คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9 ไม่จำเป็นต้องขอ
Chapter 9
ไม่จำเป็นต้องขอ
“มองอะไร? ยัยโรคจิต?”
“ปะ…เปล่าค่ะ”
“ก็เห็นอยู่ว่ามอง”
“ก็น้องไลค์สวยนี่คะพี่ถึงได้มอง…”
“ใครอนุญาตให้มอง?”
“…”
“คนอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์มองอะไรทั้งนั้น หน้าของฉันพี่ก็ไม่มีสิทธิ์มอง จำไว้!”
“ค่ะ…”
บริษัท S.
“สวัสดีค่ะคุณเลขา”
“สวัสดีค่ะคุณไลค์ ไม่ทราบว่าได้นัด-”
“นัดค่ะ”
เธอรู้ว่าอีกคนจะถามอะไรจึงได้ตอบกลับไปทันควัน ถึงแม้มันจะดูเสียมารยาทไปบ้างก็ตาม แค่รู้สึกอยากแกล้งแม่เลขาของอีกคนเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรไม่ดี
“ค่ะ งั้นรอตรงนี้สักครู่นะคะ” ว่าแล้วหล่อนก็เดินไปเคาะประตูห้องและเดินเข้าไปในห้องของผู้บริหาร เพียงไม่นานเท่านั้นหล่อนก็เดินออกมา “เชิญค่ะ”
หล่อนผายมือให้
พอคิดว่าหลังประตูบานนี้มีผู้หญิงที่ถือตำแหน่งประธานอยู่ด้านใน แถมยังเป็นคนที่ให้โอกาสเธอได้กลับมาคุยกันอีกครั้งทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนทิ้งเขาไป นึกแล้วมันก็อดที่จะรู้สึกประหม่าไม่ได้เลยแฮะ…
ร่างบางเดินเข้าไปด้านในห้องทำงานของอีกคนด้วยหัวใจที่สั่นไหว
เมื่อก่อนนี้เธอเฉยชาไร้ความรู้สึกทุกครั้งที่เจอเขา แต่มาครั้งนี้มันเปลี่ยนไป
เธอรู้สึกดีใจ และตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เจอกัน
“พูดมีธุระของคุณมาได้เลย ขอโทษที่ไม่ได้ออกไปรับ พอดีว่างานฉันยุ่งนิดหน่อย”
“สะ…สวัสดีค่ะพี่โซ”
คนที่ก้มหน้าเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานชะงักแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ซึ่งเธอเองก็ทำได้แค่ยิ้มแล้วเดินมานั่งที่โซฟา
“จ๋าไม่เห็นบอกพี่ว่าเป็นเรา”
“คิดว่าไลค์เป็นคนอื่นเหรอคะ?”
“ก็ใช่สิ เห็นจ๋าบอกว่ามีแขกที่นัดไว้มาหา พี่เองก็ยังไม่ได้เอะใจว่าวันนี้พี่ไม่ได้นัดใครเอาไว้”
“เพราะพี่มัวแต่สนใจกับเอกสารตรงหน้ามากกว่าสิ่งไหนไงคะ เลยลืมว่าพี่นัดกับไลค์เอาไว้”
“พี่ไปนัดเราไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เดี๋ยวนี้โกหกเหรอ? ให้โอกาสได้แค่เดือนเดียวเดี๋ยวนี้กล้าโก- อึก!”
พี่โซรีบวางปากกาลงบนแฟ้มเอกสาร พลางบีบนวดไหล่ของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“เป็นอะไรไปคะ?”
“ปวดไหล่นิดหน่อย น่าจะเพราะนั่งเซ็นเอกสาร”
“เพราะบ่นเยอะไปหน่อยรึเปล่าคะ”
“เกี่ยวอะไรกับปวดกัน”
“ให้ไลค์นวดให้มั้ยคะ?”
