NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฐพีอุ้มรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ปฐพีอุ้มรัก #2

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 60


    บทที่ 2

    "ดิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้วนะ"
    คุณกร......ไหนบอกว่าจะจัดการให้ไง!
    วันนี้ผมก็เข้ามาทำงานตามปกติ แล้วพี่ตุ๊กตาก็มาบอกผมว่าคุณติณเจ้าของร้านอยากจะคุยกับผม พอเข้ามาในห้องทำงานผมก็เห็นคุณติณนั่งทำหน้าลำบากใจแล้วเอ่ยประโยคนั้นกับผม
    "ผมโดนไล่ออกหรอครับ คือเรื่องนั้นผมอธิบายได้นะครับคุณติณ!"
    "ใจเย็นๆ ก่อน ฉันไม่ได้ไล่นายออก แต่ฉันมีงานใหม่ให้นายทำ"
    "อะไรครับ"
    "ฉันรู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว อากร เอ่อคุณทินกรกระดูแขนร้าวต้องเข้าเฝือกหนึ่งเดือน ไม่สามารถขับรถให้พี่ทีได้ เขาเลยอยากจะขอให้นายไปช่วยขับรถให้พี่ทีได้ไหมในระหว่างที่คุณทินกรรักษาตัวอยู่"
    "ผมหรอครับ?" ผมชี้มาที่ตัวเองงงๆ แล้วคุณติณ เจ้านายของผมก็พยักหน้า
    "นายแค่ไปทำงานที่นั่นชั่วคราว คุณทินกรสามารถกลับมาขับรถให้พี่ทีได้เมื่อไหร่นายค่อยกลับมาทำงานที่นี่ก็ได้"
    "......"
    "เรื่องนี้พี่ทีเป็นคนขอมาเอง เขาคงอยากได้นายจริงๆ ฉันเองก็คิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนายเหมือนกัน การได้ทำงานกับคนอย่างพี่ที ฉันมั่นใจว่านายจะต้องได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยได้รับในห้องเรียนแน่นอน เพราะตัวฉันเองก็ได้รับมันมาแล้ว ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่าที่ฉันมีทุกวันนี้ได้เพราะพี่ชายคนนั้น"
    ยามที่คุณกำลังเทิดทูนใครสักคน ดุจดั่งเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แววตาจะทอประกายระยิบระยับ และผมก็เห็นส่ิงนั้นในแววตาของคุณติณเจ้านายของผมเมื่อยามที่เขาพูดถึงคุณที เขามีอิทธิพลต่อคุณติณอย่างเห็นได้ชัด และอิทธิพลนั้นกำลังมาลุกลามมาที่ผมแล้วเช่นกัน
    "ตกลงครับคุณติณ"
    ผู้ชายคนนั้นเป็นคนสร้างคำว่า 'อยาก' ให้เกิดขึ้นมาในชีวิตของผม อิทธิพลที่เขามีต่อผม อยากรู้เรื่องราวของเขามาแค่ไหน
    "ขอให้โชคดีนะดิน นี่บัตรพนักงานของนาย ขึ้นไปได้เลยพี่ทีรออยู่"

    ประตูลิฟต์ชั้นสิบเปิด ผมก้าวออกมาจากลิฟต์ ดูเหมือนชั้นนี้ทั้งชั้นจะเป็นของบริษัท NTF ป้ายบริษัทติดที่ผนังเด่นเห็นได้ชัด ผมเดินเข้าไปใกล้ประตูกระจกทึบบานใหญ่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงตี๊ดๆ ถ้าผมหูไม่ฝาดมันดังมาจากบัตรพนักงานที่ผมแขวนไว้ที่คอ
    ครืดดด
    ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ก็เปิดอัตโนมัติ ความเงียบสงบเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงเจี๋ยวจ๊าว พนักงานจำนวนไม่มากแต่เดินกันควักไขว่จนดูวุ่นวายไปหมด ทุกคนเหมือนกำลังร้อนรนกับอะไรบางอย่าง ส่วนคนที่นั่งอยู่ก็กำลังรัวคีย์บอร์ดสลับกับการดูหน้าจอคอมพิวเตอร์สามจอที่ตั้งตรงหน้า ไม่มีใครคิดสนใจไอ้เอ๋อที่ยืนทำหน้างงอย่างผมเลย
    นี่มัน...... อะไรวะเนี่ย
    "น๊อต! โค๊ดที่ให้ดีบักเมื่อวานเสร็จหรือยังวะ"
    "ยังเลยพี่ อีกนิดนึง"
    "มันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอวะถึงยังไม่เสร็จ ไม่ต้องเปลี่ยนเวอร์ชั่นเลยเหรอ"
    "ไม่หรอกพี่ ผมแค่ติดอีกงานเพิ่งได้เริ่มทำเมื่อกี้นี้เอง"
    ชายสองคนตะโกนข้ามโต๊ะพูดในเรื่องที่ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
    "......" ผมมองซ้ายมองขวาหาคนที่พอจะช่วยผมได้ว่าห้องคุณทีไปทางไหน
    "เสร็จแล้วพี่ ผมส่งไปให้ละ"
    "ได้ละ"
    "พี่น๊อตคะ อินเตอร์เฟสของ POS ร้านเบเกอรี่เสร็จหรือยังคะ หวานต้องจะต้องเอาไปนำเสนอลูกค้าบ่ายนี้แล้ว"
    "เสร็จเรียบร้อยแล้วครับน้องหวาน งานดีไม่มีที่ติเลย"
    ผู้หญิงผมยาวดัดรอนในชุดวันพีชสีหวานดูไม่เหมือนพนักงานบริษัทเดินผ่านผมไปหาพี่แว่นที่เธอเรียกว่าน๊อตซึ่งคือคนเดียวกับที่ตะโกนข้ามโต๊ะคุยกับพี่ผู้ชายอีกคน เธอรับไอเเพดจากพี่เเว่นแล้วเดินจากไป ให้พี่แว่นมองตามตาละห้อย
    "ที่แท้ก็ทำงานสาวก่อนนี่เองงานข้าถึงได้ช้า"
    "lady first ไงพี่"
    "lady flirt ล่ะสิไม่ว่า"
    "แหมะ ก็นิดนึง"
    จนตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสังเกตุเห็นผมเลย กระทั้งมีใครคนนึงสะกิดผม เขาใส่เสื้อเชิ้ตคอวีสีขาวกางเกงขาพับสีเขียวเหมือนใบเตย รองเท้าสีน้ำตาลขัดมันไม่สวมถุงเท้า มองยังไงก็ไม่เพื่อนชุดของพนักงานบริษัทเลยแม้แต่น้อย
    "น้องว่างอยู่ใช่มั้ย?" เขาถามผมขณะที่มือถือเอกสารกองเท่าเข้าพระสุเมรุ
    "ครับ?"
    "ดีละ ช่วยถือหน่อย แล้วตามพี่มา"
    พูดจบเขาก็ยัดเอกสารกองนั้นใส่มือผม เดินน้ำหน้ากวักมือให้ผมเดินตาม พี่! ที่ผม 'ครับ?' ไม่ได้หมายถึง 'ว่าง' ผมหมายความว่า พี่ถามผมหรอ'ครับ?' เห็นเครื่องหมายคำถามที่หน้าผมไหมเนี่ย
    บ่นในใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผมเลยตามน้ำ เดินตามพี่คนนั้นไป
    เขาพาผมมาโผล่ยังห้องที่เหมือนจะเป็นห้องประชุม ขนาดห้องไม่ใหญ่มาก มีคนสามคนนั่งฟัง พนักงานคนหนึ่งกำลังนำเสนองาน
    "นี่เป็นตัวอย่างอินเตอร์เฟสซอฟต์แวร์โรงแรมไดมอนด์ที่เราจะนำไปเสนอในงานประมูลครับ หรูหราสมกับความเป็นไดมอนด์ ส่วนลายละเอียดฟีเจอร์ต่างๆ อยู่ในเอกสารที่จะแจกให้นี้ครับ"
    แล้วพี่กางเกงเขียวก็สะกิดบอกผม
    "ทำอะไรอยู่ เอาเอกสารไปแจก"
    "ครับๆ"
    ผมเอาเอกสารในมือไปแจกให้ทุกคนจนครบแล้วกับมายืนเอ๋อข้างพี่ชายกางเกงสีเขียวเหมือนเดิม บางทีพวกพี่ๆ ก็ควรจะเอะใจบ้างนะว่าผมไม่ใช่คนในบริษัทนี้!
