ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] SuperBat DC World

    ลำดับตอนที่ #1 : crazy about [ClarkBruce]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 480
      18
      3 ม.ค. 64

    Clark & Bruce

    .

    .

    .

     .

         “เหมือนจะมีข่าวเด็ดมาแล้วนะ” เสียงของเพอร์รี่ ไวท์พูดเรื่องนี้กับลูอิส เลนที่อยู่ไม่ไกลจากเขาที่นั่งทำงานอยู่ นั่นทำให้เขาได้ยินการสนทนาของทั้งคู่โดยไม่ตั้งใจ...

         “ข่าวอะไรคะ?”

         “บรูซ เวย์นมาเยือนเมโทรโพลิสน่ะ” และชื่อของบรูซ เวย์นก็ทำให้คลาร์ก เคนท์หยุดการกระทำของตัวเองแล้วเปลี่ยนมาตั้งใจฟังบทสนทนานั่นมากกว่า

         “แล้ว?” ลูอิสถามย้ำราวกับไม่สนใจซึ่งเพอร์รี่รู้เรื่องนี้ดี

         “…เอาล่ะ ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่แนวเธอ แต่คนทำข่าวด้านนี้งานล้นมือไปหมด” เพอร์รี่กำลังหาคนทำข่าวเรื่องบรูซ?

          “งั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นี่นา?”

         “ไม่ได้หรอกเลน ยิ่งกับบรูซ เวย์นด้วยแล้ว เขาเป็นคนดัง มีอำนาจและเขากำลังเดินทางมางานเลี้ยงด้านธุรกิจด้วยตัวเองที่นี่”

         “คุณพูดเหมือนเขาไม่เคยมาด้วยตัวเอง”

         “ถูกต้อง”

         “นั่นมันบ้ามาก ฉันว่าคุณไปหาคนอื่นเถอะค่ะ” ลูอิสบอกปัดอย่างไม่ไยดีแล้วเดินสวนเพอร์รี่ออกไปทำงานที่โต๊ะของตัวเองต่อ

         เพอร์รี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ทำไมถึงได้ถือคติแรงขนาดนั้นกันนะ เขาคิดในใจพลางคิดต่อไปว่าจะหาใครไปทำงานนี้ดี

         “คือว่า…ถ้าไม่เป็นอะไร ผมจะขออาสาไปทำข่าวนี้เองครับ” เพอร์รี่หันไปมองตามเสียงที่คุ้นเคย และคนที่ยืนมองเขาอยู่ตรงนั้นก็คือคลาร์ก เคนท์…  เขาลืมไปได้ยังไงกันนะว่าพอเป็นเรื่องของบรูซ เวย์นทีไร เคนท์ก็จะกระตือรือร้นเป็นพิเศษทุกที

         “โอ้ ตกลง ได้สิ นายไปทำ คืนนี้เลยตอนหนึ่งทุ่ม ไม่กะทันหันไปใช่มั้ย?” เพอร์รี่ถาม

          “ไม่หรอกครับ ผมไปได้” คลาร์กตอบพร้อมรอยยิ้มสดใสที่เห็นได้อย่างชัดเจน

         เขาจะได้เจอบรูซ เวย์นอีกครั้งแล้ว…
     

     

    งานเลี้ยงที่บริษัทxx เวลาทุ่มตรง

        “เอาล่ะ อย่าทำตัวแปลกๆล่ะคลาร์ก” เมื่อมาถึงหน้าตึก คลาร์กถอนหายใจเบาๆแล้วพูดกับตัวเองว่าอย่า     ประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้าบรูซจนเผลอทำอะไรแปลกๆ แล้วเดินเข้างานไป

         ‘คนเยอะแฮะ’ คลาร์กคิดในใจแล้วเดินเรียบกำแพงไปเรื่อยๆ สายตาพยายามสอดส่องหาเป้าหมายในการทำงานและอาจจะเป็นเพราะรูปร่างและหน้าตาที่เป็นจุดเด่น ใช้เวลาไม่นานคลาร์กจึงหาเขาเจอ

