คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่10 ศึกของ3องค์กรใหญ่และความลับที่แตก(3)(100%)
ไรท์ บรรยาย
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงจังหวะการเดินคงที่ดังขึ้นเป็นระยะไม่รีบเกินไปไม่ช้าเกินไปบ่งบอกถึงความใจเย็นของคนเดินได้เป็นอย่างดี
'เธอน่าจะเปลี่ยนชุดก่อนที่จะกลับมานะจิฮิโระ'
'ก็มันชินนิเลยเดินกลับมาทั้งๆแบบนี้เอาเป็นว่าครั้งหน้าจะไม่ลืมก็แล้วกันนะ'
สองสาวพูดคุยผ่านโทรจิตขณะเดินขึ้นบันไดถ้าถามว่าทำไมไม่ขึ้นลิฟก็ขอตอบได้ว่าอยากเดินขึ้นบันไดมากกว่าเป็นการออกกำลังกายไง
'คาเรย์ข้ามีลางสังหรณ์แปลกๆว่าความลับของพวกเราจะแตกหรือพวกทาสุคุไปทำอะไรให้พวกนั้นจับพิรุทได้กัน?'
'...ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะแต่ว่า...ระหว่างที่ฉันอยู่ในนี้ฉันรู้สึกได้ว่าพวกทาคุจังกำลังมองพวกเราอยู่เลย'
กึก!
จิฮิโระหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนที่จะรีบประมวลข้อมูลที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วพอประมวลเสร็จก็บอกกับคาเรียน่าอย่างตกใจว่า
"พวกนั้นใช้กล้องดวงตาตามดูพวกเรา!"
"กล้องดวงตาอะไรเหรอ?คาเรย์"
เฮือก!
หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่แสนคุ้นเคยก่อนจะค่อยๆหันไปมองด้านหลังก็เจอกับชายหนุ่มผมน้ำตาลเข้มที่ตามตัวเต็มไปด้วยผ้าพันแผลทำให้จิฮิโระกับคาเรียน่ากรีดร้องในใจพร้อมกันว่า
'วันนี้วันซวยอะไรของข้า/ฉันเนี่ย!?'
"ตอบมาสิคาเรย์ว่ากล้องดวงตาที่เธอพูดถึงเมื่อกี้นี้ใช้ไอ้นี้หรือเปล่า?"
ดาไซถามพร้อมกับเอาสิ่งหนึ่งออกมาซึ่งสิ่งนั้นก็คือกล้องดวงตาที่จิฮิโระพูดไปเมื่อกี้! ลักษณะคือคล้ายกล้องธรรมดาทั่วๆไปแต่ตรงข้างหน้ากล้องมีดวงตาโผล่ออกมา! และข้างๆยังมีปีกค้างคาวเล็กๆติดอยู่ด้วย!(ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงกล้องที่อยู่ในเกมไอเดนนะคะ//ไรท์)
"ไปเอามาจากไหน?"
"จากไหนได้ล่ะก็ต้องเพื่อนรักของเธอทั้งสามคนสิ^_^"
รอยยิ้มของชายหนุ่มในตอนนี้ไม่ดูดีเลยสักนิด!กลับกันมันดูน่ากลัวมากกว่า!จิฮิโระที่ได้ฟังก็เงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วก็ยกยิ้มขึ้นพลางพูดชมร่างสูงตรงหน้าไปว่า
"ฉลาดกว่าที่ข้าคิดเอาไว้นะเนี่ยมิน่าล่ะคาเรย์ถึงได้ชมเจ้าอยู่บ่อยๆ:)"
"กะเอาไว้แล้วล่ะว่าเธอต้องไม่ใช่คาเรย์แน่ๆ"
"มันก็ไม่เชิงหรอกนะ"
หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มทำให้ดาไซเผยสีหน้าสงสัยออกมาร่างบางจึงบอกไปว่า
"ไปคุยกันในห้องประชุมเลยเถอะจะได้บอกทีเดียวงั้นร่างของคาเรย์ข้ายึดไว้วันหนึ่งก็แล้วกัน"
บอกจบก็หันหลังเดินตรงไปยังห้องประชุมปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเดินไปเรียกพวกอัตสึชิให้มาที่ห้องประชุมแน่นอนว่าพอเปิดประตูเข้าไป ก็เจอกับประธานและจิฮิโระกำลังนั่งดื่มชากันอยู่
"เป็นชาที่ดีข้าขอซื้อต่อเลยได้มั้ย?"
"ผมยกให้ท่านเลยก็ได้ครับ"
"จะดีเหรอ?ไม่สิๆข้าขอซื้อต่อเถอะไม่งั้นมันทำให้ข้ารู้สึกอึดอัดน่ะ"
"งั้นเอาตามที่ท่านสบายใจเลยครับ"
พวกดาไซรู้สึกแปลกใจที่เห็นประธานพูดสุภาพกับคาเรียน่าแต่ที่จริงคือไม่ใช่ฟุคุซาวะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คาเรียน่าเลยให้เกียร์ติกับผู้หญิงที่ใช้ร่างเท่านั้นเพราะคนที่ใช้ร่างของคาเรียน่านั้นเป็นตัวตนที่สูงส่ง
"ประธานครับพวกเรามากันครบแล้ว"
"ดีงั้นก็ขอให้ท่านแนะนำตัวกับพวกเขาหน่อยนะครับ"
"ไม่มีปัญหาเพราะข้าต้องทำแบบนั้นอยู่แล้วงั้นขอแนะนำตัวกันหน่อยนะพวกเด็กน้อยทั้งหลาย:)"
พูดพร้อมกับยกยิ้มขึ้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วก็แนะนำตัวเองกับพวกดาไซใหม่
"ข้ามีนามว่า จิฮิโระ โนะ มาเอะ เป็นราชินีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของเหล่าจิ้งจอกทั้งมวลและยังเป็นตัวตนของคาเรย์ด้วย:)"
"!?"x(พวกคุนิคิดะ)
พวกคุนิคิดะพากันตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกันแต่ออกจะไปทางตกใจปนไม่เชื่อมากกว่าซึ่งจิฮิโระก็พอเดาปฏิกิริยาแบบนี้ได้อยู่แล้วยกเว้นพวกทาสุคุเพราะรู้อยู่แล้ว
"ตัวตนของพี่คาเรย์?หมายความว่ายังไงกันครับ?"
