ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก_ข้าม_มิติ

    ลำดับตอนที่ #16 : คิดถึง....

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 47






        

        เจ้าชายซิลฟีเซ่เดินมาหากาเบรียลที่นั่งอยู่คนเดียวตรงบริเวณน้ำตก ดูเหมือนเธอจะคิดถึงเรื่องที่เธอได้พบกับเรย์เมื่อครู่อยู่



        “เฮ้! จะทำหน้าเศร้าไปถึงไหนนี่เรามาเที่ยวนะ” เจ้าชายพูดขึ้นมา กาเบรียลหันไปมองด้วยสายตาที่แปลกใจยิ่งนัก เจ้าชายทรงเป็นห่วงเธอเหรอ “นี่จะไม่พูดกับข้าซักคำเลยรึไง” เจ้าชายพูดต่อไปอีก



        “ฉันเหมือนเด็กมากเหรอ” เธอกล่าวขึ้นมาลอยๆ ราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าชายซิลฟีเซ่พูด เค้ามองเธออย่างแปลกใจ



        “เด็กสิ อายุแค่14 จะไม่เด็กได้ยังไง” กาเบรียลมองหน้าเจ้าชายซิลฟีเซ่แล้วหน้าแดงขึ้นมา เธอมองหน้าเจ้าชายตรงๆ แล้วพูด



        “ฉันอายุ 16 ไม่ใช่ 14” กาเบรียลขมวดคิ้วยุ่ง เจ้าชายทำหน้าแปลกใจขึ้นไปอีก รูปลักษณ์ภายนอกเธอดูเหมือนเด็กสาวอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น เจ้าชายทรงหัวเราะอย่างขบขัน เป็นครั้งแรกที่กาเบรียลได้เห็นใบหน้ายามหัวเราะของเจ้าชายผู้นี้ ดูดีมากทีเดียว ดีกว่าตอนที่ทำหน้าดุๆ ตั้งเยอะ



        “ผิดกับเจ้าหญิงเอลเลน่าเลยนะเจ้าน่ะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่ทรงกลั้นหัวเราะได้แล้วจึงพูดขึ้น กาเบรียลย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ



        “ก็อย่าเอาฉันไปเทียบกับเจ้าหญิงสิ รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าหญิงทรงงดงามขนาดไหนยังเอาไปเทียบได้ เจ้าชายชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลย” กาเบรียลพูด เจ้าชายมองเธอด้วยความแปลกใจที่เธอกล้าพูดถึงขนาดนี้ ทั้งที่ปกติเธอออกจะกลัวเค้าด้วยซ้ำไป เค้าลูบศีรษะเธออย่างเอ็นดู กาเบรียลนั่งมองดูน้ำที่ไหลไปเอื่อยๆ



        “เจ้าก็มีส่วนดีของเจ้านะกาเบรียล” เจ้าชายพูดปลอบเพราะเห็นเธอทำหน้าเศร้าๆ



        “ตรงไหน” กาเบรียลถามกลับ เจ้าชายทรงอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตอบ



        “ก็ ตรงที่บ้าๆ ดีไง” เจ้าชายคิดว่ากาเบรียลจะโกรธอีก แต่ทว่าเธอกลับยิ้มให้เค้า



        “ที่จริงเจ้าชายก็มีดีในสายตาฉันเหมือนกันนะ” กาเบรียลพูดขึ้น เจ้าชายทำหน้าแปลกใจ “ก็ตรงที่ ชอบดุเหมือนคุณพ่อเลยไง” กาเบรียลพูดหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขัน แล้วเธอก็ได้รับรอยยิ้มอันอ่อนโยนจากเจ้าชายเป็นครั้งแรก



        “ข้าไม่แก่ขนาดนั้นซะหน่อยยัยหนู” เจ้าชายขยี้ผมกาเบรียลซะจนยุ่งไปหมด ทั้งสองดูจะเริ่มเข้ากันได้บ้างแล้ว จูเลียสเดินเข้ามาหาทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่ กาเบรียลยิ้มให้จูเลียส



        “จูเลียส ให้ทายว่าฉันอายุเท่าไหร่” จู่ๆ กาเบรียลก็ถามขึ้น



        “ซัก 14 ละมั้ง” จูเลียสพูด กาเบรียลย่นจมูกอย่างน่ารัก เจ้าชายซิลฟีเซ่ทรงมองเธออย่างเอ็นดู



        “ฉันอายุ 16 แล้วนะ งั้นเอาใหม่ดูจากภายนอกเจ้าชายซิลฟีเซ่อายุเท่าไหร่” กาเบรียลถามอีก



        “อืม... ดูจากหน้าตาภายนอกแล้ว น่าจะซัก 25” จูเลียสหยอกเจ้าชายซิลฟีเซ่โดยทายให้อายุมากกว่าที่เป็นจริงราวๆ 5 ปีเห็นจะได้



        “คิก คิก เหมือนพ่อกับลูกมั้ย” กาเบรียลแกล้งแหย่เจ้าชายซิลฟีเซ่ เค้าขมวดคิ้วนิดหนึ่ง



