ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิค[Bungou Stray Dogs]ความรักที่ไม่สมหวัง(ดาไซxOc)

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่10 ศึกของ3องค์กรใหญ่และความลับที่แตก(3)(100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 330
      24
      17 ต.ค. 64

    ไรท์ บรรยาย



    ตึก! ตึก! ตึก!



    เสียงจังหวะการเดินคงที่ดังขึ้นเป็นระยะไม่รีบเกินไปไม่ช้าเกินไปบ่งบอกถึงความใจเย็นของคนเดินได้เป็นอย่างดี



    'เธอน่าจะเปลี่ยนชุดก่อนที่จะกลับมานะจิฮิโระ'



    'ก็มันชินนิเลยเดินกลับมาทั้งๆแบบนี้เอาเป็นว่าครั้งหน้าจะไม่ลืมก็แล้วกันนะ'



    สองสาวพูดคุยผ่านโทรจิตขณะเดินขึ้นบันไดถ้าถามว่าทำไมไม่ขึ้นลิฟก็ขอตอบได้ว่าอยากเดินขึ้นบันไดมากกว่าเป็นการออกกำลังกายไง



    'คาเรย์ข้ามีลางสังหรณ์แปลกๆว่าความลับของพวกเราจะแตกหรือพวกทาสุคุไปทำอะไรให้พวกนั้นจับพิรุทได้กัน?'



    '...ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะแต่ว่า...ระหว่างที่ฉันอยู่ในนี้ฉันรู้สึกได้ว่าพวกทาคุจังกำลังมองพวกเราอยู่เลย'



    กึก!



    จิฮิโระหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนที่จะรีบประมวลข้อมูลที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วพอประมวลเสร็จก็บอกกับคาเรียน่าอย่างตกใจว่า



    "พวกนั้นใช้กล้องดวงตาตามดูพวกเรา!"



    "กล้องดวงตาอะไรเหรอ?คาเรย์"



    เฮือก!



    หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่แสนคุ้นเคยก่อนจะค่อยๆหันไปมองด้านหลังก็เจอกับชายหนุ่มผมน้ำตาลเข้มที่ตามตัวเต็มไปด้วยผ้าพันแผลทำให้จิฮิโระกับคาเรียน่ากรีดร้องในใจพร้อมกันว่า



    'วันนี้วันซวยอะไรของข้า/ฉันเนี่ย!?'



    "ตอบมาสิคาเรย์ว่ากล้องดวงตาที่เธอพูดถึงเมื่อกี้นี้ใช้ไอ้นี้หรือเปล่า?"



    ดาไซถามพร้อมกับเอาสิ่งหนึ่งออกมาซึ่งสิ่งนั้นก็คือกล้องดวงตาที่จิฮิโระพูดไปเมื่อกี้! ลักษณะคือคล้ายกล้องธรรมดาทั่วๆไปแต่ตรงข้างหน้ากล้องมีดวงตาโผล่ออกมา! และข้างๆยังมีปีกค้างคาวเล็กๆติดอยู่ด้วย!(ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงกล้องที่อยู่ในเกมไอเดนนะคะ//ไรท์)



    "ไปเอามาจากไหน?"



    "จากไหนได้ล่ะก็ต้องเพื่อนรักของเธอทั้งสามคนสิ^_^"



    รอยยิ้มของชายหนุ่มในตอนนี้ไม่ดูดีเลยสักนิด!กลับกันมันดูน่ากลัวมากกว่า!จิฮิโระที่ได้ฟังก็เงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วก็ยกยิ้มขึ้นพลางพูดชมร่างสูงตรงหน้าไปว่า



    "ฉลาดกว่าที่ข้าคิดเอาไว้นะเนี่ยมิน่าล่ะคาเรย์ถึงได้ชมเจ้าอยู่บ่อยๆ:)"



    "กะเอาไว้แล้วล่ะว่าเธอต้องไม่ใช่คาเรย์แน่ๆ"



    "มันก็ไม่เชิงหรอกนะ"



    หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มทำให้ดาไซเผยสีหน้าสงสัยออกมาร่างบางจึงบอกไปว่า



    "ไปคุยกันในห้องประชุมเลยเถอะจะได้บอกทีเดียวงั้นร่างของคาเรย์ข้ายึดไว้วันหนึ่งก็แล้วกัน"



    บอกจบก็หันหลังเดินตรงไปยังห้องประชุมปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเดินไปเรียกพวกอัตสึชิให้มาที่ห้องประชุมแน่นอนว่าพอเปิดประตูเข้าไป ก็เจอกับประธานและจิฮิโระกำลังนั่งดื่มชากันอยู่



    "เป็นชาที่ดีข้าขอซื้อต่อเลยได้มั้ย?"



    "ผมยกให้ท่านเลยก็ได้ครับ"



    "จะดีเหรอ?ไม่สิๆข้าขอซื้อต่อเถอะไม่งั้นมันทำให้ข้ารู้สึกอึดอัดน่ะ"



    "งั้นเอาตามที่ท่านสบายใจเลยครับ"



    พวกดาไซรู้สึกแปลกใจที่เห็นประธานพูดสุภาพกับคาเรียน่าแต่ที่จริงคือไม่ใช่ฟุคุซาวะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คาเรียน่าเลยให้เกียร์ติกับผู้หญิงที่ใช้ร่างเท่านั้นเพราะคนที่ใช้ร่างของคาเรียน่านั้นเป็นตัวตนที่สูงส่ง



    "ประธานครับพวกเรามากันครบแล้ว"



    "ดีงั้นก็ขอให้ท่านแนะนำตัวกับพวกเขาหน่อยนะครับ"