อัตสึชิถามขึ้นมาเมื่อตั้งสติได้จิฮิโระจึงตอบคำถามไปพร้อมกับเล่นผมไปด้วย
"ก็อย่างที่ได้ยินไปข้าเป็นตัวตนของคาเรย์ในร่างปีศาจส่วนคาเรย์ก็เป็นตัวตนของข้าในร่างมนุษย์ อ้อ แล้วก็ยังมีอีกสองคนที่เป็นตัวตนของคาเรย์เหมือนกัน แต่ข้าไม่แนะนำให้สองคนนั้นออกมาหรอกนะไม่งั้นตึกนี้ไม่สิไม่งั้นประเทศนี้ได้หายไปจากโลกนี้แน่ๆ"
"..."x(ทุกคน)
เกิดความเงียบขึ้นหลังจากฟังที่เธอตอบซึ่งแน่นอนว่านี้ก็เป็นสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้แล้วเหมือนกันดังนั้นเธอจึงไม่รีบจิบชาไปพลางๆทำให้ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
"ถ้าอย่างงั้นตอนนี้คาเรย์ก็อยู่ในร่างนี้สินะ?"
"ใช่คาเรย์อยู่ในนี้แล้วก็ได้ยินสิ่งที่พวกเราพูดคุยกันด้วยอยากเจอเหรอ?ข้าทำให้นางออกมาได้นะแต่อยู่ในสภาพที่คล้ายวิณญาณคือตัวจะโปร่งแสงจางๆ"
ดาไซครุ่นคิดอยู่แปปหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลงเขาต้องการถามอะไรบางอย่างจากคาเรียน่า ถ้าเธอเป็นคนประเภทเดียวกับเขาจริงเธอจะต้องปราถนาสิ่งนั้นแน่ๆจิฮิโระที่เห็นดาไซพยักหน้า ก็ทำการดีดนิ้วเพื่อให้คาเรียน่าออกมาจากร่างในสภาพวิณญาณทันที
เปาะ! วิ้ง~!
มีแสงสว่างปรากฏออกมาข้างๆจิฮิโระทำให้พวกดาไซเอาแขนขึ้นมาบังไว้พอแสงค่อยๆจางลง พวกเขาก็เอาแขนลงทำให้เห็นคาเรียน่าในสภาพวิณญาณที่อยู่ข้างๆจิฮิโระ คือโปร่งแสงจางๆและร่างบางก็ยังใส่ชุดกิโมโนสีแดงลายดอกซากุระเหมือนเดิม
"เรียกออกมาในสภาพนี้ก็ไม่เลวนะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้ตายไปแล้วเลยน่ะ"
หญิงสาวบอกอย่างสบายๆขณะเอามือแตะโต๊ะแต่มันก็ทะลุผ่านไปทำให้คาเรียน่ามองด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกทันที
"คาเรย์ฉันขอถามอะไรหน่อย"
"อะไรล่ะ?"
"ความปราถนาของเธอคืออะไร?"
หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจก่อนจะหันไปมองทาสุคุที่ยืนกอดอกอยู่ใกล้ๆเธอพลางคิดในใจว่า
'ถามเหมือนกันซะด้วยแต่ก็เอาเถอะเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วบอกไปเลยก็แล้วกัน'
"ความปราถนาของฉันคือความตายเหมือนนายนั่นแหละดาไซ"
"!!!"x(พวกอัตสึชิยกเว้นดาไซกับพวกทาสุคุ)
พวกอัตสึชิตกใจกับคำตอบนั้นแต่สำหรับดาไซก็พอจะเดาได้อยู่แล้วก็เป็นคนประเภทเดียวกันนิเนอะ?
"แต่พวกฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอกคาเรย์:)"
"ใช่ๆถ้าพวกฉันยังอยู่ก็อย่าหวังเลยว่าเธอจะตายได้น่ะ:)"
"พวกเราสาบานกันไว้แล้วนิคาเรย์ว่า จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน จะสุขก็สุขด้วยกัน จะทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน จะตายก็ต้องตายด้วยกัน น่ะ:)"
"เกลียดรอยยิ้มแบบนั้นของพวกนายจริงๆสมแล้วล่ะที่ฉันตั้งฉายาให้ว่าตัวขัดขวางการฆ่าตัวตายหมายเลข 1 2 3 4น่ะ"
ร่างบางบอกอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะนึกได้ว่าเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว!
"สี่?แสดงว่าในกลุ่มพวกเธอมีกันห้าคนสินะแล้วอีกคนล่ะ?"