         “….” คลาร์กหยุดนิ่งไปทันทีที่เห็นบรูซ เวย์นยืนอยู่ในงานเลี้ยง

         ราวกับโดนมนต์สะกดให้หยุดนิ่ง ด้วยท่าทาง เรือนร่าง หน้าตาหรือแม้กระทั่งชุดที่สวมอยู่ ทุกท่วงท่าการขยับตัวมันดูมีเสน่ห์จนใครมองก็ต้องหลงใหลและเขาก็คือหนึ่งในนั้น คลาร์กหลงรักบรูซเข้าจังๆจนโงหัวไม่ขึ้น ทั้งหลง รัก ชอบ และคลั่งไคล้ ทั้งที่เคยเจอหน้ากันแบบนับครั้งได้ ส่วนเรื่องคุยนี่แล้วใหญ่ หนำซ้ำบรูซคนนัันชอบผู้ชายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

         ข้อหลังเนี่ยแหละที่ทำให้คลาร์กรู้สึกห่อเหี่ยว

         “คุณเป็นอะไรรึเปล่า?” เหมือนเขาจะยืนคิดอะไรนานไปหน่อย จนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนเดินเข้ามาหา

        “อ้อครับ ผมไม่เป็นไร ขอโทษครับ…!!” เมื่อได้สติและมองหน้าคนมาทัก คลาร์กก็เบิกตาค้างราวกับเจอผี นิ่งอึ้งราวกับโดนหยุดเวลาไว้ ราวกับว่าเขากำลังฝันอยู่ ที่เห็นว่าบรูซ เวย์นเป็นคนเดินเข้ามาทักเขา

         “แน่ใจนะว่าคุณไม่เป็นอะไร?” บรูซถามย้ำเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไป

         “ครับ…เอ่อ…” คลาร์กอ้ำอึ้ง เช็คตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป ในหัวกำลังประมวลผลว่าควรจะทำยังไงต่อจนบรูซพูดขึ้นก่อน

         “ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ผมแค่สงสัยว่าคุณมีธุระอะไรกับผมรึเปล่า ก็คุณมองผมนานมาก…” คำบอกของบรูซทำให้คลาร์กตกใจ อุตส่าห์บอกตัวเองแล้วแท้ๆว่าอย่าทำตัวแปลกๆ หวังว่าสายตาของฉันคงจะไม่ดูโรคจิตหรอกนะ คลาร์กพูดในใจก่อนจะลูบท้ายทอยแล้วบอกขอโทษบรูซด้วยท่าทางหงอยๆ

         “คือผมขอโทษครับ ผมก็แค่…เอ่อ…คือคุณดูดีมาก ผมก็เลย…” คลาร์กบอกติดๆขัดๆอย่างไม่รู้ว่าควรจะใช้คำพูดไหนดีที่จะไม่ทำให้บรูซรู้สึกไม่ดี

         “โอเคๆ ไม่เป็นไร ขอบใจที่บอกว่าผมดูดี ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย?” บรูซถามย้ำอีกรอบเพื่อยืนยันเหตุผลที่คลาร์กจ้องเขาราวกับโดนหยุดเวลา และท่าทางของคลาร์กทำให้บรูซลองเดินมาถามดูด้วยตัวเองเพราะชอบความน่าขันนั่น…

         “ครับ เออะ จริงสิ คือผมคลาร์ก เคนท์ นักข่าวจากเดลี่ แพลเน็ตครับ คือผมอยากจะ…” 

         “โอ้ นักข่าว?” นักข่าวอีกแล้วงั้นหรอ บรูซคิดในใจ ทั้งๆที่ดูเป็นคนน่าสนใจดีแท้ๆ แต่พอบอกว่าเป็นนักข่าว สีหน้าของบรูซก็อ่อนลงทันทีอย่างเอื่อมระอา แต่เจ้าตัวนักข่าวที่กำลังยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ตรงหน้าเขานี่คงไม่ทันได้สังเกตแน่ๆ ไม่งัันเขาคงหุบยิ้มไปแล้ว

