ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เมลฟิซ VS เจ้าชายซิลฟีเซ่
   
    กาเบรียลเดินกระแทกเท้ากลับมาที่ยานอย่างหัวเสีย แล้วจู่ๆ ก็มีมือมากระชากไหล่เธอจนเธอแทบจะล้ม กาเบรียลดึงเสื้อเค้าไว้ขณะเดียวกันเค้าก็เอามือมารับเธอจากด้านหลังเช่นกัน
    “จะ เจ้าชาย” กาเบรียลผละออกห่างทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าชายซิลฟีเซ่
    “เจ้าเป็นอะไรกับเมลฟิซกันแน่” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสถามเสียงเข้ม กาเบรียลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นภรรยาเมลฟิซอีกคนใช่มั้ย” เค้าถามอีกเมื่อไม่เห็นมีท่าทีว่ากาเบรียลจะตอบ เธอตกใจกับคำพูดนั้นมากแต่เธอก็ตอบกลับเค้าไปอย่างเจ็บแสบ
    “ถ้าใช่แล้วจะทำไม ทำไมท่านต้องมายุ่งเรื่องเกี่ยวกับเมลฟิซด้วย” กาบรียลถามกลับด้วยความไม่พอใจ เค้าหน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกรธ เค้าดึงกาเบรียลเข้ามาแล้วจูบเธอ กาบรียลตกใจมากเธอพยายามจะผลักเค้าออกแต่ทว่าเธอไม่มีแรงเลย เจ้าชายเปลี่ยนมาจูบเธออย่างอ่อนโยน เค้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้ากาเบรียล เค้ายิ้ม แต่ทว่าสายตากลับดูเหยียดหยามเธอยิ่งนัก เธอหน้าแดงด้วยความโกรธเลยทีเดียว เธอตบหน้าเจ้าชายอย่างแรง แต่ทว่าเค้ากลับยิ้มราวกับไม่เจ็บเลย เธอยังไม่หายแค้นเธอจึงผลักเค้าไปชนกับเสาต้นหนึ่ง แล้วเธอก็วิ่งกลับมาที่ยาน แล้วล็อกประตูทันที แต่เจ้าชายซิลฟีเซ่ก็ไม่ได้ตามมาแต่อย่างใด กาบรียลชกไปที่เบาะนั่งอย่างแรง เค้าเกลียดคนแบบนี้ที่สุด ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้น เธอกัดฟัน แล้วทุบไปที่เบาะอีกหลายที จนกระทั่งประตูอีกด้านหนึ่งเปิดขึ้น เมลฟิซหน้าตาตื่น เค้ามองกาเบรียลด้วยความตกใจ
    “เป็นอะไรหรือกาเบรียล” เมลฟิซถามกาเบรียลทันที เค้าเห็นเธอชกเบาะตั้งแต่เค้าอยู่นอกรถแล้ว กาเบรียลหันมามองเค้าแล้วยิ้มฝืดๆ
    “ปละ เปล่า” กาเบรียลพูดเสียงเบา แต่เมลฟิซไม่เชื่อ เค้าขมวดคิ้วแต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ เค้าเพียงแต่ลูบศีรษะกาเบรียลเบาๆ เธอรู้สึกผ่อนคลายลงเวลาเมลฟิซลูบศีรษะเธอ เธอยิ้มให้เมลฟิซ
    “กาเบรียล ข้าไม่มั่นใจว่าจะทำหน้าที่ของพ่อได้อย่างสมบูรณ์” เมลฟิซพูดขึ้นเมื่อขับยานขึ้นมาแล้ว กาเบรียลมองเค้าอย่างงงๆ “อย่างเรื่องเมื่อครู่”
    “ไม่เป็นไร คุณก็ช่วยฉันไว้ได้แล้วนี่นา หนูรักคุณนะ” กาเบรียลพูด ไม่รู้เป็นอะไรเธอถึงอยากอ้อนพ่อของเธอบ้าง เมลฟิซมองกาเบรียลตาโต กาเบรียลหันไปเห็นพ่อของเธอหน้าแดง เธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูดซะใหม่ “ฉันหมายถึง ฉันรักคุณที่เป็นพ่อน่ะ” กาเบรียลเปลี่ยนสรรพนาม เมลฟิซหัวเราะเบาๆ
