พ่ายรักให้นายแฟนเก่า - นิยาย พ่ายรักให้นายแฟนเก่า : Dek-D.com - Writer
×

    พ่ายรักให้นายแฟนเก่า

    การวนมาเจอของพวกเขาทั้งสองคนนั้นนี่เป็นโอกาสรีเทิร์น รักครั้งเก่า หรือผ่านมาให้พบเจอแล้วก็จากไปเพราะความรักครั้งนี้มันถึงทางตันแล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    125

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    125

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 มี.ค. 66 / 19:38 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    จุดเริ่มต้น

     

    หญิงสาวที่กำลังก้าวเท้าเข้าสู่วัยทำงานอย่างจริงจังเธอขับรถเข้ามาในตัวเมืองเพื่อมาสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก๋วยเจี๊ยบ วัยยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์ใช้ชีวิตยึดถือคติตามที่พ่อสอนว่าไม่ว่าเราจะจนหรือรวยก็จงใช้ชีวิตติดดินไว้ก็ไม่เสียหาย แต่บางทีก็ติดดินเกินไป

    ตอนสมัยยังเรียนอยู่มหาลัยนั้นเธอได้รับฉายาจากเพื่อนว่า ก๋วยน้ำพริก เพราะว่าทุกเช้าเธอจะชอบห่อข้าวจากบ้านมาซึ่งเมนูประจำของเธอคือน้ำพริกที่คุณยายชอบทำให้เกิด พร้อมกับผักนานานชนิดที่เธอหิ้วไปอีกมากมาย

    เรียกได้ว่าเอามีดมากรีดแขนที่คงได้กลิ่นแต่น้ำพริกแน่ๆ และพฤติกรรมแปลกๆ ของก๋วยเจี๊ยบคือวันไหนไม่รู้จะกินข้าวเที่ยงกับอะไรเธอก็จะชอบไปตลอด และซื้อน้ำพริกติดไม้ติดมือมาด้วย นิสัยแปลกๆ ของเธอที่ขัดกับหน้าตาอันแสนสวย

    ตำนานบทใหม่ของมหาลัย ก๋วยน้ำพริกดีกรีดาวมหาลัย

    และวันเธอที่จบการศึกษาและได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะบัญชีมานั้น มาจากความสามารถล้วนๆ ไม่มีดวงผสมก๋วยเจี๊ยบเธอเป็นคนเรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจเป็นความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวเลย

    หลังจากเรียนจบได้สองปีเธอก็ช่วยครอบครัวทำนาอยู่ที่บ้านสักระยะแล้วจึงเดินทางเข้าเมืองเพื่อมาหางานทำ แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึงจนได้

    “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ”

    “ฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะชื่อ ศศิธร” พนักงานได้ยินแบบนั้นจึงยกโทรศัพท์โทรสายตรงเข้าหาประธานของบริษัทของที่นี่ คุยกันอยู่นานพนักงานก็เดินออกมาจากประตูหลังแล้วเรียกให้ก๋วยเจี๋ยวเดินไปตาม

    บริษัทที่เธอมาสัมภาษณ์นั้นทั้งกว้างและใหญ่ก๋วยเจี๊ยบตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ว่าตัวเอง จะได้รับเข้าทำงานที่นี่แต่ก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์จากประธานบริษัทก่อน

    ทั้งตึกรวมชั้นล่างก็มีทั้งหมดยี่สิบกว่าชั้น การขึ้นลิฟท์ถ้าจะนานก็ไม่แปลกในระหว่างที่ยืนรอได้ไม่นานนั้นประตูลิฟท์ก็ได้เปิดออก ห้องประธานอยู่ห่างไม่กี่ก้าวเอง

    “ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วเว้ย” ก๋วยเจี๊ยบบ่นอุบอิบอยู่กับตัวเอง พนักงานก็ได้เคาะประตูแล้วเดินเข้าไปสั่นตัวเธอเองนั้นทั้งตื่นเต้นจนฝามือเปียก

