ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เจ้าชายแห่งแอสแลนติส
    เธอวิ่งออกจากห้องมาจนถึงสวนแห่งหนึ่ง เธอนั่งลงบนขอบน้ำพุในสวนนั่นเอง เธอนั่งหอบอยู่พักหนึ่ง เพราะที่นี่กว้างจริงๆ กาเบรียลถอนหายใจ เธออยากกลับไปที่บ้าน เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมอะไรๆ มันถึงดูยุ่งไปหมดนะ ไม่นานนักเธอก็ได้ยินเสียงคนพูดกัน
    “น่าขำชะมัด เฟรย์ ข้าเจอผู้หญิงแต่งตัวประหลาดๆ ด้วย เจ้าน่าจะเห็นเธอนะ” เสียงผู้ชายดังขึ้นมา กาเบรียลทราบทันทีว่าเป็นเธอ แต่เธอก็นั่งฟังต่อไป
    “ทำไมหรือพะยะค่ะ” เสียงชายหนุ่มอีกคนถาม เสียงผู้ชายคนแรกหัวเราะอย่างขบขัน
    “แต่งตัวยังกะจะไปเล่นละครตลกที่ไหน เจ้าคิดดูนะใส่กระโปรงสั้น เสื้อก็แขนยาว ใส่รองเท้ายาวถึงเข่าเลย แต่งตัวได้ประหลาดดีแท้” แล้วเสียงนั้นก็หัวเราะประสานกัน กาเบรียลได้ฟังก็เดินออกไปและพบเข้ากับผู้ชายสองคน คนหนึ่งเธอจำได้ว่าเคยเจอที่ในห้องท้องพระโรง แต่อีกคนคงจะเป็นเพื่อน กาเบรียลยืนเท้าเอวมองเค้าสองคน พวกเค้าตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ก็มีคนพุ่งพรวดออกมาจากต้นไม้
    “คะ คนนี้หรือพะยะค่ะ” ชายคนที่เค้าเรียกว่าเฟรย์เอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วชายหนุ่มอีกคนก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
    “ไม่ต้องพูดเบาขนาดนั้นก็ได้” เค้าพูดแล้วหันมามองกาเบรียล
    “ไม่เห็นจะตลกเลยองค์ชาย” เฟรย์พูดเบาๆ รู้สึกว่าเค้าจะหน้าสีเข้มขึ้นด้วย
    “พวกคุณเป็นใครน่ะ” กาเบรียลถาม ด้วยสำเนียงอันแปร่งๆ ของเธอ แต่พวกเค้าก็พอจะฟังออก ชายคนที่ดูจะมีฐานะดีกว่าขมวดคิ้วทันที
    “เจ้านี่บังอาจนัก ข้าคือองค์ชายแห่งแอตแลนติส” เค้าพูดท่าทางโอหัง แต่ทว่ากาเบรียลมิได้กลัวเค้าแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะเค้าอายุใกล้เคียงกับเธอก็เป็นได้ แต่ทว่าเธอก็ก้มหัวให้เค้าหน่อยหนึ่ง
    “อ้อ! งั้นหรือเพคะองค์ชาย” กาเบรียลตัดบทแล้วเดินจากไปก่อนที่จะเกิดเรื่องยุ่งไปกว่านี้ แต่ทว่ามันกลับไปกวนโทสะองค์ชายเข้า เค้าถือว่าเป็นการดูหมิ่นเค้าอย่างแรงทีเดียว เค้าเดินมากระชากเสื้อกาเบรียลจนแทบจะขาด
    “เจ้าเป็นใคร ชื่ออะไร” ดวงตาของเค้าฉายแววโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด กาเบรียลตะลึงด้วยความตกใจ เค้าดึงเสื้อเธอขึ้นจนขาเธอได้แค่แตะพื้นเท่านั้น
