คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 พี่รหัส
“มีอะไรรึเปล่าครับ?” วาเข้าไปยืนแทรกกลางระหว่างผู้หญิงทั้งสองคน แต่จี้จ้ากลับดึงวาให้หลบไปอยู่ด้านหลังตัวเอง
“ก็พวกนี้อะดิมันมาหาเรื่องชั้น”
“ก็แกไม่ยอมขอโทษเพื่อนชั้น นินทาคนอื่นได้แต่ไม่ยอมขอโทษ น่าเกลียด!”
“นินทาอะไร? ก็ชั้นพูดความจริง”
“ความจริงตรงไหน เพื่อนชั้นเป็นลมจริงๆไม่ได้จะอ่อยผู้ชายอย่างที่พวกแกพูดกันเสียๆหายๆเลย!”
“หรอ แล้วได้ถามเพื่อนตัวเองรึยังล่ะ ว่าไปทำอะไรต่อที่ห้องพยาบาล?”
“ทำอะไร! ก็ต้องไปนอนพักสิ ใช่มั้ยแก?” ฝ่ายหาเรื่องหันไปถามเพื่อนตัวเองในประโยคหลัง คนตอบไม่ได้ให้ความร่วมมือเอาแต่ยืนอึ้งที่รู้ว่ามีคนรู้ความลับสุดยอดในห้องพยาบาลเมื่อวานนี้
“แหม กับเพื่อนก็ไม่เล่าหรอ ขี้งกนะเนี่ย”
“นี่! หุบปากนะ เรากลับกันเถอะ อย่าไปเสียเวลาคุยกับพวกมันเลย”
“อ้าว จะรีบไปไหนอะ กำลังสนุกเลย!”
“พอเถอะจีจ้า กินข้าวกัน” วาห้ามปรามเพื่อนเพื่อให้เรื่องนี้จบลงแบบสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่นี้ก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโรงอาหารแล้ว รวมทั้งภีมเองที่ถูกพาดพิงในบทสนทนาก็ยืนจ้องมองมากทางนี้อยู่ด้วย
ผมเห็นเขาตั้งนานแล้ว แต่สายตาเขาดูเรียบนิ่งไม่บอกอะไรเลยแถมมองบ้างไม่มองบ้าง อาจจะแค่ไม่อยากมายุ่งเรื่องของผู้หญิงก็เลยยืนเป็นห่วงอยู่ไกลๆมั้ง ดีแล้วล่ะเพราะผมยังไม่อยากได้แผล
“นึกว่าจะแน่ แค่พูดเรื่องที่ห้องพยาบาลแค่นี้ก็หนีหางจุกตูดไปซะละ” จีจ้าเท้าสะเอววางท่าเก่งกาจหลังคู่อริใหม่เอี่ยมเพิ่งถอยหนีไป
“ดีนะที่พวกนั้นกลับไปเอง พี่ภีมก็มองอยู่ด้วย กูกลัวว่าเค้าจะลุกมาต่อยมึงกับกูชิบหาย” ธันวาดุเพื่อนด้วนสีหน้าเคร่งเครียด
“บ้าหรอ พี่ภีมสุภาพบุรุษจะตาย ไม่ทำงั้นหรอก”
“สุภาพบุรุษที่ไหนเค้าแอบจูบรุ่นน้องในห้องพยาบาลกัน?”
“เอ๊า นังนั่นอาจจะรุกพี่เค้าก่อนก็ได้ใครจะไปรู้ อีกอย่างพี่เค้าทั้งอุ้มรุ่นน้องไปห้องพยาบาลตอนเป็นลม แถมยังให้แกจับไหล่เค้าแทนตอนมือมึงหลุดกับชั้นอีก ไม่สุภาพบุรุษตรงไหนเอาปากกามาวงค่ะ”
“วงจนหมึกแห้งดิไม่ว่า”
“เอ๊ะ แกนี่!”