    "ไม่มีปัญหาเพราะข้าต้องทำแบบนั้นอยู่แล้วงั้นขอแนะนำตัวกันหน่อยนะพวกเด็กน้อยทั้งหลาย:)"



    พูดพร้อมกับยกยิ้มขึ้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วก็แนะนำตัวเองกับพวกดาไซใหม่



    "ข้ามีนามว่า จิฮิโระ โนะ มาเอะ เป็นราชินีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของเหล่าจิ้งจอกทั้งมวลและยังเป็นตัวตนของคาเรย์ด้วย:)"



    "!?"x(พวกคุนิคิดะ)



    พวกคุนิคิดะพากันตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกันแต่ออกจะไปทางตกใจปนไม่เชื่อมากกว่าซึ่งจิฮิโระก็พอเดาปฏิกิริยาแบบนี้ได้อยู่แล้วยกเว้นพวกทาสุคุเพราะรู้อยู่แล้ว



    "ตัวตนของพี่คาเรย์?หมายความว่ายังไงกันครับ?"



    อัตสึชิถามขึ้นมาเมื่อตั้งสติได้จิฮิโระจึงตอบคำถามไปพร้อมกับเล่นผมไปด้วย



    "ก็อย่างที่ได้ยินไปข้าเป็นตัวตนของคาเรย์ในร่างปีศาจส่วนคาเรย์ก็เป็นตัวตนของข้าในร่างมนุษย์ อ้อ แล้วก็ยังมีอีกสองคนที่เป็นตัวตนของคาเรย์เหมือนกัน แต่ข้าไม่แนะนำให้สองคนนั้นออกมาหรอกนะไม่งั้นตึกนี้ไม่สิไม่งั้นประเทศนี้ได้หายไปจากโลกนี้แน่ๆ"



    "..."x(ทุกคน)



    เกิดความเงียบขึ้นหลังจากฟังที่เธอตอบซึ่งแน่นอนว่านี้ก็เป็นสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้แล้วเหมือนกันดังนั้นเธอจึงไม่รีบจิบชาไปพลางๆทำให้ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย



    "ถ้าอย่างงั้นตอนนี้คาเรย์ก็อยู่ในร่างนี้สินะ?"



    "ใช่คาเรย์อยู่ในนี้แล้วก็ได้ยินสิ่งที่พวกเราพูดคุยกันด้วยอยากเจอเหรอ?ข้าทำให้นางออกมาได้นะแต่อยู่ในสภาพที่คล้ายวิณญาณคือตัวจะโปร่งแสงจางๆ"



    ดาไซครุ่นคิดอยู่แปปหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลงเขาต้องการถามอะไรบางอย่างจากคาเรียน่า ถ้าเธอเป็นคนประเภทเดียวกับเขาจริงเธอจะต้องปราถนาสิ่งนั้นแน่ๆจิฮิโระที่เห็นดาไซพยักหน้า ก็ทำการดีดนิ้วเพื่อให้คาเรียน่าออกมาจากร่างในสภาพวิณญาณทันที



    เปาะ! วิ้ง~!



    มีแสงสว่างปรากฏออกมาข้างๆจิฮิโระทำให้พวกดาไซเอาแขนขึ้นมาบังไว้พอแสงค่อยๆจางลง พวกเขาก็เอาแขนลงทำให้เห็นคาเรียน่าในสภาพวิณญาณที่อยู่ข้างๆจิฮิโระ คือโปร่งแสงจางๆและร่างบางก็ยังใส่ชุดกิโมโนสีแดงลายดอกซากุระเหมือนเดิม



    "เรียกออกมาในสภาพนี้ก็ไม่เลวนะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้ตายไปแล้วเลยน่ะ"



    หญิงสาวบอกอย่างสบายๆขณะเอามือแตะโต๊ะแต่มันก็ทะลุผ่านไปทำให้คาเรียน่ามองด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกทันที



    "คาเรย์ฉันขอถามอะไรหน่อย"



    "อะไรล่ะ?"



    "ความปราถนาของเธอคืออะไร?"



    หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจก่อนจะหันไปมองทาสุคุที่ยืนกอดอกอยู่ใกล้ๆเธอพลางคิดในใจว่า



    'ถามเหมือนกันซะด้วยแต่ก็เอาเถอะเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วบอกไปเลยก็แล้วกัน'



    "ความปราถนาของฉันคือความตายเหมือนนายนั่นแหละดาไซ"



    "!!!"x(พวกอัตสึชิยกเว้นดาไซกับพวกทาสุคุ)



    พวกอัตสึชิตกใจกับคำตอบนั้นแต่สำหรับดาไซก็พอจะเดาได้อยู่แล้วก็เป็นคนประเภทเดียวกันนิเนอะ?



    "แต่พวกฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอกคาเรย์:)"



    "ใช่ๆถ้าพวกฉันยังอยู่ก็อย่าหวังเลยว่าเธอจะตายได้น่ะ:)"



    "พวกเราสาบานกันไว้แล้วนิคาเรย์ว่า จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน จะสุขก็สุขด้วยกัน จะทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน จะตายก็ต้องตายด้วยกัน น่ะ:)"



    "เกลียดรอยยิ้มแบบนั้นของพวกนายจริงๆสมแล้วล่ะที่ฉันตั้งฉายาให้ว่าตัวขัดขวางการฆ่าตัวตายหมายเลข 1 2 3 4น่ะ"



    ร่างบางบอกอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะนึกได้ว่าเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว!



    "สี่?แสดงว่าในกลุ่มพวกเธอมีกันห้าคนสินะแล้วอีกคนล่ะ?"



