ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1 การพบกัน
~~~~~~12 ปีต่อมา ~~~~~~
“แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยโว้ย” องค์ชายราฟาเอล หรือ องค์ชายราล์ฟยืนเท้าแขนกับต้นไม้พลางมองทัศนียภาพรอบๆ
ที่เต็มไปด้วยต้นแอปเปิ้ลที่ขึ้นตามธรรมชาติ พร้อมนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้
ที่เค้าแอบหนีออกมาจากพระราชวัง ก็ในนั้นมันออกจะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรสนุกๆให้เล่นเลย
“องค์ชายพะย่ะค่ะ องค์ชาย เสด็จไปไหนพะย่ะค่ะ” ทหารคนสนิทขององค์ชายราล์ฟ
ตะโกนเรียกหาองค์ชายที่พอเค้าเผลอก็แว๊บหายไปไหนก็ไม่รู้ เดือดร้อนเค้าที่ต้องออกมาตามหา
“ข้าอยู่นี่เอมอส” องค์ชายโผล่หน้าออกมาจากต้นไม้ใหญ่ พลางยิ้มอย่างมีความสุข
“เฮ้อ” ทหารคนสนิทถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเจอองค์ชาย
“~อารายกาน~ เอมอสแค่นี้ต้องถอนหายใจด้วยหรือ” องค์ชายแสนเจ้าเล่ห์ ลากเสียงยานคางล้อทหารคนสนิท
“ก็องค์ชายเล่นหายออกมาแบบนี้ กระหม่อมก็ตกใจสิพะย่ะค่ะ” เอมอสพูดด้วยปากที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
จากความเอ็นดูองค์ชายราล์ฟ หรือ แอนโตนิโอ ราฟาเอล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ แอนโตนิโอ โรฮาน ราชาผู้ครองเมืองเวล์ส
“ก็ในวังมีแต่อะไร น่าเบื่อๆนี่ หรือเจ้าไม่เบื่อ” องค์ชายราล์ฟถามพลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก
เอมอสผู้ซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์ แอนโตนิโอ
เอมอสผู้มีระเบียบ เอมอสผู้เคร่งครัด หลายคนคิดอย่างนั้น แม้แต่ตัวเค้าเองก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน
ถ้าไม่ใช่คืนวันนั้นที่เค้าดันไปเห็นทหารคนสนิทออกไปท่องเที่ยวในยามวิกาลเหมือนกับเป็นเอมอสคนละคน
ตั้งแต่นั้นมาเค้าก็เลิกคิดแบบที่หลายคนคิด คิดพลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้ทหารคนสนิท
“ข้าก็บอกท่านแล้วองค์ชาย ข้าเพียงแต่ออกไปทำงานเท่านั้น” พูดพลางพยายามหลบสายตาล้อเลียนของอีกฝ่าย
อันที่จริงเค้าก็เครียดมาทั้งวันเลยออกไปนั่งจิบเบียร์ แต่องค์ชายราล์ฟนี่สิดันไปเห็นตอนพนักงานเสิร์ฟล้มทับเขา
พูดเท่าไรองค์ชายก็ไม่ฟัง
“วันนี้จะไปไหนดีเอมอส เจ้าคงไม่บังคับข้ากลับวังหรอกนะ” องค์ชายราล์ฟทำประกายตาวิบวับ
นานๆเค้าจะหนีออกมาเที่ยวได้ทั้งที ถ้าถูกบังคับกลับคงเสียใจแย่ ส่วนปกติเค้าก็ถูกบังคับให้เรียน
ฝึกการต่อสู้ เพราะเป็นองค์รัชทายาทคนเดียวของราชาโรฮาน เพราะท่านแม่เสียไปตั้งแต่เค้าเกิดมาได้แค่สามปี
และด้วยความที่ท่านพ่อรักท่านแม่มาก ท่านจึงไม่แต่งงานกับคนอื่นอีก แม้ท่านแม่จะเสียไปนานแล้วก็ตาม
และด้วยเหตุนี้เค้าจึงต้องเป็นองค์รัชทายาทไปโดยปริยาย เพราะท่านพ่อไม่สนใจหญิงอื่นนอกจากท่านแม่
