ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Villainous&Bloodthirsty

    ลำดับตอนที่ #1 : เจอ

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 51


    เฮ้อ…คืนนี้ไม่มีดาวเลย แถมพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้าด้วยอ่า ยังไม่ง่วงเลยเอาวะนอนก็นอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนสาย
              - - ยังไง บอกฉันทีก่อนเกินจะเก็บไว้ ยังไง บอกฉันทีก่อนเธอตัดสินใจ - -
             “เสียงอะไรมาแหกปากโวยวายตรงนี้วะ คนจะนอน” ฉันตื่นขึ้นมา และพบว่าไอ้เสียงเมื่อกี้นี้คือเสียงโทรศัพท์ปลุกที่ฉันตั้งไว้ ฉันนี่มันบ๊องจริงๆเลย ฉันลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียน และแล้วฉันก็เห็นว่าฉันยังไม่ได้เอาชุดนักเรียนไปให้กิ๊ฟรีด   
             “แม่งเอ๊ย…วันนี้มันวันอะไรวะ ซวยชิบหายเลยวะ” ฉันว่า ก็คนมันโมโหอ่ะ (ขอโทษท่านผู้อ่านที่พูดไม่เพราะ) -*- เซ็งเครียด ฉันเลยต้องรีบเอาชุดนักเรียนไปให้กิ๊ฟรีดให้อย่างเร่งด่วน
             “ตายๆๆสายแล้ว วันแรกก็สายเลยฉัน” ฉันรีบแต่งตัวไปโรงเรียน เล่ามาตั้งนานแล้วคุณผู้อ่านยังไม่รู้ชื่อของฉันเลยต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ ฉันชื่อแจม ชื่อจริงก็คงไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้มั้ง ฉันนั่งอยู่บนรถ คนขับรถบ้านฉันขับรถช้ายังกะเต่า ฉันได้ไปสายจริงๆแน่
             “นี่ลุงโก้ ขับให้เร็วกว่านี้ไม่ได้หรอ เดี๋ยวแจมก็ไปสายกันพอดี” ฉันบอกลุงโก้
             “ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคุณหนูจะได้รับอันตรายได้นะครับ ขับรถเร็วมันไม่ดีครับ” ลุงโก้นี่รู้สึกจะแก่เกินไปแล้วนะ ฉันไม่น่าให้ลุงแกมาส่งเลย
             “นี่ลุงจอดรถเลย จอดเลย จอด แล้วลุงก็ลงมาด้วย” ฉันทำหน้าไม่พอใจ ความจริงแล้วลุงแกก็ขับเร็วอยู่แล้วแต่สำหรับฉันมันไม่พอหรอก แล้วลุงโก้ก็จอดรถพร้อมลงจากรถและมาเปิดประตูให้ฉัน ฉันจึงรีบเดินไปที่นั่งคนขับ ลุงโก้ทำหน้างง(- -?)
             “คุณหนูจะทำอะไรครับ” ลุงโก้ถามฉัน
             “ไม่ต้องถามมากน่าลุง ขึ้นรถมาเถอะเดี๋ยวฉันขับเอง” ฉันบอกลุงโก้ ลุงโก้ก็รีบขึ้นรถมา ฉันจึงออกรถทันทีที่ลุงโก้ปิดประตู ฉันเยียบมิดแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปทันรึเปล่า ในที่สุดฉันก็เห็นประตูโรงเรียนจนได้ เฮ้อ…ยังไม่ออดก็ดีแล้ว ฉันจอดรถเปิดประตู
    และรีบวิ่งลงจากรถ ฉันได้ยินลุงโก้ตะโกนตามหลังมาว่า
             “เย็นนี้ลุงจะมารับนะครับคุณหนู”
             ไม่ต้องมาก็ได้นะลุง ฉันกำลังจะเดินไปเข้าแถว แต่เอ๊ะ…มันแถวไหนล่ะฉันเพิ่งย้ายโรงเรียนมาก็เลยยังไม่รู้ แล้วจะทำไงดี อ่าเจอครูแล้วถามเลยดีกว่า
             “นี่ครู…แถว ม.4/7อยู่ไหนอ่ะ ครูรู้ป่ะ”
             “เธอ ทำไมพูดไม่เพราะฮะ พ่อแม่ไม่สั่งสอนรึไง” ครูทำหน้าดุ แล้วคิดว่าฉันจะกลัวหรอ ไม่มีทาง
             “พ่อแม่ฉันไม่มีเวลาว่างพอจะมาสั่งสอนหนูหรอก แล้วอีกอย่าง ตกลงแถว ม.4/7อยู่ไหน” ฉันเถียงเสียงแข็ง
