คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 อดีตของดาไซกับคาเรียน่า(1)
ไรท์ บรรยาย
(เช้าวันต่อมา)
(ณ ตึกสำนักงานนักสืบบุโซ)
กริ๊ง~!
เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่ขอบประตูดังขึ้นบ่งบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้านคาเฟ่ที่เป็นชั้นหนึ่งของตึกสำนักงานไว้ให้พวกพนักงานลงมาหาของกินทานไม่ก็มาคุยเรื่องภารกิจกันซึ่งวันนี้อัตสึชิก็ลงมาหาอะไรทานรอว่าคาเรียน่าจะมาเมื่อไร
"มาแต่เช้าเลยนะอัตสึชิคุง"
เฮือก!
อัตสึชิสะดุ้งตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นกระทันหันพอหันไปตามเสียงก็เป็นดาไซที่มานั่งดื่มกาแฟอยู่ก่อนแล้วชายหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าจึงตอบไปว่า
"ครับพอดีผมตื่นเต้นน่ะครับเลยนอนไม่ค่อยหลับเลยมารอพี่คาเรย์เลยดีกว่า"
"อัตสึชิคุงเธอช่วยเล่าเรื่องเมื่อแปดปีก่อนตอนที่เธอเจอกับ...คาเรียน่าได้ไหม?"
คำถามของดาไซทำให้อัตสึชิสงสัยแต่ก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วเริ่มเล่าตั้งแต่ที่เขาเจอกับหญิงสาวที่เหมือนพี่สาวแท้ๆออกมาว่า
"แปดปีก่อนตอนนั้นผมอายุสิบขวบอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เหมือนนรกแต่แล้วพี่คาเรย์ก็เข้ามาหาผม..."
(เมื่อ 8 ปีก่อน)
(ณ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า)
ภายในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเด็กๆที่ถูกพ่อแม่นำมาทิ้งไว้ไม่ก็ทางที่เลี้ยงไปเจอเลยเอากลับมา
"คิกๆ ดูนี้สิมงกุฎดอกไม้ล่ะเป็นไง?สวยมั้ย?"
เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากเพื่อนๆได้ดีเลยล่ะ
"สวยมากเลยทำให้ฉันอันหนึ่งสิ"
"ฉันด้วยๆ"
"ได้สิแต่รอหน่อยนะ"
แล้วเด็กผู้หญิงกลุ่มนั้นก็นั่งเล่นรอเพื่อนทำมงกุฎดอกไม้ให้ถัดมาอีกฝั่งก็เป็นกลุ่มเด็กผู้ชายที่กำลังเล่นไล่จับกันอยู่
"ฮ่าๆๆ! จ้างให้นายก็จับฉันไม่ได้หรอก!"
"ถ้าฉันจับนายได้นายต้องเป็นสิบตา!"
เด็กๆทุกคนดูเล่นกันอย่างสนุกสนานแต่กับมีเด็กคนหนึ่งที่นั่งมองภาพนั้นอย่างเหงาหงอยจากในห้องขังด้วยเพราะสาเหตุบางอย่างทำให้ นาคาจิมะ อัตสึชิ วัยสิบขวบต้องโดนขังอยู่ในห้องขังเดี่ยวคนเดียว
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงเดินดังขึ้นมาทำให้เด็กชายอัตสึชิละสายตาจากภาพข้างนอกหันกลับมาที่เป็นลูกกรงราวเหล็กในใจก็คิดไปว่าต้องเป็นอาจาร์ยใหญ่แน่ๆแต่กับไม่ใช่แบบนั้นเพราะคนที่เดินเข้ามาคือ...
"..."
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแล้วอายุมากกว่าเขาอยู่สองปีสวมผ้าคลุมสีดำสนิททำให้ไม่เห็นใบหน้าแต่ที่เด่นชัดคือผมยาวถึงต้นขาสีดำสนิทนั้นเธอคนนั้นเอื่อมมือมาแตะที่ลูกกรง
เพล้ง!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างแตกซึ่งอะไรบางอย่างที่ว่าก็คือตัวของลูกกรงเอง!เด็กชายเบิกตากว้างอย่างตกใจพร้อมกับที่มีความหวาดกลัวปนเข้ามาและเหมือนเด็กหญิงจะรู้เธอเลยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปลอบโยนว่า
"ไม่ต้องกลัวนะพี่แค่มาเล่นกับเธอน่ะ"
"คะ..คุณเป็นใครครับ?"
