ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1:เซนเทเรียส
บทที่1:เซนเทเรียส
ณ คฤหาสห์แห่งตระกูลเซนเทเรียส
"อัศวินแห่งแสง 'ลิไลเทอร์' " เสียงของนักเวทย์อาวุโสผู้หนึ่ง ที่ร่ายเวทมนต์
ระดับสูงเรียกอัศวินในชุดเกราะสีเงินพร้อมดาบเงินเล่มใหญ่ที่ส่องแสงเจิดจรัส ออกมาเข้าฟาดฟันชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
"วิญญานหมาป่าผู้หิวโหย กรงเล็บวิหคอักคี " ชายหนุ่มผู้นั้นร่ายเวทมนต์
เรียกร่างเงาของฝูงหมาป่าสีเทาเข้ารับการโจมตีของอัศวินแห่งแสง แล้วจึงโจมตีด้วยกรง
เล็บไฟสร้างความเสียหายให้กับอัศวินแห่งแสงอย่างหนัก
เล็บไฟสร้างความเสียหายให้กับอัศวินแห่งแสงอย่างหนัก
"ทำได้ดี 'เฟรมิส'" นักเวทย์อาวุโสกล่าวกับชายหนุ่มผู้เป็นศิษย์ ที่ขณะนี้
กำลังตั้งสมาธิกับอะไรบางอย่างอยู่
"การฝึกซ้อมยังไม่จบนะท่านอาจารย์" เฟรมิสกล่าว ก่อนจะร่ายเวทย์ระดับ
สูงอีกสามบท เรียกสัตว์อสูรออกมาพร้อมกันถึง 3ตัว "หมาป่าสายฟ้า ไลท์นิ่งวูลฟ์! วิหค
อักคี ไฟร์เออร์ฟีนิกซ์! ยักษ์น้ำแข็ง ไอซ์ไจแอนด์!"
อักคี ไฟร์เออร์ฟีนิกซ์! ยักษ์น้ำแข็ง ไอซ์ไจแอนด์!"
"ดี งั้นข้าคงต้องเอาจริงแล้วสินะ" ท่านอาจารย์อาวุโสกล่าว "พายุศร
เหมันต์เกราะมรกต..."
การต่อสู้ฝึกซ้อมยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดในห้องฝึกเวทย์ของคฤหาสห์
ประจำตระกูลอันใหญ่โตหรูหรา สถานที่ตั้งนั้นอยู่บนเนินเขาในเขตที่ 9 ล้อมรอบด้วยสวนพฤกษชาติอันงดงามด้วยพันธุ์ไม้หายากนานาชนิด คฤหาสห์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว เช่นเดียวกันสถานที่สำคัญทั้งหลายในเมือง มหาราชวังของราชินี รวมถึงคฤหาสห์ตระกูลอื่นๆ
ผังเมืองของโซดิร์เลียนครแห่งดวงดาว นี้แบ่งออกเป็น13เขตเชื่อมต่อกัน
โดยมีเขตที่13เป็นศูนย์กลาง ซึ้งเป็นที่ตั้งของมหาราชวังของราชินีและสภาหลวงของอาณาจักร ณ เมืองแห่งนี้มีตระกูลเก่าแก่ผู้ก่อตั้งอาณาจักร12ตระกูล เดิมทีแล้วราชันผู้ก่อตั้งทั้งสิบสอง ต่างปกครองอาณาเขตของตนเอง แต่เพราะความทะเยอทะยานและความโลภเหล่าราชาต่างก่อสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดงกองทัพอันยิ่งใหญ่ฆ่าฟันกัน เลือดของนักรบชโลมแผ่นดิน บ้านเมืองเกิดจลาจลเดือดร้อนกันทุกแห่งหน สุดท้ายหลังจากมหาสงคราม12กษัตริย์ที่ทำลายเมืองทั้งหมดจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง ทิ้งไว้เพียงความสูญเสียของทุกฝ่าย เหล่าราชันจึงหันมาเจรจาร่วมมือกัน รวมอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียวแล้วร่วมกันสร้างมหานครขึ้นมาใหม่คือ โซดีร์เลียนครแห่งดวงดาว แต่ประชาชนนั้นไม่มีควาศรัทธาว่าราชาที่เลือดร้อนจะสามารถมอบความสงบสุขแก่พวกเขาได้อีกต่อไป พวกเขาจึงขอสถาปนาองค์ราชินีสตรีผู้ฉลาดปราดเปรื่องและสุขุมใจเย็นขึ้นปกครองแทน และเป็นอย่างนั้นเรื่อยมาจนถึงวันนี้
หลังจากการฝึกซ้อมเวทย์ในห้องกักเก็บพลัง เขาก็เดินออกมาในสภาพ
เหน็ดเหนื่อย ผมสีน้ำตาลเทาที่ปกติจะจัดแต่งทรงไว้เปียกชื่นไปด้วยเหงื่อตกลงมาปรกใบหน้าหล่อเหลา ชุดเสื้อและกางเกงสีดำมีรอยยับทั้งตัว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักเวทย์ระดับสูง แต่การใช้พลังเวทย์ต่อเนื่องในการฝึกก็พลานพลังงานร่างกายไปมาก ทำให้ดูเหน็ด-เหนื่อยเหมือนกับไปวิ่งมาราธอนมา