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านพ่อจะมีลูกอีกคน
“แล้วแต่องค์ชายเถอะครับ” เพราะถึงยังไงพอข้าบังคับท่านกลับวัง ท่านก็หนีออกมาใหม่อยู่ดี
สู้ตามท่านไปแล้วพอถึงเวลาค่อยบอกท่านให้กลับจะดีกว่า
“ข้าอยากไปที่ตลาด เจ้าคิดว่าไง” พูดแล้วหันไปขอความเห็นกับทหารคนสนิท
“ตามใจองค์ชายเถอะขอรับ แต่ก่อนอื่นกระหม่อมว่า เราควรหาทางออกจากที่นี่ก่อนดีกว่าพะย่ะค่ะ”
เอมอสพูดพลางมองหาทางออก แต่มองไปทางไหนก็เห็นเพียงต้นแอปเปิ้ล
“ข้าว่าเราเดินไปทางนู้นดีกว่า ดูเหมือนหญ้าจะถูกลุยเป็นทางเอาไว้” องค์ชายราล์ฟพูดพลางชี้ไปที่แนวทางยาว
ของต้นหญ้าที่ราบไปเหมือนจะมีคนเดินผ่านบ่อยๆ ทั้งราล์ฟและเอมอสเดินทางผ่านทางนั้นไป
เดินไปเรื่อยๆจนถึงตอนนี้แดดเริ่มร่มขึ้นแล้ว
“โอ้ย ข้าเมื่อยแล้วนะเอมอส” องค์ชายราล์ฟบ่นออกมาอย่างเหลืออด
‘ส่วนบ้าอะไรฟ่ะเนี่ย!!! ยาวชะมัดเดินมาตั้งนานแล้วนะเนี่ย’
“กรอบแกรบ กรอบแกรบ”
“เอ๊ะ เสียงนั่นองค์ชายพะย่ะค่ะ” เอมอสทำหน้าตื่นแล้วเรียก องค์ชายราล์ฟที่นั่งหลับตาพิงต้นไม้อยู่
“ฮึ มีอะไรเอมอส” องค์ชายราล์ฟรี่ตามองทหารคนสนิทก่อนนิดนึงแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
“กระหม่อมได้ยินเสียงอะไรสักอย่างพะย่ะค่ะ จากทางนู้น” เอมอสชี้มือไปทางแถบที่พื้นเป็นหญ้ารกอยู่
องค์ชายราล์ฟลืมตาขึ้นมามองตามที่เอมอสชี้ พยายามเพ่งมองหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียง
“งั้นข้าว่าเราไปดทางนู้นดีกว่า” องค์ชาบราล์ฟลุกขึ้นยืนเดินตรงไปอย่างเงียบเชียบ
“อ้อ อีกอย่างนะเอมอส เรียกข้าว่าราล์ฟเฉยๆก็พอ ข้าไม่อยากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าชาย”
องค์ชายราล์ฟหันกลับมาแล้วบอกเหมือนว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ เอมอสพยักหน้ารับเล็กน้อย
องค์ชายจึงหันกลับแล้วเดินติอไปอย่างเงียบเชียบ เผื่อว่าเป็นงูหรือสัตว์มีพิษขึ้นมาจะได้ไหวตัวทัน
      เด็กนุ่มสูงโปร่งผู้มีผมสีน้ำตาลเข็มสีเดียวกับนัยน์ตาที่ดูลึกลับ ภายในชุดเสื้อหนังสีดำผ่าคอเสื้อลงมา
เข้ากับกางเกงสีดำที่มีโซ่ห้อยต้องกับแสงแดดยามบ่าย ไม้กางเขนที่ห้อยอยูที่คอเหมือนกับต่างหูที่ใส่ข้างซ้ายข้างเดียว
“ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมไม่เก็บลูกที่อยู่สูงๆก่อนนะลำบากข้าอีก” เด็กหนุ่มยืนบ่นอยู่คนเดียว
แหงนหน้ามองลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดที่อยู่สูงเกินที่จะเอื้อม
“เสียเวลาให้ข้าต้องเหนื่อยเก็บอีก เกิดเสียงดังขึ้นมาข้าก็ซวยละสิ” เด็กหนุ่มยังคงพูดอยู่คนเดียวต่อไป
เดินวนไปมาอยู่สักพัก ไม่ได้รู้สึกถึงการมาของคนอื่นเลย เมื่อหาจุดที่เหมาะๆได้แล้วเด็กหนุ่มก็กระโดด