             ครูชี้ไปที่แถวๆหนึ่ง ที่มีนักเรียนยืนอยู่ไม่น่าจะเกิน20คนและก็มีแต่ผู้หญิงทั้งหมด โฮะๆๆนี่สิถึงจะสมเป็นห้องของฉัน
             “ขอบคุณ”
             ฉันกล่าวขอบคุณครูคนนั้น และเดินไปที่แถวทันที ฉันยืนอยู่ในแถว มีเสียงโหวกเหวกมาจากทางข้างหลังฉัน
    ฉันหันไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันเห็นชายคนหนึ่งเดินมาทางฉัน และมาหยุดตรงหน้าฉันพอดี
             “เธอสินะที่เป็นนักเรียนใหม่ วันนี้ฉันมาเข้าแถวเพื่อต้านรับเธอเลยนะเนี่ย แล้วรู้ไว้ด้วยว่าอยู่ที่นี่อย่ามาทำซ่า เพราะฉันคุมโรงเรียนไว้ทั้งหมด” ชายคนนั้นพูดกับฉัน
             “นายมั่นใจหรอโย นายลืมไปรึเปล่าว่าฉันยังอยู่” แล้วก็มีชายอีกคนเดินเข้ามาคุยกับโย(เพิ่งรู้ชื่อเมื่อกี้)
             “นี่ๆ เดี๋ยวก่อนสิ นายสองคนเป็นใคร แล้วนายชื่ออะไร” ฉันชี้ไปที่นายคนที่สอง
             “ฉันเป็นคนคุมโรงเรียนนี้ ชื่อแวมไพร์เรียกสั้นๆว่าไพร์ ส่วนนั้นเขาเป็นหัวหน้าผู้คุม ม.4หรืออีกชื่อนึงคือซีเนียร์ดี”
             นายแวมไพร์เป็นคนอธิบายให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง พอไพร์พูดจบโยก็ลากฉันออกจากแถว แล้วลากขึ้นไปบนตึก เข้าไปในห้องๆหนึ่ง และกดฉันให้นั่งลงบนเก้าอี้แถวสุดท้ายถัดจากหน้าต่างมาหนึ่งที่
            “นี่คือที่นั่งของเธอ”
             เฮ้ๆ…ที่ฉันมันต้องริมหน้าต่างเฟ้ย ไม่ใช่เว้นไว้หนึ่งที่แบบนี้ ช่างเถอะก็ยังดีกว่านั่งหน้าห้องละวะ
             “เออ…แล้วที่นี่มีชมรมต่อสู้ป่ะ”
             เขาคิดอยู่ครู่นึง แล้วเขาก็วิ่งออกจากห้องไป ไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ ฉันเลยก็ได้แต่นั่งเท้าคางรอ สักพักเขาก็วิ่งหอบกลับมา ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน แล้วจ้องหน้าฉัน แล้วจู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา ไอ้บ้านี่..ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ แล้วเขาก็พูดออกมาว่า
             “ฮะๆๆ…เอ่อ..มีๆ..ชมรมนักสู้น่ะ แต่ว่าเมื่อกี้หน้าแจมตลกดีนะ…ฮ่าๆๆๆ” -*- ฮึ่ย…แกนี่มันน่านักนะ ไอ้โย
             “แล้วเมื่อกี้นายรีบวิ่งไปไหนมา”
             “ไปหาไอ้ไพร์ท่านประธานชมรมมา”
             0_0 อะไรนะ เมื่อกี้ไอ้โยบอกว่าประธานชมรมหรอ อ้ากกกกกกกกกก…
             ไพร์เป็นประธานชมรม ประธานชมรม แต่ว่าก็เข้าใจอะนะ ถึงขนาดคุมโรงเรียนได้ก็O.K.แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ชมรมต่อสู้แถมยังเป็นประธานด้วย อืม…แล้วไปถึงมันจะรับฉันเข้าชมรมมั้ยเนี่ย ฉันนั่งกุมขมับ ปวดหัวตุบๆ อ้ากกกกก…อยากจะบ้าตาย ไอ้คนเงียบๆคนนั้นเป็นประธาน ดิฉันปวดเฮดค่ะ
             “ทำไมแจมทำหน้าอย่างงั้นละ ไพร์น่ะเป็นถึงลูกชายมาเฟียผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆของประเทศเลยนะ ชื่อแก็งวีลลินัซอ่ะ”
             งั้นพ่อของไพร์ก็คือคุณลุงดิซไพส์ ที่เป็นเพื่อนของพ่อฉัน โอ้…ปวดกบาลหนักกว่าเดิม
