ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 0..จังหวะเต้นครั้งใหม่ของหัวใจที่ให้เธอ..0
          เธอ...อยู่ใกล้ฉันเพียงแค่นี้..เพียงแค่มือฉันเอื้อมถึง....เพียงแค่ลมหายใจอุ่นๆของเธอจะกระทบบนใบหน้าคล้ำๆของฉัน...
                  นั่นสินะ ทั้งๆที่ใกล้แค่นี้เอง..แต่ทำไมน่ะ..ฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอ..อยู่ไกลเหลือเกิน....วันแรกที่ฉันเข้าโรงเรียน...
                                                      นั่นคือวันแรกที่ฉันได้รู้จักกับเธอ..ยังจำได้ไหม??
  ยังจำได้...
    อากาศร้อนๆที่ไมได้เกิดขึ้นจากดวงไฟจากฟ้าสูงนั่น แต่เป็นเพราะผู้คนที่แออัดกันแน่นต่างรุมกันแย่งดูรายชื่อที่แปะเอาไว้ใน
กระดานประกาศแผ่นโตที่ทางโรงเรียนนำมาติดเอาไว้ตั้งแต่ 2 โมงเช้า แต่บันดาผู้เข้าสมักคทั้งหลายกลับพร้อมใจกันมาดู 2 โมงครึ่ง 
  จากมุมมองหนึ่ง..
อาการตื่นเต้นของแต่ละคนถูกบันทึกลงในกล้องดิจิตอลของเด็กผู้หญิงผิวคล้ำผมหยักศกสีดำเข้ม ยาวถึงเอวคอด 
เด็กผู้หญิง?ที่ไม่สนใจต่อสายตาคนรอบข้างที่หันมามองด้วยความสนใจคละแปลกใจ ที่อยู่ๆ เด็กนักเรียนต่างเครื่องแบบคนนี้
ก็หยิบเจ้ากล้องทันสมัยดูมีราคาขึ้นมาส่องชาวบ้าน  ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีอะไรสนใจเลยสักนิด..และแล้ว..อาการตื่นเต้นของแต่ละคน
ก็ถูกยุติลง...เมื่อ ความจริงของผลที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างสีหน้าที่บงบอกถึงความเป็นจริงให้กับคนที่ยืนให้กำลังใจข้างนอกได้รับรู้
โดยไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงหรือคำใดออกมา  
                      น้ำตากับร้อยยิ้ม..นั่นคือ สอบผ่าน  น้ำตากับ..คำปลอบโยนจากคนข้างเคียง..คือลาก่อน..
                                                                “ เฮ๊ยยยยยยยยย!!  ”
                                  “กล้องฉ๊านนนน....ทะ..เทอ ทำอะไรลงไป..ทำไมเดินไม่ดู!!...โถ่...”
กล้องสีเงินตกลงสู่พื้นหินปูนจนเกิดเสียงดัง! แล้วเสียงร้องหลงของเจ้ากล้องก็ดังตาม ร่างทรุดลงนั่งกับพื้นพร้อมกับ
สายตาที่มองไปยังกล้องที่รักยิ่งชีพด้วยความตกใจสุดขีด มือคล้ำแต่นิ้วเรียวสวยรีบดิ่งตรงไปยังกล้องดิจิตอลที่เพิ่ง
บันทึกภาพเหตุการณ์นาทีความลุ้นระทึกอย่างสั่นสะท้าน  นัยน์ตาสีน้ำตาลโตเงยสูงเปลี่ยนเป้าหมายตรงไปยังร่างสูงขาว
ผมหยิกเล็กน้อย โดยแววโรจน์ ร่างที่ยืนไว้สีหน้าสำนึกผิดอย่างรุนแรง
                                “ ขะ...ขอโทษครับ..ผมไมได้ตั้งใจ..เดี๋ยวจะซ่อมให้ครับ..ขอโทษ.. ”
นิ้วเรียวคล้ำลูบคำกล้องที่แตกเพียงเสี้ยวอย่างถนอมและวางมันไว้ในอุ้งมือที่ดูอบอุ่น...แววตาของความรู้สึกส่วนลึกฉายวาบ..
ทำให้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเอ่ยปากขอโทษอย่างไม่รู้ตัว...
                                              “ขอโทษ..ขอโทษครับ..ขอโทษ”
เจ้าของกล้องเงยหน้ามองเจ้าของเสียงอีกครั้งแต่คราวนี้..เงยพร้อมรอยยิ้ม
                  “ ไม่เป็นไร...so..so..เข้าไว้...นาย...นายต้อง..ชดใช้! ”
ถึงปากจะยิ้มละไมสวยแปลกแต่แววตาข้างในบอกถึงความเย็นที่แอบแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด!
