คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 7
หลังจากที่ถังซานปลุกวิญญาณยุทธ์ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว และถังซานก็ได้โค้วต้าไปเรียนที่โรงเรียนนั่วติงด้วยแต่นางพยายามที่จะปฏิเสธไป
จนสุดท้ายถังเฮ่าและหงจวิ้นก็สามารถเกลี้ยกล่อมถังซานได้สำเร็จ โดยที่หงจวิ้นให้เหตุผลไปว่าถ้านางไม่ไปเรียนที่นั่วติงเขาจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก
ซึ่งถ้าถังเฮ่าได้ยินคำพูดนี้เขาต้องไม่ยอมให้ถังซานไปเรียนที่นั่วติงแน่ ส่วนเหตุผลที่ถังเฮ่าให้ถังซานไปนั้นก็เพราะเขาไม่อยากให้ลูกสาวของเขาอยู่ใกล้หงจวิ้นนั่นเอง
ก่อนไปโรงเรียนนั่วติงหนึ่งเดือน
“เจ้าพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะถังซาน”หม่าหงจวิ้น
“ก็ท่านพี่ฝึกข้าโหดแบบนี้ ถ้าไม่เก่งขึ้นท่านคงผิดหวังแย่”ถังซาน
ตลอดสองเดือนมานี้ถังซานก็นับว่าพัฒนาได้รวดเร็วมาก เร็วจนหม่าหงจิ้นเองก็ตกใจ เพราะวิชาก้าวย่างพริบตานั้นนางสามารถมาเลื่อนจากขั้นที่หนึ่งหนึ่งมาถึงขั้นที่สองภายในเวลาแค่สองเดือนเท่านั้น
ถึงแม้หม่าหงจิ้นจะถึงขั้นที่สามของก้าวพริบตาภายในเวลาหกเดือนก็ตาม ที่เขาสามารถฝึกได้เร็วก็เพราะมีระบบคอยช่วยบวกกับเขาขยันฝึกทุกวัน
“เอ่าล่ะวันนี้พอก่อนก็แล้วกันนะ”หงจวิ้นกล่าวพร้อมมองไปทางถังซานที่กำลังนั่งหอบอยู่ที่พื้น
“คะ..ค่ะ”ถังซานกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“เดือนหน้าเจ้าก็จะไปที่นั่วติงแล้วสินะ”หม่าหงจวิ้น
“ข้าไม่อยากไปเลย เพราะข้าฝึกกับท่านพี่และท่านพ่อข้าเก่งแล้ว ทำไมข้าต้องไปที่นั่นด้วย”ถังซานกล่าวด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์
“ฮ่าๆๆ ถ้าเจ้ามัวแต่ฝึกอยู่ที่นี่เจ้าก็จะไม่มีเพื่อนเลยนะ”หม่าหงจวิ้น
“มีท่านพี่และท่านพ่ออยู่ข้าก็ไม่เหงาแล้ว”ถังซาน
“เฮ้อ..เอาเถอะสักวันเจ้าจะเข้าใจ ว่าการมีสหายอยู่เคียงข้างมันทำอุ่นใจมากขนาดไหน”หงจวิ้นกล่าวพร้อมลูบหัวถังซาน
“อืม…”ถังซาน
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
หลังจากการฝึกที่ผ่านมา ในตอนนี้นั้นถังเฮ่าตัดสินใจจะพาถังซานไปล่าวงแหวนวิญญาณวงแรกแล้ว และสถานที่นั้นก็คือป่าใหญ่ที่อยู่ใกล้กับเมืองนั่วติง
“ซานน้อยลูกไม่ลืมอะไรใช่มั้ย”ถังเฮ่า
“ค่ะ!”ถังซาน
“งั้นก็ไปกันเถอะ”หม่าหงจวิ้น
