ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The illomen ลางร้ายมาเยือน

    ลำดับตอนที่ #10 : ลางร้ายที่ 9 : หลุมมรณะ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 48






               บ่ายคล้อยมาเยือน อากาศเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น หมู่แมกไม้กำลังทอดเงาบนผืนดินที่ปกคลุมด้วยใบไม้ที่ร่วงโรย เหมือนผืนพรมขนาดใหญ่ เสียงสัตว์นาๆชนิดต่างร้องเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยระงมไปทั่วป่าใหญ่



               “โอ้ย!” เสียงหนึ่งดังขึ้น คิวมาสนั่นเองมันร้องโอดครวญขึ้นมาเมื่อรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่บริเวณกางหลังและก้นกบ มันพยายามปรับแสงตาให้ชินกันแสงแดดที่ค่อนข้างร้อนแรง  แล้วสังเกตเห็นบุคคลเบื้องหน้ามัน ซึ่งคือเชมมี่และโยะโกะที่เธอใช้เชือกผูกกับตัวโยะโกะแล้วแขวนไว้ที่คอตัวเอง

                เทพตาโตนั้นตาหรี่ลงด้วยมันยิ้มอย่างยินดีเมื่อสังเกตว่าเธอยังคงหายใจและพวกเขาก็รอดตายมาได้เพียงเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น แต่โยะโกะไม่ต้องห่วงเพราะมันส่งเสียงเจี๊ยวจ้าวออกมาทันทีเมื่ออาการErrorของระบบมันดีขึ้นจากการกระทบกระเทือน  แต่หน้าจอยังคงกระพริบดับๆติดๆอยู่เล็กน้อยก่อนกลับมาอยู่ในสภาพเดิมที่เห็นแมวน้อยนอนราบอยู่กับพื้น



                “อ่าาา….เธอตื่นแล้วรึ โชคดีเหลือเกินที่เราไม่ต้องกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อ ฮิๆๆ ”

                คิวมาสทักโยะโกะ  ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทั้งๆที่มันไม่น่ายิ้มเอาเสียเลยพวกเขาเพิ่งรอดตายมาเอย่างหวุดหวิดแท้ๆ



                 “หวัดดีคิวตาโต เป็นไงล่ะ! - ว่าแต่เรารอดมาได้ไงเนี่ย?”



                 “เป็นเพราะฉันล่ะ  ที่ช่วยพวกเธอไว้น่ะ” มันโอ้อวดแล้วกอดอกอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง



                 “หรอ! เอาเหอะเชื่อก็ได้ว่าเธอช่วยไว้”

              

                 “นี่ๆอย่าดูถูกฉันนะ ฉันเป็นถึงเทพคุ้มครองเรื่องแค่นี้ทำไมทำไม่ได้ล่ะ”

                

                 “แล้วใครว่าอะไรเธอ  ก็ฉันเชื่อไง อย่าร้อนตัวสิ อ่ะๆแล้วถ้าช่วยช่วยยังไงล่ะ”



                “ก็น้ำเสียงเธอมันฟังดูไม่เชื่อนี่ – ก็ที่ฉันช่วยได้ก็เป็นความสามารถของฉันล้วนเลยล่ะ ”



                 “ ค่ะๆ ค่า คุณคิวมาส ดิฉันเชื่อคุณค่ะและก็ขอขอบคุณอย่างสู๊ง(มันทำเสียงประชด) เลยนะค่ะที่ช่วยเราน่ะ”



                 “ไม่เป็นไรๆนะ  อืมม์” มันสะบัดมือไปมาว่าไม่เป็นไร ทั้งที่ยังเก๊กหน้าอยู่  ท่าทางมันน่าหมั่นไส้จนโยะโกะต้องหลบหน้าหันหลังไป แหวะ! เบาๆ ก่อนพูดเพื่อเปลี่ยนเรื่อง



                 “เออเรื่องอื่นค่อยว่ากันเหอะ เรียกเชมมี่ให้ตื่นกอนดีกว่า”



                 “อื้อ! เชมมี่ๆเชมมี่” คิวมาสทำตามโยะโกะแล้วเขย่าตัวสาวน้อยที่นอนอย่างคนไร้สติไม่เคลื่อนไหวร่างกานใดๆ และแล้วสักพักร่างนั้นก็รู้สึกตัว ค่อยๆลุกอย่างช้าๆด้วยท่าทางที่ปวดระบมทั่วตัว



