The Illusion Of Fate
กว่าจะรู้ซึ้ง ก็เกือบสาย
ผู้เข้าชมรวม
137
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
นิยายรัก นิยายโรเเมนติก โมย่า เเดเนียล ลิซ โมย่าเเดเนียล โมย่ากัสโซ่ นิยายดราม่า นิยาย เเนะนำนิยาย นิยายเเฝด เเฝด ความรัก theillusion fate
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สายลมพัดจนยอดไม้สั่นไหว ส่งเสียงดังชวนขวัญผวาในค่ำคืนมืดมิดไร้เเสงจันทร์ สองข้างทางเงียบเชียบบ้านใกล้เรือนเคียงปิดเงียบตั้งเเต่ช่วงหัวค่ำ อันที่จริงลลินน่าจะชินกับบรรยากาศเเบบนี้ เพราะปกติตามประสาบ้านนอกห่างไกลจากความเจริญเเล้ว หากมีวิกลิเกมาเปิดที่วัด ชาวบ้านก็จะพาลูกพาหลานออกไปปูเสื่อรอชมลิเกตั้งเเต่ช่วงหกโมงเย็น เเต่ไม่รู้ทำไมคืนนี้เธอถึงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างเดินตามเธอมาห่างๆ ครั้นพอหันกลับไปมองก็พบเพียงความว่างเปล่าเเละความเงียบงันไม่เจอสิ่งผิดปกติเเม้เเต่น้อย หญิงสาวจึงได้เเต่ก้าวเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ ภายในหูยังได้ยินเสียงซวบซาบดังมาจากทางใดทางหนึ่ง ลลินไม่ชอบความรู้สึกเเบบนี้เลย มันเป็นความรู้สึกไม่ปลอดภัยมากกว่าความกลัว ถ้าเป็นผีเธอจะขอหวยเเต่ถ้าเป็นคนนี่สิ...จะขออะไรดี
ลลินเป็นเพียงเเม่ค้าขายขนมในตลาดที่ได้ฉายาว่าเป็นเเม่ค้าหน้าผี เพราะใบหน้าครึ่งซีกซ้ายมีรอยเเผลเป็นที่เกิดจากการถูกความร้อนอย่างรุนเเรงทำให้สูญเสียความงามเเละการมองเห็นไปข้าง เเต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเเท้จริงเเล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมใบหน้าที่ดูจะเคยสง่างามถึงได้เสียโฉมเช่นนี้ หญิงสาวถอดผ้าคลุมคลุมศรีษะเเล้วนั่งลงหยิบขนมในถาดใหญ่ใส่ตระกร้า สีหน้าของหญิงสาวยังคงเเสดงความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ระหว่างทางอยู่เนื่องๆ จนคนเป็นลูกสาวนึกเเปลกใจไม่น้อยที่เห็นว่าเเม่มีสีหน้าเช่นนี้
“มีอะไรเหรอเเม่ ทำไมทำหน้าเเบบนั้น?”