“แล้วเจ้าจะตามมาด้วยทำไม?”ถังเฮ่าถามด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“แล้วท่านรู้รึว่าสัตว์วิญญาณชนิดใดที่เหมาะกับถังซาน”หม่าหงจวิ้นได้กล่าวกับถังเฮ่าไป
“แล้วเจ้ารู้รึไง”ถังเฮ่า
“ข้าต้องรู้อยู่แล้ว”หม่าหงจิ้น
“เหอะ! ทำเป็นอวดเบ่ง!”ถังเฮ่า
ถึงแม้เขาจะไม่พอใจที่หงจวิ้นนั้นอวดดี แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรไป ไม่ว่าเรื่องที่เขารู้ได้ยังไงว่าสัตว์วิญญาณตัวไหนเหมาะหรือไม่เหมาะเพราะทุกคนย่อมมีความลับเสมอ แต่ถ้าหากหงจวิ้นคิดจะทำอะไรลูกสาวสุดรักของเขาล่ะก็ เขาก็จะทุบให้ตายคามือนี่แหละ
ผ่านไปสามชั่วโมง
เมื่อเพวกเขามาถึงที่หมาย ถังเฮ่าก็ได้สวมผ้าคลุมทันทีเพราะที่นี่มีคนจากสำนักวิญญาณยุทธ์อยู่เยอะ ส่วนหงจวิ้นที่เห็นแบบนั้นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะเขารู้อยู่แล้ว ถังซานเองก็เช่นกันถึงแม้ในใจนางจะสงสัยอยู่ก็ตาม
เมื่อเดินมาหน้าถึงหน้าทางเข้าทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ก็เดินมาหาพวกเขาทันที ก่อนจะถามขึ้น
“มีตรารึเปล่า?”ทหาร
“ไม่มี!”ถังเฮ่า
“งั้นก็มาตรวจสอบพลังวิญญาณก่อน”ทหาร กล่าวจบเขานำพวกหม่าหงจิ้นไปที่ลูกแก้วที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าทันที
“ใครเป็นคนดูดซับวงแหวน”ทหาร
“ข้าเอง”ถังซานยกมือขึ้นและเดินไปแตะที่ลูกแก้วทันที
และเมื่อทหารเห็นดังนั้นก็บอกกับหม่าหงจิ้นและถังเฮ่าให้มาตรวจสอบด้วย เมื่อได้ยินดังนั้นหงจวิ้นก็เดินไปแตะที่ลูกแก้วทันที
“พลังวิญญาณระดับสิบสี่ ด้วยอายุแค่นี้เนี่ยนะ!”ทหารกล่าวออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นระดับพลังของหม่าหงจิ้น
“ต่อไปก็ตาข้าสินะ”ถังเฮ่า กล่าวจบเขานำมือไปวางที่ลูกแก้วทันที
“ระดับเจ็ดสิบแปด!”ทหาร
ที่ทหารเห็นแบบนั้นก็เพราะถังเฮ่าและหงจวิ้นนั้นไม่ได้ใส่พลังวิญญาณไปทั้งหมด เพราะถ้าหากมีอัครพรหมยุทธ์มาปรากฎตัวอยู่ที่เมืองเล็กๆก็อาจจะทำให้สำนักวิญญาณยุทธ์ส่งคนมาตรวจสอบได้
ส่วนถังซานที่รู้ระดับของถังเฮ่านางก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะนางไม่คิดว่าพ่อของนางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หลังจากตรวจสอบเสร็จทหารก็เปิดประตูให้พวกเขาเข้าไป
“ท่านไม่ได้ใส่พลังวิญญาณลงไปทั้งหมดสินะ”หม่าหงจวิ้น
“เจ้าก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ถังเฮ่า
“เอ๊ะ! นั่นไม่ใช่ระดับที่แท้จริงของพวกท่านเหรอ?!”ถังซานกล่าวด้วยท่าทีตกใจและสงสัย