        “ยังนะ เหมือนพี่ชายมากกว่า แต่ถ้ากับเจ้าชายฟีเรนเซ่ละก็ เหมือนเลยล่ะ” จูเลียสหัวเราะอย่างอารมณ์ดี กาเบรียลกับเจ้าชายจึงพลอยหัวเราะตามไปด้วย



        “นี่จะเย็นแล้วนี่ กลับกันเถอะ” กาเบรียลพูดขึ้น เจ้าชายทั้งสองจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเจ้าหญิงเอลเลน่าที่กำลังเล่นอยู่กับเจ้าชายฟีเรนเซ่ เพื่อบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับแล้ว เจ้าชายฟีเรนเซ่วิ่งไปขึ้นม้าก่อนเพื่อน จากนั้นคนอื่นๆ จึงขึ้นม้า เว้นแต่กาเบรียล ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี



        “มาสิ กาเบรียล” เจ้าชายซิลฟีเซ่ยื่นมือให้กาเบรียลจับ แต่ทว่าเธอยังลังเล มันดูไม่เหมาะเพราะเจ้าหญิงเอลเลน่าก็อยู่ด้วย เมื่อเช้าเธอไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย



        “อ๋อ! เข้าใจล่ะ งั้นมานั่งกับข้าก็ได้กาเบรียล” จูเลียสพูดกาเบรียลจึงมองเจ้าชายซิลฟีเซ่นิดหนึ่งก่อนที่จะเดินไปขึ้นม้ากับจูเลียส โดยมีสายตาของเจ้าชายซิลฟีเซ่มองอยู่



        ระหว่างทางจูเลียสชวนกาเบรียลคุยไปเรื่อยกาเบรียลเองก็ช่างพูดช่างเจรจา พูดได้ทุกเรื่องเหมือนกัน เจ้าชายฟีเรนเซ่เห็นพระเชษฐามองทั้งคู่ด้วยสายตาไม่พอใจแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกตัว ส่วนเจ้าหญิงเอลเลน่าเองก็ดูจะเหนื่อยจนเคลิ้มหลับไป



        “อ๊า! จะตกแล้วววว” เสียงกาเบรียลตะโกนดังลั่นเพราะจูเลียสแกล้งขี่ม้าผาดโผนกระโดดไปกระโดดมาอยู่ได้ จูเลียสจึงกอดกาเบรียลไว้ไม่ให้ตก ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาของเจ้าชายซิลฟีเซ่ไปได้ นี่คงเป็นแผนของจูเลียสแน่ๆ เจ้าชายซิลฟีเซ่คิดในใจ “เจ้าชายซิลฟีเซ่ยังบังคับม้าได้ดีกว่าคุณซะอีกจูเลียส” กาเบรียลพูด จูเลียสขมวดคิ้วแล้วหันไปทางเจ้าชายซิลฟีเซ่ที่ยิ้มให้กับเค้านิดหนึ่งราวกับจะยิ้มเยาะ ยังไงอย่างนั้น



        เมื่อกลับมาถึงพระราชวังกาเบรียลจึงกระโดดลงจากม้าก่อนเพื่อน แต่คราวนี้เธอไม่ล้มเหมือนคราวที่แล้ว เธอรับของจากจูเลียส เป็นผลไม้ที่เก็บมาจากในป่าเธอชอบรสชาติของมันจึงเก็บกลับมาด้วย เจ้าชายซิลฟีเซ่ลงมาจากหลังม้า แล้วไปรับเจ้าหญิงเอลเลน่าจากทหารองครักษ์ แต่เจ้าหญิงทรงตื่นพอดี เธอจึงบอกให้เจ้าชายซิลฟีเซ่ปล่อย แต่เค้าก็ไม่ยอมปล่อยให้เจ้าหญิงลงเดินเอง เจ้าชายทรงอุ้มเจ้าหญิงเดินไปยังพระราชวัง กาเบรียลมองคนทั้งคู่ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกับเหลือเกิน กาเบรียลมองจนเพลินแล้วบังเอิญไปสบตากับเจ้าชายซิลฟีเซ่ เธอจึงหันหน้าหลบไปอีกทาง เจ้าชายมองกาเบรียลที่ดูเหมือนเธอจะหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อขึ้นมาด้วยความแปลกใจ



        “กาเบรียล...” เจ้าชายฟีเรนเซ่เกาะแขนกาเบรียลแล้วอิงซบไหล่ ดูเหมือนจ้าชายพระองค์น้อยจะง่วงมาก ขนาดเดินก็ทำท่าจะหลับเสียให้ได้ กาเบรียลต้องคอยประคองเจ้าชายไปตลอดทาง รู้สึกคนอื่นๆ จะเหนื่อยกันมาก แต่สำหรับกาเบรียลเธอสนุกมากทีเดียว เธอไม่ง่วงเลยด้วย เพราะเธอนอนจากที่นั่นจนเต็มอิ่มไปแล้ว ทำให้คืนนี้เธอจะนอนไม่หลับ



