ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สู่ทวีปที่สาบสูญ
                                               
                                            ข่าวด่วน! นักศึกษามหาลัยได้หายตัวไป!!!!
    เมื่อวันที่ xxเดือน xx ค.ศ. xxxx นักศึกษาสาวชื่อว่า กาเบรียล ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากคำให้การของเพื่อนร่วมคณะ บอกกับนักข่าวว่า ผมเจอกาเบรียลครั้งสุดท้ายตอน 6 โมงครับ ผมจะไปส่งเธอที่บ้าน แต่ว่าเธอไม่ยอม ผมเห็นเธอเดินไปทางหอพักของนักศึกษา ผมไม่น่าปล่อยเธอให้เดินไปคนเดียวเลย อีกรายหนึ่ง กาเบรียลมาที่ห้องของฉันจริงๆ ค่ะ แต่ว่าเธอเดินออกไปตอนราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาทางฉันอีกเลยค่ะ แต่นักศึกษาอีกคนหนึ่งได้ให้การว่า ผมว่าจะต้องเป็นการลักพาตัวแน่ๆ ก่อนหน้านี้เธอทะเลาะกับแฟนด้วยเป็นไปได้ว่าพวกเค้าจะร่วมมือกันวางแผนบ้าๆ นี่ขึ้น  แต่เหตุการณ์จริงจะเป็นอย่างไรตอนนี้ตำรวจกำลังหาเบาะแสเพิ่มเติมอยู่
    ท่ามกลางมหาวิหารอันใหญ่โตภายในพระราชวัง มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่ เธอแต่งตัวในชุดประหลาด เธอค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นด้วยความมึนงง เธอนั่งแล้วสะบัดหัวไล่ความมึนงงนั้น เธอรู้สึกว่าหัวตื้อๆ เหมือนกับไปกระแทกอะไรแข็งๆ เข้า หญิงสาวค่อยๆ ลืมตา แล้วมองรอบๆ ตัว นี่เธออยู่ที่ไหนกันเนี่ย ที่นี่เหมือนกับวิหารในยุคโบราณ ที่ผนังจารึกเป็นสัญลักษณ์ที่เธอเคยอ่านในหนังสือ เมื่อไม่นานมานี่เอง เธอมาที่นี่ได้อย่างไร เธอนั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอถูกดูดเข้ามาในหนังสือ
    “ที่นี่ที่ไหนกันแน่” กาเบรียลเดินออกจากมหาวิหาร เธอเดินมาตามทางที่มีพรมทอดยาว ผนังรอบๆ มีรูปต่างๆ วาดไว้อย่างงดงาม กาเบรียลเดินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องโถงแห่งหนึ่ง เป็นที่โล่งกว้าง มีเก้าอี้เต็มไปหมด ตรงกลางห้องมีเก้าอี้ที่อยู่สูงกว่าเพื่อนอยู่สามตัว เธอตะลึงมองในความงดงามของมัน ทุกๆ อย่างในห้องนี้แม้จะไม่ได้เป็นทองคำ แต่ทว่าเป็นโลหะบางอย่างที่เป็นสีเงิน เธอเดินขึ้นไปยังเก้าอี้ตัวที่อยู่สูงที่สุดในห้อง เธอลูบมันด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทีเดียว เธอมองห้องนั้นจากจุดที่อยู่สูงที่สุดในห้อง พบว่ามันเหมือนกับท้องพระโรง แล้วจู่ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาจากที่ใดก็ไม่ทราบ แต่งชุดแปลกๆ คล้ายกับพวกชาวอียิปต์โบราณ เค้าวิ่งตรงมาหาเธอ แล้วจับตัวเธอไว้ พวกเค้าพูดภาษาแปลกๆ ซึ่งเธอจำได้ทันทีว่านั่นคือภาษาโบราณ แต่เธอฟังไม่ทัน พวกเค้าพูดเร็วเกินไป
