คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ไม่ตั้งใจ (nc)
ตอนที่ 5
ไม่ตั้งใจ
“หิวยัง สั่งไรกินก่อนได้นะ”
ใส้จะขาดละครับพี่! ฮือออ แต่ผมก็ยังเลือกที่จะตอบไปว่า…
“ยังครับ รอทุกคนมาก่อนก็ได้”
“อืม พี่ก็กินมานิดหน่อยละ ยังไม่ค่อยหิวเท่าไร”
ตลอดเวลาที่รอผมได้แต่ภาวนาให้คนในสายมากันครบเร็วๆจะได้เริ่มสั่งอาหารกัน ผมไม่ได้เป็นคนออกเงินเลยไม่กล้าสั่งอะไรมาก ให้พวกพี่ๆเค้าเลือกกันเองน่าจะดีกว่า คนมาก่อนก็เริ่มทยอยสั่งเรื่อยๆ ผมเองก็ได้กินบ้างแล้วเพราะพี่ๆคอยเรียกให้กินอยู่ตลอด บรรยากาศอบอุ่นกว่าที่คิดมาก
ทุกครั้งที่มีคนเดินเข้าประตูมาใหม่ผมต้องคอยยกมือไหว้สวัสดีทุกคนตลอด อีกนิดผมจะไปยืนเป็นรูปปั้นเด็กสวัสดีค้างอยู่ตรงนั้นละ พี่ต้นที่อยู่ข้างๆก็เริ่มขำพรางตบไหล่ปุๆเหมือนให้กำลังใจแต่น่าจะหนักไปทางซ้ำเติมเสียมากกว่า
“กูผ่านมาแล้ว5555”
“พี่ก็ทำแบบผมเลยใช่มั้ย”
“เปล่า กูแค่ก้มหัวนิดนึงแล้วพูดว่าสวัสดีครับเฉยๆ ไม่ได้ยกมือไหว้ทุกคนแบบมึง5555 กูนึกว่าไหว้ผู้ใหญ่วันรวมญาติ”
พอต้นพูดออกมาแบบนั้นคนที่เหลือเลยพากันหัวเราะเอ็นดูในความซื่อของน้องเล็ก
“อ้าว ทำไมพี่ไม่บอกผมอะ?”
“บอกก็ไม่ตลกดิ มึงดู…พี่ๆเค้ากลั้นขำมึงจะตายละ5555”
“โห่ พี่อะ”
“อะๆๆ กินๆๆ จะได้ไม่ต้องบ่นกู” ต้นตักไก่น่องใหญ่มาไว้ในจานน้องรหัสเป็นการปลอบใจ
ยอมกินก็ได้ ผมแค่ไม่อยากทำตัวงี่เง่า ไม่ใช่ว่าน่องไก่มันดูน่ากินหรอกนะ ไม่ใช่เลยจริงๆ
พอกินจนเริ่มอิ่มกันทุกคนห้องอาหารก็เริ่มครึกครื้นมากยิ่งขึ้นบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์เริ่มออก คนส่วนใหญ่ละมือจากช้อนกับส้อมเปลี่ยนมาจับแต่แก้วแทนรวมถึงวาที่โดนต้นยัดใส่มือมาด้วย
“ผมดื่มไม่เป็นนะครับ”
“เออ ก็ยกจ่อปากแล้วก็กระดกๆแล้วก็กลืนนั่นแหละ”
“…” ผมลองชิมดูแล้วก็อร่อยดี อร่อยแบบแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะมันราคาแพง แต่ยังไงก็สู้โกโก้เพิ่มวิปที่ร้านไม่ติดหรอก อย่าหาเทียบ
“ไง อร่อยอะดิ”
“ก็ใช้ได้ครับ”
“อร่อยก็ดื่มเข้าไป มีกูอยู่ทั้งคน ถ้ามึงเมาเดี๋ยวกูแบกเอง”
“โม้…” เสียงปริศนาดังแทรกตรงกลางระหว่างพี่รหัส-น้องรหัส
“อ้าว ไอ้พี่ธา มาแล้วหรอ กว่าจะเสด็จนะคุณชาย”
“สวัสดีครับพี่ธารา”
“หวัดดีวา โทษที มีนัดแทรกนิดหน่อย”
ทันทีที่ธารามาถึงเจ้าตัวก็ทักทายกับสายรหัสจนรอบโต๊ะ มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าคนๆนี้เป็นที่รักของทุกคนขนาดไหน ร่างสูงวนจนรอบก่อนจะหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ด้านข้างธันวา
อยากจะถามว่าไปไหนมาแต่ก็กลัวจะเป็นการเสือก ผมหุบปากไว้ก่อนดีกว่า
“นั่งด้วยนะ”
“ได้ครับพี่”
“นี่มาสองคนแรกกันเลยปะ?”