17:00
“มาเรียนสองวันก็มีคู่อริซะละ ชีวิตมหาลัยชั้นจะเป็นยังไงวะเนี่ยยยย”
เพื่อนสาวเดินไปบ่นไปตามทางเดินอิฐตัวหนอน จุดมุ่งหมายคือไปร่วมกิจกรรมรับน้องหลังเลิกเรียนที่ตึกฝุ่นเขรอะเมื่อวานนี้แต่จะว่าอย่างนั้นก็คงไม่ถูกเพราะตอนนี้สะอาดวิ๊งใหม่เอี่ยมไม่เหลือแม้ฝุ่นซักเม็ด
“ก็ดูแกดิ ยอมใครที่ไหน จะชนอย่างเดียว”
“เรื่องอะไรจะต้องยอมด้วยอะ มีมือมีเท้าเท่ากันนี่”
“เอาอะไรมาเท่า แกนับยังไงวะ ฝั่งนั้นรวมกันสิบตีนได้ เรามีแค่สี่ตีนกันเอง”
“เออน่า นัวๆไปก่อน”
“ผมไม่นัวกับคุณหรอกนะครับคุณจีจ้า เชิญคุณนัวคนเดียวเลย”
“แกนี่มัน…เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายไปงานศพ!”
“ชุดดำเรามีเยอะ ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ทอดทิ้งให้งานแกเหงาแน่นอน”
“ย่ะ!”
“น้องๆที่มาแล้วมารวมกันตรงนี้เลยครับเร็วๆๆ”
เสียงรุ่นพี่ปะปนกับเสียงกลองและเสียงทรัมโบลินให้จังหวะครึกครื้นสนุกสนาน ดูสมกับเป็นงานกิจกรรมสันทนาการมากกว่าเมื่อวานอยู่มากโข
“เดี๋ยววันนี้เราจะให้คำใบ้น้องๆไปหาพี่รหัสน้องรหัสกันนะครับ”
“เย้!!” เสียงร้องดีใจปะปนไปกับเสียงซุบซิบพูดคุยดังกระหึ่มไปทั่วบริเวรด้วยความตื่นเต้น
“ไม่ต้องดีใจไป ใครหาไม่เจอภายในอาทิตย์นี้ซึ่งก็คือวันสุดท้ายของการรับน้องจะมีบทลงโทษนะครับ”
“โห่ววววว!!”
“เอาล่ะๆ พี่เรียกชื่อใครก็ออกมารับคำใบ้นะ เริ่มที่ 324 325 326……”
“แกว่าเราพี่รหัสเราจะเป็นคนแบบไหนวะ แล้วเค้าจะดีใจหรือเสียใจตอนรู้ว่าน้องรหัสคือเราอะ555”
“ไม่รู้ว่ะ แต่ใครได้แกเป็นน้องรหัสคงจะปวดหัวน่าดูเลยจี้”
“จี้? นี่แกรวบชื่อชั้นเหลือพยางค์เดียวเลยหรอ “
“เออ ขี้เกียจเรียก หรือแกจะให้เราเรียก ‘จี’ หรือ ‘จ้า’ มั้ยล่ะ?”