อัตสึชิถามอย่างระแวงถึงอาการกลัวจะลดลงบ้างแต่ก็ยังไม่วางใจคนตรงหน้าเท่าไหร่แล้วที่บอกจะมาเล่นด้วยน่ะหมายความว่ายังไงกัน?
"พี่ชื่อ คาเรียน่า วิเวียร์ธาร์น ตั้งแต่วันนี้จะมาเป็นเพื่อนและพี่สาวให้กับเธอนะ"
"!!!"
เด็กชายเบิกตากว้างอย่างตกใจกับคำพูดของเด็กหญิงตรงหน้าแต่ลึกๆในใจของเขากับดีใจมากเพราะเขาเองก็อยากมีเพื่อนอยากมีครอบครัวเหมือนกัน
"ผมชื่อ นาคาจิมะ อัตสึชิ ครับขอฝากตัวด้วยนะครับพี่คาเรียน่า"
อัตสึชิบอกชื่อของตนออกไปพร้อมกับยกยิ้มกว้างให้กับเด็กหญิงที่ชื่อคาเรียน่าแต่เด็กหญิงกับพูดขึ้นมาว่า
"เรียกว่าพี่คาเรย์เถอะแบบนี้จะได้ดูสนิทกันมากกว่า:)"
รอยยิ้มบางๆของคาเรียน่าทำให้เด็กชายมองตาค้างถึงจะไม่เห็นหน้าแต่แค่ดูรูปร่างก็บอกได้ว่าต้องเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากแน่ๆจังหวะนั้นเองที่คาเรียน่ายื่นมือมาหาอัตสึชิเด็กชายจึงจับโดยไม่มีความกลัวอีกต่อไป
"ออกไปข้างนอกเถอะพี่มีอะไรจะให้เธอดูด้วย"
"ล่ะ..แล้วถ้าอาจาร์ยใหญ่เห็นล่ะครับ?"
"ไม่เห็นหรอกเพราะถ้าเห็นพี่คงเข้ามาหาเธอไม่ได้หรอก"
เด็กหญิงตอบขณะจูงมือเด็กชายออกมาจากห้องขังได้แล้วจากนั้นก็พาเด็กชายไปทางเข้าป่าทันทีทำให้อัตสึชิเริ่มกลัวขึ้นมาอีกครั้งแต่คาเรียน่าก็หันมาบอกว่า
"พี่อยู่ด้วยเธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะ"
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเชื่อเธอได้ยังไงแต่มันก็มีค่าให้ลองเสี่ยงดูเขาจึงเดินต่อไปโดยไม่กลัวพลางจับมือของพี่สาวและเพื่อนคนแรกให้แน่นขึ้น
"ตรงนี้คงไม่มีใครเห็นแล้วล่ะอัตสึชิคุงพี่จะแนะนำให้รู้จักเพื่อนพี่อีกตัวหนึ่งนะ"
"อีกตัวเหรอครับ?"
อัตสึชิทวนคำพูดของคาเรียน่าอย่างสงสัยมันต้องเป็นคนไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมถึงเรียกว่าตัวล่ะ?
"เพื่อนตัวนี้ชื่อว่าซามุอิจ๊ะพี่จะเรียกเขามาให้มาเป็นเพื่อนกับเธอเวลาพี่ไม่มานะ ซามุอิ!"
เด็กหญิงบอกพร้อมกับหันไปทางป่าด้านหน้าแล้วเรียกชื่อเสียงดังแล้วบรรยากาศก็เงียบลงสักแปปหนึ่งก่อนจะมีเสียงดังขึ้นมาว่า
แซ่กๆ! แซ่กๆ!
พุ่มไม้ตรงหน้าสั่นไหวก่อนจะปรากฏเจ้าของชื่อออกมาซึ่งก็คือ...
โฮก~! เฮือก!
