คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ❀ D I A R Y ❀ page.3 : Gilda Smith
Soon I'll be sixty years old, my daddy got sixty-one Remember life, and then your life becomes a better one I made a man so happy when I wrote a letter once I hope my children come and visit once or twice a month Soon I'll be sixty years old, will I think the world is cold Or will I have a lot of children who can warm me? Soon I'll be sixty years old เดี๋ยวฉันก็คงอายุ 60 แล้วสินะ พ่อฉันอยู่มาได้จนถึงอายุ 61 เดี๋ยวฉันก็คงอายุ 60 แล้วสินะ ฉันจะคิดว่าโลกนี้มันแสนเยือกเย็นมั้ย | ถึงแม้บางที ชีวิตคนเราชีวิตหนึ่งจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือเดินบนทางน้ำที่มีสะพานร้อยให้เราเดินเอาไว้ แต่เราสามารถโปรยกลีบกุหลาบ และสร้างสะพานให้กับตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งคนอื่น หากแต่พยายามและเดินก้าวต่อไปข้างหน้าไม่หยุดและขอให้เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ ไม่ว่ายังไง ต่อให้อะไรเกิดขึ้น ถ้าเราสามารถละทิ้งเรื่องราวด้านหลังเอาไว้ได้ และหันมายิ้มแย้มให้กับปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญอยู่ โลกใบนี้นั้น จะไม่หนาวเหน็บและน่ากลัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้น จงก้าวต่อไปด้านหน้า อย่าได้หยุดเดิน - Unseensarkness |
“ถึงแม้ว่าตัวเราเองจะรู้สึกกลัว
แต่ยังไงก็ยังต้องก้าวเดินต่อไปอยู่ดีนั่นแหละนะ”
PART 1
ชื่อ-นามสกุล :: กิลด้า สมิธ | Gilda Smith
ชื่อเล่น :: กิลด์ | Gild
ความหมาย :: กิลด้า แปลว่า ผู้เสียสละ
สัญชาติ :: บริติช
อายุ :: 25 ปี
PART 2
รูปร่างลักษณะ :: ร่างระหงนั้นครอบครองผิวกายนวลเนียนสีขาวเกือบซีดแต่ก็ไม่ได้ดูแย่จนเหมือนกับป่วยหนัก ผมสีบลอนด์นุ่มนั้นถูกจัดทรงเป็นบ๊อบเทอย่างสวยงามดูกะทัดรัด ดวงตาอ่อนช้อยสีฟ้าอ่อนนั้นปรากฏคู่กับรอยยิ้มมากเสน่ห์จากริมฝีปากสีเชอร์รี่ ภายใต้เรือนผมนั้นบดบังต่างหูรูปปีกที่สร้างจากแสตลนเลสวินเทจเอาไว้ ผ้าพันคอสีดำสนิทนั้นบ่งบอกว่าสภาพอากาศที่เธออาศัยอยู่นั้นค่อนข้างหนาวพอสมควร ชุดสูทสีกรมท่านั้นสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กางเกงรัดรูปสีดำและรองเท้าคัทชูสีเดียวกันนั้นทำให้สาวเจ้าดูทะมัดทะแมงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ในขณะที่ส่วนสูงของเธอนั้นสูงถึง 168 และหนัก 52 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย :: เธอเป็นคนที่สุดโต่ง ตรงไปตรงมาสูงมาก ไม่ชอบเก็บอะไรไว้นานๆ จึงมักระบายออกมาในรูปแบบของการวีนเหวี่ยงโวยวายออกมาซะส่วนใหญ่ เธอค่อนข้างไฮเปอร์และไม่ค่อยซีเรียส ไม่ยี่หระกับสิ่งต่างๆ บางทีก็ปล่อยสบายมากเกินไปซะจนอาจสร้างความเอือมระอาให้กับผู้คนรอบๆข้างของเธอได้ เป็นคนที่มีมุขตลกแป้กๆติดกับตัวอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะทำอะไร
ถึงแม้จะมีนิสัยโดยรวมที่ค่อนข้างร่าเริงและไม่ซีเรียสอะไรมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ไวต่อความเศร้ามากเช่นกัน แถมยังค่อนข้างขี้หงุดหงิดและอารมณ์เสียง่ายไปเสียหน่อย ยังไงก็แล้วแต่ กิลด้าเองก็เป็นคนที่มีความรู้สึกแบบคนปกติธรรมดาทั่วไป แต่เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความคิดยับยั้งชั่งใจเท่าไหร่ คิดอะไรไม่ค่อยได้แต่เชื่อฟังหัวใจเป็นอย่างดี เธอนั้นขี้บ่นมากๆ รู็สึกอึดอัดก็โวยวายออกมาอย่างไม่แคร์อะไรทั้งนั้น
กิลด้าเป็นคนที่ขี้ตกใจมาก มือไปไวพอๆกับความรู้สึก เช่น ถ้าหากโดนลวนลามบนรถไฟ มือของเธอจะพุ่งไปโดยอัติโนมัติราวกับรีเฟล็คแอคชั่น พร้อมๆกับเสียงร้องตกใจที่ดังพร้อมกับเสียงหมัดปะทะใบหน้า เป็นต้น แสดงให้เห็นว่ากิลด้าเป็นพวกที่ไวต่อความรู้สึกมากๆ ค่อนข้างตื่นตูมและมักตื่นตัวและกะตือรือร้นอยู่เสมอ อีกอย่างคือกิลด้านั้นยิ้มง่าย คุยเก่ง แม้จะอยู่ในยามคับขันก็ขยันปล่อยมุขตลกออกมาอยู่
กิลด้าเป็นคนที่มีความน่าคบหาประมาณ 60% ด้วยความเฟรนด์ลี่และคุยเก่ง แถมยังคำนึงถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตนราวกับชื่อของเธอ พร้อมที่จะเสียสละได้ทุกเมื่อ มักจะเป็นห่วงคนอื่นออกนอกหน้าเสมอ แม้ตัวเองมีสารรูปดูไม่ได้ก็ตาม เธอนั้นเทคแคร์คนเก่งและมีความเอาใจใส่ระดับสิบ มักทุ่มสุดตัวให้กับคนอื่นและเพื่อนๆเสมอ มักจะเป็นคนที่คอยห้ามปรามการทะเลาะเบาะแว้งของเพื่อนๆในทีมตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยมีใครห้ามเวลาเธอทะเลาะกับคนอื่นมากเท่าไหร่
ในขณะเดียวกัน อีก 40% ก็มักสร้างปัญหาเสมอๆเพราะการทุ่มสุดตัวที่มากเกินไปของเธอ กิลด้านั้นมักจะไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่ เผลอทำให้คนอื่นรำคาญบ่อยๆโดยไม่ได้ตั้งใจ และมักจะเผลอทุ่มเทให้กับงูพิษที่ยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจและรับรู้ในสิ่งที่เธอทำให้ แต่ถึงอย่างนั้นกิลด้าก็เป็นคนที่ใจอ่อนง่ายแบบสุดๆ มีความขี้สงสารอยู่ประมาณเกือบเต็มร้อยของนิสัยทั้งหมด เชื่อคนง่ายและหัวไม่ไว
ถึงแม้เธอจะทำอะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังและชอบโวยวาย แต่ว่าเธอนั้นก็เป็นคนที่อ่อนโยนคนนึง ความใจดี ความสบายๆ ความไม่ถือตัว ความเข้าถึงง่ายทำให้ใครต่อใครก็รู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ๆเธอ
ชีวประวัติ :: กิลด้า สมิธ คือสาวน้อยช่างฝันคนหนึ่ง
กิลด้านั้นมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน หล่อนมีชื่อว่าบาบาร่า สมิธ ทั้งสองคนรักและตัวติดกันมากมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่ด้วยอายุที่เริ่มมากขึ้นทำให้เริ่มห่างๆกันไป จนกระทั่งกิลด้าได้ขึ้นมัธยมปลายปีที่ 1
