ตอนที่ 116 : ตอนพิเศษ : โชคชะตา...ครั้งใหม่ [15]
เคลย์จะแสดงออกชัดเจนเลยว่าลำบากใจเมื่อลูเซียสจะขอตามกลับบ้าน แต่ในเมื่อทางเลือกมีแค่จะให้เขาตามไปเองทีหลัง หรือว่าไปด้วยกันตั้งแต่ตอนนี้ ชายหนุ่มเลยจำใจต้องเลือกอย่างหลัง โดยย้ำว่าอนุโลมให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ...ซึ่งแน่นอนว่าลูเซียสก็ไม่ได้ตอบตกลงอยู่ดี
นอกเหนือจากต้องการซื้ออาหารไปใช้คืนให้เคลย์ ลูเซียสยังรู้สึกเป็นห่วงเจ้าตัวด้วย ระหว่างที่เขายังหาเหตุผลที่เด็กหนุ่มเลือดสีแดงคนนั้นแอบลอบทำร้ายเคลย์ไม่ได้ เขาก็ยังไม่อยากให้อีกฝ่ายอยู่ลำพัง ...เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และมีแนวโน้มว่าไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน
“วันนี้อาจารย์ไม่มีสอนต่อที่วิทยาลัยในชุมชนนั่นเหรอครับ?” ลูเซียสชวนคุย
“วันนี้เป็นวันหยุดพัก เพื่อให้ฉันได้ใช้เวลาส่วนตัวบ้างน่ะ” เคลย์ตอบโดยเน้นคำว่า ‘ส่วนตัว’ เป็นพิเศษ แต่คนฟังเอาแต่ยิ้มเหมือนไม่เข้าใจความหมาย
ทั้งคู่ก้าวเท้าออกจากโรงเรียนในช่วงเย็นมากแล้ว ถึงอย่างนั้นอากาศก็ยังคงร้อนระอุอยู่มากซึ่งเป็นเรื่องปกติของเซย์น ยิ่งต่อจากนี้จะเข้าสู่ช่วงที่มีพายุฝน สภาพอากาศจะยิ่งแปรปรวณและจะอบอ้าวกว่าเดิมเข้าไปอีก แต่นั่นนับว่าดีกับต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ ของที่นี่
ลูเซียสแอบสังเกตรอบตัว ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีใครคอยตามเขามาอีก ดังนั้นถึงอากาศจะร้อนไปบ้างเด็กหนุ่มก็ยังคงอารมณ์ดี
“อาจารย์...ทำไมถึงได้มาสอนที่ซี-คอล ล่ะ?”
เคลย์มองคนถามแว๊บหนึ่ง ขณะสาวเท้ายาวๆ ไปตามทาง
“บอกไม่ได้หรือครับ?” พอเด็กหนุ่มถามอีกครั้ง เคลย์ก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“ฉันเป็นเด็กเส้นน่ะ”
“เด็กเส้น?”
“ได้ยินไม่ผิดหรอก มีคนช่วยฝากฉันเข้ามาทำงานที่นี่”
คิ้วเรียวของลูเซียสเลิกสูงขึ้น นึกถึงเรื่องที่มาเรียน่าเคยเตือนขึ้นมา เธอบอกว่าเคลย์มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา และเข้ามาสอนที่นี่โดยไม่ได้สอบคัดเลือกตามปกติ
“ใครหรือครับ?” เขาถามต่อ
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถามนะ” เคลย์พูด มองตรงไปข้างหน้า ไม่มีท่าทางจะตอบสนองการอยากรู้ของลูเซียส
ร่างสูงจนใจ ก่อนเพิ่มรายการเรื่องที่ต้องทำการตรวจสอบเพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง
“ลงที่นี่เถอะ” เคลย์บอก
หลังจากขึ้นรถมาได้กลางทาง ทั้งคู่ก็ลงที่สถานีแห่งหนึ่ง เพื่อแวะซื้อของจากร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ซึ่งมีของแทบทุกอย่างเท่าที่คนจะนึกออก
เคลย์เป็นคนเลือกที่นี่ เพราะมันเป็นร้านซึ่งไม่ได้ใช้ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ แต่ใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นจุดขายสำคัญของร้านเรื่องช่วยส่งเสริมอาชีพให้ผู้ว่างงาน และตอบสนองกลุ่มคนอีกจำนวนมากที่ชอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมากกว่าระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์
เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่โซนอาหาร ลูเซียสเพิ่งจะเคยมาซื้ออะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก จึงมีหลายอย่างที่เขาสนใจอยู่ไม่น้อย
“เธอ...กำลังล้อเล่นอยู่หรือไง?”
“ครับ?” ลูเซียสหันไปมองคนพูด
ดวงตาเรียวยาวสีดำขลับจ้องตรงมา “เธอจะซื้อของหมดนี่?”
