ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ท้าแข่ง
    กาเบรียลจึงเปิดประตูที่ระเบียงออกมารับอากาศให้รู้สึกสดชื่น แต่บังเอิญเธอหันไปเห็นเจ้าชายซิลฟีเซ่กำลังจูบกับเจ้าหญิงเอลเลน่าพอดี กาเบรียลรีบหลบเข้ามาหลังม่าน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเจ้าชายซิลฟีเซ่ไปได้ กาเบรียลชะโงกหน้าออกมาดูว่าทั้งคู่ไปหรือยัง แต่แล้วเธอก็พบกับดวงตาสีเขียวเข้มจัดจ้องมองเธออยู่ กาเบรียลหน้าซีดเพราะตอนนี้เค้ายืนอยู่คนเดียวตรงหน้าเธอเลย แต่ยังดีที่เธออยู่ชั้นบนไม่งั้นเธอคงหัวใจวายตายแน่ๆ กาเบรียลกำลังจะพูดขอโทษแต่ทว่า เธอกลับเห็นรอยยิ้มปรากฏบนหน้าของเจ้าชายซิลฟีเซ่
    “ไงล่ะกาเบรียล ไม่ดีเลยนะให้ข้าต้องเงยหน้าพูดกับเจ้าเนี่ย” เจ้าชายซิลฟีเซ่ทรงตรัส กาเบรียลกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เธอทำท่าจะเดินออกไปทางประตูเพื่อลงไปข้างล่าง “จะไปไหนน่ะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่พูดขัด
    “ลงไปหาท่านข้างล่างเพคะ” กาเบรียลพูด เจ้าชายซิลฟีเซ่ยังคงยิ้ม ‘ไม่รู้จะมีแผนอะไรอีกมาแปลกๆ’ กาเบรียลคิด
    “ไม่ต้อง ข้าไม่ไว้ใจเจ้า” กาเบรียลถอนหายใจอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยก็ยังมีชั้นสองกั้น “กระโดดลงมา” เจ้าชายซิลฟีเซ่สั่ง กาเบรียลตาโตด้วยความตกใจ
    “ดะโดด จะจากชั้นสองนี่หรือเพคะ” กาเบรียลชะโงกหน้าลงมามองข้างล่าง ดูเหมือนไม่สูงเท่าไหร่ แต่ถ้าตกลงไปก็คงจะเจ็บน่าดูเลย กาเบรียลหน้าซีด มองเจ้าชายซิลฟีเซ่ที่ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    “จะให้ข้าเงยหน้าพูดกับเจ้าเช่นนี้หรือ” เจ้าชายตรัส “กระโดดลงมา ข้าจะคอยรับไว้เอง” เจ้าชายแสยะยิ้มให้กาเบรียล
    “ถะ ถ้าท่านไม่รับล่ะ” กาเบรียลพูดเสียงตะกุกตะกัก
    “แล้วถ้าเจ้าไม่โดดล่ะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่ตรัสเสียงเย็น แต่ใบหน้ายังคงยิ้ม กาเบรียลจึงตัดสินใจกระโดดดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่น่าจะถึงตาย
    ฟุ่บ!!!
    กาเบรียลกระโดดลงมาจากระเบียง โดยที่มีเจ้าชายซิลฟีเซ่คอยรับอยู่ข้างล่าง เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยเค้าก็ไม่ปล่อยให้เธอตก เจ้าชายเห็นใบหน้าของกาเบรียลที่ยังคงซีดเผือดแล้วหัวเราะขึ้นมา
    “ปละ ปล่อยหม่อมฉันลงได้แล้วเพคะ” กาเบรียลพูดเสียงตะกุกตะกัก แต่เจ้าชายก็ไม่ยอมปล่อย “ถ้าหากเจ้าหญิงเอลเลน่ามาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดนะเพคะ” กาเบรียลหาข้ออ้าง
    “เข้าใจผิดเหรอ งั้นก็ดีสิ” เจ้าชายทรงยิ้มอย่างมีเลศนัย กาเบรียลอ้าปากหวอ นี่ถ้าเจ้าหญิงเอลเลน่ามาเห็นเข้าจริงๆ เธอตายแน่ๆ กาเบรียลหันหน้าไปมองเจ้าชายที่ดูเหมือนจะมองเธออยู่ก่อนแล้ว กาเบรียลรู้สึกว่าใบหน้าเจ้าชายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอหน้าแดงจัด เจ้าชายซิลฟีเซ่ทรงมีใบหน้าที่งดงาม งามราวกับสตรีเลยทีเดียว ผมที่มีสีน้ำตาลอ่อนตกลงมาปรกหน้าผาก พริบตาหนึ่งราวกับเพิ่งรู้สึกตัวเจ้าชายก็ปล่อยให้เธอลงมาจากอ้อมแขนอันแข็งแรงนั้น
