ตอนที่ 55 : วิกเตอร์
เอ็กซ์แอนด์ไอ เป็นสถานบันเทิงขนาดใหญ่ ตัวอาคารเป็นตึกสูงที่แบ่งออกเป็นสามโซน โซนแรกเน้นเสิร์ฟอาหารรองท้องสไตล์ง่ายๆ ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและรวดเร็ว โซนกลางที่ใหญ่ที่สุดนั้นเน้นให้บริการเครื่องดื่มหลากหลายชนิดที่มีราคาให้เลือกตั้งแต่ธรรมดาทั่วไปจนกระทั่งแพงลิบอย่างที่น่ามีเฉพาะในร้านหรูๆ มีที่นั่งให้เลือกทั้งเคาท์เตอร์บาร์ และมุมที่เป็นส่วนตัว เปิดเพลงจากเครื่องดนตรีสังเคราะห์ดังในระดับที่ก่ำกึ่งกับความหนวกหู และสุดท้ายเป็นโซนสำหรับวีไอพี ซึ่งจะจัดโชว์พิเศษหมุนเวียนกันไปทุกวัน
อีธานเงยหน้ามองป้ายหน้าทางเข้าที่ฉายด้วยระบบสามมิติ ตัวอักษร X และ I ที่แทบจะติดกันนั้นดูมีเอกลักษณ์และเป็นสีทองอร่าม ถ้าดูจากที่ไกลๆ มันจึงเหมือนกับเลขสิบเอ็ด ตรงกับเวลาที่เข็มนาฬิกาเดินสะดุดพอดี
แม้ไม่มั่นใจการตีความนัก แต่ชายหนุ่มก็นึกถึงที่อื่นไม่ออกนอกจากที่นี่
อีธานตรงไปยังโซนกลางโดยมีชายในชุดสูทสีดำสองคนประกบหน้าหลัง จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกเป็นเป้าสายตา โดยเฉพาะเหล่าหญิงสาวที่ต่างพากันสายตาหยาดเยิ้มกว่าปกติมาให้ นอกจากการถูกจับจ้องก็ยังมีเสียงซุบซิบลอยมาจากกลุ่มของผู้ชายที่อยู่อีกฝากของห้อง ว่าเขาเป็นบุตรชายคนโตของท่านผู้นำที่เวลานี้โดนภาคทัณฑ์อยู่ พอถูกผู้ติดตามด้านหลังกราดสายตาไปมองอย่างดุดันเสียงเหล่านั้นก็เงียบลงราวกับปิดสวิตซ์
“โชว์จะเริ่มเมื่อไหร่?” อีธานถาม ทำหน้าเหมือนสนใจอย่างมาก
“นั่นจะจัดที่โซนวีไอพีครับ”
“งั้นก็ไปที่นั่น”
“เอ่อ...แต่...”
“ทำไม หรือว่าฉันตอนนี้วีไอพีไม่พอจะเข้าได้?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” คนที่อยู่ข้างหน้าหันมาตอบ “เพียงแต่ที่นั่นมันค่อนข้างจะวุ่นวาย แล้วก็ไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่”
อีธานหัวเราะเบาๆ ก่อนวางมือบนไหล่ของทั้งสองคน “ก็น่าสนุกดี นายสองคนก็ผ่อนคลายสักหน่อยแล้วกัน วันนี้ฉันเลี้ยงจะสั่งเหล้าแพงแค่ไหนก็ได้”
แววตาที่แฝงแววระแวงสงสัยส่งตรงมา ส่วนอีธานก็เหยียดยิ้มให้เหมือนไม่สังเกตเห็น
“โอ้...คุณอีธาน ไม่นึกเลยว่าร้านเล็กๆ ของเราจะมีโอกาสได้ต้อนรับคุณ” เสียงหวานหูเอ่ยขึ้น พร้อมกับร่างบอบบางของหญิงที่อายุน่าจะเลยวัยสี่สิบไปไม่น้อยที่เดินตรงเข้ามาหา เธอมีดวงตารีเล็ก รอยยิ้มฉาบไปทั่วหน้า แต่งกายด้วยชุดสีดำเข้มยาวถึงพื้น
“ฉันเป็นเจ้าของร้านเล็กๆ แห่งนี้ ขออภัยที่ออกมาต้อนรับช้าไปนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมก็มาในฐานะลูกค้า” อีธานจับมือเล็กที่ยื่นออกมาอย่างนุ่มนวลขณะกล่าว “ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกค้าอย่างผมจะเข้าโซนวีไอพีได้หรือเปล่า?”