“เอ่อ…จี้ก็ได้ชั้นโอเคละ”
“เค้าเรียกเลขที่แกแล้ว ลุกๆๆ”
“ว้ายย แกแหละชวนชั้นคุย!” หันมาแหวเพื่อนเสร็จคุณเธอก็รีบกุ
ลีกุจอวิ่งไปรับใบคำใบ้ของตัวเองทันที
ถัดมาไม่กี่ชื่อก็ถึงคิวธันวาออกไปรับบ้างแต่คราวนี้คนแจกเปลี่ยนเป็นภีมตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองก็ไม่ได้สังเกต ร่างโปร่งมีอาการเกร็งนิดหน่อยตอนรับมาจากมือเพราะคาดว่าพี่คนนี้อาจไม่ชอบหน้าตัวเองตั้งแต่ไปมีเรื่องกับคนรักเขาในครั้งนั้น
แควก~
กระดาษคำใบ้ขาดเป็นสองท่อนเมื่อวาออกแรงดึงแต่คนให้กลับไม่ยอมปล่อยส่งผลให้กระดาษถูกแยกชิ้นในที่สุด สร้างความตกใจให้กับคนรอบข้างได้วุ่นวายหาวิธีแก้กันยกใหญ่
“เทปๆ รอแปป เดี๋ยวพี่ไปหามาให้นะ” รุ่นพี่ผู้หญิงลนลานหาของมาซ่อมให้ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนทำ วานึกขอบคุณเธออยู่ในใจที่เดือดร้อนแทนให้ขนาดนี้
“ไม่เป็นไรครับพี่ ขาดแค่นี้เองผมต่อเองได้ครับ น่าจะอ่านได้อยู่” รอยยิ้มบางๆถูกส่งไปให้หญิงสาวเพื่อให้เธอคลายกังวล
“เอางั้นหรอคะน้อง”
“ใช่ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“จ้า”
ทันทีที่วาแยกออกมารุ่นพี่คนเดิมก็ฟาดลงไปที่แขนภีมเต็มแรงพร้อมกับดุไปหนึ่งสเต็ปฐานทำให้กระดาษรุ่นน้องต้องขาดแต่เจ้าตัวยักไหล่อย่างไม่ยี่หร่ะ
ยังไม่ทันที่ก้นจะได้แตะพื้นเพื่อนรักของวาก็ยื่นคอมามองคำใบ้ของเขาก่อนแล้ว
“ไหน คำใบ้แกว่าไง”
“โห ไม่ค่อยจะขี้เสือกเท่าไหร่เลย”
“พอกันแหละ! ไหน คำใบ้ว่าไง อย่าลีลา”
“หล่อ…”
“หล่อ? …หาจนตาเหลือกก็ไม่เจอหรอกงั้นอะ รุ่นพี่คณะเรางานดีๆกันทั้งนั้นเลย แต่แกโชคดีอะได้คนหล่อด้วย ดูคำใบ้ฉันดิ ‘สูงไม่เกิน160’ ผญ.แน่เลยอะ ฮือออออ”
“ผช.สูงไม่เกินร้อยหกสิบก็มี”
“แต่ฉันว่าคณะเราไม่มี แกลองมองไปดิ สูงยาวเข่าดีแทบทุกคนเลย”
“นั่นมันพี่ปีสาม พี่รหัสเราปีสองต่างหาก อย่าหลงปี”
“เออว่ะ หนักเลย ต้องไปแอบดูที่ไหนถึงจะเจอตัวเนี่ย ทายผิดก็โดนทำโทษอีก”
“จริง แต่เรามีเพื่อนอยู่ปีสาม เดี๋ยวลองถามๆมันดู”
“เออใช่ คนนั้นไงที่ชื่อวิน”
“จำแม่นเชียวนะ”
“แน่นอน ชั้นจำชื่อผช.หล่อๆคณะเราได้ทุกคนแหละ”
“ยังจะภูมิใจอีก”
“แน่นอนจ้า…เฮ้ย แล้วเมื่อกี้พี่เค้าทำไรทำไมกระดาษขาดอะ นี่พี่เค้าโกรธเราจริงหรอแก”
“ไม่รู้ดิ เราก็ทำเฉยๆไปเหอะ เราไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนซักหน่อย”
“ก็จริงของแก จบรับน้องเราไปเดินตลาดหลังม.กันมั้ย เห็นคนบอกว่ามีของกินอร่อยๆเยอะเลย”
“ไปได้ไม่เกินชั่วโมงนะ ต้องรีบไปทำงานต่อ”
“เออจริงด้วย งั้นรีบซื้อรีบกินรีบกลับละกันเนอะ ขอให้วันนี้รับน้องเลิกเร็วทีเถอะ สาาาธุ”
ตลาดนัดหลังมหาลัย
สองข้างทางถูกประกบด้วยร้านค้ามากมายจนแทบไม่เหลือที่ว่างระหว่างร้าน แค่จุดๆเดียวยังรวมทั้งของกินของใช้รวมไปถึงเสื้อผ้าอีกมากมายให้เลือกสรรจนตาลาย
“โห นี่มันแหล่งละลายทรัพย์”
“อืม มีแต่ของน่ากิน เดินได้สิบก้าวก็เต็มมือแล้วมั้ง”
“จริงแก เราต้องใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างถึงที่สุด!”
