ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความเข้าใจผิด
    “อะไรเหรอ” เมลฟิซถามกาเบรียลขณะที่ขับกำลังขับยานที่มีลักษณะเหมือนกับนก กาเบรียลมองเมลฟิซด้วยความตกใจ ราวกับว่าเค้ารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
    “กังวลเรื่องเจ้าชาย กับเจ้าหญิงสองคนนั้นน่ะ” กาเบรียลตอบตามตรง เธอกลัวเมลฟิซจะเดือดร้อนเพราะเธอ
    “ไม่เป็นไร ข้าจะปกป้องเจ้า และจะหาวิธีส่งเจ้ากลับไปให้ได้” เมลฟิซยิ้มอย่างอ่อนโยน กาเบรียลยิ้มตอบ แต่เธอก็รู้สึกใจหายไปเหมือนกัน ว่าวันหนึ่งเธอจะต้องจากเมลฟิซ ผู้เป็นบิดาของเธอไป
    “อ๊า! ข้าจะต้องเข้าประชุม ลืมสนิทเลย” เมลฟิซร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ เค้าหันยานกลับไปยังพระราชวัง เค้าเร่งความเร็วแต่ก็ไม่ถึงกับเร็วมาก เพราะเค้าทราบดีว่ากาเบรียลนั่งอยู่ด้วย เค้าลงจอดอย่างนิ่มนวล แล้วหันมาพูดกับกาเบรียล “เจ้ารออยู่แถวนี้ก่อนนะ เดี่ยวข้ากลับมา อย่าไปไหนล่ะ เมลฟิซเดินออกไป กาเบรียลเห็นผ้าสีแดงที่ใช้สวมเวลาไปเข้าห้องประชุมเหมือนกับของพวกโรมัน เธอจึงหยิบแล้ววิ่งเอาไปให้เมลฟิซทันที เธอเข้ามายังส่วนหน้าของพระราชวัง เธอมองซ้ายมองขวาก่อนจะตัดสินใจเดินตรงไป เธอพบกับเมลฟิซที่เดินกลับมาพอดี
    “เอ่อ! ฉันคิดว่าคุณต้องใช้มันน่ะ” กาเบรียลพูด แล้วส่งผ้าให้เมลฟิซ เค้ายิ้มให้เธอ
    “ขอบใจ ข้ากำลังจะไปเอาอยู่พอดี” เมลฟิซลูบศีรษะกาเบรียลแล้วรับมันมาสวม “เดินกลับดีๆ นะระวังจะหลงทางเข้าล่ะ” เมลฟิซเตือนกาเบรียล เธอย่นจมูกอย่างไม่พอใจ เธอไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ เมลฟิซหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินกลับไปทางเดิม
    กาเบรียลเดินกลับไปที่ยาน ระหว่างทางที่เดินกลับเธอพบกับเจ้าชายคนนั้นอีกแล้ว เค้าคงจะมาเข้าประชุมด้วยกระมัง เธอทำเป็นไม่สนใจเค้า แต่ทว่าเค้ากลับมองเธอ ตะลึงงันเลยทีเดียว จนกระทั่งผู้ติดตามของเค้าสะกิด
    “ฝ่าบาท นางไม่ใช่ซินเทียร์นะพะยะค่ะ” ผู้ติดตามบอกกับเจ้าชายองค์นั้น เค้าพินิจมองเธออีกครั้งแล้ว เดินเข้ามาหาเธอ
    “เจ้า ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เจ้าเป็นใครกันแน่น่ะ” เจ้าชายพูดกับกาเบรียล เสียงเข้ม แต่ทว่าดูสุภาพกว่าเดิมมากนัก
    “เอ่อ! ” กาเบรียลพูดไม่ออก เธอไม่ทราบว่าจะบอกเจ้าชายไปว่าอย่างไรดี เธออ้ำอึ้งอยู่นาน จนกระทั้งเค้าพูดตวาดเธอขึ้นมาอีก
    “ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร” กาเบรียลสะดุ้งโหยง
    “มะหม่อมฉัน ปะปะ เป็น” กาเบรียลพูดเสียงตะกุกตะกัก
    “เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้ มาสืบความในนี่รึไง” เจ้าชายทรงจับคางกาเบรียลให้เธอหันมาสบตาเค้า เธอมองหน้าเค้าอย่างหวาดๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว “เจ้าเจอดีแน่” พูดจบเจ้าชายก็ดึงแขนกาเบรียลกึ่งลากมาจนถึงห้องห้องหนึ่ง เค้าเปิดประตูเข้าไป แล้วผลักเธอไปตรงกลางห้อง
    “ท่านพ่อ ข้าเจอสายลับมาสืบข่าวในพระราชวังพะยะค่ะ” เจ้าชายพูดเสียงดัง และสุภาพอ่อนน้อมยิ่ง
    “อืม! เป็นผู้หญิงหรอกหรือ ข้าถึงจับมิได้ซักที พวกท่านเห็นว่าเราควรจะลงโทษมันอย่างไรดี” กษัตริย์ที่ทรงไว้หนวดเครายาว สวมชุดสีขาว มีผ้าคลุมสีทอง ตรัสขึ้นในที่ประชุม
    “เปล่านะเพคะ หม่อมฉัน...” กาเบรียลแก้ตัวทันที
    “เห็นมั้ยเสด็จพ่อ นางพูดภาษาเรายังไม่ชัดเลย” เจ้าชายตรัสขึ้นขัดกาเบรียล เค้ามองเธอแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ
