พ่ายรักให้นายแฟนเก่า
การวนมาเจอของพวกเขาทั้งสองคนนั้นนี่เป็นโอกาสรีเทิร์น รักครั้งเก่า หรือผ่านมาให้พบเจอแล้วก็จากไปเพราะความรักครั้งนี้มันถึงทางตันแล้ว
ผู้เข้าชมรวม
125
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จุดเริ่มต้น
หญิงสาวที่กำลังก้าวเท้าเข้าสู่วัยทำงานอย่างจริงจังเธอขับรถเข้ามาในตัวเมืองเพื่อมาสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก๋วยเจี๊ยบ วัยยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์ใช้ชีวิตยึดถือคติตามที่พ่อสอนว่าไม่ว่าเราจะจนหรือรวยก็จงใช้ชีวิตติดดินไว้ก็ไม่เสียหาย แต่บางทีก็ติดดินเกินไป
ตอนสมัยยังเรียนอยู่มหาลัยนั้นเธอได้รับฉายาจากเพื่อนว่า ก๋วยน้ำพริก เพราะว่าทุกเช้าเธอจะชอบห่อข้าวจากบ้านมาซึ่งเมนูประจำของเธอคือน้ำพริกที่คุณยายชอบทำให้เกิด พร้อมกับผักนานานชนิดที่เธอหิ้วไปอีกมากมาย
เรียกได้ว่าเอามีดมากรีดแขนที่คงได้กลิ่นแต่น้ำพริกแน่ๆ และพฤติกรรมแปลกๆ ของก๋วยเจี๊ยบคือวันไหนไม่รู้จะกินข้าวเที่ยงกับอะไรเธอก็จะชอบไปตลอด และซื้อน้ำพริกติดไม้ติดมือมาด้วย นิสัยแปลกๆ ของเธอที่ขัดกับหน้าตาอันแสนสวย
ตำนานบทใหม่ของมหาลัย ก๋วยน้ำพริกดีกรีดาวมหาลัย
และวันเธอที่จบการศึกษาและได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะบัญชีมานั้น มาจากความสามารถล้วนๆ ไม่มีดวงผสมก๋วยเจี๊ยบเธอเป็นคนเรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจเป็นความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวเลย
หลังจากเรียนจบได้สองปีเธอก็ช่วยครอบครัวทำนาอยู่ที่บ้านสักระยะแล้วจึงเดินทางเข้าเมืองเพื่อมาหางานทำ แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึงจนได้
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ”
“ฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะชื่อ ศศิธร” พนักงานได้ยินแบบนั้นจึงยกโทรศัพท์โทรสายตรงเข้าหาประธานของบริษัทของที่นี่ คุยกันอยู่นานพนักงานก็เดินออกมาจากประตูหลังแล้วเรียกให้ก๋วยเจี๋ยวเดินไปตาม
บริษัทที่เธอมาสัมภาษณ์นั้นทั้งกว้างและใหญ่ก๋วยเจี๊ยบตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ว่าตัวเอง จะได้รับเข้าทำงานที่นี่แต่ก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์จากประธานบริษัทก่อน
ทั้งตึกรวมชั้นล่างก็มีทั้งหมดยี่สิบกว่าชั้น การขึ้นลิฟท์ถ้าจะนานก็ไม่แปลกในระหว่างที่ยืนรอได้ไม่นานนั้นประตูลิฟท์ก็ได้เปิดออก ห้องประธานอยู่ห่างไม่กี่ก้าวเอง
“ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วเว้ย” ก๋วยเจี๊ยบบ่นอุบอิบอยู่กับตัวเอง พนักงานก็ได้เคาะประตูแล้วเดินเข้าไปสั่นตัวเธอเองนั้นทั้งตื่นเต้นจนฝามือเปียก
“สะ...สวัสดีค่ะ”
“ครับ ทำตัวสบายๆ นะไม่ต้องเกร็ง” ตัวเธอเองไม่เกร็งก็จริงแต่เหงื่อแตกเต็มหน้าหมดแล้วตอนนี้
“เรียนจบบัญชีมาโดยตรงเลยสินะแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอีก เก่งๆ”
ก๋วยเจี๊ยบเห็นประธานพูดอย่างเป็นกันเองตัวเธอเลยได้ผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อยแล้ว เธอจึงยอมเงยหน้าเผชิญกับประธานแบบจริงๆ จังๆ
เธอตะหงิดใจเล็กน้อยเพราะคนตรงหน้าหน้าคล้ายกับคนที่เธอเองเคยรู้จักมาก่อน ตอนมหาลัยเรารู้จักกันดีเลยแต่คนหน้าเหมือนมันก็มีออกเยอะแยะคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก
“หน้าผมมีอะไรติดงั้นเหรอ”