    เมื่อกลับมาถึงบ้านเมลฟิซ เค้าเดินมายังห้องทานอาหาร ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากโลกปัจจุบันมากนัก เมลฟิซนั่งทานอาหารแล้วหันมาพูดกับกาเบรียลบ้าง
    “ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง” เมลฟิซถาม
    “ก็ดีค่ะ ฉันว่าดีมากเลยล่ะ แต่รู้สึกเหงายังไงชอบกล” กาเบรียลพูดท่าทางบ่งบอกว่าเหงาจริงๆ เพราะโต๊ะใหญ่ๆ นั่งได้ราว20 คนทั้งโต๊ะมีเธอนั่งอยู่กับเมลฟิซเพียง 2 คนเท่านั้น
    “งั้นหรือ นั่นสินะ” เมลฟิซพูดขึ้นมา ท่าทางเศร้ายิ่งนัก กาเบรียลจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
    “ฉันอ่านในหนังสือ เค้าบอกว่าคนในยุคนี้มักจะมีภรรยาหลายคน” กาเบรียลยิ้ม “คุณล่ะเมลฟิซ” เมลฟิซแทบจะสำลักอาหารออกมาเลยทีเดียว
    “ไม่มี! คนอื่นเลย” เค้ารีบพูด กาเบรียลหัวเราะ แสดงว่าแม่ของเธอจะต้องสวยมากๆ แน่ๆ เมลฟิซถึงไม่ยอมมีหลายๆ คน แต่ลองมีสิเธอจะเข้าไปอาละวาดให้หมดเลย
    “ปกติอยู่ที่นี่คุณทำอะไรหรือ” กาเบรียลถามเพื่อไม่ให้เงียบเกินไป
    “ก็ฝึกดาบ อยากฝึกมั้ย” เมลฟิซถามล้อๆ แต่ดูเหมือนว่ากาเบรียลจะเอาจริง เธอตาเป็นประกายเลยทีเดียว
    “จริงเหรอ ฝึกสิ อยากฝึก” กาเบรียลหยุดทานอาหารแล้วรบเร้าเมลฟิซ เค้ามองเธอด้วยความแปลกใจ เพราะผู้หญิงทั่วๆ ไปเค้าไม่เห็นจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้กระทั่งซินเทียร์ หล่อนกลัวดาบจะตายไป ถึงกระนั้นซินเทียร์แม้จะไม่มีอาวุธในการปกป้องตัว แต่เธอก็เฉลียวฉลาดมาก เธอเป็นหญิงในอุดมคติของผู้ชายหลายๆ คนเลยทีเดียว “นะนะ อยากฝึก น้าาาา” กาเบรียลอ้อนวอน เมลฟิซจึงต้องสอนเธอ เค้าไม่ชอบขัดใจผู้หญิงอยู่แล้วด้วยสิ
    “ก็ได้ๆ แต่ถ้าเจ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาข้าไม่รู้ด้วยนะ” เมลฟิซพูดขู่ กาเบรียลย่นจมูก
    “ไหนบอกว่าจะปกป้องไง” กาเบรียลพูดบ่นเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเมลฟิซจะได้ยิน เค้าหัวเราะเบาๆ แล้วรีบทานอาหารที่เหลือแล้วพากาเบรียลไปยังลานกว้างแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เค้าถือดาบไม้มาเล่มหนึ่ง พร้อมกับดาบของเค้าเองอีกเล่มหนึ่ง และยื่นดาบไม้ให้กาเบรียล
    “ลองจับดาบดูก่อนซิ” เมลฟิซสั่ง กาเบรียลรีบทำทันที ท่าจับดาบ ง่ายจะตายไป แต่พอเธอตั้งท่า เมลฟิซกลับหัวเราะ ราวกับจะหลอกแกล้งเธอยังไงอย่างนั้นเลย กาเบรียลยืนเก้ออยู่ เมลฟิซจึงเข้ามาจัดท่าทางให้ถูกต้อง “จับแบบนั้นมีหวังโดนแทงก่อนได้ยกดาบแน่ๆ” เมลฟิซบอกกาเบรียล แล้วเค้าก็จับมือกาเบรียลโดยโอบเธอจากด้านหลังแล้วบังคับมือเธอให้ฟันลงไป กับอากาศสองสามครั้ง แล้วปล่อยให้เธอทำเอง