“ไม่จำเป็น”
“นะคะ”
“…”
“ให้ไลค์ทำอะไรให้พี่บ้างนะคะ ที่ผ่านมาพี่เองก็ทำอะไรให้ไลค์มาเยอะแล้วอ่ะ”
“พี่ไม่ได้ร้องขอให้ไลค์ทำ”
“แต่ไลค์อยากทำให้พี่นี่คะ อีกอย่างตอนที่พี่ทำให้ไลค์ ไลค์เองก็ไม่ได้ขอให้พี่ทำให้เหมือนกัน เพราะงั้นเราสองคนต่างอยากทำอะไรเพื่อใครสักคนโดยที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องร้องขอเหมือนกัน พี่น่าจะเข้าใจไลค์นะคะ”
“อย่ามาทวงบุญคุณทีหลังแล้วกัน”
“ไลค์ไม่ทวงอยู่แล้วค่ะ เพราะไลค์ทำโดยไม่หวังผล” ว่าแล้วเธอก็ถือวิสาสะเดินอ้อมไปด้านหลังเก้าอี้ ก่อนจะยื่นมือเข้ามาบีบนวดไหล่ทั้งสองข้างของพี่เขาเบา ๆ
น้อยนักที่เธอจะได้สัมผัสร่างกายของเขา นอกจากเขาจะเป็นคนที่หวงตัวมากแล้วเธอยังเล่นตัวไปอีก เพิ่งรู้จริง ๆ ว่าพี่โซเขาเป็นคนมีกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะบีบจับไปที่ส่วนไหนล้วนเจอแต่กล้ามเนื้อแน่น ๆ เต็มไปหมด
“พี่โซออกกำลังกายบ่อยเหรอคะ?”
“ออกบ้างเป็นบางครั้งน่ะ”
“ถ้าบอกว่าออกทุกวันไลค์ก็เชื่อนะคะ เพราะกล้ามแน่นขนาดนี้”
“อึกก!!”
“อุ้ย! ขะ...ขอโทษค่ะ ไลค์บีบแรงไปเหรอคะ!?”
“ปะ...เปล่าหรอก มันแค่โดนจุดที่จั๊กจี้น่ะ”
“พี่บ้าจี้ด้วยเหรอคะเนี่ย” เธอรู้แบบนั้นความอยากแกล้งอีกคนมันก็มีขึ้นมา จึงออกแรงบีบไหล่พี่เขาไปอีกครั้งอย่างชอบใจ “นี่แน่ะ”
“ไลค์ หยุด!”
“หยุดทำไมล่ะคะ กำลังเพลินเลย” เธอเลื่อนมือมาบีบบริเวณต้นคอของอีกคน
“ไลค์! อย่ามาจับที่คอพี่!”
“ทำไมคะ จั๊กจี้งั้นเหรอ?”
“เดี๋ยวมันจะเสี้ยน!”
“เสี้ยน? คืออะไรคะไลค์ไม่เคยได้ยิน” มือเล็กหยุดนวด แล้วเปลี่ยนมาสนใจกับคำที่อีกคนพูดออกมาแทน
“ดีแล้วที่ไลค์ไม่รู้ความหมายของมัน และก็ไม่ต้องรู้ต่อไปนั่นแหละดีแล้ว” พี่โซพูดพร้อมกับดึงมือของเธอออกจากคอของเขา ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องไปสักพัก โดยที่เธอนั้นเอาแต่ยืนงุนงงอยู่ในห้อง
ทำไมคนคนนี้ถึงชอบทำอะไรให้สับสนแบบนี้ตลอดเลยนะ
ปัง!
พี่โซเขาเดินกลับเข้ามาพร้อมกับกาแฟอีกหนึ่งแก้ว และแน่นอนว่ากาแฟแก้วนั้นมันถูกทำมาเพื่อเธอ เพราะพี่โซเขาไม่ดื่มกาแฟ
เจอกันทีไรก็เอาแต่สารคาเฟอีนมาให้กันตลอด
“ดื่มสิ” เธอเริ่มจะคิดแล้วนะ ว่าแก้วกาแฟพวกนี้ มันมีสิ่งแปลกปลอมอะไรอยู่ข้างในรึเปล่า เช่นพวกยาเสน่ห์อะไรพวกนี้น่ะ มันถึงทำให้เธอรู้สึกอยากจะกลับมาเจอพี่เขามากขึ้น “ไม่ต้องห่วง พี่ใส่ยาเบื่อลงไปหรอก”
“เกรงว่าจะไม่ใช่ยาเบื่อแต่เป็นยาเสน่ห์มากกว่านี่สิคะ”
“เลอะเทอะ”
“รู้ได้ไงคะว่าไลค์คิดอะไรอยู่”
“แค่มองหน้าก็พอจะเดาออก มันมีซะที่ไหนกันล่ะ ไอ้พวกยาเสน่ห์น่ะ ไร้สาระ”
“ก็แหม จะไม่ให้ไลค์คิดได้ยังไงคะ เจอกันทีไรพี่ก็ชอบชงกาแฟมาให้ไลค์ดื่มตลอด นี่ถ้าวันไหนไลค์นอนไม่หลับขึ้นมาพี่ต้องรับผิดชอบด้วยการมาเอาไลค์เข้านอนนะคะ”
“จะให้พี่เอาไลค์งั้นเหรอ?”