ขึ้นไปเก็บแอปเปิ้ลแล้วกลับลงมาที่พื้นอย่างเงียบเชียบและปลอดภัยไร้รอยขีดขวนพร้อมกับลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดในมือ
“ฮึ แล้วคิดหรอว่าข้าจะเก็บไม่ได้” เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างถูกใจพลางเช็ดผลแอปเปิ้ลกับเสื้อ
“แปะ แปะ แปะ โห นายทำอย่างนั้นได้ไงอ่ะ กระโดดได้สูงมากเลยอะ”
เสียงพูดดังมาจากทางขวาของเด็กหนุ่มทำให้มือที่เช็ดแอปเปิ้ลอยู่หยุดลงแล้วหันไปมองทางต้นเสียง
ปรากฏให้เห็นร่างเด็กหนุ่มอีกคนกับชายอีกหนึ่งคน
“นายเป็นใคร แล้วมาได้ไง” เด็กหนุ่มที่ถือแอปเปิ้ลถามกลับไป สายตาระแวดระวัง
มองรอบตัวหาทางหนีเพราะถ้าเผื่อเป็นลูกชายเจ้าของสวนเขาก็ซวยนะสิ แต่ เอ๊ะ ป้ามาเรียไม่มีลูกชายนิ
“ไม่ต้องห่วงข้าแค่ผ่านมาเท่านั้น แล้วก็บังเอิญเห็นเจ้าน่ะ  ข้าชื่อ แอนโตนิโอ  ราฟาเอล”
เด็กหนุ่มอีกคนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพร้อมกับยื่นมือออกไป เด็หนุ่มที่ถือแอปเปิ้ลมองอย่างลังเลสักแป้บ ก่อนจะยื่นมือไปจับ
“ข้าชื่อ แองเจโล่ โดมินิค” ยื่นมือออกไปจับ พลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“อ้อ เกือบลืมแนะนำอีกคน นี่ เอมอส    อะ เอ่อ เป็น เป็น น้าชายข้าน่ะ” ราล์ฟพูดพร้อมดึงให้เอมอสมายืนข้างๆตน
“อือๆ ยินดีที่ได้รู่จัก แล้วเจ้ามาจากไหนละ ถึงมาอยู่ในสวนของป้ามาเรียได้” โดมินิคพูดพลางกัดแอปเปิ้ลเข้าปาก
“อ้อ อะ ขะ ข้า มาจากอีกฟากของแม่น้ำน่ะ ไม่เคยมาก็เลยหลงมาที่นี่” ราล์ฟตอบอย่างอึกอัก
เค้าไม่สามารถเปิดเผยฐานะที่แท้จริงได้ว่าเป็นถึงเจ้าชายของเมือง เพราะอาจเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตได้
“อืม งั้นเจ้าจะไปไหนละข้าจะพาไป หรือเจ้าจะข้ามกลับไปอีกฝั่งที่เป็นบ้านเจ้า”
โดมินิคยักคิ้วขึ้นข้างนึงเป็นคำถาม พร้อมกับกัดแอปเปิ้ลไปพลางๆ รออีกสองคนที่มองหน้ากันว่าจะเอายังไง
“อืม... ข้าอยากไปเดินเล่นต่ออีกหน่อยน่ะ เจ้าจะพาข้าไปที่ตลาดที่ได้ไหม” ราล์ฟถาม
จ้องหน้าอีกคนที่ยังคงกัดแอปเปิ้ลลูกเดิมอยู่
“ได้ ข้าพาไปได้อยู่แล้ว แถวนี้ข้ารู้จักดี” โดมินิคหันหลังกลับ โยนเศษแอปเปิ้ลที่เหลือแต่ซากทิ้งไป
แต่แล้วก็ต้องหยุดหันกลับมามองคนข้างหลัง
“เอ้า จะไปไหม” หันมาถามพลางพยักเพยิดไปทางข้างหน้า ประมาณว่าจะเดินไปทางนั้นจะไปมั้ย
“ก็แล้วแต่ท่าน เอ่อ ราล์ฟแล้วกัน” เอมอสพูดพลางพยักหน้าให้องค์ชายราล์ฟ
“งั้นก็ตามข้ามา เบาๆด้วยละ” โดมินิคพูด เดินอย่างเงียบเชียบตรงไปทางเดิน รอบข้างรายล้อมไปด้วยต้นแอบเปิ้ลที่มีลูกสีแดงสดขึ้นแซมตัดกับใบไม้สีเขียวชอุ่ม
ทั้งสามคนค่อยๆเดินไป จนผ่านรั่วไม้ที่มีป้ายแกะสลักจากไม้สวยงามปักไว้ มีใจความว่า Maria’s Garden ทัศนียภาพข้าง
นอกนั้นไม่ค่อยเหมือนข้างในสวนสักเท่าใหร่นักทางเดินคดเคี้ยวเลียบริมลำธารไปสองข้างทางมีต้นไม้