                  “คิวมาส …โยะโกะ –โอ้ย! เจ็บๆ” เธอเอามือดันหลังให้อยู่ในท่าที่ไม่ปวด



                 “ค่อยๆสิเชม” โยะโกะเอ่ยด้วยความเป็นห่วง



                 “เพาว์เวอร์ออฟสเตรทล่ะ” เชมมี่นึกเป็นห่วงรถขึ้นมา



                 “มันคงระเบิดพังเละเทะแล้วล่ะ” คิวมาสบอกเธอ



                  “แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ?”



                 “ไม่รู้สิ ลองเดินๆหาแถวนี้ดูมั้ยล่ะ เพราะฉันได้กลิ่นอะไรไหม้อยู่แถวนี้ล่ะ คิดว่าเราคงห่างจากมันไม่ไกลนัก ”คิวมาสแนะนำ



              แล้วทั้งสามก็ออกเดินหาเพาว์เวอร์ออฟสเตรทที่คงกลายเป็นเพียงที่ถูกการระเบิดเผาไหม้ และแล้วมันก็มาถึงทุ่งกว้าง ที่ไร้หญ้าเขียวขจีใดๆมีเพียงดินและเศษหินเล็กเท่านั้นที่ปูพื้นอยู่เป็นวงกว้างและมีป่าล้อมรอบ   แต่เบื้องหน้านั้นทั้งสามแทบประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น เพราะมันคือ หลุมใหญ่ซึ่งมีอยู่หลายหลุม

            

               แต่ที่ๆทั้งสามคิดว่าน่าจะมีซากของเพาวเวอร์ออฟสเตรทอยู่คือหลุ่มที่มีไฟพวยพุ่งคุกรุ่นออกจากหลุม แล้วทั้งสามก็ค่อยๆเดินดูที่ล่ะหลุม และพบว่าหลุมต่างๆนั้นมีซากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างๆมากมายในหลุมนั้น มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดทีเดียว

    ในหลุมๆหนึ่งมีซากของลูกบอลลูนและ โครงกระดูกมนุษย์มากมาย  มีแมลงวันบินว่อนอยู่ในหลุ่มนั้นซึ่งมันกำลังตอมซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยซึ่งคงจะตายได้ไม่ได้  และทุกๆหลุมก็ไม่ต่างอะไรกันเลย มีโครงกระดูก เศษสิ่งของ และของที่เหล่ามนุษย์ใช้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ทั้งหมดในหลุมนั้นดูน่าขยะแขยงมากโดยเฉพาะโครงกระดูกและซากเน่าเปื่อยที่มีแมลงวันตอม มีน้ำเหลืองหนองย้อยออกมา(O_o)



              ทั้งสามเดินมาถึงหลุมที่เพาว์เวอร์ออฟสเตรทรถคันงามที่หรูและราคาแพงที่สุดในเมืองเมสเทนส์กลายเป็นเพียงซากเศษโลหะและ เหล็กที่พังยับเยิน โดยมีไฟที่ลามตัวมันอยู่และจากนั้นมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ดูไม่ออกว่านี่หรือคือเพาว์เวอร์ออฟสเตรทที่มีค่ามาก่อน

    นี่ละไม่ว่ารถคันไหนราคาเท่าไหร่มันก็มาจากเศษโลหะดีๆนี่เอง  เชมมี่มองสิ่งตรงหน้าแล้วนึกสภาพว่าพ่อเธอจะเป็นยังไงบ้างนะถ้ารู้ว่ารถของเขามาตกอยู่ในสภาพแบบนี้



               เธอหลับตาลงไม่อยากนึกจะนึกภาพเวลาโธมัสโมโห แล้วเดินไปหลุมต่อๆไป  แต่ทั้งสามต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีการเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่างในหลุมนั้น ใต้โครงกระดูกและซากสิ่งต่างๆ ผลุบ! มีบางอย่างโผล่พรวดขึ้นมาจากกองซากสิ่งเหล่านั้น ทั้งสามต่างสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนพยายามเพ่งมองดูดีๆ สิ่งนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตและ เป็นมนุษย์ด้วย…..



    -----------------------------------------------



    ติดตามตอนต่อไปนะค่ะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×