“ใช่ครับพี่”
“แล้วนี่พี่นัดกับใคร อย่าบอกนะว่านัดกับสาว?”
“หึ กูไม่ใช่ไอ้ภีมนะ”
“5555 พี่ภีมมาได้ยินคงน้ำตาไหลซึ้งใจน่าดู”
“แล้วนี่วากลับยังไง?”
“กลับกับพี่รหัสมันนี่ไง” ต้นตอบกลับไปทันควันแต่ปากก็ซดน้ำสีอำพันไม่ยอมหยุด
“สภาพอย่างมึงเนี่ยนะจะเอาน้องกลับด้วย เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
“โถ่ ผมคอแข็งขึ้นแล้วเหอะพี่ ไม่เชื่อจับดู เคาะทีนี่ดังโป๊กๆ”
เมื่อรุ่นน้องท้ามาอย่างนั้นธาราก็ไม่ขัดศรัทธาใช้สันมือสับไปที่คอของต้นเต็มแรง
“โอ๊ย พี่! ผมล้อเล่น”
“อ้าวหรอ โทษทีๆ”
“เอ่อ…ผมขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะครับ” ธันวาเอ่ยขออนุญาตรุ่นพี่ทั้งสองหลังจากกลั้นมาได้สักพัก
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองก็ได้”
“งั้นก็ดูแลตัวเองดีๆ”
“ได้ครับ!” รุ่นน้องส่งท่าตะเบ๊ะไปหนึ่งทีเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพี่ได้เป็นครั้งที่ร้อยนับตั้งแต่เจอหน้า
การดื่มทำให้ผมเรียนรู้ว่าเวลาคนเราเมานี่ก็ติ๊งต๊องเหมือนกันนะ น่าจะเป็นเพราะขาดการยับยั้งชั่งใจอยากทำอะไรก็ทำออกมาเลย แต่ข้อดีของมันก็คือช่วยให้คนไม่รู้จักกันสานสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น จากช่วงแรกๆที่ทุกคนคุยกับแค่คนข้างๆตอนนี้ทุกคนคุยกันข้ามโต๊ะข้ามรุ่นเละเทะไปหมดเลย
คนเดินหาห้องน้ำโงนเงนไปมาเล็กน้อยแต่ยังพอทรงตัวได้ ส่วนสูง174 ทำให้มองเห็นป้ายห้องน้ำผ่านฝูงชนได้พอดิบพอดี ร่างโปร่งแทรกตัวไปตามช่องว่างอันน้อยนิดระหว่างผู้คนอย่างระมัดระวังไม่ให้ชนใคร
พลั่ก!!
“อุ้ย! ขอโทษครับ”
“เฮ้ย! มึงเดินไงของมึงวะ จะเอาใช่ปะ!”
ซวยแล้วไง ผมเดินไปชนผู้ชายคนนึงเข้า แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกคือเค้ามากกว่าที่มาชนผม ดีนะที่เพื่อนเค้าช่วยกันจับไว้ไม่งั้นคงพุ่งมาต่อยผมหน้าแหกไปแล้ว นี่สินะโทษของน้ำเมา
“รีบไปสิรอให้โดนต่อยก่อนรึไง”
พอเพ่งมองดูดีๆแล้ว หนึ่งในคนที่รั้งชายกร่างผู้นี้ไว้คือ…พี่ภีม?
