คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : น้ำพริกปลาร้า ผักต้ม
หมูยอขับรถมอเตอร์ไซค์ โดยมีเพื่อนรักซ้อนท้าย ขับไปก็นินทาเหล่าลูกค้าให้ฟังไปด้วย
"วันก่อนนะมึง อีเจ๊โบว์ ที่ขายลูกชิ้นหน้าวัดน่ะ นางมาตัดผมก๊ะกู และก็ทำสีผม อยากได้ผมหน้าม้าแบบลิซ่า กูนี่อยากจะร้องแหมมมมม ให้ถึงดาวอังคาร หน้านี่อย่างกะหมาสำลักแฟ๊บ อยากสวยเหมือนลิซ่า ถือเป็นเคสทดสอบฝีมือกูเลยนะมึง ถ้าอาจารย์สอนทำผมกูมาเห็น ก็คงมอบรางวัลเกียรติยศให้กูนั่นแหละ กูล่ะกลั้วกลัวว่าตัดผมเสร็จพอเซ็ทผมออกมา จากลิซ่า กลายเป็นจินตหรา ห้าห้าห้า ฯลฯ "
คุยกันยังไม่ทันไร ถึงตลาดเสียแล้ว หมูยอถือโพยรายการของที่ต้องซื้อ เดินดุ่ม ๆ โดยมีนังตัวดี เดินชมนกชมไม้ ตามมาข้างหลัง เดินไปดูร้านขายปลาดุกปิ้ง ปลาดุกตัวใหญ่น่ากินได้แบบรมควันซะด้วย แบบรมควันเขามักจะทำตัวแบน ๆ สักหน่อย จะหอมกว่าปลาดุกย่างแบบเสียบไม้ตรง ๆ แต่หันมาอีกทีเพื่อนรักก็ หิ้วถุงใส่ปลานิลตัวเขื่องมาด้วยแล้ว
"กูอยากกินปลาทอดด้วยน่ะ ทอดให้กูกินด้วยนะ ๆๆๆ" ทำเสียงออดอ้อน
"เออ อยากกินอะไรอีกล่ะ ไปดูผักตรงโน้นกันกันดีกว่ามึง"
เดินตรงไปแผงขายผัก พี่แฮมกับพ่อชอบกินผักมาก มะเขือเปราะ กระเจี๊ยบเขียว และถั่วฝักยาว บวบงู บวบหอม น้ำเต้า ถั่วพูเอาไปฝากยายด้วยดีกว่า เพราะยายชอบ มีแต่ฝักอ่อน ๆ ทั้งนั้น แตงกวาก็ลูกอ่อน ๆ ยังดูสด ๆ อีกจำนวนหนึ่ง เออ ผักหวานที่พี่แฮมปลูกไว้เป็นแถว ๆ จิ้มกินด้วยก็ยิ่งดี ยังมีเหลืออีกสองกำ ขมิ้นชันอีกสักหน่อย เพื่อทำไก่ต้มขมิ้น ซื้อผักเสร็จแล้ว ก็เดินไปร้านขายไก่สด ซื้อไก่มาตัวหนึ่ง หันมาอีกที อีเพื่อนตัวดีหายตัวไปไหนอีกแล้ว เห็นหลังไว ๆ ตรงแผงขายผลไม้คงซื้ออะไรติดมืออีกนั่นแหละ
ได้ของครบตามที่ต้องการแล้ว ก็ขับรถกลับบ้านอย่างใจเย็น เอาของที่ซื้อวางไว้ในครัวก่อน หันไปเอาหม้อตั้งไฟเพื่อต้มน้ำเพื่อลวกผักจิ้มน้ำพริก แล้วเดินไปเก็บผัก ที่สวนข้างหลังบ้านเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย กลับมาเห็นยายคั่วมะเขือเทศ พริก หัวหอม กระเทียม กลิ่นหอมฉุย พริกที่คั่วนั้นยายใช้พริกชี้ฟ้า ทั้งสีแดง สีเขียว และสีเหลือง เพื่อให้สีออกมาสวยน่ากิน หมูยอหันไปบอกให้เพื่อนช่วยล้างผักและหั่นเตรียมใส่จานไว้ ผักส่วนหนึ่งเรากินสด ๆ คือถั่วฝักยาว ถั่วพู กับแตงกวา ยอดกระถินสด ๆ จากข้างรั้วกับ ผักบุ้งนายายเก็บริมคลองอีกอย่างละกำมือก่อนพวกเรากลับมาถึง
