คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2
หลังจากที่ลอบเข้ามาในสวนสมุนไพรได้แล้ว หงจวิ้นก็รีบหาสมุนไพรที่เหมาะกับเขาทันที และในที่สุดเขาก็เจอมันสักที ดอกหงอนไก่เพลิงปักษา
“ข้าจะยังไม่ดูดซับตอนนี้ก่อนละกัน”หม่าหงจิ้นรีบทำการเด็ดดอกหงอนไก่ใส่ช่องเก็บของ แต่ก่อนที่เขาจะเดินไปดูสมุนไพรอื่นๆนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นสมุนไพรบางอย่าง ซึ่งความรู้สึกของเขาก็บอกให้เก็บมันไปด้วย
“ระบบนี่คือสมุนไพรอะไร?”หม่าหงจิ้น
[ตอบ:มันคือสมุนไพรเซียน ดอกบัวเพลิงพิสุทธ์ มีคุณสมบัติธาตุไฟบริสุทธ์ซึ่งเหมาะกับนายท่านมาก]
“ของดีนี่หว่างั้นก็เก็บ!”หม่าหงจวิ้น
ไม่รอช้าเขาก็รีบเก็บสมุนไพรนั่นทันที หลังจากนั้นเขาก็ไล่เก็บสมุนไพรไปบางส่วน ซึ่งเขาพยายามเก็บให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ตู่กู่ป๋อเอะใจ หลังจากที่เก็บสมุนไพรเสร็จ หม่าหงจวิ้นก็ถอดเสื้อผ้าและลงไปในธาราสองขั่วทันที
เมื่อลงไปเขาก็ทำการกินสมุนไพรที่มีคุณสมบัติต้านร้อนและหนาวชั่วขณะเข้าไป จากนั้นเขาก็นั่งสมาธิเพื่อดูดซับพลังจากธาราสองขั้ว
[แจ้งเตือน:ขณะนี้ท่านกำลังอยู่ในขีดอันตราย ทำการหักเหรียญภูตทองของนายท่านเพื่อเปลี่ยนเป็นพ้อย]
[แลกเปลี่ยนสำเร็จ ท่านได้รับพ้อย 50,000 พ้อย]
[ทำการซื้อยาฟื้นฟูขั้นสูงสุดและทำการใช้กับนายท่านทันที]
หลังจากที่ระบบใช้ยาฟื้นฟูขั้นสูงกับหงจวิ้น ทำให้ตัวของหงจวิ้นนั้นไม่ทรมานและยังทำให้เขาสามารถดูดซับพลังจากธาราสองขั่วได้สบาย
ผ่านไปห้าชั่วโมงในที่สุดหงจวิ้นก็สามารถดูดซับได้สำเร็จ
“ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้ว?”หม่าหงจิ้น
[ตอบ: 18.46 น.]
“แย่ล่ะ! รีบออกไปจากที่นี่ดีกว่า!!”หม่าหงจวิ้น
ไม่รอช้าเขารีบวิ่งออกไปทันที ซึ่งตอนนี้เขาสามารถวิ่งฝ่าหมอกพิษได้แล้วหลังจากได้ดูดซับพลังจากธาราสองขั้ว
“ต้านพิษทุกชนิดนี่มันดีแบบนี้นี่เอง ระบบค้นหาถ้ำให้หน่อยขอไกลจากที่นี่สักหน่อยก็ดีนะ!”หม่าหงจิ้น
[เจอแล้วค่ะ จะทำการนำทางเดี๋ยวนี้ค่ะ]
“หวังว่าตาแก่นั้นคงไม่สังเกตหรอกนะที่สมุนไพรหายไป”หม่าหงจวิ้นกล่าวด้วยความกังวลเล็กน้อย เพราะเขาเก็บสมุนไพรมาแค่หนึ่งในสี่ของสวนเอง ซึ่งตู่กู่ป๋อคงจะไม่สังเกตหรอก มั้งนะ
หลังจากที่หงจวิ้นไปขโม- แค่กๆ ไปยืมสมุนไพรโดยไม่ได้ขอนั้นก็ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว และตอนนี้เขาก็อาศัยอยู่ในถ้ำที่ห่างจากสวนของตู่กู่ป๋อสิบกิโลเมตร