เด็กชายตัวน้อยสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อสิ่งที่ปรากฏออกมาไม่ใช่คนแต่เป็นเสือใช่เสือ!ตัวใหญ่มากด้วย!มีลักษณะคือสีขาวลายน้ำตาล ดวงตาเป็นสีฟ้าใส ดูๆแล้วเป็นสีที่หายากมากสำหรับแถวนี้
(แปะรูปค่ะ//ไรท์)
"นี้คือซามุอิไม่ต้องกลัวนะอัตสึชิคุงซามุอิไม่กัดใครซี้ซั้วหรอกเขาจะกัดเฉพาะคนที่มาทำร้ายเขาก่อนน่ะ"
"คะ..คือว่าเสือตัวนี้..เป็นเพื่อนของพี่คาเรย์เหรอครับ?
"ใช่แล้วจ๊ะตอนแรกๆอัตสึชิคุงอาจจะกลัวอยู่แต่พออยู่ด้วยกันนานๆก็หายกลัวเองแหละซามุอิน่ะเป็นเสือที่ฉลาดมากเลยล่ะและเขาฟังภาษามนุษย์รู้เรื่องนะ:)"
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่รอยยิ้มของคาเรียน่าทำให้อัตสึชิยอมเชื่อแต่โดยดีมันเป็นรอยยิ้มที่มีพลังมากเลยล่ะเด็กชายหันมามองเสือโคร่งสีขาวลายน้ำตาลอีกครั้งมันจ้องมาที่เขาอยู่ก่อนแล้วทำให้ยังกลัวอยู่บ้างแต่เพราะเขาจับมือของเด็กหญิงอยู่เลยหายกลัวไปอย่างน่าประหลาดก่อนจะลองขอเข้าไปใกล้ซามุอิดู
"ผะ..ผมขอเข้าไปใกล้ๆเขาได้มั้ยครับ?"
"ได้สิที่พี่พาเธอมาก็เพื่อให้เป็นเพื่อนกันนิ"
ร่างบางตอบก่อนจะจูงมือของเด็กชายให้เข้าไปใกล้เสือขาวมากขึ้นพอหยุดอยู่หน้าของมันแล้วอัตสึชิก็รวบรวมความกล้ายื่นมือออกไปหวังจะสัมผัสขนที่ดูนุ่มนิ่มนั่น
หมับ
"!!!"
เด็กชายเบิกตาขึ้นอย่างตกใจเมื่อได้สัมผัสกับเสือครั้งแรกพอลองลูบไปมาก็รู้สึกดีมากเลยล่ะมันทั้งนุ่มและนิ่มมากๆเลยล่ะ
"ขอบคุณครับที่ยอมมาเป็นเพื่อนและพี่สาวให้ผม^_^"
อัตสึชิบอกพร้อมยกยิ้มกว้างคาเรียน่าเพียงยกยิ้มน้อยๆให้เท่านั้นนี้คือการพบกันของทั้งคู่หลังจากนั้นก็ผ่านไปหนึ่งปีที่เด็กหญิงมาเล่นกับเขาพาเขาไปหาซามุอิแต่พอถัดมาจากวันเกิดของเขาเธอก็ไม่มาอีกเลยซามุอิก็ยังอยู่ดีแต่พอผ่านมาอีกเจ็ดปีเป็นช่วงที่เขาอายุสิบแปดปีและมีข่าวว่าเสือออกอาละวาดทำให้ทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจดูพอพวกเขาเจอซามุอิก็ลงความเห็นว่ามันเป็นตัวทำตอนนั้นเขาวิ่งออกไปปกป้องมันสุดชีวิตแต่ก็โดนพวกอาจาร์ยใหญ่จับตัวไว้ทำให้เขาวิ่งไปหามันไม่ได้แถมซามุอิก็ไม่ขัดขืนอะไรเลยเหมือนกับมันรู้ว่าขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์เลยยอมโดนจับตัวไปตอนนั้นเขาเสียใจมากเพราะสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของพี่สาวคนเดียวของเขาได้หายไปแล้ว จากนั้นเขาก็โดนไล่ออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนได้มาเจอกับดาไซและคุนิคิดะ
(จบการย้อนอดีต)
พออัตสึชิเล่าจบก็มีแววตาที่หมองลงเพราะซามุอิอยู่กับเขามานานกว่าคาเรียน่าไม่แปลกเลยที่เขาจะซึมไปพักใหญ่ที่มันโดนเอาตัวไปดาไซที่เห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
"อย่าเศร้าไปเลยอัตสึชิคุงฉันว่ามันไปสบายแล้วล่ะ"
"ไม่ครับซามุอิยังไม่ตายมันยังอยู่ถึงจะอยู่ไกลก็เถอะครับ"
"หือ?"