    “ดาบมันหนักอ่ะ เมลฟิซ” กาเบรียลเริ่มบ่น เพราะเธอยังฟันได้ไม่คงที่เลย “เมลฟิซพักก่อนได้มั้ย” เธอถามเมลฟิซ เค้าพยักหน้าเพราะเห็นว่าเธอเพิ่งจะฝึก ซ้ำยังไม่ต้องเร่งรีบอะไรด้วย
    “น้ำหน่อยมั้ย” เมลฟิซพูดพร้อมกับยื่นถุงใส่น้ำให้กาเบรียล เธอรับมันไว้
    “ขอบคุณค่ะ เมลฟิซ” กาเบรียลพูดแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
    “เร็วซี่ เร็วๆ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นทำเอากาเบรียลสำลักน้ำทันที เธอหันไปมองยังต้นเสียง เค้าเองก็หันมามองเธอเช่นกัน
    “เฟรย์วันนี้ข้าคงจะดวงซวย คงจะยิงนกไม่ได้หรอก กลับกันเถอะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสขึ้นเมื่อเห็นกาเบรียล ดังพอที่จะให้เธอได้ยินด้วย กาเบรียลขมวดคิ้วแล้วยืนเท้าเอวอย่างหาเรื่อง เมลฟิซจะเข้าไปห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว
    “อะไรกันเจ้าชาย พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” กาเบรียลพูดด้วยความโมโห เจ้าชายมองหน้ากาเบรียลแล้วเลิกคิ้ว ทำให้กาเบรียลยิ่งโมโหดเข้าไปอีก
    “อ่าว! เจ้าเองรึ มาทำอะไรที่นี่ล่ะ คงไม่ได้มาอ่อยเหยื่อหรอกนะ” เจ้าชายทรงทำราวกับเพิ่งเห็นกาเบรียล กาเบรียลได้ฟังก็ขว้างดาบไปปักพื้นด้วยความโมโหที่เจ้าชายดูถูกเธอถึงเพียงนี้ “เมลฟิซเจ้าเองก็ไม่เบานี่ ซินเทียร์เพิ่งตายไปได้ไม่นานเจ้าก็มีใหม่ซะแล้ว” คราวนี้เจ้าชายทรงลามมาถึงเมลฟิซ แต่เค้าไม่ได้พูดตอบโต้อะไร กาเบรียลจึงโกรธแทน
    “ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ อย่างท่านคงจะไม่มีใครรักสิท่า ต้องอย่างเมลฟิซสิ จริงมั้ย” กาเบรียลพูดตอกกลับไป เจ้าชายทรงขมวดคิ้วทันที “อ้อ! ซินเทียร์เองก็เป็นหญิงงาม แต่นางก็เลือกเมลฟิซ ไม่ใช่ท่านที่ชอบเอาแต่ดูถูกคนอื่นไปวันๆ ไร้สาระ” กาเบรียลด่าเจ้าชายอย่างอดไม่ได้ เธอหมั่นไส้ท่าทางนั่นเกินทน คราวนี้เจ้าชายทรงเดินเข้ามาหากาเบรียลแล้วบีบคอเธอ เมลฟิซวิ่งเข้ามาหากาเบรียล แต่ทว่าเฟรย์ และผู้ติดตามกลับเข้ามาขวางไว้
    “อย่าพูดถึงซินเทียร์ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่” เจ้าชายพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น และน่ากลัวยิ่ง เค้าบีบคอกาเบรียลแน่นขึ้น จนเธอหายใจไม่ออกเธอดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่หลุดซักที เมลฟิซผ่านเฟรย์ และพวกผู้ติดตามมาได้ ก็เข้ามาผลักเจ้าชายแล้วคว้าตัวกาเบรียลไว้ เจ้าชายเซไปอีกทาง เมื่อตั้งหลักได้ เจ้าชายจึงดึงดาบออกมาหมายจะฆ่าเมลฟิซ แต่เมลฟิซชักดาบขึ้นมากันคมดาบของเจ้าชายได้ทันเวลา เมลฟิซผลักกาเบรียลออกไป เฟรย์จับตัวเธอไว้ เธอมองดูการต่อสู้นั้นด้วยความตกตะลึง ทุกครั้งที่มีการปะทะดาบกัน เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ ถ้าหากเมลฟิซพลาดล่ะ กาเบรียลพยายามจะสะบัดเฟรย์ให้หลุด แต่ทว่าไม่มีทางเลย เธอมองเมลฟิซที่ดูเหมือนจะเสียเปรียบเจ้าชายอยู่