    คุนิคิดะถามทำให้พวกคาเรียน่ามองมาที่ดาไซอย่างพร้อมเพียงจนชายหนุ่มสงสัยรวมถึงพวกคุนิคิดะเองด้วย



    "อย่าพูดถึงหมอนั่นเลยพอพูดถึงทีไรอารมณ์ฉันจะปรี๊ดทันทีฉลาดสะเปล่าแต่ทำตัวเรื่อยเปื่อยไปทั่ว ชิ! พูดถึงแล้วก็อยากระบายเลย"



    "หยุดที่นี้ไม่ใช่ที่ระบายเพราะฉะนั้นสงบอารมณ์ลงซะคาเรย์"



    ทาสุคุห้ามเมื่อเห็นเพื่อนสาวกำลังจะระบายคาเรียน่าจึงต้องหลับตาข่มอารมณ์ของตัวเองลงถ้าเมื่อกี้ทาสุคุไม่ห้ามเธอคงหลุดปากออกไปแล้ว



    "ชื่อของเขาล่ะ?"



    ปึด!



    นั่นไงล่ะพอถามถึงชื่ออารมณ์ก็กลับมาอีกถึงจะทำไปเพื่อโกหกก็เถอะแต่จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าอีกคนคือใคร



    "เป็นชื่อต้องห้ามที่ห้ามพูดเมื่อมีคาเรย์อยู่ไม่งั้นก็จะเป็นแบบนี้"



    ริวบอกพร้อมกับเข้าไปใกล้คาเรียน่าแล้วกระซิบบอกชื่อของบุคคลที่ห้าในกลุ่มทำให้หญิงสาวชกหมัดมาที่ชายหนุ่มรัวๆทันทีแต่มันก็ทะลุผ่านไป



    "ริว!นายกล้ามากที่พูดชื่อนั้นให้ฉันฟัง! นี่แหน่ะๆๆๆ!"



    ทุกคนมองการกระทำของร่างบางเหมือนเด็กน้อยไปทันทีแล้วก็ตระหนักได้ว่าอย่าถามถึงคนที่ห้าในกลุ่มของเธอจะดีกว่า



    "เอ้าๆ แยกๆ มาเข้าเรื่องกันต่อก็อย่างที่พวกนายรู้คาเรย์ต้องการความตายแต่พวกฉันไม่ยอมให้เธอตายส่วนเรื่องตัวตนก็ให้คุณจิฮิโระพูดต่อเถอะ"



    "ฟี้~ฟี้~ฟี้~"



    เสียงหลับดังขึ้นบ่งบอกว่าตอนที่พวกทาสุคุคุยกันอยู่จิฮิโระก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนจะหลับไปคาเรียน่าจึงต้องปลุกจิ้งจอกสาวให้ตื่น



    "จิฮิโระตื่น"



    "ฟี้~ฟี้~"



    "จิฮิโระตื่นได้แล้ว~"(เขย่าตัวเบาๆ)



    "งืมๆ...ท่านอาราฮาบากิ...ข้า...ขอโทษ..."



    "..."x(พวกคาเรียน่า)



    'จิฮิโระ!/คุณจิฮิโระ!/ยัยทวดจิ้งจอก!ละเมออะไรออกมารู้ตัวมั้ย!?'x4



    ทั้งสี่คนคิดในใจพร้อมกันอย่างกังวลโดยเฉพาะคาเรียน่าที่ตอนนี้เหงื่อไหลลงมาเม็ดโตเลยก่อนจะตะโกนออกมาว่า



    "ถ้าเธอไม่ตื่น!ดาไซจะต่อยชูยะแล้วนะ!"



    ฟุบ!



    ได้ผลจิ้งจอกสาวเด้งตัวขึ้นมามองมาทางดาไซทันทีด้วยสายตาน่ากลัวจนดาไซยังอดเหงื่อตกไม่ได้แหงล่ะนั่นปีศาจนะแต่นี้แค่มนุษย์ที่มีพลังพิเศษเท่านั้นถ้าสู้กันก็รู้ผลอยู่เห็นๆ



    "ไหนล่ะชูยะคุง?"



    "ไม่มีหรอกแค่โกหกให้เธอตื่นเฉยๆ"



    จิฮิโระขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนจะนั่งตัวตรงเหมือนเดิมพร้อมกับยกชาขึ้นจิบแล้วก็วางลงก่อนจะไอแก้เขินที่เมื่อกี้เผลอหลับไปทำไงได้ล่ะอุณหภูมิมันเหมาะกับการนอนของจิ้งจอกนิ



    "อะแฮ่ม! เอาเป็นว่าเรื่องตัวตนข้าก็บอกไปแล้วขอให้พวกเจ้าเอาไปคิดต่อเองก็แล้วกันแต่ข้าขอเตือนว่าถ้าข้าออกจากร่างของคาเรย์จะทำให้คาเรย์นั้นกลับไปเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิม"



    "หมายความว่าไง?"



    "เห้อ~ เจ้าคิดว่าคนที่เสียความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วจะยังยิ้มได้อยู่อีกเหรอ?คำตอบคือไม่มีทาง ที่คาเรย์ยังยิ้มยังแสดงความรู้สึกได้อยู่เพราะมีข้าที่คอยเป็นคนควบคุมความรู้สึกของคาเรย์ไว้ ถ้าข้าออกจากร่างหรือตายไปคาเรย์จะกลายเป็นตุ๊กตาทันที ไม่ยิ้มไม่แสดงสีหน้ามีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้เห็น"



    อัตสึชิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของจิฮิโระนั้นจริงจังมาก แสดงว่าที่ผ่านมาพี่สาวของเขาใส่หน้ากากมาโดยตลอดสินะ? แบบนี้มันทรมานมากกว่าเขาอีกไม่ใช่เหรอ?ไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรได้แบบนี้มัน โหดร้ายเกินไปแล้วมันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างที่ทำให้คาเรียน่าเป็นแบบนี้สิ



    "เอาเป็นว่าเรื่องของฉันพักไว้ก่อนเถอะเพราะยังไงตอนนี้จิฮิโระก็ยังอยู่ตอนนี้มาคุยเรื่องจัดการกิลด์กันก่อนเถอะ"



    "อย่างที่คาเรย์บอกตอนนี้พวกเราต้องจัดการกิลด์ให้ได้ไม่อย่างงั้นเมืองโยโกฮาม่าได้พังพินาศแน่"



    "ครับ!/ค่ะ!"