เธอยกมือปิดริมฝีปากขณะที่หัวเราะออกมา “ด้วยความยินดีแน่นอนอยู่แล้วสิคะ”
เมื่ออีธานขยับท่อนแขนของตัวเอง แขนเรียวเล็กของอีกฝ่ายก็สอดเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ
“เชิญทางนี้ค่ะ”
อีธานถูกนำไปยังส่วนที่อยู่ด้านใน ชายหนุ่มสองคนที่เหลือจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบก้าวเท้าตามหลังมา
โซนวีไอพีนั้นมืดสลัวกว่าด้านนอก ทุกอย่างอยู่ภายใต้แสงไฟสีนวลสลับสีชมพูวูบวาบไปมา เสียงเพลงที่เป็นท่วงทำนองเชื่องช้าแต่ก็ยังคงอึกทึกหนวกหู กลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกหนาวเอียนฟุ้งไปทั่ว สูดครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่ารุนแรงเกินไปสักหน่อย แต่เมื่อชินแล้วกลับรู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
อีธานถูกพามาในห้องแยกซึ่งถูกจัดไว้เป็นสัดส่วน บนชั้นลอยยกสูงบุด้วยกระจกรอบด้าน ทำให้สามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่ด้านล่างที่เป็นเวทียกสูงจากพื้น และฟลอร์สำหรับปาร์ตี้
ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้หนานุ่มเหมือนจะฝังร่างให้จมหายไปได้ หญิงสาวสวยหลายคนก็เข้ามาขนาบข้าง พร้อมด้วยกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นโชยมากระทบ เพราะแสงสว่างไม่มากนักการจะแยกแยะสีตาของแต่ละคนจึงทำได้ยาก แต่ถ้าให้เดาพวกเธอทั้งหมดน่าจะเป็นเลือดสีแดง
“ผู้นี้คือเป็นแขกพิเศษ ห้ามเสียมารยาทเด็ดขาด” พูดจบหญิงเจ้าของร้านก็ขอตัวจากไปอย่างสุภาพ
อีธานเหลือบมองผู้ติดตามสองคนที่มีท่าทางกระอักกระอ่วนกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบริกรที่ยืนรับคำสั่งอย่างนอบน้อมอยู่ข้างๆ
“ทำตัวตามสบายเถอะ บอกแล้วไงว่าฉันจะเลี้ยง”
อีธานดื่มเหล้าที่ถูกหญิงสาวข้างกายป้อนให้ถึงปากหมดไปสามแก้ว ส่วนผู้ปกครองทั้งสองของเขานั้นขนาดถูกคะยั้นคะยออย่างหนักก็ยังดื่มกันไปแค่คนละแก้วเท่านั้น ช่างจริงจังสมเป็นลูกน้องของเซท
อีธานลอบถอนหายใจ เขาไม่ใช่พวกคอทองแดงขืนดื่มมากกว่านี้จะครองสติได้ยาก สุดท้ายจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผน
เขาหันไปมองหญิงสาวที่นั่งถัดออกไปที่มุมโซฟา ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเติมแก้วเครื่องดื่ม เธอมีรูปร่างเล็กช่วงศีรษะที่มีผมยาวถึงกลางหลังนั้นสวยได้รูป ไม่ค่อยช่างพูดนัก ท่าทางรู้งานและดูมีอายุมากกว่าคนอื่นๆ
อีธานยื่นมือออกไป รั้งร่างของเธอให้ข้ามขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง หญิงสาวส่งเสียงอุทานเบาๆ ก่อนจะโปรยยิ้มที่แฝงแววเขินอายมาให้
“อยากให้ช่วยหน่อย” อีธานซบหน้าลงบนซอกคอของอีกฝ่ายราวกับว่ากำลังประทับริมฝีปากลงไป จากนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงกระซิบที่พอให้ได้ยินกันแค่สองคน
หญิงสาวเกร็งตัวเล็กน้อย แต่ดูท่าทางจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อในเวลาเพียงไม่นาน เธอพยักหน้าช้าๆ
“พาฉันออกจากห้อง แล้วช่วยกันสองคนนี้ไว้สักพัก ได้ไหม?”