“บอกตัวเองเถอะจี้”
“วา!”
“อะไร!?”
“แกดูขนมร้านนั้นดิ น่ากินอะ”
“โวะ! ร้องซะตกใจ นึกว่าเจอผี”
“ผีตะกละเท่านั้นจ้ะนาทีนี้ มาเร็วๆๆ”
“เออออ”
หลังจากนั้นสองเพื่อนซี้ก็ได้เดินเข้าเดินออกอีกหลายร้านจนของเต็มมือเข้าจริงๆอย่างที่คิดไว้
“เฮ้ยวา… นั่นมันแก๊งเดือนนี่ เดินมากับดาวบริหารด้วยอะ”
“โห นึกว่ามาถ่ายหนัง แก๊งนั้นเค้าเลือกคบแต่คนน่าตาดีหรอ”
“ ฮือออ ชั้นเจ็บ พี่ภีม พี่ธารา พี่วิน พี่ไทเกอร์ พี่วิค พี่เจ้านาย พี่ทำแบบนี้กับหนูได้ยังไงงงง”
“โห จำได้ไงวะ…ไม่เป็นไรนะ เดือนก็ต้องคู่กับดาวเป็นธรรมดา ถึงเนื้อคู่จะไม่มีแต่เรายังมีเนื้อย่างในมือนะ”
“ฮืออ ก็ได้วะ เนื้อย่างก่อนก็ได้”
“แล้วทำไมถึงเรียกว่าแก๊งเดือนอะ?”
“ก็พี่ธาราเค้าเป็นเดือน แถมกลุ่มนั้นก็มีแต่คนหล่อๆเค้าเลยพากันเรียกแบบนี้มั้ง”
“ก็เข้าใจได้ แล้วอย่างเรานี่ แกว่าควรจะชื่อแก๊งอะไร”
“แก๊งดาวเคราะห์ เหมาะสุดละ เคราะห์กรรมเยอะขนาดนี้อะ”
“อืม ไม่ดาวเคราะห์ก็ต้องดาวน์รถแล้วล่ะ ถือไม่ไหวแล้ว หนักมาก! หารถเข็นมาใส่แล้วเข็นเอาเถอะจี้”
“น่าาา ฝากถือหน่อยชั้นถือไม่ไหวจริงๆ ชั้นก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเองงง”
“ตัวเล็ก แต่กินเยอะ!”
