คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ประกาศสงคราม
“ฮัลโหลซาอิเหรอ” นารูโตะตอนนี้ที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงห้องตัวเองกำลังโทรหาเพื่อนสนิทของเขา
‘แล้วนายโทรหาใครล่ะนารูโตะ’ ปลายสายตอบกลับมาอย่างยียวนกวนประสาท
“เดี๋ยวเถอะซาอิ ฉันมีเรื่องเครียดต้องปรึกษานายนะ”
‘เรื่องอะไรอีกล่ะ’
“แม่จะส่งฉันไปเรียนพิเศษกับลูกชายเพื่อนแม่ ใครก็ไม่รู้ นายก็รู้ว่าฉันวางแพลนตอนปิดเทอมไว้ดีเทอมแค่ไหน” นารูโตะบ่นออกมายาวเหยียด
‘ไอ้แพลนดีๆของนายนี่คือลากฉันไปแถบยุโรป แล้วช็อปกระจายน่ะเหรอนารูโตะ’
“ก็ใช่น่ะสิ ผ่อนคลายสมองหลังการเรียน”
‘ก็เกรดนายมันต่ำขนาดนั้น ฉันไม่แปลกใจหรอกที่นายจะถูกส่งไปเรียน’ ซาอิเน้นคำว่า ‘ต่ำ’ ให้กำลังใจเพื่อนอย่างชัดเจน
“นี่ซาอิ ฉันโทรมาให้นายช่วยนะเว้ย ไม่ใช่ซ้ำเติม”
‘ถ้าน้าคุชินะออกปากเองล่ะก็ ใครจะกล้าขัด แค่นี้นะฉันจะนอนต่อ!’ ซาอิกดวางสายทันที ทิ้งไว้แต่นารูโตะที่ได้แต่นั่งฮึดฮัด
ไอ้พี่ซาสึเกะ พรุ่งนี้ฉันเอาแกตายแน่ ทำชีวิตปิดเทอมฉันพังหมดแล้วเนี่ย !
“นารูโตะเก็บของเสร็จรึยัง” คุชินะเดินมาเคาะประตูห้องลูกชายเมื่อเห็นว่าได้เวลามื้อเช้าแล้วหลังทานเสร็จเธอก็จะไปส่งลูกชายที่คอนโด
“เสร็จแล้วครับแม่ลงไปก่อนเลยครับเดี๋ยวผมตามไป” นารูโตะตะโกนตอบมาจากในห้อง เขาพึ่งจะนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงดีเพราะมัวแต่คิดแผนแกล้งไอ้พี่ซาสึเกะอยู่นั่นแหละ คิดไปคิดมาแค่ทำตัวดื้อๆซนๆเดี๋ยวไอ้พี่ซาสึเกะทนเราไม่ได้ก็เอามาคืนเองแหละ คิดได้ดังนั้นร่างเล็กๆจึงรีบลงไปทานมื้อเช้าอย่างอารมณ์ดี
“ไงลูกพ่อ อารมณ์ดีมาเชียวนะ” มินาโตะเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษขึ้นมาทักทายลูกชาย
“แหมก็ถูกแม่ขับไล่ไสส่งออกนอกบ้านผมก็ต้องอารมณ์ดีหน่อยสิครับพ่อ”
“เดี๋ยวเถอะนะ รีบๆกินเข้าไปเลยทั้งพ่อทั้งลูก!” คนที่ถูกกล่าวถึงสะดุ้งและรีบลงมือทานอาหารเช้าทันที
หลังทานมื้อเช้าเสร็จคุณหนูของบ้านก็ขึ้นไปดูแม่บ้านที่ยกกระเป๋าลงมาให้พร้อมขนขึ้นรถ ร่างเล็กแพคกระเป๋าไปราวๆสิบใบเห็นจะได้นั่นทำให้คนเป็นแม่กุมขมับเลยทีเดียว
“นารูโตะ ลูกจะย้ายบ้านรึไงกัน ทำไมขนของไปเยอะแยะขนาดนี้”
“ก็ผมของเยอะนี่ฮะแม่ ทำยังไงได้ (ไอ้)พี่ซาสึเกะเขาใจดีเขาไม่ว่าผมหรอกฮะ” ไม่ว่าหรอกฮะแม่ แต่ผมจะทำให้เขาทนผมไม่ได้เชียวล่ะ โฮะๆๆ