    “เมลฟิซซซซ” กาเบรียลกรีดร้อง เจ้าชายชะงักแล้วหันมามอง เค้าแสยะยิ้มให้เธอ เมลฟิซจึงกลับมาตั้งหลักได้ ทั้งสองต่อสู้กันไปเรื่อยๆ เมลฟิซแม้จะมีฝีมือทางด้านการต่อสู้และประสบการณ์พอๆ กับเจ้าชาย แต่ทว่าเค้าไม่สามารถทำร้ายเจ้าชายได้ เค้าเพียงแต่ปัดป้องเท่านั้น กาเบรียลมองเมลฟิซที่กำลังต่อสู้เพราะเธอเป็นต้นเหตุอยู่แล้วน้ำตาไหลพราก “เจ้าชายได้โปรด หยุดเถอะ จะฆ่าหม่อมฉันก็ได้ ปล่อยเมลฟิซเถอะ” เจ้าชายทรงชะงักอีกครั้ง เค้าถีบเมลฟิซออกไป แล้วเดินตรงมาหากาเบรียล เมลฟิซวิ่งเข้ามาขวาง แต่ทว่าทหารที่คอยคุ้มกันเจ้าชายจับเค้าเอาไว้
    “แน่ใจรึ ที่จะยอมตาย” เจ้าชายทรงไล้มือไปตามคอขาวๆ ของกาเบรียล “น่าเสียดายนะ หายากจริงๆ คนที่จะยอมตายแทนกันได้เนี่ยนะ” เจ้าชายพูดต่อแล้วเค้าก็หันมามองเมลฟิซ “ถ้าข้าทำแบบนี้กับหญิงคนนี้จะว่าอย่างไรเมลฟิซ” พูดจบเจ้าชายก็ทรงก้มลงมาจูบกาเบรียล เมลฟิซมองอย่างตกตะลึง เค้าพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมแต่ทว่าทำไม่ได้ เจ้าชายถอนปากออกแล้ว ซุกหน้าไปตามซอกคอของกาเบรียล เธอร้องไห้ด้วยความกลัวและอับอายยิ่งนัก
    “หยุดนะเจ้าชาย” เมลฟิซพูดขึ้นในที่สุด เจ้าชายทรงหยุดทันที แล้วหันมามองเมลฟิซ เมลฟิซจึงพูดต่อ “ปล่อยนาง”
    “แล้วเจ้าจะยอมทำตามข้าทุกอย่าง” เจ้าชายทรงพูด เมลฟิซพยักหน้า กาเบรียลมองเมลฟิซน้ำตาไหลพราก เฟรย์ปล่อยเธอ กาเบรียลวิ่งเข้ามาหาเมลฟิซ เธอกอดเค้าแล้วร้องไห้ออกมาพร้อมๆ กับพูดกับเมลฟิซ
    “ขอโทษเมลฟิซ ฉันขอโทษ คุณไม่น่าไปรับปากเช่นนั้นเลย มันเป็นความผิดของฉันแท้ๆ” กาเบรียลพูดเสียงเครือ เมลฟิซมองเธอเค้าอยากจะกอดปลอบใจเธอ แต่ทว่าเค้าถูกจับตัวอยู่เค้าจึงทำได้เพียงแค่พูดกับเธอเท่านั้น
    “ไม่เป็นไร ข้าบอกแล้วว่าจะปกป้องเจ้า ข้าไม่เป็นอะไรหรอกกาเบรียล ไม่ต้องกลัว” เมลฟิซพูดจบเฟรย์ก็มาดึงกาเบรียลออกไปจากเมลฟิซ
    “ไปกันได้แล้ว” เจ้าชายทรงรับสั่งพวกทหารพาตัวเมลฟิซไป กาเบรียลจึงตัดสินใจตะโกนขึ้น
    “พาฉันไปด้วย ฉันจะไปกับเมลฟิซ” เจ้าชายหันมามองแล้วยิ้ม เค้าเดินกลับมาแล้วแบกเธอขึ้นไปบนหลังม้าอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนัก เมื่อมาถึงพระราชวัง เจ้าชายก็ทรงแยกเมลฟิซไปขังไว้อีกห้อง กาเบรียลจะเดินตามไปแต่ทว่าเค้ากลับดึงมือเธอไว้ แล้วพาไปขังเอาไว้ในห้องๆ หนึ่ง ที่ทั้งมืด และมีกลิ่นอับ
