ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชายลึกลับในห้องสมุด
   
    กาเบรียล สาวน้อยอัจฉริยะอายุ 16 ปี เธอเรียนอยู่ที่มหาลัย ชื่อดังในอังกฤษ เธอเป็นเด็กที่จัดว่าน่ารักคนหนึ่งทีเดียว แต่ว่าเธอมักจะสวมแว่นตา ผูกผมซะเรียบตึง ดูเป็นเด็กที่บ้าเรียนมาก แม้ในคณะที่เธอเรียนจะสอนมากเท่าไหร่ก็ตาม เธอก็มักจะหาความรู้อื่นเพิ่มเติมเสมอๆ เธอเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ แต่เธอก็สนใจที่จะเรียนประวัติศาสตร์ควบคู่ไปด้วย ทำให้เธอเป็นที่สนใจของคนหลายๆ คน และแน่นอนว่าเธอย่อมมีคนที่อิจฉาเธอไม่น้อยเช่นกัน
    “กาเบรียล กาเบรียล” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ทำให้ผู้ที่ถูกเรียกหันมามอง
    “อ่าว! เรย์” กาเบรียลหันมามองผู้ที่เรียกเธอ “มีอะไรเหรอ” เรย์ที่วิ่งตามมาหยุดหอบแฮ่ก อยู่ตรงหน้ากาเบรียลพักหนึ่งจึงพูดได้
    “นึกว่าจะตามมาไม่ทันซะแล้ว ขอโทษทีนะ พอดีผมคุยกับอาจารย์อยู่” เรย์พูดขอโทษกาเบรียล แต่ทว่าเธอส่ายหน้า “โธ่! กาเบรียลผมไม่ได้ตั้งใจผิดนัดคุณนะ” เรย์พูดเสียงค่อนข้างดังทีเดียว
    “อะไรกัน ฉันไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย อย่าเสียงดังสิ ฉันอายคนเป็นเหมือนกันนะฉันไม่เหมือนคุณซักหน่อย” กาเบรียลพูดท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปในห้องสมุดของมหาลัย เรย์จึงเดินตามเข้าไป
    เรย์ หนุ่มชาวอังกฤษ เค้าเป็นคนที่ดังมากคนหนึ่งในมหาลัย แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเค้า เรย์อายุ 20 ปี  เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์ ทำอะไรก็มักจะเป็นข่าวดังของมหาลัยเสมอ แม้กระทั่งเรื่องที่เค้ากำลังตามจีบกาเบรียลก็เช่นกัน
    กาเบรียลเดินเข้ามายังหนังสือหมวดประวัติศาสตร์ เธอมองชื่อหนังสือไล่มาเรื่อยจนกระทั่งเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เธอเอื้อมมือไปหยิบ แต่ทว่ามันสูงเกินที่เธอจะเอื้อมไปถึง พอดีกับที่มีมือหนึ่งดึงหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นหนังสือตัดหน้ากาเบรียลไป เธอหันไปมองเค้าทันที
    “นี่คุณ หนังสือเล่มนี้ฉันเจอก่อนนะ” กาเบรียลพูดอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มหันมามองตามเสียง เค้าพูดภาษาแปลกๆ กาเบรียลมองเค้างงๆ พยายามจะฟังว่าเค้าพูดภาษาอะไร ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างหมดความหวัง แล้วยื่นหนังสือเล่มนั้นให้กาเบรียล
    “ขอโทษครับ” เค้าบอกกับกาเบรียล แล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
    ‘พูดภาษาอังกฤษก็พูดได้นี่นา ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรกนะ’ กาเบรียลมองตามเค้าไป แล้วจู่ๆ ก็มีมือมาจับไหล่เธอ ทำเอาเธอสะดุ้ง “เรย์ ตกใจหมดเลย” กาเบรียลถอนหายใจ
    “มีอะไรเหรอ กาเบรียล” เรย์ถามเสียงเบา เธอส่ายหน้า จนแว่นตาที่ใส่เลื่อนหลุดลงมา เรย์มองเธอแล้วหัวเราะเบาๆ “ผมได้หนังสือที่คุณหาแล้วล่ะ” เรย์ยื่นหนังสือให้เธออีกเล่ม กาเบรียลยิ้ม