“ครับ”
ผมก้มหัวให้เค้าไปทีนึงหวังว่าจะดูออกนะว่านี่เป็นการขอบคุณ ผมเดาว่านัดแทรกของพี่ธาราก็น่าจะหนีไม่พ้นแก๊งนี้ มองเผินๆเขาสองคนดูไม่น่าเป็นเพื่อนกันได้เลย ยังกับเทพบุตรกับซาตาน ขากลับจากห้องน้ำผมเลี่ยงไปอีกทางชนิดที่เรียกว่าอ้อมโลกเพื่อไม่ให้เจอหน้าคนพวกนั้นอีก
“มาซักที กูนึกว่าไปตกส้วมซะละ หาห้องน้ำไม่เจอล่ะสิ ” น้ำเสียงของต้นฟังดูอ้อแอ้ไม่เป็นคำพูดซักเท่าไหร่แต่ก็พอฟังออก
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษอะไรของมึง กูก็บ่นไปงั้นแหละ แล้วนี่มึงชื่ออะไรนะ?”
“อ้าว…ชื่อธันวาไงครับ”
“อ๋ออ ไอ้ธันวา เด็กข้างบ้านกูนี่เอง”
ธาราที่ฟังบทสนทนานั้นอยู่ถึงกับถอนหายใจยาว
“อย่าไปฟังมันเลยวา ไอ้นี่มันเมาแล้วชอบจำคนสลับกันมั่วไปหมด”
“อ่อ แปลกดีนะครับ555”
“เห้ย!! ไอ้วา มึงจะต้องออกไปเจอโลกกว้างอีกมาก หัดดื่มไว้ขะได้เข้าสังคมเป็น ชนนน” ธันวาหน้าเหวอเมื่อคนเมาเทเหล้าในแก้วตนเองมาใส่แก้วเขาจนหมดแล้วจับให้ชนแก้วกัน
“บอกให้ชนไงงง โชนน” พอคนน้องยึกยักต้นก็จับแก้วจ่อปากให้เสร็จสรรพแถมไม่ยอมปล่อยมือจนกระทั่งวากระดกไปจนหมดแก้ว
ดูจากสีและรสชาติ นี่มันเหล้าเพียวไม่ผสมอะไรเลย ว่าแล้วทำไมพี่ต้นถึงเมาแอ๋ขนาดนั้น แล้วผมล่ะ?…
“เห้อ~ วามานั่งทางนี้มา อย่าไปอยู่ข้างมันเลย”
“ขอบคุณครับ”
“เห้ย ไปหนายอะ ไอ้เด็กข้างบ้าน มาให้พี่ถ่ายทอดวิชาก่อนนน”
คนเด็กสุดเริ่มรู้สึกว่าโลกหมุนแรงขึ้นทุกทีจนต้องนั่งก้มหน้าอยู่นิ่งๆ
“เป็นไรรึเปล่าวา?”
“ผมว่า…ผมเริ่มเมาแล้วครับ”
ด้วยความที่เป็นครั้งแรกของการดื่มจริงจังคนเมาเลยแยกไม่ออกระหว่างอาการ’เริ่มเมา’กับอาการ’เมาหนัก’
“งั้นกลับเลยมั้ยเดี๋ยวพี่ไปส่ง?”
“อะไรนะครับ?” สติคนหัดดื่มเริ่มลดน้อยลงไปทุกที
“กลับเลยมั้ย พี่ไปส่ง?”
“ผมกลับก่อนจะดีหรอครับ ยังไม่มีใครกลับเลย”
“กลับได้ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก”
“งั้นรบกวนพี่หน่อยนะครับ”
ธาราหันไปฝากฝังต้นกับรุ่นพี่ปีอื่นๆที่ดูยังมีสติให้ดูแลมันแทน ก่อนจะหันมาสะกิดธันวาให้เตรียมตัวกลับ
“ปะ ลุกไหวมั้ย”
แขนแกร่งช่วยพยุงอีกคนให้ลุกขึ้นยืนโดยไม่ล้ม
“แล้วนี่หอวาไปทางไหนพอจะบอกทางพี่ไหวมั้ย?”
“ครับ?”
“หอวาอยู่ฝั่งไหน?”
