คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4
หงจวิ้นได้บินพุ่งเข้าไปหากิเลนอย่างรวดเร็ว เขากำดาบไว้แน่นและฟันเข้าที่ลำตัวของกิเลน แต่ทว่าจู่ๆดาบของเขาก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้เจ้ากิเลนได้แม้แต่น้อย
“ทำไมเกร็ดมันแข็งกว่าเดิมฟะ!”หม่าหงจวิ้น
ด้วยความประมาท หงจวิ้นก็ได้ถูกกิเลนพุ่งเข้าใส่กลางลำตัว ทำให้ตัวของเขากระเด็นไปชนกับผนังถ้ำก่อนจะร่วงลงมาที่พื้นที่เป็นทะเลเพลิง
หงจวิ้นลุกขึ้นมาด้วยความอ่อนแรง การต่อสู้นี้กินพลังเขาอย่างมาก ทำให้ในตอนนี้หงจวิ้นเองก็เริ่มสู้ไม่ไหวแล้ว แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไร เจ้ากิเลนก็ได้พุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้งหมายจะโจมตี แต่ทว่าหงจวิ้นก็สามารถหลบได้แบบเฉียดฉิว
“อึก!”หงจวิ้นกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย การโจมตีของสัตว์วิญญาณระดับพันปีไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เกรงว่าถ้าเขาไม่ได้ดูดซับธาราสองขั้วและสมุนไพรเซียนมามันอาจจะทำให้เขาตายไปนานแล้วก็ได้
จากนั้นหงจวิ้นก็ได้รีบบินกลับขึ้นมาตั้งหลักและพยายามหาสาเหตุ แต่เมื่อเขามองไปที่เจ้ากิเลนตัวนั้น เขาก็พบว่ามันกำลังยิ้มอย่างสะใจพร้อมกับบาดแผลที่ค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ
“เห้ยๆ แบบนี้ชักจะไม่ดีแล้วสิ”หงจวิ้นพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเริ่มทำบางอย่าง
หงจวิ้นได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกับหยิบบางออกมาจากช่องเก็บของและได้โชเจ้าสิ่งนั้นให้เจ้ากิเลนดู ซึ่งสิ่งนั้นก็คือยาฟื้นฟูระดับกลางที่เขาเพิ่งจะซื้อจากระบบนั่นเอง
“คิดว่าแกฟื้นฟูตัวเองได้คนเดียวรึไงหึๆๆ”หงจวิ้นแสยะยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่
จากนั้นหงจวิ้นก็ได้กระดกยาฟื้นฟูทันที ทำให้บาดแผลทั้งหมดถูกรักษาอย่างรวดเร็ว พลังกายและพลังวิญญาณก็กลับมาเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม
"เอาล่ะคราวนี้แกไม่รอดแน่เจ้ากิเลนเพลิง"หม่าหงจวิ้น
กล่าวจบเขาก็ใช้พลังวิญญาณคลุมทั้งร่างกาบและดาบเอาไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายและความคมของดาบ จากนั้นเขาก็ใช้เงาลวงตาต่อเนื่องทันที ซึ่งการโจมตีนี้ทำให้กิเลนเพลิงเกือบตาย
"ปิดฉากล่ะนะ ดาบเพลิงยักษ์ผ่าปฐพี!!!"หม่าหงจิ้น
เมื่อเห็นว่าเจ้ากิเลนเริ่มอ่อนแรงแล้ว หงจวิ้นจึงได้ทำการทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ปรากฎดาบเพลิงยักษ์ฟาดเป็นแนวตรงไปทางกิเลนทันที ซึ่งกิเลนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยืนรับชะตากรรม หลังจากการโจมตี กิเลนเพลิงก็ได้ตายลงและวงแหวนสีม่วงก็ปรากฎขึ้นเหนือร่างของกิเลนเพลิง
