NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฐพีอุ้มรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ปฐพีอุ้มรัก #4 [2/2]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 60


    บทที่ 4 [2/2]


    โป๊ก โป๊ก โป๊ก
    ผมช่วยงานอะไรคุณทีไม่ได้ แต่ผมไม่อยากอยู่เฉย ระหว่างรอผมจึงถามครูอารีว่ามีอะไรให้ผมช่วยไหม เธอบอกว่าไม่มี ครู่หนึ่งครูก็ทำหน้ากึ่งเกรงใจแล้วบอกผมว่า พายุทำให้กิ่งต้นจาจุรีหักลงใส่ศาลานั่งเล่นของเด็กๆ มันเป็นรูโหว ครูบอกว่าซื้อสังกะสีมาแล้วแต่ยังไม่มีเงินจ้างช่างมาซ่อม ที่ครูไม่บอกตอนแรกเพราะเห็นว่าเด็กท่าทางเรียบร้อย(?)อย่างผมคงทำงานแบบนี้ไม่เป็น
    แต่ครูคิดผิดครับ นั่นงานถนัดผมเลย
    ผมตอกตะปูผนึกแผ่นสังกะสีเข้ากับโครงหลังคาอย่างชำนาญ ไม่ต้องสงสัยว่าผมเรียนเกษตรทำไมถึงทำงานก่อสร้างได้ ก็ที่บ้านผมไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวย อะไรที่พอจะทำเองได้ก็ทำ เช่นงานต่อเติมบ้านเล็กๆ น้อยๆ ผมได้ความรู้มาจากพ่อตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อสืบทอดมาจากปู่อีกที ส่วนปู่ผมได้ความรู้มาจากไหนผมไม่ทันได้ถาม เพราะเท่าที่จำความได้ท่านก็ไม่อยู่ให้ผมถามแล้ว
    "ไหวไหมหนูดิน ระวังตกนะ" ครูอารีถามอย่างเป็นห่วงพลางจับบันไดช่างให้ผม
    "สบายมากครับครูอารี อีกแค่แผ่นเดียวก็เสร็จแล้ว"
    เมื่อผมปูหลังคาแผ่นแรกสำเร็จก็เอาสังกะสีแผ่นที่สองทับลงไป มือหนึ่งหยิบตะปูหัวแบนที่เตียมไว้ในกางเกงออกมาตอกลงบนสังกะสีฝั่งที่เป็นร่องให้ตรงกับส่วนที่เป็นขื่อหลังคา แค่ขื่อละสามสี่ดอกก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
    "ลงมาดีๆ นะลูก"
    "ฮึบ! เสร็จแล้วครับ" ผมกระโดดลงจากบันไดช่างขั้นสุดท้าย ยิ้มกว้างโชวผลงาน
    "ไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน เนื้อตัวมอมแมมหมดแล้ว"
    ประเทศไทยช่วงบ่ายแก่ๆ แม้จะเกือบเย็นแล้วแต่ก็ยังร้อนอบอ้าว ทำงานใช้แรงทำให้เนื้อตัวเหนอะหนะ
    "ก๊อกน้ำอยู่ตรงไหนครับครู"
    "ตรงสวนดอกไม้โน่นน่ะ สายยางสีเขียวนั่น"
    ครูอารีชี้ไปที่สวนกุหลาบ ผมเดินไปหยิบสายยาง แล้วความไวของสายตาก็สังเกตเห็นว่า ต้นกุหลาบในสวนเล็กๆ ของครูอารีออกดอกแค่ไม่กี่ดอก
    "ทำไมกุหลาบของครูไม่ค่อยมีดอกเลยล่ะครับ ครูตัดกิ่งมันบ้างไหมครับ"
    "ครูเห็นมันสวยมากครูเลยไม่กล้าตัด ครูรดน้ำมันทุกวันเลย ไม่มีอะไรทำครูก็มารดน้ำต้นไม้ แต่มันก็ไม่ค่อยออกดอก"
    อย่างนี้นี่เอง
    "ไม่ต้องเสียดายครับครู ตัดกิ่งบ้างมันจะได้ออกดอกเยอะครับ ความจริงแล้วกุหลาบมันไม่ค่อยชอบน้ำเท่าไหร่ แค่อาทิตย์ละสองสามครั้งก็พอแล้วครับ"