ความเย็นที่ต่างจากความร้อนและแออัดของรอบข้าง  แต่แล้วเสียงดังจากลำโพงสูงก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
                  {{{{{ประกาศๆ ให้นักเรียนที่มีสิทธิ์ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เข้าหอประชุมได้ค่ะ...
                            และขอความกรุณาผู้ปกครองทุกท่านที่ห้องประชุมรับรองค่ะ}}}}}}
\" ครั้บ...ผมจะซ่อมมาให้ภายใน..เย็นนี้แน่ครับ! เออ..ผมชื่อ  โอ๊ดครับ..อยู่ม.4เพิ่งเข้ามาใหม่...แล้ว..\"
เด็กหญิงผิวคล้ำมองหน้าบุรุษเบื่องหน้าด้วยแววตาแปลกใจ แต่แล้ว การยอมรับในน้ำใจก็เกิดขึ้น เธอยิ้มเยื้อนต้อนรับ เพื่อนใหม่
ที่ตอนนี้...มีใบหน้าที่เบิกบานราวกับลืมเรื่องกล้องไปโดนสิ้นเชิง!..
\" เราชื่อ ก้อย อยู่ ม.4 เหมือนกัน แล้วก็..เพิ่งเข้ามาใหม่ too !\"
ใบหน้าแดงเรื่อ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศจากความร้อนหรือ..สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในจังหวะหัวใจของโอ๊ดที่กำลัง
เกิดขึ้นในตอนนี้  มันทำให้เด็กผู้หญิงตรงหน้าปล่อยหัวเราะออกมาด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน..แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่ยังคงไม่รู้ว่า
อะไร  ทำไม ทำให้เกิดเช่นนั้น!!  เด็กทั้งสองเดินไปตามทางที่ปูราดด้วยซีเมนต์ ข้างทางมีต้นดอกแก้วเป็นแนวยาวส่งกลิ่นหอมระริน
ผ่านตามสายลมที่พัดอ่อน...การเจรจาเกิดขึ้น ราวกับรู้จักกันมานานหลายปี แววตาที่ดูเย็นเยียบ..กลายเป็นอ่อนโยนตามแบบผู้หญิงคนหนึ่ง
    \" ก้อย ดูผลแล้วเหรอ  โอ๊ดดูตั้งแต่ตอนเช้าแล้วล่ะ \"
 
      \" ไม่ต้องดูก็รู้น่ะโอ๊ด..เราสอบเสร็จปุ๊บ ก็ได้เข้าปั๊บเลยล่ะ... \"
คนสองคนทีเพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน..บัดนี้นั่งอยู่ใกล้กัน  เพียงแต่อยู่คนละฝั่งฟาก 
มีทางเดินเท่านั้นที่กั้นเอาไว้ เสียง..จึงไม่ยากแก่การได้ยินของกันและกัน!
เด็กนักเรียนเข้าใหม่จำนวนหลายร้อยคนนั่งประจำที่ที่ตั้งไว้ให้ในหอประชุม ที่เบื่องหน้า..เวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านท่ามกลางโคมไฟ
ที่ส่องล้อกับแสงเทียนข้างทางขึ้น  เปียโนสีดำตัวโตราวกับวัวตัวผุ้ที่พร้อมออกสนามแข่งกำลังบรรเลงเพลงสรรเสริญพระเจ้า!
...เสียงเพลง..ทำให้เสียงที่เกิดจากปากของผู้คนจำนวนมากยอมศิโรราบลงโดยสิ้นเชิง!
..................บทเนื้อเพลง......................
พระเจ้า..ทรงนำหนทางแก่ฉัน....
ลูกแกะตัวนั้นฉันเอง...ทรงพา
พัดหลงเหล่าผู้โสภา...พระเจ้านำพาข้าเดินทางไกล...เส้นทางที่ทรงมอบให้..
น้ำพระทัยในเยซูซึ้งตรึงข้า...
นำพา นำทางเลื่อยมา..บอกข้าว่าเดินต่อไป..เดินในเส้นทางทรงเลือก
อุ้งหัตเบื้องพักต์คอยเตือน..เสมอเหมือนพระบิดาแห่งเรา...ฮืม....ฮืม....
ทำนองช้า...พาให้ทุกสิ่งสงบนิ่งภาวนาตามเนื้อเพลง...
เด็กน้อยหน้าใส 10 คนที่ยืนเรียงอยู่บนเวทีเริ่มคลอเสียงตามเนื้อทำนอง..
เปียโนบรรเลงเรื่อย..ราวกับน้อมรับพระพรยิ่งใหญ่ที่หล่อเลี้ยงหัวใจนับล้านดวงบนโลก...
จากฉันถึงเธอ..วันนั้นเป็นครั้งแรกที่หัวใจฉันเต้นรัวและรู้สึกคุ้นเธอมาก..และนั่นมันคือมิตรภาพก้าวแรกที่ฉันได้พบในรั้วของพระเจ้า..
