ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ลางร้ายที่ 4 : แสงปริศนา
          “เฮ้อ
”
          เสียงเชมมี่และโยะโกะภายในห้องดังขึ้นอย่างโล่งใจ เธอเข้ามาอยู่ภายในห้องได้ก่อนที่ไฟจะสว่างขึ้นเพียงเฉียดฉิวโดยที่โธมัสไม่ได้เห็นตัวเธอเลยแม้เพียงนิดเดียว               
          และเสียง  “พรึ่ก..ๆ” ครั้งแรกนั้นเป็นเสียงเปิดและปิดประตูของเชมมี่ ก่อนที่จะตามมาด้วยไฟสว่างที่ทั้งเธอและโยะโกะ
                        ไม่ต้องการรับรู้หากทั้งสองยังไม่ได้เข้าห้องที่เปรียบเสมือนที่หลบภัยเมื่อวินาทีก่อนหน้านี้
        เชมมี่หายใจหอบถี่ๆ และ พิงประตูห้องไว้อยู่
        “เฮ้อ ..”
          เสียงของความโล่งอกของเชมมี่และโยะโกะดังประสานกัน
          ในขณะที่เสียงเปิดและปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ได้ว่าโธมัสได้เข้าห้องของเขาไปแล้ว  เธอเดินออกจากประตูแล้วดึงเชือกห้อยโยะโกะออกจากคอมาถือไว้ในมือที่หงาย โดยให้หน้าจอของโยะโกะหงายขึ้นเช่นกัน    แล้วตัวเธอก็ล้มลงนอนโดยใช้มืออีกข้างหยิบบผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนสีโปรดของเธอมาเช็ดหน้าที่มีเหงื่อชุ่มไปทั่วตัว บนเตียงนุ่มๆของเธอ
                         
          นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ แล้วต่อไปมัน..จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธออีก....เธอรู้แต่เพียงว่ามีเพียงโยะโกะเท่านั้นที่อยู่ข้างเธอตลอดเวลา และไม่ต้องการให้มันจากเธอไป
          ความกระวนกระวายใจของเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้เธอปวดหัวขึ้นมา อย่างรุนแรง เหมือนมีแม่เหล็กขนาดสิบตันมามาทับไว้บนหัวเธอ ไม่ใช่สิ! เหมือนสายฟ้าผ่าลงมาตรงแกนกลางของศรีษะเธอจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ หรือ....
          \'โอ้ย!.....\'
          เธอพยายามคิดเหตุผลว่าทำไมพ่อเธอถึงทำเช่นนั้น  และเธอกำลังคิดหาทาง ที่จะหนีให้พ้นเรื่องที่น่าปวดหัวนี้อย่างไรดี  เธออยากร้องไห้ออกมาอีกครั้งกับความรู้สึกที่ขัดใจว่าทำไมถึงยังหาทางแก้ไม่ออก ความขัดใจกับสิ่งที่เธอหาทางออกไม่ได้น้ำตาเธอมักจะไหลทุกทีแม้โยะโกะจะให้เธอไปกับคนพวกนั้นแต่โดยดีก็ตาม แต่ในความคิดของเธอแล้วมันก็ไม่ใช่ทางที่ดีสักเท่าไหร่ โอ๊ย!
          ระหว่างที่เธอกำลังนอนอมทุกข์อยู่นั้น เธอพลันต้องสะดุ้งอย่างตกใจ เมื่อมีแสงสีทองกะพริบอยู่ทั่วห้องของเธอ แต่เมื่อเธอลองตั้งสติอีกทีแสงสีทองนั้นหายไปแล้ว  เธอลุกขึ้นยืน โยะโกะก็กำลังแปลกใจอยู่เหมือนกันในหน้าจอที่เธอถือนั้น
      ฟรึ่บ !!!
          แสงสีทองกะพริบอีกครั้งอย่างช้าๆแล้วดับไป เธอเริ่มหันซ้ายแลขวาแล้วเดินอย่างช้าๆไปรอบๆห้อง ในขณะที่แสงสีทองนั้นก็ส่องสว่างและดับลงอยู่เรื่อยๆเป็นระยะๆ ขณะนี้เธอได้เดินสำรวจเข้ามาจนถึงในห้องทำงาน(ห้องทำงานในห้องนอนเธอ)  เธอรู้สึกเหมือนแสงสีทองนั้นมันตามเธอมา
          เพราะเมื่อเธอเดินสำรวจจนเข้ามาในห้องแต่งตัว แสงสีทองกลับสว่างอยู่แต่ในห้องแต่งตัวนี้ห้องเดียว และเมื่อเธอลองแง้มประตูห้องแต่งตัวออก ห้องภายนอกนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นของทุกอย่างนิ่งและเงียบอยู่ในสภาพเดิมหมด
    “ดูสิโยะโกะ ทำไมภายนอกไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ ?”
                เชมมี่ถามโยะโกะด้วยสีหน้าแปลกใจ ไม่มีเสียงตอบหรือเสียงโยะโกะดังแว่วมา เชมมี่จึงก้มลงมองโยะโกะในมือ
   
