ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❀ D I A R Y ❀

    ลำดับตอนที่ #1 : ❀ D I A R Y ❀ page.1 : Beatrice Belladonna

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 60




    APPLICATION




    “โอ๊ะโยะโหย!

    ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยแฮะ... มีแฟนยังจ๊ะสาวน้อย?”


    PART 1


    ชื่อ-นามสกุล :: เบียทริซ เบลลาดอนน่า | Beatrice Belladonna


    ชื่อเล่น :: เบีย | Bea


    ความหมาย :: เบียทริซ แปลว่า ผู้เดินทางสัญจร

    เบลลาดอนน่า แปลว่า สตรีผู้งดงามในภาษาอิตาลี

    รวมกันเป็น สตรีผู้งดงามที่เดินทางสัญจร


    สัญชาติ :: อเมริกัน (เชื้อชาติอิตาเลียน)


    อายุ :: 17 ปี


    PART 2


    รูปร่างลักษณะ :: ตามมาตรฐานเลย เธอมีส่วนสูง 170 หนัก 58 เธอเป็นเจ้าของหุ่นรูปทรงนาฬิกาทรายที่แสนงดงามชวนเหลียวหลังมอง เรือนผมสีชมพูท็อฟฟี่นั้นดูโดดเด่นในสายตาทุกๆคนแม้จะรู้ว่ามันเกิดจากการย้อมก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่ว่า 'ผมสวยมากเลย' หายไปแม้แต่น้อย เล็บทั้งสิบถูกแต่งแต้มด้วยยาทาเล็บสีชมพูจ๋า ผิวเนียนขาวอมชมพูนั้นแลดูเนียนนุ่มน่าสัมผัสเชิญชายชาตรีหลายคนมาลิ้มลอง ริมฝีปากรูปกระจับเรียวเล็กนั้นถูกแต้มไว้ด้วยลิปมันสีชมพูอ่อน รับกับดวงตากลมโตสีม่วงเหลือบเขียวที่ดูยังไงก็คอนแทคเลนส์ชัดๆ มักสวมเสื้อหนังตัวนอกทับกับเสื้อยืดเอวลอยสีดำ กับกางเกงวอร์มขาเดฟรัดรูปทะมัดทะแมงในแบบสไตล์ของวัยรุ่นสุดซ่าส์ของอเมริกา หญิงสาวคนนี้ไม่ค่อยใส่ใจกับเครื่องประดับมากมายนักเพราะมีเพียงสองชิ้นคือ ตุ้มหูรูปร่างประหลาดสีเหลืองแบบนีออนที่เจ้าตัวซื้อมาเพราะเห็นว่าเก๋ดี และโชคเกอร์อันบางสีดำประดับคอเนียนขาวเท่านั้น


    ลักษณะนิสัย :: ความร่าเริงคือตัวของเธอเอง มีอารมณ์ขันในทุกๆเมื่อ สบายๆไม่ซีเรียสมาก มีความสดใส มีความไฮเปอร์ นอกจากนี้ยังชิลไปกับทุกๆเรื่อง ชอบแอบแขวะไม่ก็พูดประชดคนอื่นด้วยความกวนของตัวเอง และว่ากันว่าเบียทริซเป็นผู้หญิงใจดีประเภทที่จะสอนคนว่ายน้ำไม่เป็นโดยการผลักเขาตกสระน้ำ ที่สำคัญยังชอบเล่นมุกตลกแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พอมีกาละเทศะบ้าง รู้ว่าอะไรควรไม่ควรดี แม้บางทีหล่อนอาจจะไม่ได้ตั้งใจมากก็ตาม


    เธอเป็นคนที่เรื่อยเฉื่อย ว่างๆก็เดินเล่นอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ ราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากเดินเท่านั้น เธอเป็นพวกที่ชอบเกาะกลุ่มกับเพื่อนและมักทำอะไรตามเพื่อนเสมอ ไม่ค่อยทำอะไรแตกต่างหรือแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนบ่อยมากนัก เพราะถ้าเป็นแกะดำคนเดียวในกลุ่มมันก็คงไม่ค่อยโอเท่าไหร่ และถึงแม้มีบางอย่างไม่อยากทำก็ใช่ว่าจะต้องหลวมๆตัวตามเพื่อนหรอกนะ เธอมีสกิลการแถที่โคตรจะขั้นเทพเจ้าดาวเหนืออยู่ ด้วยความไหวพริบดีและความฉลาดส่วนตัว ทำให้เธอสามารถคิดหาวิธีเอาตัวรอดในเวลาที่เหมาะสมได้