กิลด้านั้นค่อนข้างเรียนได้ช้าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ว่าเพราะแม่ น้องสาว และพ่อที่ให้กำลังใจเธอมาโดยตลอดนั้น ทำให้กิลด้านั้นพยายามสปีดตัวเองให้เทียบเท่ากับเพื่อนในชั้นคนอื่นๆเรื่อยมา ถ้าพูดถึงแม่แล้วล่ะก็ เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน การพูดการจา หรือไม่ว่าจะเป็นเครื่องซ่อมสิ่งต่างๆเอนกประสงค์ ส่วนพ่อของเธอคือตำรวจชั้นผู้น้อยที่มีรายได้ไม่ได้มากมาย ที่คอยพร่ำสอนลูกสาวทั้งสองให้เชื่อมั่นในคุณงามความดีและความยุติธรรมเสมอมา แน่นอนว่ากิลด้าเชื่อมั่นในตัวพ่อของเธอมาก
หลังจากเริ่มห่างๆเหินๆกับบาบาร่าไป เจอกันเพียงกินข้าวตอนเย็นนั้นก็เริ่มแสดงถึงรอยแยกที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อบาบาร่านั้นแอบคบกับคุณครูประจำชั้นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนมันเป็นอะไรที่ผิดศีลธรรมมาก เพราะบาบาร่าเองก็มีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น ในขณะที่อาจารย์ก็บรรลุนิติภาวะแล้ว
กิลด้ารู้เรื่องเข้า ก็รีบไปบอกพ่อกับแม่ของเธอทันที นั่นทำให้รอยบาดหมางระหว่างพี่น้องถือกำเนิดขึ้น ราวเกลือโรยใส่แผล และแผลนั้นไม่มีวันหายหรือด่างพร้อยไปได้อีก นั่นทำให้บาบาร่านั้นผิดใจกับกิลด้าทันที แม้กิลด้าจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ตามว่ามันผิดกฏหมาย
พ่อของกิลด้าเรียกเธอมาปลอบใจ และพากันออกไปเดินเล่นด้านนอกบ้าน
"กิลด์ ลูกรู้มั้ยว่าสิ่งที่ลูกทำลงไปมันถูกต้องแล้ว" พ่อของเธอกล่าวพลางกอดอกของตัวเอง ในขณะที่กำลังเดินอยู่กับกิลด้าที่กำลังก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้น้องสาวโกรธ พอคนเป็นพ่อพูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมาช้าๆและส่ายหน้าของตนเองเบาๆ
"...ไม่รู้สิคะ อาจจะถูก....แต่ว่าน้องสาวคงโกรธที่หนูบอกพ่อกับแม่ไปอย่างนั้น" กิลด้ากอดอกเบาๆพลางมองพื้นหินแกรนิตที่เรียงราย
"ใช่ ถูกต้องแล้วล่ะ" เขากล่าวพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า "รู้อะไรไหมกิลด์? พ่อภูมิใจมากนะที่ลูกเห็นความถูกต้องมาก่อนความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องบางเรื่องเองก็ต้องมองความรู้สึกก่อนความถูกต้อง"
"พ่อหมายถึงอะไรเนี่ย?" กิลด้าพูดติดตลกพลางหัวเราะในลำคอของตนเองเบาๆ
"ถึงเวลาก็รู้เองแหละนะเรา" เขากล่าว "โตขึ้นกิลด์อยากเป็นอะไร?"
"กิลด์น่ะเหรอ?..." เธอกล่าวถามทวนคำพูดของคนเป็นพ่อหนึ่งประโยค ก่อนที่จะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอำไพที่เริ่มปรากฏประกายของดวงดาราที่จะตระหง่านฟ้า "....หนูไม่รู้เหมือนกันสิคะ ตอนนี้ยังไม่อยากทำอะไรมากเป็นพิเศษเท่าไหร่ มีหลายตัวเลือกในหัวเลยค่ะ เหะๆ"
"ลูกอยากเป็นอะไรก็ได้ที่ลูกอยากจะเป็น แต่มีอยางนึงที่พ่ออยากจะให้ลูกเป็นนะ" เขากล่าวพร้อมกับยิ้มให้เด็กสาวผู้เป็นลูกสาวคนโตของเขา
"อะไรเหรอคะ?"