    “ปล่อยฉันนะ” กาเบรียลพูดพร้อมกับดิ้นให้หลุดจากการจับกุม แต่พวกเค้าไม่ยอมปล่อยเธอ แล้วจู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอร้องขอความช่วยเหลือทันที “ช่วยฉันด้วย พวกเค้าจับตัวฉัน” กาเบรียลพูดภาษาอังกฤษออกมา ชายหนุ่มเดินมาแล้วชักดาบออกมาจ่อคอเธอ
    “ԭXllɉ llX�Ŧ�͚” ชายหนุ่มพูด กาเบรียลหยุดพูดทันที เค้าเป็นพวกเดียวกับคนที่จับตัวเธอ เค้าพูดกับเธออีก “ᇙᕒᇊ�☼͍7ĉ” หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
    “ฉันฟังไม่ออก” กาเบรียลพูดเป็นภาษาของพวกเค้าตามที่เธอพอจะจำได้ ชายหนุ่มมองเธอ แล้วเค้าก็ตวาดใส่เธอเสียงดัง
    “͖ἐ#œ ፥ƥᇙⅈ♿○ᕺXX∟ll8Ȏ” กาเบรียลสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอพอจะจับใจความได้ว่าขังๆ ห้อง อะไรนี่แหละ แล้วผู้ที่จับตัวเธอไว้ก็พาเธอไป เธอหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่อ้อนวอน เค้ายืนกอดอกยิ้มให้เธอกวนๆ แต่ทว่าดูมีเสน่ห์มากทีเดียว พวกเค้าใช้ผ้าปิดตาเธอแล้วพาเธอไป ระหว่างทางเค้าก็พูดกับคนคนหนึ่ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่เสียงของเค้าอ่อนโยนน่าฟังยิ่งนัก 
    กาเบรียลถูกพาตัวมายังห้อง ห้องหนึ่งเหมือนกับห้องนอน พวกเค้าผลักกาเบรียลเข้ามาในห้องแล้วล็อกประตูไว้จากด้านนอก เธอทุบประตูปึงปัง จนกระทั่งเจ็บมือ เธอจึงมานั่งบนเตียงด้วยความงง เธอครุ่นคิดเรื่องที่ผ่านมา เหมือนกับฝัน เหตุการณ์ประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอมันคืออะไรกันแน่ กาเบรียลรู้สึกกลัวขึ้นมา เธอคิดเพียงแต่ว่าจะต้องหนีไปจากที่แห่งนี้ เธอเห็นประตูที่เปิดกว้าง มีระเบียงเธอเดินไปและชะโงกหน้าก้มดู เธอรู้สึกโหวงในช่องท้องทันที ภายนอกนั้นเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เหมือนกับตึกสูงมากทีเดียว มีวัตถุบางอย่างลอยอยู่บนฟ้า มันเหมือนกับว่าจะเป็นนกตัวใหญ่ๆ กำลังบิน แต่หากมองดีๆ มันกลับไม่ใช่มันเป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่บินได้ เธอมองด้วยความตกตะลึง เธอหยิกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่านี่เป็นเพียงความฝัน ไม่ใช่ความจริง เธออยากให้เป็นอย่างนั้น แต่แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บ    
   
    “ที่นี่! ที่ไหนกัน” กาเบรียลพูดพึมพำ แล้วเธอก็หันไปเห็นสิ่งปลูกสร้างที่เหมือนกับพีรามิด แต่มันเป็นสีเงินแวววาว แทนที่จะเป็นหินเหมือนที่เธอเคยเห็น เธอหมดความหวังที่จะหนีไปจากที่นี่ ขืนเธอออกไปมีหวังได้ตายแน่ๆ กาเบรียลเดินกลับไปแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงอันแสนจะนุ่ม และอบอุ่น เธอได้กลิ่นหอมของผู้เป็นเจ้าของห้องเธอจำได้ว่าเธอเคยได้กลิ่นมัน มันทำให้เธอผ่อนคลาย แล้วเธอก็หลับไปในไม่ช้า