    เบียทริซเป็นคนที่เบื่ออะไรต่อมิอะไรได้ง่ายมากๆ เพราะงั้นก็เลยมักจะหาความสนุกใส่ตัวเองเสมอๆ แต่ก็มีไม่บ่อยนักที่จะเป็นแกนนำในการเที่ยวหรือการหาอะไรแก้เบื่อ มักไหลตามเพื่อนไปแม้ตัวเองจะไม่ชอบก็ตาม เธอนั้นเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ๆไม่ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆและเดิมๆ(แต่ถ้าเดินไปเรื่อยๆนี่ไม่นับเพราะชอบ) แต่นอกจากนี้แล้ว เบียทริซเองก็มีภูมิคุ้มกันที่ดีเกี่ยวกับผู้ชายมากๆ ต่อให้โดนว่าหรือโดนล้อมากแค่ไหน เธอก็จะไม่ยอมแสดงท่าทีที่อ่อนข้อออกมาให้คนอื่นเห็นเป็นอันขาด


    อย่างไรก็แล้วแต่ ลึกๆแล้วเบียทริซนั้นกลัวที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ และอะไรก็ตามที่ต้องปรับตัวให้เข้ากัน เบียทริซนั้นลึกๆแล้วอ่อนไหวต่อคำพูดเลวร้ายและเสียดแทงหัวใจมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะยิ้มออกมา ว่าด้วยเรื่องของการยิ้มแล้ว คนที่ยิ้มตลอดเวลาได้นั้นคือคนที่มีสภาวะอารมณ์ที่มั่นคง สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ ควบคุมสถานการณ์นั้นๆได้ เบียทริซจึงเลือกที่จะยิ้มแม้รอยยิ้มนั้นจะแฝงไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างก็ตาม และบางที 'มันก็ไม่ได้ออกมาจากใจเธอจริงๆ'


    มีหลายอย่างในรอยยิ้มของเบียทริซ และนั่นก็แสดงให้เห็นว่าลึกๆแล้ว เธอไม่ได้อยากจะจมปลักกับความเศร้าเลยสร้างหน้ากากชิ้นหนึ่งขึ้น เพื่อปิดบังความเจ็บปวดออกจากสายตาของทุกคน เธอจะไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวดในหัวใจของตนเองให้ใครได้เห็น เบียทริซเลยกลายเป็นผู้หญิงประเภทที่ 'แข็งนอกอ่อนใน' ไปเสียแล้ว และบางทีเธออาจจะโอเวอร์แอ็คติ้งมากถ้ามีใครสักคนนั้นแสดงออกถึงความรักหรือความใส่ใจที่มีให้เธอ อาจจะเผลอร้องไห้ไปเลยก็ได้ และเธอก็ไม่เลือกที่จะเรียกร้องความสนใจจากใครด้วย(แม้บางครั้งจะเผลอก็ตาม)


    เมื่อถึงสถานการณ์ที่คับขัน เธอจะพยายามนึกถึงวิธีที่เอาตัวรอดที่ปลอดภัยต่อตัวเธอมากที่สุด และเมื่อสถานการณ์ที่คับขันและบีบคั้นนั้น มีคนอยู่กับเธอด้วย เธอจะพยายามทำตัวไม่ให้เป็นตัวถ่วง ด้วยการหนีไปก่อนหรือว่าหลอกล่อให้เพื่อนแทน แต่บางทีเธอก็ไม่อยากทำอะไรที่มันฝืนตัวเองมากเท่าไหร่ ถ้าไม่ไหวจริงๆ เธอก็จะบอกว่าไม่ไหว แต่ก็มีน้อยครั้งที่จะพูดออกไปให้ได้ยิน


    ชีวประวัติ :: เบียทริซ เบลลาดอนน่า ไม่ได้มีครอบครัวที่ดีหรือการดูแลที่ดีเหมือนใครเขา


    พ่อกับแม่ มักจะออกไปทำงานตอนเช้า ทิ้งไว้ให้แค่ข้าวกับน้ำเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เมื่อชั้นม.1 เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน ไม่มีใครรู้สกถึงสถานะทางบ้านของเธอหรือการที่ครอบครัวปฏิบัติกับเธอด้วยการเมินเฉยเลย แต่ถึงอย่างนั้น ทุกอย่างในรั้วโรงเรียนก็ดูปกติดี


    เบียทริซจำเป็นที่จะต้องวางผลสอบไว้หน้าห้องของพ่อแม่เสมอ แน่นอนเธอทำมันได้ดีตลอด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เหมือนเดิมทุกวันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น โดนเมินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เคยทานอาหารกันพร้อมหน้าสักครั้งเดียว ทุกๆอย่างในบ้านสองชั้นหลังนี้มันว่างเปล่าไปหมด