เด็กหนุ่มเลือกอาหารสำเร็จรูปมามากมาย จนเวลานี้แทบล้นออกมานอกรถเข็น
“ครับ” ลูเซียสพยักหน้า ทุกอย่างที่เขาเลือกล้วนเป็นของที่ไม่เคยกินมาก่อน เป็นอาหารรสชาติแปลกใหม่ รูปลักษณ์น่าสนใจทั้งสิ้น
เคลย์ทำหน้าแปลกๆ “เธอบอกว่าจะซื้ออาหารมาใช้คืน ก็ควรจะซื้อแค่พอดีกับของเมื่อวานนะ”
“ผมว่าซื้อเผื่อไปหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนี่” เด็กหนุ่มยิ้มตอบยื่นซองอาหารที่น่าจะมีรสจัดจ้านมากไปตรงหน้าอีกฝ่าย “พวกมันน่าสนใจออกนะครับ”
เคลย์ปฏิเสธไม่ออกว่า ของพวกนี้ก็น่าสนใจจริงๆ แต่มันไม่รับประกันด้านรสชาติความอร่อยเลยสักอย่าง ทำให้เริ่มคิดได้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านั้นไม่คุ้นเคยกับของพวกนี้สักเท่าไหร่
“อ๊ะ” ลูเซียสเอื้อมไปหยิบ อาหารในรูปแบบแคปซูสเม็ด ที่วางอยู่บนชั้นขึ้นมา “ของแบบนี้ก็ยังมีขายอยู่อีกเหรอ”
เพราะภาวะขาดแคลนอาหารจากผลพวงของสงครามสิ้นสุดไปนานแล้ว อาหารสำเร็จรูปราคาถูกลงมาก วิธีการผลิตที่พัฒนาขึ้นทำให้พวกมันคงคุณค่า รสชาติดี ที่สำคัญสามารถตอบสนองต่อความต้องการของร่างกายได้มากกกว่า จนอาหารแคปซูลจำพวกนี้ไม่มีใครซื้อกันอีก
“เธอรู้จักด้วยเหรอ?”
“ตอนเด็กๆ จี...เอ่อ...แม่จะให้ผม เวลาที่ต้องการลงโทษอะไรสักอย่างน่ะครับ” เขายิ้มแห้งๆ ตอบ...ลูเซียสเกลียดพวกมันมากทีเดียว เพราะนอกจะไม่มีรสชาติแล้วมันยังให้ระบบร่างกายของเขายิ่งรู้สึกโหยหาการกินเพิ่มขึ้นทุกที ไม่เพียงแต่ลูเซียสเท่านั้น อีธานเองก็ดูจะไม่ชอบเท่าไหร่เหมือนกัน เวลามองอาหารแคปซูลทีไรพ่อของเขาชอบทำหน้าตาแปลกๆ ตลอด
“อ๋อ” เคลย์พยักหน้า
“ผมนึกว่ามันจะไม่มีขายแล้วซะอีก” เด็กหนุ่มมองอีกฝ่าย “อาจารย์เคยกินไหมครับ?”
เคลย์จ้องของในมือของลูเซียสอยู่นิ่งนาน แววตาของเขาพลันหมองลง
“เคยสิ...สมัยก่อนพวกมันเป็นของที่ช่วยให้อิ่มท้องอย่างเดียวที่พวกเด็กเลือดสีแดงยากไร้พอจะหาได้” เคลย์ตอบ “จนถึงตอนนี้บางครั้ง ฉันก็ยังกินมันอยู่”
คำตอบนั้นทำให้ลูเซียสประหลาดใจ
“ทำไมละครับ?”
“มันช่วยเตือนความจำไงล่ะ” พูดจบเคลย์ก็ดึงอาหารแคปซูลบรรจุซองในมือของลูเซียสออกไปวางไว้บนชั้นตามเดิม “เอาของในรถเข็นพวกนั้นออกไปครึ่งหนึ่ง แล้วไปจ่ายเงินกันเถอะ”
ลูเซียสมองข้าวของในรถเข็นอย่างเสียดาย แต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม
เมื่อมาถึงเคาท์เตอร์ชำระเงิน เคลย์ก็ชิงจ่ายค่าของไปครึ่งหนึ่ง ก่อนที่ลูเซียสจะทันได้ตั้งตัว
“ทำไมอาจารย์ต้องจ่ายละครับ ในเมื่อผมก็บอกแล้วไงว่านี่เป็นการซื้อมาใช้คืน”
“ครึ่งหนึ่งนั้นก็เกินในส่วนที่เธอควรใช้คืนฉันแล้ว...ดังนั้นส่วนที่เหลือฉันจะจ่ายเอง ของพวกนี้รวมๆ ราคาก็ไม่น้อย...เธอยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลยอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยดีกว่า”
“อ่า...ครับ” ลูเซียสพยักหน้าตอบ อันที่จริงเด็กหนุ่มมีสิทธิ์จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยได้เท่าที่ต้องการ เพราะฐานะการเงินของเขานั้นถือว่าดีมาก รายได้หลักนั้นมาจากทรัพย์สินส่วนตัวของอีธานก่อนที่เจ้าตัวจะออกจากเซย์น แม้จะอีธานจะไม่สนใจของพวกนั้นเลย แต่เอเลียตก็ยังให้สเวนช่วยดูแลไว้ให้ โดยจัดสรรให้เป็นเงินลงทุนในด้านต่างๆ ส่วนดอกเบี้ยและเงินปันผลทั้งหมดถูกใส่เข้ามาในบัญชีของลูเซียส
หลังออกจากร้านก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว แสงไฟริมถนนส่องสว่าง และผู้คนที่เลิกจากงานก็ขวักไขว่เต็มท้องถนน
พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงจุดให้บริการรถสาธารณะ เคลย์ก็หยุดฝีเท้า หันมาคว้าถุงบรรจุอาหารมาถือไว้ถุงหนึ่ง
“เอาล่ะ...แยกกันตรงนี้นะ”
“หา!?”
