ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้พิทักษ์แหวนคู่

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 49


    เมื่อเสียงระฆังดังเหง่งหง่างติดต่อกันทั่วราเวล  5  ครั้ง  แสดงถึงการลาจากล่วงลับไปของใครบางคนในหมู่บ้าน  และวันนี้ยังเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของเด็กทั้ง  3  คน   หรือ  เวล น้องชายคนสุดท้อง   ไวลด์  พี่สาวคนรอง  และ  วิล  พี่ชายคนโต  กับการจากไปของพ่อแม่ของพวกเขา

                    ทั้ง  3  ยืนอยู่หน้าหลุมศพของพ่อและแม่พร้อมด้วยเหล่าญาติรายร้อม  ไวลด์หน้าแดงก่ำอาบไปด้วยน้ำตา  วิลพยายามปลอบน้องสาวอยู่

                    "ผมขอไปเดินเล่นนะครับ   ผมอาจจะกลับค่ำหน่อย" เวลพูดและวิ่งออกไปจากสุสาน  โดยไม่รอคำตอบจากเหล่าญาติ  แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็เข้าใจเวลดี  เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่ในราเวลบ้านเกิดของเขา  หลังจากที่พ่อแม่ของเขาตายไปเพราะถูกฆ่า  พวกเขาจะต้องย้ายไปอยู่กับลุงที่ต่างเมือง

                    พ่อแม่ของเวลทำงานในสภาเวทย์  ก่อนตายพวกเขาได้ค้นพบข้อมูลบางอย่างที่สำคัญมาก  จึงเดินทางไปสภาเวทย์เพื่อบอกข้อมูลที่พบ  แต่ระหว่างทางกลับถูกคนฆ่าตาย  ข้อมูลที่ค้นพบก็หายสาบสูญ  คนที่อยู่ในสภาเวทย์ล้วนเป็นคนเก่งแต่กลับมีคนฆ่าคนในสภาเวทย์ได้  แสดงว่าคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเวลจะต้องเป็นคนที่มีฝีมือไม่ธรรมดา  สภาเวทย์ใช้เวลาไปมากกับการสืบสวนการตายของพ่อแม่ของเวล  แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า  จึงต้องหยุดการสืบสวนไว้แค่นี้   ผู้ร้ายก็ลอยนวลไป

                    ตามทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนและแสงไฟสว่างไสว  กลับไม่สามารถทำให้ใจของเวลสว่างไปด้วย  เขาเหม่อลอยเดินไปอย่างไร้จุดหมาย  จมอยู่ในห้วงคิดอันว่าเปล่า  แต่แล้วเท้าของเขากลับพาตัวเขามาอยู่ที่ทะเล  กำลังเดินไปตรงเนินผาเล็กๆที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงเนิน

                    เวลเริ่มได้สติ  เขามองสถานที่ที่เท้าของเขาพาเขามา  มันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เวลจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด   ในวันหยุดครอบครัวของเขาชอบมานั่งเล่นที่นี้บ่อยๆ  เวลยังมองเห็นดอกคาลาโรสที่แม่ปลูกไว้   สายลมพัดดอกคาลาโรสให้ปลิวไสวไปตามสายลมอย่างเคย  บทเพลงที่พ่อของเขาแต่งและร้องให้ฟังยังคงได้ยิน  ความอัดอั้นของเวลมาถึงขีดสุด  เวลทรุดนั่งตรงผาและปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

                    มีหญิงชราคนหนึ่งเห็นเวลนั่งร้องไห้อยู่จึงเดินเข้ามาหา

                    "เป็นอะไรไปจ้ะ  พ่อหนุ่มน้อย"หญิงชราถามด้วยรอยยิ้มอันอบอ่น

                    "ผะ.. ผม ..ไม่มี ..พ่อแม่แล้ว ..พวกเขาจากผม .. ไปแล้ว" เวลตอบด้วยเสียงสะอึกแล้วก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม

                    "เธอคิดอย่างนั้นหรือจ้ะ"หญิงชราถามต่อ  เวลหันหน้ามามองหญิงชราด้วยวามสงสัย   ใช่...พ่อแม่จากผมไปแล้ว   ไม่มีทางที่พวกเขาจะกลับมาแล้ว   เวลคิดในใจ

