คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โรงเรียนใหม่ของยัยตัวป่วน
ยัยตัวป่วนกวนหัวใจ 3 หนุ่มฮอต
1
กริ๊ง กริ๊ง ๆๆๆๆ
“รับโทรศัพท์ทีซิไอริน แม่ไม่ว่าง” แม่ตะโกนออกมาจากห้องครัว
“หนูก็ไม่ว่างเหมือนกันค่ะแม่” ก็ไม่ว่างจริง ๆ นั่นแหละเพราะว่าฉันกำลังนั่งเล่นเกมส์ในคอมพิวเตอร์อย่างเมามัน
แม่เดินออกมาจากห้องครัวโดยที่ในมือมีอาวุธประจำตัวคือทัพพีติดมาด้วย มาหยุดอยู่ข้าง ๆ ฉันแล้วส่งสายตาพิฆาตที่ใครเห็นก็ต้องสยบมาทางฉัน “แม่ไม่เห็นลูกจะทำอะไรเลยนี่ไปรับโทรศัพท์ได้แล้ว หรือว่าต้องโดนทัพพีนี่ตีก่อนถึงจะไปห๊า” แม่ชูทัพพีขึ้นมาเป็นเชิงขู่
“ ไปก็ได้” ฉันพูดอย่างยอมแพ้ ลุกขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเดินไปรับโทรศัพท์ ทำไมแม่ต้องใช้อยู่เรื่อยเลย พ่อก็นั่งดูทีวีอยู่ใกล้ ๆ ทำไมไม่ให้พ่อรับโทรศัพท์ล่ะ แม่ลำเอียงชะมัดเลย
“ฮัลโหลบ้านสิริพงษ์ไพศาลค่ะ ต้องการพูดกับใครค่ะ” ใครโทรศัพท์มาตอนนี้นะ น่าจับไปถ่วงน้ำจริง ๆ
“ฉันเองนะ เพื่อนสุดที่รักเธอไง” เอ๊ะ.....นายเบสโทรมา ปกติไม่เคยโทรมาเลยนี่นา ถ้าไม่นับตอนป่วยแล้วขาดเรียนนายนั้นก็ไม่เคยโทรมาที่บ้านเลยนี่ หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเรา
“นายโทรมาหาฉันอย่างเงี้ย ต้องมีเรื่องสำคัญแน่เลยใช่ป่ะ”
“อย่าบอกนะว่าเธอจำไม่ได้ว่าวันพรุ่งนี้วันอะไร” นายเบสถามกลับด้วยน้ำเสียที่ไม่อยากจะเชื่อในคำตอบของฉัน
“แล้ววันพรุ่งนี้มันวันอะไรล่ะ.....อืมมมก็วันจันทร์ไงหรือว่าวันเกิดนาย แต่วันเกิดนายอีกตั้งสองเดือนไม่ใช่หรอ”
“เธอไม่รู้จริง ๆ หรอ เฮ้อ.....ว่าแล้วเชียว เธอจะต้องจำไม่ได้แน่ ๆ ก็ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ อย่างเนี้ย เมื่อไหร่จะหายสักที ไอ้โรคขี้หลงขี้ลืมของเธอเนี่ย ทำยังกับเป็นคนแก่ไปได้เธออายุแค่ 16 เองนะเรื่องแค่นี้ก็ลืม ฉันถึงต้องโทรมาเตือนเธอไง”
“ไม่ต้องพูดมากน่า บอกมาเลยดีกว่า “ ฉันพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญหน่อย ๆ เมื่อไรจะบอกสักทีก็คนมันลืมจริง ๆ นี่จะให้ทำไงล่ะ
“เออ.....ก็ได้ ฟังให้ดีๆ นะ พรุ่งนี้เป็นวันประกาศผลสอบของโรงเรียนมัธยม N แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่หน้าโรงเรียน อย่าตื่นสายล่ะ” แคร่ก.....ตู้ด ๆๆๆ
“โอ๊ย...จะวางสายก็ไม่บอกลากันสักคำเลยนะเจ็บหูชะมัด”
พรุ่งนี้ประกาศผลสอบหรอลืมไปเลย ถ้าฉันสอบไม่ติดจะทำไงดีเนี่ย ต้องโดนพ่อส่งไปอยู่กับป้าที่อังกฤษแน่เลย ถึงจะเคยไปอยู่ตอนเด็ก ๆ ก็เถอะ โอ๊ย.....จะทำไงดี คุณพระคุณเจ้าขอให้ลูกสอบติดวันพรุ่งนี้ด้วยเถิด สาธุ