ผักอีกส่วนหนึ่งแบ่งทำผักต้ม เตรียมกระเจี๊ยบเขียว มะเขือเปราะ ผักหวานบ้าน แบ่งผักบุ้งครึ่งหนึ่ง ถั่วฝักยาวครึ่งหนึ่ง หัวปลีที่ขอมาจากแม่ ต้มน้ำเดือดดีแล้ว ใส่เกลือนิดหน่อย รีบเอาผักลงลวก พอผักสุก รีบเอามาน๊อกในน้ำเย็น ผักจะได้สีสวยและยังกรอบน่ากิน ฝากนังจ๊ะโอ๋ให้ช่วยจัดใส่จาน ก็หันมาเตรียมสับไก่เตรียมทำแกงต่อ หันไปมองยาย เอาพริก หอม กระเทียมที่คั่วแล้วพักใส่จาน เอาเกลือใส่ครก แล้วเอาของที่คั่วแล้วลงตำ จัดการไก่สด กับปลานิลที่พ่อค้าขอดเกล็ดควักไส้เรีบร้อยแล้ว เอามาล้างอีกครั้งแล้วบั้ง ทาเกลือที่ตัวปลาเสร็จพอดี เลยรับหน้าที่ตำน้ำพริกแทนยาย พอเริ่มแหลก ฉีกมะเขือเทศลงตาม แล้วต่อด้วยน้ำปลาร้าที่กรองเอง เติมน้ำตาล และน้ำปลานิดหน่อย เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ให้ยายมาชิม ยายว่ารสพอดีแล้ว หันไปมองเพื่อนจัดจานผักสด และผักต้มใส่จานเสร็จเรียบร้อยพอดี เลยเอาไข่ที่ต้มเสร็จแล้วให้นางปอกต่อ
ตั้งเตาสองใบ ใบหนึ่งทำน้ำแกง อีกเตาวางกะทะ กะน้ำมันใส่ให้ท่วมตัวปลา พอน้ำมันเริ่มร้อน เอาเกลือใส่เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาติดกะทะ พอเห็นว่าปลาเริ่มสุกก็เปลี่ยนจากไฟแรงเป็นไฟกลาง เพื่อให้กรอบนอกนุ่มใน ปลาสุกดีแล้ว เทน้ำมันออกเหลือติดกะทะเล็กน้อย แล้วเอาปลาดุกย่าง ลงจี่อีกครั้งเพื่อให้หอมยิ่งขึ้น และป้องกันกลิ่นคาวที่อาจมีหลงเหลือ
จัดการทั้งปลานิลทอด กับปลาดุกเรียบร้อย น้ำในเตาก็ร้อนพอดี ยายเตรียมเครื่องสำหรับทำแกงให้เรียบร้อยแล้ว เอาเกลือใส่หม้อ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง ขมิ้น จนกลิ่นเริ่มหอม และน้ำเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ ใส่มะขามเปียก และพริกชี้ฟ้า ตามด้วยไก่ ปิดฝารอให้สุกและไก่นุ่มสักนิด จนสุกพอดี ยายมาชิม บอกให้เติมมะขามเปียกอีกสักหน่อย ก็จะพอดี แล้วก็ปิดฝาเคี่ยวไฟอ่อน ๆ ให้เนื้อไก่นุ่ม
จัดสำรับ ลงจาน วางไว้ที่โต๊ะ เอาฝาชีครอบ หมูยอกับจ๊ะโอ๋ เลยออกไปเดินเล่น ที่สวนข้างบ้าน ผมปีนเก็บดอกจำปี ส่วนจ๊ะโอ๋ ปีต้นจำปา ทั้งสองต้นนี้ปลูกตั้งแต่สมัยยายทวด ออกดอกตลอดปี เก็บดอกไม้ร้องกรี๊ดกร๊าดกันจนอ่อนใจ แล้วไปนั่งเล่นที่ศาลาริมแม่น้ำ ได้ยินเสียงรถพี่แฮมขับเข้าบ้านมาพอดี
"มาเตรียมกินข้าวกันเถอะมึง พ่อกับพี่แฮมถึงบ้านแล้วล่ะ" หมูยอหันไปบอกเพื่อนที่เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน อยู่ศาลาริมแม่น้ำ