“…อืม” เปลือกตาของคนตัวเล็กกว่าไม่แม้แต่จะลืมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ทั้งร่างเหลือเพียงสมองที่สั่งการแค่ขาให้ก้าวเดินเหมือนหุ่นยนต์บังคับ
“…”
ร่างสูงยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจพาหลานรหัสเดินไปที่รถกะว่าจะพาไปที่คอนโดตัวเองแต่กลับมีเสียงตะโกนไล่หลังมาเสียก่อน
“ไอ้ธา!!”
“มีอะไร?” พอหันมาก็พบว่าคนที่เรียกเขาเป็นวิคที่แบคภีมมาในสภาพเมาหมดสติ
“เอาไอ้ภีมกลับไปด้วยดิ กูจะไปต่อกับเพื่อน”
“กูต้องแบกหลานรหัส จะให้แบกยังไงสองคน?”
“เดี๋ยวกูแบกไปที่รถให้ พอถึงคอนโดมึงก็เรียกยามมาช่วยแบกละกัน”
“เออๆ พวกมึงนี่ขยันหาเรื่องให้กูจริงๆ”
เมื่อถึงรถธาราจัดแจงให้วานั่งเบาะหน้าส่วนเพื่อนตัวปัญหาถูกโยนไว้ด้านหลังสภาพไหนเขาเองก็ไม่ได้สนใจจะดู
เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงรถคันหรูก็ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพโดยไม่มีผู้โดยสารคนไหนสำรอกอาหารระหว่างทางเสียก่อน ทั้งคู่พากันหลับสงบนิ่งยาวตั้งแต่ต้นจนปลายทาง
“วา…ถึงแล้วนะ”
“อือ…”
“พี่ร.ป.ภ.ครับ! ช่วยหน่อยครับ”
เรียกกำลังเสริมเสร็จคนตัวสูงก็จับแขนรุ่นน้องให้เกี่ยวคอตัวเองไว้พรางใช้แขนสอดเข้าใต้ร่างจนได้อีกคนมาอยู่ในท่าเจ้าสาว กว่าจะถึงห้องได้ก็เล่นเอาเหงื่อตก ด้วยความเห็นใจคนที่พลอยมาลำบากไปด้วยอย่างพี่ยามธาราเลยให้สินน้ำใจเป็นเงินไปเล็กน้อย
ธันวาถูกวางลงบนเตียงในห้องรับแขกส่วนเพื่อนตัวดีถูกวางไว้ที่โซฟากลางห้อง
เจ้าของห้องกลับมาพักเหนื่อย กินน้ำเย็นๆให้พอชื่นใจก่อนจะเตรียมถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำเข้านอน แต่แล้วโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันดังขึ้นมาเสียก่อน ธาราชั่งใจอยู่นานว่าจะรับดีหรือไม่เพราะสายเข้าเวลานี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ แถมยังเป็นเบอร์รุ่นพี่ปีสี่อีก
“เอาวะ…ฮัลโหลครับ?”
[ไอ้ธา มึงจะกลับไปรับไอ้ต้นใช่ปะ]
“ผมกลับคอนโดมาแล้วพี่”
[มึงอ่านในแชทกลุ่มดิ]
เจ้าของเครื่องไม่รอช้ารีบปัดแอพพลิเคชันไปที่ห้องแชทของสายรหัส เนื้อความในนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าทุกคนไม่มีใครพาต้นกลับบ้านซักคนเอาแต่ผลักภาระกันไปมา
[เห็นยัง]
“เห็นแล้วพี่ เดี๋ยวผมกลับไปดูมันเอง”
[เออ โทษทีนะเว้ย กูเองก็กลับมาก่อน ถ้ากูอยู่จนจบกูคงเอามันกลับมาด้วยแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับพี่ เป็นความผิดผมเอง”
ตัวธาราเองก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ดูแลน้องได้ไม่ทั่วถึง มือหนาคว้ากุญแจรถก่อนจะออกไปจากห้องโดยไม่ลังเลอะไรอีก