    “สะ...สวัสดีค่ะ”

    “ครับ ทำตัวสบายๆ นะไม่ต้องเกร็ง” ตัวเธอเองไม่เกร็งก็จริงแต่เหงื่อแตกเต็มหน้าหมดแล้วตอนนี้

    “เรียนจบบัญชีมาโดยตรงเลยสินะแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอีก เก่งๆ”

    ก๋วยเจี๊ยบเห็นประธานพูดอย่างเป็นกันเองตัวเธอเลยได้ผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อยแล้ว เธอจึงยอมเงยหน้าเผชิญกับประธานแบบจริงๆ จังๆ

    เธอตะหงิดใจเล็กน้อยเพราะคนตรงหน้าหน้าคล้ายกับคนที่เธอเองเคยรู้จักมาก่อน ตอนมหาลัยเรารู้จักกันดีเลยแต่คนหน้าเหมือนมันก็มีออกเยอะแยะคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก

    “หน้าผมมีอะไรติดงั้นเหรอ”

    “หน้าคุณเหมือนคนรู้จักฉันน่ะค่ะไม่มีอะไรๆ”

    “ก๋วยน้ำพริก” เอ๊ะ? ก๋วยเจี๊ยบเบิกตาโตกว่าปกติเพราะได้ยินเขาพูดถึงฉายาเมื่อสมัยตอนเธอเรียนอยู่มหาลัย

    “กะปิน้อยเหรอ”

    เธอค่อยข้างพูดเบาแต่ในห้องดันเงียบสนิทคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเลยได้ยินคำพูดนั้นแล้วจึงลุกขึ้นแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะประธานบริษัทแต่เขาคือแฟนเก่า

    “ใช่ ฉันเป็นประธานของที่นี่ฉันเห็นตั้งแต่เธอเดินเข้ามาบริษัทที่จริงคนที่จะสัมภาษณ์เธอควรเป็นคุณพ่อมากกว่าแต่ท่านดันไม่ว่างพอดี ดีจังที่ได้เจอกัน”

    “ถามฉันมั้ยว่าอยากเจอนายรึเปล่า”

    “ดีใจอยู่แล้ว” ดีใจกับผีน่ะสิ

    ก๋วยเจี๊ยบเห็นหน้าเขาทีไรก็แทบจะเดินหนีอย่างไม่คิดชีวิต เพราะเราเพิ่งเลิกกันก่อนจะจบการศึกษาเพียงเพราะว่าฉันหมดรักเขาแล้ว ก็คนมันหมดรักไปแล้วอะจะฝืนคบต่อทำไมบอกเลิกตรงๆ เจ็บทีเดียวก็ยังดีกว่าแอบนอกใจถูกมั้ย

    แต่สิ่งที่เธอทำลงไปในตอนนั้นก๋วยเจี๊ยบก็ยังรู้สึกอยู่ทุกวันจนแทบไม่อยากเจอหน้าเขาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่นี่คงเป็นเวรกรรมสินะที่ทำให้เราสองคนมาเป็นประธานบริษัทกับลูกจ้างแบบเธอ

    “ฉันขอลาออก” เธอพูดประโยคก็รีบคว้าเอกสารในมือของกะปิน้อย แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างมันก็สายเกินแก้เพราะเขารับเธอเข้าทำงานตั้งแต่เห็นวันแรกแล้ว แค่เรียกมาสัมภาษณ์พอเป็นพิธีเฉยๆ กะปิน้อยมันร้ายมาก

    “ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลยจะมาขอลาออกไปยังไงกัน” เขาส่ายหัวพร้อมกับเดินออกไปจากในห้องและพูดเอ่ยแนะนำตัวก๋วยเจี๊ยบให้พนักงานคนอื่นได้รับรู้

    “บริษัทของเรามีน้องใหม่เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนเธอชื่อก๋วยเจี๊ยบ เธอมาเริ่มงานวันแรกช่วยกันดูแลทีนะ”

    “ได้ค่ะหัวหน้า” เขาพูดเสร็จจึงหันมามองพร้อมกับสายตาเยาะเย้ยเธอเล็กน้อย นี่จงใจรับกันเข้าทำงานเลยใช่มั้ย ไอ้เจ้าบ้า!!