    “ทรงเรียกหม่อมฉัน มะ มีอะไรหรือเพคะ” กาเบรียลเปลี่ยนไปถามหาเหตุที่เจ้าชายให้เธอกระโดดจากระเบียงเพื่อลงมาคุย
    “ไม่มีอะไร เห็นหน้าแล้วอยากแกล้งก็เท่านั้นเอง” เจ้าชายทรงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินหันหลังกลับไป ปล่อยให้กาเบรียลยืนอ้าปากค้างด้วยความอึ้งอยู่ 
    รุ่งเช้ากาเบรียลเดินมาตามทางเดินยาวที่เชื่อมต่อไปจนถึงท่าเรือใหญ่ที่มีเรือของเจ้าหญิงเอลเลน่าจอดเทียบท่าอยู่ เธอยืนมองความงามของเรือนั้น หัวเรือเป็นรูปของเทพธิดามีปีกช่างงดงามยิ่งนัก เพื่อนๆ จะต้องอิจฉาเธอแน่ๆ เลย ที่ได้เห็นเรือในประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีสภาพที่ดีครบสมบูรณ์อยู่ กาเบรียลเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ แต่แล้วทหารยามก็เอาหอกมาไขว้ขวางเธอไว้ไม่ให้ไปต่อ
    “ขอดูใกล้ๆ ไม่ได้รึไง” กาเบรียลย่นจมูก แต่ทหารยามยังคงทำหน้าขึงขัง นี่แสดงว่าไม่ให้เธอเข้าไปสินะ กาเบรียลคอตก
    “มีอะไรหรือจ๊ะ เอ๊ะ! เธอคนรับใช้ของฟีเรนเซ่นี่นา” เสียงเจ้าหญิงเอลเลน่าดังมาจากด้านหลัง ทหารยามทั้งคู่นั่งคุกเข่าแล้วทำความเคารพทันที กาเบรียลหันไปมองแล้วเผชิญหน้าเข้ากับเจ้าหญิงเอลเลน่าพอดี
    “คะ คือ แค่อยากเข้าไปดูใกล้ๆ เพคะ” กาเบรียลก้มหน้าแล้วพูด แต่ทว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของเจ้าหญิงเธอจึงเงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ
    “งั้นหรอกหรือ ขึ้นไปด้วยกันมั้ย” เจ้าหญิงทรงแย้มพระโอษฐ์ให้กับกาเบรียลเธอยิ้มด้วยความดีใจ
    “ขึ้นไปได้จริงๆ เหรอ ให้ฉันขึ้นไปได้จริงๆ นะเหรอ” กาเบรียลพูดเสียงดัง เจ้าหญิงพยักหน้าแล้วเดินนำขึ้นไป กาเบรียลยืนยิ้มอยู่คนเดียวพักหนึ่งจึงวิ่งตามขึ้นไปอย่างร่าเริง “สวยจังเลย” กาเบรียลพูดพึมพำ แล้วเดินมายังหัวเรือ เธอสูดอากาศ และกลิ่นทะเลเข้าไปเต็มปอด แล้วหันกลับมาหาเจ้าหญิง “เหมาะกับเจ้าหญิงเอลเลน่าเลย” กาเบรียลยิ้ม เจ้าหญิงมองเธอด้วยความแปลกใจ แต่แล้วเธอก็ยิ้มตอบกาเบรียล จนเธอเผลอมองใบหน้าอันงดงามราวกับนางฟ้านั้นไปพักหนึ่ง นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชายเธอคงจะตกหลุมรักไปแล้วแน่ๆ “อยากให้เจ้าหญิงทรงอภิเษกกับเจ้าชายซิลฟีเซ่เร็วๆ จังเลย” กาเบรียลพูด อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานที่นี่อีก อีกทั้งเจ้าหญิงและเจ้าชายทั้งสองดูเหมาะสมกันจะตาย
    “เราคงจะโชคดีมากสินะ ที่ได้อภิเษกกับเจ้าชายซิลฟีเซ่” เจ้าหญิงเอลเลน่าตรัสแต่ทว่ามีแววตาเศร้าอยู่ลึกๆ กาเบรียลเองก็คงจะรู้สึกเช่นกัน เธอมองเจ้าหญิงราวกับจะให้แน่ใจว่าเธอตาฝาดไปหรือเปล่า “อ๊ะ! ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ” เจ้าหญิงทรงยิ้มให้กาเบรียล