ดอกไม้นานาพรรณส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งป่าดอกไม้ป่าสีสันสดใสหลากสีตัดกับสีเขียวของใบไม้
ต้นไม้ใหญ่ขึ้นข้างทางแผ่กิ่งก้านสาขาบดบังแสงแดดโค้งงอเป็นทางไปตามทางเดินอย่างสวยงาม
เสียงสายน้ำไหลเอื้อยๆกับเสียงธรรมชาติช่างเป็นสิ่งที่น่าดูนัก โดมินิคยังคงพาราล์ฟเดินและเอมอสเดินต่อไปเรื่อยๆ
“อีกนานมั้ย” ราล์ฟถามพยายามเดินเร็วขึ้นเพื่อตามให้ทันโดมินิคที่เดินค่อนข้างเร็ว
“ถึงแล้วละ” โดมินิคชี้มือไปทางลานหินกว้างที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง สายน้ำพุพุ่งพวยออกมาจากรูปปั้นราชสีห์
สายน้ำต้องสะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายคล้อย ผู้คนแต่งตัวหลากสีสันเดินขวักไขวกันไปมาบนลานหินกว้าง บ้างก็ยิ้ม
บ้างก็ทักทายกัน ทุกคนต่างเดินเลือกดูของตามร้านที่พ่อค้าแม่ค้านั่งขายกันอยู่ มีทั้งผลไม้ ผัก ของประดับเสื้อผ้าหลากสีสัน
หรือ แม้กระทั่งอาวุธสงคราม
“นี่แหละ ตลาดยามบ่ายคนก็เลยเยอะอย่างที่เห็น”
“อืม เยอะจริงๆน่ะแหละ” ราล์ฟพูดพลางมองไปรอบๆ
“แยกกันตรงนี้นะ คือ...ข้ามีธธุระน่ะ” อยู่ๆโดมินิคก็พูดขึ้นมาพลางหันมาทางราล์ฟ
อันที่จริงธุระของเค้าคือต้องรีบไปทำงานพิเศษแต่เค้าเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกละเอียดขนาดนั้นจึงบอกไปแค่ว่ามีธุระ
“เอ่อไม่เป็นรัย ขอบใจที่นำทางให้นะ” ราล์ฟตอบกลับไป และโดมินิคหันหลังกำลังจะเดินจากไปแต่หันกลับมา
เหมือนจะลืมอะไรและพูดกลับราล์ฟว่า
“เอ้อ ลืมไป ท่าเรือข้ามฝั่งไปบ้านเจ้าอยู่สุดตลาดโน่นน่ะ” พูดพลางหันกลับมาชี้ให้ราล์ฟและเอมอสดู
ฝ่ายราล์ฟก็พยักหน้าเข้าใจ โดมินิคจึงหันหลังแล้ววิ่งหายลับไปกับฝูงชน
ฝ่ายราล์ฟเมื่อเห็นโดมินนิคหายเข้าไปกับฝูงชนแล้วก็หันมาหาทหารคนสนิทที่ยืนนิ่งมาตั้งแต่เมื่อกี้
“นี่เอมอส เจ้าว่าข้าจะเริ่มต้นเดินที่ไหนก่อนดี” พูดพลางสะกิดไปด้วยเหมือนว่าเอมอสกำลังเหมื่อลอยอยู่ทั้งๆที่ไม่ใช่เลย
“แล้วแต่องค์ชายเทิดพะย่ะค่ะ” พูดตอบกลับไป
“นี่เอมอส ข้าบอกว่าให้เรียกข้าว่าราล์ฟเฉยๆก็พอไม่ต้องมียศบ้าอะไรนั่น” พูดเพื่อย้ำทหารคนสนิท
“ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยก็เถอะแต่ที่นี่นอกวังไม่ต้องพิธีรีตองก็ได้ รึเจ้าทำไม่เป็น” พูดเสร็จก็ส่งสายตากวนๆให้เอมอสตบท้าย
“ข้าทำเป็นอยู่แล้ว พะ” เอมอสพูดก่อนจะนึกขึ้นได้
“555 ขนาดเจ้าบอกว่าเจ้าทำได้ เจ้ายังหลุดออกมาตั้งพยางค์หนึ่งแนะ” ราล์ฟพูดหันไปทำตาล้อเลียนใส่เอมอส
“เอ้อ สรุปจะไปที่ไหนกันดี ข้าว่าร้านนั้นน่าสนใจดีเจ้าว่าไหม” ราล์ฟชี้ไปทางร้านขายดาบแห่งหนึ่ง เอมอสมองตามทิศทางที่ราล์ฟชี้ไป
“ก็น่าสนใจดีตามที่ ทะ ราล์ฟพูดน่ะแหละ” พูดแล้วหันกลับมามองราล์ฟที่เดินนำไปแล้ว แล้วเดินตามราล์ฟตรงไปยังร้านขายดาบที่ว่า
.........................................