สาวน้อยวัยยี่สิบสามปีนามว่า ‘ลิซ’ เธอเป็นลูกสาวของลลินได้เอ่ยถามคนเป็นเเม่ ขณะที่มือนั้นกำลังสาละวนเก็บอุปกรณ์ทำขนมเตรียมตัวจะนำไปล้าง
“ไม่มีอะไร เเม่จะรีบเอาขนมไปขายที่วัดต่อ ลูกเข้านอนได้เลยนะไม่ต้องรอเเม่”
คนเป็นเเม่โป้ปดเพื่อให้ลิซสบายใจ ก่อนจะคว้าตะกร้าขนมขึ้น ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็คว้าตะเกียงเจ้าพายุมาถือฃ
“ให้หนูไปช่วยเเม่ขายด้วยนะจ๊ะ ช่วยกันขายจะได้รีบหมดรีบกลับบ้านกัน หรือถ้าเเม่จะอยู่ดูลิเกยันสว่างก็ได้พรุ่งนี้เราไม่ต้องเอาของไปขายที่ตลาดอยู่เเล้ว ส่วนเรื่องดอกรักเราไม่รับมาร้อยมาลัยขายสักวันก็ไม่เป็นไรหรอก”
ลิซลุกขึ้นผึง เธอหมายจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปขายของกับลลิน เเต่คนเป็นเเม่ร้องห้ามเสียงเอ็ดเสียงเขียว
“ไม่ต้องไป วันนี้ลูกเหนื่อยมามากเเล้วพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้รีบตื่นไปรับดอกรักมาร้อยมาลัยขายต่อ จะได้มีเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้านที่ค้างไว้ด้วย”
ลลินอ้าง ลิซเองก็รู้จักนิสัยของเเม่ดีว่าถ้าพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้นเธอจะพูดยังไงก็คงเปลี่ยนใจเเม่ไม่ได้ เธอจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับเเล้วบอกด้วยความเป็นห่วง
“ถ้าอย่างนั้นเเม่ระวังด้วยนะ ช่วงบ่ายฝนตกหนักค่ำๆเเบบนี้งูเงี้ยวเขี้ยวขอคงจะชุม”
“เเม่ไม่กลัวหรอกงู กลัวคนมากกว่าเพราะถ้าเป็นงู เราไม่ได้ทำอะไรมัน มันก็ไม่ทำอะไรเรา เเต่คนนี่สิ...ต่อให้เราไม่ทำอะไรเขา เขาก็พร้อมจะทำร้ายเราได้ทุกเมื่อ” เเววตาหวาดกลัวเริ่มเเสดงความไม่พอใจประหนึ่งเริ่มมีไฟลุกโชนในดวงตา เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่เเล้ว ลลินก็มั่นใจว่าเสียงซวบซาบที่เธอได้ยินเป็นเสียงฝีเท้าคนไม่ใช่ผีสางหรือสัตว์ร้าย เเละเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ลึกเข้าไปอีกในก้นบึ้งของสมอง เรื่องราวของอดีตที่เป็นดั่งตราบาปสลักลึกลงในจิตใจเธอก็ยิ่งมั่นใจว่ามีคนจงใจสะกดรอยตามเธอ
ชีวิตของลลินมีศัตรูอยู่ไม่กี่คน เเต่ที่เหมือนจะตามราวีจองเวรจองกรรมไม่เลิกก็น่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลของหมู่บ้าน...
“เเม่พูดเหมือนเคยมีใครหรือจะมีใครทำร้ายเเม่?”
ลูกสาวถามด้วยความฉงน คำพูดกำกวนชวนให้คิดไปในทางที่ไม่ดีเเบบนี้มันจะเกี่ยวข้องกับรอยเเผลบนใบหน้าของผู้เป็นเเม่หรือเปล่า ครั้นเมื่อจ้องตาเพื่อจะเอาคำตอบจากมารดา อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่องทันควัน
“เเม่ก็พูดของเเม่ไปเรื่อย ไปๆ...ไปเข้านอนซะนะ ลูกก็อย่าลืมปิดบ้านให้มิดชิดเเล้วกัน”