    เมื่อพี่ชายของเธอกลับมาจากต่างประเทศ เบียทริซแอบมองจากทางด้านบนของบ้านตรงระเบียง พ่อกับแม่หัวเราะ ยิ้ม และกอดพี่ชายของเธอด้วยความยินดีที่กลับมาจากต่างประเทศได้สักที


    เธอเริ่มรู้สึกแย่เหมือนกับโดนแย่งบางสิ่งบางอย่างไป แม้เธอจะไม่ได้ครอบครองมันมาก่อน


    เบียทริซเริ่มไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนมากเท่าไหร่นัก โจทย์เลขง่ายๆก็ยังหัวทึบไม่สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเหมือนแต่ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็สามารถคงระดับผลการเรียนไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะไม่ดีเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ไม่น่าดู


    เมื่อเธอขึ้นม.3 มีเด็กนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่ เขาชื่อว่า 'อีลายส์' เป็นเด็กที่เรียนเก่ง แต่ว่ามีพฤติกรรมที่เกเร มักมีเรื่องกับเด็กต่างโรงเรียนเสมอจนย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่นตั้งแต่ชั้นประถม เบียทริซคิดว่าจะไม่สนใจและใช้ชีวิตอันสงบสุข...? ของเธอต่อไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักคนแบบนี้


    แต่ว่าทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายเท่าที่คิดเอาไว้เท่าไหร่


    "...นี่ เบลลาดอนน่า ทำการบ้านให้หน่อยสิ" เธอที่มักจะเจอเขาในคาบชีวะและพละศึกษาบ่อยๆก็ต้องมีหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะรำคาญกันบ้างแหละ


    "....นายเองก็เรียนเก่งไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องมาขอให้ฉันทำล่ะ?" เบียทริซกล่าวด้วยความไม่พอใจ จะขี้เกียจก็ขี้เกียจไปได้มั้ย ไม่ต้องมาระรานคนอื่นไปทั่วจนลำบากแบบนี้ ในขณะที่อีลายส์ทำหน้าไม่รู้ประสา น่าตบสิ้นดี"อีกอย่าง ไม่ต้องเรียกฉันด้วยนามสกุลนั้นด้วย ฉันก็มีชื่อ..."


    "อ้อเหรอ" เขายกยิ้มกวนๆขึ้นมาหนึ่งจึ๊ก เธอเกือบจะหวั่นไหวแล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่า...


    ฟึ่บ!


    แรงของอีลายส์ที่เยอะกว่ามากโขนั้นดึงกระเป๋านักเรียนของเบียทริซไปโดยที่ไม่ฟังเจ้าตัวพูดอะไรไล่หลังเลย เขาเปิดกระเป๋าและโยนสมุดการบ้านให้กับเพื่อนๆของตัวเองที่นั่งวงล้อมอยู่ ในขณะที่เบียทริซนั้นพยายามวิ่งมาเอากระเป๋าของตัวเองคืน


    "อ่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวคืน" เขายื่นกระเป๋าให้เบียทริซ สาวเจ้าก็ต้องรับมาเพราะความหงุดหงิดโคตรๆ


    เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญจริงๆ...


    เบียทริซก็เรียนและตั้งใจทำต่อไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจด จด จด และก็จดในสิ่งที่ตัวเองได้ยินและพยายามไม่สนใจชายหนุ่มที่นั่งหัวเราะร่วนกับเพื่อนๆของเขาที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่อาจารย์นั้นกล่าวสอนพวกเขาแม้แต่น้อย เธอนั้นรำคาญมากๆ...


    "ท้ายคาบสอบนะนักเรียน" อาจารย์กล่าว ทำเอาเบียทริซตาเบิกโพลง อะไรกัน! ยังจำไม่ได้หมดเลย เร็วเกินไปแล้วนะนั่นน่ะ!


    ....


    10 คะแนน เต็ม 20 คะแนน


    ถึงแม้เบียทริซจะหัวไว แต่ไม่ได้หมายความว่ามันสมองเด็กมัธยมต้นอย่างเธอจะสามารถเข้าใจอะไรยากๆแบบนั้นได้ไวประดุจสายฟ้าแลบขนาดนั้นกัน แต่เธอก็คิดว่า คงไม่มีอะไรแย่กว่าที่เป็นอยู่อยู่แล้ว เบียทริซจึงทำเหมือนทุกๆวันคือเอาผลคะแนนไปวางหน้าห้องพ่อกับแม่


    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


    เสียงเคาะประตูห้องนอนของเบียทริซดังขึ้น เบียทริซเงยหน้าจากกองการบ้านและลุกไปเปิดประตู พบกับผู้เป็นแม่ที่ก้มหน้าอยู่ เบียทริซค่อนข้างอึ้งและตกใจ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นแม่มาหาถึงห้อง ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว


    "โอ๊ย!!"