                    "เธอคิดว่าพ่อแม่เธอจากไปแล้วรึ  คิดว่าพ่อแม่เธอไม่กลับมาแล้วรึ  ถ้าอย่างนั้นเธอลองคิดใหม่ซิจ้ะ  ลองหลับตาลง  แล้วสัมผัสด้วยจิตวิญญาณของเธอ"

    หญิงชราพูดแล้วเอามือไปทาบตรงอกข้างซ้ายของเวล  แต่แล้ว  เธอกลับรู้สึกมีประการสายไฟแล่นเข้ามือของเธอ  หญิงชราชักมือออกอย่างรวดเร็ว  โดยไม่ให้เวลรู้ตัว

                    เวลหลับตาลงแล้วตั้งสมาธิ  สูดลมหานใจลึกๆ  เขาเห็นทุกอย่างว่าเปล่า  ขาวล้วน  แต่เขาก็ยังไม่ลืมตา  ยังคงตั้งสมาธิต่อไป  มีบางอย่างกำลังออกมาจากแสงสีขาว  เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่เวลปรารถนาอยากจะเป็น

                    พ่อและแม่ยืนอยู่ปลายผา  หันหน้ามาหาเวลพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่น  พ่อเวลพูดขึ้นว่า

                    "ไงเวล  ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้  ลูกผู้ชายน่ะจะต้องเข้มแข็ง  อดทนต่ออุปสรรทุกอย่าง  อย่าเผยความอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น  ยกเว้นเวลาอยู่คนเดียวก็อาจได้  จากนั้นก็ค่อยหาวิธีการแก้ไขปัญหา  ถึงแม้ลูกจะคิดไม่ออก

    อืม...ยังไงลูกก็ต้องคิดให้ออกให้ได้  ถึงแม้ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็นเท่าไร  เราก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้  ยกตัวอย่างเช่น  มีหมีตัวหนึ่ง  มันต้องการกินน้ำผึ้งที่อยู่บนปลายผาสูงชัน  มันจึงต้องปีนผาขึ้นไปเพื่อเอาน้ำผึ้ง  และอีกนิดเดียวที่มันจะได้น้ำผึ้งมา   แต่แล้วมันก็พลาดท่าตกผาตาย  ในเวลาไม่นาน  วิญญาณหมีได้ออกจากร่าง  ลอยขึ้นไปบนฟากฟ้า  มันลอยขึ้นไปจนถึงปลายผาที่มีน้ำผึ้ง  แล้วมันก็หยิบน้ำผึ้งมากินได้  เห็นมั้ย  ถ้าเรารู้จักคิดแก้ปัญหา  เราก็สามารถทำทุกอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้สำเร็จเหมือนหมีตัวนั้น"  พอพ่อพูดเสร็จ  เวลก็ปล่อยเสียงหัวเราะที่อัดอั้นมาระหว่างที่พ่อพูด

                    "มีอะไรน่าหัวเราะหรือเวล  พ่อแค่พูดวิธีแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาดแค่นี้เอง"พ่อถามเวล  หน้าตาดูเคร่งเครียด

                    "ก็มันตาย...แล้วถึงมันจะได้น้ำผึ้ง...มันจะกินได้ซะที่ไหนพ่อ"เวลพูดพลางหัวเราะไปด้วย

                    "เออใช่    พ่อลืมนึกไป  นึกว่าวิญญาณจะกินน้ำผึ้งได้"พ่อพูดจบก็หัวเราะผสมโรงด้วย  พ่อเป็นคนอารมณ์ดี  มักจะทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้เสมอ  ถึงแม้ว่าคนๆนั้นกำลังเครียดอยู่ก็ตาม  เวลนึก

                    "เพิ่งรู้รึไงว่าวิญญาณมันกินน้ำผึ้งไม่ได้  พูดอะไรไม่รู้จักคิด  ชอบคิดอะไรตื้นๆ"แม่บ่นให้พ่อ  แต่พ่อก็ยังหัวเราะอยู่

                    "สวัสดีเวล  พรุ่งนี้ก็ต้องย้ายไปอยู่กับลุงเบรนสินะ  ต้องช่วยลุงเบรนทำความสะอาดบ้านบ้างนะ 