“หน้าคุณเหมือนคนรู้จักฉันน่ะค่ะไม่มีอะไรๆ”
“ก๋วยน้ำพริก” เอ๊ะ? ก๋วยเจี๊ยบเบิกตาโตกว่าปกติเพราะได้ยินเขาพูดถึงฉายาเมื่อสมัยตอนเธอเรียนอยู่มหาลัย
“กะปิน้อยเหรอ”
เธอค่อยข้างพูดเบาแต่ในห้องดันเงียบสนิทคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเลยได้ยินคำพูดนั้นแล้วจึงลุกขึ้นแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะประธานบริษัทแต่เขาคือแฟนเก่า
“ใช่ ฉันเป็นประธานของที่นี่ฉันเห็นตั้งแต่เธอเดินเข้ามาบริษัทที่จริงคนที่จะสัมภาษณ์เธอควรเป็นคุณพ่อมากกว่าแต่ท่านดันไม่ว่างพอดี ดีจังที่ได้เจอกัน”
“ถามฉันมั้ยว่าอยากเจอนายรึเปล่า”
“ดีใจอยู่แล้ว” ดีใจกับผีน่ะสิ
ก๋วยเจี๊ยบเห็นหน้าเขาทีไรก็แทบจะเดินหนีอย่างไม่คิดชีวิต เพราะเราเพิ่งเลิกกันก่อนจะจบการศึกษาเพียงเพราะว่าฉันหมดรักเขาแล้ว ก็คนมันหมดรักไปแล้วอะจะฝืนคบต่อทำไมบอกเลิกตรงๆ เจ็บทีเดียวก็ยังดีกว่าแอบนอกใจถูกมั้ย
แต่สิ่งที่เธอทำลงไปในตอนนั้นก๋วยเจี๊ยบก็ยังรู้สึกอยู่ทุกวันจนแทบไม่อยากเจอหน้าเขาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่นี่คงเป็นเวรกรรมสินะที่ทำให้เราสองคนมาเป็นประธานบริษัทกับลูกจ้างแบบเธอ
“ฉันขอลาออก” เธอพูดประโยคก็รีบคว้าเอกสารในมือของกะปิน้อย แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างมันก็สายเกินแก้เพราะเขารับเธอเข้าทำงานตั้งแต่เห็นวันแรกแล้ว แค่เรียกมาสัมภาษณ์พอเป็นพิธีเฉยๆ กะปิน้อยมันร้ายมาก
“ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลยจะมาขอลาออกไปยังไงกัน” เขาส่ายหัวพร้อมกับเดินออกไปจากในห้องและพูดเอ่ยแนะนำตัวก๋วยเจี๊ยบให้พนักงานคนอื่นได้รับรู้
“บริษัทของเรามีน้องใหม่เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนเธอชื่อก๋วยเจี๊ยบ เธอมาเริ่มงานวันแรกช่วยกันดูแลทีนะ”
“ได้ค่ะหัวหน้า” เขาพูดเสร็จจึงหันมามองพร้อมกับสายตาเยาะเย้ยเธอเล็กน้อย นี่จงใจรับกันเข้าทำงานเลยใช่มั้ย ไอ้เจ้าบ้า!!
“ตั้งใจทำงานบางทีเธออาจจะได้ลื่นขั้นมาเป็นเลขาก็ได้นะ”
“เปลี่ยนจากเลขาเป็นขอลาออกดีกว่าค่ะหัวหน้า”
ปึก!
ก่อนที่ก๋วยเจี๊ยบจะเดินไปสำรวจโต๊ะทำงานของตัวเองเธอได้เหยียบเท้าคนตัวสูงไปหนึ่งทีแต่โคตรแรงเขาก็ทั้งเจ็บและตกใจแหละแต่ก็ต้องเก็บทรงไว้ก่อน เพราะคนก็อยู่กันมาก คนอื่นรู้จักเธอในฐานะเพื่อนร่วมงานคนใหม่
แต่ระหว่างเธอกับเขาเราคือแฟนเก่าและสถานะนั้นมันจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นเด็ดขาด
ผ่านไปครึ่งวันของการทำงานวันแรกคนอื่นก็ดูเหมือนจะว่างแต่ทำไมเธอนั้นกลับงานกองอยู่เต็มโต๊ะคนเดียว ห้องทำงานของเขาเป็นห้องโปร่งแสงที่มีกระจกติดอยู่รอบห้องเพราะฉะนั้นเขาจะเห็นทุกคนนั่งทำงานรวมถึงตัวก๋วยเจี๊ยบเองด้วย
และสิ่งที่เหนือไปมากกว่านั้นก็คือโต๊ะของฉันมันอยู่ตรงระยะสายตาของเขาพอดีกะปิน้อยเงยหน้ามาทีก็คงเห็นหน้าของเธอเป็นคนแรกนี่ทั้งจงใจรับเข้าทำงานแล้วก็จัดสรรโต๊ะให้อีกเหรอ จะแกล้งกันเกินไปหน่อยแล้ว
ตัวเธอนั่งเคลียร์เอกสารมากมายอยู่ที่โต๊ะและหนึ่งในนั้นมีฉบับหนึ่งที่ต้องเอาไปให้เขาคนนั้นเซ็น ตอนนี้ในหัวของเธอมันมีแต่คำว่าลาออกเท่านั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้ครับ”
“มีเอกสารมาให้เซ็นค่ะหัวหน้า” คำพูดที่ออกจากปากเธอเวลาคุยกับเขานั้นเรียกได้ว่ากัดฟันพูด
“ทำไมเสียงกระด้างจังอะลิ้นเป็นอะไร”
