ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก_ข้าม_มิติ

    ลำดับตอนที่ #9 : วังของเจ้าชายซิลฟีเซ่

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 47






        “ว่าไงล่ะเมลฟิซ ภรรยาของเจ้า ฮึ! อีกไม่นานก็จะเป็นของข้าแล้ว” เจ้าชายทรงตรัสขึ้นเมื่อเดินลงมายังคุกใต้ดินที่ขังเมลฟิซไว้



        “นั่นไม่ใช่ภรรยาของกระหม่อม อย่าทำอะไรนางนะพะยะค่ะ” เมลฟิซพูดสายตามองตรงไปยังเจ้าชาย แต่ดูเหมือนเจ้าชายจะไม่เชื่อ จากภาพที่เห็นไม่น่าจะเป็นอื่นไปได้



        “งั้นหรือ ถ้ายังไม่เป็นภรรยาของเจ้าก็ดีสิ ข้าถูกใจนางมากเลย” เจ้าชายยังคงตรัสกวนเมลฟิซต่อไป เมลฟิซส่ายหน้าไปมาด้วยความหมดหวัง



        “ไหนท่านบอกว่าจะปล่อยนางไปไง” เมลฟิซพูด เจ้าชายหันมามองแล้วยิ้ม



        “ก็นางขอตามมาเองไม่ใช่รึ ผู้หญิงที่จะเข้ามาที่วังของข้า ข้าจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย เมลฟิซ” เจ้าชายซิลฟีเซ่พูดแล้วหัวเราะเสียงดัง



        “ท่านไม่น่าจะนำเรื่องของเราไปเกี่ยวกับนาง นางมิได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”



        “ข้าเปล่านี่ ข้าเพียงแต่ถูกใจนางก็เท่านั้นเอง” เจ้าชายพูด



        “ท่านเพียงแค่อยากเอาชนะ” เมลฟิซมองเจ้าชายซึ่งก่อนเคยเป็นสหายสนิทกัน เจ้าชายเองก็เช่นกัน เค้าเป็นอย่างที่เมลฟิซว่าจริงๆ เค้ารู้สึกเจ็บใจไม่น้อยที่ซินเทียร์ดันไปรักเมลฟิซ ซึ่งไม่ว่าฐานะหรือแม้กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอกเค้าเองก็ดูดีกว่าเมลฟิซแท้ๆ



        “ใช่ เจ้าพูดถูก คอยดูแล้วกันเมลฟิซ” เจ้าชายตรัสแล้วเดินออกไปจากห้องแห่งนั้นทันที









        กาเบรียลที่ถูกขังอยู่ในห้องมืด เธอพยายามควานหาทางออก แต่ทว่าเธอกลับไปพบกับของสิ่งหนึ่งที่รู้สึกจะเหมือนๆ กับรูปร่างของศีรษะ คงจะเป็นหัวกะโหลก กาเบรียลคิดดังนั้นก็ขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที มือเธอไปโดนผนังห้อง เธอรู้สึกสากๆ มือบนผนังมีอะไรเหนียวๆ ด้วย เมื่อเธอคลำไปด้านบนเธอก็พบกับห่วงเหล็ก ซึ่งเธอเองก็พอจะเดาออกแล้วว่านี่คือห้อง สำหรับทารุณพวกนักโทษ กาเบรียลน้ำตาไหลลงมาเป็นทางด้วยความกลัว เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอกลัวความมืด แถมยังมาขังเธอไว้ในที่แบบนี้อีก ไม่รู้ว่าในห้องนี้จะมีอะไรบ้าง เธอเดินคลำทางไปเรื่อยๆ จนถึงประตูแห่งหนึ่งเธอทุบมันอยู่นาน แต่ก็ไม่มีใครเปิด เธอจึงนั่งลงอย่างหมดแรง กาเบรียลนั่งร้องจนกระทั่งหลับไปด้วยความเพลีย นานทีเดียวกว่าจะมีคนมาเปิดประตู เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมาอุ้มเธอออกไป แต่เธอมองเห็นลางๆ เท่านั้น เธอจำได้ว่ากลิ่นตัวเค้าหอมเหมือนๆ กับกลิ่นหอมที่ห้องของเธอ หรือเมลฟิซจะมารับเธอ กาเบรียลกอดเค้าแน่นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตา เธอพูดพึมพำเป็นภาษาอังกฤษฟังไม่ได้ศัพท์



