ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ลางร้ายที่ 1 : เสียงแห่งความเศร้า
          เสียงแห่งความเศร้า
            ในยามราตรีของเมืองแมสเทนส์ แสงจันทร์เต็มดวงซึ่งทอแสงสีเหลืองอ่อนๆ 
ทำให้เมืองนี้ดูสว่างสวยงามยิ่งนัก  ภายในบ้านแต่ละหลังที่ก่อสร้างติดกับถนนและ แต่ละหลังก็สร้างต่อกันในระยะห่างเพียงไม่กี่เมตร ต่อยาวกันไปทั้งสองฟากฝั่งถนน  มีเพียงแสงไฟสลัวของทางเดินรถและหน้าบ้านของแต่ละคนเท่านั้นที่ยังคงมีสว่างอยู่
          ไกลออกไปจากที่นี้หลายร้อยเมตร      ยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อมองดูแล้วคุณคงเข้าใจได้ว่า
เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คงเป็นบุคคลที่ชอบสีขาวมาก  เพราะทั้งหลังถูกทาสีด้วยสีขาวแม้แต่ประตูรั้ว ที่สูงตระหง่านบดบังคฤหาสน์ช่วงล่าง
เหลือเพียงส่วนบนเท่านั้นที่พอมองเห็นรูปร่างของสถานที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายและชัดเจน เหมือนผู้เป็นเจ้าของไม่ต้องการให้บุคคลไม่พึงประสงค์ ข้ามเขตขอบรั้วเข้ามาอย่างง่ายดาย               
            เหนือตัวคฤหาสน์  ขึ้นไปนั้นเป็นดาดฟ้าขนาดกว้างขวาง สระว่ายน้ำที่พอมองเห็นได้จากเสาไฟ ที่ส่องสว่างในบริเวณนั้นอยู่หลายต้นจากเบื้อล่าง และสนามหญ้าทางขวาของสระที่มีเสาไฟประดับไว้อย่างหรูหราส่องสว่างอยู่เช่นกัน
                             
            ดาดฟ้าทางฝั่งของสระว่ายน้ำ  หญิงสาวหน้ารูปไข่ ผมตรงดำยาวสยายไปถึงหลังของเธอนั้นดูสวยงามและมีเสน่ห์เธอ
  กำลังมองไปเบื้องหน้าภายในคฤหาสน์ที่เงียบเชียบนี้อย่างไร้จุดหมายอยู่บนดาดฟ้าแห่งนี้ - แรงลมเล็กน้อยที่ต้านผม  ของเธอให้ปลิวสยายไปข้างหลัง    เธอดึงเสื้อหนาวของเธอปกคลุมร่างกายให้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม  แล้วกอดอกตัวเองเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายมากขึ้น จากลมอันหนาวเหน็บนั้น
            “เชมมี่!”
          พลันเสียงแหลมเล็กที่ขานชื่อเธอก็ดังมา ไม่ไกลจากร่างของเธอ
        เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนล้วงมือเข้ากระเป๋าเสื้อกันหนาวของเธอ  แล้วดึงเอาสิ่งของสี่เหลี่ยมเล็กขนาดเท่ากำมือที่มีสายเชือกห้อยไว้อยู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเธอ
              “ตื่นแล้วหรอ โยะโกะ!”   
เชมมี่เอ่ย เธอมองไปยังหน้าจอสิ่งเล็กๆนั้น ซึ่งมีตัวการ์ตูนแมวน้อยกำลังยิ้มบานอยู่พร้อมกับขยี้ตางัวเงีย
            “ กี่โมงแล้วเนี่ย เชมมี่!”       
เสียงแหลมเล็กนั้นเอ่ยขึ้น  มันคือสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ เป็นเพศเมีย ที่โธมัสพ่อของเชมมี่ซื้อให้เป็นของขวัญ
วันเกิดเธอตั้งแต่อายุ 3 ขวบจากประเทศญี่ปุ่น เธอจึงรักและผูกพันเจ้าสัตว์เลี้ยงที่เหมือนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ      เพราะเธอไม่ค่อยได้พบปะกับผู้คนเท่าไหร่ และเพื่อนๆของเธอก็ไม่มีด้วยเพราะพ่อของเธอจ้างครูมาสอนที่บ้าน
          “เกือบตีสองแล้วมั้ง” เธอเอ่ยไปแบบเดาเพราะมองดูลักษณะบรรยากาศเช่นนี้แล้ว คงจะประมาณเวลาเท่านั้น ก่อนเธอก้มลงมองดูนาฬิกาหนังที่ข้อมือเธอ
          “อืม! ประมาณตีสองน่ะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนดีใจว่าตนเองเดาเวลาถูกต้อง
          “มิน่า ! เงียบเชียบเชียว - เอ้อ! คนอื่นเขานอนกันหมดแล้วทำไมยังไม่เข้าไปนอนอีกล่ะเชมมี่ ปกติเธอไม่เคยนอนดึกขนาดนี้นี่ ”
          โยะโกะขยี้ตาอย่างงัวเงีย  แล้วทำหน้างุนงงปนสงสัย เชมมี่ยิ้มให้มัน แล้วเอามือบังปากที่หาวหวอด
          “ก็ฉันยังไม่ง่วง อ้อ! ไม่ใช่สิ ก่อนหน้านี่ฉันยังไม่ง่วง แต่ตอนนี้เริ่มแล้วล่ะ”
          เชมมี่มองไปที่หน้าจอที่มีเจ้าแมวโยะโกะตัวนั้น  มันกำลังเลียขนที่หลังของตัวเอง 
         