"ไปดิ กูหิวมาตั้งนานละกินผู้ชายล่ำ ๆ ได้สองคนละเนี่ย"
"ใช่หรอ กูเห็นมึงส่องเฟสผู้ชายอยู่เป็นนานสองนานแล้ว นึกว่าดูจนอิ่มแล้วนะนั่น"
"อาหารตาเฟ้ย"
เดินไปเถียงไปจนถึง ลานหน้าบ้าน ให้จ๊ะโอ๋คดข้าวใส่จานเตรียมไว้ หมูยอเดินไปเรียกพ่อกับแม่ มากินข้าวเหมือนพร้อม กัน
"หม่อมพ่อ กราบเจ้าค่ะ หม่อมพี่กราบเจ้าค่ะ" โอ๋ยกมือกระพุ่มไหว้ พ่อกับพี่แฮม พร้อมย่อเข่าด้วยจริต นางงามยุค 80
"ไหว้พระเถอะลูก" พ่อรับไหว้ อมยิ้มขำท่าทางเพื่อนของลูก
"ถึงนานละหรอโอ๋ มากินข้าวกันดีกว่า หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย" พี่แฮม รับไหว้เสร็จแล้วรีบนั่ง ที่เก้าอี้ตัวที่นั่งประจำ
"เดี่ยวยอแกะปลาให้" พูดแล้วทยอยแกะปลา ทยอยวาง บนจานให้ทีละคน ๆ
"มึง ๆ แกะปลาดุกให้เพื่อนหน่อยสิ" จ๊ะโอ๋พูดแล้วยิ้มเห็นฟันหน้าครบทุกซี่ให้หมูยอ
"มีมือก็แกะเองดิ" หมูยอตอบ แต่ก็แกะปลาใส่จานให้เพื่อนจนได้
"มะไหร่จะมีแฟนล่ะน้องโอ๋คนสวย อยู่เป็นโสดให้หนุ่ม ๆ น้ำลายไหลแบบนี้มานานแล้วนะ" พี่แฮมเริ่มแซว
"รอหม่อมพี่แฮม มีก่อน น้องถึงจะมีเจ้าค่ะอย่านะ น้องเห็นหม่อมพี่ก็จีบลูกค้าในเฟสน๊า" โอ๋หันไปต่อปากต่อคำ
"จีบเจิบอะไรที่ไหนโพสขายแต่ต้นไม้"
"หม่อมพี่คะ นี่จ๊ะโอ๋ มือวางอันดับหนึ่งเรื่องการสาระแน แหน่งลุ่มน้ำนครชัยศรีนะเจ้าคะ" พูดพร้อมผายมือด้วยจริตนางงามจาก เวเนซูเอล่าก่อนหันมาฝอยต่อ ซึ่งหมูยอหมั่นไส้จนอยากทำร้ายร่างกายเพื่อนด้วยของแข็งอะไรสักอย่าง
"ระวังน๊า หมูยอจะชิงมีแฟนก่อนหม่อมพี่ไม่รู้ด้วยนะเจ้าคะ" นังเพื่อนเลว โยนขี้ให้กูแล้วไง ทำสายตากวนตีนใส่กูเสียด้วย อีปากเปราะ สาระแนเก่งจริง ๆ อีผี
"อะไรนะหมูยอ มีคนมาจีบแล้วหรอ เห็นตอนหยองไลฟ์ในเพจ คนก็มาหยอดเราเยอะหนิ ไม่เห็นสนใจใครสักคน" พี่แฮมแกล้งถาม
"นั่นมันไม่มีตัวเป็น ๆ มาหนิ หม่อมพี่ ถ้าตัวจริง ๆ มีมาค่อยให้พิจารณาก็ว่าไปอย่าง เนอะมึง" จ๊ะโอ๋หันหน้ามาขอความเห็น
"โอ๊ย แฟนเฟินอะไร ไร้สาระ วัน ๆ ทำงานโน่นนี่นั่นก็หมดวันแล้วมั๊ย อยากให้วันนึงมีสัก 32 ชั่วโมง จะได้ทำงานให้เสร็จทัน" ผมรีบแกะปลาใส่จานของพี่ชายกับจานของเพื่อนชั่ว เพื่อปิดปาก สาระแนเก่งจริง ๆ เรื่องของกูเนี่ย
"จริง ๆ จะคุย ๆ กับใครบ้างก็ดีนะลูก กว่าจะศึกษากันเรียนรู้นิสัยกัน มันต้องใช้เวลา ยายไม่ว่าหรอก เรียนจบทำงานทำการกันแล้ว ว่าแต่หมูแฮม วันนี้ขายดีไหมลูก กลับเร็วกว่าทุกทีนะ" ยายพูดแล้วหันไปถามพี่แฮม