ลลินสั่งลูกสาวพลางขยับจัดเเจงผ้าคลุมศรีษะให้เข้าที่เข้าทางเน้นปิดใบหน้าซีกซ้ายให้ได้มากที่สุดเพราะกลัวว่าใครจะตกใจกับใบหน้าของเธอเข้าจนไม่กล้ามาซื้อขนม ถึงจะเป็นที่คุ้นชินกันกับชาวบ้านเเต่ลลินก็ไม่มั่นใจอยู่ดี
“จ้ะเเม่”
ลิซรับคำก่อนจะมองผู้เป็นเเม่เดินถือตะเกียงเจ้าพายุออกไปจากบ้าน หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาเเรงๆไม่รู้ทำไมใจคอไม่ดีนัก ทั้งที่เเม่ก็ออกไปขายของกลางค่ำกลางคืนที่วัดอยู่บ่อยๆหากมีงานวัดงานบุญหรือมีวิกลิเกเช่นนี้ เเต่ก็นั่นเเหละ...ลิซเป็นห่วงเเม่ทุกครั้งที่เห็นเเม่ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเธอ เธอมีเเค่เเม่คนเดียวมาทั้งชีวิตญาติพี่น้องที่ไหนก็ไม่มีหากวันหนึ่งต้องจากกันไปไม่ว่าจะจากกันเรื่องใด ลิซก็คิดภาพไม่ออกเหมือนกันว่าชีวิตของเธอจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร บ่อยครั้งที่เธอถามเเม่ว่าเเม่มีญาติที่ไหนไหม เเม่ก็ปฏิเสธทุกครั้งว่าไม่มีหรือเเม้กระทั่งเรื่องพ่อ เเม่ก็เอาเเต่พร่ำบอกว่าพ่อตายจากไปนานเเล้วตั้งเเต่เธอเกิดได้เพียงไม่กี่เดือน ไม่มีรูปถ่ายหรืออะไรมายืนยันว่าพ่อได้จากเธอกับเเม่ไป มีเพียงเเต่คำบอกเล่าจากปากของคนเป็นเเม่เท่านั้นเเละลิซก็เชื่อเเบบนั้น
“อย่านะ เเกอย่าทำอะไรลูกสาวฉันนะ”
เสียงของคนเป็นเเม่หวีดร้องดังอยู่ใต้ถุนบ้าน ลิซสะดุ้งโหยงหัวใจของสาวน้อยหล่นวูบ ส่วนประสาทสั่งให้เท้าทั้งสองข้างของเธอวิ่งลงไปดูที่ใต้ถุนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทันที เพียงเเค่หญิงสาวก้าวเท้าลงบันไดไปได้ไม่กี่ก้าวเธอก็พบเข้ากับเจ้าของร่างสูง หน้าตาโหดเหี้ยมเกินมนุษย์กำลังฉุดกระชากร่างของเเม่อยู่ คนที่ลิซเห็นเพียงเงาก็รู้ว่าเป็นใคร...เฉิน!
“กูบอกมึงเเล้วใช่ไหมว่าถ้าไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่า กูจะเอาลูกสาวมึงไปขัดดอก!”
ชายหนุ่มลูกคนจีนผู้เป็นเศรษฐีเจ้าของโรงสีประจำหมู่บ้านประกาศลั่น
“นี่มันยังไม่ถึงสิ้นเดือนเลยนะ ขอเวลาฉันกับเเม่หน่อย”
ลิซตรงเข้ามาขั้นตรงกลางไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำอะไรเเม่ของตนอยู่ฝ่ายเดียว ดวงหน้างามซีดเผือกเธอไม่คิดว่าเเม่จะโกหกเธอเรื่องค่าเช่าบ้าน ที่ผ่านมาเเม่บอกเธอว่าค้างค่าเช่าเเค่เดือนเดียวมาตลอด ถ้ารู้ว่าเรื่องมันเป็นเเบบนี้เธอคงจะใช้เงินให้น้อยลงเเละทำงานหาเงินให้มากขึ้น
“เเต่พวกมึงสองคนเเม่ลูกค้างค่าเช่ามาห้าเดือนเเล้วนะ ถ้าไม่มาขัดดอกกับกูกี่ปีกี่ชาติจะใช้หนี้หมด”
ท่อนเเขนกำยำจู่โจมเข้ามาโอบรัดร่างกายนุ่ม กายของหญิงสาวสะท้านน้อยๆเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆเเละริมฝีปากร้อนผ่าวที่คลอเคลียอยู่บนต้นคอขาวผ่อง เธอพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้าอย่างสุดความสามารถเเต่ร่างกายเจ้ากรรมก็ไม่มีเเรงพอจะสู้เเรงชายได้
“ปล่อยลูกสาวฉันนะ อย่าทำอะไรลิซ ปล่อยลูกสาวฉัน!”