    ทุกคน(ยกเว้นพวกทาสุคุ)ขานรับคำพูดของฟุคุซาวะก่อนจะนั่งที่เพื่อเริ่มพูดคุยแผนการส่วนคาเรียน่าก็คุยกับจิฮิโระว่าให้เปลี่ยนตัวกัน



    "แต่ข้าบอกไปแล้วนะว่าข้าจะขอร่างเจ้าหนึ่งวันน่ะ"



    "เอาไว้ตอนทำงานตอนนี้ฉันขอก่อนอยากเปลี่ยนชุด"



    "ชุดนี้ฉันว่าสวยดีนะใส่ให้นานหน่อยสิ"



    ทาสุคุบอกพร้อมกับลูบหัวจิฮิโระที่ใช้ร่างคาเรียน่าอย่างมั่นไส้จนจิ้งจอกสาวกางเล็บที่ยาวขึ้นมาขู่ให้ชายหนุ่มหยุดซะ



    "ถ้ายังไม่หยุดยีหัวข้าจะข่วนเจ้าให้เป็นแผลเป็นเลยคอยดูสิ"



    "ฮะๆ กลัวแล้วครับกลัวแล้ว:)"



    ปากบอกว่ากลัวแต่รอยยิ้มและแววตาไม่มีความกลัวเลยสักนิดก่อนจะเอามือออกแล้วจิฮิโระก็เปลี่ยนตัวกับคาเรียน่าทำให้สีตาที่เป็นสีฟ้าใสกลายเป็นสีดำสนิทบ่งบอกว่าคาเรียน่าเข้าร่างแล้ว

    ______________________

    เดี๋ยวมาต่อให้นะคะ

    ______________________

    ต่อค่ะ

    ______________________

    "เอาล่ะมาเริ่มประชุม--"



    ตึกตัก!



    "อึก! แค่กๆๆ!"



    "คาเรย์!/พี่คาเรย์!/คาเรย์จัง!/คุณคาเรย์!"x(ทุกคน)



    ทุกคนพากันเรียกนักฆ่าสาวอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเธอก็หยุดพูดไปกระทันหันพร้อมกับที่ไอออกมาเป็นเลือดสีดำ!พวกทาสุคุกับดาไซรู้ได้ทันทีว่านี้คืออาการกำเริบของโรคประจำตัวคาเรียน่า



    "แค่กๆ!...อย่าทำหน้า...แบบนั้นสิ...ฉันยังไม่ตาย...สัก...หน่อย...อึก!...แค่กๆ!"



    "พอ!เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!ริวยาอยู่ในเสื้อคลุมฉันตรงโซฟาไปเอามาให้ที"



    "รับทราบ"



    ตอบรับจบก็รีบวิ่งออกจากห้องตรงไปยังห้องทำงานเพื่อเอายาในเสื้อคลุมของทาสุคุมาให้เพื่อนสาวทานอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าเหมือนเดินออกจากห้องแล้วกลับเข้ามาเท่านั้น



    "อ่ะนี่"



    ชายหนุ่มยื่นขวดยาให้กับเพื่อนผมฟ้าซึ่งพอเจ้าตัวได้ก็ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เปิดฝาขวดออกพร้อมกับนำปากขวดไปใกล้กับริมฝีปากของร่างบางที่จ้องขวดยาด้วยสายตาไม่สบอารมณ์สุดๆจนทาสุคุต้องสั่งเสียงแข็งว่า



    "ดื่มยาซะคาเรย์"



    "ไม่...เอา..."



    "จะดื่มดีๆหรือให้ฉันหยิบมีดมาแทงตัวเอง?"



    หมับ!



    "อึก! อึก! อึก! อึก!"



    เพียงเท่านั้นคาเรียน่าก็รีบคว้าเอาขวดยามาดื่มทันทีแถมดื่มหมดขวดเลยด้วยทำให้พวกทาสุคุยิ้มออกมาอย่างโล่งใจถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องขู่แบบนั้นก็เถอะแต่เขาทำจริงนะไม่ได้แค่ขู่เฉยๆเรื่องนั้นหญิงสาวก็รู้ดี



    "ไม่คุยด้วยหนึ่งวัน"



    "ยอมก็ได้ถ้ามันทำให้เธอยอมกินยาน่ะ:)"



    ทาสุคุบอกด้วยรอยยิ้มถึงในใจจะแอบเศร้าที่จะไม่ได้คุยกับเพื่อนสาวไปหนึ่งวันน่ะแค่ไม่ได้คุยด้วยกันสิบนาทีก็ยังเหงาเลย



    "ให้ตายเถอะนิสัยไม่ชอบทานยานี้ได้มาจากท่านคาริสซ่าด้วยสินะ?"



    "เอ็ะ? ท่านแม่ไม่ชอบทานยาเหรอคะ?"