...เธอ...รู้สึกเหมือนกันไหมในวันแรกทีได้พบกัน?...กล้องของฉันเธอยังไมได้ซ่อมให้...
                  นั่นสินะ ทั้งๆที่ใกล้แค่นี้เอง..แต่ทำไมน่ะ..ฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอ..อยู่ไกลเหลือเกิน....วันแรกที่ฉันเข้าโรงเรียน...
                                                      นั่นคือวันแรกที่ฉันได้รู้จักกับเธอ..ยังจำได้ไหม??
  ยังจำได้...
    อากาศร้อนๆที่ไมได้เกิดขึ้นจากดวงไฟจากฟ้าสูงนั่น แต่เป็นเพราะผู้คนที่แออัดกันแน่นต่างรุมกันแย่งดูรายชื่อที่แปะเอาไว้ใน
กระดานประกาศแผ่นโตที่ทางโรงเรียนนำมาติดเอาไว้ตั้งแต่ 2 โมงเช้า แต่บันดาผู้เข้าสมักคทั้งหลายกลับพร้อมใจกันมาดู 2 โมงครึ่ง 
  จากมุมมองหนึ่ง..
อาการตื่นเต้นของแต่ละคนถูกบันทึกลงในกล้องดิจิตอลของเด็กผู้หญิงผิวคล้ำผมหยักศกสีดำเข้ม ยาวถึงเอวคอด 
เด็กผู้หญิง?ที่ไม่สนใจต่อสายตาคนรอบข้างที่หันมามองด้วยความสนใจคละแปลกใจ ที่อยู่ๆ เด็กนักเรียนต่างเครื่องแบบคนนี้
ก็หยิบเจ้ากล้องทันสมัยดูมีราคาขึ้นมาส่องชาวบ้าน  ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีอะไรสนใจเลยสักนิด..และแล้ว..อาการตื่นเต้นของแต่ละคน
ก็ถูกยุติลง...เมื่อ ความจริงของผลที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างสีหน้าที่บงบอกถึงความเป็นจริงให้กับคนที่ยืนให้กำลังใจข้างนอกได้รับรู้
โดยไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงหรือคำใดออกมา  
                      น้ำตากับร้อยยิ้ม..นั่นคือ สอบผ่าน  น้ำตากับ..คำปลอบโยนจากคนข้างเคียง..คือลาก่อน..
                                                                “ เฮ๊ยยยยยยยยย!!  ”
                                  “กล้องฉ๊านนนน....ทะ..เทอ ทำอะไรลงไป..ทำไมเดินไม่ดู!!...โถ่...”
กล้องสีเงินตกลงสู่พื้นหินปูนจนเกิดเสียงดัง! แล้วเสียงร้องหลงของเจ้ากล้องก็ดังตาม ร่างทรุดลงนั่งกับพื้นพร้อมกับ
สายตาที่มองไปยังกล้องที่รักยิ่งชีพด้วยความตกใจสุดขีด มือคล้ำแต่นิ้วเรียวสวยรีบดิ่งตรงไปยังกล้องดิจิตอลที่เพิ่ง
บันทึกภาพเหตุการณ์นาทีความลุ้นระทึกอย่างสั่นสะท้าน  นัยน์ตาสีน้ำตาลโตเงยสูงเปลี่ยนเป้าหมายตรงไปยังร่างสูงขาว
ผมหยิกเล็กน้อย โดยแววโรจน์ ร่างที่ยืนไว้สีหน้าสำนึกผิดอย่างรุนแรง
                                “ ขะ...ขอโทษครับ..ผมไมได้ตั้งใจ..เดี๋ยวจะซ่อมให้ครับ..ขอโทษ.. ”
นิ้วเรียวคล้ำลูบคำกล้องที่แตกเพียงเสี้ยวอย่างถนอมและวางมันไว้ในอุ้งมือที่ดูอบอุ่น...แววตาของความรู้สึกส่วนลึกฉายวาบ..
ทำให้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเอ่ยปากขอโทษอย่างไม่รู้ตัว...
                                              “ขอโทษ..ขอโทษครับ..ขอโทษ”
เจ้าของกล้องเงยหน้ามองเจ้าของเสียงอีกครั้งแต่คราวนี้..เงยพร้อมรอยยิ้ม
                  “ ไม่เป็นไร...so..so..เข้าไว้...นาย...นายต้อง..ชดใช้! ”
ถึงปากจะยิ้มละไมสวยแปลกแต่แววตาข้างในบอกถึงความเย็นที่แอบแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด!
ความเย็นที่ต่างจากความร้อนและแออัดของรอบข้าง  แต่แล้วเสียงดังจากลำโพงสูงก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
                  {{{{{ประกาศๆ ให้นักเรียนที่มีสิทธิ์ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เข้าหอประชุมได้ค่ะ...