          จากแสงไฟสีส้มสลัวบริเวณดาดฟ้า  เธอสามารถเห็นว่าโยะโกะกำลังยิ้มหน้าบานให้เธอ
และเธอก็ยิ้มหวานตอบกลับไป ก่อนหันหลังเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับถือสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีเจ้าโยะโกะกำลังเล่นกับลูกบอลอยู่ภายในหน้าจอเล็กๆนั้นเข้าบ้านไป 
      แต่.......  เชมมี่ต้องหยุดเดินพร้อมกับฟังคำที่ดังมาจากข้างล่างดาดฟ้า เพราะเสียงนั้นคล้ายเสียงพ่อเธอ แล้วพ่อของเธอมาทำอะไรดึกขนาดนี้    พ่อเธอคงไม่มาเจรจาขายรถยนต์ให้กับลูกค้าในเวลานี้หรอกนะ (เพราะพ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัท ผลิตรถยนต์แปลกพิสดารจนเป็นที่ถูกใจของบรรดาลูกค้าหลายคน )
                ด้วยความสงสัย  เธอพยายามตั้งใจฟังเสียงนั้น
    “มีอะไรหรือ!” โยะโกะหยุดเล่นลูกบอลแล้วทำหน้าแปลกใจ
    “ จุ๊ๆ! เงียบก่อน เธอลองฟังดีๆสิได้ยินอะไรเปล่า” เชมมี่เอานิ้วชี้  ปิดปากเป็นการบอกให้เจ้าแมวเงียบก่อน
    “เสียงคุณโธมัสพูดกับ ใคร?” โยะโกะกระซิบอย่างเบาที่สุดเมื่อจับความได้ว่าเป็นเสียงพ่อของเชมมี่
                ด้วยเสียงอันแหลมเล็กนั้นฟังดูน่าขำ
    เชมมี่ดูไม่ค่อยจะสนใจถึงคำพูดของโยะโกะ แล้วเธอก็นำเชือกที่ห้อยกับเจ้าแมวนั้น แขวนไว้กับคอ
เธอสงสัยอยู่เพียงว่าโธมัสพ่อของเธอกำลังคุยกับใครดึกๆอย่างนี้ เธอไม่รีรอ เธอค่อยๆหันหลังเดินย่องไป และมองทางเดินอย่างดีเผื่อโดนเข้ากับสิ่งของบริเวณนั้นจนเกิดเสียงดังขึ้นมา
 
