ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Douluo Dalu]เกิดใหม่เป็นหม่าหงจวิ้น

    ลำดับตอนที่ #4 : 4

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 67


       หงจวิ้นได้บินพุ่งเข้าไปหากิเลนอย่างรวดเร็ว เขากำดาบไว้แน่นและฟันเข้าที่ลำตัวของกิเลน แต่ทว่าจู่ๆดาบของเขาก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้เจ้ากิเลนได้แม้แต่น้อย

    “ทำไมเกร็ดมันแข็งกว่าเดิมฟะ!”หม่าหงจวิ้น

     

       ด้วยความประมาท หงจวิ้นก็ได้ถูกกิเลนพุ่งเข้าใส่กลางลำตัว ทำให้ตัวของเขากระเด็นไปชนกับผนังถ้ำก่อนจะร่วงลงมาที่พื้นที่เป็นทะเลเพลิง

       หงจวิ้นลุกขึ้นมาด้วยความอ่อนแรง การต่อสู้นี้กินพลังเขาอย่างมาก ทำให้ในตอนนี้หงจวิ้นเองก็เริ่มสู้ไม่ไหวแล้ว แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไร เจ้ากิเลนก็ได้พุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้งหมายจะโจมตี แต่ทว่าหงจวิ้นก็สามารถหลบได้แบบเฉียดฉิว

    “อึก!”หงจวิ้นกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย การโจมตีของสัตว์วิญญาณระดับพันปีไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เกรงว่าถ้าเขาไม่ได้ดูดซับธาราสองขั้วและสมุนไพรเซียนมามันอาจจะทำให้เขาตายไปนานแล้วก็ได้

     

       จากนั้นหงจวิ้นก็ได้รีบบินกลับขึ้นมาตั้งหลักและพยายามหาสาเหตุ แต่เมื่อเขามองไปที่เจ้ากิเลนตัวนั้น เขาก็พบว่ามันกำลังยิ้มอย่างสะใจพร้อมกับบาดแผลที่ค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ

    “เห้ยๆ แบบนี้ชักจะไม่ดีแล้วสิ”หงจวิ้นพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเริ่มทำบางอย่าง

     

       หงจวิ้นได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกับหยิบบางออกมาจากช่องเก็บของและได้โชเจ้าสิ่งนั้นให้เจ้ากิเลนดู ซึ่งสิ่งนั้นก็คือยาฟื้นฟูระดับกลางที่เขาเพิ่งจะซื้อจากระบบนั่นเอง

    “คิดว่าแกฟื้นฟูตัวเองได้คนเดียวรึไงหึๆๆ”หงจวิ้นแสยะยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่

     

       จากนั้นหงจวิ้นก็ได้กระดกยาฟื้นฟูทันที ทำให้บาดแผลทั้งหมดถูกรักษาอย่างรวดเร็ว พลังกายและพลังวิญญาณก็กลับมาเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม

     

     

    "เอาล่ะคราวนี้แกไม่รอดแน่เจ้ากิเลนเพลิง"หม่าหงจวิ้น

       กล่าวจบเขาก็ใช้พลังวิญญาณคลุมทั้งร่างกาบและดาบเอาไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายและความคมของดาบ จากนั้นเขาก็ใช้เงาลวงตาต่อเนื่องทันที ซึ่งการโจมตีนี้ทำให้กิเลนเพลิงเกือบตาย

     

    "ปิดฉากล่ะนะ ดาบเพลิงยักษ์ผ่าปฐพี!!!"หม่าหงจิ้น

       เมื่อเห็นว่าเจ้ากิเลนเริ่มอ่อนแรงแล้ว หงจวิ้นจึงได้ทำการทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ปรากฎดาบเพลิงยักษ์ฟาดเป็นแนวตรงไปทางกิเลนทันที  ซึ่งกิเลนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยืนรับชะตากรรม หลังจากการโจมตี กิเลนเพลิงก็ได้ตายลงและวงแหวนสีม่วงก็ปรากฎขึ้นเหนือร่างของกิเลนเพลิง