        “ป่านนี้เมลฟิซจะเป็นยังไงบ้างนะ” กาเบรียลพึมพำเบาๆ เธอยืนมองดาวอยู่ที่ระเบียงในห้องของเธอ “เรย์...” กาเบรียลเผลอเรียกชื่อชายหนุ่มออกมา กาเบรียลนึกไปถึงตอนนั้นอีก ตอนที่เธอพบกับเรย์ มันเป็นความฝันเหรอ กาเบรียลก้มหน้านิ่ง แววตาเศร้า เธอคิดถึงเรย์เหลือเกิน เรย์ดูผอมลงไปมากทีเดียว









        ท่ามกลางแสงไฟสลัว เจ้าชายซิลฟีเซ่ที่เดินอยู่บริเวณไม่ไกลจากระเบียงนั้นได้ยินเสียงพูดแม้เค้าจะไม่เข้าใจภาษา แต่เจ้าชายทรงเห็นใบหน้าของหญิงสาวเศร้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ดูเหมือนเธอจะเจ็บปวดมาก ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำใสๆ คลอเต็มเบ้า หญิงสาวกระพริบตาไล่มัน เจ้าชายทรงมองกาเบรียลจนลืมตัวเผลอพูดออกไป



        “เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงทำหน้าเศร้าเช่นนั้น” หญิงสาวหันไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว เธอเอามือเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ แล้วส่ายหน้าเร็วๆ “มีเรื่องไม่สบายใจหรือ บอกข้าได้มั้ย” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน



        “บอกไม่ได้” กาเบรียลตอบเสียงเบาน้ำเสียงสั่นเครือ



        “จะให้ข้าเงยหน้าพูดกับเจ้าเช่นนี้หรือ” เจ้าชายยิ้มน้อยๆ แล้วกางมือเหมือนกับจะรองรับกาเบรียล กาเบรียลทำหน้าเบ้ แต่เธอก็กระโดดลงไป เจ้าชายทรงรับกาเบรียลไว้ แล้วปล่อยเธอลงยืน กาเบรียลก้มหน้านิ่ง “นอนไม่หลับหรือ” เจ้าชายถาม กาเบรียลพยักหน้า “จะไม่พูดอะไรกับข้าเลยรึไง”กาเบรียลส่ายหน้า เจ้าชายยืนกอดอกแล้วมองหญิงสาวที่ก้มหน้านิ่ง “เฮ้อ! กลัวข้าสินะ” เจ้าชายส่ายพระพักตร์ช้าๆ “จะไม่พูดอะไรกับข้าซักนิดเลยหรือ” เจ้าชายทรงถามอีก



        “กลัว” เธอตอบสั้นๆ เจ้าชายทรงขมวดคิ้วกาเบรียลจึงพูดต่อ “เมื่อไหร่จะทรงอภิเษกล่ะเพคะ” กาเบรียลเงยหน้านิดหนึ่ง เธอเห็นเจ้าชายรูปงามทำหน้าตกใจเล็กน้อย กาเบรียลมองแล้วก็อดขำไม่ได้ นานๆ ทีจะได้เห็นเจ้าชายในสภาพเช่นนี้



        “เฮ้! นี่เจ้าขำอะไรน่ะ” เจ้าชายจับไหล่กาเบรียล เธอหัวเราะเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าชายซิลฟีเซ่ตรงๆ เธอเห็นเจ้าชายมีสีหน้าเข้มขึ้น คงเพราะคำถามเมื่อครู่



        “น่ารัก” กาเบรียลพูดเบาๆ แต่ก็ดังพอที่เจ้าชายจะได้ยิน เค้าปล่อยมือจากเธอทันที เจ้าชายซิลฟีเซ่ขี้อายมากกว่าที่กาเบรียลคิดซะอีก



        “ข้าไม่ดีใจหรอกนะที่มีคนมาชมว่าน่ารักน่ะ ข้าไม่ใช่สตรีอย่างเจ้า” เจ้าชายทำหน้าขรึมแล้วพูดกับกาเบรียล เธอทำหน้าตกใจนิดๆ ก็เธอคิดว่าน่ารักจริงๆ นี่นา



        “ขออภัยเพคะ ที่เสียมารยาท” กาเบรียลก้มหน้าพูดราวกับสำนึกผิด



        “ข้าไม่ได้หมายความว่าจะให้เจ้ามาขอโทษหรอกนะ” เจ้าชายพูดเสียงเรียบๆ “อย่าทำหน้าแบบนั้นได้มั้ย” เจ้าชายพูดแล้วเชิดคางกาเบรียลขึ้น



        “พูดว่าน่ารักก็ไม่ได้เหรอ” กาเบรียลถาม



        “ไม่ใช่พูดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่พูดกับข้า” เจ้าชายพูดด้วยเสียงอันเย็นชา กาเบรียลพยักหน้า “เจ้าไปนอนเถอะ” กาเบรียลพยักหน้าอีกแล้วเธอก็เดินไป









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×