ร่างบอบบางบนตักเอี้ยวศีรษะเล็กน้อยไปทางชายหนุ่มสองคนที่มีท่าทางนิ่งเหมือนหุ่นยนต์
“คุณจะไม่ทำให้พวกเราเดือนร้อนใช่ไหม?” เธอจ้องมองอีธานด้วยดวงตากลมที่แฝงแววเฉลียวฉลาดหากแต่ก็ให้ความรู้สึกหดหู่ปะปนมาด้วย
สำหรับเธอการทำงานโดยไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวายคงเป็นความต้องการเดียว
“แน่นอน” อีธานรับปาก
“ท่านคะ อย่าค่ะ...ที่แบบนี้มัน...” หญิงสาวร้องขึ้น ขณะที่เลื่อนมือของอีธานที่วางอยู่บริเวณเอวลงไปยังสะโพกของตัวเอง “ว๊าย...ท่าน!”
ยังไม่ทันที่อีธานจะตั้งตัว แก้วเหล้าที่อยู่ในมือของผู้หญิงข้างๆ ก็ถูกผลักให้ตกพรวดลงมาที่หน้าอก เครื่องดื่มเย็นๆ ราดตัวของอีธานจนเสื้อสีขาวที่สวมอยู่ด้านในเปียกชุ่ม
“นี่พวกเธอ!” หนุ่มในชุดสูทดำที่นั่งตรงข้ามรีบลุกขึ้นมาดึงแขนหญิงสาวบนตักอีธานให้ลุกขึ้น
“ขออภัยอย่างยิ่งค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ช่างเถอะๆ ฉันไม่ระวังเอง เหย่เธอเล่นมากไปหน่อย” อีธานบอก
“ที่ห้องด้านข้างมีเสื้อผ้าสำหรับกรณีฉุกเฉิน ถ้ายังไงรบกวนไปเปลี่ยนชุดที่นั่นได้ไหมคะ?”
อีธานพยักหน้าด้วยท่าทางคล้ายไม่ค่อยใส่ใจนัก
“เดี๋ยวให้เรา...”
“พวกนายอยู่นี่แหละ แค่เปลี่ยนเสื้อตัวเดียว ฉันไปเองได้” อีธานรีบบอก พลางฉุดร่างของหญิงสาวตรงหน้า “เธอนำทางไปที”
“เดี๋ยวครับ!” ทั้งสองคนตั้งท่าจะตามมา แต่ถูกสาวๆ หลายคนในห้องช่วยกันดึงตัวเอาไว้
ทันทีที่ออกห่างจากห้อง อีธานถอดเสื้อแจ็กเก็ตตัวนอกออกยื่นให้อีกฝ่ายพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง บอกให้เธอช่วยจัดการหาคนมาใส่และแกล้งทำเป็นนัวเนียกันในห้องเปลี่ยนเสื้อ ทำแบบนี้ต่อให้สองคนนั้นมาตามหาก็คงช่วยให้ก็คงจะพอช่วยยืดเวลาให้ได้อีกสักพัก
อีธานลงไปยังฟลอร์ที่เวลานี้มีคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงเพลงที่เนิบนาบถูกเร่งจังหวะขึ้นเมื่อโชว์บนเวทีบนเวทีเริ่มแสดง เหล่าสาวสวยหลายคนกำลังทำการเต้นรำแบบกึ่งเปลือยเรียกเสียงโห่ร้องจากคนดู สายน้ำที่ถูกปล่อยลงมาจากด้านบนราวสายฝนกระจายไปทั่วเวที กลิ่นหวานเอียนยิ่งตลบอบอวลมากขึ้น
ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มกวาดมองไปรอบๆ ผ่านแสงสลัวซะจนยากจะแยกแยะออกว่าใครเป็นใคร ถ้าเป็นที่นี่คงเหมาะที่จะแฝงตัวอยู่มากที่สุด ตอนนั้นเองที่ปลายหางตาก็เหลือบเห็นเส้นผมสีทองยาวสยายของใครคนหนึ่ง เพียงแว๊บเดียวก่อนที่ร่างนั้นกลืนหายไปกับกลุ่มคนจำนวนมาก
ฝ่ามือกำแน่นพร้อมกับหัวใจเต้นแรงราวกับกำลังกระดอนอยู่ใต้แผ่นอก อีธานรีบเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมากที่กำลังเต้นรำสนุกสนานตามร่างนั้นไป แต่สุดท้ายหลังจากพยายามอยู่นาน กลับหาไม่พบ
หรือว่าเขาจะตาฝาด?