จบ 100% แล้วนะขอรับ
“แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยโว้ย” องค์ชายราฟาเอล หรือ องค์ชายราล์ฟยืนเท้าแขนกับต้นไม้พลางมองทัศนียภาพรอบๆ
ที่เต็มไปด้วยต้นแอปเปิ้ลที่ขึ้นตามธรรมชาติ พร้อมนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้
ที่เค้าแอบหนีออกมาจากพระราชวัง ก็ในนั้นมันออกจะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรสนุกๆให้เล่นเลย
“องค์ชายพะย่ะค่ะ องค์ชาย เสด็จไปไหนพะย่ะค่ะ” ทหารคนสนิทขององค์ชายราล์ฟ
ตะโกนเรียกหาองค์ชายที่พอเค้าเผลอก็แว๊บหายไปไหนก็ไม่รู้ เดือดร้อนเค้าที่ต้องออกมาตามหา
“ข้าอยู่นี่เอมอส” องค์ชายโผล่หน้าออกมาจากต้นไม้ใหญ่ พลางยิ้มอย่างมีความสุข
“เฮ้อ” ทหารคนสนิทถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเจอองค์ชาย
“~อารายกาน~ เอมอสแค่นี้ต้องถอนหายใจด้วยหรือ” องค์ชายแสนเจ้าเล่ห์ ลากเสียงยานคางล้อทหารคนสนิท
“ก็องค์ชายเล่นหายออกมาแบบนี้ กระหม่อมก็ตกใจสิพะย่ะค่ะ” เอมอสพูดด้วยปากที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
จากความเอ็นดูองค์ชายราล์ฟ หรือ แอนโตนิโอ ราฟาเอล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ แอนโตนิโอ โรฮาน ราชาผู้ครองเมืองเวล์ส
“ก็ในวังมีแต่อะไร น่าเบื่อๆนี่ หรือเจ้าไม่เบื่อ” องค์ชายราล์ฟถามพลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก
เอมอสผู้ซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์ แอนโตนิโอ
เอมอสผู้มีระเบียบ เอมอสผู้เคร่งครัด หลายคนคิดอย่างนั้น แม้แต่ตัวเค้าเองก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน
ถ้าไม่ใช่คืนวันนั้นที่เค้าดันไปเห็นทหารคนสนิทออกไปท่องเที่ยวในยามวิกาลเหมือนกับเป็นเอมอสคนละคน
ตั้งแต่นั้นมาเค้าก็เลิกคิดแบบที่หลายคนคิด คิดพลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้ทหารคนสนิท
“ข้าก็บอกท่านแล้วองค์ชาย ข้าเพียงแต่ออกไปทำงานเท่านั้น” พูดพลางพยายามหลบสายตาล้อเลียนของอีกฝ่าย
อันที่จริงเค้าก็เครียดมาทั้งวันเลยออกไปนั่งจิบเบียร์ แต่องค์ชายราล์ฟนี่สิดันไปเห็นตอนพนักงานเสิร์ฟล้มทับเขา
พูดเท่าไรองค์ชายก็ไม่ฟัง
“วันนี้จะไปไหนดีเอมอส เจ้าคงไม่บังคับข้ากลับวังหรอกนะ” องค์ชายราล์ฟทำประกายตาวิบวับ
นานๆเค้าจะหนีออกมาเที่ยวได้ทั้งที ถ้าถูกบังคับกลับคงเสียใจแย่ ส่วนปกติเค้าก็ถูกบังคับให้เรียน
ฝึกการต่อสู้ เพราะเป็นองค์รัชทายาทคนเดียวของราชาโรฮาน เพราะท่านแม่เสียไปตั้งแต่เค้าเกิดมาได้แค่สามปี
และด้วยความที่ท่านพ่อรักท่านแม่มาก ท่านจึงไม่แต่งงานกับคนอื่นอีก แม้ท่านแม่จะเสียไปนานแล้วก็ตาม
และด้วยเหตุนี้เค้าจึงต้องเป็นองค์รัชทายาทไปโดยปริยาย เพราะท่านพ่อไม่สนใจหญิงอื่นนอกจากท่านแม่
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านพ่อจะมีลูกอีกคน