"ขายดีจ๊ะยาย พอดีมีคนมาเหมาด้วยหละ เดี๋ยวต้องเตรียมขยายเฟิร์นเพิ่มด้วยนะพ่อ ท่าทาง ไม่พอขายแน่ ๆ เพราะมีคนสั่งไว้หลายกระถาง เขาจะเอาไปจัดงานอะไรนี่แหละจะมาเอาที่สวนมะรืนนี้ ถ้าเขามาเอา เหลือไม่เท่าไรแน่ ๆ แฮมว่าพรุ่งนี้จะไปซื้อกาบมะพร้าวสับสักสิบกระสอบ" พี่แฮมหันไปปรึกษากับพ่อ
"หม่อมพี่เจ้าขา ไหนสัญญาว่าจะให้ต้นเฟิร์นน้องจ๊ะโอ๋ 4 กระถางไงเจ้าคะ" จ๊ะโอ๋ทวง เพราะเพื่งนึกขึ้นมาได้
"ไม่ลืม ๆ เตรียมไว้ให้แล้ว เดี๋ยวไปตัดผมคราวหน้าพี่เอาไปให้อยากให้ใบมันเป็นพุ่มหนากว่านี้สักหน่อย"
"ขอบคุณเพคะ หม่อมพี่นี่ทั้งรูปหล่อ และน้ำใจเปี่ยมด้วยเมตตา เป็นบุญของน้องที่ได้พบได้เจอได้รู้จักจริง ๆ"
"จะไม่ให้ก็เพราะหมั่นไส้อีตอนอวยจนเกินจริงนี่แหละ โอเว่อร์ไป" พี่แฮมตอบ ทุกคนเลยได้หัวเราะกัน
กันข้าวเสร็จสรรพ ล้างหม้อจานรามไหเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้อีตัวดีนั่งดูซีรีย์ในเน็ตฟลิกซ์กับยายกันไปก่อน หมูยอเหนียวตัวเลยรีบเข้าไปอาบน้ำ แล้วมาสมทบดูซีรีย์ด้วยกัน เดินกลับมาเห็นหัวร่อต่อกระซิกกันสองคนแล้วหมั่นไส้ เลยไล่ให้เพื่อนไปอาบน้ำต่อ เสื้อผ้าของมันมีเตรียมไว้ที่บ้านนี้แล้ เผื่อมานอนค้าง เพราะมาเป็นประจำ หมูยอจักใบจำปีเป็นกรวยเล็ก ๆ ใส่ดอกจำปีและจำปาเอาไปฝากพ่อกับแม่ กรวยหนึ่ง ฝากพี่แฮมอีกกรวยหนึ่ง กรวยสุดท้ายไว้ที่หัวเตียงในห้องยาย ไม่มีกรวยของหมูยอเพราะถ้านังจ๊ะโอ๋มานอนค้าง เรามักจะเอาเสื่อ เอาฟูกมาปูนอนตรงพื้นหน้าเตียงนอนของยาย เพราะนังจ๊ะโอ๋ชอบให้ยายเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังตั้งแต่เด็ก เรื่องผีบ้าง เรื่องนิทานต่าง ๆ บ้าง วันนี้คงอ้อนอยากฟังอะไรอีกนั่นแหละ ถึงไล่เท่าไรก็ไม่ยอมกลับบ้าน ขอมานอนค้างด้วย
"หม่อมยายเจ้าขา เล่านิทานหน่อย" มันอ้อน
"เอาเรื่องอะไรดีล่ะ เรื่องเสือสมิงดีมั๊ย" ยายถาม
"วุ้ย ๆ น่ากลัว เอาเจ้าค่ะ ๆ" พูดแล้วจ๊ะโอ๋ก็เอาผ้าคลุมโปงโผล่ออกมาแต่หน้า
"นี่ถ้ามึงกลัวก็อย่าฟังเลย จะได้นอน" หมูยอบอกอย่างรำคาญ ๆ
"อย่ายุ่งดิ๊ หม่อมยายเล่าค่ะ จ๊ะโอ๋เตรีมตัวฟังแล้ว"
แล้วยายก็เล่าว่า แต่เดิม สมัยที่คนยังต้องเข้าป่าล่าสัตว์นั้น พวกพรานจะมีกฎอยู่ ว่า
....ห้ามพูดคำหยาบตอนเข้าป่า (ถ้ามึงเข้าป่าเจ้าป่าหักคอแน่)
....เวลาขึ้นไปนั่งบนห้างแล้ว ห้ามฉี่ลงมาจากบนห้าง ถ้าปวดฉี่ ต้องฉี่ใส่กระบอกไม้ไผ่แล้วเอามาเทตอนเช้า (แต่ตดได้อยูใช่ไหมเจ้าคะ)