        เจ้าชายซิลฟีเซ่ที่กำลังอุ้มกาเบรียลอยู่มองเธอด้วยความสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ในอ้อมกอดเค้านี้ถูกขังไว้ในห้องคุมขังนักโทษ เธอคงจะร้องไห้ด้วยความกลัว แม้กระทั่งในความฝันเป็นแน่ เธอถึงได้กอดเค้าแน่นถึงเพียงนี้ เจ้าชายพากาเบรียลไปนอนยังห้องๆ หนึ่งซึ่งสว่างและอากาศปลอดโปร่ง เจ้าชายวางกาเบรียลลงบนเตียงเบาๆ แล้วค่อยๆ แกะมือเธอออก เจ้าชายทรงนั่งลงข้างๆ กาเบรียล เค้ามองหน้าที่ยังคงมีรอยน้ำตาปรากฏอยู่เนิ่นนาน แล้วเช็ดน้ำตาให้เธอ



        “ซินเทียร์...” เจ้าชายพูดพึมพำออกมา แล้วเค้าเองก็สะดุ้งด้วยความตกใจ เจ้าชายทรงเดินออกไปจากห้องแห่งนั้นทันที



        กาเบรียลที่หลับอยู่เมื่อได้ยินเสียงก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที แต่เธอยังมิได้ลืมตา นี่เจ้าชายเองก็ทรงรักซินเทียร์เหมือนกับเมลฟิซหรือ เพราะเหตุนี้หรือเจ้าชายถึงไม่ชอบเมลฟิซ กาเบรียลลุกขึ้นมานั่ง แล้วมองไปรอบๆ ห้องเป็นห้องที่แต่งได้สวยจริงๆ จะว่าไปก็คล้ายๆ กับห้องของเธอที่บ้านของเมลฟิซเหมือนกัน



        กาเบรียลเดินออกมาจากห้องและพบกับยามเฝ้าหน้าประตูซึ่งดูเหมือนเค้าจะไม่ได้สนใจเธอเลย แม้ว่าเธอจะเดินออกมาแล้วก็ตาม กาเบรียลเดินตรงมาตามทางที่มีพรมสีแดงทอดยาว เป็นบริเวณที่กว้างมากแม้นะเป็นเพียงทรงเดิน เธอมองดูผนังที่วาดรูปไว้อย่างงดงามราวกับเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของประดับแทบจะทุกชิ้นเป็นทองประดับเพชร หรือพลอยอันล้ำค่า กาเบรียลเดินชื่นชมกับความงามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาถึงบริเวณด้านนอกซึ่งเป็นแม่น้ำ กาเบรียลเดินตามทางเดินที่ทอดยาวไปยังท่าน้ำทันที เธอนั่งห้อยขาลงมา ปล่อยตัวตามสบาย ที่นี่ช่างอากาศดีและลมเย็นเหลือเกิน ผมยาวของกาเบรียลสะบัดไปทางด้านหลัง สะท้อนกับแสงแดดยามเย็นเป็นเงางามยิ่งนัก เธออยากไปหาเมลฟิซแต่เธอเองก็ไม่ทราบว่าเมลฟิซอยู่ที่ใด กาเบรียลนั่งคิดวางแผนการณ์ต่างๆ อยู่ที่นั่น



        เจ้าชายซิลฟีเซ่เดินกลับมาและผ่านบริเวณสระน้ำ เค้าหันไปมองบริเวณท่าน้ำนั้น เค้าพบกับหญิงสาวผมยาวนั่งอยู่ ยามเธอต้องแสงอาทิตย์ยามเย็นงดงามราวกับภาพวาดทีเดียว เจ้าชายถึงกับเผลอมองเธออยู่นาน แล้วจึงเดินเข้าไปหา กาเบรียลได้ยินเสียงคนเดินมาเธอจึงหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าชายเธอจึงหันหน้ากลับไปมองยังผิวน้ำแล้วถอนหายใจเบาๆ



        “ฉันอยากพบเมลฟิซ” กาเบรียลพูดขึ้นก่อน เจ้าชายทรงยิ้มนิดๆ แล้วเดินมานั่งข้างๆ เธอ กาเบรียลมองด้วยความแปลกใจ เจ้าชายทำไมถึงลดตัวลงมานั่งระดับเดียวกับเธอได้



        “คงไม่ได้พบอีกแล้วล่ะ” เจ้าชายตรัสอย่างอารมณ์ดี กาเบรียลหันควับมามองเจ้าชาย เจ้าชายสังเกตเห็นว่าตาของกาเบรียลโตกว่าเดิมถึง 2 เท่าทีเดียว



        “ทะ ทะทำไมล่ะ ท่านฆ่าเค้าเหรอ ท่านฆ่าเค้าเหรอ” กาเบรียลถามรัว เร็ว เจ้าชายไม่ทรงตอบใดๆ กาเบรียลขมวดคิ้ว “ตอบสิ” กาเบรียลเค้นคำตอบ



        “ถ้าเจ้าไม่พูดเพราะๆ ละก็ข้าก็จะไม่พูดกับเจ้า” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสกวนๆ กาเบรียลนึกหมั่นไส้ทันที คิดว่าเธออยากพูดกับเค้านักรึไง แต่เธอก็จำต้องยอม