"เป็นคนที่ดีและพร้อมเสียสละยังไงล่ะ" เขากล่าว
กิลด้าเบิกดวงตากว้าง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นได้รับคำสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เหมือนกับตอนสไปเดอร์แxนได้รับคำสอนจากลุงเบ็นว่า 'พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง' อย่างไรอย่างนั้น กิลด้ารู้สึกดีใจที่มีตาลุงคนนี้เป็นพ่อของตัวเอง ตาลุงที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้น้อย ตาลุงที่เป็นคนรักความยุติธรรมมากกว่าใครๆ ตาลุงที่มีจิตใจเสียสละเอื้อเฟื้อต่อสังคม...
"แล้วไงต่อเหรอคะ?"
"ก็...พ่อคิดว่า ถ้ามีมาสานความยุติธรรมบนโลกใบนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้ก็ดีน่ะสิ"
.....
"กิลด้า! เห็นบาบาร่ามั้ยลูก!" แม่ของกิลด้าตะโกนมาจากชั้นล่างในขณะที่กิลด้านั้นกำลังใส่เนคไทอยู่ เธอจึงตอบไปอย่างทุลักทุเล "ไม่เห็นค่ะ!!"
"แปลกจังเลยนะ" คนเป็นแม่ถอนหายใจพลางคนซุปในหม้อเบาๆ
"จริงสิ! เมื่อคืนบาบาร่าไปเที่ยวกับเพื่อนเขานี่นา! จริงๆเลยนะบาบาร่า" กิลด้าบ่นน้องสาวตัวเองออกปาก ก่อนที่จะเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน คนเป็นแม่ได้ยินดังนั้นจึงหันมาหากิลด้าด้วยสีหน้ารู้สึกลำบากใจ "ว่าไงนะลูก? เมื่อคืนบาบาร่าไปไหนกับเพื่อนนะ?"
"...อ้าว หนูนึกว่าบาบาร่าจะบอกแม่แล้วซะอีก เหลวไหลจริงๆเลย" เธอบ่นอีกครั้ง แต่ทว่าคนเป็นแม่กลับแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา
"อย่าพูดงั้นสิลูก ถ้าเกิดน้องเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ"
"...ฮืม...ช่างเถอะค่ะ งั้นหนูไปโรงเรียนก่อนนะคะแม่" กิลด้ากล่าวกอนที่จะหยิบขนมปังและกล่องนมยูเอชทีติดมือมาด้วย ในขณะที่เธอเดินพ้นตลาดที่ห่างจากบ้านไปไม่กี่บล็อกนั้นเอง เธอก็พบกลุ่มฝรั่งมุง(?)กำลังล้อมใครสักคนอยู่ ในขณะที่มีเสียงไซเรนรถตำรวจดังอยู่เป็นระยะๆ
กิลด้าแหวกวงล้อมเข้าไปดูว่ามันเกดอะไรขึ้น ก่อนที่จะเห็นน้องสาวของตน บาบาร่านั่งตัวขดงอ ตัวสั่นระริก มีผ้าคลุมสีขาวคลุมกายเอาไว้อยู่ และเธอก็เห็นพ่อของตนนั้นกำลังยืนนิ่งด้วยความสลดใจอยู่ กิลด้าจึงรีบเดินอ้อมฝูงชนไปหาพ่อของตนเองทันที
"พ่อคะ เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมบาบาร่าถึงเป็นอย่างนั้น!?"