“จริงๆเลยลูกคนนี้ คุณคะเสร็จรึยัง” คุชินะที่เห็นว่าลูกชายพร้อมแล้วก็หันไปหาสามี
“เสร็จแล้วครับ” มินาโตะเดินออกมาเตียมตัวพร้อมขึ้นรถ ก่อนรถยนต์คันหรูจะทะยานตัวออกไปคฤหาสน์ตรงไปยังคอนโดใจกลางเมือง
“ทำไมต้องให้คอนโดเพื่อสอนพิเศษผมด้วยล่ะครับ” นารูโตะถามขึ้นมาขณะที่อยู่บนรถ ก็จริงอยู่คอนโดนี้ก็เป็นกิจการของครอบครัวเขา แถมราคาก็สูงลิบ ถ้าไม่กระเป๋าหนักจริงๆคงจะซื้อเก็บไว้นอนเล่นไม่ได้
“ให้ไปอยู่บ้านเขาได้ยังไงกัน เรายิ่งเสียงดังๆอยู่ อยู่ที่อื่นนั่นแหละดีแล้ว ลูกจะได้ติวกับพี่เขาทั้งวันเลย”
“เอ่อ...แล้ว(ไอ้)พี่ซาสึเกะเขาไม่มีอะไรทำเหรอครับแม่ ถึงมาอยู่กับผมทั้งวันทั้งคืนได้” ดีเลย! อยู่ด้วยกันทั้งวันเดี๋ยวก็ทนเราไม่ได้เองแหละ
“พี่เขาปิดเทอมตรงกับลูกพอดีน่ะ มิโกโตะเลยขอให้เขามาช่วยสอน”
“แล้วจะไม่เป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนพี่เขาเหรอฮะแม่ เขาอุตส่าห์ปิดเทอมทั้งทีนะฮะ”
“พี่เขาเต็มใจสอนให้ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดไปถึงแล้วนารูโตะ” นารูโตะได้แต่นั่งยู่หน้า
“คร๊าบๆแม่ไม่ต้องขึ้นไปส่งผมก็ได้ครับ ส่งแค่นี้ก็พอ ผมขนขึ้นไปเองได้เบอร์ห้องล่ะครับ”
“ชั้น 13 ห้อง 1309 เฟอร์นิเจอร์อะไรครบหมดแล้วนะ ขาดเหลืออะไรก็โทรไปบอกแม่นะลูก อย่าดื้ออย่าซนแล้วแม่กับพ่อจะแวะมาเยี่ยม” คุชินะยื่นกุญแจให้ลูกชายพร้อมลูบหัวเบาๆ
“ครับ แต่วินาทีสุดท้ายแล้วพ่อกับแม่จะไม่พาผมกลับบ้านจริงๆนะครับ” นารูโตะส่งสายตาเป็นประกายให้พ่อกับแม่อีกครั้ง
“ไม่” ทั้งสองตอบออกมาพร้อมกัน ส่งผลให้นารูโตะกอดอกงอนบุพการีแล้วโบกมือไล่เชิงว่า พ่อกับแม่รีบๆไปเลยไหนๆก็จะทิ้งผมไว้แล้วนี่
“ก็ได้ครับ พ่อกับแม่รีบไปเลยครับ ผมจะอยู่ที่นี่ไม่กลับบ้านเลยคอยดูสิ”
“จริงๆเลย พ่อไปก่อนนะนารูโตะ” มินาโตะและคุชินะโบกมือให้ลูกชายในขณะที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากหน้าคอนโดหรู
“มันจะดีเหรอคุชินะ ให้นารูโตะมาอยู่แบบนี้” มินาโตะหันไปมองลูกชายสุดที่รักแล้วหันมาหาภรรยา
“ดีสิคะคุณ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก” คุชินะยิ้มให้สามี
“ก็คุชินะไม่เคยตัดสินใจพลาดนี่ครับ ผมจะว่าอะไรได้ล่ะ” มินาโตะได้แต่หวังว่าลูกชายเขาจะไม่ก่อเรื่องจนโดนส่งกลับมาเหมือนครั้งก่อนๆหรอกนะ
“คอนโดหรูก็ต้องมีพนักงานสิถูกมั้ย เรื่องอะไรจะขนไปเองล่ะตั้งหลายใบ!” นารูโตะเดินไปเคาเตอร์มือเล็กๆนั้นชี้ไปที่กองกระเป๋ากองโตแล้วพยักเพยิดว่ายกไปส่งให้หน่อยสิ