    ฟุคุซาวะพยักหน้าเป็นการตอบพร้อมกับแปลกใจในเวลาเดียวกันว่าทำไมถึงถามแบบนั้นทั้งๆที่ตัวเองน่าจะรู้ดีที่สุดน่ะและแน่นอนว่าคาเรียน่ารู้ถึงความสงสัยนั้นจึงบอกไปว่า



    "พอดีท่านแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านน่ะค่ะส่วนมากท่านจะออกเดินทางไปรอบโลกนานๆทีถึงจะกลับค่ะ"



    ประธานของสำนักงานนักสืบพยักหน้ารับก่อนที่จะเริ่มประชุมกันต่อโดยให้โยซาโนะเป็นคนพาคาเรียน่าไปที่ห้องพยาบาลเพื่อพักผ่อนแต่เจ้าตัวกับดื้อดึงที่จะอยู่ด้วยจนทาสุต้องสั่งเด็ดขาดว่า



    "ถ้าไม่พักฉันจะหายไปจากเธออีกสามปีไม่สิหายสาปสูญไปเลยน่าจะดีกว่านะ"



    "..."



    "ถ้าไม่อยากให้ฉันหายไปก็ไปพักผ่อนดีๆนะเด็กดี^_^"



    พูดไม่พอยังลูบหัวอีกทำให้คาเรียน่าคิ้วกระตุกยิกๆก่อนจะกัดมือของชายหนุ่มอย่างแรงด้วยความน้อยใจและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน



    งับ!



    "อืม...เจ็บแฮะ"



    'นั่นคือสีหน้าของคนเจ็บเหรอ!?'x(พวกสำนักงานนักสืบ)



    ที่ทุกคนคิดแบบนั้นเป็นเพราะสีหน้าของทาสุคุยังยิ้มได้อยู่แถมยังใช้มืออีกข้างลูบหัวหญิงสาวต่อด้วย!



    "พอๆคาเรย์เดี๋ยวก็ติดเชื้อโรคหรอกอย่าไปกัดสิ่งสกปรกสิ"



    ริวบอกพร้อมกับเข้ามาช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวทำให้คาเรียน่าเลิกกัดมือไปโดยปริยายแล้วพูดกับทาสุคุว่า



    "เกิดก่อนฉันแค่สามวันอย่ามาทำตัวเป็นพี่ชายนะ"



    "อะไรกันๆทั้งๆที่เมื่อก่อนยังเรียกฉันว่าพี่ทาสุคุอยู่เลยแท้ๆทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ยอมเรียกกันนะ?:)"



    "ไม่คุยกับทาคุจังแล้ว!ริวพาฉันไปพักเถอะ"



    "รับทราบครับเจ้าหญิงน้อย:)"



    พูดจบก็เดินออกจากห้องประชุมไปเหลือไว้แค่พวกดาไซกับพวกทาสุคุเท่านั้น



    "โจเซฟนายมีอะไรพอที่จะเก็บเลือดคาเรย์มั้ย?"



    "มี"



    ตอบจบก็หยิบหลอดทดลองออกมาจากเสื้อคลุมที่ตนส่วมอยู่มอบให้กับเพื่อนผมฟ้าของตนเขารู้ว่าทาสุคุจะทำอะไรเลยให้ความร่วมมืออย่างดี



    "ทำไมต้องเก็บเลือดของคุณคาเรย์หรอเครับ?"



    "ปกติตอนโรคหัวใจของคาเรย์กำเริบไม่เคยไอออกมาเป็นเลือดสีดำน่ะสิแสดงว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่ด้วยสามปียัยนี้ต้องทดลองยาพิษต่างๆกับตัวเองแน่ๆฉันก็เลยจะเก็บเลือดไปตรวจสอบดูน่ะว่ามียาพิษอะไรบ้างน่ะ"



    ทาสุคุตอบคำถามของเคนจิไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ตึงเครียดก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งเมื่อนึกถึงช่วงที่ตัวเองไม่ได้อยู่กับร่างบางถึงสามปี



    'ช่วงสามปีที่ฉันไม่อยู่คาเรียน่าต้องเอายาพิษมาทดลองกับตัวเองเพื่ออยากตายแน่ๆจนทำให้เลือดเป็นสีแบบนั้นแต่ถ้าบาดเจ็บหรือโดนโจมตีเลือดก็ยังเป็นสีปกตินิทำไมกันนะ?คงต้องไปง้างปากถามแล้วล่ะ'



    พอคิดจบก็เป็นเวลาเดียวกับที่ริวเปิดประตูเข้ามาพอดีเลยทำให้ทาสุคุคิดอะไรบางอย่างออกจึงลุกขึ้นถามเพื่อนผมขาวว่า



    "ริวช่วงสามปีที่ฉันไม่อยู่คาเรย์ได้ทำอะไรกับร่างกายตัวเองหรือเปล่า?"



    กึก!



    ริวถึงกับชะงักให้กับคำถามของชายหนุ่มผมฟ้าทำให้คนอื่นๆในห้องประชุมหันมามองเขาทันทีทำให้ชายหนุ่มต้องพยายามไม่ให้ความประหม่าออกมาแล้วบอกว่า



    "ไม่รู้สิช่วงนั้นฉันกับโจเซฟก็ยุ่งอยู่กับภารกิจด้วยมีเวลาไปหาคาเรย์น้อยมาก"



    "...เหรอ?...เข้าใจแล้วล่ะถ้านายไม่บอกก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปถามกับคาเรย์เองก็ได้เพราะไม่ว่าฉันจะสั่งอะไรคาเรย์ก็ทำตามเสมอนิ:)"



    รอยยิ้มของทาสุคุมันดูกดดันแปลกๆแถมยังสายตานั่นอีกถึงจะยิ้มแต่ดวงตากลับว่างเปล่าจนน่ากลัวทำให้ริวเหงื่อตกเล็กน้อย