    กาเบรียลเดินกระแทกเท้ากลับมาที่ยานอย่างหัวเสีย แล้วจู่ๆ ก็มีมือมากระชากไหล่เธอจนเธอแทบจะล้ม กาเบรียลดึงเสื้อเค้าไว้ขณะเดียวกันเค้าก็เอามือมารับเธอจากด้านหลังเช่นกัน
    “จะ เจ้าชาย” กาเบรียลผละออกห่างทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าชายซิลฟีเซ่
    “เจ้าเป็นอะไรกับเมลฟิซกันแน่” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสถามเสียงเข้ม กาเบรียลขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นภรรยาเมลฟิซอีกคนใช่มั้ย” เค้าถามอีกเมื่อไม่เห็นมีท่าทีว่ากาเบรียลจะตอบ เธอตกใจกับคำพูดนั้นมากแต่เธอก็ตอบกลับเค้าไปอย่างเจ็บแสบ
    “ถ้าใช่แล้วจะทำไม ทำไมท่านต้องมายุ่งเรื่องเกี่ยวกับเมลฟิซด้วย” กาบรียลถามกลับด้วยความไม่พอใจ เค้าหน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกรธ เค้าดึงกาเบรียลเข้ามาแล้วจูบเธอ กาบรียลตกใจมากเธอพยายามจะผลักเค้าออกแต่ทว่าเธอไม่มีแรงเลย เจ้าชายเปลี่ยนมาจูบเธออย่างอ่อนโยน เค้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้ากาเบรียล เค้ายิ้ม แต่ทว่าสายตากลับดูเหยียดหยามเธอยิ่งนัก เธอหน้าแดงด้วยความโกรธเลยทีเดียว เธอตบหน้าเจ้าชายอย่างแรง แต่ทว่าเค้ากลับยิ้มราวกับไม่เจ็บเลย เธอยังไม่หายแค้นเธอจึงผลักเค้าไปชนกับเสาต้นหนึ่ง แล้วเธอก็วิ่งกลับมาที่ยาน แล้วล็อกประตูทันที แต่เจ้าชายซิลฟีเซ่ก็ไม่ได้ตามมาแต่อย่างใด กาบรียลชกไปที่เบาะนั่งอย่างแรง เค้าเกลียดคนแบบนี้ที่สุด ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้น เธอกัดฟัน แล้วทุบไปที่เบาะอีกหลายที จนกระทั่งประตูอีกด้านหนึ่งเปิดขึ้น เมลฟิซหน้าตาตื่น เค้ามองกาเบรียลด้วยความตกใจ
    “เป็นอะไรหรือกาเบรียล” เมลฟิซถามกาเบรียลทันที เค้าเห็นเธอชกเบาะตั้งแต่เค้าอยู่นอกรถแล้ว กาเบรียลหันมามองเค้าแล้วยิ้มฝืดๆ
    “ปละ เปล่า” กาเบรียลพูดเสียงเบา แต่เมลฟิซไม่เชื่อ เค้าขมวดคิ้วแต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ เค้าเพียงแต่ลูบศีรษะกาเบรียลเบาๆ เธอรู้สึกผ่อนคลายลงเวลาเมลฟิซลูบศีรษะเธอ เธอยิ้มให้เมลฟิซ
    “กาเบรียล ข้าไม่มั่นใจว่าจะทำหน้าที่ของพ่อได้อย่างสมบูรณ์” เมลฟิซพูดขึ้นเมื่อขับยานขึ้นมาแล้ว กาเบรียลมองเค้าอย่างงงๆ “อย่างเรื่องเมื่อครู่”
    “ไม่เป็นไร คุณก็ช่วยฉันไว้ได้แล้วนี่นา หนูรักคุณนะ” กาเบรียลพูด ไม่รู้เป็นอะไรเธอถึงอยากอ้อนพ่อของเธอบ้าง เมลฟิซมองกาเบรียลตาโต กาเบรียลหันไปเห็นพ่อของเธอหน้าแดง เธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูดซะใหม่ “ฉันหมายถึง ฉันรักคุณที่เป็นพ่อน่ะ” กาเบรียลเปลี่ยนสรรพนาม เมลฟิซหัวเราะเบาๆ