       ส่วนทะเลเพลิงที่กิเลนเพลิงทำเอาไว้นั้นก็ค่อยๆหายไปทำให้หงจวิ้นนั้นโล่งอก เขานึกว่าจะต้องแบกร่างของกิเลนไปหาที่ดูดซับที่อื่นซะแล้ว

    "แฮ่กๆ จบสักที ระบบซื้อยาฟื้นฟูระดับต่ำ"หม่าหงจิ้น

    [หัก1,000พ้อย]

    [ทำการซื้อยาฟื้นฟูระดับต่ำเรียบร้อย]

     

       สิ้นเสียงระบบ หงจวิ้นก็รีบดื่มยาทันที หลังจากดื่มเสร็จเขาก็เดินไปที่ศพของกิเลนเพลิงและทำการชักนำวงแหวนก่อนจะดูดซับวงแหวนสีม่วงเข้าไป

     

       เวลาผ่านไปสามชั่วโมงหงจวิ้นก็ลืมตาขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ลองใช้ทักษะที่เขาได้มาในทันที

    "ทักษะวิญญาณที่หนึ่ง หงเพลิงพิโรธ"กล่าวจบหงจวิ้นก็พ่นไฟใส่ที่พื้นทันที ทำให้พื้นในตอนนี้เต็มไปด้วยไฟที่ลุกไหม้และกลายเป็นทะเลเพลิง

    "ถ้าไม่ยกเลิกทักษะก็ไฟก็ไม่หยุดแถมธาตุไฟของข้ายังรุนแรงขึ้นด้วย ฮ่าๆๆเป็นทักษะที่ดีจริงๆ แต่มันก็ใช้พลังวิญญาณเยอะเหมือนกันแฮะ"หม่าหงจวิ้น

    "นี่ระบบ ตอนนี้เวลาเท่าไหร่?"หม่าหงจวิ้น

    [15.46 น. ค่ะ]

    "งั้นก็ไปพักที่เมืองวิญญาณยุทธ์ก่อนก็แล้วกัน"หม่าหงจิ้น

     

       กล่าวจบเขาก็ใช้วิญญาณยุทธ์บินออกไปจากถ้ำและตรงไปที่เมืองวิญญาณยุทธ์ทันที  เมื่อมาถึงเขาก็รีบตรงไปที่ร้านอาหารอย่างรวดเร็ว และเขาก็ทำการสั่งอาหารและระหว่างรอเขาก็เช็คสเตตัสไปด้วย

     

    "สเตตัส!"หม่าหงจิ้น

     

     

    ชื่อ: หม่าหงจวิ้น

    อายุ: 6 ปี

    ส่วนสูง: 140

    น้ำหนัก: 26

    เผ่า: มนุษย์

    วิญญาณยุทธ์: หงเพลิง

    ระดับพลังวิญญาณ: 17

    ระดับพลังจิต: 126

    วงแหวนที่1:ระดับพันปี

       -ทักษะหงเพลิงพิโรธ: จะทำการพ่นไฟออกมาด้วยความรุนแรง ทำให้คนที่โดนทักษะนี้จะติดสถานะเผาไหม้และพลังกายก็จะถูกบั่นทอนลงอย่างช้าๆ และไฟไม่สามารถดับลงได้จนกว่าเจ้าของทักษะจะยกเลิก

     

     

    "ทำไมระดับพลังวิญญาณกับพลังจิตมันถึงพุ่งขึ้นสูงแบบนี้ล่ะเนี่ย?!"หงจวิ้นพูดด้วยความตกใจ

    [ตอบ:เนื่องจากท่านดูดซับพลังจากธาราสองขั้วกับสมุนไพรระดับเซียนทำให้พลังวิญญาณที่ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ถูกบีบอัดเอาไว้ เมื่อท่านดูดซับวงแหวนก็ทำให้พลังวิญญาณที่ถูกบีบอัดเอาไว้ระเบิดออกมา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ระดับพลังวิญญาณของท่านจะเพิ่มขึ้นถึงระดับนี้ และเพราะท่านดูดซับวงแหวนพันปีเป็นวงแรกจึงทำให้ระดับพลังจิตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด]

     