    กาเบรียลเดินไปตามทางเดินมืดๆ แล้วเธอก็พบเรย์ เธอดีใจมาก เธอวิ่งไปหาเค้า แต่ทว่าข้างๆ เค้ากลับมีมิโคโตะอยู่เคียงข้าง กาเบรียลมองคนทั้งคู่ เธอหยุดวิ่งแล้วโบกมือให้พวกเค้า ทั้งสองคนเดินจากเธอไป กาเบรียลวิ่งตามพวกเค้าไป แต่เธอตามไปไม่ทัน เธอเรียกพวกเค้าน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม พวกเค้าหันมามองแล้วโบกมือให้กับกาเบรียลอีกครั้ง กาเบรียลทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วเรียกพวกเค้าจนสุดเสียง
    “กาเบรียล” มีเสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้น ทำให้เธอตื่นจากฝันอันโหดร้าย กาเบรียลลืมตาขึ้นทั้งๆ ที่น้ำตายังคงไหลลงมาอาบแก้มอันขาวเนียนของเธอ เธอหันไปเห็นชายหนุ่มซึ่งเธอจำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นในห้องสมุดแต่เค้าดูหนุ่มกว่ามากทีเดียว เค้าใช้มือเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา กาเบรียลลุกขึ้นทันที เธอปัดมือเค้าแล้วเขยิบออกห่างจากเค้า ชายหนุ่มมองเธอแล้วถอนหายใจ
    “ที่นี่ที่ไหน คุณเป็นใคร” เธอถามชายหนุ่มทันที กาเบรียลมองเค้าด้วยสายตาหวาดระแวง
    “กาเบรียล ที่นี่คือแอตแลนติส” ชายหนุ่มบอกกาเบรียลเสียงอ่อนโยน “ที่นี่ไม่มีใครฟังภาษาคุณออกหรอกนะ” เค้าบอกกาเบรียลอีก เธอนั่งนิ่งด้วยความช็อกกับสิ่งที่เธอได้ยิน ที่นี่คือแอตแลนติส เป็นไปได้อย่างไร มันจะเป็นไปได้อย่างไร
    “มะไม่จริงน่า แอตแลนติส” กาเบรียลพูดพึมพำแต่ทว่าเธอจำเป็นต้องเชื่อ เธอไม่มีทางเลือกเพราะเธอเองก็เพิ่งเจออะไรไม่คาดคิดมาแล้ว “คุณช่วยพาฉันกลับไปหน่อยสิ ได้โปรด” กาเบรียลพูดวิงวอนชายหนุ่ม
    “ผมทำไม่ได้ ประตูผ่านมิติจะเปิดอีกครั้งหนึ่งก็...” เค้าหยุดพูด กาเบรียลถอนหายใจ แล้วส่ายหน้าช้าๆ
    “สรุปว่าคุณไม่สามารถพาฉันกลับไปได้ใช่มั้ย” กาเบรียลสรุป เค้าพยักหน้า “แล้วคุณเป็นใคร” กาเบรียลถามชายหนุ่ม เค้าอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วหันไปมองหน้าเธอตรงๆ
    “คุณคงไม่อยากเชื่อ ผมเป็นพ่อของคุณ” ชายหนุ่มพูด กาเบรียลมองเค้าตาโต แล้วเธอก็หัวเราะ จะเป็นไปได้อย่างไรพ่อของเธออยู่ที่บ้านนี่นา แล้วเค้าก็ยังหนุ่มขนาดนี้ด้วย
    “อย่าโกหกฉันเลยน่า มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย” กาเบรียลบอกเค้า ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของเธอส่ายหน้าช้าๆ เค้านึกอยู่แล้วว่ากาเบรียลจะต้องไม่เชื่อ
    “เอาเถอะถึงเจ้าจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร” เค้าพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน กาเบรียลมองเค้าอยู่นาน เธอก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่าในครอบครัวของเธอ หน้าตา สีผิวของเธอไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ในครอบครัวเลย ถ้าจะมองจริงๆ เธอมีส่วนที่คล้ายเค้าอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ถ้าเค้าเป็นพ่อของเธอจริง ทำไมเค้าไม่อยู่กับเธอล่ะ แล้วเค้าก็ยังดูไม่แก่เลยนี่นา กาเบรียลคิดแล้วก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