“แล้วแต่องค์ชายเถอะครับ” เพราะถึงยังไงพอข้าบังคับท่านกลับวัง ท่านก็หนีออกมาใหม่อยู่ดี
สู้ตามท่านไปแล้วพอถึงเวลาค่อยบอกท่านให้กลับจะดีกว่า
“ข้าอยากไปที่ตลาด เจ้าคิดว่าไง” พูดแล้วหันไปขอความเห็นกับทหารคนสนิท
“ตามใจองค์ชายเถอะขอรับ แต่ก่อนอื่นกระหม่อมว่า เราควรหาทางออกจากที่นี่ก่อนดีกว่าพะย่ะค่ะ”
เอมอสพูดพลางมองหาทางออก แต่มองไปทางไหนก็เห็นเพียงต้นแอปเปิ้ล
“ข้าว่าเราเดินไปทางนู้นดีกว่า ดูเหมือนหญ้าจะถูกลุยเป็นทางเอาไว้” องค์ชายราล์ฟพูดพลางชี้ไปที่แนวทางยาว
ของต้นหญ้าที่ราบไปเหมือนจะมีคนเดินผ่านบ่อยๆ ทั้งราล์ฟและเอมอสเดินทางผ่านทางนั้นไป
เดินไปเรื่อยๆจนถึงตอนนี้แดดเริ่มร่มขึ้นแล้ว
“โอ้ย ข้าเมื่อยแล้วนะเอมอส” องค์ชายราล์ฟบ่นออกมาอย่างเหลืออด
‘ส่วนบ้าอะไรฟ่ะเนี่ย!!! ยาวชะมัดเดินมาตั้งนานแล้วนะเนี่ย’
“กรอบแกรบ กรอบแกรบ”
“เอ๊ะ เสียงนั่นองค์ชายพะย่ะค่ะ” เอมอสทำหน้าตื่นแล้วเรียก องค์ชายราล์ฟที่นั่งหลับตาพิงต้นไม้อยู่
“ฮึ มีอะไรเอมอส” องค์ชายราล์ฟรี่ตามองทหารคนสนิทก่อนนิดนึงแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
“กระหม่อมได้ยินเสียงอะไรสักอย่างพะย่ะค่ะ จากทางนู้น” เอมอสชี้มือไปทางแถบที่พื้นเป็นหญ้ารกอยู่
องค์ชายราล์ฟลืมตาขึ้นมามองตามที่เอมอสชี้ พยายามเพ่งมองหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียง
“งั้นข้าว่าเราไปดทางนู้นดีกว่า” องค์ชาบราล์ฟลุกขึ้นยืนเดินตรงไปอย่างเงียบเชียบ
“อ้อ อีกอย่างนะเอมอส เรียกข้าว่าราล์ฟเฉยๆก็พอ ข้าไม่อยากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าชาย”
องค์ชายราล์ฟหันกลับมาแล้วบอกเหมือนว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ เอมอสพยักหน้ารับเล็กน้อย
องค์ชายจึงหันกลับแล้วเดินติอไปอย่างเงียบเชียบ เผื่อว่าเป็นงูหรือสัตว์มีพิษขึ้นมาจะได้ไหวตัวทัน
      เด็กนุ่มสูงโปร่งผู้มีผมสีน้ำตาลเข็มสีเดียวกับนัยน์ตาที่ดูลึกลับ ภายในชุดเสื้อหนังสีดำผ่าคอเสื้อลงมา
เข้ากับกางเกงสีดำที่มีโซ่ห้อยต้องกับแสงแดดยามบ่าย ไม้กางเขนที่ห้อยอยูที่คอเหมือนกับต่างหูที่ใส่ข้างซ้ายข้างเดียว
“ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมไม่เก็บลูกที่อยู่สูงๆก่อนนะลำบากข้าอีก” เด็กหนุ่มยืนบ่นอยู่คนเดียว
แหงนหน้ามองลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดที่อยู่สูงเกินที่จะเอื้อม
“เสียเวลาให้ข้าต้องเหนื่อยเก็บอีก เกิดเสียงดังขึ้นมาข้าก็ซวยละสิ” เด็กหนุ่มยังคงพูดอยู่คนเดียวต่อไป
เดินวนไปมาอยู่สักพัก ไม่ได้รู้สึกถึงการมาของคนอื่นเลย เมื่อหาจุดที่เหมาะๆได้แล้วเด็กหนุ่มก็กระโดด
ขึ้นไปเก็บแอปเปิ้ลแล้วกลับลงมาที่พื้นอย่างเงียบเชียบและปลอดภัยไร้รอยขีดขวนพร้อมกับลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดในมือ
“ฮึ แล้วคิดหรอว่าข้าจะเก็บไม่ได้” เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างถูกใจพลางเช็ดผลแอปเปิ้ลกับเสื้อ
“แปะ แปะ แปะ โห นายทำอย่างนั้นได้ไงอ่ะ กระโดดได้สูงมากเลยอะ”
เสียงพูดดังมาจากทางขวาของเด็กหนุ่มทำให้มือที่เช็ดแอปเปิ้ลอยู่หยุดลงแล้วหันไปมองทางต้นเสียง
ปรากฏให้เห็นร่างเด็กหนุ่มอีกคนกับชายอีกหนึ่งคน
“นายเป็นใคร แล้วมาได้ไง” เด็กหนุ่มที่ถือแอปเปิ้ลถามกลับไป สายตาระแวดระวัง
มองรอบตัวหาทางหนีเพราะถ้าเผื่อเป็นลูกชายเจ้าของสวนเขาก็ซวยนะสิ แต่ เอ๊ะ ป้ามาเรียไม่มีลูกชายนิ
“ไม่ต้องห่วงข้าแค่ผ่านมาเท่านั้น แล้วก็บังเอิญเห็นเจ้าน่ะ  ข้าชื่อ แอนโตนิโอ  ราฟาเอล”
เด็กหนุ่มอีกคนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพร้อมกับยื่นมือออกไป เด็หนุ่มที่ถือแอปเปิ้ลมองอย่างลังเลสักแป้บ ก่อนจะยื่นมือไปจับ
“ข้าชื่อ แองเจโล่ โดมินิค” ยื่นมือออกไปจับ พลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“อ้อ เกือบลืมแนะนำอีกคน นี่ เอมอส    อะ เอ่อ เป็น เป็น น้าชายข้าน่ะ” ราล์ฟพูดพร้อมดึงให้เอมอสมายืนข้างๆตน
“อือๆ ยินดีที่ได้รู่จัก แล้วเจ้ามาจากไหนละ ถึงมาอยู่ในสวนของป้ามาเรียได้” โดมินิคพูดพลางกัดแอปเปิ้ลเข้าปาก
“อ้อ อะ ขะ ข้า มาจากอีกฟากของแม่น้ำน่ะ ไม่เคยมาก็เลยหลงมาที่นี่” ราล์ฟตอบอย่างอึกอัก
เค้าไม่สามารถเปิดเผยฐานะที่แท้จริงได้ว่าเป็นถึงเจ้าชายของเมือง เพราะอาจเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตได้
“อืม งั้นเจ้าจะไปไหนละข้าจะพาไป หรือเจ้าจะข้ามกลับไปอีกฝั่งที่เป็นบ้านเจ้า”
โดมินิคยักคิ้วขึ้นข้างนึงเป็นคำถาม พร้อมกับกัดแอปเปิ้ลไปพลางๆ รออีกสองคนที่มองหน้ากันว่าจะเอายังไง
“อืม... ข้าอยากไปเดินเล่นต่ออีกหน่อยน่ะ เจ้าจะพาข้าไปที่ตลาดที่ได้ไหม” ราล์ฟถาม
จ้องหน้าอีกคนที่ยังคงกัดแอปเปิ้ลลูกเดิมอยู่
“ได้ ข้าพาไปได้อยู่แล้ว แถวนี้ข้ารู้จักดี” โดมินิคหันหลังกลับ โยนเศษแอปเปิ้ลที่เหลือแต่ซากทิ้งไป
แต่แล้วก็ต้องหยุดหันกลับมามองคนข้างหลัง
“เอ้า จะไปไหม” หันมาถามพลางพยักเพยิดไปทางข้างหน้า ประมาณว่าจะเดินไปทางนั้นจะไปมั้ย
“ก็แล้วแต่ท่าน เอ่อ ราล์ฟแล้วกัน” เอมอสพูดพลางพยักหน้าให้องค์ชายราล์ฟ
“งั้นก็ตามข้ามา เบาๆด้วยละ” โดมินิคพูด เดินอย่างเงียบเชียบตรงไปทางเดิน รอบข้างรายล้อมไปด้วยต้นแอบเปิ้ลที่มีลูกสีแดงสดขึ้นแซมตัดกับใบไม้สีเขียวชอุ่ม
ทั้งสามคนค่อยๆเดินไป จนผ่านรั่วไม้ที่มีป้ายแกะสลักจากไม้สวยงามปักไว้ มีใจความว่า Maria’s Garden ทัศนียภาพข้าง
นอกนั้นไม่ค่อยเหมือนข้างในสวนสักเท่าใหร่นักทางเดินคดเคี้ยวเลียบริมลำธารไปสองข้างทางมีต้นไม้
ดอกไม้นานาพรรณส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งป่าดอกไม้ป่าสีสันสดใสหลากสีตัดกับสีเขียวของใบไม้