    มือเรียวของผู้เป็นแม่กระชากผมของเธอขึ้น ความรู้สึกตึงและเจ็บจี๊ดได้แล่นเข้าทั่วทั้งศรีษะ เมื่อเบียทริซ มองหน้าผู้เป็นมารดาก็ได้รู้ว่า เธอนั้นขมวดคิ้วหนาจนเป็นปมแน่น ดวงตาเบิกโพลงราวกับโกรธแค้น และฟันที่กันริมฝีปากแน่น นั่นเป็นครั้งแรกที่เบียทริซ 'กลัว' แม่ของตัวเองมากๆ


    "เป็นผู้หญิงแล้วยังจะโง่อีก!!!" สาววัยกลางคนตะโกนลั่นด้วยความโกรธ นัยน์ตาสีฟ้าของเบียทริซนั้นสั่นไหวด้วยความกลัว ไหนจะเจ็บที่ผมถูกดึงอีก


    ปึ๊ด!


    "อ๊าาา!!!" เบียทริซร้องลั่น เมื่อมือของคนเป็นแม่นั้นกระชากผมของเธอแรงขึ้นอีก ก่อนที่จะลาก ลาก ลาก ลากตัวเธอไปเรื่อยๆ เบียทริซไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เข่าสีขาวเนียนนั้นลากไถไปกับพื้นหินอ่อนของบ้าน ไม่รู้ว่าผมอันแสนสวยงามของเธอจะขาดไปกี่เส้น และสุดท้าย ก็ถูกลากเข้ามาที่ชั้นใต้ดินของบ้านและถูกยัดขังไว้ในกรง


    แม่ของเธอจัดการล็อกกลอนของกรงขังขนาดใหญ่ที่ไม่มีอะไรนอกจากจานข้าวและถ้วยใส่น้ำ


    "รู็มั้ยว่าที่เลี้ยงแกมา... อยากจะให้ไปเรียนในมหาลัยดีๆ ที่รับแต่คนฉลาดๆ... ฉันคิดว่าแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง... แต่สุดท้ายแกก็เป็นแค่ขยะโง่ๆที่ลอยหน้าลอยตาใช้นามสกุลเบลลาดอนน่าเรื่อยเปื่อย!!" เธอกล่าวลงน้ำเสียงหนักสุดแรง ก่อนที่จะเดินไปหยิบแส้หนังหางกระเบนที่แขวนบนกำแพงมา เบียทริซดวงตาเบิกโพลง เธอไม่ใช่เด็กๆแล้วที่จะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

    ....


    เพียะ!!!


    "ฉันไม่เคยอยากได้ลูกผู้หญิงแบบแกมาก่อนด้วยซ้ำ!!!"


    เพียะ!!!!


    "ฉันไม่อยากได้ลูกโง่ๆแบบแกมาก่อนด้วยซ้ำ!!!"


    "คุณแม่! ขอโทษค่ะ....ขอโทษค่ะ!!! ฮือ!!!" เบียทริซนอนตะแคงตัวขดงอ แขนบังศรีษะให้พ้นจากการรุมทำร้ายทั้งปวง ร่างกายของเธอเปลือยเปล่ามีเพียงแค่เสื้อชั้นในและกางเกงใน เนื้อตัวขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยถูกแส้ฟาด แต่ละจุดมีเลือดไหลออกมาซิบๆ


    "แกมันแย่... คะแนนแค่นี้จะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นได้ยังไง?..." เธอโยนแส้ออกไป ก่อนที่จะออกมาและล็อกกลอนกรงอีกครั้ง


    .....


    "เบียทริซ" อีลายส์เรียกเธอ แต่สาวเจ้ายังเหม่ออยู่


    "..."


    "...เบียทริซ" เขากดน้ำเสียงหนักขึ้น แต่เธอยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง นั่นทำให้เขาหายใจกระฟัดกระเฟียด และคว้ากรรไกรในแขนเสื้อออกมา ก่อนจัดการเพ่งเล็งสายตาไปที่เรือนผมสีบลอนด์สวยงามของเบียทริซ เขายิ้มกริ่มและจัดการง้างกรรไกรให้เส้นผมอยู่ระหว่างแง่งสองแง่งทันที


    ฉับ!!