                            และขอความกรุณาผู้ปกครองทุกท่านที่ห้องประชุมรับรองค่ะ}}}}}}
\" ครั้บ...ผมจะซ่อมมาให้ภายใน..เย็นนี้แน่ครับ! เออ..ผมชื่อ  โอ๊ดครับ..อยู่ม.4เพิ่งเข้ามาใหม่...แล้ว..\"
เด็กหญิงผิวคล้ำมองหน้าบุรุษเบื่องหน้าด้วยแววตาแปลกใจ แต่แล้ว การยอมรับในน้ำใจก็เกิดขึ้น เธอยิ้มเยื้อนต้อนรับ เพื่อนใหม่
ที่ตอนนี้...มีใบหน้าที่เบิกบานราวกับลืมเรื่องกล้องไปโดนสิ้นเชิง!..
\" เราชื่อ ก้อย อยู่ ม.4 เหมือนกัน แล้วก็..เพิ่งเข้ามาใหม่ too !\"
ใบหน้าแดงเรื่อ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศจากความร้อนหรือ..สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในจังหวะหัวใจของโอ๊ดที่กำลัง
เกิดขึ้นในตอนนี้  มันทำให้เด็กผู้หญิงตรงหน้าปล่อยหัวเราะออกมาด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน..แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่ยังคงไม่รู้ว่า
อะไร  ทำไม ทำให้เกิดเช่นนั้น!!  เด็กทั้งสองเดินไปตามทางที่ปูราดด้วยซีเมนต์ ข้างทางมีต้นดอกแก้วเป็นแนวยาวส่งกลิ่นหอมระริน
ผ่านตามสายลมที่พัดอ่อน...การเจรจาเกิดขึ้น ราวกับรู้จักกันมานานหลายปี แววตาที่ดูเย็นเยียบ..กลายเป็นอ่อนโยนตามแบบผู้หญิงคนหนึ่ง
    \" ก้อย ดูผลแล้วเหรอ  โอ๊ดดูตั้งแต่ตอนเช้าแล้วล่ะ \"
 
      \" ไม่ต้องดูก็รู้น่ะโอ๊ด..เราสอบเสร็จปุ๊บ ก็ได้เข้าปั๊บเลยล่ะ... \"
คนสองคนทีเพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน..บัดนี้นั่งอยู่ใกล้กัน  เพียงแต่อยู่คนละฝั่งฟาก 
มีทางเดินเท่านั้นที่กั้นเอาไว้ เสียง..จึงไม่ยากแก่การได้ยินของกันและกัน!
เด็กนักเรียนเข้าใหม่จำนวนหลายร้อยคนนั่งประจำที่ที่ตั้งไว้ให้ในหอประชุม ที่เบื่องหน้า..เวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านท่ามกลางโคมไฟ
ที่ส่องล้อกับแสงเทียนข้างทางขึ้น  เปียโนสีดำตัวโตราวกับวัวตัวผุ้ที่พร้อมออกสนามแข่งกำลังบรรเลงเพลงสรรเสริญพระเจ้า!
...เสียงเพลง..ทำให้เสียงที่เกิดจากปากของผู้คนจำนวนมากยอมศิโรราบลงโดยสิ้นเชิง!
..................บทเนื้อเพลง......................
พระเจ้า..ทรงนำหนทางแก่ฉัน....
ลูกแกะตัวนั้นฉันเอง...ทรงพา
พัดหลงเหล่าผู้โสภา...พระเจ้านำพาข้าเดินทางไกล...เส้นทางที่ทรงมอบให้..
น้ำพระทัยในเยซูซึ้งตรึงข้า...
นำพา นำทางเลื่อยมา..บอกข้าว่าเดินต่อไป..เดินในเส้นทางทรงเลือก
อุ้งหัตเบื้องพักต์คอยเตือน..เสมอเหมือนพระบิดาแห่งเรา...ฮืม....ฮืม....
ทำนองช้า...พาให้ทุกสิ่งสงบนิ่งภาวนาตามเนื้อเพลง...
เด็กน้อยหน้าใส 10 คนที่ยืนเรียงอยู่บนเวทีเริ่มคลอเสียงตามเนื้อทำนอง..
เปียโนบรรเลงเรื่อย..ราวกับน้อมรับพระพรยิ่งใหญ่ที่หล่อเลี้ยงหัวใจนับล้านดวงบนโลก...
จากฉันถึงเธอ..วันนั้นเป็นครั้งแรกที่หัวใจฉันเต้นรัวและรู้สึกคุ้นเธอมาก..และนั่นมันคือมิตรภาพก้าวแรกที่ฉันได้พบในรั้วของพระเจ้า..
...เธอ...รู้สึกเหมือนกันไหมในวันแรกทีได้พบกัน?...กล้องของฉันเธอยังไมได้ซ่อมให้...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น