....เวลาขึ้นนั่งห้างแล้ว ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ตามห้ามลงมาเด็ดขาด (มึงเอ๊ยเมื่อยตายห่า นั่งงอก่องอขิงบนต้นไม้แบบนั้นจ้างให้กูก็ไม่ไปหรอก)
....การผูกห้างจะต้องสูงจากพื้นแปดศอก ถือเป็นความสูงอาถรรพ์ เสือและสัตว์ร้าย จะกระโดดขึ้นมาทำร้ายไม่ได้
....ถ้าไม่จำเป็นห้ามพูดคุยกันเด็ดขาด (อันนี้กูไปไม่ได้เด็ด ๆ ไม่พูดไม่คุยกันกูต้องอกแตกตายแน่ ๆ )
ฯลฯ
ทีนี้มีพรานสองคนเข้าป่า เค้าก็ผูกห้างใกล้กับโป่ง โป่งนี้ก็คือดินโป่ง หรือดินที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ สัตว์ต่าง ๆ จะมากินเพื่อเพิ่มแร่ธาตุให้แก่ร่างกาย หรือกินเพื่อถอนพิษจากอาหารที่ตัวได้กินมาในระหว่างวัน สัตว์ป่านั้นมักจะมาช่วงกลางคืน อีทีนี้ พรานป่าก็มักจะมากซุ่มผูกร้านใกล้ ๆ โป่งที่ว่านี่แหละ เพื่อรอดักยิงสัตว์เคราะห์ร้าย
จนย่างเข้าสักสองยาม อยู่ ๆ ลมที่พัดเรื่อย ๆ ก็นิ่งสนิทเสียงหรีดหริ่งเรไร ก็เงียบเสียงลงจนน่าแปลกใจ เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ตาพรานคนนึงก็เห็นมีคนถือตะเกียงเดินตะคุ่ม ๆ เดินตรงมา ก็เลยสะกิดเรียกเพื่อนให้ดู ว่าดึกดื่นแล้ว ใครเข้ามาเดินในป่าแบบนี้กันละนี่
เห็นเป็นเงาผู้หญิงผมยาว ๆ จนเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ก็เป็นว่าเป็นเมียของพรานอีกคนนั่นเอง
"พี่ไอ้หนูมันไม่สบาย ปวดท้องร้องไห้หาพี่น่าสงสารเชียวจ๊ะ พี่กลับไปช่วยดูลูกกับชั้นเถอะไอ้หนูท่าทางแย่แล้ว" นางพูดไปก็ร้องไห้ไปอย่างน่าสงสาร
"ไอ้หนูเป็นอะไรมากรึ?" ตาพรานถาม
"มันว่ามันปวดท้องมากเลยจ๊ะพี่ ไปเร็ว ช่วยกันพาลูกไปหาหมอหน่อยชั้นหมดปัญญาแล้ว" พูดจบหญิงสาวก็ร้องไห้ลงนั่งกับพื้นแบบคนหมดเรี่ยวหมดแรง ทิ้งตัวร้องไห้ฟูมฟาย
ตาพรานใจหายสงสารเมีย สงสารลูก ทำท่าจะปีนลงมา โชคดี เพื่อนที่ไปด้วยกัน ดึงแขนเบา ๆ แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้าม
"เอ็งดึงข้าทำไม ข้าจะรีบไปดูไอ้หนูลูกข้า ป่านนี้เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้" ตาพรานหันไปตะคอกเพื่อน
แต่เพื่อนแกไม่ได้พูดอะไร มองหน้าแล้วส่ายหน้าเบา ๆ ไปมา เป็นเชิงไม่เห็นด้วย พอแกได้สติ ก็คิดได้ว่า คงโดนมนต์มายาของเสือสมิงแน่แล้ว ค่อย ๆ เอาปืนเล็งไปที่ดวงไฟตะเกียง แล้วยิงเปรี้ยง เฉี่ยวตะเกียงไปหน่อยนึง ทันใดนั้น ร่างของนังเมียก็ค่อย ๆ กลายเป็นเสือตัวเกือบเท่าวัว คำรามร้องเสียงดังสนั่นป่า แล้วกระโจนขึ้นมา แต่จะกระโดดเท่าไรก็ไม่ถึงห้างที่ผูกไว้ ตาพรานก็กระหน่ำยิงอีก เสือสมิงเจ้าเล่ห์จึงหนีหายเข้าป่าไป
