ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ]...มหัศจรรย์รักทะลุมิติ…[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ผู้ช่วยเหลือ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 49


    ตอนที่ 3 ผู้ช่วยเหลือ

    แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านผ้าม่านเข้ามายังห้องกว้าง  สาดส่องกระทบร่างสีขาวนวลที่หลับพริ้มอยู่บนเตียง ทำให้ร่างบางที่นอนอยู่ดูงดงามเหมือนกับนางฟ้านางสวรรค์  แพขนตาหนาขยับน้อยๆ ก่อนที่ดวงตางามจะขยับเปิดขึ้น  แต่แล้วก็ต้องปิดลงไปใหม่เพราะทนแสงยามเช้าไม่ไหว  ร่างบางลุกขึ้นทั้งๆที่ยังหลับตา  เมื่อสายตาปรับสภาพได้สักพักก็กวาดมองไปรอบๆ  มึนงงเล็กน้อยเพราะสถานที่ที่อยู่ตอนนี้ไม่ค่อยคุ้นนัก  หยุดคิดสักครู่ทำให้เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆเตียง  วักน้ำที่มีคนเอาใส่อ่างสวยมาให้ล้างหน้าล้างตาก่อนจะใช้ผ้าขนหนูสะอาดข้างๆซับหยดน้ำบนใบหน้า

     

    ขอประทานโทษเจ้าค่ะ  เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับร่างสองร่างคุ้นตาปรากฏขึ้น  ทำเอาแจจุงต้องผงะเมื่อคิดถึงเรื่องราวในห้องน้ำเมื่อวาน  นายท่านให้เอาชุดและข้าวของของท่านมาให้เจ้าค่ะ เสียงหวานใสบอกส่วนนี้เป็นชุดที่ท่านต้องเปลี่ยน นายท่านบอกว่า ถ้าท่านอาบน้ำเสร็จแล้วให้ลงไปทานอาหารเช้าข้างล่างด้วยเจ้าค่ะ  สาวใช้บอก พลางวางข้าวของลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้แจจุงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

     

    ค่อยยังชั่ว เสียงหวานพูดเบาๆ ก่อนจะหยิบชุดเดินเข้าห้องน้ำไป  ร่างบางอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์สังเกตได้จากเสียงฮัมเพลงเบาๆที่ดังคลอกับเสียงของน้ำ  ทุกอย่างช่างสบายอารมณ์นัก  จะตะขิดๆก็ตรงเสื้อผ้าที่จะต้องใส่เนี่ยสิ  ช่างไม่ช่วยให้เขาดูเป็นผู้ชายกว่าที่เป็นอยู่เลยสักนิด  หนำซ้ำยังทำให้เขาดูเป็นสาวงามซะมากกว่า

     

    เมื่อคืนหลับสบายมั้ย? ร่างสูงถามขึ้น เมื่อเห็นแจจุงเดินลงมาที่โต๊ะอาหาร

     

    ครับ

     

    แจจุง  เจ้าเล่าเรื่องของที่ที่เจ้ามาให้ข้าฟังทีสิ ยุนโฮบอก สายตาบ่งบอกถึงความอยากรู้เหมือนเด็กๆ  อันที่จริงเขาอยากให้ร่างบางเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  แต่ก็เอาไว้ก่อนเพราะกลัวแจจุงจะเหนื่อยเกินไป

     

    แจจุงยิ้มน้อยๆก่อนจะลงมือทานอาหารพลางเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง  ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน  ที่มหาลัย หรือที่ต่างๆที่เขาเคยไป  ทางด้านยุนโฮนั้นก็รู้สึกว่าจะตั้งอกตั้งใจฟังร่างบางซะเหลือเกิน อีกทั้งยังตั้งอกตั้งใจลอบมองร่างบางตลอดเวลาบนโต๊ะอาหารอีกด้วย 

     

    ในที่สุดอาหารเช้าที่ดูเหมือนจะเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของยุนโฮก็จบลง  ยุนโฮจึงตัดสินใจพาร่างบางออกไปหาผู้ที่จะช่วยเหลือได้ในเมือง  ถึงแม้ว่ายุนโฮจะเป็นเจ้าเมืองปกครองเมืองนอนซ์มาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ไม่เคยมีชาวบ้านคนไหนที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของยุนโฮเลยสักคน  เนื่องจากว่าร่างสูงจะปลอมตัวซะจนจำแทบไม่ได้ทุกครั้งเมื่อยามที่เขาลงไปเที่ยวเล่นหรือลงไปตรวจตราความสงบสุขในเมือง