    “ถ้าคุณเป็นพ่อของฉันจริง ทำไมถึงไม่อยู่กับฉันล่ะ ทำไมถึงทิ้งฉันไป” กาเบรียลพูดออกมาด้วยความโมโห ผู้เป็นพ่อมองเธอด้วยแววตาที่เจ็บปวด
    “ที่นี่กำลังจะจมลงแม่ของเจ้าบอกข้าเช่นนั้น เธอตายหลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอให้ข้าพาเจ้าข้ามมิติไปยังอนาคต ซึ่งก็คือโลกที่เจ้าอยู่นั่นแหละ จนกระทั่งเจ้ากลับมา เจ้าคงจะสงสัยสินะว่าทำไมข้าถึงยังไม่แก่ เพราะเจ้าข้ามอดีตมาผิดช่วงเวลา แม่เจ้าเพิ่งจะตายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง กาเบรียลมองเค้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย เธอสงสารเค้า แต่เธอก็ยังไม่สามารถเชื่อเค้าได้อย่างสนิทใจ
    “พ่อ” กาเบรียลเรียกเค้า ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมามองกาเบรียลด้วยความแปลกใจ กาเบรียลถึงกับหน้าแดง เพราะเธอกำลังเรียกชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปีว่า พ่อ เค้ายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
    “เมลฟิซ เมลฟิซ” เสียงผู้หญิงดังขึ้นที่หน้าห้องที่กาเบรียลอบยู่ พ่อของเธอเดินไปเปิดประตู พบกับหญิงสาวผมหยิกยาวเป็นลอน สวมชุดที่ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกผู้ดี หน้าตาสวยใช้ได้เลยทีเดียว พ่อของเธอคงจะชื่อเมลฟิซสินะ หญิงสาวคนนั้นมองเข้ามาในห้องแล้วสบตาเข้ากับเธอ กาเบรียลเห็นเธอทำหน้าไม่พอใจ แล้วทำท่าจะเดินเข้ามาหาเธอ แต่ทว่าเมลฟิซ ซึ่งก็คือพ่อของเธอขวางไว้
    “อย่านะองค์หญิง” เมลฟิซพูด หญิงสาวที่มาหาพ่อเธอคือองค์หญิงเหรอ แล้วองค์หญิงมาที่ห้องของพ่อเธอทำไม กาเบรียลจ้องตาเธอกลับ เธอไม่ทราบว่าทำไม แต่เธอไม่ค่อยถูกชะตากับเจ้าหญิงองค์นี้เลย
    “ออกไปนะเมลฟิซ อย่ามาขวางฉัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” กาเบรียลฟังองค์หญิงพูดก็พอจะจับใจความได้บ้างแล้ว เธอจึงตอบกลับไปเป็นภาษาเดียวกัน
    “เมลฟิซ ผู้หญิงคนนั้นใคร” กาเบรียลเลือกที่จะเรียกชื่อของเค้า แทนคำว่าพ่อ เพราะไม่มีใครเชื่อเธอแน่ เมลฟิซหันมามองเธอด้วยความแปลกใจ เค้าขยับปากพูดกับเธอราวกับจะบอกให้เธอเงียบลง แต่ไม่มีวันซะล่ะ เธอไม่ถูกชะตากับองค์หญิงองค์นี้ซะแล้ว
    “เมลฟิซ” องค์หญิงผลักเมลฟิซออกไป แล้วเข้ามาตบหน้ากาเบรียลอย่างแรง กาเบรียลงงไปครู่หนึ่ง เธอวิ่งไปหลบข้างหลังเมลฟิซ เค้าเองก็ปกป้องเธอจากองค์หญิงอย่างสุดความสามารถ เค้าบอกให้เธอวิ่งไปที่อื่นก่อน กาเบรียลเองก็ไม่รอช้าเธอวิ่งไปตามคำสั่งทันที
                                            ข่าวด่วน! นักศึกษามหาลัยได้หายตัวไป!!!!