    “ตั้งใจทำงานบางทีเธออาจจะได้ลื่นขั้นมาเป็นเลขาก็ได้นะ”

    “เปลี่ยนจากเลขาเป็นขอลาออกดีกว่าค่ะหัวหน้า”

    ปึก!

    ก่อนที่ก๋วยเจี๊ยบจะเดินไปสำรวจโต๊ะทำงานของตัวเองเธอได้เหยียบเท้าคนตัวสูงไปหนึ่งทีแต่โคตรแรงเขาก็ทั้งเจ็บและตกใจแหละแต่ก็ต้องเก็บทรงไว้ก่อน เพราะคนก็อยู่กันมาก คนอื่นรู้จักเธอในฐานะเพื่อนร่วมงานคนใหม่

    แต่ระหว่างเธอกับเขาเราคือแฟนเก่าและสถานะนั้นมันจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นเด็ดขาด

     

    ผ่านไปครึ่งวันของการทำงานวันแรกคนอื่นก็ดูเหมือนจะว่างแต่ทำไมเธอนั้นกลับงานกองอยู่เต็มโต๊ะคนเดียว ห้องทำงานของเขาเป็นห้องโปร่งแสงที่มีกระจกติดอยู่รอบห้องเพราะฉะนั้นเขาจะเห็นทุกคนนั่งทำงานรวมถึงตัวก๋วยเจี๊ยบเองด้วย

    และสิ่งที่เหนือไปมากกว่านั้นก็คือโต๊ะของฉันมันอยู่ตรงระยะสายตาของเขาพอดีกะปิน้อยเงยหน้ามาทีก็คงเห็นหน้าของเธอเป็นคนแรกนี่ทั้งจงใจรับเข้าทำงานแล้วก็จัดสรรโต๊ะให้อีกเหรอ จะแกล้งกันเกินไปหน่อยแล้ว

    ตัวเธอนั่งเคลียร์เอกสารมากมายอยู่ที่โต๊ะและหนึ่งในนั้นมีฉบับหนึ่งที่ต้องเอาไปให้เขาคนนั้นเซ็น ตอนนี้ในหัวของเธอมันมีแต่คำว่าลาออกเท่านั้น

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “เข้ามาได้ครับ”

    “มีเอกสารมาให้เซ็นค่ะหัวหน้า” คำพูดที่ออกจากปากเธอเวลาคุยกับเขานั้นเรียกได้ว่ากัดฟันพูด

    “ทำไมเสียงกระด้างจังอะลิ้นเป็นอะไร”

    “ลิ้นก็แป็นลิ้นสิทำไมหัวหน้าถามแปลกจังคะ” เขายิ้มแห้งไปหนึ่งทีแล้วหยิบปากกามาเซ็นลงบนเอกสารนั้น ก๋วยเจี๊ยบรับเอกสารคืนแล้วรีบก้าวเท้าเดินออกจากห้องแต่ชายร่างสูงก็ได้พูดรั้งตัวเธอไว้ก่อน

    “คิดว่าฉันรับเธอเข้าทำงานเพราะอะไร”

    “ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ในเมื่อคุณรับฉันเข้าทำงานสถานะก็คือลูกน้องไม่มีทางเป็นมากกว่านั้น”

    “ยังพูดจาไม่แคร์ใครเหมือนเดิมจริงๆ นะ”

    ก๋วยเจี๊ยบเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเงียบไปสักพักแล้วเดินออกห้องไปทันที เขาก็ยังคงมองตามแผ่นหลังของเธออยู่ตลอดแต่ก๋วยเตี๊ยบก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