คุนิคิดะถามทำให้พวกคาเรียน่ามองมาที่ดาไซอย่างพร้อมเพียงจนชายหนุ่มสงสัยรวมถึงพวกคุนิคิดะเองด้วย
"อย่าพูดถึงหมอนั่นเลยพอพูดถึงทีไรอารมณ์ฉันจะปรี๊ดทันทีฉลาดสะเปล่าแต่ทำตัวเรื่อยเปื่อยไปทั่ว ชิ! พูดถึงแล้วก็อยากระบายเลย"
"หยุดที่นี้ไม่ใช่ที่ระบายเพราะฉะนั้นสงบอารมณ์ลงซะคาเรย์"
ทาสุคุห้ามเมื่อเห็นเพื่อนสาวกำลังจะระบายคาเรียน่าจึงต้องหลับตาข่มอารมณ์ของตัวเองลงถ้าเมื่อกี้ทาสุคุไม่ห้ามเธอคงหลุดปากออกไปแล้ว
"ชื่อของเขาล่ะ?"
ปึด!
นั่นไงล่ะพอถามถึงชื่ออารมณ์ก็กลับมาอีกถึงจะทำไปเพื่อโกหกก็เถอะแต่จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าอีกคนคือใคร
"เป็นชื่อต้องห้ามที่ห้ามพูดเมื่อมีคาเรย์อยู่ไม่งั้นก็จะเป็นแบบนี้"
ริวบอกพร้อมกับเข้าไปใกล้คาเรียน่าแล้วกระซิบบอกชื่อของบุคคลที่ห้าในกลุ่มทำให้หญิงสาวชกหมัดมาที่ชายหนุ่มรัวๆทันทีแต่มันก็ทะลุผ่านไป
"ริว!นายกล้ามากที่พูดชื่อนั้นให้ฉันฟัง! นี่แหน่ะๆๆๆ!"
ทุกคนมองการกระทำของร่างบางเหมือนเด็กน้อยไปทันทีแล้วก็ตระหนักได้ว่าอย่าถามถึงคนที่ห้าในกลุ่มของเธอจะดีกว่า
"เอ้าๆ แยกๆ มาเข้าเรื่องกันต่อก็อย่างที่พวกนายรู้คาเรย์ต้องการความตายแต่พวกฉันไม่ยอมให้เธอตายส่วนเรื่องตัวตนก็ให้คุณจิฮิโระพูดต่อเถอะ"
"ฟี้~ฟี้~ฟี้~"
เสียงหลับดังขึ้นบ่งบอกว่าตอนที่พวกทาสุคุคุยกันอยู่จิฮิโระก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนจะหลับไปคาเรียน่าจึงต้องปลุกจิ้งจอกสาวให้ตื่น
"จิฮิโระตื่น"
"ฟี้~ฟี้~"
"จิฮิโระตื่นได้แล้ว~"(เขย่าตัวเบาๆ)
"งืมๆ...ท่านอาราฮาบากิ...ข้า...ขอโทษ..."
"..."x(พวกคาเรียน่า)
'จิฮิโระ!/คุณจิฮิโระ!/ยัยทวดจิ้งจอก!ละเมออะไรออกมารู้ตัวมั้ย!?'x4
ทั้งสี่คนคิดในใจพร้อมกันอย่างกังวลโดยเฉพาะคาเรียน่าที่ตอนนี้เหงื่อไหลลงมาเม็ดโตเลยก่อนจะตะโกนออกมาว่า
"ถ้าเธอไม่ตื่น!ดาไซจะต่อยชูยะแล้วนะ!"
ฟุบ!
ได้ผลจิ้งจอกสาวเด้งตัวขึ้นมามองมาทางดาไซทันทีด้วยสายตาน่ากลัวจนดาไซยังอดเหงื่อตกไม่ได้แหงล่ะนั่นปีศาจนะแต่นี้แค่มนุษย์ที่มีพลังพิเศษเท่านั้นถ้าสู้กันก็รู้ผลอยู่เห็นๆ
"ไหนล่ะชูยะคุง?"
"ไม่มีหรอกแค่โกหกให้เธอตื่นเฉยๆ"
จิฮิโระขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนจะนั่งตัวตรงเหมือนเดิมพร้อมกับยกชาขึ้นจิบแล้วก็วางลงก่อนจะไอแก้เขินที่เมื่อกี้เผลอหลับไปทำไงได้ล่ะอุณหภูมิมันเหมาะกับการนอนของจิ้งจอกนิ
"อะแฮ่ม! เอาเป็นว่าเรื่องตัวตนข้าก็บอกไปแล้วขอให้พวกเจ้าเอาไปคิดต่อเองก็แล้วกันแต่ข้าขอเตือนว่าถ้าข้าออกจากร่างของคาเรย์จะทำให้คาเรย์นั้นกลับไปเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิม"
"หมายความว่าไง?"
"เห้อ~ เจ้าคิดว่าคนที่เสียความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วจะยังยิ้มได้อยู่อีกเหรอ?คำตอบคือไม่มีทาง ที่คาเรย์ยังยิ้มยังแสดงความรู้สึกได้อยู่เพราะมีข้าที่คอยเป็นคนควบคุมความรู้สึกของคาเรย์ไว้ ถ้าข้าออกจากร่างหรือตายไปคาเรย์จะกลายเป็นตุ๊กตาทันที ไม่ยิ้มไม่แสดงสีหน้ามีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้เห็น"
อัตสึชิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของจิฮิโระนั้นจริงจังมาก แสดงว่าที่ผ่านมาพี่สาวของเขาใส่หน้ากากมาโดยตลอดสินะ? แบบนี้มันทรมานมากกว่าเขาอีกไม่ใช่เหรอ?ไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรได้แบบนี้มัน โหดร้ายเกินไปแล้วมันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างที่ทำให้คาเรียน่าเป็นแบบนี้สิ
"เอาเป็นว่าเรื่องของฉันพักไว้ก่อนเถอะเพราะยังไงตอนนี้จิฮิโระก็ยังอยู่ตอนนี้มาคุยเรื่องจัดการกิลด์กันก่อนเถอะ"
"อย่างที่คาเรย์บอกตอนนี้พวกเราต้องจัดการกิลด์ให้ได้ไม่อย่างงั้นเมืองโยโกฮาม่าได้พังพินาศแน่"
"ครับ!/ค่ะ!"