    "แต่ว่าพักเรื่องคาเรย์ไว้ก่อนแล้วกันมาประชุมกันเถอะนะ^_^"



    บรรยากาศกดดันเมื่อกี้สลายหายไปทันทีเมื่อหนุ่มผมฟ้าเลิกปล่อยความกดดันทำให้ทุกคนหายใจได้สะดวกขึ้นยกเว้นดาไซที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่แต่ก็เก็บเอาไว้แล้วเริ่มประชุมกัน






    คาเรียน่า บรรยาย



    งายยยกลับมาพบกับคาเรียน่าคนเดิมเพิ่มเติมคืออยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วจ้า หลังจากที่ได้นอนพักไปก็อาการดีขึ้นแล้วล่ะถึงตอนแรกพวกทาคุจังจะไม่ยอมให้มาก็เถอะ แต่พอฉันใช้ท่าไม้ตายใส่ก็ยอมกันหมดแล้วหุหุหุ



    ติ๊ดๆ!



    [กำลังจะเข้าสู่การมองเห็นของวาฬเผือกแล้วครับ]



    "รับทราบ"



    ทานิซากิคุงตอบรับพร้อมกับหันมาถามอัตสึชิคุงว่าพร้อมรึยังซึ่งแน่นอนว่าน้องเสือก็พร้อมแล้วล่ะ เจ้าตัวเลยใช้พลังพิเศษของตัวเองอำพรางทั้งเฮลิคอปเตอร์ทันที แล้วอัตสึชิคุงก็ออกจากเฮลิคอปเตอร์ลงไปไต่บันไดซึ่งฉันเองก็อยู่ข้างบนอีกทีรอจังหวะแล้วก็กระโดดเท่านั้น



    "วาฬเผือกจะปิดเซ็นเซอร์ตรวจจับน่านฟ้าตอนรับของจากฮ.ขนส่งแค่หนึ่งร้อยสามสิบวินาทีเท่านั้นเราจะพรางตัวแล้วเข้าประชิดในจังหวะนั้น"



    พวกเราสามคนเข้าใกล้วาฬเผือกเรื่อยๆก่อนที่จะได้จังหวะแล้วโดดลงอืม...ลมแรงใช้ได้แต่มันยังไม่มากพอทำให้ฉันหรือพวกทาคุจังปลิวได้หรอกแล้วฉันกับอัตสึชิคุงก็เข้ามาข้างในได้สำเร็จ



    "คุณดาไซเข้ามาได้แล้วครับ"



    ตื๊อ!



    [สภาพข้างในเป็นไงบ้าง?]



    "ไม่มีคนเลยครับชักแปลกๆแล้วสิ"



    "แต่พี่ว่าอพยพไปหมดแล้วล่ะไม่มีมนุษย์คนไหนยอมเอาชีวิตมาทิ้งหรอก"



    ฉันพูดขึ้นหลังจากที่อัตสึชิคุงคุยกับดาไซด้วยอินเตอร์คอมอีกเดี๋ยวก็ได้เจอกับลุงคนนั้นแล้วล่ะนะนั่นไงล่ะประตู



    แอ็ด~!



    "คนส่วนใหญ่อพยพออกไปหมดแล้วรู้มั้ยว่าทำไม?เจ้าหนูเพราะมันกำลังจะจบแล้วไงล่ะศึกครั้งนี้น่ะ"



    ฉันมองสำรวจห้องอย่างสนใจปล่อยให้ทั้งสองคุยกันไปยังไงฉันก็แค่มาดูการทำงานของอัตสึชิคุงแล้วก็รักษาเท่านั้น



    ครืนๆ! ครืนๆ!



    ฉันล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่สั่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมแล้วกดรับโดยที่เดินห่างออกมาเพื่อไม่ให้เสียมารยาทมากไปก่อนจะรอให้ปลายสายพูด



    "..."



    [ใจร้ายจังนะไม่คิดจะพูดทักทายกันเลยเหรอ?]



    "ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญฉันจะวางแล้วนะ"



    พูดไปแบบนั้นแต่นิ้วมือนี้เตรียมกดวางสายตั้งนานและเอาแต่เล่นอยู่ได้รีบๆบอกมาสักทีเถอะว่าโทรหาทำไมน่ะ!?



    [ก็ได้ๆยอมแพ้แล้วธุระที่ฉันจะบอกก็คือพวกสภาเวทย์มนต์ร่วมมือกับ7โกส(อ่านว่า เซเว่น-โกส นะคะ)เพื่อที่จะกำจัดเธอแล้วนะคาเรย์]



    "คิดเอาไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้สักวันน่ะแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้นะเนี่ย"



    [ไม่ตลกนะคาเรย์ตอนนี้พวก7โกสไปหาเธอที่มิติเซอร์เวแล้วนะ!]



    'อะไรกัน!?จะมาที่นี้เหรอ!?เร็วไปแล้วพวกนี้ตั้งใจมาเปิดโปงเจ้านะคาเรย์!แบบนี้ต้องรีบจัดการแล้วนะ!'



    จิฮิโระบอกอย่างตกใจเพียงแต่ฉันยังคงนิ่งก็มันคิดเอาไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้น่ะ รอจนลากจะงอกแล้วล่ะกว่าพวกนั้นจะร่วมมือกันน่ะนี้เป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถตายได้ ไม่ว่ามันจะโหดร้ายแค่ไหนฉันก็ยอมขอแค่ไปจากโลกใบนี้ได้ฉันก็ยอม ไม่อยากอยู่แล้วล่ะนรกแบบนี้น่ะในโลกที่ไม่มีท่านแม่อยู่น่ะสำหรับฉันมันก็แค่นรกเท่านั้น!