    "!!!" เบียทริซหันไปมองอีลายส์ ก่อนที่จะพบว่าผมสีบลอนด์สวยของเธอนั้นถูกตัดออกจนแหว่ง สาวเจ้าขมวดคิ้วด้วยความโกรธ "ทำอะไรของนาย!!"


    "ก็เรียกแล้วเธอไม่หันนี่ สมน้ำหน้า ฮะๆๆๆๆ" เขายิ้มร่า


    "ไม่ตลก!!!" เธอขมวดคิ้ว ในใจทั้งโกรธทั้งเศร้าที่เขาบังอาจมาตัดผมเธอเล่น มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยจริงๆสำหรับลูกผู้หญิง อีกอย่าง อีลายส์มาตัดผมของเธอโดยพละการเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือควรทำเลยเลยแม้แต่น้อยเดียว


    "อย่าโกรธสิ... นี่ๆ..." เขาจับแขนของเบียทริซ ทันใดนั้นเองความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาสู่ความรู้สึก


    "โอ๊ย!" อีลายส์เผลอจับโดนแผลของเบียทริซพอดิบพอดี


    "...." อีลายส์หุบยิ้ม ก่อนที่จะจับมือของเบียทริซก่อนที่จะถกแขนเสื้อเธอขึ้น และสิ่งที่ประจักษ์สู่สายตาของเขาคือรอยขีดข่วน ไม่สิ รอยแส้ฟาดที่ไม่ได้ทำแผล จึงเป็นแผลแห้งๆน่าเกลียดน่ากลัว อีลายส์จับคางของตัวเองพลางนึกครุ่นคิด ก่อนที่จะยิ้มออกมาอีกครั้งหนึ่ง


    "ยิ้มอะไร เห็นแผลแล้วยิ้ม เป็นบ้าเหรอ?" เบียทริซค้อนอีลายส์ให้วงเบ้อเริ่ม


    "ฉันว่าครอบครัวเธอมันต้องมีปัญหาหนักแบบสุดๆไปเลยล่ะสิท่า... เป็นเด็กบ้านแตกสินะเบียทริซ" เขาพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู็หนาว นั่นทำให้เบียทริซถูกจี้ใจจำอย่างแรง แต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่กัดปากเท่านั้นเอง "เอางี้ เห็นกลุ่มพวกดาวโรงเรียนนั่นมะ"


    "..."


    "คืนนี้มาปาร์ตี้ที่ห้องฉัน พวกเราจะช่วยเธอปลดปล่อยความเครียดจาดครอบครัวเองนะ" เบียทริซไม่ไว้ใจรอยยิ้มนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว


    ต่อให้ไม่ไว้ใจมากเท่าไหน แต่ว่าเมื่อนึกถึงภาพที่เธอถูกแม่ของตัวเองเฆี่ยนตีด้วยแส้ และถูกขังไว้ในกรงทั้งคืนจนกระทั่งเช้า พร้อมกับอาหารเม็ดสำหรับสุนัขที่เทลงบ้านจานข้าว กอปรกับน้ำที่ไม่สะอาดในถ้วย มันก็ทำให้เธอเริ่มแน่ใจว่าควรจะตอบกลับไปว่าอะไรดี


    "ก็ได้"


    .....


    "นี่มันอะไรน่ะ อีลายส์?" เบียทริซที่กำลังนั่งล้อมวงอยู่กับเพื่อนชายหญิงของเธอนั้นกล่าวถามขึ้น เมื่ออีลายส์ได้ทำการควักเม็ดยาทรงกลมที่มีลายประหลาดๆสลักเอาไว้ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง แต่เมื่อนึกถึงคาบสุขศึกษาที่พึ่งเรียนไปก็ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ "ยาบ้า!?"


    "...ช่าย"เขายิ้มทะเล้น พลางแกะมันออกมาเม็ดหนึ่งและหย่อนลงไปในเบียร์สีเหลืองชัดเจนตรงหน้าเขา "เธอน่าจะลองหน่อยนะ เบีย คนอื่นเขาเคยกินกันหมดล่ะนะ เหลือเธอคนเดียวละ"


    "..." เธอลังเลว่าจะรับดีหรือไม่ เพราะว่ามันเป็นยาเสพติดที่แย่และรุนแรงมากๆ แต่เมื่อได้ยินคำว่า คนอื่นเขากินกันหมดแล้ว ทำให้เบียทริซรีบคว้าแก้วเบียร์ทรงคลาสสิคขึ้นมาซดทันที โดยที่พยายามซดให้โดนเม็ดยานั้น และเมื่อเธอกลืนของแข็งนั้นลงไป ราวกับว่า ร่างกายของตัวเธอนั้นถูกควบคุมโดยคนอื่น