“หนู..หนีออกมาจากบ้านหรือเปล่า ให้พี่พากลับมั้ยจ๊ะ” พนักงานสาวพูดออกมาอย่างใจดี
“ผมไม่ได้หนีออกจากบ้าน ผมเป็นเจ้าของห้องที่นี่ กรุณาส่งคนไปยกกระเป๋าให้ผมด้วยนะครับ” นารูโตะกอดอกบอกพนักงาน
“แหม..หนูนี่เล่นมุกอะไรก็ไม่รู้ บอกเบอร์พ่อกับแม่มาสิพี่จะโทรให้”
“นี่เจ๊! เช็คห้อง1309ดูสิว่ามันชื่อใคร”
“งั้นรอซักครู่นะคะ” พนักงานสาวรีบหันไปกดคีย์บอร์ดที่คอมพิวเตอร์ว่าเจ้าของห้อง ห้องนี้เป็นใครเกี่ยวข้องอะไรกับเด็กคนนี้หรือเปล่า
“ได้รึยังเจ๊ ผมรอนานแล้วนะ”
“ค่ะเป็นห้องของคุณหนู อุสึมาซิ นารูโตะ ลูกชายคนเดียวของคุณคุชินะค่ะ หนูเป็นเพื่อนกับนารูโตะเหรอจ๊ะ”
“โถ่เว้ย ยัยป้านี่” นารูโตะที่เส้นความอดทนหมดไปกับยัยป้าจอมบื้อตรงหน้าทุกทีมือเล็กๆควานหากระเป๋าสตางค์ใบหรูแล้วหยิบบัตรประชาชนวางกระแทกลงบนเคาเตอร์ตรงหน้าพนักงานสาวผู้โชคร้าย
“อะ..อุสึมากิ นารูโตะ” พนักงานสาวตอบออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“รู้แล้วจะไปขนของให้ผมได้รึยัง อยากโดนไล่ออกใช่มั้ย!” นารูโตะเส้นความอดทนหมดลงกับนักงานตรงหน้า ยืนคุยกับป้าคนนี้มาตั้งนาน ต้องให้เขาฟ้องพ่อมั้ย
“ยะ..อย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” พนักงานสาวรีบโทรเรียกรีเซ็ปชั่นแล้ววรับรองแขกกิตติมศักดิ์ของคอนโดเป็นอย่างดี
“เกือบโดนไล่ออกแล้วมั้ยเรา” เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก สงสัยทีหลังต้องจำหน้าคนในครอบครัวของประธานบริษัทไว้บ้างแล้ว
“ถึงห้องแล้วครับคุณหนู มีอะไรก็เรียกใช้เลยนะครับ โทรศัพท์กับเบอร์ถูกแปะไว้แล้ว” หลังจากที่ขนของให้คุณหนูคนเดียวเข้ามาในห้องเสร็จแล้ว พนักงานก็รีบประจบทันที
“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก” นารูโตะควักเงินในกระเป๋าจำนวนไม่น้อยส่งให้กับพนักงานเป็นค่าทิปก่อนจะเทความสนใจไปกับห้องใหม่
“วิวสวยจังเลยแฮะ ถ่ายรูปไปอวดซาอิหน่อยดีกว่า” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หยิบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดกดเข้าชัตเตอร์เก็บภาพสวยๆไปอวดเพื่อนรัก