ชายหนุ่มนึกสงสัยว่าอะไรทำให้อัตสึชิมั่นใจขนาดนั้นว่าเสือตัวนั้นยังอยู่ทั้งๆที่โดนแทนตัวเองที่เป็นเสือจริงๆไปแล้วก็คงโดนฆ่าไปแล้วล่ะแต่เขาขอไม่พูดอะไรที่มันจะส่งกระทบถึงความรู้สึกของคนข้างๆก็แล้วกัน
กริ๊ง~!
แล้วเสียงกระดิ่งที่ขอบประตูก็ดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนหันไปมองผู้มาใหม่ทันทีเป็นคนที่อัตสึชิรออยู่นั่นเองพอเห็นว่าเป็นคาเรียน่าชายหนุ่มก็ยิ้มหน้าบานทันที
"ขอโทษที่มาช้านะพอดีโดนหมาขวางอยู่น่ะ"
"ไม่เป็นไรครับผมก็มาถึงไม่เกินสิบห้านาทีเองครับ"
อัตสึชิบอกพร้อมกับยกยิ้มกว้างถ้ามีหูกับหางคงกระดิกใหญ่เลยล่ะร่างบางวางกล่องขนาดกลางลงตรงโต๊ะก่อนจะเปิดภายในกล่องให้ทั้งสองคนเห็น
"ว้าว~*0*"
อัตสึชิร้องอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นคัพเค้กสีสันต่างๆมากมายคาดว่าพอดีกับจำนวนคนของสำนักงานนักสืบเลยล่ะดาไซมองคัพเค้กชิ้นหนึ่งที่ดูแตกต่างจากชิ้นอื่นมันเป็นคัพเค้กรูปหัวใจที่แตกครึ่งเหมือนกับความรักที่ไม่สมหวังไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วกัดไปตรงครีมรสช็อกโก้แลตชิพรสชาติที่อยู่ในปากเต็มไปด้วยความพอดีไม่หวานเกินไป ไม่เลี่ยนเกินไป และ ไม่ขมเกินไป พูดได้ว่าเป็นคัพเค้กที่อร่อยมากถ้าเอาไปขายคงได้กำไรมากมายเลยล่ะแล้วพอกัดตรงเนื้อเค้กก็เป็นรสช็อกโก้แลตเหมือนกันแต่เป็นรสที่เข้มข้นกว่าเดิมเหมือนสื่ออะไรบางอย่างอยู่เลยล่ะ
"อร่อยมากเลยอยากทานอีกจัง"
ไม่พูดเปล่าทำท่าจะหยิบขึ้นมากินอีกชิ้นด้วยแต่อัตสึชิไวกว่ารีบรวบกล่องไว้ให้ไกลจากมือดาไซทันที
"ไม่ได้นะครับคุณดาไซต้องเอาไปแบ่งให้ทุกคนสิครับคุณกินไปแล้วเพราะฉะนั้นอย่าหวังที่จะแตะอีกเลยครับ"
"อะไรอ่า~ฉันยังอยากกินอีกชิ้นหนึ่งนะอย่างกไปหน่อยเลยน่าอัตสึชิคุง~"
"ไม่ได้ก็คือไม่ได้ครับ"
อัตสึชิบอกเสียงเด็ดขาดและหนักแน่นทำให้คนที่อายุเยอะกว่าสองปีเบ้ปากทันทีแต่ก็มีถุงคุกกี้ยื่นมาให้แทน
"ที่จริงมันไม่ได้มาช้าเพราะหมาขวางอย่างเดียวหรอกแต่ทำคุกกี้เพิ่มด้วยน่ะแน่นอนว่ามีเยอะพอสำหรับหลายคนนะ"
คาเรียน่าบอกเสียงเรียบแต่ก็มีความเอ็นดูปนอยู่ส่วนดาไซพอได้เห็นถุงคุกกี้ก็พลันให้นึกถึงตอนแรกที่เจอกับหญิงสาวตรงหน้าทันที
(ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน)