    ลุงเบรนไม่ชอบที่รกๆ  เพราะลุงเบรนกลัวงูมากๆ  และอย่าทะเลาะกับไวลด์ให้มากนัก  จะรบกวนเวลาทำงานของลุงเบรน  โดยเฉพาะตอนเช้า  คนข้างบ้านเค้ายังไม่ตื่นพวกลูกชอบทะเลาะกันจนคนข้างวันเค้านอนไม่หลับเลย   เอ้อลืมไป  บอกวิลให้ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยล่ะ  จะสอบแล้ว   และ...."มีอีกมากมายที่แม่พูด  แต่เวลก็ยังฟัง  แม่เป็นคนเจ้าระเบียบมากๆ  ต่างกับพ่อที่เป็นคนทำอะไรสบายๆ ตามใจชอบ  ไม่รู้ว่าสองคนนี้รักกันได้ยังไง  แต่ที่ผ่านมากพ่อกับแม่ก็เข้ากันได้

                    "และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ  แม่รักลูกทั้ง  3   คนมากจ้ะ"แม่พูด

                    "ใช่ๆ  พวกเรา  2  คนรักลูกทั้ง 3 คนมากและจะไม่จากลูกๆไปไหน   แต่จะคอยอยู่กับลูกในแบบที่ลูกมองไม่เห็น  คิดเสียว่าพ่อกับแม่ล่องหนอยู่  และเราจะอยู่ในใจของลูกตลอดจนชั่วนิรันดร์"เวลรู้สึกว่าพ่อคงจะพูดได้ซึ้งสุดๆก็คงเป็นวันนี้กระมัง

                    "พูดดีได้ด้วยนะเนี่ย  ไม่ยักจะรู้"แม่พูดดูแคลน

                    "แน่ล่ะ  คนอย่างพ่อซะอย่าง  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  และที่สำคัญที่พ่อลืมพ่อไป  จี้ที่ให้อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้  บอกไวลด์กับวิลด้วยนะ  อืม...พ่อว่าเราต้องไปแล้วนะแม่   บายเวล  ฝากบอกคนอื่นๆด้วย  แล้วอย่าร้องให้อีกล่ะ  พ่อกับแม่ยังอยู่กับลูกเสมอ  ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน  พวกเรายังคงอยู่ในใจของลูกเสมอ"พ่อพูดจบ  พ่อกับแม่ก็เริ่มจางหายไป

                    "เรารักลูกจ้ะ  เวล"แม่พูดเป็นคำสุดท้ายก่อนจะหายไป

                    เวลลืมตาขึ้น  มองออกไปยังทะเล  เป็ฯภาพพ่อแม่ยืนอยู่ตรงปลายผากำลังหายไป  เวลยิ้มให้พวกท่านและพวกท่านก็ยิ้มให้เวล  พร้อมกับฉากหลังอันงดงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นกำลังลับขอบฟ้าหายไปในทะเล

                    "ขอบคุณครับ"เวลพูดและกอดหญิงชรา  แล้ววิ่งจากไป

                    ปลายผานนั้นเหลือเพียงหญิงชราที่ยังยิ้มอยู่คนเดียว มองเวลวิ่งลับหายไปในเมือง

                    "ข้าเจอแล้วรีค  ข้าเจอแล้ว  ทายาชคนสุดท้ายของเรา  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า"หญิงชราพูดกับใครบางคนที่บัดนี้

    ปรากฎขึ้นข้างกายของหญิงชราพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย


    หญิงชราพูดแล้วเอามือไปทาบตรงอกข้างซ้ายของเวล  แต่แล้ว  เธอกลับรู้สึกมีประการสายไฟแล่นเข้ามือของเธอ  หญิงชราชักมือออกอย่างรวดเร็ว  โดยไม่ให้เวลรู้ตัว

                    เวลหลับตาลงแล้วตั้งสมาธิ  สูดลมหานใจลึกๆ  เขาเห็นทุกอย่างว่าเปล่า  ขาวล้วน  แต่เขาก็ยังไม่ลืมตา  ยังคงตั้งสมาธิต่อไป  มีบางอย่างกำลังออกมาจากแสงสีขาว  เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่เวลปรารถนาอยากจะเป็น

                    พ่อและแม่ยืนอยู่ปลายผา  หันหน้ามาหาเวลพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่น  พ่อเวลพูดขึ้นว่า

                    "ไงเวล  ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้  ลูกผู้ชายน่ะจะต้องเข้มแข็ง  อดทนต่ออุปสรรทุกอย่าง  อย่าเผยความอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น  ยกเว้นเวลาอยู่คนเดียวก็อาจได้  จากนั้นก็ค่อยหาวิธีการแก้ไขปัญหา  ถึงแม้ลูกจะคิดไม่ออก