ทุกคน(ยกเว้นพวกทาสุคุ)ขานรับคำพูดของฟุคุซาวะก่อนจะนั่งที่เพื่อเริ่มพูดคุยแผนการส่วนคาเรียน่าก็คุยกับจิฮิโระว่าให้เปลี่ยนตัวกัน
"แต่ข้าบอกไปแล้วนะว่าข้าจะขอร่างเจ้าหนึ่งวันน่ะ"
"เอาไว้ตอนทำงานตอนนี้ฉันขอก่อนอยากเปลี่ยนชุด"
"ชุดนี้ฉันว่าสวยดีนะใส่ให้นานหน่อยสิ"
ทาสุคุบอกพร้อมกับลูบหัวจิฮิโระที่ใช้ร่างคาเรียน่าอย่างมั่นไส้จนจิ้งจอกสาวกางเล็บที่ยาวขึ้นมาขู่ให้ชายหนุ่มหยุดซะ
"ถ้ายังไม่หยุดยีหัวข้าจะข่วนเจ้าให้เป็นแผลเป็นเลยคอยดูสิ"
"ฮะๆ กลัวแล้วครับกลัวแล้ว:)"
ปากบอกว่ากลัวแต่รอยยิ้มและแววตาไม่มีความกลัวเลยสักนิดก่อนจะเอามือออกแล้วจิฮิโระก็เปลี่ยนตัวกับคาเรียน่าทำให้สีตาที่เป็นสีฟ้าใสกลายเป็นสีดำสนิทบ่งบอกว่าคาเรียน่าเข้าร่างแล้ว
______________________
เดี๋ยวมาต่อให้นะคะ
______________________
ต่อค่ะ
______________________
"เอาล่ะมาเริ่มประชุม--"
ตึกตัก!
"อึก! แค่กๆๆ!"
"คาเรย์!/พี่คาเรย์!/คาเรย์จัง!/คุณคาเรย์!"x(ทุกคน)
ทุกคนพากันเรียกนักฆ่าสาวอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเธอก็หยุดพูดไปกระทันหันพร้อมกับที่ไอออกมาเป็นเลือดสีดำ!พวกทาสุคุกับดาไซรู้ได้ทันทีว่านี้คืออาการกำเริบของโรคประจำตัวคาเรียน่า
"แค่กๆ!...อย่าทำหน้า...แบบนั้นสิ...ฉันยังไม่ตาย...สัก...หน่อย...อึก!...แค่กๆ!"
"พอ!เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!ริวยาอยู่ในเสื้อคลุมฉันตรงโซฟาไปเอามาให้ที"
"รับทราบ"
ตอบรับจบก็รีบวิ่งออกจากห้องตรงไปยังห้องทำงานเพื่อเอายาในเสื้อคลุมของทาสุคุมาให้เพื่อนสาวทานอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าเหมือนเดินออกจากห้องแล้วกลับเข้ามาเท่านั้น
"อ่ะนี่"
ชายหนุ่มยื่นขวดยาให้กับเพื่อนผมฟ้าซึ่งพอเจ้าตัวได้ก็ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เปิดฝาขวดออกพร้อมกับนำปากขวดไปใกล้กับริมฝีปากของร่างบางที่จ้องขวดยาด้วยสายตาไม่สบอารมณ์สุดๆจนทาสุคุต้องสั่งเสียงแข็งว่า
"ดื่มยาซะคาเรย์"
"ไม่...เอา..."
"จะดื่มดีๆหรือให้ฉันหยิบมีดมาแทงตัวเอง?"
หมับ!
"อึก! อึก! อึก! อึก!"
เพียงเท่านั้นคาเรียน่าก็รีบคว้าเอาขวดยามาดื่มทันทีแถมดื่มหมดขวดเลยด้วยทำให้พวกทาสุคุยิ้มออกมาอย่างโล่งใจถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องขู่แบบนั้นก็เถอะแต่เขาทำจริงนะไม่ได้แค่ขู่เฉยๆเรื่องนั้นหญิงสาวก็รู้ดี
"ไม่คุยด้วยหนึ่งวัน"
"ยอมก็ได้ถ้ามันทำให้เธอยอมกินยาน่ะ:)"
ทาสุคุบอกด้วยรอยยิ้มถึงในใจจะแอบเศร้าที่จะไม่ได้คุยกับเพื่อนสาวไปหนึ่งวันน่ะแค่ไม่ได้คุยด้วยกันสิบนาทีก็ยังเหงาเลย
"ให้ตายเถอะนิสัยไม่ชอบทานยานี้ได้มาจากท่านคาริสซ่าด้วยสินะ?"
"เอ็ะ? ท่านแม่ไม่ชอบทานยาเหรอคะ?"