ส่วนทะเลเพลิงที่กิเลนเพลิงทำเอาไว้นั้นก็ค่อยๆหายไปทำให้หงจวิ้นนั้นโล่งอก เขานึกว่าจะต้องแบกร่างของกิเลนไปหาที่ดูดซับที่อื่นซะแล้ว
"แฮ่กๆ จบสักที ระบบซื้อยาฟื้นฟูระดับต่ำ"หม่าหงจิ้น
[หัก1,000พ้อย]
[ทำการซื้อยาฟื้นฟูระดับต่ำเรียบร้อย]
สิ้นเสียงระบบ หงจวิ้นก็รีบดื่มยาทันที หลังจากดื่มเสร็จเขาก็เดินไปที่ศพของกิเลนเพลิงและทำการชักนำวงแหวนก่อนจะดูดซับวงแหวนสีม่วงเข้าไป
เวลาผ่านไปสามชั่วโมงหงจวิ้นก็ลืมตาขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ลองใช้ทักษะที่เขาได้มาในทันที
"ทักษะวิญญาณที่หนึ่ง หงเพลิงพิโรธ"กล่าวจบหงจวิ้นก็พ่นไฟใส่ที่พื้นทันที ทำให้พื้นในตอนนี้เต็มไปด้วยไฟที่ลุกไหม้และกลายเป็นทะเลเพลิง
"ถ้าไม่ยกเลิกทักษะก็ไฟก็ไม่หยุดแถมธาตุไฟของข้ายังรุนแรงขึ้นด้วย ฮ่าๆๆเป็นทักษะที่ดีจริงๆ แต่มันก็ใช้พลังวิญญาณเยอะเหมือนกันแฮะ"หม่าหงจวิ้น
"นี่ระบบ ตอนนี้เวลาเท่าไหร่?"หม่าหงจวิ้น
[15.46 น. ค่ะ]
"งั้นก็ไปพักที่เมืองวิญญาณยุทธ์ก่อนก็แล้วกัน"หม่าหงจิ้น
กล่าวจบเขาก็ใช้วิญญาณยุทธ์บินออกไปจากถ้ำและตรงไปที่เมืองวิญญาณยุทธ์ทันที เมื่อมาถึงเขาก็รีบตรงไปที่ร้านอาหารอย่างรวดเร็ว และเขาก็ทำการสั่งอาหารและระหว่างรอเขาก็เช็คสเตตัสไปด้วย
"สเตตัส!"หม่าหงจิ้น
ชื่อ: หม่าหงจวิ้น
อายุ: 6 ปี
ส่วนสูง: 140
น้ำหนัก: 26
เผ่า: มนุษย์
วิญญาณยุทธ์: หงเพลิง
ระดับพลังวิญญาณ: 17
ระดับพลังจิต: 126
วงแหวนที่1:ระดับพันปี
-ทักษะหงเพลิงพิโรธ: จะทำการพ่นไฟออกมาด้วยความรุนแรง ทำให้คนที่โดนทักษะนี้จะติดสถานะเผาไหม้และพลังกายก็จะถูกบั่นทอนลงอย่างช้าๆ และไฟไม่สามารถดับลงได้จนกว่าเจ้าของทักษะจะยกเลิก
"ทำไมระดับพลังวิญญาณกับพลังจิตมันถึงพุ่งขึ้นสูงแบบนี้ล่ะเนี่ย?!"หงจวิ้นพูดด้วยความตกใจ
[ตอบ:เนื่องจากท่านดูดซับพลังจากธาราสองขั้วกับสมุนไพรระดับเซียนทำให้พลังวิญญาณที่ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ถูกบีบอัดเอาไว้ เมื่อท่านดูดซับวงแหวนก็ทำให้พลังวิญญาณที่ถูกบีบอัดเอาไว้ระเบิดออกมา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ระดับพลังวิญญาณของท่านจะเพิ่มขึ้นถึงระดับนี้ และเพราะท่านดูดซับวงแหวนพันปีเป็นวงแรกจึงทำให้ระดับพลังจิตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด]
‘งั้นเหรอเนี่ย แสดงว่าอีกไม่นานฉันคงต้องไปล่าวงแหวนเพิ่มสินะ’หงจวิ้นคิดด้วยความเหนื่อยใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็ออกไปหาที่พักทันที เดินมาสักพักเขาก็เจอโรงแรมแห่งหนึ่งที่ดูดีกว่ารอบที่แล้วและเขาก็ไปด้านในเพื่อเปิดห้อง