    "คุณทีคิดว่าเป็นยังไงบ้างครับ" พี่พนักงานที่เป็นคนนำเสนอถาม
    คุณที? อยู่ไหน ผมมองซ้ายมองขวาหาจนทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอ และในขณะที่ผมกำลังเหลียวซ้ายมองขวาอยู่นั่นเอง เสียงเรียบๆ ที่ผมเคยได้ยินก็ดังขึ้น
    "อินเตอร์เฟสที่คุณออกแบบมามันสวยดี สวยมาก แต่ผมว่ามันไม่เหมาะ คนที่ใช้งานซอฟต์แวร์นี้คือพนักงาน ไม่ใช่แขกของโรงแรม เพราะฉะนั้นควรจะเน้นที่ความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริการลูกค้า ลองไปออกแบบมาใหม่ ส่วนฟีเจอร์ผมจะไปอ่านรายละเอียดอีกทีแล้วจะให้คอมเม้นทีหลัง พวกคุณด้วย ประชุมครั้งหน้าผมอยากได้ยินความคิดเห็นของพวกคุณเกี่ยวกับฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์ตัวนี้"
    "ทราบแล้วครับคุณที"
    นั่น......คุณทีหรอ? ทำไมไม่เหมือนคนที่ผมเห็นเมื่อวานเลยล่ะ ผู้ชายที่แต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าหายไป เหลือเพียงแต่ชายที่ผมด้านหน้าไม่ได้เซตเลยเหมือนมีหน้าม้าลงมาปิดหน้าผากหน่อยๆ แว่นตากรอบหน้าปกปิดแววตาเฉียบคมเอาไว้ เสื้อยืดโปโลสีเทานวลและกางเกงสแลก เด็กเนิร์ดขนานแท้... น่ารักว่าลุคเมื่อวานเยอะเลย
    ผมเผลอคิดอะไรอยู่ ชมผู้ชายตัวโตเท่าๆ กันว่าน่ารักเนี่ยนะ
    "ดิน?"
    คุณทีมองด้วยแววตาสงสัยว่าผมมาทำอะไรที่นี่ ผมได้แต่ยิ้มแยๆ ให้ เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามาทำอะไรที่นี่
    "สวัสดีครับคุณที"
    "อ้าวน้อง ไม่ใช่เด็กฝึกงานที่นี่หนิ" ในที่สุดพี่กางเกงเขียวก็รู้ตัวสักทีว่าพี่ลากมาผิดคน "แขกของคุณทีหรอกหรือครับ ผมขอโทษจริงๆ เห็นน้องเขายืนเอ๋อๆ เลยนึกว่าเป็นเด็กฝึกงานมาใหม่"
    "ไม่เป็นไรหรอกธันวา ดินจะมาทำงานแทนคุณกรชั่วคราว ไหนๆ นายเป็นคนพาดินมาแล้วก็เป็นคนสอนงานให้ดินเลยก็แล้วกัน"
    "ครับคุณที"
    "เอาล่ะ เลิกประชุมได้"
    ทุกคนในห้องประชุมเก็บเอกสารทะยอยออกจากห้องไป คุณทีก็เช่นกัน เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างดึงร่ายกายผมให้ตามเขาไป ทว่าผมกลับทำไม่ได้เพราะพี่กางเกงเขียวจูงแขนแยกไปอีกทางซะก่อน ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาเว้าวอน หืม...เว้าวอน? รู้สึกอะไรแบบนั้นวะไอ้ดิน
    "ชื่อดินใช่ไหมเรา"
    "ครับ"
    "พี่ชื่อธันวา เป็น Programmer ควบ SE ด้วยในบางโปรเจค"
    "???" เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นเต็มหน้าผม แน่นอนว่าพี่ธันวาคงสังเกตุเห็นเหมือนกันเขาเลยช่วยตอบให้ผมรู้แจ้ง
    "เอาเป็นว่าน้องไม่ต้องเข้าใจอะไรมากก็ได้ รู้แค่ว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้มาถามพี่ก็พอ" รู้เรื่องขึ้นเยอะเลยครับ...

    พี่ธันวาพาผมเดินกลับมาที่เดิม ที่ตรงนี้เหมือนจะเป็นห้องหลักของออฟฟิชที่ดูไม่เหมือนออฟฟิชเท่าไหร่ เพราะมันดูสว่าง โล่ง เหมือนกำลังทำงานที่บ้านมากกว่า
    "ทุกคนนน ขอเวลาแปปปป" ทุกคนหยุดงานในมือทั้งหมดหันมาให้ความสนในผมกับที่ธันวาเป็นตาเดียว "นี่น้องดิน จะมาทำงานแทนคุณทินกรชั่วคราว มีอะไรก็ช่วยแนะนำน้องด้วยนะ ห้ามแกล้ง เพราะคนนี้คุณทีเป็นพามาเอง เข้าใจตรงกันนะ" ผมไม่เข้าใจครับ
    ทุกคนมองมาที่ผมจากนั้นก็หันไปมองคนที่อยู่ข้างตัวเอง ส่งยิ้มให้กันแล้วหันมายิ้มให้ผม... หรือว่าผมคิดมากไปเอง ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันมีความนัยบางอย่างแฝงเอาไว้
    "ผมชื่อปฐพี เรียกว่าดินก็ได้ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
    "จะฝากหัวใจด้วยก็ได้นะคะน้องดิน" เป็นเสียงของผู้หญิงที่ไปขอไอเเพดจากพี่แว่นก่อนหน้านี้
    "......."