ฟุคุซาวะพยักหน้าเป็นการตอบพร้อมกับแปลกใจในเวลาเดียวกันว่าทำไมถึงถามแบบนั้นทั้งๆที่ตัวเองน่าจะรู้ดีที่สุดน่ะและแน่นอนว่าคาเรียน่ารู้ถึงความสงสัยนั้นจึงบอกไปว่า
"พอดีท่านแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านน่ะค่ะส่วนมากท่านจะออกเดินทางไปรอบโลกนานๆทีถึงจะกลับค่ะ"
ประธานของสำนักงานนักสืบพยักหน้ารับก่อนที่จะเริ่มประชุมกันต่อโดยให้โยซาโนะเป็นคนพาคาเรียน่าไปที่ห้องพยาบาลเพื่อพักผ่อนแต่เจ้าตัวกับดื้อดึงที่จะอยู่ด้วยจนทาสุต้องสั่งเด็ดขาดว่า
"ถ้าไม่พักฉันจะหายไปจากเธออีกสามปีไม่สิหายสาปสูญไปเลยน่าจะดีกว่านะ"
"..."
"ถ้าไม่อยากให้ฉันหายไปก็ไปพักผ่อนดีๆนะเด็กดี^_^"
พูดไม่พอยังลูบหัวอีกทำให้คาเรียน่าคิ้วกระตุกยิกๆก่อนจะกัดมือของชายหนุ่มอย่างแรงด้วยความน้อยใจและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน
งับ!
"อืม...เจ็บแฮะ"
'นั่นคือสีหน้าของคนเจ็บเหรอ!?'x(พวกสำนักงานนักสืบ)
ที่ทุกคนคิดแบบนั้นเป็นเพราะสีหน้าของทาสุคุยังยิ้มได้อยู่แถมยังใช้มืออีกข้างลูบหัวหญิงสาวต่อด้วย!
"พอๆคาเรย์เดี๋ยวก็ติดเชื้อโรคหรอกอย่าไปกัดสิ่งสกปรกสิ"
ริวบอกพร้อมกับเข้ามาช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวทำให้คาเรียน่าเลิกกัดมือไปโดยปริยายแล้วพูดกับทาสุคุว่า
"เกิดก่อนฉันแค่สามวันอย่ามาทำตัวเป็นพี่ชายนะ"
"อะไรกันๆทั้งๆที่เมื่อก่อนยังเรียกฉันว่าพี่ทาสุคุอยู่เลยแท้ๆทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ยอมเรียกกันนะ?:)"
"ไม่คุยกับทาคุจังแล้ว!ริวพาฉันไปพักเถอะ"
"รับทราบครับเจ้าหญิงน้อย:)"
พูดจบก็เดินออกจากห้องประชุมไปเหลือไว้แค่พวกดาไซกับพวกทาสุคุเท่านั้น
"โจเซฟนายมีอะไรพอที่จะเก็บเลือดคาเรย์มั้ย?"
"มี"
ตอบจบก็หยิบหลอดทดลองออกมาจากเสื้อคลุมที่ตนส่วมอยู่มอบให้กับเพื่อนผมฟ้าของตนเขารู้ว่าทาสุคุจะทำอะไรเลยให้ความร่วมมืออย่างดี
"ทำไมต้องเก็บเลือดของคุณคาเรย์หรอเครับ?"
"ปกติตอนโรคหัวใจของคาเรย์กำเริบไม่เคยไอออกมาเป็นเลือดสีดำน่ะสิแสดงว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่ด้วยสามปียัยนี้ต้องทดลองยาพิษต่างๆกับตัวเองแน่ๆฉันก็เลยจะเก็บเลือดไปตรวจสอบดูน่ะว่ามียาพิษอะไรบ้างน่ะ"
ทาสุคุตอบคำถามของเคนจิไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ตึงเครียดก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งเมื่อนึกถึงช่วงที่ตัวเองไม่ได้อยู่กับร่างบางถึงสามปี
'ช่วงสามปีที่ฉันไม่อยู่คาเรียน่าต้องเอายาพิษมาทดลองกับตัวเองเพื่ออยากตายแน่ๆจนทำให้เลือดเป็นสีแบบนั้นแต่ถ้าบาดเจ็บหรือโดนโจมตีเลือดก็ยังเป็นสีปกตินิทำไมกันนะ?คงต้องไปง้างปากถามแล้วล่ะ'
พอคิดจบก็เป็นเวลาเดียวกับที่ริวเปิดประตูเข้ามาพอดีเลยทำให้ทาสุคุคิดอะไรบางอย่างออกจึงลุกขึ้นถามเพื่อนผมขาวว่า
"ริวช่วงสามปีที่ฉันไม่อยู่คาเรย์ได้ทำอะไรกับร่างกายตัวเองหรือเปล่า?"
กึก!