     

    หลังจากที่แจจุงเดินเที่ยวเล่นในเมืองได้สักพักก็เป็นอันต้องหลงเสน่ห์ของเมืองนอนซ์  สองข้างทางที่ถูกปูด้วยอิฐเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ  เสียงตะโกนขายของดังโหวกเหวกสร้างสีสันในกับเมืองได้ไม่น้อย  ของที่ขายนั้นมีตั้งแต่..อืม...คงจะเป็นตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ กระมัง  เพราะมีตั้งแต่ร้านขายผัก ผลไม้ เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรืออะไรก็ตามที่คุณจะนึกได้ นอกจากนี้ยังมีของที่นึกไม่ถึงอีกด้วย เช่นร้านขายสัตว์เลี้ยงที่มันคงจะดูธรรมดามากๆ ถ้าสัตว์ที่เป็นสินค้านั้นไม่ใช่ คนที่มีตัวเล็กจิ๋วเท่านิ้วก้อยที่มีปีกสีขาวใส  หรือเป็นสัตว์ประหลาดที่ได้รับการผสมพันธ์หลายต่อหลายครั้งระหว่างสิงโตและปลา  หรือจะเป็นลิงที่มีหน้าตาเหมือนสุนัข  รวมไปถึงสัตว์ในตำนานอย่างนกฟินิกส์  มังกร หรือแม้แต่จิ้งจอกเก้าหาง

     

    ชอบมั้ย? ยุนโฮถามอย่างเอ็นดู  รู้สึกชอบใจในท่าทางเด็กๆของแจจุงตั้งแต่เข้ามาในเมือง  และด้วยนิสัยที่เป็นคนไฮเปอร์ของร่างบางก็ยิ่งทำให้ร่างบางซุกซนมากขึ้น  วิ่งไปดูทางนี้ทีทางโน้นที จนร่างสูงต้องยึดมือนุ่มๆมาจับไว้เพื่อไม่ให้แจจุงหลงทาง

     

    ไปดูทางนั้นนะครับ เสียงใสอ้อนเมื่อเห็นกลุ่มคนที่มุงดูเหล่านักแสดงเร่อยู่  ก่อนจะเริ่มออกแรงดึงร่างสูงไปทางนั้น  ยุนโฮหลุดขำเล็กๆกับร่างบางที่ไม่รู้ว่าจะมาอ้อนเขาทำไม ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ต้องออกแรงลากเขาไปอยู่ดี

     

    การแสดงที่เห็นก็เป็นการแสดงทั่วไป เช่นการต่อตัว  การเล่นไฟ รวมไปถึงการแสดงของสัตว์ต่างๆ  แต่ที่ดูเป็นที่ถูกใจของแจจุงเป็นพิเศษก็คงเป็นการแสดงที่ให้ลิงหน้าสุนัขวิ่งไล่คนไปตามเส้นเชือกเพื่อแย่งอาหารในมือ 

     

    ฉันว่าเราไปหาอาจารย์กันเถอะ  ยุนโฮพูดก่อนจะจูงมือแจจุงไป

     

    อาจารย์?  

     

    ก็คนที่จะช่วยเจ้าไงล่ะ  ยุนโฮตอบ ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กซอยหนึ่ง   ภายในซอยนั้นต่างจากข้างนอกลิบลับ เพราะตลอดซอยเต็มไปด้วยซากข้าวของเก่าๆ บนพื้นเต็มไปด้วยตระใคร่ที่เกิดจากแอ่งน้ำสกปรกๆที่ส่งกลิ่นไม่น่าพิสมัยออกมา  ยังไม่รวมหนูตัวเล็กๆที่วิ่งพล่านไปมาอีกด้วย  ในที่สุดยุนโฮก็พาแจจุงมาหยุดอยู่หน้าประตูเก่าๆที่จะพังแหล่มิพังแหล่

     

    ตึงๆๆชาร์ก เปิดประตูหน่อย ยุนโฮตะโกนพร้อมกับทุบประตูไปด้วย ไม่มีท่าทีว่าจะกลัวมันพังเลยสักนิด  สักพักก็มีเสียงดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูก่อนที่ประตูจะเปิดออก  เผยให้เห็นชายคนหนึ่งที่ดูๆแล้วอายุอานามคงจะไม่ต่ำกว่าเจ็ดสิบ  ดวงตาสีเทามัวจับจ้องไปยังผู้มาใหม่ ก่อนจะยิ้มกว้างอวดฟันแหลมคมคล้ายปลาฉลามที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าไหร่นัก