“อืม..ต่อไปก็จัดของแล้วก็นอนรอไอ้พี่ซาสึเกะมาให้แกล้ง” มือเล็กๆเริ่มรื้อของที่มากมายเกินกว่าเด็กม.ปลายจะมาเรียนพิเศษจัดวางเป็นที่ๆมีตั้งแต่รองเท้าคู่โปรดร่วมๆสิบคู่เห็นจะได้ ครีมบำรุงผิวหน้าที่มากกว่าเด็กผู้หญิงบางคนเสียอีก รวมทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับอีกมากมาย นั่นเป็นสาเหตุทำไมเขาถึงขนมาหลายใบกว่าจะจัดของเสร็จก็ผ่านไปหลายชั่วโมง เล่นเอาเด็กที่ไม่ค่อยจะทำอะไรด้วยตัวเองเหนื่อยอยู่เหมือนกัน
“หิวแล้วอ่ะ ชวนซาอิออกไปหาอะไรกินดีกว่า อยู่คนเดียวก็สบายเหมือนกัน ไว้เย็นๆจะกลับมานะไอ้พี่ซาสึเกะ!” หลังโทรชวนเพื่อนรักอีกรอบร่างเล็กๆก็ล็อคประตูและออกจากห้องไปทันที
เวลาผ่านล่วงเลยไปหลายชั่วโมงจากที่ตั้งใจจะกลับเย็นๆกลายเป็นเขาและเพื่อนรักได้ไปเจอหนังเรื่องใหม่ที่เข้าโรงเลยแวะเข้าไปดูเสียหน่อย ออกมาอีกทีฟ้าก็กลายเป็นสีดำเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
“ฟู่ว สนุกจังเลยแฮะ~`” นารูโตะไขประตูห้องเข้ามาอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา ไอ้โรคจิตรักการอ่านงั้นเหรอ แกบังอาจมากลักลอบเข้าห้องอุสึมากิ นารูโตะคนนี้ ว่าแต่จะเอาจัดการมันดีล่ะ ร่างเล็กก้มมองรองเท้าที่อยู่ในมือตัวเองก่อนจะถอดมันขึ้นมาแล้วค่อยๆย่องเข้าไปแล้วยกรองเท้าขึ้นฟาดคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นโจรโรคจิตรักการอ่าน
“นี่แหนะๆๆ ไอ้โจรโรคจิตรักการอ่านคิดจะมาขโมยของในห้องชั้นเหรอ ตายซะเถอะ” ร่างเล็กหลับตาปี๋เอารองเท้าฟาดไม่ยั้งทำให้อีกคนลุกขึ้นมารวบข้อมือบางไว้แน่น
“หยุด ! หยุดเดี๋ยวนี้ ชั้นไม่ใช่โจรโรคจิตรักการอ่านนะ” ร่างสูงบอกออกมา
“ไม่เชื่อ แกไม่ต้องมาหลอกเลย โจรที่ไหนจะยอมรับง่ายๆล่ะ” นารูโตะที่ยังคงไม่ลืมตาดิ้นไปดิ้นมา
“หึ ปัญญาอ่อนแบบนี้สินะถึงเรียนได้ 2.5” ร่างสูงปล่อยมืออีกคนออกแล้วหัวเราะในลำคอ
“….” นารูโตะยืนนิ่งตากลมสีฟ้าใสค่อยๆลืมขึ้นมามองอีกคน เดี๋ยวนะ ไอ้โรคจิตมันรู้เกรดเรา ตอนนี้สมองนารูโตะกำลังประมวลผลอยู่ว่า เขามาที่นี่เพื่อมาเรียนพิเศษกับไอ้พี่ซาสึเกะแล้วไอ้คนตรงหน้าเขาก็รู้เกรดเขา ป๊าบ ! ไอ้คนนี้ต้องพี่ซาสึเกะแน่ๆ
“ไงคิดได้แล้วเหรอ” ซาสึเกะที่เห็นนารูโตะยืนนิ่งไปแล้วก็นั่งลงตามเดิม
“อะ..ไอ้พี่ซาสึเกะงั้นเหรอ” นารูโตะยกรองเท้าขึ้นชี้หน้าอีกคน
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วชั้นก็แก่กว่านายตั้งหลายปี เอาคำว่าไอ้ออกจากชื่อชั้นแล้วก็เลิกเอารองเท้าชี้หน้าชั้น สุดท้ายนั่งลงด้วย เป็นเด็กที่ไหนเค้ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่! มันไม่มีมารยาทรู้มั้ย!”