"ต้องรอผลต่อไป...." เขากล่าวพลางก้มหน้า น้ำเสียงเขาเหือดหายราวกับคนที่กำลังจะขาดใจ "...จริงๆพ่อเองก็แน่ใจแต่แรกแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบาบาร่าตั้งแต่เจอหล่อนนอนอยู่ที่ถังขยะด้วยสภาพทรุดโทรมแล้วล่ะ... พ่อแค่ไม่ได้อยากจะพูดถึงมันมากเท่าไหร่นัก"
"...บาบาร่า..."กิลด้ากล่าวเสียงเอื่อย
"ลูกไปโรงเรียนเถอะ เดี๋ยวพ่อจะดูแลบาบาร่าเองนะลูก" เขากล่าวพลางลูบศรีษะของลูกสาวตัวเองเบาๆ กิลด้าพยักหน้ารับคำและรีบเดินไปยังโรงเรียนของตนเอง
เธอไม่มีสมาธิเรียนเลย
เธอรู้สึกสงสาร แล้วก็รู้สึกเห็นใจน้องสาวของเธอ กิลด้านั้นตาค้างตลอดเวลาเรียน ต่อให้ถูกเพื่อนสะกิดก็ไม่อาจตื่นออกมาจากภาพเหล่านั้นได้เลย เธอเผลอคิดไปว่า ตอนที่น้องสาวเธอต้องเผชิญกับภาพเหล่านั้นต้องรู้สึกแย่ กลัว และตื่นตระหนกมากเพียงไหน
แปะ
กระดาษชีตได้แปะลงบนหน้าโต๊ะของเธอ
'อาชีพในฝัน'
เธอกระพริบตาปริบๆ มองลงไปในกระดาษสีขาวสะอาดที่มีพื้นที่ว่างเปล่าให้เขียนข้อความลงไปตั้งมากมาย กิลด้าเกือบปัดมันทิ้ง แต่ทว่าเธอนั้นก็นึกถึงสภาพของน้องสาวอีกครั้ง และได้คิดว่าช่วยเหลือใครสักคนก็ยังดี เธอก็เลยหยิบดินสอขึ้นมาเขียนคำว่า 'นักสังคมสงเคราะห์'
Rrrrrrrr
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อเธอควักโทรศัพท์ออกมาก็พบว่าปรากฏชื่อของแม่เธอออกมา กิลด้าจึงรีบรับสายโทรศัพท์ขึ้นมาทันที ในใจหวนคิดว่าคงไม่พ้นเรื่องเมื่อเช้านี้แน่ๆ กิลด้าจึงหาวออกมาทีหนึ่งและตั้งใจฟังเสียงปลายสาย
'ฮึก...'
"...?แม่คะ?"
'กิลด้า... พ่อเค้า....พ่อเค้า...'
...
มันบีบรัดหัวใจของเธอแน่นมากเสียเหลือเกิน ชีวิตมันช่างเล่นตลกกับอารมณ์ความรู้สึกอะไรเช่นนี้ ทำไมเธอต้องมาสูญเสียคนสำคัญไปคนหนึ่ง พร้อมกับจิตใจของคนสำคัญอีกคนหนึ่งด้วย มันเร็วมากเกินไปจนกิลด้าตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็ยืนร้องไห้ต่อหน้าหลุมที่กำลังฝังศพพ่อของตนเองไปเสียแล้ว ชุดสูทสีดำและกางเกงยีนส์สีดำนั้นเปรอะดินทันทีที่กิลด้าทรุดลงกับพื้นจนแขนและขานั้นเปื้อนดินไปหมด
ช็อกเกินไปแล้ว
"คุณคะ...ฮึก..." คุณแม่สุดแกร่งของเธอกลายเป็นหญิงสาวผู้เศร้าโศกในพริบตา หลังจากที่ทางกรมตำรวจได้สืบสวนแล้วว่า มาเฟียกลุ่มหนึ่งนั้นไปเที่ยวบาร์เดียวกับบาบาร่า ในขณะที่บาบาร่ากำลังเล่นสนุกเกอร์กับเพื่อนอยู่นั้น ลูกสนุกเกอร์ก็ได้ลอยไปชนกับสมาชิกมาเฟียนั้นเข้า ก่อนที่จะเห็นว่าบาบาร่านั้นงดงามหยดย้อยเพียงใด ในตอนแรกเพื่อนของเธอก็ช่วยบาบาร่าอยู่หรอก แต่ว่าพอรู้ว่าเป็นมาเฟียก็จำยอมมอบตัวบาบาร่าให้เสียอย่างนั้น
หลังจากที่สืบเสร็จ ก็จัดการหาที่กบดานทันที และจากนั้นก็เปิดฉากการวิสามัญและยิงไล่ล่ากันขึ้น แน่นอนพ่อของเธอเป็นหนึ่งในตำรวจที่ถูกยิง และเขาจะต้องรอดแน่นอนถ้าหากไปถึงโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้ ถ้าไม่ติดว่าจราจรมันติดขัดจนการไปส่งเขาให้ถึงโรงพยาบาลมันล่าช้า มาเฟียพวกนั้นถูกจับไปได้บางส่วน และน้องสาวของเธอก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชหลังที่คลุ้มคลั่งและร้องไห้ไม่หยุด
ปัง...