    “กะ กาเบรียล” เธอพูดไม่เต็มเสียง องค์ชายผลักเธอลงไปนั่งบนพื้นหญ้าอย่างไม่ใยดี แว่นตาของกาเบรียลหลุดลงมาอยู่ที่ปลายจมูกโด่ง เธอมองตามเค้าไป ใจเต้นแรงด้วยความตกใจ เค้าแรงเยอะจริงๆ แล้วเมลฟิซก็วิ่งเข้ามาหาเธอ
    “กาเบรียล เป็นอะไรรึเปล่า” เมลฟิซเข้ามาประคองกาเบรียลให้ลุกขึ้นยืน เธอหันไปมองพ่อของเธอ
    “องค์หญิงล่ะ” เธอถามเสียงเบา เมลฟิซส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ
    “กลับไปแล้วล่ะ ท่าทางโกรธเจ้ามากเลยทีเดียว” เมลฟิซบอกกาเบรียล “ทำไมถึงชอบไปมีเรื่องกับคนพวกนั้นนะกาเบรียล” เมลฟิซถอนหายใจ กาเบรียลหัวเราะคิก
    “แหม! ก็ไม่รู้นี่นา ท่าทางวางโตแบบนั้นเห็นแล้วมันหมั่นไส้นี่” เมลฟิซเห็นกาเบรียลหัวเราะเค้าจึงหัวเราะด้วยอีกคน กาเบรียลนี่ช่างไม่กลัวอะไรเลยจริงๆ
    กาเบรียลตื่นเช้ากว่าปกติ เธอออกมาสูดอากาศด้านนอก ที่นี่อากาศดีจริงๆ เธอชักอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วสิ กาบรียลยังคงสวมชุดเดิมอยู่ เธอเดินไปปลุกเมลฟิซ
    “เมลฟิซ ตื่นๆ เมลฟิซ” กาเบรียลเรียกเมลฟิซอยู่ที่หน้าประตู แต่ไม่มีคนมาเปิดซักที เธอจึงเปิดประตูเข้าไป ข้างในเป็นห้องที่แต่งได้งดงามจริงๆ เธอเห็นรูปวาดของหญิงสาวคนหนึ่งงดงามมาก มากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา รู้สึกหน้าจะละม้ายเธอเหมือนกันนะถ้ามองดีๆ กาเบรียลเดินไปที่เตียงแล้วเรียก “เมลฟิซๆ” เค้ายังไม่ยอมตื่น เมลฟิซพลิกตัวมาแล้วดึงกาเบรียลเข้ามากอด กาเบรียลตกใจมาก เมลฟิซกอดเธอแน่น เธอเห็นเค้าร้องไห้ กาเบรียลแกะมือเค้าออกเบาๆ เธอเช็ดน้ำตาให้เมลฟิซเหมือนที่เค้าเคยทำให้เธอ
    “ซินเทียร์...” เมลฟิซพึมพำ กาเบรียลทราบได้ทันทีว่านี่คือชื่อของแม่เธอ เธอแทบจะร้องตามเมลฟิซด้วยความสงสาร “อย่าทิ้งข้าไปนะ ซินเทียร์” เค้าพึมพำอีก
    “เมลฟิซซซซ” กาเบรียลตะโกนใส่หูเมลฟิซ เค้าสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ และเห็นกาบรียลนั่งยิ้มอยู่ข้างๆ เมลฟิซมองเธองงๆ แล้วยิ้มตอบ “เคาะแล้วนะ เห็นไม่ตื่นซักทีเลยเข้ามาปลุก” กาเบรียลพูดแก้ตัว เมลฟิซหัวเราะเบาๆ เค้าตกใจมากทีเดียว กาเบรียลเหมือนซินเทียร์มากๆ ทั้งนิสัยและหน้าตา
    “ไม่เป็นไร ทำไมหรือกาเบรียล” เมลฟิซถาม กาเบรียลเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอมาปลุกเมลฟิซด้วยเรื่องอะไรเธอจึงรีบพูดทันที