    ‘งั้นเหรอเนี่ย แสดงว่าอีกไม่นานฉันคงต้องไปล่าวงแหวนเพิ่มสินะ’หงจวิ้นคิดด้วยความเหนื่อยใจ

     

       หลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็ออกไปหาที่พักทันที เดินมาสักพักเขาก็เจอโรงแรมแห่งหนึ่งที่ดูดีกว่ารอบที่แล้วและเขาก็ไปด้านในเพื่อเปิดห้อง

       เช้าวันต่อมาหงจวิ้นก็ออกเดินทางไปยังหมู่เซิงหุน เพราะเขาอยากลองไปเจอพระเอกสักครั้ง

     

       ผ่านไปห้าวันในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านเซิงหุนแล้ว แต่พอเดินเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็โดนหัวหน้าหมู่บ้านทักทันที ซึ่งเขาก็บอกกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าเป็นนักเดินทาง ทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านที่ได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจ เพราะหงจวิ้นนั้นยังเป็นแค่เด็กแต่กลับเดินทางด้วยตัวคนเดียว

    "งั้นรึ นี่ก็จะค่ำแล้วเจ้าจะมาพักที่บ้านของข้ามั้ยล่ะ?"หัวหน้าหมู่บ้าน

    "ขอบคุณขอรับ"หม่าหงจวิ้น กล่าวจบเขาก็เดินตามหัวหน้าหมู่บ้านไปทันที

    "แล้วสัมภาระของเจ้าล่ะ?"หัวหน้าหมู่บ้านถามด้วยความสงสัย เพราะหม่าหงจิ้นนั้นบอกว่าตนเป็นนักเดินทางแต่กลับไม่มีสัมภาระเลย

    "ข้าเก็บไว่ในกระเป๋ามิติขอรับ"หม่าหงจิ้น

    "งั้นรึ"หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าเข้าใจ

     

     

       เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อเข้าไปข้างในบ้าน หัวหน้าหมู่บ้านก็บอกให้เขาไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยเดี๋ยวเขาจะไปทำอาหารมาให้

       ผ่านไปสามสิบนาทีหัวหน้าหมู่บ้านก็ยกกับข้าวมาตั้งที่โต๊ะ จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เริ่มทานอาหารทันที หลังจากทานเสร็จหม่าหงจิ้นก็ขอตัวไปอาบน้ำที่ลำธารเนื่องจากเขาไม่อยากรบกวนหัวหน้าหมู่บ้านมากเกินไป

     

     

    เช้าวันต่อมา

    "งั้นข้าขอไปฝึกที่ป่าแถวนี้ก่อนนะขอรับ"หม่าหงจวิ้น

    "อืม แล้วแต่เจ้าเถอะ ขอแค่ไม่สร้างความวุ่นวายก็พอแล้ว"หัวหน้าหมู่บ้าน

     

       หลังจากคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเสร็จหม่าหงจิ้นก็เดินเข้าไปในป่า เมื่อเดินมาสักพักเขาเจอพื้นที่โล่งๆ ไม่รอช้าเขาก็เอาดาบออกมาจากช่องเก็บของ และเริ่มฝึกทันที

     

       ผ่านไปสองชั่วโมง หงจวิ้นก็หยุดฝึกดาบและนั่งดูดซับพลังวิญญาณ โดยมีเด็กผู้หญิงคนนึงแอบดูอยู่ ซึ่งหงจวิ้นเองก็รู้ตัวตั้งแต่เด็กคนนั้นมาดูตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรและฝึกต่อโดยไม่สนใจเด็กคนนั้น

       จนในที่สุดเมื่อหงจวิ้นที่ดูดซับพลังวิญญาณเสร็จเขาก็ลืมตาขึ้นมาและมองไปทิศทางที่เด็กคนนั้นแอบอยู่ จากนั้นหงจวิ้นก็ได้พูดขึ้น

    "เจ้าจะแอบดูไปถึงเมื่อไรกัน ออกมาได้แล้วมั้ง"หม่าหงจวิ้น

     

     

    ไรท์:แถมให้อีกตอนละกัน ไม่ค้างกันแล้วเนอะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×