    "ดินมันอาจจะมีเจ้าของแล้วก็ได้ แต่ใจพี่ยังว่างนะน้องหวานๆ สนใจไหม"
    "เอาไอโยนให้ปลากินเถอะค่ะพี่น๊อต"
    "โอ้ย เจ็บปวดชะมัด"
    "อย่าไปสนใจคนบ้าเลยค่ะน้องดิน อ้อ ลืมแนะนำตัวไป พี่ชื่อพี่หวานนะคะ พี่เป็น BA หลักของที่นี่ค่ะ ส่วนพี่แว่นนั่นคือชื่อไอ้พี่น๊อตเป็นโปรแกรมเมอร์"
    "ถ้าคิดจะจีบหวานๆ เอ็งต้องข้ามศพพี่ไปก่อนนะไอ้น้อง คนนี้ของพี่" พี่น๊อตทำหน้าโหดพร้อมเอานิ้วชี้เชือดคอขู่ผม
    พี่หวานเธอเป็นสาวสวยน่ารักนะครับแต่ถ้าผมต้องมีปัญหากับคนที่ทำงาน ผมขอขึ้นหิ้งเธอเอาไว้เป็นพี่สาวที่แสนดีดีกว่า
    "หยุดได้แล้วไอ้น๊อต ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ว่าอย่าแกล้งน้อง" พี่ธันวาว่าเสียงดุ
    "แหมะ นิดๆหน่อยๆ ก็น้องมันน่าแกล้ง" พี่น๊อตทำหน้ายู่เหมือนหมาบลูด๊อกใส่พี่ธันวา
    "พี่โมก ไม่คิดจะโผล่หัวออกมาต้อนรับน้องใหม่หน่อยหรอ"
    "......" ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่พี่ธันวาเรียก ผ่านไปสิบวินาทีเห็นจะได้จึงมีหน้าของชายคนหนึ่งค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากหน้าจอคอมของโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะพี่น๊อต "หวัดดี ไอ้น้อง" พี่โมกคือคนที่ตะโกนคุยกับพี่น๊อตเมื่อตอนที่ผมเข้ามาตอนแรกนั่นเอง ดูจากริ้วรอยแห่งวัยแล้วพี่โมกน่าจะอายุราวๆ สามสิบตอนกลางได้
    "สวัสดีครับ" ผมทักทายกลับ แล้วพี่เขาก็ค่อยๆ หดคอกลับลงไปที่โต๊ะคอมของตัวเอง
    นี่สินะที่มาของคำว่า โผล่หัว
    "พี่โมก โปรแกรมเมอร์อีกคนของที่นี่ พูดน้อย ต่อยไม่เป็น เล่นได้แต่เกม และเป็นโอตะไอดอลสาวญี่ปุ่น"

    พี่ธันวาแนะนำพี่ๆ คนอื่นให้ผมรู้จักแล้วพาเดินดูรอบๆ บริษัท ที่นี้มีห้องเล่นกีฬา ห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งห้องนอนให้กับพนักงาน พี่ธันวาบอกว่าในช่วงที่ทุกคนปั่นโปรเจ็คกันบ้าคลั่ง บางครั้งต้องนั่งโค้ดดิ้งกันข้ามวันข้ามคืนเลยจึงมีห้องให้พนักงานได้พักและกินนอนที่นี้ได้เลย
    ส่วนห้องทำงานของคุณทีอยู่ติดกับห้องทำงานหลักของบริษัทเลย แต่เพราะเป็นกระจกฝ่าจึงมองผ่านเข้าไปไม่ได้ แม้โต๊ะทำงานของผมจะมองเห็นห้องของเขาได้ชัดเจนเพียงใดก็ตาม
    "งานที่ผมต้องทำมีอะไรบ้างครับพี่ธันวา" ผมถามขณะที่พี่ธันวากำลังเซตเครื่องคอมตัวใหม่ให้ผมอยู่
    "หลักๆ ก็ขับรถพาคุณทีออกไปข้างนอก เพราะคุณทีไม่ขับรถเอง"
    "ทำไมหรอครับ?"