ริวถึงกับชะงักให้กับคำถามของชายหนุ่มผมฟ้าทำให้คนอื่นๆในห้องประชุมหันมามองเขาทันทีทำให้ชายหนุ่มต้องพยายามไม่ให้ความประหม่าออกมาแล้วบอกว่า
"ไม่รู้สิช่วงนั้นฉันกับโจเซฟก็ยุ่งอยู่กับภารกิจด้วยมีเวลาไปหาคาเรย์น้อยมาก"
"...เหรอ?...เข้าใจแล้วล่ะถ้านายไม่บอกก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปถามกับคาเรย์เองก็ได้เพราะไม่ว่าฉันจะสั่งอะไรคาเรย์ก็ทำตามเสมอนิ:)"
รอยยิ้มของทาสุคุมันดูกดดันแปลกๆแถมยังสายตานั่นอีกถึงจะยิ้มแต่ดวงตากลับว่างเปล่าจนน่ากลัวทำให้ริวเหงื่อตกเล็กน้อย
"แต่ว่าพักเรื่องคาเรย์ไว้ก่อนแล้วกันมาประชุมกันเถอะนะ^_^"
บรรยากาศกดดันเมื่อกี้สลายหายไปทันทีเมื่อหนุ่มผมฟ้าเลิกปล่อยความกดดันทำให้ทุกคนหายใจได้สะดวกขึ้นยกเว้นดาไซที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่แต่ก็เก็บเอาไว้แล้วเริ่มประชุมกัน
คาเรียน่า บรรยาย
งายยยกลับมาพบกับคาเรียน่าคนเดิมเพิ่มเติมคืออยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วจ้า หลังจากที่ได้นอนพักไปก็อาการดีขึ้นแล้วล่ะถึงตอนแรกพวกทาคุจังจะไม่ยอมให้มาก็เถอะ แต่พอฉันใช้ท่าไม้ตายใส่ก็ยอมกันหมดแล้วหุหุหุ
ติ๊ดๆ!
[กำลังจะเข้าสู่การมองเห็นของวาฬเผือกแล้วครับ]
"รับทราบ"
ทานิซากิคุงตอบรับพร้อมกับหันมาถามอัตสึชิคุงว่าพร้อมรึยังซึ่งแน่นอนว่าน้องเสือก็พร้อมแล้วล่ะ เจ้าตัวเลยใช้พลังพิเศษของตัวเองอำพรางทั้งเฮลิคอปเตอร์ทันที แล้วอัตสึชิคุงก็ออกจากเฮลิคอปเตอร์ลงไปไต่บันไดซึ่งฉันเองก็อยู่ข้างบนอีกทีรอจังหวะแล้วก็กระโดดเท่านั้น
"วาฬเผือกจะปิดเซ็นเซอร์ตรวจจับน่านฟ้าตอนรับของจากฮ.ขนส่งแค่หนึ่งร้อยสามสิบวินาทีเท่านั้นเราจะพรางตัวแล้วเข้าประชิดในจังหวะนั้น"
พวกเราสามคนเข้าใกล้วาฬเผือกเรื่อยๆก่อนที่จะได้จังหวะแล้วโดดลงอืม...ลมแรงใช้ได้แต่มันยังไม่มากพอทำให้ฉันหรือพวกทาคุจังปลิวได้หรอกแล้วฉันกับอัตสึชิคุงก็เข้ามาข้างในได้สำเร็จ
"คุณดาไซเข้ามาได้แล้วครับ"
ตื๊อ!
[สภาพข้างในเป็นไงบ้าง?]
"ไม่มีคนเลยครับชักแปลกๆแล้วสิ"
"แต่พี่ว่าอพยพไปหมดแล้วล่ะไม่มีมนุษย์คนไหนยอมเอาชีวิตมาทิ้งหรอก"
ฉันพูดขึ้นหลังจากที่อัตสึชิคุงคุยกับดาไซด้วยอินเตอร์คอมอีกเดี๋ยวก็ได้เจอกับลุงคนนั้นแล้วล่ะนะนั่นไงล่ะประตู
แอ็ด~!
"คนส่วนใหญ่อพยพออกไปหมดแล้วรู้มั้ยว่าทำไม?เจ้าหนูเพราะมันกำลังจะจบแล้วไงล่ะศึกครั้งนี้น่ะ"
ฉันมองสำรวจห้องอย่างสนใจปล่อยให้ทั้งสองคุยกันไปยังไงฉันก็แค่มาดูการทำงานของอัตสึชิคุงแล้วก็รักษาเท่านั้น
ครืนๆ! ครืนๆ!
ฉันล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่สั่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมแล้วกดรับโดยที่เดินห่างออกมาเพื่อไม่ให้เสียมารยาทมากไปก่อนจะรอให้ปลายสายพูด
"..."
[ใจร้ายจังนะไม่คิดจะพูดทักทายกันเลยเหรอ?]
"ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญฉันจะวางแล้วนะ"
พูดไปแบบนั้นแต่นิ้วมือนี้เตรียมกดวางสายตั้งนานและเอาแต่เล่นอยู่ได้รีบๆบอกมาสักทีเถอะว่าโทรหาทำไมน่ะ!?
[ก็ได้ๆยอมแพ้แล้วธุระที่ฉันจะบอกก็คือพวกสภาเวทย์มนต์ร่วมมือกับ7โกส(อ่านว่า เซเว่น-โกส นะคะ)เพื่อที่จะกำจัดเธอแล้วนะคาเรย์]
"คิดเอาไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้สักวันน่ะแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้นะเนี่ย"
[ไม่ตลกนะคาเรย์ตอนนี้พวก7โกสไปหาเธอที่มิติเซอร์เวแล้วนะ!]
'อะไรกัน!?จะมาที่นี้เหรอ!?เร็วไปแล้วพวกนี้ตั้งใจมาเปิดโปงเจ้านะคาเรย์!แบบนี้ต้องรีบจัดการแล้วนะ!'
จิฮิโระบอกอย่างตกใจเพียงแต่ฉันยังคงนิ่งก็มันคิดเอาไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้น่ะ รอจนลากจะงอกแล้วล่ะกว่าพวกนั้นจะร่วมมือกันน่ะนี้เป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถตายได้ ไม่ว่ามันจะโหดร้ายแค่ไหนฉันก็ยอมขอแค่ไปจากโลกใบนี้ได้ฉันก็ยอม ไม่อยากอยู่แล้วล่ะนรกแบบนี้น่ะในโลกที่ไม่มีท่านแม่อยู่น่ะสำหรับฉันมันก็แค่นรกเท่านั้น!