         “ครับ ถ้าไม่รบกวนผมอยากจะขอสัมภาษณ์คุณสักหน่อย” คลาร์กวางมือไว้ข้างลำตัวปกติ พยายามเก็บอาการประหม่าเอาไว้แล้วทำงานของตัวเองต่อ

         “อืม คุณโชคดีมากเพราะผมให้โอกาสแค่คนแรก แต่ตอนนี้คงยังไม่เหมาะ ไว้หลังเลิกงาน หวังว่าผมจะเจอคุณที่หน้าประตู ก็ถ้าคุณอยากได้ข่าวเรื่องผมจริงๆ” บรูซโกหก เขาไม่ได้ตัังใจจะอยู่ในงานนี้จนงานเลิกอยู่แล้ว เขาก็แค่แกล้งนักข่าวน่ารำคาญพวกนั้นเป็นปกติ

         “ตกลง ผมจะรอคุณหลังเลิกงานครับ” คลาร์กตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คำพูดของบรูซสำหรับเขามันเป็นเหมือนคำสัญญาว่าพวกเขาจะได้เเจอกันแน่นอน และรอยยิ้มของคลาร์กก็ทำให้ความรู้สึกหน่วงๆเกิดขึ้นในใจของบรูซอย่างที่ไม่เคยเป็น ก่อนที่เขาจะยิ้มให้นักข่าวตรงหน้าแล้วขอตัวออกไป
    คลาร์กมองแผ่นหลังของบรูซและยิ้มออกมาราวกับกำลังอยู่ในฝันที่ดีมากๆ แต่นี่คือความจริง…

     

     ‘วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ’

     

    บริษัทxx เวลาเกือบๆสามทุ่ม

         “จะกลับแล้วหรอคุณบรูซ?” เสียงใสของผู้หญิงเจ้าของงานเลี้ยงพูดขึ้นหลังเห็นบรูซ เวย์นทำท่าจะเดินตรงไปที่ประตูใหญ่

         “คุณก็รู้ว่าผมอยู่ในงานเลี้ยงแบบนี้ได้ไม่นานหรอก” บรูซว่าอย่างเป็นกันเองกับหญิงสาวที่รู้จักกันมานานตรงหน้า

         “ฉันรู้ ฉันไม่ว่าหรอกถ้าคุณจะกลับก่อนแต่คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบที่จะไม่ลากันก่อนกลับ” เธอว่าอย่างตัดพ้อ

         “เข้าใจแล้ว คราวหน้าผมจะระวังกว่านี้ ผมขอตัว แล้วเจอกันใหม่” บรูซพูดเป็นเชิงขอโทษก่อนจะขอตัวออกมาแบบที่เจ้าหล่อนชอบ

         “ก็แค่นั้น แล้วเจอกันคุณบรูซ” เจ้าหล่อนยิ้มส่งท้ายให้ก่อนที่บรูซจะยิ้มรับนิดหน่อยแล้วเดินออกมา
    ที่จริงเขาว่าจะกลับตั้งแต่สองทุ่มแล้วด้วยซ้ำ แต่เพราะสายตาของนักข่าวคนนั้นที่มองเขาตลอดเวลาราวกับเป็นสตอล์กเกอร์ทำให้เขารู้สึกไม่ดีถ้าจะออกไปทัังๆที่โดนมองอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ไม่เห็นจะใส่ใจเรื่องพวกนี้แท้ๆ

         จนกระทั่งสายตานั่นหายไป บรูซถึงตัดสินใจที่จะออกมาจากงานเลี้ยงน่าเบื่อนี่สักที ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แต่เพราะเจ้าของบริษัทเป็นเพื่อนกับเขามายาวนาน เลยต้องออกมาหาเจ้าหล่อนตามคำเชิญสักหน่อย