    "อย่างนี้นี่เอง ไม่น่าล่ะ..." ครูอารีพยักหน้ากับตัวเอง "อ้อ รอสักครู่นะเดี๋ยวครูไปเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้" ครูอารีบอกเมื่อเห็นว่าผมลากสายยางออกห่างสวนกุหลาบ
    รอให้น้ำร้อนที่ค้างสายยางออกหมดก่อน เมื่อน้ำเย็นออกมาแล้วผมจึงลาดสายยางราดหัว ค่อยสดชื่นขึ้นมาหน่อย น้ำเย็นชื่นใจแบบนี้ได้อาบทั้งตัวคงสบายไม่น้อย แต่ผมก็ทำได้เพียงแค่ถอดเสื้อแล้วเอาน้ำพรมตามร่างกายเท่านั้น เสื้อนักศึกษาเองก็เปื้อนเหงื่อไคลพอสมควร ผมเลยซักมันเสียเลย เสื้อบางๆ แปปเดียวก็แห้ง ไม่อยากเอาตัวเหม็นเหงื่อเข้าไปในรถของคุณที
    ซักเสื้อเสร็จก็บิดหมาดๆ จากนั้นก็สบัดสองสามรอบไล่น้ำ ลืมดูทิศทาง ไม่เห็นว่ามีคนเดินมา ตอนแรกผมคิดว่าเป็นครูอารี แต่ไม่ใช่
    "โอ๊ะโอ... คุณที ขอโทษครับ ผมไม่ทันได้มอง"
    "......"
    น้ำจากเสื้อกระเซ็นเต็มหน้าเขา แววตานิ่งจ้องมาที่ผม เขาไม่พูดอะไร และผมเองก็อ่านอารมณ์จากสีหน้าเขาไม่ออกเช่นกัน ผ่านไปครู่หนึ่งเข้าก็ยังไม่มีปฏิกิริยาต่อคำขอโทษของผมแต่อย่างใด
    หรืิอจะโกรธจนพูดไม่ออก?
    "คุณที คุณทีครับ?"
    "หะ หืม? ว่าไง?"
    ผิดคาด น้ำเสียงไม่มีแววความโกรธแม้แต่น้อย
    "หน้าคุณ...น้ำจากเสื้อผมเต็มไปหมดเลย..."
    "......" เหมือนเขาเพิ่งรู้ตัวว่าหน้าตัวเองเปียก
    "ขอโทษนะครับ ผมไม่ทันมองว่าคุณเดินมา"
    "ไม่เป็นไร" คุณทีใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ถือมาเช็ดหน้า จากนั้นเขาก็ยื่นมันให้ผม "ครูอารีให้เอามาให้นาย"
    "...ขอบคุณครับ" ผมใช้ผ้าที่ได้มาเช็ดหน้า ขยี้ศีรษะเปียกน้ำลวกๆ แล้วเช็ดตามร่างกายบนเปลือยเปล่าให้แห้ง หลังจากจัดการกับร่างกายตัวเองเสร็จผมถึงได้สังเกตว่าหน้าของคุณทีเป็นสีแดง เขาเป็นคนผิดขาว แม้จะแค่สีแดงอ่อนๆ ก็สามารถเห็นได้ชัดเจน
    หรือว่าคุณทีจะ..
    "คุณทีไม่สบายหรือเปล่าครับ? คุณหน้าแดง"
    "วันนี้แดดร้อนน่ะ..." คุณทีเบือนหน้าไปหาดวงอาทิตย์ที่กำลังคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ ดวงตาเฉี่ยวหยีเล็กลงเมื่อต้องแสงอาทิตย์เข้าเต็มๆ
    เขาชอบหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน วันๆ เอาแต่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มันเลยทำให้ร่างกายเขาอ่อนแออย่างนี้แหละ บางทีผมก็อยากลากเขาออกจากห้องแล้วบังคับให้เขาไปวิ่งบนลู่วิ่งฟิตเนสของออฟฟิศสักวันห้ากิโล แม้ร่างกายเขาจะไม่มีไขมันส่วนเกินเลยก็ตาม แต่ว่าเขาควรทำอะไรเพื่อสุขภาพตัวเองบ้าง
    แต่ก็นะ ผมมันแค่คนขับรถ ริอาจจะไปสั่งเจ้านายได้ยังไง
    "ลงโปรแกรมเสร็จแล้วหรอครับ"
    "เสร็จแล้ว" เขาตอบเสียงเรียบ "ฉันว่าเรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะ ไปตามเสื้อให้แห้ง จะได้กลับบ้านกัน"