“เค้าเรียกว่าวัยกำลังโต แกก็”
“หรอครับ หยุดสูงตั้งแต่ม.ปลายแล้วมั้งทำเป็นพูด”
“เออๆ ยอม ชั้นจะไม่เถียงหรอกนะ เดี๋ยวไม่มีคนช่วยถือ”
“รีบกลับกัน เดี๋ยวสาย”
3 วันถัดมา
กิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างน้องพี่ดำเนินจนใกล้ถึงวันสุดท้าย หลายๆคนเริ่มมีความสนิทสนมกันมากขึ้นทั้งกับเพื่อนและรุ่นพี่โดยการละลายพฤติกรรมผ่านสันธนาการ แต่สิ่งที่ทุกคนใจจดใจจ่อมากที่สุดคือการตามหาบุคคลในกระดาษคำใบ้ บางคนก็ตามสืบจนรู้ว่าพี่รหัสตัวเองเป็นใครกันแน่ บางคนก็โดนสับขาหลอกจนหัวหมุน ตัดภาพมาที่ผมกับจี้ที่ไม่ได้เบาะแสอะไรเลยเพราะไม่มีความกระตือรือล้นในการตามหาสักนิด ผมคิดไว้แล้วว่าหาให้ตายก็ไม่เจอ ผมไม่รู้จักกับใครในปีสองเลยด้วยซ้ำเรื่องตามสืบคงไม่ต้องพูดถึง ไปแอบถามไอ้วินเพื่อนเก่ามันก็ไม่ยอมปริปากบอกสักนิด ส่วนจี้ แค่รู้ว่าพี่รหัสน่าจะเป็นผู้หญิงก็หยุดตามหาและยอมโดนทำโทษแต่โดยดี มันยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม แม้ว่าพี่รหัสมันจะคอยฝากขนมฝากชีทเรียนมาให้อยู่ตลอดก็ตาม
“เห้อ~ สงสารพี่รหัสแกจริงๆ ทำให้ขนาดนี้น้องยังไม่สนใจจะตามหาเลย”
โรงอาหารในเวลาเที่ยงถูกจับจองไปทุกพื้นที่จนเกือบเต็มรวมทั้งวากับจีจ้าที่ต้องนั่งรวมกับคนแปลกหน้าด้วยเช่นกัน
“ขอโทษนะคะพี่ ก็คนมันไม่มีแรงจูงใจให้ทำไง”
“ดูอย่างเราดิ ไม่เคยได้อะไรเลย ลืมไปแล้วมั้งว่าเราเป็นน้องรหัส”
“เค้าอาจจะตั้งใจเรียนไม่เลยโฟกัสกับกิจกรรมอะไรแบบนั้นรึเปล่า หรือไม่ก็เป็นคนไม่สนโลกไปเลย”
“ไม่รู้ว่ะ แต่แบบไหนก็ช่างเค้าเถอะ ไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง”
“เออ เอาจานไปเก็บกัน แกนั่งเฝ้ากระเป๋าอยู่นี่แหละเดี๋ยวชั้นไปเก็บให้”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปเอง ว่าจะแวะซื้อขนมร้านริมด้วย”
“อ๋อเหรอ เออๆ ฝากซื้อขนมแซนด์วิชด้วยนะ”
“ได้ครับ”
ตลอดช่วงเวลาที่เดินไปเก็บจานแล้วแวะซื้อขนมผมรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามอยู่ตลอดแต่ก็ไม่กล้าหันไปมอง แค่เดินให้เร็วขึ้นก็น่าจะพอมั้ง ยังไงคงไม่เกิดอะไรขึ้นอยู่แล้วคนเต็มโรงอาหารขนาดนี้ แต่ผมรู้สึกว่าคนเริ่มมองมาที่ผมมากขึ้นเรื่อยๆเลย เค้ามองอะไรกันวะ?