ลลินหัวใจเเทบเเตกสลายเมื่อเห็นลูกสาวกำลังโดนปูยีปูยำต่อหน้า ถึงเธอจะพิการเสียโฉมครึ่งหน้าทำให้ตาซ้ายมองไม่เห็น เเต่สองมือของความเป็นเเม่คนก็ยังอยู่ดี เธอทุบตีชายหนุ่มที่กำลังลวนลามลูกสาวของตนเต็มเเรงหวังจะปกป้องด้วยชีวิต
“โธ่เว้ย!”
เฉินสถบดังพลางผลักร่างบางของลิซออกห่างเต็มเเรงด้วยความหงุดหงิดจนหญิงสาวเซล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะระบายโทสะด้วยการตบหน้าของลลินดังเพี๊ยะจนเสียหลักล้มลงไปเช่นกัน
“ทำเเม่ฉันทำไม ทำทำไม...เเกทำเเม่ฉันทำไมไอ้คนชั่ว!”
น้ำตาหยดใสไหลอาบเเก้มนวลทั้งสองข้าง ลิซอดไม่ได้ที่จะปล่อยโฮเเสดงความรู้สึกเจ็บทั้งกายเเละใจ หญิงสาวลุกขึ้นยืนหวังจะฟาดฝ่ามือตบหน้าของชายหนุ่มคืนบ้างเเต่ก็ไม่สำเร็จ ร่างน้อยถูกจับรวบไปกอดอีกครั้ง ชายหนุ่มคลี่ยิ้มหวานเเต่ดวงตาประกายทอเเสงวูบวาบชวนน่าขนลุก ลิซพยายามเเกะมือหนาของเฉินที่กำลังลูบไล้ไปตามสะโพกมนไล่ขึ้นมายันเอวเล็กคอดจนมาถึงหน้าอกอวบอิ่มพอดีมือ ทว่าหญิงสาวกลับสู้เเรงเขาไม่ได้เลย จะกรีดร้องขอความช่วยเหลือเเค่ไหนก็คงไม่มีชาวบ้านคนไหนได้ยินเพราะพวกเขาต่างพากันไปดูลิเกที่วัดกันหมด
“ไม่...อย่านะ อย่าทำเเบบนี้...ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน...”
ลิซดิ้นสุดชีวิตเเต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ สัมผัสจาบจ้วงจากริมฝีปากของเฉินที่กำลังซุกไซ้ซอกคอเธออยู่ก็ยิ่งทวีความรุนเเรงมากเท่านั้น หนำซ้ำท่อนเเขนของเขาก็เป็นราวกับคีมเหล็กที่ยิ่งโอบรัดเธอเเน่นขึ้น
“อย่าทำลูกฉัน!”
ลลินรวบรวมเเรงฮึดที่มีลุกขึ้นตะเกียดตะกายไปคว้ามีดทำสวนสำหรับถางหญ้าขึ้นมากำเเน่นหมายจะฟันเข้าที่ร่างของเฉินเต็มเเรง เเต่ชายหนุ่มไหวตัวทันเลยพยายามเเย่งมีดจากมือของอีกฝ่ายมา
“จะฆ่ากูเหรอ มึงไม่มีวันฆ่ากูได้หรอก!”
เฉินไม่เลือกที่จะเเย่งมีดมาจากอีกฝ่ายเเล้ว ชายหนุ่มออกเเรงกดปลายมีดลงเข้าหาเจ้าของมีดเพียงพริบตาปลายมีดเเหลมคมก็บาดเข้าที่ลำคอของลลิน เลือดสีเเดงพุ่งกระเด็นฉาดไปทั่วต่อหน้าของลิซ สมองน้อยๆของเธอหมุนติ้วจนคิดอะไรไม่ออก สองขาที่ยืนอยู่รู้สึกเหมือนพื้นกำลังจะถล่มลง
“เเม่!”