                ..........................................................O_o..................................................................
              ในที่สุดเชมมี่ก็มาหยุดยืนบริเวณระเบียงสุดของดาดฟ้าโดยมือของเชมมี่จับขอบระเบียงที่ทำด้วยปูนไว้  เชมมี่และโยะโกะตั้งใจฟัง แม้จะฟังบางคำไม่ได้ยินแต่ก็พอปะติดปะต่อคำพูดได้- - เสียงไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่ - - บริเวณดาดฟ้าเงียบกริบมีเพียงเสียงใบไม้ไหวไปมาและเสียงลมเอื่อยๆ
        ใต้ดาดฟ้า.....................
                “ ท่านโธมัสครับ เรื่องที่เราตกลงกันไว้ เมื่อ 7ปีก่อน ” เสียงทุ่มต่ำดังขึ้น
                  “อ๋อ!”
                อีกคนตัดบทก่อน  ซึ่งเชมมี่ฟังพอรู้ว่าคือเสียงพ่อของเธอ
                “คุณจะมาเอาตัว เด็กคนนั่นวันไหนล่ะ หรือจะเอาตอนนี้เลย เธอคงหลับ อยู่”
                เสียงพูดคือเสียงของโธมัสคนเดิม
    ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็น    โธมัสชายร่างผอมบางตัวสูงในชุดสูทสีดำอร่าม ที่มองดูแล้วว่าคงต้องเป็นนักธุรกิจชื่อนำแนวหน้าแน่นอนเพราะชุดที่เขาใส่นั้นเป็นสูทราคาแพง กับ ชายที่มีร่างกายแข็งแรงดูบึกบึน  วัยเดียวกัน ในชุดขาว
              กำลังนั่งคุยกันที่โต๊ะ  สีขาว หน้าคฤหาสน์ ซึ่งอยู่ใต้ดาดฟ้า
    “อีกสามวันผมและลูกน้องจะมารับตัวเธอไปครับ เอ๊ะ เธอชื่อว่าอะไรแล้วนะครับ\"
    “อ๋อ” โธมัสพูด เท่าที่จำได้เขาพูดคำนี้มาสองครั้งสองครั้งสองคราแล้ว
              “ เธอชื่อ เชมมี่ครับผม เออ.. เชมม่า เทอร์นัล”โธมัสตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
 
                                                                --------------------O_o--------------------------
ขอบคุณค่ะที่อ่าน
อย่าลืมวิจารณ์ ติชม กันด้วยนะค่ะ.............. 
ถ้าชอบก็ช่วยคอมเม้นหรือให้คะแนนก็ดีค่ะ   
                                                                       
  ฺํBYE......................
            ในยามราตรีของเมืองแมสเทนส์ แสงจันทร์เต็มดวงซึ่งทอแสงสีเหลืองอ่อนๆ 
ทำให้เมืองนี้ดูสว่างสวยงามยิ่งนัก  ภายในบ้านแต่ละหลังที่ก่อสร้างติดกับถนนและ แต่ละหลังก็สร้างต่อกันในระยะห่างเพียงไม่กี่เมตร ต่อยาวกันไปทั้งสองฟากฝั่งถนน  มีเพียงแสงไฟสลัวของทางเดินรถและหน้าบ้านของแต่ละคนเท่านั้นที่ยังคงมีสว่างอยู่
          ไกลออกไปจากที่นี้หลายร้อยเมตร      ยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อมองดูแล้วคุณคงเข้าใจได้ว่า
เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คงเป็นบุคคลที่ชอบสีขาวมาก  เพราะทั้งหลังถูกทาสีด้วยสีขาวแม้แต่ประตูรั้ว ที่สูงตระหง่านบดบังคฤหาสน์ช่วงล่าง
เหลือเพียงส่วนบนเท่านั้นที่พอมองเห็นรูปร่างของสถานที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายและชัดเจน เหมือนผู้เป็นเจ้าของไม่ต้องการให้บุคคลไม่พึงประสงค์ ข้ามเขตขอบรั้วเข้ามาอย่างง่ายดาย               
            เหนือตัวคฤหาสน์  ขึ้นไปนั้นเป็นดาดฟ้าขนาดกว้างขวาง สระว่ายน้ำที่พอมองเห็นได้จากเสาไฟ ที่ส่องสว่างในบริเวณนั้นอยู่หลายต้นจากเบื้อล่าง และสนามหญ้าทางขวาของสระที่มีเสาไฟประดับไว้อย่างหรูหราส่องสว่างอยู่เช่นกัน
                             