         บรูซเดินออกมาก่อนที่จะมีรถมารับตรงทางข้างหน้า เป็นคนของที่นี่ที่ขับมาให้เขา และเขาต้องขับกลับไปเอง เป็นเรื่องปกติทั้งๆที่อัลเฟรดบอกไว้หลายครั้งแล้วว่าเขาควรจะมีบอดี้การ์ดบ้าง แต่บรูซก็ไม่สนใจเรื่องนี้เลย

         “หายไปไหนแล้วนะ?” คลาร์กพูดด้วยท่าทางกระวนกระวายเมื่อกลับมาจากห้องน้ำแล้วเขาก็ไม่เห็นตัวบรูซ เวย์นอยู่ในงานเลี้ยง เขาเดินหาร่างงามจนทั่วงานแต่ก็ไม่เจอเลย

         ที่เขากระวนกระวายขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะกลัวเสียงาน แต่เป็นเพราะเขากลัวที่จะไม่ได้เจอบรูซอีกแล้วต่างหาก เพราะส่วนใหญ่บรูซไม่ค่อยออกงานต่างเมืองนกยกเว้นที่บริษัทนี้ มันเป็นเพราะอะไรเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอก ที่แน่ๆคือไม่ใช่ในทางชู้สาว…

         สุดท้ายคลาร์กเลยยอมแพ้ที่จะหาตัวบรูซในงานเลี้ยงแล้วตัดสินใจเดินออกมารอตรงหน้าทางเข้าแล้วได้แต่คิดในใจไปว่าบรูซอาจจะแค่ไปเข้าห้องน้ำ ไปธุระ ไปคุยงานที่ชั้นบนหรือไปทำอะไรก็ได้ที่ไม่ได้หมายความว่าบรูซจะไม่มาเจอเขาอีก
    ถึงคลาร์กจะพยายามคิดเข้าข้างตัวเองมากแล้วแต่ในใจลึกๆก็ยังเป็นกังวลว่าบรูซอาจเกิดอันตรายหรือแย่ที่สุดก็คือเขาแค่โกหกว่าจะมาเจอกัน…

     


    เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ

         งานเลี้ยงเลิกแล้ว ทุกคนทยอยเดินออกมาจากตึก บางคนก็เดินคู่กันมา บางคนก็ดูเมาแบบหมดสภาพผู้ดี บางทีภาพพวกนี้คงพอเอาไปเขียนข่าวเล็กๆได้บ้าง แต่ตอนนี้นักข่าวเคนท์ที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ได้คิดเรื่องงานของตัวเองเลย

         คลาร์กเอาแต่ไล่มองคนที่เดินออกมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าหนึ่งในนัันจะมีบรูซ เวย์นบ้างหรือเปล่า และเขาก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง…

         ไม่มี เขาไม่เห็นบรูซเลยจากคนที่เดินออกมา คลาร์กค่อนข้างแน่ใจว่าถึงคนจะเยอะแค่ไหนแต่เขาก็ต้องเห็นบรูซอยู่แล้ว เพราะสายตาของเขามักโดนดึงดูดไปในทุกๆที่ ที่มีคนๆนี้อยู่

         ถึงจะรู้สึกผิดหวังแต่คลาร์กก็ยังเชื่อว่าบรูซคงแค่ไปคุยธุรกิจอยู่ และเขาก็จะยืนรอต่อไปเรื่อยๆจนบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตูเดินมาหาเขา

         “งานเลี้ยงเลิกแล้ว ได้เวลากลับแล้วครับ พวกเราจะปิดประตูใหญ่แล้ว” บอดี้การ์ดที่ดูหนุ่มๆเข้ามาบอกคลาร์กอย่างสุภาพ ส่วนประตูใหญ่ที่ว่านั่นหมายถึงรั้วที่อยู่ห่างจากประตูนี่ไปพอสมควร