'คาเรย์อย่าเอาแต่เงียบสิ!'
"อย่าแตกตื่นนักสิจิฮิโระเธอดูไม่เยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะหรือเพราะได้เจอกับเทพแห่งการทำลายล้างอาราฮาบากิเลยหมดความเยือกเย็นไปจนหมดแล้ว?"
'...'
หลังจากที่ฉันพูดไปทางนั้นก็เงียบคงกำลังสงบใจไม่ก็โมโหฉันอยู่นั่นแหละก่อนที่ฉันจะพูดกับปลายสายว่า
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันขอให้นายปกป้องพวกดาไซไว้เข้าใจนะ?"
[ทรมานกันหรือไง?เธอก็รู้ว่าฉันไม่ช่วยใครนอกจากเธอนะ]
น้ำเสียงเปลี่ยนไปเลยแฮะจากตอนแรกที่ดูขี้เล่นเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งทันทีแต่ใครสนกันล่ะไม่ว่ายังไงความปลอดภัยของพวกดาไซต้องมาก่อนเสมอ!
"มีแค่นายกับพวกทาคุจังแล้วก็พวกยูมิเท่านั้นที่ปกป้องพวกดาไซได้ขอร้องล่ะ ถือซะว่าฟังคำขอของเพื่อนและน้องสาวบุญธรรมคนนี้หน่อยปกป้องพวกเขาทีเถอะ ได้โปรดนะถ้าไม่ใช่พวกนายฉันก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วล่ะ"
[...]
ปลายสายเงียบไปแต่ฉันรู้ว่าเขาต้องคิดถึงคำขอร้องเมื่อกี้แน่แล้วก็เป็นจริงเมื่อได้คำตอบมาว่า
[ก็ได้ฉันจะปกป้องพวกนั้นแต่ไม่รับประกันว่าจะปกป้องไปตลอดหรอกนะคาเรย์]
"แค่นี้ก็ดีมากแล้วล่ะขอบคุณนะ...โอซามุ:)"
ตึกๆๆๆๆ!
หลังจากที่คุยกับโอซามุเสร็จฉันกับอัตสึชิคุงก็วิ่งขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดก่อนจะหยุดวิ่งเพราะเจอกับ...
"แก...เจอตัวสักทีเสือสมิง"
"อาคุตากาวะ!"
แล้วอัตสึชิคุงก็เปลี่ยนแขนกับขาของตัวเองให้กลายเป็นเสือก่อนจะพุ่งเข้าไปหาอาคุตากาวะให้ตายเถอะเด็กพวกนี้มันจะอะไรกันนักกันหนานะไม่ทะเลาะกันสักวันคงอกแตกตายมั้ง
ตึง! ฟิ้ว! ตึง! ครืน!
ฉันมองอัตสึชิคุงที่กระโดดถอยออกมาตั้งหลักด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนที่จะหันไปฟังสิ่งที่อาคุตากาวะบอก
"เล่นกายกรรมเก่งขึ้นนะเสือสมิง"
"มาทำอะไรที่นี้?อาคุตากาวะ"
หือ? อัตสึชิคุงไม่รู้หรือไงนะว่าอาคุตากาวะจะร่วมงานด้วยน่ะทั้งๆที่พวกทาคุจังเปิดกล้องดวงตาให้ดูแล้วแท้ๆสงสัยตอนนั้นเจ้าตัวคงไปเข้าห้องน้ำอยู่มั้งจบคำถามอาคุตากาวะก็แผ่จิตสังหารออกมาก่อนจะตอบว่า
"มาฆ่าแกไงล่ะ"
"น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหน?พวกเราอาจจะไม่มีที่อยู่แล้วก็ได้นะผมล่ะไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ"
"ไม่เห็นจำได้ว่าไปขอให้แกเข้าใจตอนไหน"
ฉันว่าตอนนี้ดาไซคงบ่นถึงการทำงานของอาคุตากาวะแล้วล่ะดูได้จากสีหน้าของอัตสึชิคุงเลยแล้วก็มือที่เอื้อมไปจับอินเตอร์คอมแต่ก่อนที่จะได้ยื่นหรือโยนฉันก็รับมาก่อนแล้วก็บอกกับดาไซว่า
"ดาไซเดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเองยังไงคุณโมริก็บอกแล้วว่าส่งอาคุตากาวะมาร่วมงานน่ะ"
[ไม่ใช่ว่าสองคนนั้นจะไปเกะกะเธอเหรอ?]
"ไม่เกะกะหรอกฉันต้องการลูกมือพอดีเลยล่ะแต่ฉันขอให้นายระวังพวกแฮ็กเกอร์หน่อยก็ดียิ่งโดนเฉพาะหนูน่ะ"
ฉันเน้นคำว่าหนูเป็นพิเศษแน่นอนว่าระดับดาไซแล้วคงเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ
[เข้าใจแล้วฝากด้วยแล้วกันนะ]
"รับทราบ"
ติ๊ด!
พอฉันวางสายก็เงยหน้าขึ้นมามองเห็นเด็กสองคนที่ยืนฟังสิ่งที่ฉันคุยกับดาไซด้วยสายตาบ้องแบ๊ว(?)มันทำให้ฉันยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะตบมือแล้วบอกว่า
แปะ! แปะ!
"อย่างที่ฉันได้บอกไปพวกนายทั้งสองคนต้องร่วมงานกันเพื่อหยุดวาฬเผือกนี้ไม่ให้ถล่มเมืองโยโกฮาม่าและถ้ายังทะเลาะกันอยู่ล่ะก็..."