“คะ!?”
“หมายถึงให้พี่เอาไลค์...เข้านอน?”
“เอ่อ หมายถึงแค่พาไลค์เข้านอนน่ะค่ะ”
“พี่ก็หมายถึงแบบนั้นแหละ”
“แต่พี่พูดกำกวมชวนให้ตีความไปอีกความหมายนึงนี่คะ”
“พี่ว่าไลค์คิดมากไปเองนะ” พี่โซนั่งลงที่โซฟาข้าง ๆ ก่อน ก่อนจะเอนหลังติดพนักพิงโซฟา แล้วเอียงตัวหันมามองหน้าเธอ
ทำเอารู้สึกเกร็งต่อสายตาคู่นั้นจนต้องยกกาแฟแก้วนั้นขึ้นมาดื่มเพื่อแก้อาการเกร็ง
“หนึ่งปีมานี้ไปเจออะไรมาบ้างคะ”
“คะ?”
“พี่เห็นไลค์เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน เมื่อก่อนไลค์ไม่ใช่คนที่จะยอมใครได้ง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังดื้อมากด้วย ว่าแต่ความหยิ่งผยองนั่นหายไปไหนซะแล้วล่ะ”
“เพราะไลค์เพิ่งจะตระหนักได้ล่ะมั้งคะ ว่าชีวิตเรามันสั้น การใช้ชีวิตที่ไร้จุดหมายแบบนั้นเกรงว่าจะอยู่ไม่ถึงตอนแก่น่ะค่ะ”
“สามสิบเอ็ดยังไม่ถือว่าแก่นะ”
“ใช่ค่ะวัยนี้แหละกำลังอร่อย”
“พูดบ้าอะไร”
“เอ่อ…”
“ไม่จำเป็นต้องฝืนเพราะพี่ก็ได้นะ คนอื่นที่ดี ๆ ยังมีอีกเยอะ” อะไรน่ะไอ้คำพูดที่เชิงประชดประชันกันแบบนั้น
“คนแบบพี่นี่แหละดีที่สุดสำหรับไลค์”
“พี่ไม่เข้าใจไลค์เลยจริง ๆ”
เธอก็ไม่เข้าใจพี่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงยอมกลับมาคุยกันอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เธอก็ทำกับพี่เอาไว้ตั้งเยอะนอกซะจากพี่จะยังชอบกันอยู่
“ยิ้มทำไม?”
“ยิ้มให้พี่ไงคะ พี่พูดน้อยไม่ค่อยแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกตัวเอง แถมยังขรึมมากจนดูเหมือนเก็บกด บางทีไลค์เองก็แค่อยากให้พี่แสดงออกในมุมอื่น ๆ บ้าง”
“มุมไหนอีก”
“ก็มุมที่มีแค่คนรักกันเท่านั้นไงคะ ที่จะได้เห็น”
“แต่เราไม่ใช่คนรักกัน”
“ตอนนี้ไม่ใช่ แต่อนาคตไม่แน่ค่ะ”
“มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ” พี่โซพูดแล้วก็เหม่อมองออกไปที่มุมกระจกของตึก ที่มันสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้
“แล้วไลค์ต้องทำยังไงคะ พี่ถึงจะใจอ่อน”
“ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่อยู่เฉย ๆ”
“อยู่เฉย ๆ แล้วความสัมพันธ์ของเราจะพัฒนาขึ้นได้ยังไงล่ะคะ”
“เพราะพี่ไม่เชื่อว่าไลค์จะชอบพี่ได้ไง”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“มันยากเกินที่จะเชื่อ เอาล่ะบอกความต้องการที่แท้จริงของไลค์ออกมาเถอะ อย่าเสแสร้งอีกเลย”
นี่พี่เขาคิดว่าเธอเสแสร้งอยู่งั้นเหรอ?