     

    ยุนโฮ  มีธุระอะไรรึ? ชายผู้มีชื่อว่าชาร์กเอ่ยถาม

     

    อาจารย์อยู่มั้ย? ยุนโฮถาม

     

    อะไรนะ? ชายชราถามซ้ำพร้อมกับเอียงหูมาใกล้ยุนโฮมาขึ้น

     

    ข้าถามว่าอาจารย์อยู่มั้ย? ยุนโฮถามอีกครั้งเสียงดังกว่าเดิม

     

    อ้อ~~ไม่อยู่หรอก  ชาร์กตอบหน้าตาเฉย แต่คำตอบทำเอายุนโฮมุ่นคิ้ว

     

    ไปไหน?ร่างสูงถาม  เสียงที่ถามยังคงดังกว่าปกติ  แล้วจะกลับเมื่อไหร่?

     

    ไปเมืองคอมเมกโซ  อีกสามเดือนถึงจะกลับ  มาถึงตรงนี้แจจุงที่เงียบอยู่นานจึงพูดขึ้น

     

    สามเดือนเลยหรือครับ? เสียงของแจจุงเรียกให้ชาร์กหันไปมอง  ดวงตาสีเทามัวหรี่ลง ก่อนจะหันไปถามยุนโฮ

     

    ใครน่ะ  ผู้ที่มีจากอีกมิติหนึ่งรึ?

     

    คุณรู้?  ร่างบางพูดเสียงสูง คุณพอจะช่วยให้ผมกลับไปได้มั้ยครับ?

     

    อืม...ไม่...ไม่ได้หรอก  ข้าไม่มีความสามารถขนาดนั้น  ต้องให้อาจารย์ข้า  เขาช่วยเจ้าได้  แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่น่ะสิ ชาร์กพูดขึ้น  แววตาแฝงไว้ด้วยแววครุ่นคิด

     

    งั้นเราจะทำยังไงดีครับ?  แจจุงหันไปถามยุนโฮอย่างร้อนใจ  ร่างสูงนิ่งสักพักก่อนจะเอ่ย

     

    งั้นไปหาอีกคนกัน  คนนี้ต้องช่วยเจ้าได้แน่ๆ ยุนโฮพูดก่อนจะหันไปหาชาร์ก งั้นข้าไปก่อนแล้วกันนะชาร์ก ร่างสูงกล่าวก่อนจะพาแจจุงเดินจากไป

     

    บรรยากาศหลังจากที่ออกมาจากซอยนั้นช่างต่างกับตอนขามาลิบลับ แจจุงจากตอนแรกที่ร่างเริงสนุกสนาน กลับกลายเป็นว่าเงียบขรึม  ความเครียดเริ่มเข้ามารบเร้าจิตใจ  สมองคิดหาวิธีที่จะกลับไปให้ได้ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีวี่แวววิธีที่ว่าเลยก็ตาม  แต่ถึงกระนั้นก็โล่งใจได้นิดหน่อย เมื่อคนที่อยู่ข้างๆสัญญาว่าจะช่วยหาวิธ๊ให้อย่างเต็มที่

     

    พลั่ก! ร่างบางเดินอย่างเหม่อลอยทำให้ไปชนกับคุณป้าคนหนึ่งเข้า ส่งผลให้ข้าวของร่วงลงพื้นระเนระนาด

     

    ขอโทษครับคุณป้า  เป็นอะไรมั้ยครับ? แจจุงกล่าวขอโทษขอโพยพลางช่วยเก็บของ ก่อนจะพยุงคุณป้าขึ้น

     

    ท่าน!!” ยุนโฮร้องขึ้น ก่อนจะเงียบลงเมื่อคุณป้ายกมือเป็นเชิงห้าม

     

    คุณรู้จักคุณป้าด้วยหรือครับ? แจจุงถาม

     

    เอ่อ.....ไม่รู้จักหรอก ยุนโฮอ้ำอึ้งก่อนจะตอบออกไป  สายตาที่แฝงไว้ด้วยแววหงุดหงิดเล็กๆจับจ้องไปยังคุณป้า

     

    ขอบคุณนะแม่หนู คุณป้าพูดขึ้น  สรรพนามที่ใช้เรียกทำเอาแจจุงหน้าเสีย

     