หลังจากเธอปิดประตูห้องนอนลง ก็มองไปยังโต๊ะทำการบ้านไม้ที่ว่างเปล่าของตนเอง มีเพียงกระดาษ 'อาชีพในฝัน' ที่วางไว้บนโต๊ะเท่านั้น กิลด้าปาดน้ำตาที่ยังรื้นๆอยู่บนขอบตาเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปหามันพร้อมกับปากกาและลิขวิด เธอนั้นเลื่อนเก้าอี้นั่งและจ้องมองลงไปยังกระดาษแผ่นนั้น ก่อนที่กิลด้านั้นจะได้ยินเสียงของคนเป็นพ่อย้อนเข้ามาในความทรงจำของตนเอง
"ก็...พ่อคิดว่า ถ้ามีมาสานความยุติธรรมบนโลกใบนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้ก็ดีน่ะสิ"
...เธอจัดการเปิดฝาลิขวิดและลบข้อความที่เธออยากเป็นนักสังคมสงเคราะห์ทันที ก่อนที่จะเขียนเป้าหมายใหม่ลงไปหลังจากที่ลิขวิดนั้นแห้งเรียบร้อยแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันจะเขียนเสร็จ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
"กินข้าวจ้า กิลด้า"
ถึงแม้กิลด้านั้นจะยังเขียนข้อความในกระดาษไม่เสร็จดี แต่ว่าในหัวของเธอนั้นก็มีความคิดแล้วว่าตัวเธอนั้นอยากจะสานโลกที่พ่อของเธอนั้นใฝ่ฝันและมักพร่ำสอนเธอเสมอๆมาให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ทำให้ตาลุงที่เชื่อมั่นในความยุติธรรมมาโดยตลอดต้องเธอมาจากท้องฟ้าด้วยความเศร้า...
"ค่า"
"กิลด้า แม่มีเรื่องจะบอกลูกด้วยแน่ะ" หญิงสาวผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฏพีนั้นกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงคงที่ตามฉบับหญิงแกร่ง "นั่นก็คือ พินับกรรมของพ่อเขา มีของที่จะยกให้ลูกด้วยแน่ะ ถ้าอยากรู้ว่าคืออะไรก็มาฟังคุณทนายที่มาบ้านด้วยนะลูกรัก"
"ค่ะ"
และกิลด้าก็เดินออกจากห้องไป เป็นสัญญาณว่าเธอนั้นต้องก้าวเดินไปทางด้านหน้าให้ได้
ความสามารถพิเศษ :: - เป็นคนที่จมูกค่อนข้างไวต่อดินปืนและกลิ่นต่างๆพอสมควร
- แม่นปืนแบบสุดยอด
- สายตาดีและไวมาก
พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ :: - มักจะสะดุ้งและเผลอปัดมือไปทางที่สิ่งที่โดนนั้นยื่นมาเสมอๆ เหมือนกับปฏิกริยารีเฟล็คแอคชั่น หรือการตอบสนองแบบฉับพลันนั่นเอง
สิ่งที่ชอบ :: 1.ต่างหูรูปปีกของตัวเอง มันคือของขวัญในพินัยกรรมของพ่อเธอ มันเป็นเสมือนตัวแทนของพ่อเธอ คอยย้ำเตือนว่าตัวเขาจะคอยอยู่ข้างๆเธอไม่จากไปไหน และคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