ฉันหยุดพูดไปก่อนจะปล่อยจิตสังหารออกมายี่สิบเปอร์เซ็นใส่ทั้งสองคนทำให้ทั้งคู่ถึงกับเข่าทรุดลงไปกับพื้นทันทีพรอมกับที่เหงื่อเต็มใบหน้าแล้วฉันก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"ฉันจะฆ่าพวกนายทิ้งซะสาเหตุเพราะไม่ร่วมมือกันและในแผนของดาไซต้องไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งนั้นเข้าใจกันนะ?"
"คะ..ครับ/...อ่า..."
พอได้คำตอบที่ต้องการก็เก็บจิตสังหารไปแล้วกลับมายิ้มให้ตามเดิมแน่นอนว่าก็เป็นหน้ากากอยู่ดี มันคงไม่มีวันที่ฉันจะกลับมาใช้ความรู้สึกจริงๆได้หรอก แล้วพวกเราทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนทันที
แอ็ด~!
"โทษทีเหมือนจะมีแขกมาหาน่ะไว้จะโทรหาใหม่รักนะเซลด้า"
ติ๊ด!
เห็นชัดเลยแฮะะสิ่งที่อยู่ข้างๆฟรานซิสน่ะเป็นวิณญาณผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีทองตัดสั้นระต้นคอ ดวงตากลมโตสีฟ้าซีด จมูกเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ปากบางกระจิบ โครงหน้าเรียวได้รูป ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยล่ะ(ไรท์มโนเอานะคะว่าลูกสาวของฟรานซิสเป็นแบบนี้//ไรท์)
'หยุดคุณพ่อทีค่ะ...ฮึก!...ได้โปรดฉันไม่ต้องการให้ท่านเจ็บตัว...ฮึก!...ได้โปรดเถอะค่ะ...ฮึก!...ช่วยหยุดคุณพ่อทีค่ะ'
วิณญาณสาวร้องไห้พร้อมกับขอร้องเมื่อเห็นว่าฉันมองเห็นเธอช่วยไม่ได้แฮะคงต้องช่วยวิณญาณสาวน้อยผู้แสนน่ารักหน่อยแล้ว
"อัตสึชิคุงอาคุตากาวะพวกนายสองคนต้องร่วมมือกันเพื่อเอาเทอร์มินอลควบคุมมา ส่วนฉันจะเป็นผู้ชมที่ดูหนังสดนี่เป็นภารกิจของพวกนายสองคนจงช่วยเมืองนี้ซะ ถ้าทำแบบนั้นพวกนายจะได้สิ่งที่มีค่าตอบแทนล่ะ"
"สิ่งที่มีค่าตอบแทนเหรอครับ?/สิ่งที่มีค่าตอบแทน?"
สองหนุ่มพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายซึ่งฉันก็หันไปยกยิ้มให้ก่อนจะเบี่ยงตัวออกมา แล้วก็ดีดนิ้วเบาๆไม่ให้คนอื่นเห็นจากนั้นวิณญาณสาวที่อยู่ข้างๆฟรานซิสก็ลอยตามฉันออกมา ปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้ชายไปส่วนผู้หญิงมาคุยกันดีกว่า
"ไม่ต้องกังวลหรอกคุณพ่อของเธอน่ะพอโดนจัดการก็จะกลับตัวกลับใจเองนั่นแหละถึงจะเจ็บตัวแต่มันก็เป็นวิธีที่ได้ผลนะ:)"
ฉันยกยิ้มให้กับเธอทำให้วิณญาณสาวแสนน่ารักพยักหน้าตอบรับก่อนที่เธอจะแนะนำตัวเอง
'ฉันชื่อเอริก้าค่ะขอบคุณมากจริงๆค่ะที่พวกคุณจะช่วยหยุดคุณพ่อไว้ฉันต้องขอโทษแทนเขาจริงๆค่ะ'
"อ๊ะๆๆ หยุดเลยไม่ต้องก้มหัวให้ฉันฉันไม่ได้ทำอะไรมากขนาดนั้นถ้าจะขอบคุณไปขอบคุณสองคนนั้นนะแล้วก็ฉันชื่อ คาเรียน่า วิเวียร์ธาร์น ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ:)"
ฉันพูดห้ามเอริก้าในขณะที่หล่อนจะก้มหัวให้เอาตามจริงฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยนะเอาแต่สั่งอย่างเดียวเลยแต่เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะตอนนี้ขอรู้จักวิณญาณตรงหน้าก่อนก็แล้วกัน
"เอาเป็นว่าระหว่างรอพวกเขาก็มาคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันดีกว่านะ^_^"
'ค่ะ'
TBC.
___________________
นางเอกชิลดีแท้ปล่อยให้เด็กไปสู้ส่วนตัวเองก็มาคุยกับวิณญาณอย่างสบายใจเฉิบแบบนี้ก็ได้เรอะ!?
ช่วงนี้ไรท์ก็ปิดเทอมแล้วนะคะแต่มันก็เหมือนไม่ได้หยุดค่ะไหนจะฝึกงานอีก1เดือนด้วยไรท์คงจะมาแต่งได้น้อยลงนะคะขอให้รีดทุกท่านเข้าใจกันด้วยนะคะอยู่ปวช.2จะปวช.3งานมันเยอะมากอย่างกับภูเขามาอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ
แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ 1 เม้น = 100 กำลังใจค่ะ
เจอกันตอนหน้านะคะ^_^
ความคิดเห็น