    เมื่อวันที่ xxเดือน xx ค.ศ. xxxx นักศึกษาสาวชื่อว่า กาเบรียล ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากคำให้การของเพื่อนร่วมคณะ บอกกับนักข่าวว่า ผมเจอกาเบรียลครั้งสุดท้ายตอน 6 โมงครับ ผมจะไปส่งเธอที่บ้าน แต่ว่าเธอไม่ยอม ผมเห็นเธอเดินไปทางหอพักของนักศึกษา ผมไม่น่าปล่อยเธอให้เดินไปคนเดียวเลย อีกรายหนึ่ง กาเบรียลมาที่ห้องของฉันจริงๆ ค่ะ แต่ว่าเธอเดินออกไปตอนราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาทางฉันอีกเลยค่ะ แต่นักศึกษาอีกคนหนึ่งได้ให้การว่า ผมว่าจะต้องเป็นการลักพาตัวแน่ๆ ก่อนหน้านี้เธอทะเลาะกับแฟนด้วยเป็นไปได้ว่าพวกเค้าจะร่วมมือกันวางแผนบ้าๆ นี่ขึ้น  แต่เหตุการณ์จริงจะเป็นอย่างไรตอนนี้ตำรวจกำลังหาเบาะแสเพิ่มเติมอยู่
    ท่ามกลางมหาวิหารอันใหญ่โตภายในพระราชวัง มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่ เธอแต่งตัวในชุดประหลาด เธอค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นด้วยความมึนงง เธอนั่งแล้วสะบัดหัวไล่ความมึนงงนั้น เธอรู้สึกว่าหัวตื้อๆ เหมือนกับไปกระแทกอะไรแข็งๆ เข้า หญิงสาวค่อยๆ ลืมตา แล้วมองรอบๆ ตัว นี่เธออยู่ที่ไหนกันเนี่ย ที่นี่เหมือนกับวิหารในยุคโบราณ ที่ผนังจารึกเป็นสัญลักษณ์ที่เธอเคยอ่านในหนังสือ เมื่อไม่นานมานี่เอง เธอมาที่นี่ได้อย่างไร เธอนั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอถูกดูดเข้ามาในหนังสือ
    “ที่นี่ที่ไหนกันแน่” กาเบรียลเดินออกจากมหาวิหาร เธอเดินมาตามทางที่มีพรมทอดยาว ผนังรอบๆ มีรูปต่างๆ วาดไว้อย่างงดงาม กาเบรียลเดินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องโถงแห่งหนึ่ง เป็นที่โล่งกว้าง มีเก้าอี้เต็มไปหมด ตรงกลางห้องมีเก้าอี้ที่อยู่สูงกว่าเพื่อนอยู่สามตัว เธอตะลึงมองในความงดงามของมัน ทุกๆ อย่างในห้องนี้แม้จะไม่ได้เป็นทองคำ แต่ทว่าเป็นโลหะบางอย่างที่เป็นสีเงิน เธอเดินขึ้นไปยังเก้าอี้ตัวที่อยู่สูงที่สุดในห้อง เธอลูบมันด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทีเดียว เธอมองห้องนั้นจากจุดที่อยู่สูงที่สุดในห้อง พบว่ามันเหมือนกับท้องพระโรง แล้วจู่ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาจากที่ใดก็ไม่ทราบ แต่งชุดแปลกๆ คล้ายกับพวกชาวอียิปต์โบราณ เค้าวิ่งตรงมาหาเธอ แล้วจับตัวเธอไว้ พวกเค้าพูดภาษาแปลกๆ ซึ่งเธอจำได้ทันทีว่านั่นคือภาษาโบราณ แต่เธอฟังไม่ทัน พวกเค้าพูดเร็วเกินไป
    “ปล่อยฉันนะ” กาเบรียลพูดพร้อมกับดิ้นให้หลุดจากการจับกุม แต่พวกเค้าไม่ยอมปล่อยเธอ แล้วจู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอร้องขอความช่วยเหลือทันที “ช่วยฉันด้วย พวกเค้าจับตัวฉัน” กาเบรียลพูดภาษาอังกฤษออกมา ชายหนุ่มเดินมาแล้วชักดาบออกมาจ่อคอเธอ