    “อยากออกไปข้างนอก พาฉันไปได้มั้ย” กาเบรียลพูดแถมยังส่งสายตาอ้อนวอนให้เมลฟิซอีก แล้วอย่างเมลฟิซหรือจะกล้าขัดใจเธอ เค้าพยักหน้า กาเบรียลยิ้มอย่างดีใจ แล้วเธอก็วิ่งออกไปนอกห้องทันที เมลฟิซมองตามแล้วหัวเราะเบาๆ
    “นี่จะไปชุดนี้จริงๆ นะหรือ” เมลฟิซถามกาเบรียล เธอพยักหน้าเป็นคำตอบ เค้าทำสีหน้าหนักใจมากแต่เค้าก็ไม่พูดอะไรอีก
    “งั้นเข้าไปซื้อชุดใหม่ได้มั้ย” กาเบรียลถาม เธอเองก็ไม่อยากให้เค้าหนักใจเรื่องของเธอ เพราะเมลฟิซเองก็ดูจะมีเรื่องหนักใจมากพออยู่แล้ว เค้าหันมายิ้มแล้วพยักหน้า เมลฟิซพาเธอเข้าไปยังร้านขายผ้า กาเบรียลเลือกชุดที่เธอว่าสวยที่สุดออกมาใส่ แต่พอเดินออกมา เมลฟิซถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เธอเดินปึงปังไปหาชุดใหม่ที่ดูจะรุ่มร่ามมากๆ เหมือนชุดกับที่พวกอียิปต์โบราณเค้าใส่กัน เธอเดินออกมาอีกคราวนี้เมลฟิซไม่หัวเราะแล้ว ทีแรกเธอคิดว่ามันจะรุ่มร่ามน่ารำคาญเสียอีก แต่พอใส่แล้วก็เย็นสบายดี เสียแต่ว่าชุดมันบางเหลือเกิน กาเบรียลเดินไปหาเมลฟิซ
    “สวยดี อยากได้ชุดนี้หรือ” เค้าออกปากชมเธอ
    “ชมตามมารยาทฉันไม่ดีใจหรอกนะ” กาเบรียลพูดแล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่มีชุดที่มันหนากว่านี้หรือ คือผ้ามันบางจัง” เธอพูดแล้วหน้าเป็นสีระเรื่อขึ้น เมลฟิซมองเธอแล้วหน้าแดงไปอีกคน เค้าจึงเดินไปเลือกชุดมาให้เธอ เป็นชุดแบบที่ซินเทียร์ชอบใส่ กาเบรียลเห็นแล้วนึกชอบมันขึ้นมาทันที เธอเข้าไปลองแล้วเดินออกมาอีกครั้ง เมลฟิซมองเธอ เธอช่างเหมือนซินเทียร์จริงๆ กาบรียลได้ชุดมาแล้ว เมลฟิซจึงไปจ่ายเงิน กาเบรียลมองตาโตทีเดียว เงินที่เค้าจ่ายเป็นทองคำ เธอสะกิดเมลฟิซแล้วพูดเบาๆ
    “มันแพงขนาดนั้นเชียวหรือ” เมลฟิซหัวเราะ กาเบรียลมองเค้างงๆ
    “เปล่าหรอก นี่คือเหรียญที่เราใช้กัน เหมือนเงินของพวกเจ้านั่นแหละ” เมลฟิซตอบ กาเบรียลตาโตอีก
    “ทะทองเนี่ยนะ” กาเบรียลกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เมลฟิซอมยิ้มด้วยความขบขันตลอดทาง เค้าเห็นกาเบรียลมองข้าวของที่ขายกัน อย่างกับเป็นของแปลกประหลาด ยานที่บินอยู่บนท้องฟ้าจนแทบจะชนกัน กาเบรียลขึ้นไปนั่งด้วยท่าทางที่ดูจะตื่นเต้นมากแม้ขามาเธอก็เพิ่งจะนั่งไปแท้ๆ เธอนั่งจ้องแผงควบคุม ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากจะเป็นแท่งแก้วสีอำพันที่เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนยานก็เท่านั้นที่เหลือก็แล้วแต่ความสามารถในการขับยานของแต่ละคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น