หลังจากเจ้าของห้องผลุนผลันออกไปภายในห้องพลันเงียบสงัดลงอีกครั้งเหมือนก่อนหน้า ถึงแม้จะมีสองชีวิตอยู่ภายในก็มิได้นำพา เพราะต่างคนต่างหมดสติ
ผ่านเวลาไปไม่นานคนบนโซฟาก็งัวเงียตื่นขึ้น หัวสมองที่ยังไม่ได้รับการฟื้นฟูสั่งร่างกายให้ล้มลงไปที่เดิมเมื่อพยายามลุก
“แม่ง…”
ชายหนุ่มสะบัดหัวไปมาแรงๆเพื่อไล่ความมึนงง
“ใครเอากูมานอนตรงนี้วะ”
ภีม ศตายุกำลังหงุดหงิดที่เพื่อนตัวดีนำเขามาแหมะไว้ตรงนี้ทั้งๆที่ควรจะเป็นห้องรับแขกที่เขาเคยได้นอนอยู่เป็นประจำเวลามาค้างที่นี่
ขายาวก้าวไปตามใจคิด มุ่งตรงไปยังห้องรับแขกที่มีใครบางคนนอนหมดสติอยู่ก่อนหน้า กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวในห้องก็ตอนที่ล้มตัวลงไปทับอีกคนแล้ว
“อื้อ…”
ใครวะ…
คนที่นอนหลับอยู่จำต้องตื่นขึ้นท่ามกลางความมึนงง แต่เพียงขยับตัวปรับท่านอนครู่เดียวก็หลับต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใคร?” มือหนาเลิกผ้าห่มขึ้นดูใบหน้าของคนๆนั้นให้ชัดอีกครั้ง แต่แล้วความมึนเมาบวกกับอดีตฝังใจทำให้ภาพที่ปรากฏไม่ตรงกับความเป็นจริง
“พี่ซัน?…”
มือหนากระชากแขนคนหลับให้หันมาเผชิญหน้ากันจนกลายเป็นภีมที่คร่อมวาอยู่
“ใคร!…ออกไปนะ”
“พี่ซัน พี่กลับมาหาผมแล้วหรอครับ?”
“ซัน?” คนด้านบนตะกุมมือธันวาเอาไว้พร้อมกับจุมพิตลงไปอย่างหวงแหน
“ผมรอพี่มาตั้งนานนะรู้มั้ย?”
“บอกให้ออกไปไง!” แม้ดวงตาจะยังโฟกัสภาพไม่ได้แต่คนถูกคุกคามก็พร้อมจะผลักไสคนบุกรุกให้ออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่มันก็ยังไม่พอให้คนเมาเลิกมายุ่มย่าม
“พี่ซัน พี่ไม่รักผมแล้วจริงๆหรอ”
“…?”
“ผมจะทำให้พี่รู้ ว่าผมรักพี่มากแค่ไหน?”
“อื้อออ”
มือหนารั้งคอคนเด็กกว่าให้เข้ามารับจูบหยาบคายจากเขา ด้านคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวอีกทั้งสติยังมีน้อยไปเกินไปกว่าจะปฏิเสธสัมผัสที่อีกคนมอบให้ทำได้เพียงทุบอกแกร่งแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยิ่งดิ้นแรงคนคุมเกมส์ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกต่อต้าน ริมฝีปากหนาเลยวางหลุมพรางด้วยจูบที่เชื้อเชิญให้อีกฝ่ายหลงไหล เนิบนาบ เย้ายวน ชวนให้วาบหวาบในอก
และดูเหมือนแผนนั้นจะได้ผล คนใต้ร่างสงบลงอย่างเห็นได้ชัด มือที่เคยทุบแปลเปลี่ยนเป็นขย้ำอยู่บนเสื้อเชิ้ตตัวบาง ปากเรียวเล็กฉ่ำน้ำเริ่มมีท่าทีโอนอ่อนไปตามสิ่งยั่วยุ
“อ้าปาก” ต่อให้สั่งไปอย่างนั้นแต่คนไม่ประสามีหรือจะทำตามตาม จนแล้วจนรอดคนช่ำชองผ่านประสบการณ์มาแล้วจึงต้องงัดไม้แข็ง มือซุกซนสอดแทรกเข้าไปด้านในเสื้อนักศึกษาในขณะที่ปากก็ยังง่วนอยู่กับการมอมเมาคนเด็กกว่าอยู่ไม่ห่าง