    “ฉันจะเห็นได้ไงเล่า  ดูเธอถือฉันสิไม่ดูซะเล้ย”
                เสียงแหลมเล็กของโยะโกะ ดังขึ้นทันที
                และเมื่อเธอสังเกตดูดีๆเธอกลับถือโยะโกะให้หันไปคนละทางกับที่เธอเห็น เธอยิ้มน้อยๆอย่างเสียหน้า
                  “แต่ที่น่าดูกว่านั้นเธอลองหันหลังตัวเองแล้วมองคอหลังตัวเธอในกระจกสิ”
                   
                  โยะโกะเอ่ยอีกครั้ง โดยไม่ขำกับความหน้าแตกนี้ของเธอเพราะสิ่งที่มันเห็นไม่น่าขำสักเท่าไหร่
    เชมมี่ทำตามที่โยะโกะว่า เธอหันร่างด้านหน้าของเธอตรงข้ามกับกระจก แต่หน้าของเธอกลับจ้องกระจกเขม็ง
    และสิ่งที่โยะโกะว่านั้นมันตื่นเต้นที่จะได้เห็นมากกว่าการได้เห็นสภาพภายนอกของห้องแต่งตัวเสียจริงด้วย  แสงสีทองนั้นกะพริบอีกครั้ง แสงนั้นมากจากคอท้ายทอยของเชมมี่ เชมมี่ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น 
                                        แสงสีทองนั้นสว่างเป็นรูปดาวห้าแฉกที่อยู่ในรูปวงกลมอีกที
                   
                แสงนั้นสว่างเข้ากระจก และกระจกก็สะท้อนแสงนั้นออกมาสว่างไปทั่วห้อง
                  พร้อมกับสายตาอันตกตะลึงของทั้งสอง นั้นก็คือเชมมี่ และโยะโกะ
                “มัน..มัน คืออะไรกัน ?\" เชมมี่เอ่ยคำถามที่รู้ว่าโยะโกะและเธอไม่มีทางตอบได้  คำถามที่เหมือนเป็นคำอุทานออกมาอย่างตกใจ
butter blue....เราจ้องมองคุณอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่ะที่อ่าน
      เชมมี่มีอะไรมาระบายใส่ท่านผู้อ่านด้วยค่ะ
    \"สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่เคารพ หนูไม่ชอบเลยไรไม่รู้ยัย butter blue ให้หนูเจอแต่เรื่องน่าปวดหัว ในชีวิตนี้จะมีเรื่องสนุกบางมั้ยนะ
      ให้ตายเหอะช่างทารุณกับเด็กอายุ 10 ขวบ เสียนี่กระไร แทนที่จะเจอกับสิ่งดีๆในชีวิตบ้าง แต่เอาเถอะค่ะเพื่อความสุขสนุกสนานของผู้อ่าน ยอมพี่เค้าก็ได้ค่ะ งุงิๆๆๆ แต่อุตส่าห์ยอมขนาดนี้ถ้าไม่ให้คะแนนสักหน่อยน้อยใจนะค่ะจะโป้งเลยด้วย\"
    นี่ๆท่อนท้ายสุดผู้อ่านต้องยอมเค้านะค่ะ
    ถ้าชอบให้คอมเม้นหรือให้คะแนนก็ยังดีค่ะ
..............................................................
                       