             “พ่อไพร์เป็นเพื่อนของพ่อฉัน ฉันเป็นลูกสาวของแก็งบลัดเทรอสตี้”
             ฉันจะทำไงดี เห็นพ่อเคยพูดเหมือนกันว่า ลูกชายของคุณลุงดิซไพส์ เรียนอยู่โรงเรียนนี้ แต่ตอนนั้นฉันไม่สนใจ แล้วฉันก็เป็นคู่หมั้นของเขาด้วย เนื่องจากว่า เราสองแก็งสนิทกันมาตั้งแต่รุ่นของปู่ทวด ฉะนั้นตอนที่ฉันเด็กๆ พ่อฉันจึงสัญญากับพ่อไพร์ไว้ว่าจะให้แต่งงานกัน แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันก่อน แบบนี้ ฉันรับไม่ได้ ฉันนั่งคอตกแต่แล้วก็มีเสียงออดช่วยชีวิตฉัน(ให้ตายเร็วขึ้น:~{เด็กกวนตีน}~)ก็ดังขึ้น ฉันนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน จนกระทั่งมีคนมานั่งข้างฉัน ฉันหันไปมองคือไพร์นั่นเอง
             “แจมเธอเป็นลูกของคุณลุงบลัดงั้นหรอ” ไพร์จ้องหน้าฉันอย่างอยากรู้คำตอบ ฉันกำลังจะปริปากพูดแต่
             “ใช่แล้ว ฉันรู้มานะว่านายต้องแต่งงานกับลูกสาวแก็งบลัดเทรอสตี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนอย่าง…วะ”
             โยมองหน้าฉันอย่างเย้ยๆ ทีต่อหน้าฉันละพูดดี พอพูดกับไพร์ละก็ หน้ามือเป็นหลังตีนเชียวนะไอ้โย ฉันน่าจะลองถามไพร์เรื่องชมรมหน่อยดีกว่า ไม่รู้ว่าเขาจะรับมั้ย แต่ถ้าไม่รับฉันก็จะจัดการให้เรียบเลยคอยดูเถอะ
             “นี่แวมไพร์ ฉันจะเข้าชมรมนาย นายจะรับมั้ยหรือจะลองสู้กับฉันดูก่อน” ฉันยิ้ม และมองหน้าไพร์
             “ไม่ต้องหรอก แจมเป็นถึงลูกของคุณลุงบลัด แต่ว่าชมรมเรามีแต่ผู้ชายและเข้าได้เฉพาะสมาชิกที่อยู่ในแก็งแบดเนซเท่านั้น เพราะฉะนั้นแจมจะต้องล้มจูเนียร์ซีเซเว่นนะถึงจะเข้าได้ แล้วก็ถ้าเธอล้มระดับใดได้เธอก็จะได้เป็นระดับนั้นแทน แต่ว่ารอบแรก ที่สอบเข้าชมรมนั่นไม่นับ และถ้าเธอล้มจูซี7ได้ ก็เท่ากับว่าแจมต้องเข้ามาเป็นสมาชิกหญิงคนแรกของแก็งเรา”
             “อืม…ว่าแต่วิชานี้วิชาอะไรอ่ะ นั่งมานานละ แต่ไม่เห็นครูเข้ามาสอนสักคน”
             “คาบนี้เป็นวิชาอิสระ เธอจะสู้เลยมั้ย”
             ฉันพยักหน้าทันทีที่ไพร์พูดจบ เขายืนขึ้นเรียกชายคนหนึ่งมาคุยได้สักพัก เขาก็กวักมือเรียกฉันให้ตามเขาไป
    ฉันเดินตามเขาไปเรื่อยๆ และเขาก็มาหยุดยืนที่หน้าห้องห้องหนึ่ง เขาส่งสัญญาณให้ตามเขาเข้าไป เขาเดินไปเปิดไฟในห้อง
             “เรามีเวลาให้เธอเพียง10นาทีเท่านั้นเธอต้องล้มโซลให้ได้”
             ฉันพยักหน้ารับคำเขา เขาตบไหล่โซล แล้วโซลก็มายืนตรงหน้าฉัน หุ่นของโซลใหญ่ทีเดียวถ้าโดนกระแทกทีมีหวังติดข้างฝาแน่ แต่ฉันคิดว่าไปมีปัญหา ไพร์ดีดนิ้วเป็นสัญญาณว่าให้เริ่มได้ ไพร์ก็เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของฉัน พอโซลใกล้จะถึงตัวฉันสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น แขนอันบอบบางของฉันยื่นมาจับแขนของโซลซึ่งตัวใหญ่กว่าฉันถึงสองเท่า ฉันกำหมัดด้วยมือข้างที่เหลือและปล่อยหมัดเต็มแรงที่ท้องของเขา ได้ผลแทบทรุดลงไปแล้วแต่ว่ามือฉันที่กำแขนเขาไว้ช่วยพยุงตัวเขาไม่ให้ล้มลงฉันซ้ำเขาไปอีกหลายหมัดจนมั่นใจว่าถ้าปล่อยแขนเขาเขาจะต้องลุกขึ้นมาไม่ได้แน่ ฉันจึงปล่อยแขนเขาไป เขานอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