    เมื่อกลับมาถึงบ้านเมลฟิซ เค้าเดินมายังห้องทานอาหาร ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากโลกปัจจุบันมากนัก เมลฟิซนั่งทานอาหารแล้วหันมาพูดกับกาเบรียลบ้าง
    “ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง” เมลฟิซถาม
    “ก็ดีค่ะ ฉันว่าดีมากเลยล่ะ แต่รู้สึกเหงายังไงชอบกล” กาเบรียลพูดท่าทางบ่งบอกว่าเหงาจริงๆ เพราะโต๊ะใหญ่ๆ นั่งได้ราว20 คนทั้งโต๊ะมีเธอนั่งอยู่กับเมลฟิซเพียง 2 คนเท่านั้น
    “งั้นหรือ นั่นสินะ” เมลฟิซพูดขึ้นมา ท่าทางเศร้ายิ่งนัก กาเบรียลจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
    “ฉันอ่านในหนังสือ เค้าบอกว่าคนในยุคนี้มักจะมีภรรยาหลายคน” กาเบรียลยิ้ม “คุณล่ะเมลฟิซ” เมลฟิซแทบจะสำลักอาหารออกมาเลยทีเดียว
    “ไม่มี! คนอื่นเลย” เค้ารีบพูด กาเบรียลหัวเราะ แสดงว่าแม่ของเธอจะต้องสวยมากๆ แน่ๆ เมลฟิซถึงไม่ยอมมีหลายๆ คน แต่ลองมีสิเธอจะเข้าไปอาละวาดให้หมดเลย
    “ปกติอยู่ที่นี่คุณทำอะไรหรือ” กาเบรียลถามเพื่อไม่ให้เงียบเกินไป
    “ก็ฝึกดาบ อยากฝึกมั้ย” เมลฟิซถามล้อๆ แต่ดูเหมือนว่ากาเบรียลจะเอาจริง เธอตาเป็นประกายเลยทีเดียว
    “จริงเหรอ ฝึกสิ อยากฝึก” กาเบรียลหยุดทานอาหารแล้วรบเร้าเมลฟิซ เค้ามองเธอด้วยความแปลกใจ เพราะผู้หญิงทั่วๆ ไปเค้าไม่เห็นจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้กระทั่งซินเทียร์ หล่อนกลัวดาบจะตายไป ถึงกระนั้นซินเทียร์แม้จะไม่มีอาวุธในการปกป้องตัว แต่เธอก็เฉลียวฉลาดมาก เธอเป็นหญิงในอุดมคติของผู้ชายหลายๆ คนเลยทีเดียว “นะนะ อยากฝึก น้าาาา” กาเบรียลอ้อนวอน เมลฟิซจึงต้องสอนเธอ เค้าไม่ชอบขัดใจผู้หญิงอยู่แล้วด้วยสิ
    “ก็ได้ๆ แต่ถ้าเจ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาข้าไม่รู้ด้วยนะ” เมลฟิซพูดขู่ กาเบรียลย่นจมูก
    “ไหนบอกว่าจะปกป้องไง” กาเบรียลพูดบ่นเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเมลฟิซจะได้ยิน เค้าหัวเราะเบาๆ แล้วรีบทานอาหารที่เหลือแล้วพากาเบรียลไปยังลานกว้างแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เค้าถือดาบไม้มาเล่มหนึ่ง พร้อมกับดาบของเค้าเองอีกเล่มหนึ่ง และยื่นดาบไม้ให้กาเบรียล
    “ลองจับดาบดูก่อนซิ” เมลฟิซสั่ง กาเบรียลรีบทำทันที ท่าจับดาบ ง่ายจะตายไป แต่พอเธอตั้งท่า เมลฟิซกลับหัวเราะ ราวกับจะหลอกแกล้งเธอยังไงอย่างนั้นเลย กาเบรียลยืนเก้ออยู่ เมลฟิซจึงเข้ามาจัดท่าทางให้ถูกต้อง “จับแบบนั้นมีหวังโดนแทงก่อนได้ยกดาบแน่ๆ” เมลฟิซบอกกาเบรียล แล้วเค้าก็จับมือกาเบรียลโดยโอบเธอจากด้านหลังแล้วบังคับมือเธอให้ฟันลงไป กับอากาศสองสามครั้ง แล้วปล่อยให้เธอทำเอง