         “ขอโทษครับ แต่ผมรอคนอยู่ ขอเวลาอีกเดี๋ยวนะครับ” คลาร์กบอกอย่างเกรงใจแต่เขาตั้งใจว่าจะรอบรูซต่อ

         “รอใครครับ? พวกเขากลับไปกันหมดแล้วนะครับ” การ์ดถาม

         “ไม่นะครับ ผมแน่ใจว่าเขายังอยู่ เอ่อ…คุณบรูซ เวย์นน่ะครับ” คลาร์กว่าอย่างขอร้องให้การ์ดเข้าใจ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือคิ้วที่ขมวดเป็นปมบนใบหน้าของการ์ดคนนี้แทน

         “คุณเวย์นหรอครับ?” การ์ดถามย้ำอย่างไม่แน่ใจ เพราะเขาจำได้ว่าบรูซ เวย์นออกไปจากงานเลี้ยงตั้งแต่สามทุ่มแล้ว

         “ใช่ครับ คุณเวย์นจากเวย์นอินเตอร์ไพรซ์น่ะครับ” คลาร์กพูดชื่อบริษัทของบรูซเพื่อยืนยันว่าเป็นเวย์นเดียวกันที่พวกเขาพูดถึง

         “อ้อ ผมว่าคุณน่าจะพลาดแล้วล่ะ เพราะว่าคุณเวย์นกลับไปตั้งแต่สามทุ่มแล้ว” บอดี้การ์ดบอกหลังมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกันด้วยท่าทางที่ดูอ่อนลงเพราะเห็นใจ

         นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บรูซมาที่นี่ด้วยตัวเองและก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ การ์ดคนนี้อยู่มานานพอที่จะเข้าใจการกระทำของบรูซ

         “ไม่นะครับ ก็คุณเวย์นบอกผมว่าเจอกันหลังเลิกงานเลี้ยง” คลาร์กพูดต่อด้วยสีหน้าสลด รู้สึกหดหู่จนไม่รู้ว่าที่พูดออกมาเพราะเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือแค่ปลอบใจตัวเอง…

         “อืม คุณเวย์นน่ะไม่เคยอยู่จนถึงงานเลี้ยงเลิกหรอกครับ แล้วคุณเป็นนักข่าวใช่มั้ย? เขาชอบพูดแบบนี้กับนักข่าวทุกคนที่ตามเขามาที่นี่” การ์ดว่าตามจริง

         “ใช่…ผมเป็นนักข่าว แต่…” คลาร์กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดขัดและเงียบไปในท้ายประโยคเพราะไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาแย้งหรือปลอบใจตัวเองดี

         “เฮ้อ ดูเหมือนคุณไม่ได้อยากเจอเขาเพราะงานนักข่าวนะ ผมก็สงสารอยู่หรอก แต่คุณเวย์นกลับไปแล้ว และผมมีหน้าที่ปิดประตูและตรวจความเรียบร้อยก่อนเปลี่ยนเวร โปรดเข้าใจผมด้วย” การ์ดว่า

         “มีอะไรกัน?” ยังไม่ทันที่ก็คลาร์กจะได้ตอบอะไร เสียงใสของผู้หญิงก็ดังขึ้น แต่คลาร์กไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจอะไรในตอนนี้

         “อ้าว ยังไม่กลับอีกหรอคะ” เจ้าหล่อนว่าหลังเห็นคลาร์กยืนอยู่กับการ์ดของเธอ

         “…ครับ…คือผมรอคนอยู่ เขาอาจจะแค่ลืมและบางทีเขาอาจจะกลับมา…” คลาร์กว่าด้วยน้ำเสียงเศร้าๆที่เหมือนไม่คาดหวังกับคำพูดของตัวเองอีกแล้ว ที่เขาพูดแบบนี้ก็เพียงเพราะว่าอยากจะปลอบใจตัวเองเท่านั้น