    ไพร์ที่ยืนดูอยู่เดินเข้ามาหาฉัน พูดกับฉันว่า
             “หนึ่งนาทีสี่สี่วินาที เก่งดีนิแจม ทีนี้เธอก็เข้าแก็งฉันได้แล้วนะ ตอนนี้ระดับของเธอคือบีกินเนอร์ซี7026”
             “หมายความว่าไง”
             “ก็หมายความว่าเธอคือสมาสิกซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฉันและเป็นลูกน้องของโซลในห้อง4/7คนที่26ไงล่ะ”
             “ถ้างั้นนาย ไพร์มาสู้กับฉันด้วยอาวุธ ของฉันขอเป็นมีดสั้นคู่ใจ”
             ฉันพูดพลางหยิบมีดสั้นคู่ใจออกมา ไพร์ก็หยิบดาบออกมาแล้วเช่นกัน ไพร์ตวัดคมดาบใส่ฉันอย่างรวดเร็ว ฉันรับดาบนั้นทันเสียงโลหะดังกระทบกันดังเป็นสิบกว่าครั้งแล้ว
    …ถ้าเป็นคนอื่นจะใช้คำว่ามองไม่ทันก็คงไม่เกินไปล่ะ…และมีดสั้นก็มีจุดอ่อนเมื่อสู้กับดาบยาวแต่มันก็มีจุดดีคือช่วงชิงเวลาได้เร็วกว่า ถ้าไพร์ช้ากว่าฉันเมื่อไหร่ก็จบเห่เมื่อนั้น ไพร์โยกดาบหลอกล่อแล้วโถมเข้าหาฉัน
    ดาบคมวาวๆนั่นทำให้ดูไม่ออกว่าอันไหนเป็นดาบจริง! ฉันเม้มปากและซัดมีดไปสู่จุดศูนย์กลางของมันจนภาพลวงตาแตกซ่านคงเหลือแต่ความเป็นจริง แต่คมดาบนั้นก็ฟาดลงมาบนหัวของฉันแล้ว
             เคร้ง!
             ฉันยกมีดที่เหลืออยู่ปะทะและกั้นไว้ อีกมือก็หยิบมีดเล่มใหม่แทงเข้าที่ท้องน้อย ไพร์เอนตัวหลบก่อนตั้งท่าชี้ปลายดาบเป็นเส้นตรง
             เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!
             การต่อสู้ดำเนินไปอย่างสูสี ฉันรู้ตัวว่าความจริงยังเป็นรองไพร์อยู่ขั้นหนึ่ง ไพร์เก่งชะมัดโจมตีแต่จุดอ่อนของฉันตลอด แต่ฉันก็อาศัยความไวเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง เมื่อรู้ความเป็นจริงฉันคิดจะเลิกสู้ แต่ดาบของไพร์ยังคงพัวพันจนฉันไม่สามารถปลีกตัวได้
             ความเร็วจะลดลงเมื่อกำลังเสื่อมถอย
             ไพร์รู้…ว่าถึงเวลาหนึ่งฉันจะต้องล้าจนไม่อาจใช้ความได้เปรียบนี้
             ฉันเม้มปากก่อนตัดสินใจตวัดมีดเป็นวงใส่ไพร์ตรงๆ
             กระบวนท่านี้บีบให้ไพร์มีสองทางเลือกเท่านั้น หนึ่งคือเป็นฝ่ายถอยไปตั้งหลัก ซึ่งฉันก็จะใช้โอกาสนี้ล่าถอยเช่นกัน ส่วนทางที่สองคือปะทะเข้าแลกถ้าไพร์เลือกอย่างหลังฉันก็เดาผลลัพธ์ไม่ออกเช่นกัน แต่ฉันคิดว่าไพร์คงเลือกอย่างแรกมากกว่า เพราะเราไม่ได้บาดหมางอะไรกัน
             วินาทีนั้นวัดความเป็นความตายของชีวิต …อย่างมากแค่ตาย… ขอวิญญาณลูซิเฟอร์สะถิตที่ตัวฉันด้วย…
             ร่างสูงของไพร์ถอยกลับไปอย่างสง่างาม ฉันยินดีที่มันเป็นแบบนี้
             “ขอบใจนะ”
             “เอ่อ…ขอโทษพอดีฉันลืมตัวไปหน่อย”
             ไม่หน่อยหรอกย่ะ เกือบตาย เมื่อกี้หากวัดกันตามฝีมือจริงๆ ถ้าไพร์เสี่ยงเข้าแลกก็คงบาดเจ็บพอควร แต่ไพร์ก็คงมั่นใจว่า
             …คนที่พ่ายแพ้ต้องไม่ใช่เขาแน่นอน!