“อ่ะ แซนด์วิชแฮมไข่”
ธันวายื่นของฝากให้กับเจ้าตัวแต่สายตาของคนรับดันมองเลยไปด้านหลังด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มทำให้รู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องหันไปดูเลยว่าเธอกำลังมองหนุ่มป๊อปสักคนในมหาลัยเป็นแน่
“น้องชื่อธันวาปี1ใช่มั้ยครับ”
“…ครับ”
“พี่ชื่อธารานะ อยู่ปีสาม อ่ะนี่พี่รหัสเราฝากขนมมาให้”
ผมคุ้นๆว่าชื่อนี้เคยหลุดจากปากจีจ้ามาแล้ว บวกกับความหล่อราวกับเทพบุตร คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในแก๊งเดือนไม่ผิดแน่
“ขอบคุณครับ”
“เอ่อ พี่ธารารู้เหรอคะว่าพี่รหัสของวาคือใคร”
“รู้ครับแต่บอกไม่ได้หรอกนะ”
“ค ค่ะ…ไม่เป็นไรเลยค่ะ” เพียงแค่ชายหนุ่มรูปงามผู้นี้ตอบกลับเธอ ก็ทำเอาแข้งขาอ่อนไปหมดจนแทบยืนไม่อยู่
“พี่ไปก่อนนะครับ”
“ครับ”
เป็นไปตามคาด หลังจากรุ่นพี่เดินหันหลังจากไปจี้จ้าก็กระตุกแขนเพื่อนรัวๆไม่หยุดจนธันวาทำหน้าหน่าย
“แก๊ เค้าเหมือนเทวดาเลยอะ เหมือนไม่ได้เดินแต่ใช้วิธีลอยไปลอยมาเอาอ่ะ ฮืออ คนอะไรหล่อสะอาดสะอ้านหล่อเนี้ยบ หล่อเป๊ะได้ขนาดนี้วะ จะเป็นลม”
“เออออ ก็คนเหมือนเราแหละ”
“โห่ แกไม่อินอ่ะ”
“เรากำลังคิดอยู่ว่า ถ้าพี่รหัสเรารู้จักกับเค้า งั้นก็แปลว่าพี่รหัสเราเป็นน้องรหัสเค้ารึเปล่า”
“ก็ไม่แน่หรอกแก พี่ธาราเค้ารู้จักคนเยอะจะตายอาจจะแค่ช่วยเหลือคนรู้จักก็ได้”
“อืม ก็เป็นไปได้ แต่แค่ได้ขนมก่อนวันเฉลยก็ถือว่าดีมากละ”
“จริง นึกว่าแกจะไม่ได้อะไรซะละ แต่ชั้นภาวนาให้แกเป็นหลานรหัสพี่ธารานะ ชั้นจะได้เจอพี่เค้าบ่อยๆ งุ้ยย แค่คิดก็ฟินละอะ”
“เลิกเพ้อได้แล้ว ขึ้นตึกกัน” นิ้วชี้เรียวยาวถูกส่งไปจิ้มสมองที่มีแต่บุรุษเพศของจีจ้า
“วันนี้ชั้นว่าจะไปหาซื้อของขวัญให้พี่รหัสสักชิ้นนึง ตอบแทนที่เค้าให้ของชั้นตลอด แกไปด้วยกันหน่อยดิ”
“เย็นนี้หรอ?”
“เออ เย็นนี้แหละ ว่างปะ?”
“ว่างตลอดแหละ แต่ต้องก่อนหนึ่งทุ่มนะ”
“รู้แล้วน่า”
วันเฉลยสายรหัส
เสียงกลองถูกตีเป็นจังหวะครึกครื้นเหมือนอย่างเคยแต่วันนี้มีหลายสิ่งที่ดูพิเศษกว่าทุกวัน ริบบิ้นหลากสีตามด้วยลูกโป่งหลายขนาดถูกตกแต่งไปทั่วบริเวร น้องปีหนึ่งนั่งรวมกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ตรงกลางเช่นเก่า รอบข้างเต็มไปด้วยคนในคณะทุกชั้นปีที่อยากมาดูกิจกรรมนี้รายล้อมเต็มพื้นที่ รวมไปถึงแก๊งเดือนปีสามที่ดึงสายตาจากผู้คนไปกว่าครึ่ง
“เงียบๆหน่อยทุกคน วันนี้จะมีการเฉลยพี่รหัสอย่างที่พี่เคยประกาศไป น้องๆรู้กันรึยังครับว่าพี่รหัสตัวเองเป็นใครกัน?”