    อืม...ยังไงลูกก็ต้องคิดให้ออกให้ได้  ถึงแม้ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็นเท่าไร  เราก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้  ยกตัวอย่างเช่น  มีหมีตัวหนึ่ง  มันต้องการกินน้ำผึ้งที่อยู่บนปลายผาสูงชัน  มันจึงต้องปีนผาขึ้นไปเพื่อเอาน้ำผึ้ง  และอีกนิดเดียวที่มันจะได้น้ำผึ้งมา   แต่แล้วมันก็พลาดท่าตกผาตาย  ในเวลาไม่นาน  วิญญาณหมีได้ออกจากร่าง  ลอยขึ้นไปบนฟากฟ้า  มันลอยขึ้นไปจนถึงปลายผาที่มีน้ำผึ้ง  แล้วมันก็หยิบน้ำผึ้งมากินได้  เห็นมั้ย  ถ้าเรารู้จักคิดแก้ปัญหา  เราก็สามารถทำทุกอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้สำเร็จเหมือนหมีตัวนั้น"  พอพ่อพูดเสร็จ  เวลก็ปล่อยเสียงหัวเราะที่อัดอั้นมาระหว่างที่พ่อพูด

                    "มีอะไรน่าหัวเราะหรือเวล  พ่อแค่พูดวิธีแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาดแค่นี้เอง"พ่อถามเวล  หน้าตาดูเคร่งเครียด

                    "ก็มันตาย...แล้วถึงมันจะได้น้ำผึ้ง...มันจะกินได้ซะที่ไหนพ่อ"เวลพูดพลางหัวเราะไปด้วย

                    "เออใช่    พ่อลืมนึกไป  นึกว่าวิญญาณจะกินน้ำผึ้งได้"พ่อพูดจบก็หัวเราะผสมโรงด้วย  พ่อเป็นคนอารมณ์ดี  มักจะทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้เสมอ  ถึงแม้ว่าคนๆนั้นกำลังเครียดอยู่ก็ตาม  เวลนึก

                    "เพิ่งรู้รึไงว่าวิญญาณมันกินน้ำผึ้งไม่ได้  พูดอะไรไม่รู้จักคิด  ชอบคิดอะไรตื้นๆ"แม่บ่นให้พ่อ  แต่พ่อก็ยังหัวเราะอยู่

                    "สวัสดีเวล  พรุ่งนี้ก็ต้องย้ายไปอยู่กับลุงเบรนสินะ  ต้องช่วยลุงเบรนทำความสะอาดบ้านบ้างนะ 

    ลุงเบรนไม่ชอบที่รกๆ  เพราะลุงเบรนกลัวงูมากๆ  และอย่าทะเลาะกับไวลด์ให้มากนัก  จะรบกวนเวลาทำงานของลุงเบรน  โดยเฉพาะตอนเช้า  คนข้างบ้านเค้ายังไม่ตื่นพวกลูกชอบทะเลาะกันจนคนข้างวันเค้านอนไม่หลับเลย   เอ้อลืมไป  บอกวิลให้ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยล่ะ  จะสอบแล้ว   และ...."มีอีกมากมายที่แม่พูด  แต่เวลก็ยังฟัง  แม่เป็นคนเจ้าระเบียบมากๆ  ต่างกับพ่อที่เป็นคนทำอะไรสบายๆ ตามใจชอบ  ไม่รู้ว่าสองคนนี้รักกันได้ยังไง  แต่ที่ผ่านมากพ่อกับแม่ก็เข้ากันได้

                    "และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ  แม่รักลูกทั้ง  3   คนมากจ้ะ"แม่พูด

                    "ใช่ๆ  พวกเรา  2  คนรักลูกทั้ง 3 คนมากและจะไม่จากลูกๆไปไหน   แต่จะคอยอยู่กับลูกในแบบที่ลูกมองไม่เห็น  คิดเสียว่าพ่อกับแม่ล่องหนอยู่  และเราจะอยู่ในใจของลูกตลอดจนชั่วนิรันดร์"เวลรู้สึกว่าพ่อคงจะพูดได้ซึ้งสุดๆก็คงเป็นวันนี้กระมัง