    “ԭXllɉ llX�Ŧ�͚” ชายหนุ่มพูด กาเบรียลหยุดพูดทันที เค้าเป็นพวกเดียวกับคนที่จับตัวเธอ เค้าพูดกับเธออีก “ᇙᕒᇊ�☼͍7ĉ” หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
    “ฉันฟังไม่ออก” กาเบรียลพูดเป็นภาษาของพวกเค้าตามที่เธอพอจะจำได้ ชายหนุ่มมองเธอ แล้วเค้าก็ตวาดใส่เธอเสียงดัง
    “͖ἐ#œ ፥ƥᇙⅈ♿○ᕺXX∟ll8Ȏ” กาเบรียลสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอพอจะจับใจความได้ว่าขังๆ ห้อง อะไรนี่แหละ แล้วผู้ที่จับตัวเธอไว้ก็พาเธอไป เธอหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่อ้อนวอน เค้ายืนกอดอกยิ้มให้เธอกวนๆ แต่ทว่าดูมีเสน่ห์มากทีเดียว พวกเค้าใช้ผ้าปิดตาเธอแล้วพาเธอไป ระหว่างทางเค้าก็พูดกับคนคนหนึ่ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่เสียงของเค้าอ่อนโยนน่าฟังยิ่งนัก 
    กาเบรียลถูกพาตัวมายังห้อง ห้องหนึ่งเหมือนกับห้องนอน พวกเค้าผลักกาเบรียลเข้ามาในห้องแล้วล็อกประตูไว้จากด้านนอก เธอทุบประตูปึงปัง จนกระทั่งเจ็บมือ เธอจึงมานั่งบนเตียงด้วยความงง เธอครุ่นคิดเรื่องที่ผ่านมา เหมือนกับฝัน เหตุการณ์ประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอมันคืออะไรกันแน่ กาเบรียลรู้สึกกลัวขึ้นมา เธอคิดเพียงแต่ว่าจะต้องหนีไปจากที่แห่งนี้ เธอเห็นประตูที่เปิดกว้าง มีระเบียงเธอเดินไปและชะโงกหน้าก้มดู เธอรู้สึกโหวงในช่องท้องทันที ภายนอกนั้นเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เหมือนกับตึกสูงมากทีเดียว มีวัตถุบางอย่างลอยอยู่บนฟ้า มันเหมือนกับว่าจะเป็นนกตัวใหญ่ๆ กำลังบิน แต่หากมองดีๆ มันกลับไม่ใช่มันเป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่บินได้ เธอมองด้วยความตกตะลึง เธอหยิกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่านี่เป็นเพียงความฝัน ไม่ใช่ความจริง เธออยากให้เป็นอย่างนั้น แต่แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บ    
   
    “ที่นี่! ที่ไหนกัน” กาเบรียลพูดพึมพำ แล้วเธอก็หันไปเห็นสิ่งปลูกสร้างที่เหมือนกับพีรามิด แต่มันเป็นสีเงินแวววาว แทนที่จะเป็นหินเหมือนที่เธอเคยเห็น เธอหมดความหวังที่จะหนีไปจากที่นี่ ขืนเธอออกไปมีหวังได้ตายแน่ๆ กาเบรียลเดินกลับไปแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงอันแสนจะนุ่ม และอบอุ่น เธอได้กลิ่นหอมของผู้เป็นเจ้าของห้องเธอจำได้ว่าเธอเคยได้กลิ่นมัน มันทำให้เธอผ่อนคลาย แล้วเธอก็หลับไปในไม่ช้า