    “ดาบมันหนักอ่ะ เมลฟิซ” กาเบรียลเริ่มบ่น เพราะเธอยังฟันได้ไม่คงที่เลย “เมลฟิซพักก่อนได้มั้ย” เธอถามเมลฟิซ เค้าพยักหน้าเพราะเห็นว่าเธอเพิ่งจะฝึก ซ้ำยังไม่ต้องเร่งรีบอะไรด้วย
    “น้ำหน่อยมั้ย” เมลฟิซพูดพร้อมกับยื่นถุงใส่น้ำให้กาเบรียล เธอรับมันไว้
    “ขอบคุณค่ะ เมลฟิซ” กาเบรียลพูดแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
    “เร็วซี่ เร็วๆ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นทำเอากาเบรียลสำลักน้ำทันที เธอหันไปมองยังต้นเสียง เค้าเองก็หันมามองเธอเช่นกัน
    “เฟรย์วันนี้ข้าคงจะดวงซวย คงจะยิงนกไม่ได้หรอก กลับกันเถอะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสขึ้นเมื่อเห็นกาเบรียล ดังพอที่จะให้เธอได้ยินด้วย กาเบรียลขมวดคิ้วแล้วยืนเท้าเอวอย่างหาเรื่อง เมลฟิซจะเข้าไปห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว
    “อะไรกันเจ้าชาย พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” กาเบรียลพูดด้วยความโมโห เจ้าชายมองหน้ากาเบรียลแล้วเลิกคิ้ว ทำให้กาเบรียลยิ่งโมโหดเข้าไปอีก
    “อ่าว! เจ้าเองรึ มาทำอะไรที่นี่ล่ะ คงไม่ได้มาอ่อยเหยื่อหรอกนะ” เจ้าชายทรงทำราวกับเพิ่งเห็นกาเบรียล กาเบรียลได้ฟังก็ขว้างดาบไปปักพื้นด้วยความโมโหที่เจ้าชายดูถูกเธอถึงเพียงนี้ “เมลฟิซเจ้าเองก็ไม่เบานี่ ซินเทียร์เพิ่งตายไปได้ไม่นานเจ้าก็มีใหม่ซะแล้ว” คราวนี้เจ้าชายทรงลามมาถึงเมลฟิซ แต่เค้าไม่ได้พูดตอบโต้อะไร กาเบรียลจึงโกรธแทน
    “ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ อย่างท่านคงจะไม่มีใครรักสิท่า ต้องอย่างเมลฟิซสิ จริงมั้ย” กาเบรียลพูดตอกกลับไป เจ้าชายทรงขมวดคิ้วทันที “อ้อ! ซินเทียร์เองก็เป็นหญิงงาม แต่นางก็เลือกเมลฟิซ ไม่ใช่ท่านที่ชอบเอาแต่ดูถูกคนอื่นไปวันๆ ไร้สาระ” กาเบรียลด่าเจ้าชายอย่างอดไม่ได้ เธอหมั่นไส้ท่าทางนั่นเกินทน คราวนี้เจ้าชายทรงเดินเข้ามาหากาเบรียลแล้วบีบคอเธอ เมลฟิซวิ่งเข้ามาหากาเบรียล แต่ทว่าเฟรย์ และผู้ติดตามกลับเข้ามาขวางไว้
    “อย่าพูดถึงซินเทียร์ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่” เจ้าชายพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น และน่ากลัวยิ่ง เค้าบีบคอกาเบรียลแน่นขึ้น จนเธอหายใจไม่ออกเธอดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่หลุดซักที เมลฟิซผ่านเฟรย์ และพวกผู้ติดตามมาได้ ก็เข้ามาผลักเจ้าชายแล้วคว้าตัวกาเบรียลไว้ เจ้าชายเซไปอีกทาง เมื่อตั้งหลักได้ เจ้าชายจึงดึงดาบออกมาหมายจะฆ่าเมลฟิซ แต่เมลฟิซชักดาบขึ้นมากันคมดาบของเจ้าชายได้ทันเวลา เมลฟิซผลักกาเบรียลออกไป เฟรย์จับตัวเธอไว้ เธอมองดูการต่อสู้นั้นด้วยความตกตะลึง ทุกครั้งที่มีการปะทะดาบกัน เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ ถ้าหากเมลฟิซพลาดล่ะ กาเบรียลพยายามจะสะบัดเฟรย์ให้หลุด แต่ทว่าไม่มีทางเลย เธอมองเมลฟิซที่ดูเหมือนจะเสียเปรียบเจ้าชายอยู่