“อ๊ะ…” จุดไวต่อสัมผัสบนหน้าอกของวาถูกกระตุ้นด้วยมือของหมาป่าเจ้าเล่ห์จนเผลอเผยอปากออก
เพียงเสี้ยววินาทีริมฝีปากของคนด้านบนก็ถูกจัดเสริฟโดยมีของแถมเป็นลิ้นร้อนตามมาหยอกเย้าให้สติเตลิดไปไกลยิ่งกว่าเก่า
“อืม…”
“ผมขอนะ”
ภีมเอ่ยปากขออนุญาตถึงแม้ในใจจะรู้อยู่แล้วลึกๆว่าต่อให้ถึงอีกฝ่ายจะพูดว่าไม่ เขาก็ยังคงทำต่ออยู่ดี
เสื้อเชิ้ตตัวโปรดถูกปลดกระดุมแล้วกระชากออกให้พ้นทาง และเพื่อให้เนื้อได้แนบเนื้อมากยิ่งขึ้น คนที่ถอดคงไม่ได้มีแค่คนเดียวในสถานการณ์แบบนี้ เสื้อนักศึกษาของธันวาเองก็ถูกปลดกระดุมออกเรียงตั้งแต่บนลงล่างจนหมดเช่นกัน ผิวเนื้อขาวเนียนส่องเป็นประกายแม้อยู่ในความมืดปรากฎสู่สายตาที่ไม่น่าไว้ใจ
ริมฝีปากไม่รู้จักพอก้มลงจุมพิตไปทั่วแผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลงด้วยแรงหอบหายใจ ร่างสูงฝากรอยช้ำเป็นปื้นไว้ทั่วบริเวณชนิดที่ต่อให้ใส่เสื้อปิดถึงคอยังปิดไม่มิด สัมผัสวูบไหวเสียจนคนไร้เดียงสาสมองขาวโพลน
ไม่รอให้เสียเวลานาน คนด้านบนปลดกระดุมกางเกงแสล็คที่ขัดตามานานให้หลุดออกไปเหลือเพียงแพนตี้สีขาวตัวจิ๋ว หน้าขาแกร่งทำหน้าที่เคล้นคลึงไปที่ส่วนลับระหว่างที่มือก็ปรนเปรอไปพร้อมกับปากที่กลับไปมอบจูบลึกซึ้งอีกครั้ง
“ ฮื้อ อ๊ะ อย่าโดนตรงนั้น”
รสจูบบวกกับความเสียวซ่านที่วาได้รับมันหอมหวานเสียจนไม่อาจผลักไสมันออกไปได้ด้วยสติเพียงเท่านี้ เท่านั้นไม่พอยิ่งมือที่หน้าเปลี่ยนมาฟอนเฟ้นส่วนอ่อนไหวของวายิ่งทำให้ร่างกายบิดเร่าด้วยความกระสันจนเสียงคราวหวานหูเล็ดลอดออกมาไม่หยุด
“ครางหวานแบบนี้ ผมจะอดใจไหวได้ไง”
กางเกงยีนส์ตัวหนาถูกประท้วงด้วยสิ่งที่อยู่ข้างใต้มานานจนรู้สึกปวดหนึบแต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำให้อีกคนถึงฝั่งฝันเสียก่อน
“อ๊า ตรงนั้น” คนถูกปรนเปรอที่ส่วนหัวร้องไม่เป็นภาษาเมื่อความเสียวพุ่งสูงจนเกินจะรับไหว
“ฮึก จะเสร็จ อย่า อ๊าาา”
น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเต็มมือหนา เขาใช้มันเป็นตัวหล่อลื่นเพื่อที่จะได้เข้าไปทักทายช่องทางหลังของอีกคน นิ้วกลางที่ถูกเคลือบจนชุ่มสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางสีหวานอันคับแน่น เพียงไม่กี่สิบวินิ้วนางก็ตามไปสมทบจนความเจ็บเริ่มเข้ามารบกวน
“อย่ายุ่งกับตรงนั้น”
“เห็นทีจะไม่ได้”
สองนิ้วเริ่มขยับอย่างเชื่องช้าให้น้ำรักเคลือบไปทั่วก่อนจะเร่งจังหวะจนคนโดนแกล้งร้องออกมาเสียงหลง
ภีมคิดว่าส่วนแข็งขืนภายใต้กางเกงของเขาอดทนมามากเกินพอแล้ว ซิบเหล็กถูกรูดลงจนมันถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ วินาทีนั้นนิ้วทั้งสองหมดหน้าที่ทันที เขาจับมันให้จ่อไปที่ช่องทางคับแคบก่อนจะกดส่วนหัวให้เข้าไปก่อน