นี่สมัยก่อนเธอเป็นคนที่เลวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!?
“ไลค์ไม่ได้เสแสร้งอะไรทั้งนั้นค่ะ และตอนนี้ไลค์คุยกับพี่ด้วยความรู้สึกจริง ๆ”
“ไม่คิดว่ามันสายไปหน่อยเหรอ?”
“…”
“เอาเป็นว่ามันก็ยังยากอยู่ดี ที่จะให้พี่กลับไปเชื่อใจไลค์อีกครั้ง”
“พี่คงจะเสียใจเพราะไลค์มากเลยสินะคะ พี่ถึงได้ระวังตัวและทิ้งระยะห่างจากไลค์ขนาดนี้”
“ไลค์ไม่เคยทำอะไรให้พี่รู้สึกมั่นใจเลยสักครั้ง”
“…”
“ใช่ค่ะ พี่เจ็บมามาก เจ็บจากไลค์มาเยอะล่ะ”
“เราไม่พูดถึงอดีตกันแล้วได้มั้ยคะ?”
“...”
“ตอนนี้ไลค์ก็มาอยู่ข้าง ๆ พี่แล้วไงคะ”
“...”
“ไลค์ขอโทษ”
“...”
“พี่จะลงโทษไลค์ยังไงก็ได้ ขอแค่พี่ให้อภัยและยอมเปิดใจให้ไลค์ได้แก้ตัวอีกครั้ง”
“พูดจริงเหรอ?”
“ค่ะ”
“ที่ว่าให้ลงโทษยังไงก็ได้น่ะ”
“ค่ะ”
“ถ้าต้องการให้ทำอะไรบางอย่าง ไลค์ก็จะยอมทำให้แบบนั้นใช่มั้ย?” อีกคนยังคงถามทวนซ้ำ ๆ เพื่อให้มั่นใจ
“ค่ะ”
“งั้นก็ขึ้นมานั่งบนตักของฉันสิ”
“คะ!?” เธอร้องถามอีกคนด้วยความตกใจ ที่จู่ ๆ ก็ออกคำสั่งอะไรไม่รู้ ที่เธอไม่อาจตั้งตัวได้ทัน
เธอมองพี่โซเขาใช้มือตบที่ตักตัวเองเบา ๆ เป็นการเรียกให้เธอย้ายก้นจากโซฟาให้ไปนั่งอยู่บนตักของเขาแทน ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดที่จะขัดใจพี่เขาอยู่แล้ว เพียงแค่งุนงงเล็กน้อย
“ตัวเล็ก”
“////” เธอที่มีส่วนสูงอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้ตัวสูงมากแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่มาตรฐานสำหรับหญิงไทย มีแค่เขาที่สูงเกินไปจนไม่อยากเชื่อว่านี่คือส่วนสูงของผู้หญิง
จะมาเรียกกันว่าตัวเล็กแบบนี้เพียงเพราะตัวเองสูงกว่าไม่ได้นะ...
“ฉันจะกอดนะ?” คำขอที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากพี่เขา ทำให้เธอขมวดคิ้ว
นี่คือการลงโทษงั้นเหรอ?
“ทำไมพี่ต้องขอด้วยล่ะคะ”
“นั่นสิ ทีเมื่อก่อนขอยังไงก็ไม่เคยได้?”
จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันก็ต้องขออนุญาตก่อนนั่นแหละถูกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมสำหรับพี่โซแล้วเธออยากให้พี่เขาลงมือทำกับเธอเลยโดยไม่ต้องเอ่ยคำขอใด ๆ ออกมาเลย
ผิดกับคนอื่น ๆ ที่เธอเคยคุยมา พวกเขาพยายามที่จะทำทุกอย่าง ตามความต้องการของตัวเองมาเกินไปจนลืมนึกถึงความถูกต้อง ความเหมาะสม และความสมัครใจของเธอจนมองว่าไม่มีมารยาท
พวกเขาอยากจะจับมือก็จับ เธอจึงไม่ชอบนัก แต่สำหรับพี่โซแล้ว พี่เขาขอเธอก่อนตลอด และนี่คือสิ่งที่มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่จะยอมพี่เขามากกว่าคนอื่น ๆ
“ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องขอก็ได้ค่ะเพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไรไลค์ก็พร้อมยอมพี่อยู่แล้ว”
“ทำไม”
“เพราะไลค์มั่นใจไงคะว่าถ้าเป็นพี่ไลค์จะปลอดภัย”
“แล้วถ้าเกิดพี่...คิดเรื่องที่ไม่ดีกับไลค์ขึ้นมาล่ะ”
“อะไรก็ตามที่พี่คิดจะทำล้วนไม่ใช่เรื่องแย่ ๆ ค่ะ”
“แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงงั้นเหรอ?” หัวใจเธอเต้นรัว เมื่อพยายามนึกภาพที่เราสองคนทำเรื่องอย่างว่ากันบนเตียง ใบหน้าของเธอมันก็ได้เห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
“ค่ะ” คราวนี้เป็นพี่โซเอง ที่หน้าแดงขึ้นมาจนเธอแอบสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า พี่เขากำลังเขินอาย เมื่อเธอได้ตอบรับว่าให้พี่เขาคิดเรื่องบนเตียงกับเธอได้
ช่างเป็นคนดีซะเหลือเกินนะพี่โซ พี่อย่าพยายามทำตัวเองให้เป็นคนไม่ดีเลย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองนั้นทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนมากแค่ไหน การกระทำทุกอย่างของพี่เขา เธอดูมันออกทั้งหมด
และเธอคนนี้แหละ ที่จะทำให้พี่เขาต้องการมากขึ้น
มากจนไม่ต้องเอ่ยปากของแต่ให้ลงมือทำทุกอย่างที่ใจปรารถนาไปเลย
หมับ!
ก่อนที่อีกคนทำเหมือนจะถอยห่าง เธอจึงเอียงลำตัวใช้แขนคล้องคออีกคนเอาไว้
“ละ...ไลค์?”
“ชอบพี่นะคะ” เธอเลือกที่จะบอกความรู้สึกที่มีต่ออีกคนออกไปตรง ๆ
ถึงแม้มันยากที่จะเชื่อ แต่ก็อยากบอกออกไป
เธอเองก็ไม่อยากปล่อยให้เวลามันเสียเปล่าไป ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับคนคนนี้เธอจะพยายามจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด
“ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนสินะคะ”
“คะ?”
“พี่ดูเกร็ง ๆ”
“…” เธอคว้าเอามือของพี่โซมาลูบที่ตักของตัวเองไปมา จนพี่เขาต้องรีบชักมือกลับ แต่ไม่ทันแรงของเธอที่รั้งมันเอาไว้ที่เดิม
“ลองสัมผัสมันดูสิคะ”
“มะ...ไม่”
“ทำไมล่ะ เจ้าของมันก็ไม่ได้ห้ามนี่คะ”
“ไม่ได้...”
“นะคะ~” เธอแอบได้ยินเสียงหายใจที่หอบของอีกคน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ออกแรงเคลื่อนฝ่ามือสัมผัสขาอ่อนของเธอไปมาอย่างหลงใหล และอยากรู้อยากเห็น
มืออุ่น ๆ ของพี่เขามันทำให้เธออดที่จะรู้สึกดีไม่ได้เลย พี่เขาสัมผัสร่างกายของเธออย่างกับว่ากลัวเธอจะแหลกสลายคามือของเขาไป
“จะบีบแรงกว่านี้กว่าได้นะคะ ไม่ต้องกลัวไลค์เจ็บ”
“ดะ...ได้จริง ๆ เหรอ?”
ตอนนี้พี่โซเหมือนเด็กน้อยเลย…
เขาออกแรงบีบขาอ่อนของเธอแรงขึ้นตามอารมณ์ของเจ้าของ และลูบเข้ามาใต้กระโปรงตัวบางของเธออย่างลืมตัว
“อืมมมม” จะว่าไปพี่เขาก็เรียนรู้ไวเหมือนกันนะ...
“ไลค์...”
“วะ...ว่าไงคะ”
“คือ...”
“หืออ? ชอบใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่! พอเถอะ!”
“ว้ายยย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่ออีกคนจู่ ๆ ก็อุ้มร่างของเธอให้ลุกออกไปจากตัก ก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง ไม่วายค้นเอายาดมในลิ้นชักออกมาดมเหมือนจะเป็นลม
ซูดดดดดดด~~~
“อ่าาาา”
“เป็นอะไรไปคะ?”