    กาเบรียลเดินไปตามทางเดินมืดๆ แล้วเธอก็พบเรย์ เธอดีใจมาก เธอวิ่งไปหาเค้า แต่ทว่าข้างๆ เค้ากลับมีมิโคโตะอยู่เคียงข้าง กาเบรียลมองคนทั้งคู่ เธอหยุดวิ่งแล้วโบกมือให้พวกเค้า ทั้งสองคนเดินจากเธอไป กาเบรียลวิ่งตามพวกเค้าไป แต่เธอตามไปไม่ทัน เธอเรียกพวกเค้าน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม พวกเค้าหันมามองแล้วโบกมือให้กับกาเบรียลอีกครั้ง กาเบรียลทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วเรียกพวกเค้าจนสุดเสียง
    “กาเบรียล” มีเสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้น ทำให้เธอตื่นจากฝันอันโหดร้าย กาเบรียลลืมตาขึ้นทั้งๆ ที่น้ำตายังคงไหลลงมาอาบแก้มอันขาวเนียนของเธอ เธอหันไปเห็นชายหนุ่มซึ่งเธอจำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นในห้องสมุดแต่เค้าดูหนุ่มกว่ามากทีเดียว เค้าใช้มือเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา กาเบรียลลุกขึ้นทันที เธอปัดมือเค้าแล้วเขยิบออกห่างจากเค้า ชายหนุ่มมองเธอแล้วถอนหายใจ
    “ที่นี่ที่ไหน คุณเป็นใคร” เธอถามชายหนุ่มทันที กาเบรียลมองเค้าด้วยสายตาหวาดระแวง
    “กาเบรียล ที่นี่คือแอตแลนติส” ชายหนุ่มบอกกาเบรียลเสียงอ่อนโยน “ที่นี่ไม่มีใครฟังภาษาคุณออกหรอกนะ” เค้าบอกกาเบรียลอีก เธอนั่งนิ่งด้วยความช็อกกับสิ่งที่เธอได้ยิน ที่นี่คือแอตแลนติส เป็นไปได้อย่างไร มันจะเป็นไปได้อย่างไร
    “มะไม่จริงน่า แอตแลนติส” กาเบรียลพูดพึมพำแต่ทว่าเธอจำเป็นต้องเชื่อ เธอไม่มีทางเลือกเพราะเธอเองก็เพิ่งเจออะไรไม่คาดคิดมาแล้ว “คุณช่วยพาฉันกลับไปหน่อยสิ ได้โปรด” กาเบรียลพูดวิงวอนชายหนุ่ม
    “ผมทำไม่ได้ ประตูผ่านมิติจะเปิดอีกครั้งหนึ่งก็...” เค้าหยุดพูด กาเบรียลถอนหายใจ แล้วส่ายหน้าช้าๆ
    “สรุปว่าคุณไม่สามารถพาฉันกลับไปได้ใช่มั้ย” กาเบรียลสรุป เค้าพยักหน้า “แล้วคุณเป็นใคร” กาเบรียลถามชายหนุ่ม เค้าอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วหันไปมองหน้าเธอตรงๆ
    “คุณคงไม่อยากเชื่อ ผมเป็นพ่อของคุณ” ชายหนุ่มพูด กาเบรียลมองเค้าตาโต แล้วเธอก็หัวเราะ จะเป็นไปได้อย่างไรพ่อของเธออยู่ที่บ้านนี่นา แล้วเค้าก็ยังหนุ่มขนาดนี้ด้วย
    “อย่าโกหกฉันเลยน่า มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย” กาเบรียลบอกเค้า ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของเธอส่ายหน้าช้าๆ เค้านึกอยู่แล้วว่ากาเบรียลจะต้องไม่เชื่อ
    “เอาเถอะถึงเจ้าจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร” เค้าพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน กาเบรียลมองเค้าอยู่นาน เธอก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่าในครอบครัวของเธอ หน้าตา สีผิวของเธอไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ในครอบครัวเลย ถ้าจะมองจริงๆ เธอมีส่วนที่คล้ายเค้าอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ถ้าเค้าเป็นพ่อของเธอจริง ทำไมเค้าไม่อยู่กับเธอล่ะ แล้วเค้าก็ยังดูไม่แก่เลยนี่นา กาเบรียลคิดแล้วก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