             “ไม่เป็นไร…แต่ว่า…ทีนี้ฉันก็ได้ระดับเป็นรองนายแค่นั้นใช่มั้ย”
             เขาพยักหน้านิดๆ ฉันเก็บมีดสั้นคู่ใจ และเดินออกจากห้องนั้นไปโดยมีไพร์และลูกน้องเขาเดินตามหลังมา ฉันเดินมาถึงห้องเรียน เห็นครูกำลังสอนอยู่ฉันจึงหันไปมองไอ้คนที่บอกว่าคาบนี้เป็นวิชาอิสระ ไพร์ยิ้มเล็กๆอย่างขอโทษ ฉันเดินเข้าไปในห้อง วันแรกจะเป็นเด็กดีสักหน่อยก็ไม่ได้ ถึงปกติจะโดดเรียนเป็นประจำก็เถอะ ฉันหันไปมองครูด้วยสายตาอาฆาต ราวกับว่าถ้าครูคนนั้นพูดแม้เพียงคำเดียวฉันจะฆ่าตายก็ไม่ปาน ครูคนนั้นมองฉันด้วยสีหน้าตกใจ ฉันเดินไปนั่งที่ของฉัน เพื่อนๆในห้องต่างหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว แต่พอไพร์ตวัดสายตาไปมอง พวกนั้นก็หันหน้ากลับไปตามเดิม ครูจึงสอนต่อไป แต่ว่าระดับของฉันที่เป็นรองกว่าไพร์มันคือระดับอะไรล่ะ ถามเลยดีกว่า
             “ไพร์…ที่บอกว่าฉันกว่านายอ่ะ แล้วระดับของฉันคืออะไรหรอ” ไพร์หันมามองหน้าฉัน
             “ก็โปรบีอ่ะคนที่เป็นโปรตอนนี้ก็มีแค่เธอกับฉัน เออ…แล้วเย็นนี้ไปที่กองเราด้วยจะได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักในฐานะรองหัวหน้าแก็ง และคู่หมั้นของฉัน”
             อืม…มีแค่ฉันกับเขางั้นหรอ ก็ดีอ่ะสิ เขาบอกให้ไปกองตอนเย็นแล้วกองอยู่ไหนอ่ะ แต่เอ๊ะ…เมื่อกี้เขาบอกว่าในฐานะคู่หมั้นด้วยงั้นหรอ
            
             - -พักกลางวัน- -
             ฉันเดินไปกินข้าวกับไพร์สองคน ฉันกำลังจะเดินไปซื้อข้าว แต่โดนมือไพร์ฉุดเอาไว้ ไพร์ผลักฉันให้นั่งลง
    เขาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้อง เดี๋ยวเขาไปซื้อให้เอง แต่เขากลับนั่งลง แล้วชูแบงค์ห้าร้อยขึ้น ไม่นานก็มีชายคนหนึ่ง วิ่งเข้ามาหาไพร์แล้วโค้งคำนับ ไพร์ยื่นแบงค์ห้าร้อยให้ชายคนนั้น แล้วพูดว่า
             “เรียกจูเอ1หน่วยประชาสัมพันธ์มาหาฉันด้วย”
             ชายคนนั้นโค้งคำนับไพร์เหมือนครั้งแรก ฉันมองหน้าไพร์อย่างงงๆ ไม่นานนักอาหารมากหน้าหลายตาก็มาวางอยู่เต็มหน้าฉันและไพร์ อาหารมากมายขนาดนี้ใครจะไปกินหมด ฉันและไพร์กำลังจะลงมือกินข้าว แต่ก็มีชายอีกคนวิ่งเข้ามาหาไพร์ ไพร์ทำสีหน้าอารมณ์เสีย ชายคนนั้นโค้งคำนับเช่นเดียวกับชายคนเมื่อกี้ พร้อมบอกว่า
             “ขอโทษที่ขัดจังหวะครับคุณแวมไพร์…เรียกผมมีอะไรให้รับใช้ครับ”
             “ไม่มีอะไรมาก แค่บอกทุกคนด้วยว่าเย็นนี้เรียกรวมที่กอง ใครไม่ไปคงรู้นะว่าจะเป็นยังไง”
             ไพร์หันมายิ้มให้ฉัน เมื่อชายคนนั้นไปแล้ว ไพร์เริ่มลงมือกับอาหารฉันเองก็เริ่มเหมือนกัน กินไปได้ไม่เท่าไหร่ฉันก็พูดขึ้นว่า