         “เฮ้อ คุณนักข่าวครับ—”

         “รอได้ค่ะ แต่คงต้องเป็นหน้าประตูรั้วใหญ่นะคะ เพราะถึงรอข้างในไปคุณบรูซก็ไม่เข้ามาหรอกค่ะ” ยังไม่ทันที่การ์ดจะว่าจบ เจ้าหล่อนก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างใจดี

         “ครับ ตกลง ขอบคุณมาก” คลาร์กว่าแล้วหันหลังทันที

         “อ้อ เดี๋ยวค่ะ คุณชื่ออะไรคะ?” ก่อนที่เจ้าหล่อนจะถามขึ้นมา

         “ผมคลาร์ก เคนท์ครับ”

         “ขอบคุณ” เจ้าหล่อนขอบคุณแล้วปล่อยให้คลาร์กเดินออกไป…

         “คุณจะยังให้เขารอไปทำไมกันครับ?” การ์ดหันมาถามหลังพ้นหลังคลาร์กด้วยความสนิทสนมกับเจ้านาย

         “คุณไม่เห็นอะไรในตัวเขาหรอเจมส์ เขาวิเศษนะ เป็นคนแบบที่หาได้ยากแล้วล่ะ” เจ้าหล่อนตอบ

         “ยังไงครับ?” การ์ดยังคงถามต่อ

         “ก็คนประเภทที่ ‘คลั่งไคล้มาก' ประมาณนั้นน่ะ” เจ้าหล่อนยังคงตอบด้วยคำตอบที่กำกวมแปลกๆ การ์ดเลยยังทำหน้าไม่เข้าใจอยู่

         “หือ?”

         “นายไปปิดประตูเถอะ ฉันไปทำธุระหน่อยล่ะ”

         “ธุระ?”

         “จะโทรหาคนน่ะ” เจ้าหล่อนตอบก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่

         “….” เป็นเวลาเกือบๆเที่ยงคืนที่คลาร์กยังคงยืนอยู่หน้ารั้วของบ้านหลังใหญ่ที่จบงานเลี้ยงไป และรั้วใหญ่ก็ปิดไปตั้งแต่ห้าทุ่มแล้ว

         ตอนนี้เขายืนอยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวยามค่ำคืน คลาร์กบอกตัวเองว่าที่เขายังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าเขากำลังรอบรูซอยู่ แต่เขาแค่ไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ต่างหาก

         เขาคิดแบบนี้เมื่อชั่วโมงก่อนและยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยงคืน

         ‘คงได้เวลากลับแล้ว’ คลาร์กพูดกับตัวเองในใจก่อนที่เจ้าตัวจะแบกหัวใจที่ห่อเหี่ยวของตัวเองออกเดินลัดเลาะไปตามรั้วบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่คลาร์กจะได้ยินเสียงรถดังขึ้นมาข้างหู

    บรื้นน

         “?” คลาร์กหันไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะชะงักไปเพราะรถที่กำลังขับตรงมาทางเขามันสวยมาก และคงแพงน่าดู
    รถแลมโบร์กินีสุดหรูถูกขับมาจอดอยู่ข้างตัวคลาร์กอย่างพอดิบพอดี

         “!?” คลาร์กตกใจและรู้สึกงุนงงว่าทำไมรถหรูถึงมาหยุดอยู่ข้างตัวเขา แต่คลาร์กก็เปลี่ยนความมึนงงให้เป็นความอึ้งไปในทันทีที่กระจกรถลดลงมา

         “บรูซ เวย์น..?!” คลาร์กอ้ำอึ้งพูดชื่อของคนในรถด้วยท่าทางที่ราวกับเจอเซอไพรส์ ซึ่งนี่มันเซอไพรส์มาก!?