    “ขอบคุณมากนะ เรย์” กาเบรียลเดินมาที่โต๊ะบรรณารักษ์ แล้วเดินออกไปจากห้องสมุดพร้อมกับเรย์ด้วยความรู้สึกที่ยังติดค้างภายในใจ หล่อนอยากเจอเค้าอีกซักครั้ง
กาเบรียลกลับมาที่บ้านเธอรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องแล้วอ่านหนังสือเล่มนั้นทันที
                                                ตำนานความลึกลับของมหานครที่สาบสูญ
   
    จากตำนานที่เล่าขานมาแต่โบราณ แอตแลนติส เป็นมหาอาณาจักรในอดีตกาลที่เจริญรุ่งเรืองทั้งทรัพย์สินและปัญญา วิทยาการต่างๆ เจริญก้าวหน้าถึงขีดสุดเป็นชาติมหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือดินแดนต่างๆ รอบข้าง มีวัฒนธรรมที่เป็นแม่แบบแห่งศิลปะ และวิทยาการเกือบทุกสาขา
    แต่ในที่สุด มหาอาณาจักรที่รุ่งเรื่องและยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ ได้สูญสลายไปเพราะภัยธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด เกาะแอตแลนติสทั้งเกาะจมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ความเจริญรุ่งเรืองและวิวัฒนาการอันสุดยอดของมนุษยชาติ ถูกกลืนหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
    กวีชาวโรมันนามว่า โอวิด ได้เขียนไว้เกี่ยวกับน้ำท่วมใหญ่ และเขียนพงศาวดารสือต่อจากเพลโตว่า
    ครั้งหนึ่งที่มีความเลวร้ายขึ้นบนโลก จนพระเจ้าผู้พิพากษาหนีไปสู่สวรรค์ และกษัตริย์แห่งทวยเทพตัดสินพระทัยจะหยุดยั้งเผ่าพงศ์ของมนุษย์... ความพิโรธของพระพฤหัสบดีมิได้จำกัดอยู่กับขอบเขตท้องฟ้าของพระองค์เท่านั้น พระสมุทรได้ส่งคลื่นมาช่วย พระสมุทรฟาดทวนสามง่ามลงมายังโลก ทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน... ไม่ช้าก็ไม่มีดินแดนจากทะเลใต้พื้นน้ำ พรายน้ำนามว่า เรไยเดส จ้องไปยังป่าไม้ บ้านเรือน และในเมืองด้วยความพิศวง มนุษย์ดับสูญไปเกือบทั้งหมด เพราะไม่มีอากาศ ทำให้ตายด้วยความหิว
    ศาสตราจารย์เอ็น.เอส. เวตชินกินแห่งรัสเซีย มีคำตอบแก่ปริศนาเรื่องแอตแลนติส และการเกิดน้ำท่วมโลกว่า “การมีอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงมาเป็นสาเหตุให้เกิดการทำลายล้างแอตแลนติส ก้อนอุกกาบาตขนาดมหึมาเหล่านั้น เราเห็นได้ชัดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ มีปล่องหลุมดังกล่าวที่มีเส้นผ่านศุนย์กลางสองร้อยกิโลเมตร ขณะที่บนโลกมีขนาดกว้างเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้น เมื่อตกลงสู่ท้องทะเล อุกกาบาตขนาดยักษ์จะก่อให้เกิดคลื่น ที่ไม่เพียงแต่ซัดกวาดอาณาจักรสัตว์และพืชเท่านั้น หากยังกวาดภูเขาต่างๆ ด้วย”
    กาเบรียลปิดหนังสือทันที เธอเดินเอื่อยๆ ลงไปนอนบนเตียง
    “ไร้สาระจริงๆ ตำนานก็คือตำนานล่ะนะ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ไม่เห็นจะมีหลักฐานที่บ่งชี้แน่ชัดเลย นอกจากตำนาน เรื่องเล่า” กาเบรียลพึมพำ แล้วหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาอ่าน