    “ถ้าคุณเป็นพ่อของฉันจริง ทำไมถึงไม่อยู่กับฉันล่ะ ทำไมถึงทิ้งฉันไป” กาเบรียลพูดออกมาด้วยความโมโห ผู้เป็นพ่อมองเธอด้วยแววตาที่เจ็บปวด
    “ที่นี่กำลังจะจมลงแม่ของเจ้าบอกข้าเช่นนั้น เธอตายหลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอให้ข้าพาเจ้าข้ามมิติไปยังอนาคต ซึ่งก็คือโลกที่เจ้าอยู่นั่นแหละ จนกระทั่งเจ้ากลับมา เจ้าคงจะสงสัยสินะว่าทำไมข้าถึงยังไม่แก่ เพราะเจ้าข้ามอดีตมาผิดช่วงเวลา แม่เจ้าเพิ่งจะตายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง กาเบรียลมองเค้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย เธอสงสารเค้า แต่เธอก็ยังไม่สามารถเชื่อเค้าได้อย่างสนิทใจ
    “พ่อ” กาเบรียลเรียกเค้า ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมามองกาเบรียลด้วยความแปลกใจ กาเบรียลถึงกับหน้าแดง เพราะเธอกำลังเรียกชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปีว่า พ่อ เค้ายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
    “เมลฟิซ เมลฟิซ” เสียงผู้หญิงดังขึ้นที่หน้าห้องที่กาเบรียลอบยู่ พ่อของเธอเดินไปเปิดประตู พบกับหญิงสาวผมหยิกยาวเป็นลอน สวมชุดที่ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกผู้ดี หน้าตาสวยใช้ได้เลยทีเดียว พ่อของเธอคงจะชื่อเมลฟิซสินะ หญิงสาวคนนั้นมองเข้ามาในห้องแล้วสบตาเข้ากับเธอ กาเบรียลเห็นเธอทำหน้าไม่พอใจ แล้วทำท่าจะเดินเข้ามาหาเธอ แต่ทว่าเมลฟิซ ซึ่งก็คือพ่อของเธอขวางไว้
    “อย่านะองค์หญิง” เมลฟิซพูด หญิงสาวที่มาหาพ่อเธอคือองค์หญิงเหรอ แล้วองค์หญิงมาที่ห้องของพ่อเธอทำไม กาเบรียลจ้องตาเธอกลับ เธอไม่ทราบว่าทำไม แต่เธอไม่ค่อยถูกชะตากับเจ้าหญิงองค์นี้เลย
    “ออกไปนะเมลฟิซ อย่ามาขวางฉัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” กาเบรียลฟังองค์หญิงพูดก็พอจะจับใจความได้บ้างแล้ว เธอจึงตอบกลับไปเป็นภาษาเดียวกัน
    “เมลฟิซ ผู้หญิงคนนั้นใคร” กาเบรียลเลือกที่จะเรียกชื่อของเค้า แทนคำว่าพ่อ เพราะไม่มีใครเชื่อเธอแน่ เมลฟิซหันมามองเธอด้วยความแปลกใจ เค้าขยับปากพูดกับเธอราวกับจะบอกให้เธอเงียบลง แต่ไม่มีวันซะล่ะ เธอไม่ถูกชะตากับองค์หญิงองค์นี้ซะแล้ว
    “เมลฟิซ” องค์หญิงผลักเมลฟิซออกไป แล้วเข้ามาตบหน้ากาเบรียลอย่างแรง กาเบรียลงงไปครู่หนึ่ง เธอวิ่งไปหลบข้างหลังเมลฟิซ เค้าเองก็ปกป้องเธอจากองค์หญิงอย่างสุดความสามารถ เค้าบอกให้เธอวิ่งไปที่อื่นก่อน กาเบรียลเองก็ไม่รอช้าเธอวิ่งไปตามคำสั่งทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น