            ดาดฟ้าทางฝั่งของสระว่ายน้ำ  หญิงสาวหน้ารูปไข่ ผมตรงดำยาวสยายไปถึงหลังของเธอนั้นดูสวยงามและมีเสน่ห์เธอ
  กำลังมองไปเบื้องหน้าภายในคฤหาสน์ที่เงียบเชียบนี้อย่างไร้จุดหมายอยู่บนดาดฟ้าแห่งนี้ - แรงลมเล็กน้อยที่ต้านผม  ของเธอให้ปลิวสยายไปข้างหลัง    เธอดึงเสื้อหนาวของเธอปกคลุมร่างกายให้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม  แล้วกอดอกตัวเองเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายมากขึ้น จากลมอันหนาวเหน็บนั้น
            “เชมมี่!”
          พลันเสียงแหลมเล็กที่ขานชื่อเธอก็ดังมา ไม่ไกลจากร่างของเธอ
        เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนล้วงมือเข้ากระเป๋าเสื้อกันหนาวของเธอ  แล้วดึงเอาสิ่งของสี่เหลี่ยมเล็กขนาดเท่ากำมือที่มีสายเชือกห้อยไว้อยู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเธอ
              “ตื่นแล้วหรอ โยะโกะ!”   
เชมมี่เอ่ย เธอมองไปยังหน้าจอสิ่งเล็กๆนั้น ซึ่งมีตัวการ์ตูนแมวน้อยกำลังยิ้มบานอยู่พร้อมกับขยี้ตางัวเงีย
            “ กี่โมงแล้วเนี่ย เชมมี่!”       
เสียงแหลมเล็กนั้นเอ่ยขึ้น  มันคือสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ เป็นเพศเมีย ที่โธมัสพ่อของเชมมี่ซื้อให้เป็นของขวัญ
วันเกิดเธอตั้งแต่อายุ 3 ขวบจากประเทศญี่ปุ่น เธอจึงรักและผูกพันเจ้าสัตว์เลี้ยงที่เหมือนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ      เพราะเธอไม่ค่อยได้พบปะกับผู้คนเท่าไหร่ และเพื่อนๆของเธอก็ไม่มีด้วยเพราะพ่อของเธอจ้างครูมาสอนที่บ้าน
          “เกือบตีสองแล้วมั้ง” เธอเอ่ยไปแบบเดาเพราะมองดูลักษณะบรรยากาศเช่นนี้แล้ว คงจะประมาณเวลาเท่านั้น ก่อนเธอก้มลงมองดูนาฬิกาหนังที่ข้อมือเธอ
          “อืม! ประมาณตีสองน่ะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนดีใจว่าตนเองเดาเวลาถูกต้อง
          “มิน่า ! เงียบเชียบเชียว - เอ้อ! คนอื่นเขานอนกันหมดแล้วทำไมยังไม่เข้าไปนอนอีกล่ะเชมมี่ ปกติเธอไม่เคยนอนดึกขนาดนี้นี่ ”
          โยะโกะขยี้ตาอย่างงัวเงีย  แล้วทำหน้างุนงงปนสงสัย เชมมี่ยิ้มให้มัน แล้วเอามือบังปากที่หาวหวอด
          “ก็ฉันยังไม่ง่วง อ้อ! ไม่ใช่สิ ก่อนหน้านี่ฉันยังไม่ง่วง แต่ตอนนี้เริ่มแล้วล่ะ”
          เชมมี่มองไปที่หน้าจอที่มีเจ้าแมวโยะโกะตัวนั้น  มันกำลังเลียขนที่หลังของตัวเอง 
         