ต้นไม้ใหญ่ขึ้นข้างทางแผ่กิ่งก้านสาขาบดบังแสงแดดโค้งงอเป็นทางไปตามทางเดินอย่างสวยงาม
เสียงสายน้ำไหลเอื้อยๆกับเสียงธรรมชาติช่างเป็นสิ่งที่น่าดูนัก โดมินิคยังคงพาราล์ฟเดินและเอมอสเดินต่อไปเรื่อยๆ
“อีกนานมั้ย” ราล์ฟถามพยายามเดินเร็วขึ้นเพื่อตามให้ทันโดมินิคที่เดินค่อนข้างเร็ว
“ถึงแล้วละ” โดมินิคชี้มือไปทางลานหินกว้างที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง สายน้ำพุพุ่งพวยออกมาจากรูปปั้นราชสีห์
สายน้ำต้องสะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายคล้อย ผู้คนแต่งตัวหลากสีสันเดินขวักไขวกันไปมาบนลานหินกว้าง บ้างก็ยิ้ม
บ้างก็ทักทายกัน ทุกคนต่างเดินเลือกดูของตามร้านที่พ่อค้าแม่ค้านั่งขายกันอยู่ มีทั้งผลไม้ ผัก ของประดับเสื้อผ้าหลากสีสัน
หรือ แม้กระทั่งอาวุธสงคราม
“นี่แหละ ตลาดยามบ่ายคนก็เลยเยอะอย่างที่เห็น”
“อืม เยอะจริงๆน่ะแหละ” ราล์ฟพูดพลางมองไปรอบๆ
“แยกกันตรงนี้นะ คือ...ข้ามีธธุระน่ะ” อยู่ๆโดมินิคก็พูดขึ้นมาพลางหันมาทางราล์ฟ
อันที่จริงธุระของเค้าคือต้องรีบไปทำงานพิเศษแต่เค้าเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกละเอียดขนาดนั้นจึงบอกไปแค่ว่ามีธุระ
“เอ่อไม่เป็นรัย ขอบใจที่นำทางให้นะ” ราล์ฟตอบกลับไป และโดมินิคหันหลังกำลังจะเดินจากไปแต่หันกลับมา
เหมือนจะลืมอะไรและพูดกลับราล์ฟว่า
“เอ้อ ลืมไป ท่าเรือข้ามฝั่งไปบ้านเจ้าอยู่สุดตลาดโน่นน่ะ” พูดพลางหันกลับมาชี้ให้ราล์ฟและเอมอสดู
ฝ่ายราล์ฟก็พยักหน้าเข้าใจ โดมินิคจึงหันหลังแล้ววิ่งหายลับไปกับฝูงชน
ฝ่ายราล์ฟเมื่อเห็นโดมินนิคหายเข้าไปกับฝูงชนแล้วก็หันมาหาทหารคนสนิทที่ยืนนิ่งมาตั้งแต่เมื่อกี้
“นี่เอมอส เจ้าว่าข้าจะเริ่มต้นเดินที่ไหนก่อนดี” พูดพลางสะกิดไปด้วยเหมือนว่าเอมอสกำลังเหมื่อลอยอยู่ทั้งๆที่ไม่ใช่เลย
“แล้วแต่องค์ชายเทิดพะย่ะค่ะ” พูดตอบกลับไป
“นี่เอมอส ข้าบอกว่าให้เรียกข้าว่าราล์ฟเฉยๆก็พอไม่ต้องมียศบ้าอะไรนั่น” พูดเพื่อย้ำทหารคนสนิท
“ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยก็เถอะแต่ที่นี่นอกวังไม่ต้องพิธีรีตองก็ได้ รึเจ้าทำไม่เป็น” พูดเสร็จก็ส่งสายตากวนๆให้เอมอสตบท้าย
“ข้าทำเป็นอยู่แล้ว พะ” เอมอสพูดก่อนจะนึกขึ้นได้
“555 ขนาดเจ้าบอกว่าเจ้าทำได้ เจ้ายังหลุดออกมาตั้งพยางค์หนึ่งแนะ” ราล์ฟพูดหันไปทำตาล้อเลียนใส่เอมอส
“เอ้อ สรุปจะไปที่ไหนกันดี ข้าว่าร้านนั้นน่าสนใจดีเจ้าว่าไหม” ราล์ฟชี้ไปทางร้านขายดาบแห่งหนึ่ง เอมอสมองตามทิศทางที่ราล์ฟชี้ไป
“ก็น่าสนใจดีตามที่ ทะ ราล์ฟพูดน่ะแหละ” พูดแล้วหันกลับมามองราล์ฟที่เดินนำไปแล้ว แล้วเดินตามราล์ฟตรงไปยังร้านขายดาบที่ว่า
.........................................
จบ 100% แล้วนะขอรับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น