         “อย่ามัวแต่ยืนอ้าปากค้าง ผมง่วงแล้ว รีบขึ้นมาสิ” บรูซว่าเป็นเชิงคำสั่ง

         “ขึ้น? ด เดี๋ยวสิ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่? แล้วให้ผมขึ้นไปทำไม?” คลาร์กถามอย่างทำตัวไม่ถูก

         “…นั่นสินะ?” บรูซขมวดคิ้วพูดตอบเป็นเชิงถามตัวเองพลางมองเข้าไปในรั้วสูงด้านหลังคลาร์ก

    'ให้ตายสิ' บรูซสบถในใจ

         “ค คุณหมายความว่าไง?” คลาร์กยังคงถาม

         “ขึ้นมา” บรูซไม่ตอบ แต่สั่งให้คลาร์กขึ้นรถด้วยท่าทางเรียบนิ่งจนน่ากลัว

         “ค ครับ !” คลาร์กว่าอย่างลนลานเพราะกลัวบรูซจะโกรธตัวเองแล้วพาตัวเองขึ้นรถที่เปิดให้แล้วก่อนปิด แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป

         “…..” ในรถเงียบจนน่าอึดอัด คลาร์กอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออกจนบรูซพูดขึ้น

         “นายรอฉัน?” บรูซถามโดยไม่หันมามอง

         “ค ครับ คือผมหมายถึงตอนแรก ส่วนที่ยืนอยู่เมื่อกี้คือผมก็แค่ไม่อยากกลับบ้าน…” คลาร์กพูดตอบยาวเพราะกลัวว่าบรูซจะหาว่าเขาโรคจิต โง่ ซื่อบื้อหรืออะไรก็ตามแต่ ให้ตายสิ เขาไม่อยากเป็นผู้ชายที่ดูแย่ในสายตาบรูซเลย

         “ทำไมถึงรอ?” เหมือนบรูซไม่สนใจคำตอบอันยืดยาวของคลาร์กแล้วถามต่อ

         “เอ่อ…เพราะคุณ..บอกให้ผมรอ…” คลาร์กพูดเสียงแผ่วเหมือนไม่แน่ใจตัวเองว่าจะตอบอย่างไง ที่จริงเขาก็ไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่รู้ว่าตัวเองโดนหลอกหรอก ก็ตั้งแต่ที่เขาไม่เห็นบรูซในงานแล้วด้วยซ้ำ

         “…คุณน่าจะรู้ตั้งแต่ที่ไม่เห็นผมอยู่ในงาน” บรูซลอบมองคลาร์กนิดหน่อยด้วยหางตา พอเห็นว่าพ่อนักข่าวตัวใหญ่ข้างๆกำลังทำท่าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้ง เขาก็ลอบยิ้มมุมปากเบาๆด้วยความเอ็นดูคนตัวโต

         “ใช่ ใช่ ผมรู้ครับ” คลาร์กตอบด้วยท่าทางเศร้าๆ

         “แต่คุณยังขอรอต่อถึงแม้ทุกคนจะกลับกันแล้ว ทำไม?” บรูซพยายามไล่ถามเพื่อเค้นความจริงออกจากปากคนตัวโต จะให้บอกว่าเป็นเพราะงาน ยังไงเขาก็ไม่เชื่อ

         “นั่น เอ่อ…ผม ผมก็แค่……” คลาร์กพูดตะกุกตะกักแล้วเงียบไปเมื่อนึกคำแก้ตัวไม่ออก

         “คุณเคนท์?” บรูซเรียกคลาร์กเพื่อกระตุ้นเจ้าตัว

         “โอเคคุณบรูซ ผมยอมแพ้แล้ว ผมรอเพราะคุณบอกให้ผมรอและเพราะผม…อยากเจอหน้าคุณ…” คลาร์กตอบอย่างหมดความอดทนกับการถูกไล่เค้นความจริง

         “…หือ? แค่หน้าผมหรอ?” บรูซรับรู้และพอใจที่คนตัวโตยอมพูดออกมาแต่เขายังคงหยอกอีกฝ่ายต่อ