2.ผัดกะเพรา เคยมีเพื่อนที่ CSD ที่เป็นคนไทยทำมาให้กิน กินครั้งแรกครั้งเดียวก็ติดใจไปอีกนานโดยเฉพาะกะเพราะหมูสับ
3.อาหารฝีมือคุณแม่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่เธอกินอาหารจากผู้หญิงสุดแกร่งคนนี้ ไม่ว่าจะทำอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็ทำออกมาได้อร่อยสมเป็นสุดยอดคุณแม่จริงๆ
สิ่งที่ไม่ชอบ/เกลียด :: 1.ความไม่เท่าเทียมกัน เธอไม่อยากให้ใครมาถูกริดรอนสิทธิเพียงเพราะเด็กกว่า โตกว่า หรือมียศฐาบรรดาศักดิ์ที่น้อยกว่า มันให้ความรู้สึกไม่ดีกับเธอมากๆ
2.ไข่ เธอเป็นคนที่กินไข่ไม่ได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กินแล้วเธอจะรู้สึกพะอืดพะอมแล้วก็อ้วกไข่ออกมา เธอก็เลยเป็นคนนึงที่แทบไม่เคยกินไข่ดาวบนกะเพราะสักครั้ง
3.พวกชอบลวนลาม มันทำให้นึกถึงน้องสาวของเธอน่ะ มันจะต้องรู้สึกแย่มากๆ และจิตตกแบบสุดๆแน่ๆ เพราะงั้นอย่าหวังว่าจะได้แอ้มเธอเลย
สิ่งที่กลัว :: ไม่มีเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะกลัวพวกสิ่งที่อาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงๆอย่างซอมบี้หรือผีสางต่างๆมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เกือบทั้งนั้น
งานอดิเรก :: อู้ในที่ทำงาน / แอบจิ๊กซองกาแฟของที่ทำงานไปไว้ที่บ้าน
ลักษณะคำพูด :: น้ำเสียงของเธอจะหนักแน่นและแข็งแกร่ง มีความมั่นใจในน้ำเสียงสูง มักจะปล่อยเสียงออกมาเต็มที่ๆเสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ เป็นคนที่ไม่พูดคำหยาบและไม่ทำตัวหยาบคายทางวาจาใส่คนอื่น พูดลงท้ายคะ/ค่ะกับคนที่มีความอาวุโสมากกว่าเสมอๆ นอกนั้นก็พูดตามใจตัวเอง เวลาเล่นมุขจะเป็นมุขแป้กๆของชาวอเมริกาซะมากกว่ามุขที่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจ
เมื่อเธอนั้นทำกุญแจรถหาย ทั้งๆที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อตัวเอง : "...อ๊ะ! กุญแจรถฉัน! หายไปไหนอ้ะ!!" เธอกล่าวพลางควานหาบนโต๊ะกันให้วุ่น ทำเอาสำนักงานแทบมีกระดาษโปรยเป็นเครื่องประดับ "นายเอาไปใช่มั้ยดีแลน! หรือว่าเธอน่ะฝัน! หรือว่าเธอน่ะซาราห์!"
เมื่อเธอถูกจับได้ว่าแอบจิ๊กซองกาแฟ : "อ่ะจ่ะ..." เธอเหงื่ออกเมื่อเพื่อนร่วมงานมาเห็นช็อตที่เธอนั้นกำลังยัดซองกาแฟใส่กระเป๋า "นั่น UFO!!!" กิลด้าตะโกนแล้วรีบวิ่งแจ้นออกไปทันที
เมื่อเธอนั้นเล่นมุขกับแม่ : "กิลด์ลูกรัก!"