ในตอนเช้าฉันรีบอาบน้ำแต่งตัว แล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความเร็วสูง อย่างกับจะไปแข่งกีฬาโอลิมปิกงั้นแหละ ฉันไม่เคยวิ่งเร็วแบบนี้มาก่อนเลย ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินหิวมากเลย ฮือ ๆ ชีวิตอันน่าสงสารของเด็กตาดำ ๆ อย่างฉัน ทำไมเด็กหน้าตาดีสวยและเซ็กซี่น้อยกว่าอั้ม พัชราพร นิดหนึ่งอย่างฉันถึงต้องมาลำบากแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ต้องตื่นมาโรงเรียนแต่เช้า แถมยังต้องเดิมมาคนเดียวอีก พ่อนะพ่อจะขับรถมาส่งลูกสาวสุดที่รักหน่อยก็ไม่ได้
เห็นโรงเรียนอยู่ไกล ๆ แล้วล่ะ ฉันจะทำไงดี ไอ้ความคิดที่ว่าจะสอบไม่ติดก็ลอยวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น ไม่อยากเข้าไปข้างในเลย
“ไอรินทางนี้ ทางนี้” เบสโบกมือเรียกฉันหน้าโรงเรียน
“นายมาถึงนานแล้วหรอ”
“อือ สักพักแล้วล่ะ” เบสตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
“ฉันไม่อยากเข้าไปเลยทำไงดีล่ะ ฉันกลัวจะสอบไม่ติดนะ” ฉันหันหน้าไปทางนายเบสเพื่อขอกำลังใจ เหมือนนายเบสจะรู้ทันยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ ฉันไม่ใช่หมานะลูบหัวอยู่ได้ ไม่มีวิธีให้กำลังใจอย่างอื่นแล้วรึไง
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันเป็นคนติวให้เธอเองนะ เธอก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าเธอทำข้อสอบได้สบายมากนะ”
มันก็จริงอะนะ ตอนทำข้อสอบฉันก็ทำได้ตั้งเยอะ ก็ข้อสอบที่ทำส่วนมากจะออกที่นายติวให้ก็เลยทำได้ ดีนะที่ยังจำได้บ้างไม่ลืมไปซะก่อนนะ แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี
“ยังไงฉันก็กลัวสอบไม่ติดอยู่ดีนะแหละ” จะทำไงดี ทำไงดี ไม่ไหวแล้วตัวสั่นไปหมด
“เข้าไปดูรายชื่อกันเถอะ ก่อนที่คนจะเยอะกว่านี้” เบสลากแขนฉันเข้าไปในโรงเรียน
“อือ....ถ้าฉันสอบติดฉันจะพานายไปเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยติวให้ละกัน ตกลงมั้ย”
“อืม...เธออย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน”
ฉันกับนายเบสเดินเข้าไปดูบอร์ดรายชื่อด้วยกัน “หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ห๊า.....ทำไมเบสติดอันดับที่ 5 ล่ะ โอ๊ย.....นายจะเก่งเกินไปแล้วนะ” แล้วชื่อฉันอยู่ตรงไหนล่ะ หาตั้งนานไม่เจอสักทีหรือว่าฉันจะสอบไม่ติดจะทำยังไงดี
“อะ...เจ่อ เจอแล้วชื่อฉัน.....ชื่อฉานจริง ๆ หรอเนี่ย อยู่อันดับที่ 189 โอววววมายก๊อด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันสอบติด แต่ทำไมอันดับที่ของฉันกับนายมันห่างกันไกลเลยล่ะ” ฉันหันไปถามเบสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ไม่ต้องพูดมากน่า สอบติดก็ดีแล้วนี่” ชิ นายนั่นแหละเก่งเกินไปแล้ว
“ดีจังเลย!!!! ฉันไม่ต้องไปอยู่กับป้าที่อังกฤษแล้ว ไชโย ๆๆๆ“
แต่คิด ๆ อีกทีก็เสียดายเหมือนกันนะที่ไม่ได้ไปอังกฤษ ก็หลานของคุณป้าน่ารักมากม๊าก ผู้ชายอะไรม่ายรู้ผมสีทอง ตาสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ผิวขาวออมชมพู หน้าสวยเหมือนเด็กผู้หญิง ไม่ได้เจอกันตั้ง 10 ปี คงจะหล่อขึ้นมากเลย เอ๋...แล้วเค้าชื่ออะไรน๊า..ทำไมคิดไม่ออกสักทีเหมือนกับว่าจะนึกออกแต่ก็นึกไม่ออก ชื่ออะไรน๊า...เอาไว้กลับไปถามแม่ที่บ้านก็แล้วกัน