         “!? ไม่ ผมหมายถึง อยากเจอคุณ ไม่ใช่แค่หน้าแต่เป็นตัวคุณทั้งตัว… !?” ไม่รู้ทำไมแต่คลาร์กรีบตอบคำถามนั้นด้วยท่าทีกระวนกระวาย แต่เหมือนบรูซจะรู้ว่าทำไมเขาจึงหยอกต่อ

         “โอเค ไม่เห็นต้องกระวนกระวายขนาดนั้น”

         “!?” คลาร์กสะดุ้งเมื่อได้ยินบรูซว่าแบบนั้นก่อนที่หน้าของเขาจะขึ้นสีจางๆด้วยความเขินอายจากท่าทีของตัวเอง

         “…..” บรูซลอบยิ้มอีกครั้งที่เห็นใบหน้าขึ้นสีจางๆของคนตัวโต มันดูน่ารักมาก เขาชอบนะ

         “จะไม่ชวนฉันเดทหรอ?” บรูซแกล้งถามขึ้นมาเมื่อคลาร์กเงียบไป นั่นทำให้เจ้าตัวสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้ง

         “!?” คลาร์กมองบรูซอึ้งๆด้วยใบหน้าที่ขึ้นสี

         “ไม่อยากเดทกับฉัน?” บรูซถามต่อหลังคลาร์กไม่พูดอะไร

         “ไม่! ไม่ คือผมหมายถึง ไม่ ผมไม่ได้ไม่อยากเดทกับคุณ แต่คุณ…ผม…มันจะได้หรอครับ” คลาร์กว่าขึ้นมาเพราะกลัวบรูซเข้าใจผิดแต่ที่จริงเขาก็แค่กำลังโดนทดสอบ

         “ได้สิ ถ้าคุณชวน” บรูซตอบสบายๆ

         “ครับ! แต่คุณคงไม่ได้แกล้งผมใช่มั้ย?” คลาร์กถามด้วยท่าทางที่ห่อเหี่ยวลง

         “ไม่หรอก ผมไม่อยากให้คุณไปเขียนข่าวว่าผมเป็นนักเบี้ยวนัดหรอกนะ” บรูซแหย่

         “! :)” คลาร์กยิ้มจนแก้มแทบปริกับคำตอบเชิงเล่นเชิงจริงของบรูซ นี่เป็นรอยยิ้มจริงๆครั้งแรกที่บรูซได้เห็น เป็นรอยยิ้มที่ดูใสซื่อเหมือนลูกหมาอย่างไงอย่างงั้น

         “แล้ว?”

         “! สุดสัปดาห์นี้ถ้าคุณว่าง!” คลาร์กบอกอย่างตื่นเต้น

         “แน่นอน” บรูซตอบเป็นจังหวะที่ขับรถมาจอดอยู่หน้าห้องพักที่คลาร์กอยู่

         “ถึงแล้วพ่อหนุ่ม”

         “เอ๊ะ?” คลาร์กมองนอกหน้าต่างอย่างงงๆเมื่อบรูซบอก

         “คุณรู้จักที่อยู่ผมด้วยหรอ?”

         “ฉันรู้ทุกอย่าง” บรูซยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คลาร์ก นั่นทำให้เจ้าตัวนิ่งอึ้งไปกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มีเสน่ห์ของบรูซแล้วลืมทุกอย่างไปโดยปริยาย

     

    ‘นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของพวกเขาทั้งคู่เท่านั้น’

     

    [END]

     

     

    #กว่าจะปั่นออกมาแต่ละตอนได้นี่นานชะมัด ก็มันแต่งไม่พอใจตัวเองสักทีอะนะ เปลี่ยนบ่อยย555

    #อย่าลืมติเตียนหรือให้กำลังใจด้วยนะคะ :)

                                 
      B
      E
      R
      L
      I
      N
      ?
       
     
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×