“หายใจไม่ค่อยออกน่ะ”
“นี่ไลค์ตัวหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“เปล่าหรอก ฮึ่ม! ไม่ใช่เรื่องนั้น” จะไม่ให้คิดได้ยังไง ก็เล่นนั่งหายใจหอบซะขนาดนั้นน่ะ...หากจะบอกว่าอาการแพ้เกสรดอกไม้กำเริบก็คงจะไม่ใช่ เพราะในห้องนี้ไม่มีดอกไม้เลยสักดอก
หลังจากที่พยายามมองหาสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะทำให้อีกคนเกิดอาการหายใจลำบาก แต่กลับไม่พบ จึงได้หันกลับไปสนใจกับเขาอีกครั้ง และครั้งนี่มันก็ทำให้เธอตกใจจนกรี๊ดออกมา
“กรี๊ดดดดพี่โซนั่น!!!” สุดท้ายก็กรี๊ดออกมาจนได้ พร้อมกับชี้ไปที่ใบหน้าของเขาด้วยมือสั่น ๆ
ส่วนคนที่ถือยาดมอยู่นั้นมองเธอกลับมาด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
“มีอะไรน้องไลค์!?”
“จมูกพี่!”
“เลือด?”
พี่เขาเหมือนจะยังไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าเธอบอกแบบนั้น เขาก็ได้ใช้ปลายนิ้วแตะเข้าที่ปลายจมูกของตัวเอง และก็ได้พบว่าที่จมูกของเขามันได้มีของเหลวสีแดงไหลออกมาจำนวนหนึ่ง
“พี่เป็นอะไรมากมั้ยคะ!??”
“เกิดอะไรขึ้นคะ!!??”
“จะ…จ๋า” เจ้าของห้องเรียกเลขาเสียงอ่อนพร้อมกับทำหน้าขอให้ช่วย
5 นาทีต่อมา
“ไปทำกันอีท่าไหนกำเดาถึงได้ไหลออกมาได้คะเนี่ย แอร์ในห้องก็เย็น ไม่น่าทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกแตกได้นะคะ” เลขาคนสนิทที่หลังจากได้ยินเสียงเธอกรี๊ดก็รีบเปิดประตูเข้ามาดู ก็พบว่าใบหน้าของเจ้านายตัวเองเต็มไปด้วยของเหลวสีแดงนั่น จึงได้รีบวิ่งออกไปหาผ้าเย็นพร้อมกับน้ำแข็งมาประคบ ในขณะเดียวกันเธอก็ได้หยิบเอาทิชชูมาซับเอาไว้ให้ก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำงานร่วมกันอย่างเป็นทีมกับเลขาคนนี้
“พี่พักผ่อนน้อยน่ะ”
“พักผ่อนน้อยหรือว่าทำอะไรกันแน่คะ?” หล่อนพูดพร้อมกับหันมามองหน้าเธอ
“เอ่อ...”
“เห็นพี่เป็นคนยังไง พี่บอกว่าพี่พักผ่อนน้อยไง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณไลค์สักนิด” พี่โซพูดเสียงขึ้นจมูกเพราะกำลังเงยเอนหลังเงยหน้าประคบเย็นอยู่
“จ๋าเชื่อก็ได้ค่ะพี่ขาาาา”
“ขอบใจ หมดธุระก็ออกไปได้”
“ไล่เชียวนะคะ งั้นหายไว ๆ นะคะ”
“อืมม” ไลค์มองตามหลังเลขาคนนั้นจนลับตาไป ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับอีกคนที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างหมดสภาพแทน
ไม่ใช่อีกคนหักโหมงานหรือพักผ่อนน้อยหรอก แต่น่าจะเป็นเพราะเลือดสูบฉีดดีเกินไป
ผู้หญิงคนนี้น่าค้นหาจริง ๆ
“ยิ้มอะไรของเธอ”
“เปล่านะคะ” เธอหัวเราะในใจ ให้กับคนปากแข็งและช่างเก๊กอย่างเขา แบบนี้แหละที่เธอต้องการ
น่าสนุกดีออก
“หายไว ๆ นะคะ” ไว้จะแกล้งอีก
ประโยคหลังเธอทำได้แค่คิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป เพราะพี่เขาอาจจะโวยวายได้
ความคิดเห็น