    'คาเรย์อย่าเอาแต่เงียบสิ!'



    "อย่าแตกตื่นนักสิจิฮิโระเธอดูไม่เยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะหรือเพราะได้เจอกับเทพแห่งการทำลายล้างอาราฮาบากิเลยหมดความเยือกเย็นไปจนหมดแล้ว?"



    '...'



    หลังจากที่ฉันพูดไปทางนั้นก็เงียบคงกำลังสงบใจไม่ก็โมโหฉันอยู่นั่นแหละก่อนที่ฉันจะพูดกับปลายสายว่า



    "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันขอให้นายปกป้องพวกดาไซไว้เข้าใจนะ?"



    [ทรมานกันหรือไง?เธอก็รู้ว่าฉันไม่ช่วยใครนอกจากเธอนะ]



    น้ำเสียงเปลี่ยนไปเลยแฮะจากตอนแรกที่ดูขี้เล่นเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งทันทีแต่ใครสนกันล่ะไม่ว่ายังไงความปลอดภัยของพวกดาไซต้องมาก่อนเสมอ!



    "มีแค่นายกับพวกทาคุจังแล้วก็พวกยูมิเท่านั้นที่ปกป้องพวกดาไซได้ขอร้องล่ะ ถือซะว่าฟังคำขอของเพื่อนและน้องสาวบุญธรรมคนนี้หน่อยปกป้องพวกเขาทีเถอะ ได้โปรดนะถ้าไม่ใช่พวกนายฉันก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วล่ะ"



    [...]



    ปลายสายเงียบไปแต่ฉันรู้ว่าเขาต้องคิดถึงคำขอร้องเมื่อกี้แน่แล้วก็เป็นจริงเมื่อได้คำตอบมาว่า



    [ก็ได้ฉันจะปกป้องพวกนั้นแต่ไม่รับประกันว่าจะปกป้องไปตลอดหรอกนะคาเรย์]



    "แค่นี้ก็ดีมากแล้วล่ะขอบคุณนะ...โอซามุ:)"






    ตึกๆๆๆๆ!



    หลังจากที่คุยกับโอซามุเสร็จฉันกับอัตสึชิคุงก็วิ่งขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดก่อนจะหยุดวิ่งเพราะเจอกับ...



    "แก...เจอตัวสักทีเสือสมิง"



    "อาคุตากาวะ!"



    แล้วอัตสึชิคุงก็เปลี่ยนแขนกับขาของตัวเองให้กลายเป็นเสือก่อนจะพุ่งเข้าไปหาอาคุตากาวะให้ตายเถอะเด็กพวกนี้มันจะอะไรกันนักกันหนานะไม่ทะเลาะกันสักวันคงอกแตกตายมั้ง



    ตึง! ฟิ้ว! ตึง! ครืน!



    ฉันมองอัตสึชิคุงที่กระโดดถอยออกมาตั้งหลักด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนที่จะหันไปฟังสิ่งที่อาคุตากาวะบอก



    "เล่นกายกรรมเก่งขึ้นนะเสือสมิง"



    "มาทำอะไรที่นี้?อาคุตากาวะ"



    หือ? อัตสึชิคุงไม่รู้หรือไงนะว่าอาคุตากาวะจะร่วมงานด้วยน่ะทั้งๆที่พวกทาคุจังเปิดกล้องดวงตาให้ดูแล้วแท้ๆสงสัยตอนนั้นเจ้าตัวคงไปเข้าห้องน้ำอยู่มั้งจบคำถามอาคุตากาวะก็แผ่จิตสังหารออกมาก่อนจะตอบว่า



    "มาฆ่าแกไงล่ะ"



    "น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหน?พวกเราอาจจะไม่มีที่อยู่แล้วก็ได้นะผมล่ะไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ"



    "ไม่เห็นจำได้ว่าไปขอให้แกเข้าใจตอนไหน"



    ฉันว่าตอนนี้ดาไซคงบ่นถึงการทำงานของอาคุตากาวะแล้วล่ะดูได้จากสีหน้าของอัตสึชิคุงเลยแล้วก็มือที่เอื้อมไปจับอินเตอร์คอมแต่ก่อนที่จะได้ยื่นหรือโยนฉันก็รับมาก่อนแล้วก็บอกกับดาไซว่า



    "ดาไซเดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเองยังไงคุณโมริก็บอกแล้วว่าส่งอาคุตากาวะมาร่วมงานน่ะ"



    [ไม่ใช่ว่าสองคนนั้นจะไปเกะกะเธอเหรอ?]



    "ไม่เกะกะหรอกฉันต้องการลูกมือพอดีเลยล่ะแต่ฉันขอให้นายระวังพวกแฮ็กเกอร์หน่อยก็ดียิ่งโดนเฉพาะหนูน่ะ"



    ฉันเน้นคำว่าหนูเป็นพิเศษแน่นอนว่าระดับดาไซแล้วคงเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ



    [เข้าใจแล้วฝากด้วยแล้วกันนะ]



    "รับทราบ"



    ติ๊ด!



    พอฉันวางสายก็เงยหน้าขึ้นมามองเห็นเด็กสองคนที่ยืนฟังสิ่งที่ฉันคุยกับดาไซด้วยสายตาบ้องแบ๊ว(?)มันทำให้ฉันยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะตบมือแล้วบอกว่า



    แปะ! แปะ!



