“…” หญิงสาวคนนั้นไม่แม้แต่จะหันมาสนใจกัน หล่อนกลับนั่นเหม่อ จนดารินทร์ต้องนำเงินยัดใส่มือของเขาเพื่อความหวังดี
“รับไว้เถอะนะคะ”
“ข้าไม่ต้องการเงินของเจ้าหรอกสาวน้อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้ร่างเล็กที่กำลังจะก้าวออกไปชะงัก
เป็นคนสติไม่ดีสินะ… เพราะคนปกติที่ไหนเขาจะพูดแบบนั้นกันล่ะ แต่ก็ดีแล้วล่ะมีเงินติดตัวไว้เผื่อหิวขึ้นมาจะได้มีเงินซื้อของกิน
หมับ!!! “อ๊ะ!…”
“ตัวหอมดีจัง”
“กรี๊ดดด อย่ามาจับนะคะ!” เธอกรีดร้อง สะบัดมือเย็นๆ ออกแล้ววิ่งออกมาให้ห่างอีกคนทันที
…
“บ้าจริง…” ทำบุญคนไม่ขึ้นเลย ถึงคนนั้นจะเป็นคนบ้าก็เถอะ
ร่างบางหยุดลงที่หน้าห้องพัก ก้มดูนาฬิกาข้อมือก็พบว่าเกือบจะล่วงเลยไปอีกวันแล้ว
“เห้ออออ” ดารินทร์ใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว เพราะบุพการีประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
เราเป็นครอบครัวเล็ก มรดกทั้งหมดที่พวกท่านเก็บสะสมมานั้นจึงตกมาเป็นของดารินทร์เพียงคนเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธออยากได้มัน เธอต้องการแค่การครอบครัวมากกว่าเงินทอง
เหงา… แต่ก็ไม่ได้ต้องการมีใคร เพราะรักอิสระ
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าต้องการใครสักคน เพียงแค่คืนเดียวก็ยังดี เพื่อให้เธอได้คลายความเหงาบ้าง
ปึก!! โครม!
ในขณะที่หญิงสาวกำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำ เสียงวัตถุขนาดใหญ่ก็ดังขึ้นจากด้านนอกริมระเบียงห้องพักดังโครม จนต้องรีบสวมชุดคลุมเดินออกไปตามหาต้นตอของเสียง
“ตายแล้ว…” ดารินทร์อุทานเสียงดัง มองค้างคาวที่มีลำตัวขนาดใหญ่กว่าค้างคาวทั่วไปนอนจมกองเลือดอยู่นอกระเบียง
เพราะมีนิสัยรักสัตว์โลกมาเกินไปจนลืมว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่หมาแมวทั่วไป แต่มันคือค้างคาวตัวใหญ่ แถมยังเต็มไปด้วยเลือดและดูเหมือนจะไม่มีท่าทีจะหยุดไหลออกมาจากตัวของมัน
ดารินทร์ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะยืนมองดูสัตว์โลกนอนตายไปเฉยๆ จึงได้รีบเปิดกระจกตรงระเบียงออกไปอุ้มมันเข้ามาด้านใน หาผ้าขาวสะอาดมาเช็ดตามเนื้อตัวของมันอย่างเบามือเหมือนกลัวว่ามันจะเจ็บ
แต่เมื่อเช็ดเลือดตามร่างกายของมันไปเรื่อยๆ ก็พบว่าตามตัวของมันนั้นไม่มีบาดแผลสักรอย นั่นก็ทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“ก็ไม่มีแผลนี่ แล้วเลือดพวกนี้มาจากไหน” แม้ปากจะพูดแต่มือยังคงเช็ดไม่หยุด พลางพลิกร่างกายของมันไปมา ปรากฏว่าไม่พบบาดแผลจริงๆ “แปลกจังแฮะ”
“กรรรร” ค้างคางตัวนั้นร้องขู่เธอเบาๆ
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้จะทำร้ายแก”
“กรรรร!”
กึด!
“อ๊ะ!!” เขี้ยวแหลมกัดเข้าที่นิ้วชี้ข้างซ้ายของเธอเต็มแรงจนเลือดไหลออกมาจำนวนมาก “เจ็บนะ…”
เมื่อมันเห็นว่าหญิงสาวผู้ที่หวังดีกับมันกำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มันจึงได้ก้มไปใช้ลิ้นน้อยๆ ของมันเลียเข้าที่นิ้วของเธอเบาๆ
แผล็บ แผล็บ~
“อือ” หญิงสาวหลับตาสนิทด้วยความกลัว กลัวว่ามันจะกัดหรือทำร้ายอีก แต่แท้จริงแล้วไม่เลย จู่ๆ บาดแผลที่เจ็บปวดตอนนี้ได้หายเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าประหลาดใจ
“กรรรร”
“กัดฉันแล้วก็รักษาแผลให้ฉันเนี่ยนะ?”
“…” มันพยักหน้า
“ทำได้ไงน่ะ?”
“…” มันส่ายหน้า
“อ่า ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่มานั่งคุยกับค้างคาง แถมยังเหมือนจะคุยกันรู้เรื่องอีกด้วย”
ไม่รู้ว่าเธอเหงาเกินไปหรือเป็นเพราะอะไร ถึงได้หันมานั่งคุยกับค้างคาวเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยเจ้าค้างคางตัวนี้มันก็น่ารักดีนะ เหมือนจะพูดรู้เรื่องด้วย
“มาอยู่กับฉันไหม? สัญญาจะเลี้ยงแกอย่างดีเลย”
“กรรรร”
“แปลว่าตกลงสินะ”
“กรรรร!!”
ความคิดเห็น