    ไม่เป็นไรครับ คือว่า  ผมเป็นผู้ชายนะครับ  ไม่ใช่แม่หนู  แจจุงบอกพร้อมส่งรอยยิ้มแห้งๆให้

     

    หรือจ๊ะ แล้วพ่อหนุ่มอยู่แถวไหนล่ะ? คุณป้าถาม

     

    อยู่บนเขานั่นครับ แจจุงตอบพลางชี้ไปที่ยอดเขาอันเป็นที่ตั้งของปราสาทหลังใหญ่

     

    งั้นหรือจ๊ะ  ป้าก็กำลังจะไปที่นั่นพอดี คุณป้าพูด นัยน์ตาพราวระยับอย่างนึกสนุก เป็นสายตาที่สร้างความหงุดหงิดให้ยุนโฮได้ไม่น้อย

     

    งั้นคุณป้าไปพร้อมพวกเราเลยก็ได้นะครับ  ได้มั้ยครับคุณยุนโฮ แจจุงบอกก่อนจะหันไปถามยุนโฮ  ร่างสูงลังเลสักครู่  แต่เมื่อหันไปสบตาแจจุงและคุณป้าก็ต้องตอบตกลง

     

    งั้นไปกันเถอะครับ ร่างบางว่าก่อนจะช่วยประคองคุณป้าและถือของเดินไปที่เกวียนเทียมม้าคันสวยที่จอดไว้ตรงเชิงเขาไม่ไกลจากที่นี่นัก โดยมียุนโฮเดินตามอย่างเสียไม่ได้

     

    คุณยุนโฮครับ คนที่เราจะไปหานี่เป็นใครครับ? แจจุงถามขึ้นขณะนั่งอยู่บนเกวียน

     

    ไม่ต้องไปแล้วล่ะ ยุนโฮตอบ พลางเหลือบไปมองหญิงวัยกลางคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆร่างบาง

     

    ทำไมล่ะครับ?ร่างบางถามอย่างร้อนใจ

     

    ก็คนที่เราจะไปหา เขาอยู่ที่นี่แล้วน่ะสิ

     

    เอ๋? ร่างบางงงเล็กน้อย ก่อนจะร้องอย่างตกใจเมื่อยุนโฮพยักพเยิดไปยังคุณป้าข้างๆ คุณป้า!”

     

    จ๊ะ? คุณป้าขานรับ ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

     

    โธ่~ ท่านแม่ เลิกเล่นซักทีเถอะขอรับ ยุนโฮพูดขึ้นอย่างอ่อนใจ 

     

    ก็ได้ๆจ้ะ  แม่แค่เล่นหน่อยเดียว ทำเป็นโกรธเชียวนะ ทีตอนเจ้าแอบไปเที่ยวซนตอนเด็กบ่อยๆ แม่ยังไม่โกรธเลย คุณป้าว่า ใบหน้าแก่วัยบู้ลงนิดๆด้วยความน้อยใจก่อนจะหันไปหาแจจุงที่ตอนนี้งงสุดๆเพราะเริ่มตามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทัน ไงจ๊ะ?

     

    คุณป้าเป็นคุณแม่ของคุณยุนโฮหรือครับ? แจจุงถามขึ้นก่อนจะตะลึงค้างเมื่อมีแสงสีขาวห่อหุ้มร่างกายคุณป้าไว้  ก่อนที่คุณป้าจะหายไปพร้อมกับแสงนั้น เหลือเพียงหญิงวัยกลางคนที่ดูสวยมากต่างกับคุณป้าคนก่อนลิบลับ

     

    ใช่แล้วจ้ะ คุณแม่ของยุนโฮตอบพร้อมส่งรอยยิ้มให้ แม่ชื่อว่าเอเลน่า เป็นแม่ของยุนโฮเค้า ว่าแต่จะไปหาแม่มีอะไรรึ?แม่ของยุนโฮบอกแจจุง ก่อนจะหันไปถามร่างสูง

     

    คือว่าข้าอยากให้ท่านแม่ช่วยส่งแจจุงกลับไปยังอีกมิติหนึ่งน่ะขอรับ ยุนโฮบอก ผู้เป็นแม่ได้ยินจึงถามร่างบางด้วยน้ำเสียงเจือความแปลกใจ

     

    เจ้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงเข้ามารึ?

     

    อีกคน?  แสดงว่ามีคนเคยหลงเข้ามานอกจากผมหรือครับ? 