    กาเบรียล สาวน้อยอัจฉริยะอายุ 16 ปี เธอเรียนอยู่ที่มหาลัย ชื่อดังในอังกฤษ เธอเป็นเด็กที่จัดว่าน่ารักคนหนึ่งทีเดียว แต่ว่าเธอมักจะสวมแว่นตา ผูกผมซะเรียบตึง ดูเป็นเด็กที่บ้าเรียนมาก แม้ในคณะที่เธอเรียนจะสอนมากเท่าไหร่ก็ตาม เธอก็มักจะหาความรู้อื่นเพิ่มเติมเสมอๆ เธอเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ แต่เธอก็สนใจที่จะเรียนประวัติศาสตร์ควบคู่ไปด้วย ทำให้เธอเป็นที่สนใจของคนหลายๆ คน และแน่นอนว่าเธอย่อมมีคนที่อิจฉาเธอไม่น้อยเช่นกัน
    “กาเบรียล กาเบรียล” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ทำให้ผู้ที่ถูกเรียกหันมามอง
    “อ่าว! เรย์” กาเบรียลหันมามองผู้ที่เรียกเธอ “มีอะไรเหรอ” เรย์ที่วิ่งตามมาหยุดหอบแฮ่ก อยู่ตรงหน้ากาเบรียลพักหนึ่งจึงพูดได้
    “นึกว่าจะตามมาไม่ทันซะแล้ว ขอโทษทีนะ พอดีผมคุยกับอาจารย์อยู่” เรย์พูดขอโทษกาเบรียล แต่ทว่าเธอส่ายหน้า “โธ่! กาเบรียลผมไม่ได้ตั้งใจผิดนัดคุณนะ” เรย์พูดเสียงค่อนข้างดังทีเดียว
    “อะไรกัน ฉันไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย อย่าเสียงดังสิ ฉันอายคนเป็นเหมือนกันนะฉันไม่เหมือนคุณซักหน่อย” กาเบรียลพูดท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปในห้องสมุดของมหาลัย เรย์จึงเดินตามเข้าไป
    เรย์ หนุ่มชาวอังกฤษ เค้าเป็นคนที่ดังมากคนหนึ่งในมหาลัย แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเค้า เรย์อายุ 20 ปี  เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์ ทำอะไรก็มักจะเป็นข่าวดังของมหาลัยเสมอ แม้กระทั่งเรื่องที่เค้ากำลังตามจีบกาเบรียลก็เช่นกัน
    กาเบรียลเดินเข้ามายังหนังสือหมวดประวัติศาสตร์ เธอมองชื่อหนังสือไล่มาเรื่อยจนกระทั่งเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เธอเอื้อมมือไปหยิบ แต่ทว่ามันสูงเกินที่เธอจะเอื้อมไปถึง พอดีกับที่มีมือหนึ่งดึงหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นหนังสือตัดหน้ากาเบรียลไป เธอหันไปมองเค้าทันที
    “นี่คุณ หนังสือเล่มนี้ฉันเจอก่อนนะ” กาเบรียลพูดอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มหันมามองตามเสียง เค้าพูดภาษาแปลกๆ กาเบรียลมองเค้างงๆ พยายามจะฟังว่าเค้าพูดภาษาอะไร ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างหมดความหวัง แล้วยื่นหนังสือเล่มนั้นให้กาเบรียล
    “ขอโทษครับ” เค้าบอกกับกาเบรียล แล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
    ‘พูดภาษาอังกฤษก็พูดได้นี่นา ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรกนะ’ กาเบรียลมองตามเค้าไป แล้วจู่ๆ ก็มีมือมาจับไหล่เธอ ทำเอาเธอสะดุ้ง “เรย์ ตกใจหมดเลย” กาเบรียลถอนหายใจ
    “มีอะไรเหรอ กาเบรียล” เรย์ถามเสียงเบา เธอส่ายหน้า จนแว่นตาที่ใส่เลื่อนหลุดลงมา เรย์มองเธอแล้วหัวเราะเบาๆ “ผมได้หนังสือที่คุณหาแล้วล่ะ” เรย์ยื่นหนังสือให้เธออีกเล่ม กาเบรียลยิ้ม