    “กาเบรียล” เมลฟิซพูดโผลงขึ้นมาในห้องประชุม เมื่อกาเบรียลหันมา เค้ายืนขึ้นด้วยความตกใจ
    “เมลฟิซ” กาเบรียลเห็นหน้าเมลฟิซแล้วแทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ “ฉันเปล่านะเมลฟิซ” เธอบอกเมลฟิซเสียงรัว และเร็ว
    “หุบปากนะ” เจ้าชายทรงยืนกอดอกอยู่ไม่ห่างจากกาเบรียลมากนักพูดตวาดกาเบรียล เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “ข้าขอลงโทษนางเองได้หรือไม่เสด็จพ่อ” เจ้าชายทรงหันไปพูดกับกษัตริย์ แล้วหันมามองกาเบรียลด้วยสายตามีเลศนัย
    “ช้าก่อนองค์ชาย นางเป็นน้องของกระหม่อมเองพะยะค่ะ ขออภัยท่านด้วยหากนางทำอะไรไม่ดีกับท่านไว้ นางเพิ่งมาอยู่กับกระหม่อมได้ไม่นาน” เมลฟิซพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน แต่กาเบรียลรู้สึกว่าน้ำเสียงเค้าสั่นไปช่วงหนึ่ง เธอรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
    “หือ! เมลฟิซท่านมีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เจ้าชายทรงจับผิดคำพูดของเมลฟิซ เพราะเค้ารู้จักเมลฟิซดีตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทั้งสองเป็นพระสหายสนิทกัน จนกระทั้งเมลฟิซแต่งงานกับซินเทียร์
    “นางเป็นน้องสาวของซินเทียร์พะยะค่ะ น้องสาวของนางก็เหมือนน้องสาวของข้า” เมลฟิซตอบกลับเจ้าชาย เจ้าชายทรงขมวดคิ้วทันที
    “แน่ใจหรือ ว่านางเป็นแค่น้อง” เจ้าชายทรงขมวดคิ้วยุ่ง
    “ซิลฟีเซ่ นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวเจ้าจักเข้าไปยุ่งไม่ได้ ขอโทษเจ้าด้วยนะซิลฟีเซ่ชอบใจร้อนเสมอ” กษัตริย์ทรงเตือนเจ้าชาย เค้าเสียหน้ากลางห้องประชุม เค้ามองกาเบรียลอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เค้าทำราวกับว่าเธอเป็นต้นเหตุของเรื่อง “เอาล่ะเมลฟิซพาน้องของเจ้าออกไปได้แล้ว” เมลฟิซก้มหัวให้กับกษัตริย์แล้ววิ่งมาหากาเบรียลทันที เค้าประคองกาเบรียลที่นั่งอยู่กับพื้นให้ยืนขึ้น เธอกอดเค้าด้วยความกลัว เจ้าชายมองเธอแล้วขมวดคิ้วให้เมลฟิซทันที กาเบรียลหันมาทางกษัตริย์แล้วทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม และงดงามยิ่ง กษัตริย์ทรงยิ้มให้เธอ แล้วพยักหน้า เมลฟิซพาเธอเดินออกไปที่ห้องประชุม โดยมีเจ้าชายทรงตามมาด้วย
    “เมลฟิซ ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน” กาเบรียลพูดกับเมลฟิซเสียงเครือ เมลฟิซมองกาเบรียลเลิ่กลัก
    “มะไม่เป็นไร เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว” เมลฟิซพูด กาเบรียลทำท่าเหมือนจะร้อง เมลฟิซตกใจอย่างมาก เค้าดึงเธอเข้ามากอดแล้วปลอบเธอ “ไม่เป็นไรๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้าจะปกป้องเจ้าเอง” เมลฟิซพูดอย่างอ่อนโยน กาเบรียลรู้สึกดีขึ้นมาก เธอดันตัวออกจากอ้อมกอดของเมลฟิซแล้วยิ้ม
    “ขอบคุณค่ะ ท่าน...” กาเบรียลพูดไม่ทันจบเจ้าชายก็พูดแทรกขึ้นมา
    “ข้านึกแล้วว่าไม่ใช่พี่น้องธรรมดา” เมลฟิซหันไปมองเจ้าชายแล้วก้มหัวให้นิดหนึ่ง
    “ไม่ใช่อย่างที่เจ้าชายคิดหรอกพะยะค่ะ” เมลฟิซพูด กาเบรียลจ้องเจ้าชายตาแทบถลนทีเดียว เธอไม่ชอบเจ้าชายองค์นี้เลย ทั้งๆ ที่กษัตริย์ออกจะใจดีเช่นนั้นแท้ๆ
    “เมลฟิซไปประชุมเถอะ ฉันจะไปรอที่ยาน” กาเบรียลพูดแล้วหันหลังเดินกลับไปโดยที่ไม่สนใจเจ้าชายเลย เค้าขมวดคิ้ว เมลฟิซกลับไปยังห้องประชุมไปแล้ว แต่ทว่าเจ้าชายกลับเดินตามกาเบรียลไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น