“ไม่! ไอ้พี่ซาสึเกะ ชั้นขอประกาศสงครามกับนายไว้เลย นายน่ะจะอยู่สอนฉันได้ไม่เกิน 7 วันหรอก!” นารูโตะปารองเท้าลงแล้วส่งนิ้วเรียวไปชี้หน้าอีกคนแทน
“อะไรทำให้นายมั่นใจได้ขนาดนั้นหืมเด็กน้อย” ซาสึเกะยกยิ้มมุมปากมองอีกคน
“เพราะชั้นคืออุสึมากิ นารูโตะไง” นารูโตะเชิดหน้าใส่อีกคนอย่างท้าทาย
“งั้นลองมาพนันกันมั้ยล่ะเด็กน้อย ว่าชั้นจะทนนายได้หรือเปล่า” ซาสึเกะจ้องไปที่คนตรงหน้านิ่ง สูงประมาณอกเค้าได้ล่ะมั้งเด็กคนนี้ ผมสีทองสว่าง ตากลมสีฟ้า ใบหน้าน่ารักหากไม่มาเถียงกับเขาแบบนี้ล่ะนะ
“ได้สิ แพ้แล้วอย่าร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องแม่นะไอ้พี่ซาสึเกะ”
“หึ บอกตัวเองเถอะเด็กน้อย แล้วคนชนะจะได้อะไรล่ะ”
“ทำตามที่คนชนะต้องการทุกอย่างหนึ่งข้อเป็นยังไง” นารูโตะเสนอความคิดขึ้นมา โฮะๆๆยังไงไอ้พี่ซาสึเกะก็ต้องแพ้เขา ถึงเขาแพ้เขาก็จะอ้างว่าพี่ซาสึเกะสอนย๊ากยากเขาไม่เข้าใจแล้วก็จะไม่ทำตามข้อตกลงงี่เง่านี่หรอก ทำก็โง่แล้ว ไอ้พี่ซาสึเกะนี่หลอกง่ายจริงๆ!
“ก็น่าสนุกดีนี่ เริ่มเรียนพรุ่งนี้ 8 โมงนะนารูโตะ” ซาสึเกะยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเหนือกว่า
“ได้ แล้วเจอกัน เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะไอ้พี่ซาเกะ!” นารูโตะกระทืบเท้าเดินเข้าห้องนอน ไอ้รอยยิ้มนันมันอะไรกันนะ กวนประสาทชะมัดเลย คนกำลังอารมณ์ดีแท้ๆ ไอ้พี่ซาสึเกะ คอยดูนะ นายเละแน่ !!!
โอ้ ประกาศสงครามกันแล้วจ้า รุนแรงกว่าสงครามนินจาครั้งที่4แน่นอน ไรท์รับประกัน
ไหนใครอยู่ #ทีมเกะ หรือ #ทีมโตะ กันบ้างเอ่ย ไรท์แน่นอนว่าเข้าข้างเกะ เพราะเกะหล่อ 555555555
ความคิดเห็น