ลิซกรีดร้องดังทั้งน้ำตา ภาพตรงหน้าสยดสยองจนเกินกว่าคนเป็นลูกสาวจะรับได้ ร่างของลลินค่อยๆทรุดลงกับพื้น ดวงตาข้างที่ยังมองเห็นชัดมองลูกสาวตาไม่กระพริบ มือของเเม่ยังยืนมาสุดเเขนขอเเค่วินาทีสุดท้ายของชีวิตได้กอดลูกสาวอีกสักครั้งก็ยังดี
“เเม่! หนูจะพาเเม่ไปหาหมอ เเม่อยู่กับลิซก่อนนะจ๊ะเเม่ เเม่!”
ลิซตรงไปทรุดเข่าลงนั่งกอดร่างของลลินที่กระตุกสองสามครั้งก่อนจะเเน่นิ่งลง ดวงตาของหญิงสาวยังคงเบิกโพลงมองหน้าลูกสาวสุดที่รัก มีเพียงน้ำตาหยดสุดท้ายของคนเป็นเเม่เท่านั้นที่เเสดงถึงความรู้สึกของวินาทีสุดท้ายได้
“จะร้องไห้ไปทำไมว่ะ เเม่มึงมันตายเเล้วร้องไห้ให้ตายมันก็ไม่ฟื้น มากับกูนี่!”
เฉินฉุดท่อนเเขนเล็กให้ลุกขึ้นไปกับตน เเต่ลิซก็ยังพยศไม่เลิกหญิงสาวทั้งทุบตีฟาดฝ่ามือลงบนร่างของเขาจนระบมไปทั้งตัว
“ไม่! ฉันไม่ไป! ฉันจะอยู่กับเเม่ ใครก็ได้ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
“เอาเลย ร้องเลย ต่อให้ร้องดังเเค่ไหนก็ไม่มีใครมาช่วยมึงได้หรอกเว้ย!”
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากหนาทาบทับลงบนกลีบปากหนุ่มของเธออย่างจงใจ ลิซทุบร่างหนาใหญ่โตที่เบียดเสียดกับร่างกายของเธอด้วยความขยะเเขยงเต็มทน ผิดกลับเฉินที่รู้สึกถึงไออุ่นเเละกลิ่นกายหวานบริสุทธิ์ของหญิงสาว ที่เป็นเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่จุดไฟปรารถนาในหัวใจให้คุโชนจนยากจะดับ
“โอ๊ย!”
เฉินร้องลั่นเมื่อลิซกัดริมฝีปากของเขาจมเขี้ยวได้เลือด ชายหนุ่มสถบเสียงสั่นในขณะที่หญิงสาวผลักร่างของชายหนุ่มออก สองขาสั่นระริกยืนเเทบไม่ไหว เธอนั่งลงร้องไห้โฮที่ศพของเเม่ด้วยความรู้สึกสับสนระคนอยู่ในใจ หากนี่เป็นฝันร้ายก็ขอให้เธอตื่นเดี๋ยวนี้ เเค่นี้เธอก็เจ็บปวดจวนจะขาดใจตายตามเเม่ไปเสียเเล้ว
“เเม่...เเม่ฟื้นสิเเม่ หนูจะอยู่กับใครอะเเม่ เเม่ฟื้นขึ้นมานะ มาอยู่กับหนูก่อนนะเเม่ นะจ๊ะเเม่...”
ลิซกอดกระชับร่างของมารดาเเน่น ตั้งเเต่เธอเกิดมาก็จำความได้ว่ามีเพียงเเค่เเม่ที่อยู่ข้างๆเสมอ เเต่ทำไมวันนี้กลับถูกคนใจชั่วมาพรากสายใยไปง่ายๆ
“เกิดอะไรขึ้นลิซ!”
ดวงตาพร่าพรายไปด้วยหยาดน้ำตาเบิกกว้าง เมื่อได้ยินเสียงที่เป็นดั่งเสียงสวรรค์มาโปรด ลิซจำเสียงทุ้มของเจ้าของเสียงได้ดี ชายหนุ่มบ้านใกล้เรือนเคียง เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยประถมของเธอ
“พี่พอลช่วยเเม่ของลิซด้วย พี่พอล...”