             “ไพร์กับข้าวตั้งเยอะใครจะกินหมด ลูกน้องนายเยอะไม่ใช่หรอเรียกพวกหัวหน้าหน่วยมากินด้วยกันสิ”
             ไพร์ยกมือชูนิ้วชี้ขึ้น ไม่นานนักชายมากหน้าหลายตาก็รีบวิ่งมา โค้งคำนับไพร์เป็นการใหญ่ ไพร์ชี้นิ้วให้ทุกคนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขาและฉัน ทุกคนนั่งลงพร้อมกัน
             “กินข้าวด้วยกันสิ” ลูกน้องมองหน้าเขาเป็นตาเดียว
             “นี่เป็นคำสั่ง”
             “ครับ”
             ทุกคนตอบรับพร้อมกัน เออ…ไอ้พวกนี้สามัคคีกันดีจังแถมเชื่อฟังคำสั่งอย่างดีด้วย ชายกลุ่มนั้นพอได้ยินว่านี่เป็นคำสั่งก็รีบลุกขึ้นไปหาจานหาข้าวมากันพร้อม และนั่งลงกินข้าวกับฉันและไพร์
             “แฮะๆ…” ฉันสำลักข้าวเพราะกินเร็วเกินไป
             “นี่น้ำครับคุณ…เอ่อ…คุณ…” ฉันรีบคว้าน้ำมาดื่ม
             “ฉันชื่อแจมไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกแจมเฉยๆก็พอ”
             “เอ่อ…ผมคงทำตามที่คุณแจมบอกไม่ได้ครับ”
             ชายคนนั้นหันไปมองหน้าไพร์ แต่พอไพร์เงยหน้าขึ้นเท่านั้น ชายคนนั้นก็ก้มหน้าและกินข้าวต่อ แต่ฉันอิ่มแล้ว ฉันเอามือลูบท้อง เราเริ่มอ้วนขึ้นแล้วสงสัยคงต้องลดน้ำหนักสักหน่อยแล้วล่ะ
             “อิ่มแล้วหรอ” ไพร์ถามฉัน
             “อืม…อิ่มแล้ว ฉันอยากกินไอติมอ่ะ” ไพร์ทำท่าจะเรียกลูกน้อง
             “ไม่ต้องหรอกไปด้วยกันนะไปกินสเวนเซนอ่ะฉันอยากกินเพราะงั้นคาบบ่ายโดดกันนะ”
             ไพร์พยักหน้า เป็นอันตอบตกลง ไพร์กินข้าวเสร็จ ก็เดินไปหาลูกน้อง คุยกันได้สักพักไพร์ก็เดินกลับมา
    ไพร์จูงมือฉันให้เดินตามเขาไป เราเดินมาหยุดที่กำแพง ไพร์ให้ฉันปีนไปก่อนแต่ว่า ชุดนักเรียนของฉันกระโปรงมันสั้น เมื่อไพร์รู้เขาก็บอกว่า
             “ถ้างั้นฉันปีนขึ้นไปก่อน แล้วเธอกระโดดลงมานะ ฉันจะรับเอง”
             ไพร์ปีนกำแพงขึ้นไปแล้วฉันปีนตามขึ้นไป เมื่อถึงบนกำแพงไพร์ก็ตั้งท่ารับฉันและส่งสัญญาณให้ฉันกระโดดลงไป ฉันเลยกระโดดลงไป ไพร์รับฉันได้พอดี เขาอุ้มฉันไว้และเดินไปที่รถ รถของเขาจอดนอกโรงเรียน
    เขาอุ้มฉันจนถึงที่รถเขาปล่อยฉันลงบนพื้นและเปิดประตูรถให้ฉันขึ้นไป ฉันขึ้นไปนั่งบนรถอย่างสง่างาม เขาปิดประตูรถและรีบขึ้นมาบนรถ เขาสตาร์ทรถแล้วออกตัวไปเลย ไม่นานนักเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
    เขาจอดรถและมาเปิดประตูให้ฉันลง ฉันกล่าวขอบคุณเขาเล็กน้อย เราเดินเข้าไปในห้าง เราเดินมาจนถึง