    เบียทริซเริ่มเสพยาต่างๆหนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเฮโรอีน บุหรี่ หรือ โคเคน เธอเสพมันไปเรื่อยๆด้วยความติดและไม่สามารถขาดยาได้นานๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องทรมาณเป็นแน่แท้ และสุดท้าย เธอก็ตัดขาดจากทางบ้านตัวเองไปนานหลังจากได้ลองยาหลายๆวันให้หลัง เธอเริ่มหลงระเริงในโลกของสารเสพติด ไม่มีอะไรหยุดเธอได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เบียทริซนั้นเริ่มซูบผอมและร่างกายทรุดโทรมลง เธอมีความคิดที่อยากกลับบ้าน


    เธอออกจากบ้านอีลายส์มาด้วยสภาพทรุดโทรมเหมือนมีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นกับเธอ แต่พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เบียทริซก็ล้มลง พลันได้ยินเสียงผู้คนมากมายที่รายล้อมและกรูกันเข้ามาช่วยเหลือ...


    เบียทริซลืมตาขึ้นมาในโรงพยาบาล รู้สึกทรมาณ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ปวดตามข้อและหายใจลำบาก เธอคิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเครื่องมือทางการแพทย์นั้นครบครันและเต็มไปด้วยคุณหมอและพยาบาลมากหน้าหลายตา นั่นทำให้เธอเริ่มมีหวังและอยากจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง อยากขอโทษแม่ อยากขอโทษคุณไทหยางที่ทำตัวหยาบคายใส่แต่แรกพบ...


    เบียทริซเข้าร่วมโครงการบำบัดอาการทางจิตและผลข้างเคียงจากยาเสพติด เริ่มเคี้ยวหมากฝรั่งลดความเครียด เธอเริ่มหายเป็นปกติทีละนิดๆ และเริ่มมีแรงจูงใจที่อยากจะมีชีวิตต่ออีกครั้งหนึ่ง ได้พบเพื่อนดีๆที่โครงการมากมาย เธอเริ่มอยากจะทำบางอย่างให้มันถูกต้อง


    เบียทริซแกล้งส่งข้อความไปหาอีลายส์ว่า เธออยากจะลองเสพยาดูอีกสักครั้ง ให้เขาช่วยบอกโลเคชั่นมาให้หน่อย และพบว่าตัวเขานั้นกบดานอยู่แถวๆเดิม เพียงแต่เปลี่ยนโลเคชั่นเพียงไม่กี่บล๊อก และเธอก็เริ่มปรึกษาเรื่องพวกนี้กับพี่ๆนักกายภาพบำบัดที่โครงการ พวกเขาบอกว่าจะจัดการให้ พอได้ยินดังนั้นเบียทริซก็รู้สึกเหมือนตัวเบาอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับว่าได้รับชีวิตใหม่ที่ดีกว่าจริงๆ


    เบียทริซจดจำทุกอย่างที่เธอเจอไว้เป็นบทเรียน เรียนรู้ ปฏิบัติจริง และเวลา ทำให้เธอมีประสบการณ์ และรู้ว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์นั้นซ้ำรอย จนตอนนี้เธอเสนอตัวและอุทิศเวลาว่างเป็นสายให้กับตำรวจเรื่องวัยรุ่นและแก๊งค้ายาเสพติด ถึงแม้บางอย่างจะคอยหลอกหลอนเธอตลอดเวลา...


    เธอเพิ่งมารู้ทีหลังว่า แม่ของเธอนั้นอยากได้ลูกชาย เพราะว่ามีครั้งหนึ่ง ที่แม่ของเบียทริซนั้นไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังมากๆ กับเพื่อนร่วมห้องชายคนหนึ่ง ผลปรากฏว่า ผู้ชายคนนั้นสอบติดที่สุดท้ายพอดี เบียดแม่ของเธอให้ตกอันดับลงมา นั่นทำให้แม่ของเธอปักใจเชื่อว่า ผู้ชายนั้นมีสิทธิมากกว่าผู้หญิงหลายเท่าตัว และมหาวิทยาลัยที่แม่ของเบียทริซนั้นหวังให้เธอเข้านั้นก็เป็นมหาวิทยาลัยเดียวกัน กับที่แม่ของเธอนั้นสอบเข้าไม่ติด....