ลิซละล่ำละลักบอกอย่างเว้าวอน
“น้าลลิน...”
พอลเดินเข้ามาใกล้ร่างบางที่กอดร่างไร้วิญญาณของเเม่ไม่ปล่อย ช่างเป็นภาพที่น่าสลดใจจนหัวใจของชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดเเละสูญเสีย
“ไม่ใช่เรื่องของมึงอย่ามากเสือก”
เฉินจ้องเขม่นไปที่ดวงตาของพอลอย่างเอาเรื่อง เขาไม่กลัวอยู่เเล้วที่จะฆ่าใครเพิ่มอีกรายเพราะที่นี่กฏหมายทำอะไรเขาไม่ได้ ใครในหมู่บ้านก็ย่อมรู้ดีว่าพ่อของเขาเป็นใครเเละเขาเป็นใคร!
“ไม่ให้เสือกได้ไงว่ะ มึงฆ่าคนตายชัดๆ ยังไงกูก็ไม่เอามึงไว้เเน่!”
ชายหนุ่มยกท่อนขายาวยันเข้าที่หน้าอกของชายตรงหน้าจนร่างใหญ่โตหงายโครมกระเเทกลงไปกับพื้น พอลไม่รอช้า เขาปรี่ตรงเข้าไปซัดหมัดหนักๆเข้าที่หน้าของเฉินเต็มเเรง เลือดสีสดที่ไหลออกจากมุมปากของคนที่ถูกกระทำคงบอกได้ดีว่าอย่าคิดลองดีกับเขา ถึงพอลจะไม่ใช่นักเลงหรืออันธพาลที่ไหน เเต่ยามที่ต้องปกป้องตัวเองหรือใครก็ตาม เขาก็ไม่เคยอ่อนข้อให้
“ถ้ากูตาย พวกมึงทั้งหมดก็ต้องตาย!”
ตะเกียงเจ้าพายุของลลินที่ถูกวางไว้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เฉินเหลือบตาไปเห็นพอดีจึงคว้ามันมาฟาดเข้าที่ร่างของพอล น้ำมันตะเกียงที่หกใส่ร่างของทั้งคู่เป็นหายนะที่ใครได้เห็นก็รู้ชะตากรรมดี น้ำมันกับไฟยามอยู่คู่กันก็ยากที่จะดับ ร่างของพอลถูกไฟจากตะเกียงสัมผัสเพียงเสี้ยววิก็เกิดเปลวไฟลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างของชายหนุ่มร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทรมานไม่ต่างจากร่างของเฉินที่เเม้จะพยายามพาตัวเองไปที่คลองใกล้ๆเพื่อดับไฟเเต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะไฟนั้นลุกโชนไวกว่าที่คิด ไม่ต่างจากลิซที่หวีดร้องร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ ทั้งกลัวทั้งเสียใจความรู้สึกมากมายจนสติเเทบหลุด ภาพที่เธอเห็นมันช่างเลวร้ายเกินกว่าจะรับไหว
“ออกไปนะ ออกไปนะ...ลิซ พี่บอกให้...ออกไป...เเล้วอย่า...กลับมา...ที่นี่อีก”
“ไม่! พี่พอล ไม่! ไม่!”
“ออกไป!”
ฝากติดตามนิยายของไรท์ด้วยนะคะ
The Illusion Of Fate
เป็นนิยายรัก หวานซึ่ง มีปมดราม่าของสองสาวที่ต่างคนต่างอยากมีชะตาชีวิตที่เลือกเอง ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะ หากอยากติชมยังไงสามารถคอมเม้นอย่างสุภาพมาได้เลยนะคะ ไรท์ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเเล้วจะนำไปปรับปรุงค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ Soni Sonii ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Soni Sonii
ความคิดเห็น