     

    จริงหรือนี่? เอเลน่าพึมพำเบาๆ อย่างใช้ความคิด สายตาของแจจุงยังจ้องมองมายังหล่อนเพื่อหาคำตอบ

     

    ใช่แล้วล่ะ ร่างสูงเอ่ย ตั้งแต่ข้าเกิดมา ข้ารู้จักคนที่หลงมิติเข้ามาอยู่สองคน  คนหนึ่งคือเจ้า  อีกคนหนึ่งคือ ... พ่อของข้า

     

    แล้วคุณพ่อของคุณกลับไปได้มั้ยครับ? ร่างบางถามอย่างตั้งความหวัง

     

    กลับน่ะกลับได้แต่เขาไม่ยอมกลับน่ะสิ เอเลน่าที่นั่งนิ่งพูดขึ้น  พอดีเขาเกิดตกหลุมรักแม่เข้าน่ะจ่ะ  เอเลน่าบอกพร้อมยิ้มน้อยๆด้วยความเขินอาย

     

    งั้นคุณคงช่วยผมได้ใช่มั้ยครับ? แจจุงหันไปถามเอเลน่าด้วยความกระตือรือร้น

     

    ได้สิจ๊ะ  แม่จะหาทางให้  แต่ว่าให้ถึงบ้านก่อนนะ หญิงวัยกลางคนตอบ เรียกรอยยิ้มโล่งใจให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของแจจุง

     

    อะแฮ่ม! ท่านแม่ ท่านคงไม่ได้มาที่นี่ด้วยเรื่องนี้หรอกนะ  ยุนโฮพูดขึ้น เพราะรู้ว่าถึงท่านแม่ของเขาจะเป็นผู้ที่เก่งกล้าขนาดไหนก็ย่อมไม่มีทางรู้เรื่องของแจจุงเป็นแน่ ร่างสูงวิเคราะห์ สายตาคมจับจ้องผู้เป็นแม่อย่างจับผิด แต่ถึงกระนั้นคำตอบที่ได้รับก็ทำเอาร่างสูงหงุดหงิดอย่างเคย

     

    ความลับจ้ะ  ไว้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยบอกนะ...ลูกรัก ผู้เป็นแม่หันมาบอกพลางยักคิ้วกวนๆใส่ลูกชาย ก่อนจะหันไปคุยเล่นกับแจจุงตลอดทาง

     

    ...............................................................................................................................................................

     

    การประชุมสภาสูงเป็นอย่างไรบ้างขอรับ? เสียงหวานถามขึ้น พลางรับเสื้อคลุมที่ร่างสูงยื่นให้

     

    ก็ดี  เพียงแต่ว่าตอนนี้พวกภูตอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าไหร่  ยูชุนตอบพร้อมกับสังเกตคนตรงหน้าไปด้วย  วันนี้หวานใจของเขาอยู่ในชุดลำลองสีฟ้าอ่อน  เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวระเอวถูกรวบไว้ด้านหลังด้วยเชือกสีขาวเล็กๆ  ใบหน้านวลปราศจากการแต่งแต้ม แต่ถึงกระนั้นก็ดูงดงามยิ่งนัก

     

    งั้นหรือขอรับ  ว่าแต่ท่านทานอะไรมาหรือยัง?  จุนซูถาม พลางส่งสัมภาระของยูชุนให้สาวใช้เอาขึ้นไปเก็บที่ห้องทำงาน

     

    ยังเลย  แล้วเจ้าล่ะ? ยูชุนถามตอบ มือแกร่งลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ สายตาจ้องร่างบางไม่วางตา

     

    ยังเลยขอรับ ข้าเพิ่งเตรียมอาหารเสร็จเมื่อครู่  ท่านจะทานเลยมั้ย? จุนซูถามพร้อมรอยยิ้ม  ความหมายของรอยยิ้มนั้น ไม่เคยเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิท

     

    เอาสิแต่ขอทานในสวนนะ ยูชุนบอก ข้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศน่ะ

     

    ได้สิขอรับ จุนซูรับคำพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินนำไป  ยูชุนเดินตามไปอย่างช้าๆ  สายตาทอดมองคนข้างหน้าอย่างแสนรัก  พลางคิดในใจว่า ถึงแม้จะไม่ได้หัวใจคนข้างหน้ามา ก็ขอให้ได้อยู่ข้างๆคนคนนี้ก็พอ

     

    ..................................................................................................................................................................

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×