“ฮ่าๆๆ ถ้าพวกนั้นรู้ระดับของท่านถังเฮ่าล่ะก็คงได้วุ่นวายแน่ๆ”หม่าหงจิ้น
“เจ้าเองก็ด้วยหนิ ถ้าพวกนั้นรู้ระดับของเจ้าพวกนั้นคงไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ถ้าหากเจ้าไม่ยอมเข้าร่วมกับพวกมัน”ถังเฮ่า
“แล้วพวกท่านระดับเท่าไรเหรอ?”ถังซานกล่าวด้วยท่าทีอ้อนและดวงตาเป็นประกาย
เมื่อเห็นแบบนั้นถังเฮ่าและหม่าหงจิ้นที่เหมือนจะไม่ยอมบอกก็บอกไปแต่โดยดี เพราะโดนความน่ารักปักกลางอก
“ข้าระดับยี่สิบสามน่ะ เพิ่งเลื่อนระดับเมื่อวาน”หม่าหงจิ้น
“ส่วนพ่อก็ระดับเก้าสิบแปด”ถังเฮ่ากล่าวท่าทีภูมิใจ
“ท่านพ่อสุดยอด!!”ถังซานกล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย
เมื่อเดินเข้ามาก็ไม่พบสัตว์วิญญาณสักตัวเพราะถังเฮ่าที่ห่วงความปลอดภัยของถังซานก็เลยปล่อยแรงกดดันออกมาทำให้พวกสัตว์วิญญาณไม่กล้าเข้าใกล้จนหงจวิ้นต้องกล่าวเตือน
“ท่านพ่อต- แค่กๆ ท่านถังเฮ่าถ้าท่านยังปล่อยแรงกดดันออกมาเกรงว่าวันนี้เราคงไม่พบสัตว์วิญญาณสักตัวนะครับ”หม่าหงจวิ้น
“โทษที”กล่าวจบถังเฮ่าก็เก็บแรงกดดันทันทีแม้จะยังหลุดรอดออกมาบ้างก็ตาม
เมื่อเดินมาสักพักทั้งสามคนก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังตรงมาทางนี้ เมื่อพวกเขารู้แบบนั้นก็พยักหน้าให้กันและรีบกระโดดขึ้นต้นไม้ทันที ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจก็ปรากฎงูตัวหนึ่งเลื่อยมาอย่างรวดเร็ว ด้วยสัญชาตญาณของมัน มันเลยเลือกโจมตีคนที่อ่อนแอที่สุดก่อนซึ่งนั่นก็คือถังซาน
เมื่อถังซานเห็นว่ามันพุ่งจะมาโจมตี นางก็ใช้ก้าวพริบตาหลบออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
‘อสรพิษม่านถัวหลัว ตัวนี้เหมาะกับเจ้ามากถังซาน’หม่าหงจิ้นได้สงกระแสจิตไปบอกถังซาน
“ท่านพ่อ! ข้าขอลองสู้คนเดียวได้หรือไม่?”ถังซาน
“ไม่ได้!”ถังเฮ่ากล่าวคัดค้านทันที
“ถ้าท่านเอาแต่ประคบประหงมข้าแบบนี้แล้วเมื่อไรข้าจะเก่งขึ้นกัน!”ถังซาน เมื่อได้ยินถังเฮ่าปฏิเสธนางก็ใช้ข้ออ้างทันที
“แต่…”ถังเฮ่าที่พยายามจะหาขออ้างเพื่อไม่ให้ลูกสาวสุดที่รักออกไปสู้ก็คิดข้ออ้างไม่ออก
“น้าาาา ท่านพ่อ!”ถังซานกล่าวพร้อมกับอ้อนถังเฮ่าอย่างสุดความสามารถ
“ก็ได้! แต่ถ้าเจ้าไม่ไหวข้าจะไปช่วยทันที”ถังเฮ่า
“ขอบคุณค่ะท่านพ่อ!”ถังซานกล่าวจบนางก็หอมแก้มถังเฮ่าไปหนึ่งที ซึ่งทำให้ถังเฮ่าที่ไม่ได้โดนลูกสาวหอมแก้มมานานถึงกับสตั๊น
ไรท์:ตอนสุดท้ายของวันนี้แล้วครับ
ความคิดเห็น