    ครูอารีพาเด็กๆ ไปทำกิจกรรมยามเย็นกัน ในบ้านเลยเหลือแค่ผมกับคุณที เสียงเสื้อนักศึกษาปะทะกับพัดลมเกียร์แรงสุดเป็นซาวด์ประกอบความเงียบระหว่างเรา นอกจากเรื่องดินฟ้าอากาศที่ผมคุยกับเขาหลายรอบแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะชวนผู้ชายคนนี้คุยอะไรดี จะให้ผมถามเขาเรื่องคอมพิวเตอร์ผมก็ไม่มีความรู้ ครั้นผมจะเล่าเรื่องต้นไม้ใบหญ้าให้ฟัง เขาก็คงตอบมาเพียงแค่ 'อืม อย่างนั้นหรอ' แล้วก็จบ ไม่มีคำถามกลับ ไม่มีรีแอคใดๆทั้งสิ้น ไม่เพียงแค่เรื่องความถนัดของเราที่ต่างกัน แต่เขาอายุมากกว่าผมสิบปี ในขณะที่ผมยังคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้จะเอาไงต่อกับชีวิต เขาคิดถึงเรื่องบริษัท ลูกน้องอีกหลายชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ ชีวิตเขาดำเนินไปก่อนผมสิบปี แต่ยังไงผมก็ยังอยากคุยกับผู้ชายคนนี้รู้เรื่อง อยากมีเรื่องราวที่เราสามารถคุยกันได้
    ผมต้องหาเรื่องคุย เพราะอยู่ที่ทำงานเราแทบไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้เลย
    "ตอนที่คุณทีบอกว่าจะซื้อของมาให้ลูก ผมนึกว่าลูกแท้ๆของคุณซะอีก" ผมนึกคำถามออกมาได้เมื่อมองไปนอกหน้าต่างเห็นเด็กๆ กำลังนั่งล้อมวงกับครูอารีอยู่ที่สนามหญ้า
    "อย่างนั้นหรอ"
    "แล้วคุณทีไม่มีแฟนหรอครับ"
    "ไม่มี"
    "เป็นไปได้ยังไง ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างคุณ ไม่มีผู้หญิงเดินเข้ามาในชีวิต" ถ้าเป็นผมก็ว่าไปอย่าง หล่อนะ แต่บ้านจนและคนมองว่าเป็นคนดีเกินไปจนไม่มีใครอยากคบเป็นแฟน "แต่ผมเชื่อว่าคุณทีต้องมีรักแรก ใช่ไหมครับ"
    คุณทีเงียบไปครู่นึงก่อนตอบ "...ก็มี"
    "เขาเป็นคนยังไงครับ"
    คุณทีเงียบไปนานกว่าเดิม แล้วใบหน้านิ่งๆ นั่นหมายความว่ายังไง ผมอ่านความหมายไม่ออก หรือว่าพอเห็นเขาคุยด้วยเลยย่ามใจ เผลอถามเรื่องส่วนเขามากเกินไป
    ให้ตายสิไอ้ดิน ผมอยากจะตีตัวเองนัก
    "เขาเป็นทุกสิ่งมี่ตรงข้ามกับฉัน..." เขาตอบผมมม
    "......" ผมตั้งหน้าตั้งตารอฟังว่าคุณทีจะพูดอะไรต่อ
    "แล้วนายล่ะ"
    "ครับ?"
    "รักครั้งแรกของนายเป็นยังไง" เขาไม่เล่าต่อ เปลี่ยนมาถามผมแทน
    ผมหวังให้เขาเล่าเรื่องส่วนตัวมากกว่านี้ แต่ไม่เป็นไร เราจะค่อยเป็นค่อยไป
    "ผมหรอครับ ผมเคยมีแฟนคนแรกตอนมอหก เธอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน เธอตัวเล็ก น่ารักมากครับ ตัวเล็กๆ ของเธอทำให้ผมรู้สึกว่าผมปกป้องดูแลเธอได้ แต่การดูแลของผมมันมากเกินไป เธอบอกเลิกผม เธอบอกว่าเธออยากได้แฟนไม่ได้อยากได้พี่ชาย"
    "นายชอบผู้หญิงตัวเล็กหรอ"
    "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะผมเคยมีแฟนแค่เดียว"
    "อย่างนั้นหรอ"
    ใบหน้านิ่งกระตุกยิ้มน้อยๆ แม้เพียงแวปเดียว
    "คุณยิ้มทำไมครับ หัวเราะเยาะผมหรอที่ผมเคยมีแฟนแค่คนเดียว" ผมหน้าบูดบึ้งจ้องเขม็งคุณทีแกล้งทำเป็นโกรธ แต่จริงแล้วดีใจด้วยซ้ำที่เขามีปฏิกิริยาต่อคำพูดผม
    "เปล่า ฉันแค่คิดว่าตลกดี เพราะฉันก็เคยมีแฟนแค่คนเดียวเหมือนกัน"
    "นั่นสิครับ ถ้าเราจะอาภัพรักกันทั้งคู่ขนาดนี้"
    แล้วเราก็ยิ้มให้กับชีวิตรักของตัวเอง
    แม้เขาจะพูดไม่มาก แต่มันไม่น้อยเลยสำหรับผม รู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ข้ามขั้นจากเจ้านายกับคนขับรถแล้วนิดนึง



    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------
    [คุยกัน]
    อ่านวันละนิดจิตแจ่มใส อ่านมากไม่ได้ เขียนไม่ทัน 555(น้ำตาอาบแก้ม)
    เอาครึ่งตอนที่เหลือมาลงให้ค่ะ


    ยังไงล่ะ ดินขี้อ่อยไม่รู้ตัว น้องดินเหมือนจะชอบสาวตัวเล็ก แต่คุณทีเป็นหนุ่มตัวใหญ่
    แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แม้จะเพียงหนึ่งวินาทีข้างหน้าก็ตาม ไม่มีอะไรแน่นอน 100% ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่รักกันไวๆ ด้วยนะคะ ตอนนี้คนเขียนเองก็อยากเห็นน้องดินยั่วคุณที อยากเห็นคุณทีอ่อยน้องดินแล้วเหมือนกัน -,.-



    มีข้อผิดพลาดตรงไหนก็แนะนำกันได้
    เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ



    รัก
     UmeshuSoda
    (เหล้าบ๊วยผสมโซดา อร่อยยยยยย)



    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×