    เธอเอาแต่คิดอยู่ในใจว่าเราเกิดเราไม่ได้ตกลงคบกันแล้วได้มาทำงานอยู่ที่นี่อะไรๆ มันคงจะง่ายกว่านี้ แต่ความเป็นจริงเส้นทางมันไม่ได้สวยหรูตามอย่างที่เราได้คาดหวังเอาไว้หรอกถ้าเรียบง่ายแบบนั้นมันก็คงไม่ใช่ชีวิต

    ก๋วยเจี๊ยบยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปอย่างมุ่นมั่นจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานเธอก็เก็บของใส่ในกระเป๋าทันทีก่อนที่กำลังจะเดินไปขึ้นลิฟท์นั้นก็มีเสียงเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของเธอ

    [ฮโหลๆ]

    [เลิกงานยังไปกินข้าวกัน]

    [แอบสะกดรอยตามเหรอมาตรงเวลาเป๊ะเลย] เขาเป็นเพื่อนสมัยตอนเรียนมหาลัยเขาชื่อ เพทาย เพื่อนในตอนสมัยนั้นทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปเติบโตในเส้นทางของตัวกันหมดแล้ว ส่วนที่ยังไปมาหาสู่กันอยู่ก็มีเพียงไม่กี่คนแล้ว

    [กำลังลงไปแล้วรอแปบ]

    ในระหว่างที่เธอกำลังเก็บของลงกระเป๋าเสียงปิดประตูจากห้องฝั่งซ้ายสุดก็ดังขึ้น เธอจึงเงยหน้าไปมองคนที่คุ้นเคยเดินออกมาจากห้องพร้อมกับถือสูทตัวใหญ่ออกมาด้วย ก๋วยเจี๊ยบก็ได้แต่แอบคิดในใจสงสัยมีนัดสาวแน่นอน สูทดูดีเชียว

    “คนอื่นกลับไปหมดแล้วเธอรอใคร”

    “เปล่าค่ะหัวหน้ามีคนมารับแล้ว” เขาตกใจเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามอะไรบางอย่าง

    “แฟนเหรอ”

    “ไม่รู้สิคะเดินทางกลับบ้านดีๆ นะหัวหน้า” ก๋วยเจี๊ยบโบกมือลาส่วนเขาก็ยังยืนงงอยู่แบบนั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ เธอขึ้นลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างของตึกเธอก็ยังไม่เห็นเขาลงตามมาเสียที เธอไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเลยเดินตรงไปที่รถยนต์คันสีขาวที่มีเพื่อนคนสนิทรอเธออยู่

    “รอนานปะๆ”

    “ถ้าบอกว่านานอะ”

    “ก็ไม่ต้องมารับอีก”

    “พูดเล่น แล้วทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้างโดนแกล้งมั้ยเนี่ย” เพทายยกมือหนาๆ มาขยี้ที่ผมของเธอทำไมหัวฟูราวกับสิงโต

    “ไม่เลยค่ะนี่หญิงแกร่งนะเว้ยใครจะมากล้าแกล้ง”

    “เชื่อๆ”

    เราพูดคุยกันในอยู่ในรถค่อนข้างนานจนในที่สุดก็ได้เห็นชายร่างสูงเดินลงมาจากตึกแล้ว เขาเหลือบตามาอมงในรถที่ก๋วยเจี๊ยบกับเพทายกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน จนเขาได้สังเกตเห็นเพราะรถจอดอยู่ไม่ได้ไกลกันมากนัก

    เขาทั้งสองไม่ได้สนใจอะไรในตัวของชายคนนั้น เพทายได้สตาร์ทรถแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ก๋วยเจี๊ยบไม่ได้มองมาที่เขาเลยสักนิด

    “หล่อก็ไม่ได้ครึ่งของเรา หึ สู้เราไม่ได้สักนิด”

     

    ตอนแรกมามาลงแล้ว ฝากเข้ามาอ่านกันเยอะๆด้วยน้าทุกคน อิอิ

     

     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น