    “ขอบคุณมากนะ เรย์” กาเบรียลเดินมาที่โต๊ะบรรณารักษ์ แล้วเดินออกไปจากห้องสมุดพร้อมกับเรย์ด้วยความรู้สึกที่ยังติดค้างภายในใจ หล่อนอยากเจอเค้าอีกซักครั้ง
กาเบรียลกลับมาที่บ้านเธอรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องแล้วอ่านหนังสือเล่มนั้นทันที
                                                ตำนานความลึกลับของมหานครที่สาบสูญ
   
    จากตำนานที่เล่าขานมาแต่โบราณ แอตแลนติส เป็นมหาอาณาจักรในอดีตกาลที่เจริญรุ่งเรืองทั้งทรัพย์สินและปัญญา วิทยาการต่างๆ เจริญก้าวหน้าถึงขีดสุดเป็นชาติมหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือดินแดนต่างๆ รอบข้าง มีวัฒนธรรมที่เป็นแม่แบบแห่งศิลปะ และวิทยาการเกือบทุกสาขา
    แต่ในที่สุด มหาอาณาจักรที่รุ่งเรื่องและยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ ได้สูญสลายไปเพราะภัยธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด เกาะแอตแลนติสทั้งเกาะจมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ความเจริญรุ่งเรืองและวิวัฒนาการอันสุดยอดของมนุษยชาติ ถูกกลืนหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
    กวีชาวโรมันนามว่า โอวิด ได้เขียนไว้เกี่ยวกับน้ำท่วมใหญ่ และเขียนพงศาวดารสือต่อจากเพลโตว่า
    ครั้งหนึ่งที่มีความเลวร้ายขึ้นบนโลก จนพระเจ้าผู้พิพากษาหนีไปสู่สวรรค์ และกษัตริย์แห่งทวยเทพตัดสินพระทัยจะหยุดยั้งเผ่าพงศ์ของมนุษย์... ความพิโรธของพระพฤหัสบดีมิได้จำกัดอยู่กับขอบเขตท้องฟ้าของพระองค์เท่านั้น พระสมุทรได้ส่งคลื่นมาช่วย พระสมุทรฟาดทวนสามง่ามลงมายังโลก ทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน... ไม่ช้าก็ไม่มีดินแดนจากทะเลใต้พื้นน้ำ พรายน้ำนามว่า เรไยเดส จ้องไปยังป่าไม้ บ้านเรือน และในเมืองด้วยความพิศวง มนุษย์ดับสูญไปเกือบทั้งหมด เพราะไม่มีอากาศ ทำให้ตายด้วยความหิว
    ศาสตราจารย์เอ็น.เอส. เวตชินกินแห่งรัสเซีย มีคำตอบแก่ปริศนาเรื่องแอตแลนติส และการเกิดน้ำท่วมโลกว่า “การมีอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงมาเป็นสาเหตุให้เกิดการทำลายล้างแอตแลนติส ก้อนอุกกาบาตขนาดมหึมาเหล่านั้น เราเห็นได้ชัดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ มีปล่องหลุมดังกล่าวที่มีเส้นผ่านศุนย์กลางสองร้อยกิโลเมตร ขณะที่บนโลกมีขนาดกว้างเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้น เมื่อตกลงสู่ท้องทะเล อุกกาบาตขนาดยักษ์จะก่อให้เกิดคลื่น ที่ไม่เพียงแต่ซัดกวาดอาณาจักรสัตว์และพืชเท่านั้น หากยังกวาดภูเขาต่างๆ ด้วย”
    กาเบรียลปิดหนังสือทันที เธอเดินเอื่อยๆ ลงไปนอนบนเตียง
    “ไร้สาระจริงๆ ตำนานก็คือตำนานล่ะนะ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ไม่เห็นจะมีหลักฐานที่บ่งชี้แน่ชัดเลย นอกจากตำนาน เรื่องเล่า” กาเบรียลพึมพำ แล้วหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาอ่าน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น