                    "พูดดีได้ด้วยนะเนี่ย  ไม่ยักจะรู้"แม่พูดดูแคลน

                    "แน่ล่ะ  คนอย่างพ่อซะอย่าง  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  และที่สำคัญที่พ่อลืมพ่อไป  จี้ที่ให้อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้  บอกไวลด์กับวิลด้วยนะ  อืม...พ่อว่าเราต้องไปแล้วนะแม่   บายเวล  ฝากบอกคนอื่นๆด้วย  แล้วอย่าร้องให้อีกล่ะ  พ่อกับแม่ยังอยู่กับลูกเสมอ  ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน  พวกเรายังคงอยู่ในใจของลูกเสมอ"พ่อพูดจบ  พ่อกับแม่ก็เริ่มจางหายไป

                    "เรารักลูกจ้ะ  เวล"แม่พูดเป็นคำสุดท้ายก่อนจะหายไป

                    เวลลืมตาขึ้น  มองออกไปยังทะเล  เป็ฯภาพพ่อแม่ยืนอยู่ตรงปลายผากำลังหายไป  เวลยิ้มให้พวกท่านและพวกท่านก็ยิ้มให้เวล  พร้อมกับฉากหลังอันงดงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นกำลังลับขอบฟ้าหายไปในทะเล

                    "ขอบคุณครับ"เวลพูดและกอดหญิงชรา  แล้ววิ่งจากไป

                    ปลายผานนั้นเหลือเพียงหญิงชราที่ยังยิ้มอยู่คนเดียว มองเวลวิ่งลับหายไปในเมือง

                    "ข้าเจอแล้วรีค  ข้าเจอแล้ว  ทายาชคนสุดท้ายของเรา  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า"หญิงชราพูดกับใครบางคนที่บัดนี้

    ปรากฎขึ้นข้างกายของหญิงชราพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย


    หญิงชราพูดแล้วเอามือไปทาบตรงอกข้างซ้ายของเวล  แต่แล้ว  เธอกลับรู้สึกมีประการสายไฟแล่นเข้ามือของเธอ  หญิงชราชักมือออกอย่างรวดเร็ว  โดยไม่ให้เวลรู้ตัว

                    เวลหลับตาลงแล้วตั้งสมาธิ  สูดลมหานใจลึกๆ  เขาเห็นทุกอย่างว่าเปล่า  ขาวล้วน  แต่เขาก็ยังไม่ลืมตา  ยังคงตั้งสมาธิต่อไป  มีบางอย่างกำลังออกมาจากแสงสีขาว  เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่เวลปรารถนาอยากจะเป็น

                    พ่อและแม่ยืนอยู่ปลายผา  หันหน้ามาหาเวลพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่น  พ่อเวลพูดขึ้นว่า

                    "ไงเวล  ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้  ลูกผู้ชายน่ะจะต้องเข้มแข็ง  อดทนต่ออุปสรรทุกอย่าง  อย่าเผยความอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น  ยกเว้นเวลาอยู่คนเดียวก็อาจได้  จากนั้นก็ค่อยหาวิธีการแก้ไขปัญหา  ถึงแม้ลูกจะคิดไม่ออก

    อืม...ยังไงลูกก็ต้องคิดให้ออกให้ได้  ถึงแม้ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็นเท่าไร  เราก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้  ยกตัวอย่างเช่น  มีหมีตัวหนึ่ง  มันต้องการกินน้ำผึ้งที่อยู่บนปลายผาสูงชัน  มันจึงต้องปีนผาขึ้นไปเพื่อเอาน้ำผึ้ง  และอีกนิดเดียวที่มันจะได้น้ำผึ้งมา   แต่แล้วมันก็พลาดท่าตกผาตาย  ในเวลาไม่นาน  วิญญาณหมีได้ออกจากร่าง  ลอยขึ้นไปบนฟากฟ้า  มันลอยขึ้นไปจนถึงปลายผาที่มีน้ำผึ้ง  แล้วมันก็หยิบน้ำผึ้งมากินได้  เห็นมั้ย  ถ้าเรารู้จักคิดแก้ปัญหา  เราก็สามารถทำทุกอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้สำเร็จเหมือนหมีตัวนั้น"  พอพ่อพูดเสร็จ  เวลก็ปล่อยเสียงหัวเราะที่อัดอั้นมาระหว่างที่พ่อพูด

                    "มีอะไรน่าหัวเราะหรือเวล  พ่อแค่พูดวิธีแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาดแค่นี้เอง"พ่อถามเวล  หน้าตาดูเคร่งเครียด

                    "ก็มันตาย...แล้วถึงมันจะได้น้ำผึ้ง...มันจะกินได้ซะที่ไหนพ่อ"เวลพูดพลางหัวเราะไปด้วย

