ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The illomen ลางร้ายมาเยือน

    ลำดับตอนที่ #6 : ลางร้ายที่ 5 : เทพคุ้มครอง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 48




        

                            เมื่อแสงนั้นกะพริบเรื่อยๆ ท้ายทอยของเธออยู่ในสภาพปกติเมื่อแสงนั้นดับและมีสัญลักษณ์แปลกประหลาดรูปดาวห้าแฉกเมื่อมันสว่างจ้า ทั้งเธอและโยะโกะงงกับภาพตรงหน้านั้นอยู่……และแล้ว



        “ฟรึ่บ!!!



        “ฟ้าว!!





                         แสงสีทองนั้นคราวนี้สว่างจ้าขึ้นกว่าเดิม       แล้วก็กลับส่องแสงจ้าขึ้นอีกครั้ง จนทั้งเชมมี่และโยะโกะทนความแสบตาจากแสงนั้นไม่อยู่ เชมมี่เอามือบังหน้าจอโยะโกะไว้แล้วเธอก็เอามือนั้นขึ้นต้านแสงที่ส่องสว่างเข้าตา   เมื่อเธอสังเกตได้ว่าแสงนั้นมืดลงแล้วเธอค่อยๆผ่อนมือลง





                      แต่ แล้ว…..เมื่อเธอเห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจนอีกครั้งหลังจากที่แสงนั้นสงบลงแล้ว     ภาพตรงหน้าเธอเป็นสัตว์ขนาดเท่าลำเอวของเธอ ตาของมันกลมโต กำลังยืนด้วยขาทั้งสอง หางที่ยาว และ…..



    จ๊ากกกกก!!!!!!



              เสียงของมันนั้นแหลมเล็กแสบแก้วหูมากกว่าเจ้าแมวโยะโกะเสียอีก  เชมมี่แทบจะเอามือปิดหูทันทีในเวลานั้น - มันร้องขึ้นเสียงดังก่อนกระโดดขึ้นเหนือหัวของเชมมี่เพียงไม่ถึงวิ มันรวดเร็มมาก เมื่อตัวมันลอยเหนือหัวเธอได้ที่แล้วมันก็ตีลังกาสี่ตลบข้ามตัวเธอไปอย่างรวดเร็ว



                เชมมี่ไล่ตามองตามตัวมันแทบไม่ทัน      จากนั้นมันก็ยืนทรงตัวด้วยขาทั้งสองด้วยมาดที่สง่า  แล้วเสยผมที่มีไม่กี่เส้นของมันเอง เชมมี่สังเกตได้ว่าทั้งเท้า และมือของมันเล็กกว่าตาของมันเสียอีก แต่ตาและปากมันใหญ่ทีเดียว มันใส่ชุดผ้าสีขาวและรองเท้าหนังสีน้ำตาล และนั่นสร้อยที่มันใส่ จี้สร้อยที่ทำด้วยเหล็กของมันมีรูปดาวห้าแฉกที่มีวงกลมล้อมรอบเหมือนรูปที่ปรากฏอยู่ที่ท้ายทอยของเธอ  



    “แฮ่ะแฮ่ม!!”



    มันกระแอมในลำคอ



    “ ข้าพเจ้าขอกล่าว Say Hi ! ท่านก่อนเลย” มันเก๊กเสียงหล่อซึ่งแตกต่างจากเสียงที่มันร้องเมื่อกี้อย่างมาก แล้วพูดต่อ   “ฮึ้ม..ขอแนะนำตัวเลยดีกว่าข้า คิวมาส เทพคุ้มครองแห่งสวรรค์ ยินดีช่วยเหลือท่านทุกเมื่อ”

        

        “ช่วยเหลือ !??”



        เชมมี่ขมวดคิ้วของเธออย่างงงงวย

    เมื่อเธอมีปัญหาว้าวุ่นอย่างนี้มีใครมาช่วยเหลือเธอแถมเป็นสัตว์(ประหลาด)เพศผู้ มันทำให้เธอยิ้มออกมาได้มากทีเดียวแต่แล้วความคิดนั้นก็ ต้องจบลง ……เมื่อเธอเอ่ยขึ้น



    “เราจะไว้ใจเธอได้ไง”



    เธอเอ่ย แล้วจ้องตาเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นตาเขม็งก่อนกอดอกเพื่อความเกรงขาม



    “ท่านไว้ใจข้าได้แน่นอนเพราะท่านมีตราลางร้าย



    เสียงของมันยังเก๊กอยู่อย่างเดิมโดยไม่รู้เหนื่อย



    “เจ้าตาโต ปากใหญ่ เสียงลิง !!!” โยะโกะเอ่ยขึ้น “ตราลางร้ายแห่งเทพช่วยเหลือคืออะไรของเธอกันแน่ ?”



                        เจ้าคิวมาสจ่อหน้าไปที่มือของเชมมี่ซึ่งถือเจ้าโยะโกะไว้ – มันใช้ตาอันใหญ่โตของมันจ้องโยะโกะโดยไม่กระพริบ – โยะโกะในหน้าจอหวาดกลัวมันถึงที่สุด  สีหน้ามันดูไม่ดีเลย เชมมี่ได้แต่มองไปยังสายตาของมันว่ามันจะทำอะไรโยะโกะหรือไม่…….