          จากแสงไฟสีส้มสลัวบริเวณดาดฟ้า  เธอสามารถเห็นว่าโยะโกะกำลังยิ้มหน้าบานให้เธอ
และเธอก็ยิ้มหวานตอบกลับไป ก่อนหันหลังเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับถือสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีเจ้าโยะโกะกำลังเล่นกับลูกบอลอยู่ภายในหน้าจอเล็กๆนั้นเข้าบ้านไป 
      แต่.......  เชมมี่ต้องหยุดเดินพร้อมกับฟังคำที่ดังมาจากข้างล่างดาดฟ้า เพราะเสียงนั้นคล้ายเสียงพ่อเธอ แล้วพ่อของเธอมาทำอะไรดึกขนาดนี้    พ่อเธอคงไม่มาเจรจาขายรถยนต์ให้กับลูกค้าในเวลานี้หรอกนะ (เพราะพ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัท ผลิตรถยนต์แปลกพิสดารจนเป็นที่ถูกใจของบรรดาลูกค้าหลายคน )
                ด้วยความสงสัย  เธอพยายามตั้งใจฟังเสียงนั้น
    “มีอะไรหรือ!” โยะโกะหยุดเล่นลูกบอลแล้วทำหน้าแปลกใจ
    “ จุ๊ๆ! เงียบก่อน เธอลองฟังดีๆสิได้ยินอะไรเปล่า” เชมมี่เอานิ้วชี้  ปิดปากเป็นการบอกให้เจ้าแมวเงียบก่อน
    “เสียงคุณโธมัสพูดกับ ใคร?” โยะโกะกระซิบอย่างเบาที่สุดเมื่อจับความได้ว่าเป็นเสียงพ่อของเชมมี่
                ด้วยเสียงอันแหลมเล็กนั้นฟังดูน่าขำ
    เชมมี่ดูไม่ค่อยจะสนใจถึงคำพูดของโยะโกะ แล้วเธอก็นำเชือกที่ห้อยกับเจ้าแมวนั้น แขวนไว้กับคอ
เธอสงสัยอยู่เพียงว่าโธมัสพ่อของเธอกำลังคุยกับใครดึกๆอย่างนี้ เธอไม่รีรอ เธอค่อยๆหันหลังเดินย่องไป และมองทางเดินอย่างดีเผื่อโดนเข้ากับสิ่งของบริเวณนั้นจนเกิดเสียงดังขึ้นมา
 
                ..........................................................O_o..................................................................
              ในที่สุดเชมมี่ก็มาหยุดยืนบริเวณระเบียงสุดของดาดฟ้าโดยมือของเชมมี่จับขอบระเบียงที่ทำด้วยปูนไว้  เชมมี่และโยะโกะตั้งใจฟัง แม้จะฟังบางคำไม่ได้ยินแต่ก็พอปะติดปะต่อคำพูดได้- - เสียงไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่ - - บริเวณดาดฟ้าเงียบกริบมีเพียงเสียงใบไม้ไหวไปมาและเสียงลมเอื่อยๆ
        ใต้ดาดฟ้า.....................
                “ ท่านโธมัสครับ เรื่องที่เราตกลงกันไว้ เมื่อ 7ปีก่อน ” เสียงทุ่มต่ำดังขึ้น
                  “อ๋อ!”
                อีกคนตัดบทก่อน  ซึ่งเชมมี่ฟังพอรู้ว่าคือเสียงพ่อของเธอ
                “คุณจะมาเอาตัว เด็กคนนั่นวันไหนล่ะ หรือจะเอาตอนนี้เลย เธอคงหลับ อยู่”
                เสียงพูดคือเสียงของโธมัสคนเดิม
    ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็น    โธมัสชายร่างผอมบางตัวสูงในชุดสูทสีดำอร่าม ที่มองดูแล้วว่าคงต้องเป็นนักธุรกิจชื่อนำแนวหน้าแน่นอนเพราะชุดที่เขาใส่นั้นเป็นสูทราคาแพง กับ ชายที่มีร่างกายแข็งแรงดูบึกบึน  วัยเดียวกัน ในชุดขาว
              กำลังนั่งคุยกันที่โต๊ะ  สีขาว หน้าคฤหาสน์ ซึ่งอยู่ใต้ดาดฟ้า
    “อีกสามวันผมและลูกน้องจะมารับตัวเธอไปครับ เอ๊ะ เธอชื่อว่าอะไรแล้วนะครับ\"
    “อ๋อ” โธมัสพูด เท่าที่จำได้เขาพูดคำนี้มาสองครั้งสองครั้งสองคราแล้ว
              “ เธอชื่อ เชมมี่ครับผม เออ.. เชมม่า เทอร์นัล”โธมัสตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
 
                                                                --------------------O_o--------------------------
ขอบคุณค่ะที่อ่าน
อย่าลืมวิจารณ์ ติชม กันด้วยนะค่ะ.............. 
ถ้าชอบก็ช่วยคอมเม้นหรือให้คะแนนก็ดีค่ะ   
                                                                       
  ฺํBYE......................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น