หลังจากที่ได้ดูดซับพลังจากธาราสองขั้วมา ก็ทำให้หงจวิ้นนั้นระดับพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเป็นระดับสิบ จากนั้นเขาก็นำดอกหงอนไก่เพลิงปักษาออกมาจากช่องเก็บของและทำการดูดซับทันที
สาเหตุที่หงจวิ้นต้องดูดซับสมุนไพรเซียนก่อนนั้นเป็นเพราะว่าถ้าหากไปล่าวงแหวนนั้น วิญญาณยุทธ์ไก่เพลิงคงทำได้อย่างมากแต่ล่าสัตว์วิญญาณสิบปี แต่หากเป็นหงเพลิง การล่าสัตว์วิญญาณระดับร้อยปีก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
ผ่านไปสองชั่วโมงหม่าหงจวิ้นก็ลืมตาขึ้นมา ไม่รอช้าเขาได้ทำการเปิดใช้วิญญาณยุทธ์ของเขาทันที และปรากฎว่าตอนนี้วิญญาณยุทธ์ของเขานั้นมันไม่ใช่ไก่เพลิงอีกต่อไปแล้ว
“สเตตัส!”หม่าหงจวิ้นกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
ชื่อ: หม่าหงจวิ้น
อายุ: 6 ปี
ส่วนสูง: 140
น้ำหนัก: 26
เผ่า: มนุษย์
วิญญาณยุทธ์: หงเพลิง
ระดับพลังวิญญาณ: 10
ระดับพลังจิต: 52
“ระดับพลังจิตขนาดนี้วงแหวนแรกก็พันปีเลยแล้วกัน”หม่าหงจวิ้น
“อ๊ะ ข้ายังไม่ได้ดูของรางวัลเลยนี่หน่า”หม่าหงจวิ้น
[ยินดีด้วยท่านได้รับ วิชาย่างก้าวพริบตา และพ้อย10,000]
[สำเร็จภารกิจลับ: ดูดซับสมุนไพรระดับสูงอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง]
[ท่านได้รับ เนตรมังกรคราม]
“เนตรมังกรครามงั้นเหรอ มันทำอะไรได้”หม่าหงจิ้น
[ตอบ:เมื่อใช้เนตรมังกรครามนั้นจะสามารถมองได้ไกลถึงสิบกิโล และสามารถมองการโคจรพลังวิญญาณได้แถมยังสามารถมองอนาคตได้ห้าวินาที]
“โครตโกง!”หม่าหงจิ้นกล่าวด้วยความตกตลึง
หลังจากได้รับวิชาย่างก้าวพริบตามา หงจวิ้นก็ทำการลองวิชาในทันที ซึ่งในตอนแรกเขาก็จับจังหวะไม่ถูก แต่พอผ่านไปสามชั่วโมงเขาก็เริ่มใช้ได้คล่องถึงแม้จะมีบางครั้งที่เขาวาปไปชนต้นไม้ก็ตาม
หลังจากนั้นเขาก็ลองใช้เนตรมังกรครามดู เมื่อใช้วิชานี้นัยน์ตาของเขาก็เปลี่ยนจากสีแดงเพลิงเป็นสีครามทันที และเขาก็ทดสอบโดยมองไปรอบๆ จนไปพบเข้ากับสัตว์วิญญาณที่กำลังต่อสู้กันอยู่ซึ่งห่างจากจุดที่หม่าหงจิ้นอยู่แค่เพียงสองกิโลเมตรเท่านั้น
เมื่อมองไปเขาก็เห็นยังการเคลื่อนไหวของสัตว์วิญญาณนั้นช้าลงและยังมองเห็นการโคจรพลังของมันอีกด้วย
“สุดยอด! เอาล่ะได้เวลาลองใช้จริงแล้วสิ”หม่าหงจิ้นกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