"อะไรเหรอคะแม่? " กิลด้ากล่าวขณะที่ตักซุปครีมเห็ดเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่มันจะหมดลงอีกครั้ง "แม่คะ หนูหิว!!"
"...สวัสดีหิว ฉันแม่นะ"
"...ทำไมแม่ตั้งชื่อหนูแบบนี้?"
เมื่อกิลด้านั้นเล่นมุขใส่เพื่อนในที่ทำงาน : "กิลด้า ลองบอกชื่อสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมา 5 ชนิดสิ"
"กบ"
"อีก 4 ชนิดล่ะ"
"พ่อกบ แม่กบ พี่กบ น้องกบ"
เมื่อกิลด้านั้นห้ามปรามการทะเลาะกันของเพื่อน : "เพื่อน...วู้ว ใจเย็นๆนะ ฉันรู้ว่าพวกนายผิดใจกัน แต่รู้อะไรมั้ย? หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านนะ" และหลังจากนั้นกิลด้าจะโดนเพื่อนยำ
ตำแหน่ง/หน้าที่การงาน :: เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุระดับ 3 ของ CSD
เพิ่มเติม :: - แม่ของเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี(เธอให้นิยามแม่ว่าอย่างนั้น) และเธอก็รักและเข้าใจในตัวแม่ของตนเองมากๆ
- เธอเกิดวันที่ 7สิงหาคม ราศีกรกฏ กรุ๊ปเลือด O
- เธอเป็นคนที่ค่อนข้างขวัญอ่อนเรื่องผีสางมากๆ
- เล่นมุขไม่ถูกที่ถูกเวลา
- บางทีก็ซีเรียสเป็นนะ แต่มู้ดหายระหว่างซีเรียสทุกที
TALK WITH ME
ไฮค่ะ .โค้งเอาหัวโหม่งพื้น(?). เรียกตามนามแฝง ฮันนี่ ได้ค่ะ ชื่อไรเอ่ยเตง? :: ซีนคนเดิมค่ะ*ใส่แว่นดำ*
เรื่องนี้เป็นแนวที่เพิ่งเคยแต่งค่ะ อาจดราม่าแต่ไม่สุดและปมก็อาจจะไม่สุดเช่นเดียวกันเพราะยังไม่ถนัดอะไรแบบนี้ ต้องรับให้ได้นะตัวที่การบรรยายเรากาก ;__; :: ค่าาาา รับทราบนะ
ขึ้นม.ปลายแล้วค่ะมีดองแน่นอนและไม่รู้ด้วยจะอัพตอนไหน ยังต้องปรับตัว รอกันได้ไหมเอ่ย? .สะกดจิตว่ารอได้รอได้(?). :: ได้ค่ะได้
ถ้าไม่ติดจะเป็นอะไรมั้ยคะ จะบึ้มบ้านเราไหม ถถถถ. :: ไม่เป็นไรนะคะ เราเข้าใจว่าคนเทพๆเขียนตัวละครน่าสนใจกว่าเราก็มีเยอะ *ซ่อน TNT ไว้ด้านหลัง*
ถ้าเกิดไม่ติดขึ้นมาจริงๆจะอนุญาตให้เรานำตัวลูกสาวไปเป็นตัวประกอบหลังฉากได้หรือไม่ บอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าบางคนออกแค่ชื่อหรือนานๆทีออกมาทั้งตัว(?) รับกลับได้นะคะไม่ต้องกลัวบอกมาเยยยย >< :: ก็ได้นะคะ เอาไปปามุขใส่พวกตัวเอกให้หงายหลังไป555555
คิดว่าตัวเองจะได้คู่กับใครหรือชอบใครเป็นพิเศษมั้ยเอ่ยย? :: อาจจะเป็นก๊กนะคะ เท่าที่ดู?
ขอคำนิยามให้ลูกสาวตัวเองหน่อยค่ะ! :: เด็กสาวผู้ที่มีบาดแผลในใจฉกรรจ์ แต่ก็สามารถเก้บมันไว้และก้าวเดินต่อไปด้านหน้า(อย่างขาดสติ)ได้
ความคิดเห็น