    “เจ้าหญิงเอลเลน่าดูนู่นสิ” กาเบรียลชี้ให้เจ้าหญิงเอลเลน่าดูฝูงนกสีขาวฝูงใหญ่ที่บินอยู่บนท้องฟ้า “สวยจังเลยนะเพคะ อยากบินได้อย่างอิสระเหมือนนกจังเลย” กาเบรียลเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
    “นั่นสินะ อยากบินได้อิสระเหมือนนก” เจ้าหญิงพูดเบาๆ เธอมองตามฝูงนกนั้นแล้วยิ้มให้กาเบรียล กาเบรียลมองเจ้าหญิงที่ดูเหมือนจะมีอาการดีขึ้นมาบ้างแล้ว “เธอชื่ออะไรหรือ” เจ้าหญิงถามกาเบรียล
    “กาเบรียล...” เธอยิ้มให้เจ้าหญิงที่ดูเหมือนจะมีอายุมากกว่าเธอซัก 2 ปีได้กระมัง “ขอบคุณเจ้าหญิงมากนะเพคะ ฉันต้องไปก่อนเดี๋ยวถ้าเจ้าชายซิลฟีเซ่มาเจอจะแย่” กาเบรียลหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เธอทำความเคารพเจ้าหญิงแล้ววิ่งลงไปจากเรือ เจ้าหญิงมองตามเธอไปแล้วทรงยิ้มอย่างอ่อนโยน
    เจ้าชายฟีเรนเซ่ออกมาจากห้องทรงพระอักษรเดินไปที่อุทยานตรงบริเวณที่เป็นน้ำพุอยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกไม้เท่าไหร่ นั่นเป็นที่พักผ่อนเป็นประจำของเจ้าชายซิลฟีเซ่ เจ้าชายพระองค์น้อยเดินแทรกกลุ่มสาวๆ ที่มารุมปรนนิบัติเจ้าชายซิลฟีเซ่เข้ามา แล้วนั่งลงข้างเจ้าชายด้วยความโมโห
    “เป็นอะไรไปฟีเรนเซ่ ไปโมโหใครมาอีกล่ะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่ถามอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก พระอนุชาหันมามองตาเขียว
    “ก็เจ้าพี่นั่นแหละไปพูดกับกาเบรียลแบบนั้น นางเลยไม่กล้ามาหาข้าเลยนะสิ” เจ้าชายฟีเรนเซ่ขมวดคิ้วยุ่ง เจ้าชายซิลฟีเซ่เลิกคิ้วแล้วมองพระอนุชา
    “ไม่ใช่ตอนที่เจ้าบอกนางว่าอ่อนประสบการณ์กว่าเจ้าหรอกรึ” เจ้าชายทรงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เจ้าชายฟีเรนเซ่ทำหน้าตกใจ
    “ก็อาจจะใช่ แต่ว่าเจ้าพี่รู้ได้ยังไง”
    “บังเอิญได้ยินน่ะ” เจ้าชายซิลฟีเซ่พูดอย่างไม่ใส่ใจ “แต่ข้าว่ายังไงนางก็ไม่สนใจเจ้าหรอกนะฟีเรนเซ่ เด็กๆ แบบเจ้าน่ะ” เจ้าชายทรงแหย่
    “พูดอย่างกับกาเบรียลสนใจเจ้าพี่ซะอย่างนั้นแหละ” ฟีเรนเซ่จึงตอกกลับไปบ้าง
    “จะแข่งกันอีกมั้ยล่ะ” ซิลฟีเซ่ท้าพระอนุชา
    “ครั้งนี้คิดว่าเจ้าพี่จะชนะรึไง กาเบรียลน่ะ เกลียดเจ้าพี่จะตาย งั้นคราวนี้ขอม้าศึกของท่านซักตัวละกัน” เจ้าชายฟีเรนเซ่ยิ้มอย่างผู้ชนะ
    “ฮึ! ข้าไม่แพ้เจ้าหรอกน่าฟีเรนเซ่ คอยดูละกัน” เจ้าชายซิลฟีเซ่เองก็ทรงยิ้มเช่นกัน
    “เจ้าชายพะยะค่ะ จะทรงแข่งกันอีกแล้วหรือ น่าสงสารกาเบรียลนะพะยะค่ะ” เฟรย์ทหารคนสนิทของเจ้าชายซิลฟีเซ่เอ่ยขึ้นมา “คราวก่อนพอหญิงคนนั้นรู้ว่าเป็นแผนของพวกท่านนางก็แทบจะฆ่าตัวตาย” เฟรย์พูดถึงความหลัง
    “ฮึ! ก็ช่างสิ อยากฆ่าตัวตายก็เชิญ” เจ้าชายซิลฟีเซ่พูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่ทว่าเจ้าชายฟีเรนเซ่กลับลังเล
    “แล้วถ้านางรู้ กาเบรียลจะเกลียดข้ามั้ยนะ” เจ้าชายฟีเรนเซ่พูดขึ้นมาลอยๆ เจ้าชายซิลฟีเซ่จึงหันมามองด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น