เช้าวันต่อมาหงจวิ้นก็ออกเดินทางไปยังหมู่เซิงหุน เพราะเขาอยากลองไปเจอพระเอกสักครั้ง
ผ่านไปห้าวันในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านเซิงหุนแล้ว แต่พอเดินเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็โดนหัวหน้าหมู่บ้านทักทันที ซึ่งเขาก็บอกกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าเป็นนักเดินทาง ทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านที่ได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจ เพราะหงจวิ้นนั้นยังเป็นแค่เด็กแต่กลับเดินทางด้วยตัวคนเดียว
"งั้นรึ นี่ก็จะค่ำแล้วเจ้าจะมาพักที่บ้านของข้ามั้ยล่ะ?"หัวหน้าหมู่บ้าน
"ขอบคุณขอรับ"หม่าหงจวิ้น กล่าวจบเขาก็เดินตามหัวหน้าหมู่บ้านไปทันที
"แล้วสัมภาระของเจ้าล่ะ?"หัวหน้าหมู่บ้านถามด้วยความสงสัย เพราะหม่าหงจิ้นนั้นบอกว่าตนเป็นนักเดินทางแต่กลับไม่มีสัมภาระเลย
"ข้าเก็บไว่ในกระเป๋ามิติขอรับ"หม่าหงจิ้น
"งั้นรึ"หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าเข้าใจ
เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อเข้าไปข้างในบ้าน หัวหน้าหมู่บ้านก็บอกให้เขาไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยเดี๋ยวเขาจะไปทำอาหารมาให้
ผ่านไปสามสิบนาทีหัวหน้าหมู่บ้านก็ยกกับข้าวมาตั้งที่โต๊ะ จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เริ่มทานอาหารทันที หลังจากทานเสร็จหม่าหงจิ้นก็ขอตัวไปอาบน้ำที่ลำธารเนื่องจากเขาไม่อยากรบกวนหัวหน้าหมู่บ้านมากเกินไป
เช้าวันต่อมา
"งั้นข้าขอไปฝึกที่ป่าแถวนี้ก่อนนะขอรับ"หม่าหงจวิ้น
"อืม แล้วแต่เจ้าเถอะ ขอแค่ไม่สร้างความวุ่นวายก็พอแล้ว"หัวหน้าหมู่บ้าน
หลังจากคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเสร็จหม่าหงจิ้นก็เดินเข้าไปในป่า เมื่อเดินมาสักพักเขาเจอพื้นที่โล่งๆ ไม่รอช้าเขาก็เอาดาบออกมาจากช่องเก็บของ และเริ่มฝึกทันที
ผ่านไปสองชั่วโมง หงจวิ้นก็หยุดฝึกดาบและนั่งดูดซับพลังวิญญาณ โดยมีเด็กผู้หญิงคนนึงแอบดูอยู่ ซึ่งหงจวิ้นเองก็รู้ตัวตั้งแต่เด็กคนนั้นมาดูตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรและฝึกต่อโดยไม่สนใจเด็กคนนั้น
จนในที่สุดเมื่อหงจวิ้นที่ดูดซับพลังวิญญาณเสร็จเขาก็ลืมตาขึ้นมาและมองไปทิศทางที่เด็กคนนั้นแอบอยู่ จากนั้นหงจวิ้นก็ได้พูดขึ้น
"เจ้าจะแอบดูไปถึงเมื่อไรกัน ออกมาได้แล้วมั้ง"หม่าหงจวิ้น
ไรท์:แถมให้อีกตอนละกัน ไม่ค้างกันแล้วเนอะ
ความคิดเห็น