“ระบบค้นหาสัตว์วิญญาณที่เหมาะกับข้าที”หม่าหงจิ้น
[ทำการค้นหากรุณารอสักครู่]
[ค้นหาเสร็จสิ้น]
จากนั้นก็ปรากฎเป็นหน้าจอที่มีข้อมูลของสัตว์วิญญาณวิญญาณที่เหมาะกับเขาทันที
ชื่อ: กิเลนเพลิง
อายุ: 1,300 ปี
ที่อยู่อาศัย: ป่าใหญ่ซิงโต่ว
“เฮ้อ…เอาซะไกลเลยแฮะ”หม่าหงจวิ้น
เมื่อเห็นที่อยู่ของมันเขาก็เหนื่อยใจเป็นอย่างมาก แต่ทำไงได้ในโลกที่โหดร้ายแบบนี้เขามีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ไม่รอช้าเขารีบตรงไปที่อาณาจักรเทียนโต่วที่อยู่ไม่ไกลก่อนเพื่อหาที่พัก และค่อยเดินทางไปป่าซิงโต่วในวันถัดไป
ระหว่างทางเขาก็ฝึกฝนย่างก้าวพริบตาไปด้วยและใช้เนตรมังกรครามทำการตรวจสอบรอบว่ามีสัตว์วิญญาณหรือไม่ หากมีเขาจะได้หลีกเลี่ยงพวกมัน
ผ่านไปหกชั่วโมง
หงจวิ้นก็เดินทางออกจากป่าได้สำเร็จ ระหว่างทางเขาก็เจอสัตว์วิญญาณบ้างบางตัวแต่ส่วนใหญ่เขาเลือกที่จะหลีกเลี่ยงพวกมัน
แต่เมื่อเขาเจอสัตว์วิญญาณระดับสิบปี หงจวิ้นก็เลือกที่จะสู้ดูเพื่อฝึกฝีมือ และนั้นจึงทำให้เขาออกจากป่ามาช้ากว่ากำหนดเพราะมัวแต่ต่อสู้ บางครั้งเขาก็สามารถจบการต่อสู้ได้แค่ครั้งเดียวแต่เขาก็ไม่ยอมทำเพราะหงจวิ้นเลือกที่จะฝึกการหลบหลีก
“เฮ้อ..ในที่สุดก็มาถึงอาณาจักรเทียนโต่วได้สักที เอาล่ะไปหาที่พักดีกว่า”หม่าหงจวิ้น ซึ่งในขณะที่เขากำลังจะไปหาที่พักอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงท้องร้องดังออกมา
“แฮะๆ เหมือนข้าคงต้องเติมพลังก่อนสินะ”หม่าหงจิ้น
กล่าวจบเขาก็เดินไปหาร้านอาหารทันที เมื่อมาถึงเขาก็สั่งอาหารมาและทานอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่เขากำลังทานอาหารอยู่นั้นเขาก็ได้ยินคนพูดคุยเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่อ้างตนว่าเป็นนักทฤษฎีอันดับหนึ่งของโลกกำลังเกาะโรงเรียนนั่วติงกินและอยู่
‘สวะเสี่ยวกังสินะ เฮ้อ..ตอนดูก็ว่านิสัยน่าเกลียดแล้วนะแต่พอมาได้ยินกับตัวนี่มันแย่กว่าในเรื่องซะอีก’หม่าจวิ้นคิดอย่างเหนื่อยใจ
เมื่อทานเสร็จเขาก็จ่ายเงินและไปหาที่พักต่อทันที พอเดินไปสักพักเขาก็เจอที่พักแม้จะดูทรุดโทรมไปหน่อยก็ตาม
“ช่างเถอะ เราพักแค่คืนเดียวเอง”หม่าหงจวิ้น พูดจบเขาก็เดินเข้าไปข้างในและทำการเปิดห้อง
ไรท์: วันนี้เอาแค่สามตอนพอนะ หวังว่ารี๊ดคงพอใจ
ความคิดเห็น