    ความสามารถพิเศษ :: สกิลการแถเนียนและความมีสติที่ดี


    พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ :: มักจะเคี้ยวฟันตัวเองเพราะความเคยชินจากการกินหมากฝรั่งตอนบำบัดบ่อยๆ


    สิ่งที่ชอบ :: 1.หมากฝรั่ง เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอเลิกบุหรี่ จนตอนนี้ก็ไม่ค่อยพกติดตัวมาเท่าไหร่ แต่ถ้าเห็นเพื่อนเอามาก็มีแย่งเสมอๆ

    2.สีชมพู มันเป็นซิกเนเจอร์ของเธอ ไม่เชื่อดูสีผมสิ

    3.การเล่นมุขตลก มันเป็นการคลายความอึดอัดและอัดอั้นในใจอย่างนึงของเธอ เวลาไม่ได้พูดอะไรมันจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใบ้แล้วพูดไม่ออก มันอึดอัด เธอต้องการ Say it LOUD!


    สิ่งที่ไม่ชอบ/เกลียด :: 1.คนที่ล้อเลียนปมด้อยคนอื่น มันเป็นเหตุการณ์ที่เธอเจอมากับตัว มันแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะกดคนอื่นให้ต่ำลง และอีกอย่าง เธอไม่โอเคมากๆกับการหยิบยกเรื่องละเอียดอ่อนมาล้อเล่น

    2.คนขัดมุข มันคิลมู๊ดน่ะ อารมณ์เสีย!


    สิ่งที่กลัว :: ไม่มีเป็นพิเศษ แต่ว่าถ้ากลัวแบบกลัวเฉยๆ(กลัวไม่มาก) คงจะเป็นยาเสพติด เพราะเธอเคยรู้สึกทรมานจนเกือบตายเพราะของพวกนั้นมาแล้ว


    งานอดิเรก :: เดินเล่นในย่านการค้า ไม่ก็เดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย ขี้เกียจเดินต่อก็เลี้ยวกลับ


    ลักษณะคำพูด :: น้ำเสียงของเธอจะดูสดใสร่าเริงและไฮเปอร์เกินร้อย บางทีก็แหลมเล็กดูเข้ากับใบหน้าและลักษณะนิสัย ในขณะที่คำพูดนั้นกวนๆแอบวกไปวนมาดูเข้ากันกับน้ำเสียงซะไม่มี


    เมื่อเล่นมุข : "...หืม? แผลนี่น่ะเหรอ เมื่อวานไปเจอน้ำมันมาน่ะ" เธอยิ้มให้กับคนฟัง ในขณะที่อีกคนทำหน้างงและกำลังจะเอ่ยตอบนั้น เบียทริซก็พูดตัดหน้าด้วยรอยยิ้มยิงฟันเกินร้อยออกมา "น้ำมันพรื่ด!"


    เมื่อแถ : "...หืม? น้ำหกใส่สมุดเหรอ?" เบียทริซมองสมุดที่เปียกโชกซึ่งเป็นฝีมือตัวเองพลางปรับสีหน้าและอารมณ์ให้คงที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะปิ๊งเหตุผลออกมาได้หนึ่งข้อ ยังไงซะนี่ก็โรงเรียนนานาชาติ "ก็นะ... เมื่อกี๊เราไม่ได้มองสมุดเธอไว้ให้อ่ะ สงสัยจะมีคนเอเชียมาเล่นน้ำสงกรานต์แถวๆนี้แน่เลย!"


    เมื่อเธอเบื่อ : "โฮ่..." เธอมองไพ่โป๊กเกอร์ในมือตรงหน้า ฝั่งตรงข้ามมีเพื่อนสาวคนสนิทนั่งอยู่ ก่อนที่เธอจะพยายามนึกถึงเลขที่อีกฝ่ายมี ก่อนที่จะค่อยๆรวบรวมและประมวลผลในสมอง พบว่าเลขที่เป็นไปได้มันมีแค่เล็กน้อย ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าเลขที่นึกถึงอยู่ฝั่งตัวเอง และคิดสลับไปมาว่า อ้าว แล้วอีกฝั่งเลขอะไร ก่อนที่จะปาไพ่อัดโต๊ะ"ไม่เล่นแล้ว เบื่อ ยุ่งยากจริงจริ๊ง!" เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะลากเพื่อนสาวที่นั่งงงอยู่ออกไปจากห้อง


    เมื่อโดนขัดมุข : "โอ๊ะ นายหิวเหรอ?... สวัสดีหิ---"

    "หิวบ้านป้าเธอสิ!!" ชายหนุ่มขัดมุขอีกฝ่ายทันที

    "SHADDUP!!!" เธอปิดปากเพื่อนด้วยความโมโห ก่อนที่จะแอบล้วงหมากฝรั่งในกระเป๋ามันไปข้อหามาขัดมุขท่านเบียทริซผู้นี้ และวิ่งหนีไปโดยปล่อยให้มันโวยวายไล่หลังมา