“รู้แล้ว/ยังง” คำตอบถูกแบ่งเป็นสองฝั่งแทบจะอย่างละครึ่ง
“บทลงโทษจะอยู่ในโหลใบนี้หนักเบาปนกันไปแล้วแต่ดวงนะครับ ก่อนอื่นเลย พี่ปีสองทั้งหมดมายืนล้อมน้องๆไว้เลยครับ”
มนุษย์ปีสองขยับกายไปยังจุดตามประกาศ ทันทีที่เรียงแถวหน้ากระดานสี่ด้านเสร็จเหล่าน้องใหม่รีบมองหาเป้าหมายของตัวเองกันเป็นพัลวัล เว้นก็แต่คนที่ไม่รู้ว่าพี่รหัสตัวเองเป็นใครที่มองไปอย่างไร้ทิศทางสลับกับมองโหลบทลงโทษด้วยแววตาสิ้นหวัง
“เดี๋ยวพี่จะปล่อยไปทีละแถวนะ ให้เดินไปหยุดอยู่หน้าคนที่คิดว่านี่แหละ! คือพี่รหัสเรา”
“ชิบหายแล้วแก ตอนนี้ชั้นไม่หวังให้เลือกถูกคนเลยนะ หวังให้โดนลงโทษเบาๆก็พออะ”
“เออ คงต้องแบบนั้นแล้วอะ ”
ขณะที่แถวถูกปล่อยออกไปเรื่อยๆสายตาของธันวาก็ไปสะดุดเข้ากับคนที่นำขนมมาให้ตัวเองเมื่อวานนี้ คนชื่อธาราเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเด็กปีสองคนหนึ่งแถมยังคุยกันออกรสออกชาติทำให้เขาเลือกคนๆนี้เป็นเป้าหมาย
“เอาวะ ยังพอมีหวังอยู่” วาพึมพำกับตัวเอง
“แถวนี้ เชิญครับ”
“โชคดีนะแก”
“อื้ม แกด้วย”
รุ่นพี่หลายคนมีน้องๆยืนซ้อนกันมากกว่าหนึ่งกลับกันในขณะเดียวกันรุ่นพี่อีกหลายคนก็ยังหว่าเว้เพราะพื้นที่ตรงหน้าว่างเปล่าไร้เงาน้องปีหนึ่ง
ธันวาค่อนข้างลำบากใจที่ต้องไปยืนซ้อนกับหญิงสาวอีกหลายคนที่เลือกพี่คนเดียวกัน ต้นเหตุน่าจะมาจากพ่อเทพบุตรสุดหล่อที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังพี่ปีสองเสียมากกว่า แต่จะว่าอย่างนั้นอาจจะเป็นการดูถูกเค้าไปสักหน่อยเพราะตัวพี่ปีสองที่เขาเลือกก็จัดว่าหน้าตาดีเช่นกัน และนั่นยิ่งทำให้ตรงกับคำใบ้ในกระดาษที่เขียนว่า ‘หล่อ’ เข้าไปใหญ่
“แถวสุดท้าย เชิญครับ ขอให้ทุกคนโชคดีไม่โดนทำโทษนะ แต่ดูๆแล้วน่าจะรอดไม่ถึงครึ่ง5555”
เสียงหัวเราะสะใจดังลั่นจนเหล่าเด็กปีหนึ่งนึกหมั่นใส่พิธีกรกันเป็นแถบ ไม่แน่ว่าหลังจบงานนี้ยางรถของเขาอาจจะแฟบลงอย่างไร้สาเหตุ
ช่วงเวลาลุ้นระทึกเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ หลายคนเริ่มอยู่ไม่นิ่งร้อนรนอยากให้เฉลยใจจะขาด ตัวพิธีกรก็เหมือนจะรับรู้ได้ถึงแววตาเร่งเร้าเหล่านั้นจึงหยิบทรโข่งขึ้นมาพูดต่อในที่สุด
“เอาล่ะ ทุกคนอยู่ในความสงบ ได้เวลาเฉลยแล้ว”
“พี่จะให้คนที่ทายถูกก่อน ปีสองครับ! ใครมีน้องรหัสตัวเองอยู่ด้านหน้านั่นแปลว่าพวกเค้าหาคุณเจอ ให้พากันนั่งลงได้ ส่วนน้องที่ทายผิดทั้งหลายให้ยืนต่อไปห้ามแอบนั่งนะครับ จับได้จะให้ล้วงไหสองรอบไปเลย”
“โหล!”