บ้างก็ว่า นั่งร้านอยู่ดี ๆ เจอพระธุดงค์ เดินมาเรียกให้ลงมาข้างล่างก็มีเหมือนกัน บอกไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น อาตมา อยู่ด้วยทั้งคน ที่ไหนได้ เป็นเสือสมิงแปลงกายมา หรือบางทีก็เจอคนมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกสัตว์ป่าทำร้ายมา หัวเด็ดตีนขาดก็ห้ามลงไป
เขาว่าอีกว่า ให้สังเกตุดูว่า พวกเสือสมิงนี่ เวลามันถืออะไรมา ตรงนั้นแหละหัวของมัน ให้เอาปืนยิงตรงที่มันถือ
"เอ๊า จบแล้วล่ะ" ยายหันมามองเราสองคนที่นอนคลุมโปง
"นอนกันได้แล้วมั้งลูก ง่วงกันหรือยังล่ะ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าเนอะ"
"ยายจ๋า วันเสาร์นี้ทำอะไรดี วันก่อนเห็นแม่ค้าพายเรือมาถามว่า มะเขือยาวที่สวนแกใกล้จะเก็บได้แล้วทำยำมะเขือยาวกันดีไหมจ๊ะ เพราะยอกะว่าจะทำหมูแดดเดียวเอาไว้ขายด้วย"
"เออก็เข้าทีนะ ยำมะเขือยาว แนมกับไข่เป็ดต้มแข็งของโปรดเจ้าหมูหยองด้วย แม่เราก็ชอบกินหนิ" ยายหันไปถามโอ๋
"โอ๋ก็ชอบเจ้าค่ะหม่อมยาย แหมอยากให้ถึงวันเสาร์ไว ๆ ทำเผื่อกูด้วยนะเพื่อน ส่วนหมูแดดเดียวเอากิโลนึง เสร็จแล้วโทรมาบอกด้วยจะรีบแว๊นส์มาหาเลย" พูดแล้วก็เขย่าแขนหมูยอจนตัวคลอน
"เออ ๆๆ รู้แล้วน่า นอนไปได้แล้ว เผื่อจะฝันเห็นเลขเด็ดอะไรบ้าง ได้ข่าวว่า งวดที่แล้ว บาดเจ็บหนักหนิ"
"ยังไงรึ" ยายเอี้ยวตัวมาถาม
"หม่อมยายขา แม่จ๊ะโอ๋น่ะ แกเล่าว่ากำลังจะสระผมให้ลูกค้าแล้วอยู่ดี ๆ กำลังคุยเรื่องไปไหว้พระกันอยู่ แล้วก็คุยเรื่องหวยนี่แหละ จิ้งจกมันทะเลาะกันแล้วก็ตกลงมาบนตัวลูกค้า ทั้งลูกค้า ทั้งช่างผม ต๊กกะใจ ร้องสุดเสียง น้ำเนิ้ม กระเด็นเปียกเสื้อผ้า ทั้งสองคน พอได้สติกัน ลงไปนั่งหัวเราะกันจนเจ็บท้อง คุยไปบ่นไป ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นนิมิต เป็นแน่แท้ คราวนี้ เราจะรวยกันล่ะ จัดไปค่ะ
จิ้งจก ก็ เจ็ด
สองตัว ก็ สอง
ตกลงมาก็ หก
แหม แทงทั้งเต็งทั้งโต๊ด ทั้งบนทั้งล่าง
"แล้วเป็นยังไงล่ะ" ยายถามไปอมยิ้มไป
ออก สี่แปดสอง เจ้าค่ะ ไม่ได้เฉี่ยวอะไรกับจิ้งจกตกใส่เสื้อเล้ย แม่นี่โมโห บอกจะเอาน้ำฉีดไล่ให้หมดบ่นดังก็ไม่ได้ กลัวป๊าได้ยิน เดี๋ยวโดนบ่น
เสาร์นี้จะมีคนได้กิน หมูแดดเดียวกับ ยำมะเขือยาวฝีมือยายไหมน๊า หมูยอนอนคิด อะไรเพลิน ๆ แล้วก็หลับไป
นังจ๊ะโอ๋ ทั้งบ้าหวย บ้าหมอดู มูเตลู ยืนหนึ่ง ไม่ยักกะมูเพื่อขอผัวซักคน
ความคิดเห็น