เบสคว้าแขนฉันลากออกมา “ไปกันได้แล้วยืนเหม่ออยู่นั้นแหละ ไหนบอกว่าจะพาฉันไปเลี้ยงข้าวไงตอนนี้ฉันหิวมากเลยล่ะ” อะไรกันให้ฉันฝันกลางวันหน่อยไม่ได้รึไง
“ก็ได้ งั้นไปที่ร้านเดิมแล้วกัน”
“OK. ร้านไหนก็ได้เธอเป็นคนจ่ายเงินนี่ ฉันจะกินให้พุงกางเลยคอยดู” พอมาคิดดูอีกทีแล้วฉันคิดถูกหรือคิดผิดกันเนี่ยที่บอกว่าจะเลี้ยงนาย ก็พี่แกกินอาหารแต่ละที่อย่างกับเค้าเหมาอาหารมาเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน แต่ไม่เป็นไรหรอกนาน ๆ ที (ยัยขี้งกเอ้ย บ้านตัวเองก็ออกจะรวย)
“ไม่เป็นไรเพื่อนรัก ถือซะว่าวันนี้ฉันเลี้ยงฉลองที่เราสอบติดแล้วกัน”
“หึ่ย...อย่าพูดว่าฉันเป็นเพื่อนรักเธอสิ ขนลุก” เบสพูดพลางหัวเราะไปด้วย
“เชอะ...ทีนายพูดได้นะ” ฉันค้อนนายเบสไปหนึ่งที
ร้านที่ฉันกับเบสไปกินข้าวกันบ่อย ๆ อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมัธยม N เท่าไรเป็นร้านเล็ก ๆ ที่เปิดใกล้กับสวนสาธารณะพอดีก็เลยทำให้คนแน่นร้านทุกวัน พอเดินมาถึงร้านฉันก็เปิดประตูเข้าไปนั่งโต๊ะประจำที่เราเคยนั่งด้วยกันบ่อย ๆ ดีแหะวันนี้คนไม่ค่อยเยอะ สักพักป้าเจ้าของร้านก็เดินมาทางโต๊ะเรา เพราะว่าพนักงานคนอื่นไม่ว่างเลยแล้วอีกอย่างพวกเราเป็นลูกค้าประจำ ปกติแล้วป้าเจ้าของร้านจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกค้าเลย
“อ้าว...หนูสองคนนี่เองป้าก็นึกว่าใครแล้ววันนี้จะกินอะไรดีจ๊ะ” ป้าเจ้าของร้านพูด
“ป้าค่ะ วันนี้หนูขอเมนูหน่อยค่ะ จะฉลองที่สอบติดนะค่ะ” ฉันหันไปพูดกับป้าเจ้าของร้านด้วยร้อยยิ้มที่บ่งบอกถึงความดีใจ
“ได้เลยจ๊ะ แล้วสอบติดโรงเรียนอะไรกันล่ะ” ป้าเจ้าของร้านถามพร้อมกับเดินไปหยิบเมนูมาให้
“โรงเรียนมัธยม N ครับ” เฮ้ย...ได้ไงฉันกำลังจะอ้าปากตอบอยู่พอดี นายมาตอบก่อนทำไม ป้าเค้าถามฉันนะยะ เลยต้องส่งสายตาดุ ๆ ไปให้นายเบสแทน
“โรงเรียนเอกชนชื่อดังเลยหรอ ป้าได้ยินมาว่าสอบเข้ายากมากเลยไม่ใช่นี่” ใช่แล้วค่ะป้าโคตะระยากมาก ๆ เลย
“เข้ายากมากเลยค่ะ กว่าจะสอบติดต้องติวกันแทบตายนะค่ะ” ฉันเนี่ยแหละติวจนเลือดตาแทบกระเด็น ส่วนนายเบสนะหรอกพี่แกก็ลอยไปลอยมากับพวกสาว ๆ แฟนคลับนะซิ
“เพราะว่าเธอได้ติวเตอร์ เก่ง ๆ อย่างฉันนะซิ” ชิ...แค่เกร็งข้อสอบให้นิดเดียวทำมาทวงบุญคุณ
“เออ ๆ นายเก่งติวจนฉันสอบติด เป็นบุญคุณมากเลยค่ะคุณเบส” ต้องพูดเอาใจไว้ก่อนเดี๋ยวโกรธแล้วง้อได้ยากมาก ๆ
“เดี่ยววันนี้ป้าจะลดให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน ดีมั้ยจ๊ะ” ดีค่ะกระเป๋าสตางค์หนูจะได้ไม่เบาจนเกินไป
“ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะ” คุณป้านี่ใจดีจริง ๆ เลย สวยก็สวย ทำอาหารก็อร่อย คุยสนุกแถมยังให้ส่วนลดอีก จะหาร้านไหนดีเท่าร้านนี้ไม่ได้อีกแล้วล่ะ