                    "เออใช่    พ่อลืมนึกไป  นึกว่าวิญญาณจะกินน้ำผึ้งได้"พ่อพูดจบก็หัวเราะผสมโรงด้วย  พ่อเป็นคนอารมณ์ดี  มักจะทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้เสมอ  ถึงแม้ว่าคนๆนั้นกำลังเครียดอยู่ก็ตาม  เวลนึก

                    "เพิ่งรู้รึไงว่าวิญญาณมันกินน้ำผึ้งไม่ได้  พูดอะไรไม่รู้จักคิด  ชอบคิดอะไรตื้นๆ"แม่บ่นให้พ่อ  แต่พ่อก็ยังหัวเราะอยู่

                    "สวัสดีเวล  พรุ่งนี้ก็ต้องย้ายไปอยู่กับลุงเบรนสินะ  ต้องช่วยลุงเบรนทำความสะอาดบ้านบ้างนะ 

    ลุงเบรนไม่ชอบที่รกๆ  เพราะลุงเบรนกลัวงูมากๆ  และอย่าทะเลาะกับไวลด์ให้มากนัก  จะรบกวนเวลาทำงานของลุงเบรน  โดยเฉพาะตอนเช้า  คนข้างบ้านเค้ายังไม่ตื่นพวกลูกชอบทะเลาะกันจนคนข้างวันเค้านอนไม่หลับเลย   เอ้อลืมไป  บอกวิลให้ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยล่ะ  จะสอบแล้ว   และ...."มีอีกมากมายที่แม่พูด  แต่เวลก็ยังฟัง  แม่เป็นคนเจ้าระเบียบมากๆ  ต่างกับพ่อที่เป็นคนทำอะไรสบายๆ ตามใจชอบ  ไม่รู้ว่าสองคนนี้รักกันได้ยังไง  แต่ที่ผ่านมากพ่อกับแม่ก็เข้ากันได้

                    "และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ  แม่รักลูกทั้ง  3   คนมากจ้ะ"แม่พูด

                    "ใช่ๆ  พวกเรา  2  คนรักลูกทั้ง 3 คนมากและจะไม่จากลูกๆไปไหน   แต่จะคอยอยู่กับลูกในแบบที่ลูกมองไม่เห็น  คิดเสียว่าพ่อกับแม่ล่องหนอยู่  และเราจะอยู่ในใจของลูกตลอดจนชั่วนิรันดร์"เวลรู้สึกว่าพ่อคงจะพูดได้ซึ้งสุดๆก็คงเป็นวันนี้กระมัง

                    "พูดดีได้ด้วยนะเนี่ย  ไม่ยักจะรู้"แม่พูดดูแคลน

                    "แน่ล่ะ  คนอย่างพ่อซะอย่าง  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  และที่สำคัญที่พ่อลืมพ่อไป  จี้ที่ให้อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้  บอกไวลด์กับวิลด้วยนะ  อืม...พ่อว่าเราต้องไปแล้วนะแม่   บายเวล  ฝากบอกคนอื่นๆด้วย  แล้วอย่าร้องให้อีกล่ะ  พ่อกับแม่ยังอยู่กับลูกเสมอ  ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน  พวกเรายังคงอยู่ในใจของลูกเสมอ"พ่อพูดจบ  พ่อกับแม่ก็เริ่มจางหายไป

                    "เรารักลูกจ้ะ  เวล"แม่พูดเป็นคำสุดท้ายก่อนจะหายไป

                    เวลลืมตาขึ้น  มองออกไปยังทะเล  เป็ฯภาพพ่อแม่ยืนอยู่ตรงปลายผากำลังหายไป  เวลยิ้มให้พวกท่านและพวกท่านก็ยิ้มให้เวล  พร้อมกับฉากหลังอันงดงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นกำลังลับขอบฟ้าหายไปในทะเล

                    "ขอบคุณครับ"เวลพูดและกอดหญิงชรา  แล้ววิ่งจากไป

                    ปลายผานนั้นเหลือเพียงหญิงชราที่ยังยิ้มอยู่คนเดียว มองเวลวิ่งลับหายไปในเมือง

                    "ข้าเจอแล้วรีค  ข้าเจอแล้ว  ทายาชคนสุดท้ายของเรา  ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า"หญิงชราพูดกับใครบางคนที่บัดนี้

    ปรากฎขึ้นข้างกายของหญิงชราพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×