ในขณะที่เด็กสาวสวมผ้าคลุมสีดำสนิทกำลังเดินไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไปประจำก็ต้องหยุดชะงักในมือเธอถือถุงคุกกี้จะเอาไปให้อัตสึชิเด็กชายที่เหมือนน้องชายของเธอสาเหตุที่หยุดชะงักเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกได้ถึงเจ้าพวกนั้นถ้ายังไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่พวกนั้นต้องฆ่าอัตสึชิแน่ๆเธอไม่ยอมเด็ดขาดแล้วเด็กสาวก็ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในซอยเปรี่ยวซอยหนึ่งทันทีถึงพวกนั้นจะอยู่ไกลแต่ก็อย่าประมาทดีกว่าไม่งั้นโดนจับตัวกลับไปแน่ๆพอพ้นซอยเปรี่ยวมาได้ก็เจอกับผืนทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตาพลันหางตาก็เหลือบไปเห็นร่างโปร่งของเด็กชายคนหนึ่งที่ดูแล้วคงอายุมากกว่าเธอสองปีกำลังจะกระโดดลงไปในน้ำทะเลที่จริงเธอจะปล่อยผ่านแล้วล่ะถ้าเกิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นน่ะ ไม่ใช่คนที่มีหน้าตาคล้ายกับเพื่อนของเธอ!เด็กสาวจึงใช้พลังเวทย์ในการโผล่ไปอยู่ข้างหลังของเด็กหนุ่มพร้อมกับกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาให้พ้นจากขอบหินปูนนั้น
"ถ้าอยากฆ่าตัวตายก็ไปตายที่อื่นตายในน้ำทะเลจะทำให้ระบบนิเวศเสียไม่รู้หรือไง?"
นั่นคือคำพูดแรกที่เธอพูดกับเด็กหนุ่มไปทำให้โดนมองด้วยแววตาประหลาดทันทีเธอจึงเลิกคิ้วเชิงถามเพราะตอนที่เธอโผล่มาข้างหลังลมทะเลมันตีเข้ามาเลยทำให้ผ้าคลุมของเธอเปิดออกแต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเถอะเธอขอพูด(บ่น)เจ้าเด็ก(?)นี้ก่อนเถอะ
"ทะเลถือเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตนะอย่ามาทำให้แหล่งกำเนิดเปื้อนมลทิฑเด็ดขาดถ้าอยากตายก็ไปตายที่อื่นที่ไม่ใช่ทะเลหวังว่าจะเข้าใจนะ?"
"คงเข้าใจมั้งจู่ๆก็โดนกระชากขึ้นมาแถมยังโดนผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าบ่นใส่อีกด้วย เห้อ~ ทำให้หมดอารมณ์ฆ่าตัวตายเลย"
"แสดงว่านายเข้าใจแล้วงั้นฉันไปล่ะอย่าให้เห็นว่านายมากระโดดลงน้ำทะเลอีกนะไม่งั้นฉันจะเอาเลื่อยมาเลื่อยนายเป็นชิ้นๆเลย"
พูดขู่ไปก็ไม่เข้าหัวเด็กหนุ่มหรอกเรื่องนั้นเธอรู้ดีรู้ดียิ่งกว่าใครๆเลยล่ะเพราะนิสัยฆ่าตัวตายมันเหมือนกันมากเลยน่ะสิเด็กสาวเตรียมหันหลังเดินจากไปแต่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นซะก่อน
จ๊อก~!
'ให้ตายเถอะแม้แต่นิสัยนี้ก็เหมือนกันจริงๆ'
เด็กสาวหันมามองเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่แบบเดิมเธอก้มมองถุงคุกกี้ในมือกำลังจะก้าวขาเดินก็มีเสียงดังขึ้นอีกว่า
จ๊อก~!
".....ให้ตายเถอะเกลียดตัวเองเวลาแบบนี้จัง"
เด็กสาวพึมพำก่อนจะหมุนกายเดินกลับไปหาเด็กหนุ่มพร้อมกับยื่นถุงคุกกี้ให้ตรงหน้าเด็กหนุ่ม
"มียาพิษมั้ย?"