ขณะที่ในสมองยังคงสับสนร่างของอีธานถูกใครสักคนถอยมาชนทำให้เซไปด้านหลังเล็กน้อย จังหวะที่เกือบจะทรงตัวไม่อยู่ ก็เห็นร่างสูงโปร่งเจ้าของผมบลอนด์ยาวกำลังจะเดินผ่านประตูทางออก
อีธานรีบวิ่งตามไป คว้าแขนของอีกฝ่ายไว้ได้อย่างเฉียดฉิว
“จีแอล!”
“หา? อะไรกันน่ะคุณ” ฝ่ายที่หันกลับมา เป็นชายหนุ่มแปลกหน้า
ไม่ใช่หมอนั่น... อีธานรู้สึกหมดแรง และเริ่มสงสัยว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้ว แค่เพียงเจอเศษโลหะในนาฬิกาก็ถึงกลับลงทุนหลอกเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่คุ้มกันตัวเองเพื่อรีบร้อนมาที่นี่ ทั้งที่หากฉุกคิดสักนิดก็น่าจะรู้ว่าต่อให้จีแอลบ้าเลือดแค่ไหนก็ไม่มีทางมาเสี่ยงด้วยการแฝงตัวเข้ามาในเซ็นโทรเวลานี้
เขาคาดหวังอะไรอยู่กันแน่?!
ชายหนุ่มย้อนกลับมาด้านบน ผลักบานประตูห้องน้ำเรียบหรูจัดที่ไว้เฉพาะแขกพิเศษเข้าไปด้านใน แสงสว่างยังคงอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่ก็นับว่ามองเห็นได้ชัดเจนกว่าด้านนอกมาก เมื่อบานประตูปิดลงโดยอันโตมัติ มันก็ปิดกั้นเสียงอึกทึกจากด้านนอกให้ลดลงจนเหลือเพียงเสียงแผ่วเบา
อีธานเปิดก๊อกแล้ววักน้ำขึ้นสาดใบหน้าหลายครั้ง ปิดเปลือกตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์
เสียงดนตรีเพิ่มระดับขึ้นมากะทันหัน ทำให้รับรู้ได้ว่าประตูถูกเปิดออก แต่ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้เงยหน้าขึ้นมอง สัมผัสของวัตถุแข็งบางอย่างก็กดจ่อเข้าที่ด้านหลังศีรษะ ตามมาด้วยเสียงคลิ๊กอันเป็นเอกลักษณ์ของการขึ้นนกเตรียมเหนี่ยวไกของอาวุธปืนรุ่นเก่าที่ตอนนี้แทบไม่มีใครใช้กันแล้ว
ชายหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก
“ไง...กำลังตามหาฉันอยู่หรือเปล่า...” เสียงคุ้นหู ที่ได้ยินทำให้หัวใจของอีธานสั่นไหว “...ที่รัก!”
===+++===+++===
หัวกระจุยแน่... อีธาน! 555
ขออภัยเรื่องคำผิด คำซ้ำคำซ้อน ด้วยนะคะ พยายามดูแล้ว แต่คิดว่าคงหลุดหลายที่ ขอโทษนะคะ ... ตอนหน้าจะมาเร็วๆ นี้ เพราะจีแอลทำให้เรามีกำลังใจแต่งต่อ
สั้นสั้นเองจ๊ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอค่ะรอ มาต่อนะ
รอคร้าาาา
รอตอนต่อไปนะคะ
ปล. ยังงงว่าพลาดเรื่องนี้ไปได้ไงตั้งนาน><><><
รอตอนต่อไปนะคะะะ