“เธอจะซื้อของมาใช้คืนให้สำหรับเมื่อวานใช่ไหมล่ะ” ชายหนุ่มยกถุงในมือขึ้น “นี่ก็ถือว่าเสร็จแล้วนี่...เธอก็กลับบ้านไปได้แล้ว”
“แต่...ผมตั้งใจว่าจะวันนี้ก็จะไปกินข้าวที่บ้านอาจารย์นะครับ” ลูเซียสว่า
“แต่...ฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้เด็กนักเรียนไปกินข้าวที่บ้านด้วยนี่”
ลูเซียสทำหน้าเบ้
“แถวนั้นมันไม่เหมาะกับเธอหรอก กลับบ้านไปซะ” พูดจบร่างโปร่งก็หันหลังเดินห่างออกไป
“เดี๋ยวสิครับ...” ลูเซียสรีบก้าวเท้าตาม แล้วตอนนั้นเองหางตาก็สังเกตความผิดปกติได้ ทางด้านหลังที่ห่างออกไปหลายเมตรมีคนขยับตามมา ท่วงท่าดูเป็นมืออาชีพต่างจากเมื่อวาน
ทั้งที่คิดว่าวันนี้ปลอดภัย ก็ดันมีคนตามมาอีกจนได้ ...แต่คราวนี้พวกนั้นกำลังตามใครกันล่ะ?
...ตัวเขาหรือว่าเคลย์
ลูเซียสรีบเร่งฝีเท้า จากนั้นก็คว้าจับท่อนแขนของร่างโปร่งเอาไว้ ดวงตาสีดำที่เหมือนจะกลืนไปกับช่วงเวลาแห่งค่ำคืนหันขวับมาจ้องเขา
แววตาคมกล้าของลูเซียสทำให้เคลย์ชะงัก รอยยิ้มภายใต้ใบหน้าหล่อเหลางดงามของเด็กหนุ่มร่างสูงดูราวกับมีบางอย่างซ่อนอยู่ สิ่งนั้นแฝงไปด้วยความคุกคาม และเกาะกุมตัวเขาเอาไว้อย่างหนาแน่นไม่ต่างจากมือที่จับยึดอยู่บนต้นแขน
“อ่ะ...มีอะไร?” เคลย์ถาม น้ำเสียงที่เคยสงบเยือกเย็นสั่นไหวเล็กน้อย
“ถ้าวันนี้ผมไปกินข้าวบ้านอาจารย์ไม่สะดวก” เด็กหนุ่มว่า “งั้นอาจารย์ก็ไปบ้านผมก็แล้วกัน”
“อะไรนะ?”
“ถือเป็นการไปเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนไงครับ”
“แต่ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายแบบนั้น...”
“ชู่!” ลูเซียสยกนิ้วขึ้นจ่อริมฝีปาก เป็นการบอกให้เงียบ “...ตามผมมา”
ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ ร่างสูงก็ออกแรงดึง เรี่ยวแรงนั้นทำให้เคลย์ไถลเข้าไปหา และในอีกวินาทีต่อมาขาทั้งคู่ก็ถูกลากให้ต้องวิ่งตามไปอย่างปฏิเสธไม่ได้
===+++===+++===+++
อาจารย์...หนีไม่ทันแล้วววว ทำไงดี!! กี๊สสส!!
ปล. อัพทีละนิดละน้อย...ค่อยๆ ไป
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#ลูเซียสเป็นเด็กใสๆ
เรากำลังมโนว่าจะเป็นไปได้มั้ยว่าเคลย์เป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยว? ทำไมแอบอยากให้เป็นลูกครึ่งเผ่าเลือดสีเงินกับแดงจัง เผื่อในอนาคตถ้าท้องแล้วจะมีโอกาสที่ลูกจะได้ยีนส์เด่นทั้งคู่กลายเป็นเลือกสีเงินแท้ต่อไป
ส่วนอนาคตเรื่องการสืบทอดเผ่าพันธุ์ระหว่างทั้งคู่นั้น ขอตอบเลยนะคะว่า...ยังไม่ได้คิดเลยอ่า T-T
ถึงอาจารย์เคลย์จะไม่ใจอ่อนให้ตามมาง่ายๆ แต่ท่าทางจะสลัดลูเซียสตอนนี้ไม่ทันแล้วนะจารย์
เด็กมันร้าย