เด็กสาวกรอกตารอบหนึ่งก่อนจะแกะริบบิ้นออกแล้วหยิบคุกกี้อันหนึ่งออกมากินให้ดูบ่งบอกว่าไม่มียาพิษเด็กหนุ่มทำหน้าเซ็งทันทีก่อนจะรับมาหยิบขึ้นมากินชิ้นหนึ่งแล้วก็นิ่งไปเลยเด็กสาวที่เห็นแบบนั้นก็อดที่จะคิ้วกระตุกไม่ได้ทำท่าทางแบบนี้มันจงใจหาเรื่องเธอชัดๆเลยนะ!
"ถ้าไม่อร่อยก็เอาคืนมาจะเอาไปกินเองไม่ก็ให้เด็กแถวๆนี้กิน"
ร่างบางพูดขณะยื่นมือจะหยิบถุงคุกกี้คืนแต่ก็โดนเด็กหนุ่มเบี่ยงหลบพร้อมกับหยิบคุกกี้ชิ้นต่อไปขึ้นมากินพลางพูดว่า
"ก็ไม่ได้บอกว่าไม่อร่อยนิ"
"แล้วตกลงมันเป็นยังไงล่ะ?"
"อืม..."
เด็กหนุ่มทำท่าครุ่นคิดแต่พอเห็นสีหน้าตั้งใจฟังของเด็กสาวแล้วก็อดที่จะพูดแกล้งออกไปไม่ได้ว่า
"รสชาติก็งั้นๆแหละ"
"โกหก"
นับว่าเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองแพ้แพ้ให้กับเด็กสาวตรงหน้าที่มองตนด้วยแววตานิ่งสงบดังผืนฟ้าตอนกลางคืนมันมีแต่ความนิ่งสงบและความว่างเปล่าเท่านั้นทำให้รู้สึกว่ากำลังคุยอยู่กับคนที่เหนือกว่าตัวเองอยู่เลย
"ถ้าเป็นคนอื่นมาฟังก็คงเชื่อว่ารสชาติงั้นๆแต่สำหรับฉันที่อยู่คนเดียวแล้วต้องคอยเอาชีวิตรอดน่ะการสังเกตสีหน้าคนอื่นมันเป็นเรื่องหมูๆเลยล่ะตกลงรสชาติมันเป็นยังไงกันแน่?ขอความจริงเถอะฉันจะได้กลับสักที"
".....อร่อยมาก"
"ก็แค่นั้นแค่พูดออกมาไม่เห็นจะยากตรงไหนนายนี้ติดเล่นไปหน่อยนะ:)"
รอยยิ้มของเด็กสาวเป็นสิ่งเดียวที่สะกดสายตาของเด็กหนุ่มไว้เขาสาบานได้เลยว่าไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนยิ้มได้สวยเท่านี้มาก่อนเลยถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้ก็คงดี
"ดาไซ โอซามุ"
"หือ?"
เด็กสาวส่งเสียงแปลกใจออกมาทำให้เด็กหนุ่มยืนขึ้นก่อนจะพูดขยายความว่า
"ฉันชื่อ ดาไซ โอซามุ เธอล่ะ?"
"คาเรียน่า วิเวียร์ธาร์น"
"ไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ๆแต่พูดญี่ปุ่นชัดดีนะ"
"ต้องขอบคุณท่านแม่ล่ะนะ"
คาเรียน่าพูดเสียงเบาแต่เพราะอยู่กันสองคนและบรรยากาศเงียบเลยทำให้ดาไซได้ยินชัดเจนแถมยังเห็นแววตาที่เจ็บปวดขึ้นมาเว็บเดียวด้วยเว็บเดียวจริงๆถ้าไม่สังเกตดีๆจะไม่เห็นเด็ดขาด
"ฉันไปล่ะนายก็อย่ามากระโดดฆ่าตัวตายตรงน้ำทะเลอีกล่ะ"
ร่างบางบอกพร้อมกับหันหลังเดินจากไปแต่ก็ถูกเสียงของดาไซเรียกความสนใจสะก่อน
"พรุ่งนี้ทำคุกกี้มาให้กินอีกสิขอรสช็อกโก้แลตชิพนะ"
"ห๊า!? ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งนายด้วย!?อีกอย่างถ้าสั่งแบบนั้นทำไมไม่สั่งเอาเป็นช็อกโก้แลตแท่งไปเลยล่ะ!?"