                 “นี่ๆๆเจ้าเป็นตัวอะไรกันมีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าแบบนี้ ข้าชื่อคิวมาส  แถมยังว่าข้าเสียงลิงอีก  เจ้าตัวเล็กหน้าแมว  เชอะ !!!” ปากมันที่ยื่นเสวนาคำพูดและจบลงด้วยเวลาไม่กี่วินาที -  เสียงมันกลับสู่สภาพเดิม รวดเร็ว แหลมจนแสบแก้วหู  จนเชมมี่ที่เอามือปิดหูไว้ก็ยังเอาไม่อยู่ ถ้าเทียบเสียงของมันคงแหลมกว่าโยะโกะเป็นห้าเท่าเลยก็ว่าได้



                  “  นี่ๆพอเถอะเจ้าตาโต ปากใหญ่ เสียงลิง ปากเจ้าจะงับฉันอยู่ร่อมร่อแล้ว” เจ้าแมวเหมียวกอดอกแล้วเชิดใส่มัน  เจ้าคิวมาสจึงละสายตาไปที่เชมมี่ซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่



        “ ฉันต้องการหนีจากพ่อผู้ใจร้าย ที่ยกฉันให้คนอื่นได้ลงคอ” น้ำตาเชมมี่เริ่มไหลรินอีกครั้ง “เธอช่วยฉันได้มั้ย”



        “ข้ามาเพื่อช่วยท่านอยู่แล้ว ” เสียงแหลมของมันตอนนี้เริ่มลดลง โยะโกะในหน้าจอนั้นก็หันไปมองเชมมี่ที่ก้มหน้าเศร้าอยู่



                                                                         ……………………………………………





                            เจ้าเทพตัวเล็กตีลังกาไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบแล้วก็มันก็ยืนทรงตัวอยู่ที่ประตูห้อง ก่อนเอื้อมมือขึ้นไปบิดประตูห้องอย่างช้าๆ



                   “ภายนอกไม่มีพวกพ่อท่านมาคุ้มกันเลยเหรอ”



        คิวมาสถาม ขณะหัวของมันโผล่พ้นประตูห้องของเชมมี่ที่แง้มออก

        “ใครว่าไม่มีกันละ พวกยามอยู่บริเวณรั้วเต็มไปหมดเลย”



        เชมมี่ที่อยู่เหนือตัวคิวมาสไปอีกตอบ  ก่อนปิดประตูห้องแล้วพาเจ้าคิวมาสและตัวเธอเข้าไปในห้องก่อนที่บุคคลอื่นจะเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้



        เจ้าคิวมาสหันซ้ายแลขวาไปทั่วห้อง  



                    “อ๊ะ! ห้องท่านมีหน้าต่างนี่ ใหญ๊ใหญ่”  



        “มันเป็นประตูต่างหากล่ะ !”



                    แล้วเธอก็เดินไปเปิดม่านประตูที่คิวมาสกำลังจ้องมองอยู่



        ม่านประตูกระจกอันมหึมาเปิดออก เผยให้เห็นตัวกระจกรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่



        “อู้ ว้าว สวยจังเลย”



        ใบหน้าคิวมาสที่มองผ่านประตูกระจกนั้นไปยังป่ากว้างใหญ่และที่สะดุดตามากที่สุดในป่านั้นคือลำธารแพสเทียร์ มันดูร่าเริง



        “ อืมม์ ลำธารแพสเทียร์ ดูสวยงามมากเลย มันอยู่ในป่าแพลกซ์น่ะ”



                   เชมมี่ยิ้มหน้าบาน  สายตาจ้องมองยังลำธารที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อกระทบแสงจันทร์    ดอกไม้และผืนหญ้าที่มีรอยน้ำค้างติดอยู่ส่องประกายสวยงามดั่งเพชรน้ำงามเมื่อโดยแสงไฟส่องกระทบ   มันสวยงามมากจนทั้งสามไม่อยากละสายตาออกไปทางอื่นเลย



                     \"เออ..ไม่ทราบว่าลำธารนี้จะไปโผล่พ้นที่ไหนหรอ\" เจ้าคิวมาสหันมาถามเชมมี่



                     \" เมืองสเตมัลดิกัล เมืองที่มีแต่สิ่งประหลาดอยู่น่ะ ไม่มีใครอยากไปเที่ยวเมืองนี้กันหรอก มันเหมือนเมืองคนบ้า\"

                    เชมมี่กอดอก แล้วก็กล่าวยาวเหยียด



                    \"และป่าแพลกซ์ กับ ลำธารแพสเทียร์ที่ดูสวยงามนี้มันก็มีสิ่งอันตรายแฝงอยู่เช่นกันนะ ถ้าให้ดีถ้าจะผ่านทางนี้ควรไปทางยานพาหนะลอยฟ้าข้ามป่านี้ไปจะดีที่สุด เออ...คือฉันอ่านมาจากหนังสือเกี่ยวกับลำธารนี้ในห้องสมุดน่ะ ถ้าสนใจอะไรก็เข้ามาดูรายละเอียดในห้องสมุดฉันก่อนก็ได้นะแต่เอาไว้เช้าก่อนละกันเพราะง่วงเหลือเกินแล้ว \"  

                    

                    

                      





    เหอๆ กว่าจะมีตอนนี้ขึ้นมานานหน่อยนะค่ะ ขอขอบคุณผู้อ่านที่คอยติดตามอ่าน เป็นอย่างยิ่งค่ะ..........................

    *และสำหรับพี่พิงค์ที่คอยติดตามตลอดมาค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×