          เสียงเชมมี่และโยะโกะภายในห้องดังขึ้นอย่างโล่งใจ เธอเข้ามาอยู่ภายในห้องได้ก่อนที่ไฟจะสว่างขึ้นเพียงเฉียดฉิวโดยที่โธมัสไม่ได้เห็นตัวเธอเลยแม้เพียงนิดเดียว               
          และเสียง  “พรึ่ก..ๆ” ครั้งแรกนั้นเป็นเสียงเปิดและปิดประตูของเชมมี่ ก่อนที่จะตามมาด้วยไฟสว่างที่ทั้งเธอและโยะโกะ
                        ไม่ต้องการรับรู้หากทั้งสองยังไม่ได้เข้าห้องที่เปรียบเสมือนที่หลบภัยเมื่อวินาทีก่อนหน้านี้
        เชมมี่หายใจหอบถี่ๆ และ พิงประตูห้องไว้อยู่
        “เฮ้อ ..”
          เสียงของความโล่งอกของเชมมี่และโยะโกะดังประสานกัน
          ในขณะที่เสียงเปิดและปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ได้ว่าโธมัสได้เข้าห้องของเขาไปแล้ว  เธอเดินออกจากประตูแล้วดึงเชือกห้อยโยะโกะออกจากคอมาถือไว้ในมือที่หงาย โดยให้หน้าจอของโยะโกะหงายขึ้นเช่นกัน    แล้วตัวเธอก็ล้มลงนอนโดยใช้มืออีกข้างหยิบบผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนสีโปรดของเธอมาเช็ดหน้าที่มีเหงื่อชุ่มไปทั่วตัว บนเตียงนุ่มๆของเธอ
                         
          นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ แล้วต่อไปมัน..จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธออีก....เธอรู้แต่เพียงว่ามีเพียงโยะโกะเท่านั้นที่อยู่ข้างเธอตลอดเวลา และไม่ต้องการให้มันจากเธอไป
          ความกระวนกระวายใจของเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้เธอปวดหัวขึ้นมา อย่างรุนแรง เหมือนมีแม่เหล็กขนาดสิบตันมามาทับไว้บนหัวเธอ ไม่ใช่สิ! เหมือนสายฟ้าผ่าลงมาตรงแกนกลางของศรีษะเธอจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ หรือ....
          \'โอ้ย!.....\'
          เธอพยายามคิดเหตุผลว่าทำไมพ่อเธอถึงทำเช่นนั้น  และเธอกำลังคิดหาทาง ที่จะหนีให้พ้นเรื่องที่น่าปวดหัวนี้อย่างไรดี  เธออยากร้องไห้ออกมาอีกครั้งกับความรู้สึกที่ขัดใจว่าทำไมถึงยังหาทางแก้ไม่ออก ความขัดใจกับสิ่งที่เธอหาทางออกไม่ได้น้ำตาเธอมักจะไหลทุกทีแม้โยะโกะจะให้เธอไปกับคนพวกนั้นแต่โดยดีก็ตาม แต่ในความคิดของเธอแล้วมันก็ไม่ใช่ทางที่ดีสักเท่าไหร่ โอ๊ย!
          ระหว่างที่เธอกำลังนอนอมทุกข์อยู่นั้น เธอพลันต้องสะดุ้งอย่างตกใจ เมื่อมีแสงสีทองกะพริบอยู่ทั่วห้องของเธอ แต่เมื่อเธอลองตั้งสติอีกทีแสงสีทองนั้นหายไปแล้ว  เธอลุกขึ้นยืน โยะโกะก็กำลังแปลกใจอยู่เหมือนกันในหน้าจอที่เธอถือนั้น
      ฟรึ่บ !!!
          แสงสีทองกะพริบอีกครั้งอย่างช้าๆแล้วดับไป เธอเริ่มหันซ้ายแลขวาแล้วเดินอย่างช้าๆไปรอบๆห้อง ในขณะที่แสงสีทองนั้นก็ส่องสว่างและดับลงอยู่เรื่อยๆเป็นระยะๆ ขณะนี้เธอได้เดินสำรวจเข้ามาจนถึงในห้องทำงาน(ห้องทำงานในห้องนอนเธอ)  เธอรู้สึกเหมือนแสงสีทองนั้นมันตามเธอมา
          เพราะเมื่อเธอเดินสำรวจจนเข้ามาในห้องแต่งตัว แสงสีทองกลับสว่างอยู่แต่ในห้องแต่งตัวนี้ห้องเดียว และเมื่อเธอลองแง้มประตูห้องแต่งตัวออก ห้องภายนอกนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นของทุกอย่างนิ่งและเงียบอยู่ในสภาพเดิมหมด
    “ดูสิโยะโกะ ทำไมภายนอกไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ ?”
                เชมมี่ถามโยะโกะด้วยสีหน้าแปลกใจ ไม่มีเสียงตอบหรือเสียงโยะโกะดังแว่วมา เชมมี่จึงก้มลงมองโยะโกะในมือ
   