    "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ พี่เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี้แค่สองสามปีเอง คนที่รู้สาเหตุก็มีแต่คุณทินกรเท่านั้น"
    "อย่างนั้นหรอครับ..."
    ผมคิดมาตลอดว่าที่เขาไม่ขับรถเองเพราะต้องรักษาภาพพจน์เจ้าของบริษัท แต่ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลมากนั้น เรื่องราวของผู้ชายคนนี้เกินที่ผมจะคาดคิดเสมอ
    "อีกงานที่ต้องทำคือ คอยดูแลเรื่องสุขภาพของคุณที คุณทินกรฝากกำชับมา เพราะคุณทีชอบทำงานหนักจนลืมดูและสุขภาพตัวเอง รายละเอียดว่าต้องทำอะไรบ้างพี่พิมพ์ไว้แล้ว เดี๋ยวพี่เอามาให้"
    "ครับ"
    "โอเค เสร็จละ"
    พี่ธันวามุดลงไปใต้โต๊ะหลังจากเสียบสายระโยงระยางบนโต๊ะคอมเสร็จแล้วไปทำอะไรบางอย่่างต่อข้าล่างจากนั้นจึงกลับขึ้น ไม่นานหน้าจอคอมที่เคยดับสนิทก็สว่างวาบ สัญลักษณ์หน้าต่างของโอเอสยอดนิยมแสดงที่หน้าจอก่อนจะหายไปแล้วกลายเป็นหน้าป้อนรหัสผ่าน
    "ระหัสผ่านถูกเซตค่า default เป็นรหัสแรนดอม จะปลดล็อกต้องสแกนคีการ์ดก่อน เอาบัตรพนักงานของเรามาวางตรงนี้เร็ว"
    "......"
    พี่ธันวาชีไปที่แผ่นพลาสติกสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากันกับบัตรพนักงานที่ผมมี ผมนำบัตรไปวางไว้บนนั้นตามคำบอก ไม่นานหน้าจอที่ให้ป้อนระหัสผ่านก็เปลี่ยน มีข้อความ 'welcome' แสดงจากนั้นก็กลายเป็นหน้าจอให้เซตระหัสผ่านใหม่
    "จากนั้นก็ใส่รหัสผ่านที่ตามใจเราเลย"
    "ครับ"
    "อย่าใช้วันเดือนปีเกิดตัวเองล่ะ"
    "......"
    พี่ธันวาพูดดักไว้ พี่รู้ได้ไงว่าผมจะใช้วันเดือนปีเกิดตัวเอง ผมบอกเลยว่าคนที่มีความรู้น้อยเรื่องเทคโนโลยีอย่างผมระหัสผ่านก็ได้แค่นี้ล่ะครับ ในเมื่อใส่วันเดือนปีเกิดของตัวเองไม่ได้ งั้นก็...เอาวันเดือนปีเกิดของพ่อกับแม่รวมกันก็แล้วกัน ยาวดี
    "เดี๋ยวพี่มานะ"
    พี่ธันวาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ระหว่างนั้นผมก็กรอกรหัสผ่านที่ผมไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้วว่านี่แหละเหมาะสมที่สุดลงไป แล้วก็พิมพ์รหัสเดิมยืนยันอีกครั้ง กดปุ่มตกลง หน้าเดสท็อปก็โผล่ขึ้นมาในที่สุด
    ไม่นานพี่ธันวาก็กลับมาพร้อมเอกสารหนึ่งฉบับ
    "วันนี้ก็อ่านลายระเอียดงานในนี้ไปก่อน แล้วก็รอรับคำสั่งจากคุนทีโดยตรง พี่ต้องกลับไปทำงานแล้ว"
    "ขอบคุณครับพี่ธันวา" ผมรับเอกสารจากพี่ธันวา มันเป็นรายละเอียดงานที่ผมต้องทำแทนคุณกร
    ขับรถรับส่งคุณที
    ซื้อกาแฟดำที่ร้านคุณติณทุกบ่ายโมง
    พยายามบังคับให้คุณทีทานข้าวให้ครบสามมื้อ
    อาหารแต่ละมื้อต้องมีผักหรือผลไม้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากคุณทีมีอาการท้องอืดเพราะนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน
    ผมมองไปยังห้องที่กันด้วยกระจกฝ้าหลังจากที่ผมอ่านเนื้อหา'งาน'ที่ตัวเองต้องทำ พร้อมกับความสงสัยที่เกิดขึ้นมาในหัว ผู้ชายคนที่คุณทินกรคอยดูแลเอาใจใส่เขาใช้วีวิตยังไงในห้องนั้น...


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×