“ลิ้นก็แป็นลิ้นสิทำไมหัวหน้าถามแปลกจังคะ” เขายิ้มแห้งไปหนึ่งทีแล้วหยิบปากกามาเซ็นลงบนเอกสารนั้น ก๋วยเจี๊ยบรับเอกสารคืนแล้วรีบก้าวเท้าเดินออกจากห้องแต่ชายร่างสูงก็ได้พูดรั้งตัวเธอไว้ก่อน
“คิดว่าฉันรับเธอเข้าทำงานเพราะอะไร”
“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ในเมื่อคุณรับฉันเข้าทำงานสถานะก็คือลูกน้องไม่มีทางเป็นมากกว่านั้น”
“ยังพูดจาไม่แคร์ใครเหมือนเดิมจริงๆ นะ”
ก๋วยเจี๊ยบเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเงียบไปสักพักแล้วเดินออกห้องไปทันที เขาก็ยังคงมองตามแผ่นหลังของเธออยู่ตลอดแต่ก๋วยเตี๊ยบก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
เธอเอาแต่คิดอยู่ในใจว่าเราเกิดเราไม่ได้ตกลงคบกันแล้วได้มาทำงานอยู่ที่นี่อะไรๆ มันคงจะง่ายกว่านี้ แต่ความเป็นจริงเส้นทางมันไม่ได้สวยหรูตามอย่างที่เราได้คาดหวังเอาไว้หรอกถ้าเรียบง่ายแบบนั้นมันก็คงไม่ใช่ชีวิต
ก๋วยเจี๊ยบยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปอย่างมุ่นมั่นจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานเธอก็เก็บของใส่ในกระเป๋าทันทีก่อนที่กำลังจะเดินไปขึ้นลิฟท์นั้นก็มีเสียงเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของเธอ
[ฮโหลๆ]
[เลิกงานยังไปกินข้าวกัน]
[แอบสะกดรอยตามเหรอมาตรงเวลาเป๊ะเลย] เขาเป็นเพื่อนสมัยตอนเรียนมหาลัยเขาชื่อ เพทาย เพื่อนในตอนสมัยนั้นทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปเติบโตในเส้นทางของตัวกันหมดแล้ว ส่วนที่ยังไปมาหาสู่กันอยู่ก็มีเพียงไม่กี่คนแล้ว
[กำลังลงไปแล้วรอแปบ]
ในระหว่างที่เธอกำลังเก็บของลงกระเป๋าเสียงปิดประตูจากห้องฝั่งซ้ายสุดก็ดังขึ้น เธอจึงเงยหน้าไปมองคนที่คุ้นเคยเดินออกมาจากห้องพร้อมกับถือสูทตัวใหญ่ออกมาด้วย ก๋วยเจี๊ยบก็ได้แต่แอบคิดในใจสงสัยมีนัดสาวแน่นอน สูทดูดีเชียว
“คนอื่นกลับไปหมดแล้วเธอรอใคร”
“เปล่าค่ะหัวหน้ามีคนมารับแล้ว” เขาตกใจเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามอะไรบางอย่าง
“แฟนเหรอ”
“ไม่รู้สิคะเดินทางกลับบ้านดีๆ นะหัวหน้า” ก๋วยเจี๊ยบโบกมือลาส่วนเขาก็ยังยืนงงอยู่แบบนั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ เธอขึ้นลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างของตึกเธอก็ยังไม่เห็นเขาลงตามมาเสียที เธอไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเลยเดินตรงไปที่รถยนต์คันสีขาวที่มีเพื่อนคนสนิทรอเธออยู่
“รอนานปะๆ”
“ถ้าบอกว่านานอะ”
“ก็ไม่ต้องมารับอีก”
“พูดเล่น แล้วทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้างโดนแกล้งมั้ยเนี่ย” เพทายยกมือหนาๆ มาขยี้ที่ผมของเธอทำไมหัวฟูราวกับสิงโต
“ไม่เลยค่ะนี่หญิงแกร่งนะเว้ยใครจะมากล้าแกล้ง”
“เชื่อๆ”
เราพูดคุยกันในอยู่ในรถค่อนข้างนานจนในที่สุดก็ได้เห็นชายร่างสูงเดินลงมาจากตึกแล้ว เขาเหลือบตามาอมงในรถที่ก๋วยเจี๊ยบกับเพทายกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน จนเขาได้สังเกตเห็นเพราะรถจอดอยู่ไม่ได้ไกลกันมากนัก
เขาทั้งสองไม่ได้สนใจอะไรในตัวของชายคนนั้น เพทายได้สตาร์ทรถแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ก๋วยเจี๊ยบไม่ได้มองมาที่เขาเลยสักนิด
“หล่อก็ไม่ได้ครึ่งของเรา หึ สู้เราไม่ได้สักนิด”
ตอนแรกมามาลงแล้ว ฝากเข้ามาอ่านกันเยอะๆด้วยน้าทุกคน อิอิ
ผลงานอื่นๆ ของ tunnut01 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ tunnut01
ความคิดเห็น