        “เพคะ” กาเบรียลพูดเบาๆ เจ้าชายจึงยอมตอบคำถาม



        “ยังหรอก แต่ข้าจะไม่ให้เจ้าพบกับเมลฟิซอีก” กาเบรียลมองเจ้าชายตาโตอีกครั้ง



        “ทำไมล่ะ ทำไมฉันถึงพบเมลฟิซไม่ได้ล่ะ... เพคะ” กาเบรียลถามด้วยความสงสัย



        “ข้าเกลียดเมลฟิซนะสิ” เจ้าชายตรัส แต่หน้ากลับหันไปมองผืนน้ำที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกตา กาเบรียลแทบร้อง ถ้าเธอไม่ได้พบเมลฟิซแล้วเธอจะกลับไปบ้านยังไงละเนี่ย “เอาเถอะ ข้าจะปล่อยเมลฟิซไปแน่ๆ แต่เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่” เจ้าชายทรงหันมาตรัสกับกาเบรียล ซึ่งเธอก็จำต้องยอมรับข้อเสนอเพราะเธอจะให้เมลฟิซมาอยู่ที่ในห้องขังที่นี่ไม่ได้เช่นกัน



        “เพคะ” กาเบรียลรับคำอย่างว่าง่าย เจ้าชายยิ้มน้อยๆ แล้วลุกขึ้นยืน กาเบรียลจึงต้องยืนและเดินตามเค้าไปยังห้องเสวย ซึ่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากบ้านของเมลฟิซเลย ทั้งเงียบและเหงา แถมที่นี่เงียบเหงายิ่งว่าบ้านของเมลฟิซซะอีกแน่ะ ทั้งสองทานอาหารโดยไม่พูดกันแม้ซักคำเดียว หลังเสวยเสร็จเจ้าชายจึงตรัสกับกาเบรียล



        “เจ้าจะไปนอนหรือจะไปกับข้า” กาเบรียลหันมามองเจ้าชาย เธองงกับคำถามยิ่งนัก นี่เจ้าชายจะพาเธอไปไหนกัน



        “นอนเพคะ” เธอตอบเจ้าชาย เค้าพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องเสวยไปอย่างไม่สนใจใยดีเธอเลย ไม่นานนักก็มีสาวใช้วิ่งมาหากาเบรียล



        “เจ้าชายทรงให้พาท่านไปห้องบรรทมเพคะ” กาเบรียลพยักหน้าแล้วเดินตามสาวใช้ไป เธอพยายามจดจำทางภายให้พระราชวังนี้ ไม่นานนักเธอก็มาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง กาเบรียลจำได้ทันทีว่าเป็นห้องที่เค้าเคยพาเธอมานั่นเอง สาวใช้พากาเบรียลเข้าไปยังห้องสรงซึ่งมีอ่างน้ำใหญ่แล้วพยายามจะถอดเสื้อเธอออก กาเบรียลถอยหนีด้วยความตกใจ



        “มะไม่ต้อง ฉันอาบเองได้” กาเบรียลรีบพูด แต่ทว่าพวกเธอไม่ฟัง กาเบรียลจึงต้องยอม พวกเธอทั้งขัดทั้งนวดกาเบรียล กาเบรียลรู้สึกเขินๆ แต่ทว่าพวกเธอนวดได้ดีมากทีเดียว ทำเอากาเบรียลเผลอหลับไป กาเบรียลรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีคนเอาน้ำมาราดบนหลังเธอ กาเบรียลได้กลิ่นหอมๆ ฉุนจมูกคาดว่าน่าจะเป็นน้ำหอมที่พวกสาวใช้นำมานวดเธอกระมัง เธอลืมตาขึ้น พวกสาวใช้ยิ้มให้เธอ กาเบรียลเห็นพวกเธอตักน้ำจากอ่างมาอาบให้เธอ กาเบรียลจึงลุกขึ้นแล้วลงอ่างน้ำที่อุ่นสบาย เธอแช่น้ำอยู่พักหนึ่งจึงขึ้นมาจากอ่าง ไม่วายที่พวกสาวใช้จะมาวุ่นวายกับเธอ แม้กระทั่งการแต่งตัว ‘มันจะอะไรกันนักหน้ากับการอาบน้ำแต่งตัวนะ’ กาเบรียลบ่นในใจ ตั้งแต่เธอจำความได้ก็เพิ่งเคยจะมีคนมาอาบให้ครั้งแรกนี่แหละ กาเบรียลรู้สึกเบาตัวยิ่งนัก เธอเดินไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนทันที



        กาเบรียลนอนอยู่บนเตียงอันอุ่นสบาย แต่แล้วจู่ๆ เธอก็รู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเธอกำมือแน่น รู้สึกถึงเหงือที่ชื้นอยู่บนใบหน้าและตามฝ่ามือของเธอ กาเบรียลเอื้อมมือไปข้างหน้าขอความช่วยเหลือจากใครซักคน แต่แล้วเธอก็สัมผัสเข้ากับบางสิ่ง กาเบรียลสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เธอประสานสายตากับคนคนหนึ่งทันที ดวงตาสีเขียวคู่สวยนั้นจ้องมองเธอ กาเบรียลมองฝ่าไปในความมืด เธอเห็นเจ้าของดวงตาคู่งามนั้นเป็นเด็กชายอายุราวๆ 9 ปี นั่งทับเธออยู่ กาเบรียลกรีดร้องขึ้นมาทันทีเธอผลักร่างนั้นออกไป ประตูไม้ถูกเปิดเข้ามา พร้อมกันนั้นแสงไฟก็สว่างขึ้น ถ้าหากเป็นผีจริงมันจะต้องหายไปสิ แต่นี่ เค้ายังอยู่



        “เกิดอะไรขึ้น” เสียงชายหนุ่มดังขึ้น กาเบรียลหันไปมอง และประสานสายตากับเฟรย์ผู้ติดตามของเจ้าชายซิลฟีเซ่ เค้าเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาทันที เมื่อเห็นสภาพของกาเบรียล ที่อยู่ในชุดนอนอันบางเบา ราวกับกาเบรียลจะอ่านใจเค้าออกเธอหยิบผ้าขึ้นมาคลุมทับอีกชั้นทันที



        “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เด็กชายคนนั้นถามเฟรย์ที่เดินเข้ามา เค้าตอบเด็กชายทันที



        “นางเป็นแขกของท่านซิลฟีเซ่พะยะค่ะ” เฟรย์พูดอย่างอ่อนน้อม หรือเด็กคนนี้จะเป็นเจ้าชายอีกคนนะ



        “งั้นหรือ เดี๋ยวนี้เจ้าพี่ให้แขกมานอนถึงในห้องเชียวหรือ” เด็กชายผมสีน้ำตาลถามเฟรย์ เค้าอึกอักพูดไม่ออก พอดีกับที่เจ้าชายซิลฟีเซ่เดินเข้ามา



        “เกิดเรื่องอะไรกัน อ่าว! ฟีเรนเซ่ เจ้ามาทำอะไรในห้องข้า” เจ้าชายถามด้วยความแปลกใจ กาเบรียลนั่งดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ เธอพูดอะไรไม่ออก นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นแน่



        “ก็มาหาเจ้าพี่ แต่กลับพบใครก็ไม่รู้มานอนอยู่เช่นนี้” เจ้าชายองค์น้อยทรงแก้ตัว “เจ้าพี่ให้หญิงสาวมานอนในนี้ได้อย่างไร ข้าจะไปฟ้องท่านหญิงเอลเลน่า” เจ้าชายพระองค์น้อยทรงขู่



        “เจ้าจะมายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ทำไมกัน เจ้าจะเอายังไงกับข้าฮึ ฟีเรนเซ่ กลับไปนอนได้แล้ว” เจ้าชายซิลฟีเซ่ทรงว่าพระอนุชา



        “งั้นข้าจะไปบอกท่านหญิง” ฟีเรนเซ่ทำท่าจะร้องแถมมีพูดขู่เอาไว้ด้วย ท่าทางจะเอาจริง ซิลฟีเซ่จึงยอมตกลงทำข้อเสนอ “งั้นให้ผู้หญิงคนนี้ไปนอนเป็นเพื่อนข้านะ แล้วข้าจะไม่บอกท่านหญิงว่าเจ้าพี่พาผู้หญิงมาอยู่ในวัง” เจ้าชายซิลฟีเซ่ไม่มีทางเลือก จึงต้องตอบตกลง พระอนุชากระโดดกอดกาเบรียลด้วยความดีใจ แต่ทว่ากาเบรียลตกใจเป็นอย่างมากเธอมองคนนู้นทีคนนี้ที แต่เธอก็ดีใจอยู่อย่างที่ไม่ต้องอยู่ห้องเดียวกับเจ้าชายซิลฟีเซ่



        “เจ้าชายหม่อมฉันง่วงนอน” กาเบรียลกระซิบบอกเจ้าชายพระองค์น้อยเบาๆ เด็กชายเปลี่ยนมาฉุดมือกาเบรียลให้ลงจากเตียง ทำให้ผ้าคลุมของกาเบรียลหลุด เจ้าชายซิลฟีเซ่มองกาเบรียลนิดหนึ่ง ทั้งสองสบตากันก่อนที่เจ้าชายฟีเรนเซ่จะดึงมือเธอออกไปจากไปยังห้องบรรทมเจ้าชายซิลฟีเซ่ เจ้าชายซิลฟีเซ่มองตามพระอนุชาไปอย่างขัดใจ













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×