“เอ้อ โหลๆ พูดผิดแค่นี้เอง อะต่อๆ”
เด็กปีหนึ่งร่วมหกคนยืนออกันอยู่ในแถวผม ทุกคนหันไปมองหน้าพี่เค้ากันหมดแบบโคตรกดดัน เป็นผมทีเถอะ ผมไม่อยากโดนทำโทษษษ
“น้องรู้ได้ไงเนี่ย”
“ผมหรอครับ?” นี่ผมทายถูกจริงหรอ ดีใจโว้ยยย
“ใช่ น้องนั่นแหละ นั่งลงๆ”
“ครับๆ” ผมดีใจจนพูดอะไรไม่ถูก ต้องของคุณพี่ธาราที่มายืนตรงนี้ไม่อย่างนั้นผมคงเลือกมั่วๆไปแล้ว
“เอ้า! พี่ที่เหลือเดินไปพาน้องตัวเองมายืนตรงนี้ เข้าแถวเรียงเตรียมจับฉลากบทลงโทษได้เลยครับ”
ผมมองหาเพื่อนตัวเองที่ในแถวคนที่นั่งอยู่แล้วไม่เจอเลยกวาดตามองไปที่แถวคนโดนลงโทษแทน ภาพนั้นทำให้ผมอดจะขำไม่ได้ จีจ้ายืนหน้ามุ่ยส่งสายตาน่าสงสารมาทางผม ขอโทษนะเพื่อนรัก วันนี้ผมมากับดวง
“แล้วนี่ทำไมน้องเลือกพี่อะ?”
“ก็พี่ธารายืนอยู่หลังพี่อะครับ”
“ห๊ะ? แล้วน้องรู้ได้ไงว่าพี่กับพี่ธาราเป็นสายรหัสกัน”
“ก็วันเมื่อวานพี่ฝากให้พี่ธาราเอาขนมมาให้ผมไม่ใช่หรอครับ ขอบคุณนะครับ ขนมอร่อยมากเลย”
“หืม?…กูว่าละ เดี๋ยวเหอะไอ้พี่ธา” ร่างสูงหันไปส่งสายตาเคียดแค้นใส่หนุ่มปีสามที่ยืนยิ้มหวานอยู่ด้านหลัง
“อะไรนะครับ?”
“ไม่มีอะไรๆ”
บทลงโทษในโหลมีหลากหลายตั้งแต่เรียกเหงื่อไปจนถึงเรียกความอาย ยังดีที่จีจ้าโดนสั่งให้เต้นไก่ย่างจังหวะสามช่าสองรอบ ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนกล้าแสดงออกอยู่แล้วงานนี้เลยสบายๆ
“น้องๆโดนทำโทษกันไปแล้ว แต่ในโหลยังเหลือกระดาษอีกเยอะเลย คงรู้นะว่าของใคร”
เสียงปีสองส่วนหนึ่งโห่ออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ใครที่ถูกน้องหาเจอ เชิญออกมานี่เลยครับ รุ่นพี่ทั้งหลาย”
“อ้าว พี่โดนด้วยหรอครับ?”
“โดนดิ ก็น้องทายถูกอะ”
“ขอโทษนะพี่”
“เออ ไม่เป็นไร พี่ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว”
“สู้ๆครับพี่ ขอให้โดนลงโทษเบาๆครับ” กำปั้นเล็กชูขึ้นเพื่อให้กำลังใจพี่รหัสป้ายแดง
“เออ ขอบใจๆ”
ความคิดเห็น