แล้วอาหารที่พวกเราสั่งก็มาเสริฟ์ ฉันยิ้มอย่างมีความสุขแล้วตั้งหน้าตั้งตากินอาหารต่อไป ตั้งแต่ปิดเทอมเราสองคนไม่ค่อยได้มากินข้าวด้วยกันแบบนี้นานแล้ว เพราะว่าฉันกับนายเบสไม่คอยได้เจอกันเลย นายเบสต้องช่วยกิจการร้านขายอาหารของทางบ้าน ส่วนฉันก็เป็นไกด์อาสาให้กับนักท่องเที่ยวของบริษัทพ่อ
พ่อฉันเปิดบริษัทนำเที่ยวส่วนแม่ฉันเป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือนิตยาสารวัยรุ่น ฉันยังงงอยู่เลยว่าสองคนนี้มาพบรักกันได้ยังไงทั้งที่งานก็ออกจะแตกต่างกันอย่างนี้
ฉันกับเบสเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่เราเป็นเพื่อนกัน เราสองคนมักจะเล่นด้วยกันบ่อย ๆ ไปไหนก็ไปด้วยกัน เข้าโรงเรียนก็ที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงตอนนี้ เบสก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเพื่อนคบนะ ฉันก็มีเพื่อนเหมือนกันแต่ไม่มีใครที่สนิทกับฉันเท่านายเบสเลยสักคน
“กลับมาแล้วค่ะ อ้าว...อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลยวันนี้หนูมีข่าวดีมาบอกพ่อกับแม่ด้วยละค่ะ” ฉันยิ้มหน้าบานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาคั่นกลางระหว่างพ่อกับแม่
“ทำหน้าบานเป็นกระด้งมาแบบนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญมากเลยล่ะซิหรือว่าสอบติด” แม่พูดอย่างรู้ทัน
“แม่รู้ได้ไงค่ะ หนูยังไม่ได้บอกแม่เลย” โธ่เอ๊ยแม่นะแม่ กะว่าจะทำให้ตกใจซะหน่อย
“แม่ก็รู้ของแม่แล้วกันน่า แล้วสอบติดจริงรึเปล่าล่ะ”
“คนเก่งระดับหนูต้องสอบติดอยู่แล้วล่ะ” หุ หุ แม่ไม่รู้รึไงว่าลูกแม่เก่งอยู่แล้ว
“เก่งจริงก็คงไม่ต้องให้เบสเค้ามาติวให้หรอกใช่มั้ยเรานะ” ก็แค่ให้เกร็งข้อสอบนิด ๆ หน่อย ๆ เองน่า
“โธ่ แม่ค่ะขอยืดสักแปปไม่ได้เลยหรอ” ชักจะน้อยใจแล้วนะ แม่ไม่เคยเข้าข้างฉันเลยสักครั้งเป็นแม่ฉันจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ยชักสงสัยซะแล้วสิ
“แล้วอยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ เดี๋ยวพ่อเขาจะซื้อให้” แม่ถามแล้วหันไปพยักหน้าให้พ่อ
“เรื่องรางวัลหนูขอเอาไว้ก่อนได้มั้ยค่ะ ตอนนี้หนูยังนึกไม่ออกว่าอยากได้อะไรที่สุด (อยากได้หลายอย่าง) ถ้านึกออกเมื่อไรแล้วจะรีบบอกพ่อทันทีเลยค่ะ”
“อืมมมม ก็ได้แต่อย่าให้มันนานเกินไปล่ะ เดี๋ยวลูกจะลืม” พ่อพูดอย่างกับว่าฉันเป็นคนขี้ลืมอย่างงั้นแหละ (ก็ตัวเองขี้ลืมจริง ๆ ยังไม่รู้ตัวอีก)
“ค่าๆๆๆๆ ฉันยิ้มอย่างอารมณ์ดี หนูกินข้าวกับเบสข้างนอกมาแล้ว ขอขึ้นไปบนบ้านเลยนะค่ะ” ฉันหอมแก้มพ่อกับแม่คนละหนึ่งทีแล้วลุกจากโซฟา
“แล้วทำไมไม่ชวนเบสเขามาเที่ยวบ้านเราบ้างล่ะลูก” พ่อถามก่อนที่ฉันจะเดินออกจากห้อง
“เอาไว้วันหลังจะพามากินข้าวที่บ้านเราก็แล้วกัน ขอขึ้นไปบนห้องก่อนนะค่ะ” พูดเสร็จฉันก็เดินขึ้นไปที่ห้องของตัวเองทันที
เฮ้อ...วันนี้จะทำอะไรดีนะ กลับมาถึงบ้านก็หกโมงกว่าแล้ว จะเข้านอนเลยมันก็ยังเร็วเกินไป หาอะไรทำดีล่ะ งั้นต่อเน็ตเล่นเอ็มแล้วค่อยนอนก็แล้วกัน
ความคิดเห็น