    “เมลฟิซซซซ” กาเบรียลกรีดร้อง เจ้าชายชะงักแล้วหันมามอง เค้าแสยะยิ้มให้เธอ เมลฟิซจึงกลับมาตั้งหลักได้ ทั้งสองต่อสู้กันไปเรื่อยๆ เมลฟิซแม้จะมีฝีมือทางด้านการต่อสู้และประสบการณ์พอๆ กับเจ้าชาย แต่ทว่าเค้าไม่สามารถทำร้ายเจ้าชายได้ เค้าเพียงแต่ปัดป้องเท่านั้น กาเบรียลมองเมลฟิซที่กำลังต่อสู้เพราะเธอเป็นต้นเหตุอยู่แล้วน้ำตาไหลพราก “เจ้าชายได้โปรด หยุดเถอะ จะฆ่าหม่อมฉันก็ได้ ปล่อยเมลฟิซเถอะ” เจ้าชายทรงชะงักอีกครั้ง เค้าถีบเมลฟิซออกไป แล้วเดินตรงมาหากาเบรียล เมลฟิซวิ่งเข้ามาขวาง แต่ทว่าทหารที่คอยคุ้มกันเจ้าชายจับเค้าเอาไว้
    “แน่ใจรึ ที่จะยอมตาย” เจ้าชายทรงไล้มือไปตามคอขาวๆ ของกาเบรียล “น่าเสียดายนะ หายากจริงๆ คนที่จะยอมตายแทนกันได้เนี่ยนะ” เจ้าชายพูดต่อแล้วเค้าก็หันมามองเมลฟิซ “ถ้าข้าทำแบบนี้กับหญิงคนนี้จะว่าอย่างไรเมลฟิซ” พูดจบเจ้าชายก็ทรงก้มลงมาจูบกาเบรียล เมลฟิซมองอย่างตกตะลึง เค้าพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมแต่ทว่าทำไม่ได้ เจ้าชายถอนปากออกแล้ว ซุกหน้าไปตามซอกคอของกาเบรียล เธอร้องไห้ด้วยความกลัวและอับอายยิ่งนัก
    “หยุดนะเจ้าชาย” เมลฟิซพูดขึ้นในที่สุด เจ้าชายทรงหยุดทันที แล้วหันมามองเมลฟิซ เมลฟิซจึงพูดต่อ “ปล่อยนาง”
    “แล้วเจ้าจะยอมทำตามข้าทุกอย่าง” เจ้าชายทรงพูด เมลฟิซพยักหน้า กาเบรียลมองเมลฟิซน้ำตาไหลพราก เฟรย์ปล่อยเธอ กาเบรียลวิ่งเข้ามาหาเมลฟิซ เธอกอดเค้าแล้วร้องไห้ออกมาพร้อมๆ กับพูดกับเมลฟิซ
    “ขอโทษเมลฟิซ ฉันขอโทษ คุณไม่น่าไปรับปากเช่นนั้นเลย มันเป็นความผิดของฉันแท้ๆ” กาเบรียลพูดเสียงเครือ เมลฟิซมองเธอเค้าอยากจะกอดปลอบใจเธอ แต่ทว่าเค้าถูกจับตัวอยู่เค้าจึงทำได้เพียงแค่พูดกับเธอเท่านั้น
    “ไม่เป็นไร ข้าบอกแล้วว่าจะปกป้องเจ้า ข้าไม่เป็นอะไรหรอกกาเบรียล ไม่ต้องกลัว” เมลฟิซพูดจบเฟรย์ก็มาดึงกาเบรียลออกไปจากเมลฟิซ
    “ไปกันได้แล้ว” เจ้าชายทรงรับสั่งพวกทหารพาตัวเมลฟิซไป กาเบรียลจึงตัดสินใจตะโกนขึ้น
    “พาฉันไปด้วย ฉันจะไปกับเมลฟิซ” เจ้าชายหันมามองแล้วยิ้ม เค้าเดินกลับมาแล้วแบกเธอขึ้นไปบนหลังม้าอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนัก เมื่อมาถึงพระราชวัง เจ้าชายก็ทรงแยกเมลฟิซไปขังไว้อีกห้อง กาเบรียลจะเดินตามไปแต่ทว่าเค้ากลับดึงมือเธอไว้ แล้วพาไปขังเอาไว้ในห้องๆ หนึ่ง ที่ทั้งมืด และมีกลิ่นอับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น