    ร้านไอติมแล้วแต่ว่า มีพนักงานคนหนึ่งเดินมากันเราสองคนไว้ไม่ให้เข้าไป เพราะนี้เป็นเวลาเรียนแถมเรายังใส่ชุดนักเรียนด้วย ไพร์สะบัดแขนให้พ้นจากมือพนักงานคนนั้น และหยิบบัตรอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋าตังค์
    พนักงานคนนั้นมองบัตรใบนั้นตาค้าง เมื่อได้สติเขารีบปล่อยมือออกจากแขนฉันทันที และวิ่งเข้าไปในร้าน ไพร์จูงมือฉันเข้าไปในร้าน ครั้งนี้ไม่มีพนักงานมากันเราไว้แล้ว ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ ไพร์เรียกพนักงานคนหนึ่งมาสั่งไอติม พนักงานคนนั้นเดินมาหาเรา
             “ผมเป็นผู้จัดการร้านครับ เมื่อสักครู่ทางเราต้องขออภัยด้วยครับที่พนักงานไม่มีมารยาทกับท่าน ท่านคงเป็นลูกชายของท่านดิซไพส์สินะครับ” ไพร์พยักหน้า
             “ท่านต้องการอะไรครับทางเรายินดีบริการเต็มที่”
             ผู้จัดการคนนั้นยื่นเมนูมาให้ฉัน ไพร์หันหน้ามาหาฉัน เป็นเชิงถามว่าอยากกินอะไร
             “ฉันขอเป็นซันเดย์ รสมอคค่าอัลมอนด์,คุกกี้แอนด์ครีมแล้วก็รัมลูกเกดนะ แล้วไพร์ละ”
             “ฉันจะกินกับเธอ เอาแค่นี้แหละไปได้”
             ไพร์บอกผู้จัดการ เมื่อผู้จัดการเดินห่างออกไป ก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟน้ำให้เรา ไพร์ยกน้ำขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว อย่างกับว่าเขาไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวัน แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วไอติมที่สั่งก็มาเสิร์ฟ ฉันยกช้อนขึ้นตักไอติมเข้าปากไปคำหนึ่งแล้ว แต่ไพร์ก็ยังคงนั่งเฉยๆ
             “กินสิไพร์ เอ้า…อ้าปากเดี๋ยวนี้”
             ไพร์อ้าปากตามที่ฉันบอก ฉันตักไอติมขึ้มมาและป้อนใส่ปากเขาอย่างรวดเร็ว ไพร์ส่ายหน้ากับพฤติกรรมเด็กๆของฉัน จากนั้นไพร์ก็เริ่มกินไอติม เราสองคนนั่งกินกันไปเรื่อยๆจนหมด ไพร์เดินไปจ่ายเงิน ฉันจึงเดินออกมายืนรอหน้าร้าน ไพร์เดินออกมาจากร้านแล้ว ฉันเดินนำไพร์ไปที่โรงหนัง ฉันไปดูโปรแกรมหนัง เห็นหนังเรื่องที่ฉันอยากดูเข้าโรงแล้ว ฉันจึงหันไปบอกไพร์
             “ไพร์ฉันอยากดูเรื่องนี้อ่ะ”
             ฉันชี้ไปที่หนังเรื่องนั้น ไพร์ส่ายหัวทันที( - -)(- - )( - -)(- - ) แต่ฉันก็พยักหน้าหลายๆครั้งแสดงอาการว่าฉันอยากดูมากกกกก…(_ _)(- -) ไพร์จูงมือฉันเดินออกมาทันทีที่เห็นว่าฉันไม่ยอมจะดูหนังให้ได้ ฉันขัดขืนไพร์ที่ลากฉันออกมา แต่ฉันก็หยุดขัดขืนทันทีที่ไพร์พูดว่า
             “ถ้าเธอยังไม่หยุดยุกยิกฉันจะจูบเธอตรงนี้แหละ”
             ฉันหยุดทันทีและเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ไพร์พาฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงแผนกเสื้อผ้า ฉันหันไปหันมาเห็นชุดๆหนึ่งเข้ามันน่ารักมาก ฉันเดินเข้าไปดูชุดๆนั้น ไพร์เห็นเข้าถึงรู้ว่าฉันอยากได้ ไพร์เดินไปหาพนักงานทันทีและบอกพนักงานว่า “เอาชุดนั้น” พอฉันได้ยิน ฉันก็หันไปมองที่ไพร์ ไพร์ส่งยิ้มมาให้ หลังจากพนักงานเอาชุดมาให้ไพร์ก็จ่ายเงินไป วันนี้ไพร์เสียเงินไปไม่น้อยเลย แต่ช่างมันเพราะว่าไพร์เป็นถึงลูกชายมาเฟียเงินแค่นี้จิ๊บจ๊อยน่า    “นี่ไพร์กลับโรงเรียนกันนะ ใกล้จะได้เวลาเลิกเรียนแล้ว” ไพร์ส่ายหน้าและเข้ามากระซิบที่ข้างหูฉัน
             “เธอต้องเปลี่ยนชุดก่อน เพราะฉันคิดว่าถ้าเธอใส่ชุดนี้ต้องน่ารักแน่ ต้องน่ารักแน่ๆเลย”
             ฉันหน้าแดง (-///-) ไปกับคำพูดของไพร์ ฉันพยักหน้าเป็นเชิงว่าก็ได้ แล้วฉันก็เดินไปที่ห้องน้ำ ฉันเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกมา แต่ว่าไพร์ไม่อยู่ตรงนั้นซะแล้ว               ฉันหันซ้ายหันขวามองหาไพร์แต่ไม่เจอ ฉันนั่งรอไพร์อยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆที่ๆไพร์เคยยืนอยู่ตอนฉันไปเข้าห้องน้ำ ไม่นานนักไพร์ก็เดินกลับมา และลากฉันไปที่รถ พอฉันถามเขาว่าไปไหนมา เขาก็บอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องรู้ แล้วเราก็มาถึงที่โรงเรียน ฉันเดินลงรถไปอย่างงอนๆที่ไพร์ไม่บอกว่าเขาไปไหนมา ไพร์เดินนำไปเรื่อยๆจนถึงกองที่เขาบอก ฉันเห็นพวกหน้าเลวๆเต็มไปหมด แต่ฉันชินแล้วเพราะบ้านฉันเองก็เป็นรังของมาเฟีย ฉันเดินตามหลังไพร์ ไพร์ไปที่ไหนก็มีแต่คนก้มหัวให้ไพร์ ไพร์เดินไปนั่งที่หัวโต๊ะและตบเก้าอี้ให้ฉันนั่งข้างเขา เขากระแอมขึ้นสองครั้งเพื่อให้ทุกคนฟังที่เขาพูด
             ”นี่คือแจมเป็นลูกสาวของหัวหน้าแก๊งบลัดเทรอสตี้ เป็นคู่หมั้นของฉัน และเขาจะมาอยู่ในแก๊งของเราในระดับโปรบี ใครมีอะไรขัดข้องก็ว่ามาได้”
             มีชายคนหนึ่งยืนขึ้นคำนับและพูดว่า
             “คุณแวมไพร์ครับ คือผมว่าไม่น่าจะให้ผู้หญิงมาเป็นโปรบีนะครับ ดูท่าว่าไม่น่าจะมีอะไรเลยด้วย ถึงจะเป็นคู่หมั้นของคุณแวมไพร์ก็เถอะ แต่ว่าแก๊งของเรายังไงก็ต้องสอบเข้าและสอบเลื่อนขั้นนี่ครับ”
             ไพร์พยักหน้าอย่างเข้าใจที่ชายคนนั้นพูด แต่เชอะมาว่าฉันได้ยังไงย่ะ ฉันก็สอบเข้าแก๊งแล้วแถมเลื่อนระดับแล้วด้วยย่ะ อย่ามาดูถูกกันนะ
             “ในแก๊งเรามีใครที่สู้กับฉันอย่างสูสีได้บ้างมั้ย แต่แจมน่ะเขาสู้กับฉันได้อย่างสูสีพวกแกน่ะทำได้บ้างมั้ยละหรือจะลองสู้กับแจมเขาดูล่ะ” ชายคนนั้นพยักหน้า
             “แล้วเธอล่ะว่าไง” ไพร์ถามฉันฉันตอบอย่างไม่ทันคิดว่า
             “พร้อมเสมอ”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×