    เมื่อเข้าโหมดซีเรียส(กว่าเดิมนิดนึง) : "เอาจริงๆนะคะคุณดาบตำรวจ ตอนนี้เบียโคตรไม่อยากเล่นมุขเลย" เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มเหนื่อยๆ กุมแผลของตัวเองไว้เบาๆ พบว่าตัวเองยังไม่สามารถต่อกรกับพวกกุ๊ยพวกนี้ได้เพราะได้แผลมาแล้วตั้งสองสามแผล อยู่ไปก็ถ่วงเปล่าๆ "ยังไงก็แล้วแต่นะคะ เบียไม่อยากอยู่ถ่วงคุณ ยังไงก็ขอให้มีชีวิตรอดกลับมาในวันที่เบียจะเต๊าะคุณต่อก็แล้วกันนะ... บายบี! :)"



    ตำแหน่ง/หน้าที่การงาน :: สายสืบในวงการขายยาให้กับตำรวจ


    เพิ่มเติม ::❀เกิดวันที่ 25 กรกฏาคม


    ❀รสนิยมไบท์เซ็กชวล


    ❀กรุ๊ปเลือด B


    ❀ราศีกรกฏ


    ❀ความสัมพันธ์ของเธอกับอีลายส์นั้นค่อนข้างคลุมเครือ ไม่มีอะไรอธิบายได้ นอกจากว่าอีลายส์มองว่าเธอเป็นเด็กเนิร์ดที่ลอกการบ้านได้ และเบียทริซมองว่าอีลายส์เป็นเด็กอันตรายที่มีปัญหา

    ❀เบียทริซนั้นมีรอยแผลเป็นที่แขน ได้มาจากการปกป้องใบหน้าจากการถูกแส้ฟาดในประวัติ บางทีมันก้เจ็บแปลบๆขึ้นมาไม่มีสาเหตุ


    TALK WITH ME


    ไฮค่ะ .โค้งเอาหัวโหม่งพื้น(?). เรียกตามนามแฝง ฮันนี่ ได้ค่ะ ชื่อไรเอ่ยเตง? :: ซีนค่ะ นามแฝง Unseendarkness


    เรื่องนี้เป็นแนวที่เพิ่งเคยแต่งค่ะ อาจดราม่าแต่ไม่สุดและปมก็อาจจะไม่สุดเช่นเดียวกันเพราะยังไม่ถนัดอะไรแบบนี้ ต้องรับให้ได้นะตัวที่การบรรยายเรากาก ;__; :: ค่ะ สู้ๆนะคะ เราช่วยอะไรไม่ค่อยได้หรอก5555555


    ขึ้นม.ปลายแล้วค่ะมีดองแน่นอนและไม่รู้ด้วยจะอัพตอนไหน ยังต้องปรับตัว รอกันได้ไหมเอ่ย? .สะกดจิตว่ารอได้รอได้(?). :: ได้ค่ะได้


    ถ้าไม่ติดจะเป็นอะไรมั้ยคะ จะบึ้มบ้านเราไหม ถถถถ. :: ก็แล้วแต่นะคะว่าอยากจะบึ้มมากแค่ไหน5555


    ถ้าเกิดไม่ติดขึ้นมาจริงๆจะอนุญาตให้เรานำตัวลูกสาวไปเป็นตัวประกอบหลังฉากได้หรือไม่ บอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าบางคนออกแค่ชื่อหรือนานๆทีออกมาทั้งตัว(?) รับกลับได้นะคะไม่ต้องกลัวบอกมาเยยยย >< :: ได้เลยค่ะ ออกมาแค่ฉากสองฉากก็ดีใจ55555


    คิดว่าตัวเองจะได้คู่กับใครหรือชอบใครเป็นพิเศษมั้ยเอ่ยย? :: ป๋าซัน--- แค่กค่อก


    ขอคำนิยามให้ลูกสาวตัวเองหน่อยค่ะ! :: เด็กสาวผู้มีบาดแผลในใจกับครอบครัวของตัวเองจนเผลอถลำลึกเข้าด้านมืดไปจนเต็มตัว แต่ก็ฉุดตัวเองขึ้นมาได้แม้จะต้องทนเจ็บปวดอยู่กับอดีตก็ตาม


    สุดท้ายนี้ก็ขอใหโชคดีมีชัย เดินทางปลอดภัย ข้ามถนนก็ระวังรถ--- แค่ก :: *ไอเป็นเพื่อน*

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×