พอเด็กหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันทีทำให้เด็กสาวรู้ตัวว่าเสียท่าให้คนบ้าฆ่าตัวตายซะแล้ว
"งั้นเอาคุกกี้รสไวน์กับช็อกโก้แลตแท่งรสช็อกโก้แลตชิพนะ^_^"
'น่าปวดหัวที่สุด!นี้ฉันเสียท่าให้กับมุกเดิมๆอีกแล้วเหรอเนี่ย!?'
คาเรียน่าคิดอย่างปวดหัวก่อนจะเอามือกุมหัวไว้พร้อมกับที่ร่างกายเซเล็กน้อยแต่ก็ยังทรงตัวได้อยู่
"เหตุผลที่ฉันต้องทำตามคำสั่งนาย?"
"เพราะถ้าเธอไม่ทำมาให้ฉันก็จะมาฆ่าตัวตายที่นี้แหละบรรยากาศก็สบายฉันคงหลับสบายมากเลยล่ะ"
'โดนเข้าแล้วไงล่ะคาเรย์ไม่น่าไปพูดถึงระบบนิเวศอะไรนั่นเลยแต่หมอนี้ก็หัวไวดีนะที่คิดอะไรแบบนี้ได้น่ะ'
ร่างบางถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะตอบตกลงไปเพื่อไม่ให้แหล่งกำเนิดของชีวิตแปดเปื้อนเด็ดขาด
"เข้าใจแล้วพรุ่งนี้จะทำมาให้แล้วนายจะมาตอนไหน?"
"ตอนเที่ยงแล้วกันจะได้หาเรื่องโดดงานด้วยเลย"
"โห~ อายุแค่สิบหกแต่ทำงานแล้วเหรอ?"
คาเรียน่าแสร้งถามอย่างสงสัยซึ่งไม่มีใครจับการเสแสร้งของเธอได้อยู่แล้วล่ะยกเว้นแต่จะมองตรงมาที่ดวงตาของเธออ่ะนะ
"หึ มาเฟียไม่สนเรื่องอายุหรอกนะ"
"อ้อเหรอ~"
เด็กสาวลากเสียงยานคางก่อนจะมองสำรวจชุดของอีกฝ่ายซึ่งเป็นชุดสูทที่เด็กอายุประมาณนี้ยังไม่ควรใส่นอกจากไปงานเลี้ยงดาไซหรี่ตามองร่างบางตรงหน้าก่อนจะถามว่า
"ไม่สงสัยหน่อยเหรอ? ว่าฉันเป็นมาเฟียจริงรึเปล่า?"
"ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อนิอีกอย่างนะจะมีเด็กอายุสิบหกที่ไหนมาพูดเล่นกันว่าตัวเองเป็นมาเฟียน่ะ?"
'ฉลาดแต่ย้อนเก่งแถมเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างแต่กับปิดเงียบไว้เป็นผู้หญิงที่ลึกลับดีแท้ถ้าคนแบบนี้ไปอยู่ฝั่งศัตรูต่อให้เป็นฉันก็คงจัดการยากงั้นคงต้องดึงเข้ามาเป็นพวกอย่างเดียว'
ดาไซคิดขณะมองคาเรียน่าที่มองตนอยู่ก่อนที่ร่างบางจะพูดขึ้นว่า
"งั้นฉันไปล่ะแถวนี้ไม่ใช่ที่อยู่ฉันไม่ต้องเรียกอะไรแล้วนะเดี๋ยวทำคุกกี้กับช็อกโก้แลตแท่งมาให้"
พูดจบก็สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันทีคราวนี้ดาไซไม่ได้พูดรั้งอะไรเธอไว้ทำให้เด็กสาวเดินออกมาได้อย่างสบายใจสักทีพรุ่งนี้ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆลางสังหรณ์ของเธอบอกแบบนั้น
TBC.
________________________
จบแล้วค่ะกับตอนที่2ถึงช่วงแรกจะเป็นอดีตเกี่ยวกับอัตสึชิแต่ช่วงหลังดาไซเต็มๆเลยค่ะแล้วถ้ารีดสังเกตกันก็จะเห็นว่าคาเรย์แสดงความรู้สึกกับดาไซคนเดียวค่ะคนอื่นต้องใส่หน้ากากก่อนถึงจะพูดได้และอย่าลืมนะคะ 1 เม้น = 100 กำลังใจค่ะ^_^
ความคิดเห็น