ของ ผู้ร่ายไป ยิ่งเป็นเวทย์ร้ายแรงมากเท่าไร ก็ยิ่งพลานพลังเวทย์ไปมากเท่านั้น และถ้าใช้พลังโดยไม่ระวังขีดจำกัดของตัวเอง เวทย์มนต์จะซูบแหล่งพลังสุดท้ายคือชีวิตของผู้-ร่าย นักเวทย์มากมายได้สังเวยชีวิตตัวเองไปเพราะใช้พลังเกินขีดจำกัดการใช้เวทย์มนต์นั้นเป็นเรื่องอันตราย เพราะเวทย์มนต์จะซูบพลังเวทย์
ห้องที่สวยที่สุดในคฤหาสห์ เมื่อเขาเปลี่อนไปใส่ชุดเสริมเกราะสีดำเสร็จเขาก็เดินลงบันไดโค้งอันใหญ่ โตไปยังห้องอาหารเช้าสุดหรู ที่มีแม่บ้านหญิงวัยชราในชุดผ้ากันเปื่อนสีขาวปักสัญลักษณ์ประจำตระกูลสีทอง รูปเซนทอร์กำลังยิงธนูอย่างสง่างาม เมื่อหญิงชราเห็นเฟรมิสก็กุลีกุจอสั่งสาวใช้เป็นการใหญ่
เฟรมิสเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดในห้องนอนส่วนตัวของเขา หนึ่งใน
"นายน้อยมาแล้วหรือ วันนี้ยายเตรียมอาหารเช้าของโปรดไว้ให้ด้วยนะ มา
เร็วมานั่งนี่เร็ว" หญิงชราพูดกับเฟรมิสอย่างนุ่มนวลและด้วยความเอ็นดู
"ขอบคุณครับ แต่ยายไม่ต้องมาเหนื่อยอะไรแบบนี้เลย ให้พวกสาวใช้
เตรียมให้ก็ได้" เฟรมิสตอบพร้อมกับให้หญิงที่เขาเคารพรักดุจยายพามานั่งที่โต๊ะ
"ยายอยู่กับนายน้อยมาตั้งแต่เกิดใครจะไปรู้ใจนายน้อยได้ดีกว่ายาย"
หญิงชรากล่าวตอบตามประสาคนอยู่ด้วยกันมานาน แล้วก็ให้สาวใช้นำอาหารมาเสริฟ ซึ่งก็ตรงกับที่เฟรมิสต้องการทุกรายระเอียด
ให้กับตระกูลเซนเทเรียสอย่างซื่อสัตย์มาตลอดชีวิตของเธอ และได้รับความไว้วางใจจนเธอได้รับตำแหน่งหัวหน้าแม่บ้าน เธอก็บริหารงานบ้านงานเรือนอย่างดี แล้วยิ่งเมื่อแม่ของเฟรมิสหายตัวไปตอนเฟรมิสมีอายุเพียง 6 ขวบ เธอก็รับหน้าที่เลี้ยงดูเฟรมิสและน้องสาวของเขา เทรลิส ที่มีอายุเพียง3ขวบ ซึ่งเธอก็ดูแลทะนุถนอม สั่งสอนและรักดั่งลูกของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้รับความเคารพรักเหมือนคนในครอบครัว ทุกคนในบ้านเรียกเธอว่า'ยายลอร่า' แต่กระนั้นเธอก็ไม่เคยทำตัวลามปามด้วยว่าตัวเองเป็นคนสนิท เธอหญิงชราผู้นี้แม่บ้านคนสนิดตั้งแต่พ่อของเฟรมิสยังแบเบาะ เธอทำงาน
ก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นแม่บ้านและสุภาพกับเจ้านายเสมอ
ซึ่งปกติแล้วเธอจะมานั่งคุยเรื่องต่างๆพร้อมกับให้คำแนะนำอย่างอารมณ์ดี วันนี้ก็เช่นกันเธอนั่งอยู่ข้างๆเขาที่โต๊ะอาหาร แต่สีหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มอารมณ์ดีเหมือนทุกครั้ง มีแต่รอยบางๆของความไม่สบายใจ
ขณะที่เฟรมิสกำลังละเลียดกินพุดดิ้งคาราเมลสุดโปรดอยู่นั้น ยายลอร่า
"นายน้อยเฟรมิส ท่านพ่อของเธอพึ่งกลับมาถึงเมื่อคืน แล้วท่านอยากให้
นายน้อยไปพบเช้านี้เลย"เธอกล่าว
เฟรมิสนิ่งอึ่งไปนาน จนในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นแล้งเดินออกไปจากห้องโดยไม่
พูดอะไร ทิ้งยายลอร่าที่นั่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจในห้องอาหาร
ตั่งแต่ท่านแม่หายตัวไปเมื่อ10ปีก่อน ท่านพ่อเสียใจและเคียดแค้นพวก
ราชวงค์มาก เพราะเขาเชื่อว่าตระกูล สกอร์เปีย ซึ่งตอนนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น