    "อย่างที่ฉันได้บอกไปพวกนายทั้งสองคนต้องร่วมงานกันเพื่อหยุดวาฬเผือกนี้ไม่ให้ถล่มเมืองโยโกฮาม่าและถ้ายังทะเลาะกันอยู่ล่ะก็..."



    ฉันหยุดพูดไปก่อนจะปล่อยจิตสังหารออกมายี่สิบเปอร์เซ็นใส่ทั้งสองคนทำให้ทั้งคู่ถึงกับเข่าทรุดลงไปกับพื้นทันทีพรอมกับที่เหงื่อเต็มใบหน้าแล้วฉันก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า



    "ฉันจะฆ่าพวกนายทิ้งซะสาเหตุเพราะไม่ร่วมมือกันและในแผนของดาไซต้องไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งนั้นเข้าใจกันนะ?"



    "คะ..ครับ/...อ่า..."



    พอได้คำตอบที่ต้องการก็เก็บจิตสังหารไปแล้วกลับมายิ้มให้ตามเดิมแน่นอนว่าก็เป็นหน้ากากอยู่ดี มันคงไม่มีวันที่ฉันจะกลับมาใช้ความรู้สึกจริงๆได้หรอก แล้วพวกเราทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนทันที



    แอ็ด~!



    "โทษทีเหมือนจะมีแขกมาหาน่ะไว้จะโทรหาใหม่รักนะเซลด้า"



    ติ๊ด!



    เห็นชัดเลยแฮะะสิ่งที่อยู่ข้างๆฟรานซิสน่ะเป็นวิณญาณผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีทองตัดสั้นระต้นคอ ดวงตากลมโตสีฟ้าซีด จมูกเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ปากบางกระจิบ โครงหน้าเรียวได้รูป ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยล่ะ(ไรท์มโนเอานะคะว่าลูกสาวของฟรานซิสเป็นแบบนี้//ไรท์)



    'หยุดคุณพ่อทีค่ะ...ฮึก!...ได้โปรดฉันไม่ต้องการให้ท่านเจ็บตัว...ฮึก!...ได้โปรดเถอะค่ะ...ฮึก!...ช่วยหยุดคุณพ่อทีค่ะ'



    วิณญาณสาวร้องไห้พร้อมกับขอร้องเมื่อเห็นว่าฉันมองเห็นเธอช่วยไม่ได้แฮะคงต้องช่วยวิณญาณสาวน้อยผู้แสนน่ารักหน่อยแล้ว



    "อัตสึชิคุงอาคุตากาวะพวกนายสองคนต้องร่วมมือกันเพื่อเอาเทอร์มินอลควบคุมมา ส่วนฉันจะเป็นผู้ชมที่ดูหนังสดนี่เป็นภารกิจของพวกนายสองคนจงช่วยเมืองนี้ซะ ถ้าทำแบบนั้นพวกนายจะได้สิ่งที่มีค่าตอบแทนล่ะ"



    "สิ่งที่มีค่าตอบแทนเหรอครับ?/สิ่งที่มีค่าตอบแทน?"



    สองหนุ่มพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายซึ่งฉันก็หันไปยกยิ้มให้ก่อนจะเบี่ยงตัวออกมา แล้วก็ดีดนิ้วเบาๆไม่ให้คนอื่นเห็นจากนั้นวิณญาณสาวที่อยู่ข้างๆฟรานซิสก็ลอยตามฉันออกมา ปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้ชายไปส่วนผู้หญิงมาคุยกันดีกว่า



    "ไม่ต้องกังวลหรอกคุณพ่อของเธอน่ะพอโดนจัดการก็จะกลับตัวกลับใจเองนั่นแหละถึงจะเจ็บตัวแต่มันก็เป็นวิธีที่ได้ผลนะ:)"



    ฉันยกยิ้มให้กับเธอทำให้วิณญาณสาวแสนน่ารักพยักหน้าตอบรับก่อนที่เธอจะแนะนำตัวเอง



    'ฉันชื่อเอริก้าค่ะขอบคุณมากจริงๆค่ะที่พวกคุณจะช่วยหยุดคุณพ่อไว้ฉันต้องขอโทษแทนเขาจริงๆค่ะ'



    "อ๊ะๆๆ หยุดเลยไม่ต้องก้มหัวให้ฉันฉันไม่ได้ทำอะไรมากขนาดนั้นถ้าจะขอบคุณไปขอบคุณสองคนนั้นนะแล้วก็ฉันชื่อ คาเรียน่า วิเวียร์ธาร์น ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ:)"



    ฉันพูดห้ามเอริก้าในขณะที่หล่อนจะก้มหัวให้เอาตามจริงฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยนะเอาแต่สั่งอย่างเดียวเลยแต่เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะตอนนี้ขอรู้จักวิณญาณตรงหน้าก่อนก็แล้วกัน



    "เอาเป็นว่าระหว่างรอพวกเขาก็มาคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันดีกว่านะ^_^"



    'ค่ะ'




    TBC.

    ___________________

    นางเอกชิลดีแท้ปล่อยให้เด็กไปสู้ส่วนตัวเองก็มาคุยกับวิณญาณอย่างสบายใจเฉิบแบบนี้ก็ได้เรอะ!?


    ช่วงนี้ไรท์ก็ปิดเทอมแล้วนะคะแต่มันก็เหมือนไม่ได้หยุดค่ะไหนจะฝึกงานอีก1เดือนด้วยไรท์คงจะมาแต่งได้น้อยลงนะคะขอให้รีดทุกท่านเข้าใจกันด้วยนะคะอยู่ปวช.2จะปวช.3งานมันเยอะมากอย่างกับภูเขามาอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ


    แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ 1 เม้น = 100 กำลังใจค่ะ


    เจอกันตอนหน้านะคะ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×