“อ๊าา ผมเจ็บ”
“ชู่วว ทนหน่อยนะคนดี”
ไม่ทันขาดคำท่อนเอ็นขนาดใหญ่ก็กดลงไปในช่องทางรักจนมิดลำทำเอาคนรองรับอารมณ์ถึงกับน้ำตาคลอ
“ฮึก เจ็บ บอกให้หยุดไง”
“อาห์ แน่นชิบ”
ในคราแรกเขาแทบจะขยับตัวตนไม่ได้เนื่องจากความคับแน่นบวกกับช่องทางที่ขมิบตอดรัดเป็นจังหวะนั่นยิ่งทำให้เขาสติแตก
“เอาออกไป ฮึก ฮืออ”
“ไม่ร้องนะครับ เก็บเสียงไว้ครางเรียกชื่อผมดีกว่า”
สติของธันวาเริ่มกลับมาทีละนิดเมื่อถูกความเจ็บปวดที่ผสมปนเปมากับความเสียวซ่านเข้าเล่นงาน
“พี่ภีม…”
จังหวะเนิบนาบสลับกับดุดันดำเนินต่อไปอีกยาวนาน โดยที่มีคนรองรับอารมณ์เพียงคนเดียวที่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใครจนจบเกมส์อะนน่าเสียเปรียบนี้
ร่างสูงล้มตัวลงนอนตรงที่ว่างทางซ้ายเมื่อร่างกายได้ปลดปล่อยสมใจอยาก ทิ้งให้คนที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือล้างแผลใจนอนจมอยู่กับแผลใหม่ที่เขาเป็นคนสร้างให้
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไร?’
20 นาทีที่แล้ว
เจ้าของห้องกลับมายังที่พักเมื่อสะสางปัญหาที่น้องรหัสได้ทิ้งไว้ให้ กว่าจะไปรับไปส่งให้ถึงหอมันได้ก็ใช้เวลาไปร่วมชั่วโมง
เขาไม่นึกแปลกใจสักนิดที่เพื่อนสนิทบนโซฟาหายตัวไปเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงได้สติขึ้นมาก่อนและกลับคอนโดตัวเองไปแล้ว ธาราจึงเข้าห้องตัวเองแล้วนอนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องรับแขก
04:21 น.
ด้านคนถูกกระทำที่นอนฟุ้งซ่านจนน้ำตาเหือดแห้งแทบหมดบ่อเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองควรหนีไปจากที่นี่เสียตอนนี้เลย เพราะขืนรอให้เช้าเขาคงจะสู้หน้าคนที่นอนหลับสบายอยู่ข้างๆตอนนี้ไม่ไหว
ร่างบอบช้ำเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดกองกลับมาใส่ โชคยังดีที่ทุกชิ้นถูกปลดออกอย่างถูกวิธีเลยยังใช้งานได้ปกติ และก็เป็นโชคดีที่ตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามืดสนิทคนขับแท็กซี่เลยไม่สังเกตเห็นร่องรอยที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาหลายรอยจนดูเหมือนคนทำนั้นตายอกตายอยากมานาน
ผมกลับมาถึงห้องได้ก็จัดการอาบน้ำชำระร่างกายเอาสิ่งสกปรกออกจนหมดแล้วเข้านอนทันที คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องได้หลับยาวเพราะพรุ่งนี้คงออกไปไหนไม่ได้แน่ถ้ารอยยังเต็มตัวขนาดนี้ มาม่า ไข่และโจ๊กในห้องก็ยังเยอะอยู่คงพอให้อุดอู้อยู่ในนี้ได้อีกสองวันเลย ห่วงก็แต่เรื่องเรียน คงต้องฝากให้จีจ้าเลคเชอร์แทนให้และได้แต่หวังว่าอาจารย์จะเมตตาให้ส่งงานย้อนหลังล่ะนะ
ความคิดเห็น