    “ฉันจะเห็นได้ไงเล่า  ดูเธอถือฉันสิไม่ดูซะเล้ย”
                เสียงแหลมเล็กของโยะโกะ ดังขึ้นทันที
                และเมื่อเธอสังเกตดูดีๆเธอกลับถือโยะโกะให้หันไปคนละทางกับที่เธอเห็น เธอยิ้มน้อยๆอย่างเสียหน้า
                  “แต่ที่น่าดูกว่านั้นเธอลองหันหลังตัวเองแล้วมองคอหลังตัวเธอในกระจกสิ”
                   
                  โยะโกะเอ่ยอีกครั้ง โดยไม่ขำกับความหน้าแตกนี้ของเธอเพราะสิ่งที่มันเห็นไม่น่าขำสักเท่าไหร่
    เชมมี่ทำตามที่โยะโกะว่า เธอหันร่างด้านหน้าของเธอตรงข้ามกับกระจก แต่หน้าของเธอกลับจ้องกระจกเขม็ง
    และสิ่งที่โยะโกะว่านั้นมันตื่นเต้นที่จะได้เห็นมากกว่าการได้เห็นสภาพภายนอกของห้องแต่งตัวเสียจริงด้วย  แสงสีทองนั้นกะพริบอีกครั้ง แสงนั้นมากจากคอท้ายทอยของเชมมี่ เชมมี่ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น 
                                        แสงสีทองนั้นสว่างเป็นรูปดาวห้าแฉกที่อยู่ในรูปวงกลมอีกที
                   
                แสงนั้นสว่างเข้ากระจก และกระจกก็สะท้อนแสงนั้นออกมาสว่างไปทั่วห้อง
                  พร้อมกับสายตาอันตกตะลึงของทั้งสอง นั้นก็คือเชมมี่ และโยะโกะ
                “มัน..มัน คืออะไรกัน ?\" เชมมี่เอ่ยคำถามที่รู้ว่าโยะโกะและเธอไม่มีทางตอบได้  คำถามที่เหมือนเป็นคำอุทานออกมาอย่างตกใจ
butter blue....เราจ้องมองคุณอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่ะที่อ่าน
      เชมมี่มีอะไรมาระบายใส่ท่านผู้อ่านด้วยค่ะ
    \"สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่เคารพ หนูไม่ชอบเลยไรไม่รู้ยัย butter blue ให้หนูเจอแต่เรื่องน่าปวดหัว ในชีวิตนี้จะมีเรื่องสนุกบางมั้ยนะ
      ให้ตายเหอะช่างทารุณกับเด็กอายุ 10 ขวบ เสียนี่กระไร แทนที่จะเจอกับสิ่งดีๆในชีวิตบ้าง แต่เอาเถอะค่ะเพื่อความสุขสนุกสนานของผู้อ่าน ยอมพี่เค้าก็ได้ค่ะ งุงิๆๆๆ แต่อุตส่าห์ยอมขนาดนี้ถ้าไม่ให้คะแนนสักหน่อยน้อยใจนะค่ะจะโป้งเลยด้วย\"
    นี่ๆท่อนท้ายสุดผู้อ่านต้องยอมเค้านะค่ะ
    ถ้าชอบให้คอมเม้นหรือให้คะแนนก็ยังดีค่ะ
..............................................................
                       
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น